คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 13 : หิมะแรกและสิ่งที่ไม่คาดคิด (Re.03)
UP : 04/08/60
Re-write : 18/08/60
Re-write 2 : 22/09/61
Re-write 3 : 24/06/64
บทที่
13 : หิมะแรกและสิ่งที่ไม่คาดคิด
เดือนธันวาคมมาถึงพร้อมกับกระแสลมเย็นพัดพาเมฆหิมะให้ลอยมาพร้อมกับการบ้านอีกกองเท่าภูเขาสำหรับนักเรียนปีห้า
หน้าที่พรีเฟ็ตของรอนและเฮอร์ไมโอนี่ยิ่งทวีความรับผิดชอบมากขึ้นเมื่อคริสมาสต์ใกล้เข้ามา
ทั้งสองถูกเรียกตัวไปช่วยตกแต่งปราสาท
ต้องไปคุมนักเรียนปีหนึ่งและปีสองที่ต้องใช้เวลาส่วนมากอยู่ในปราสาทเพราะอากาศข้างนอกหนาวจัด
(รอนแอบบ่นว่าพวกนั้นเป็นตัวแสบจนคิดว่าพวกเราคงไม่หยาบคายเท่านั้นแน่ตอนอยู่ปีหนึ่ง)
แถมยังต้องเดินตรวจตราตามระเบียงเป็นกะกับอาร์กัส ฟิลซ์
พวกเขาวุ่นเสียจนไม่มีแม้แต่เวลานั่งคุยกันด้วยซ้ำ
สิ่งเดียวที่แฮร์รี่และเฮเลนเฝ้ารอตอนนี้คือการได้พบปะกันของกองทัพดัมเบิลดอร์
(เดรโกเองก็เป็นพรีเฟ็ต เขายุ่งเสียจนไม่ได้พบกันอีกเลยนอกจากช่วงฝึก)
และช่วงนี้การพบปะก็ต้องเลิกไปในวันหยุด
เพราะเกือบทุกคนในกองทัพจะต้องกลับไปใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัวของพวกเขา
เฮอร์ไมโอนี่จะไปเล่นสกีกับพ่อแม่
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รอนรู้สึกว่ามันตลกเพราะเขาไม่เคยได้ยินเรื่องมักเกิ้ลเอาแผ่นไม้แคบๆ
ผูกเข้าที่ข้อเท้าและไถลลงมาจากภูเขามาก่อน ซึ่งจริงๆ
เฮเลนก็อยากจะขำด้วยถ้าเกิดว่าในอีกโลกหนึ่งเธอไม่เคยไปเล่นมันกับเพื่อนๆ
รอนเองก็จะกลับไปที่บ้านโพรงกระต่าย
เขาชวนทั้งสองไปด้วย การฉลองวันคริสมาสต์ที่บ้านโพรงกระต่ายนั้นช่างมหัศจรรย์จริงๆ
แต่พวกเขานั้นมีนัดไปอยู่กับซีเรียสที่บ้านกริมม์โมเพลซเพราะว่าพวกเขาไม่อยากให้ซีเรียสจะต้องจุดประทัดคริสมาสต์อย่างโดดเดี่ยวกับเอลฟ์ปากเสียอย่างครีเชอร์
เฮเลนไปถึงห้องต้องประสงค์ตั้งแต่ช่วงบ่ายเพราะก่อนวันหยุดมีการงดการเรียนการสอนหนึ่งวันให้นักเรียนได้เตรียมของเตรียมตัวกลับบ้าน
เด็กสาวดีใจนิดหน่อยเมื่อโคมไฟในห้องลุกสว่าง
เธอก็เห็นว่าด็อบบี้เจ้ากี้เจ้าการประดับห้องนั้นด้วยของตกแต่งวันคริสมาสต์ด้วยตนเองอยู่
มันกำลังทำลูกบอลประดับสีทองที่มีรูปใบหน้าของเธอและแฮร์รี่ติดอยู่บนนั้น
แฮร์รี่เดินตามเธอมาในเวลาต่อมา
และเขาพยายามเก็บลูกบอลประดับสีทองสิบๆ
ลูกที่มีใบหน้าของพวกเขาติดอยู่และพยายามขอให้ด๊อบบี้ออกไปจากห้องนี้
ไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างของเดรโก มัลฟอย
แฮร์รี่ไม่ได้เอ่ยทักทายเขาแต่อย่างใด
เพียงแค่มองหน้ากันนิดหน่อยและไล่ให้เฮเลนไปอยู่กับเขาก่อนที่บรรยากาศจะมาคุมากกว่านี้
“มาเร็วดีนะ”
เฮเลนเอ่ยทัก “ฉันนึกว่างานพรีเฟ็ตจะยุ่งมากจนมาสายซะอีก”
“บางทีฉันก็ควรจะปล่อยให้ยัยแพนซี่จอมจุ้นทำคนเดียว”
เดรโกเบ้ปาก "ยัยนั่นจะพาฉันไปไหนมาไหนด้วยอยู่เรื่อย --
ก็บอกไปแล้วว่าเสร็จงานแล้วจะมีนัด ก็ยังหาเรื่องฉันอีก"
"เขาคงชอบนายล่ะมั้ง"
เฮเลนแหย่
"เธออย่าพูดเรื่องน่าขนลุกแบบนั้นหน่อยเลยได้ไหม"
เดรโกขมวดคิ้วทำหน้านิ่วอย่างไม่พอใจ "ถ้ายัยนั่นชอบฉันจริงๆ
มันน่าขนลุกมากเลยนะ"
“สวัสดี!”
เสียงร้องทักอย่างร่าเริงของใครอีกคนดังขึ้นในขณะที่เฮเลนกำลังจะตอบเดรโก
ลูน่าเดินเข้ามาพร้อมกับแคตี้ เธอมองดูเครื่องประดับต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่
“ของพวกนี้น่ารักจังเลยนะ แต่งกันเองเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก”
แฮร์รี่ตอบ “เอลฟ์ประจำบ้านเป็นคนทำน่ะ”
“มิสเซิลโท”
ลูน่าพูดเสียงเพ้อฝัน ชี้ไปที่ช่อลูกไม้สีขาวช่อใหญ่ที่แขวนเอาไว้เหนือหัวทุกคน
แฮร์รี่ขยับออกห่างจากมัน ลูน่าหัวเราะคิกคักกับตัวเอง “ดีแล้วที่ทำแบบนั้น
เพราะมันมีนาร์เกิ้ลอยู่เต็มไปหมดเลย”
“นาร์เกิ้ลคืออะไรน่ะ”
เดรโกรขมวดคิ้วถาม
“ไม่รู้
แต่มันก็ตลกดีนะ” เฮเลนส่ายหน้าน้อยๆ แล้วหัวเราะในลำคอ
หลังจากนั้นแอนเจลิน่า
อลิเซีย รอน เฮอร์ไมโอนี่และเนวิลล์ก็มาถึง
ช่วยทำให้บรรยากาศในห้องดีขึ้นเป็นกองและภายในสิบนาทีทั้งห้องก็เต็มไปด้วยผู้คนมากพอที่แฮร์รี่จะมองไม่เห็นใบหน้าของเดรโก
เขาเพิ่งสัมผัสได้เดี๋ยวนี้เองว่าตอนนี้เดรโกได้กลายเป็นหนึ่งในทีมของเขาไปเสียเเล้ว
เขาเรียนรู้และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอัมบริดจ์นั่นสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่ขัดใจอยู่ตอนนี้คือเรื่องการพนันที่พวกเขาพนันกันไว้
เฮเลนได้บอกรักเดรโกไปแล้วหรือยัง?
“เอาล่ะนะ”
แฮร์รี่เอ่ยขึ้น “ฉันคิดว่าบ่ายนี้เราจะทบทวนทุกอย่างที่เคยทำมาทั้งหมด
เพราะว่ามันคงจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายก่อนวันหยุด
ไม่มีประโยชน์ที่เราจะเริ่มอะไรใหม่ๆ ก่อนวันหยุดเพราะ...”
“เราจะไม่ทำอะไรใหม่ๆ
หรอกเหรอ” แซคคาไรอัส สมิทบ่นเสียงดัง “ถ้ารู้แบบนี้ฉันไม่มาหรอก”
“ฉันเองก็คิดแบบหมอนั่นนะ”
เดรโกก้มลงมากระซิบข้างหูเฮเลน
“ถ้างั้นพวกเราทุกคนก็เสียใจจริงๆ
ที่แฮร์รี่ไม่ได้บอกนายนะสมิท” เฟร็ดแกล้งเสียงดังบ้าง
หลายคนหัวเราะคิกคักรวมทั้งเฮเลนด้วย
แฮร์รี่หันไปเห็นโชยิ้มก็มีความรู้สึกเหมือนอะไรกำลังเต้นโครมครามอยู่ในอก
ในท้องโหวงๆ แปลกๆ ราวกับว่าเขาก้าวบันไดข้ามขันไปขั้นหนึ่ง
การฝึกฝนของทุกคนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
โดยไม่ได้หยุดพัก แฮร์รี่สอนเวทมนตร์ต่างๆ ให้กับพวกเขามากมาย
โดยมีรอนและเฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้ช่วยและเดรโกคอยขัดแข้งขัดขานิดๆ หน่อยๆ
ให้ห้องเรียนมีสีสันในรูปแบบที่ตอนนี้ขาดไปไม่ได้แล้ว
เฮเลนเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากชั้นเรียนของแฮร์รี่
การร่ายเวทย์ที่ถูกต้องและผลลัพธ์ของมัน
ล่าสุดเฟร็ดและจอร์จเล่าเรื่องการเอาน้ำยาทำให้เป็นไข้ไปผสมชอคโกแลตให้ฟิลซ์ทานจนทำให้ว่าการตรวจตราภายในโรงเรียนเข้มงวดมากขึ้น
ถึงมันจะดูเหมือนแย่แต่เมื่อพวกเขานำมันมาเล่าในห้องเรียนนี้ก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งไป
ไม่เว้นแม้แต่ผู้รังเกียจสังคมอย่างเดรโกก็ตาม
“เยี่ยมมากทุกคน
ทำได้ดีมาก” แฮร์รี่ยิ้มและกวาดตามองทุกคน อีกครั้งที่ชั้นเรียนนี้จบลงถึงมันจะเร็วกว่าปกติไปสักหน่อยก็ตาม แฮร์รี่
เฮอร์ไมโอนี่ รอน
เฮเลนและเดรโกออกไปยืนอยู่เบื้องหน้าของเพื่อนร่วมโรงเรียนและให้แฮร์รี่ได้กล่าวอะไรบางอย่างก่อนเลิกเหมือนทุกครั้ง “วันนี้เราคงต้องพอแค่นี้ เราคงจะไม่ได้เจอกันอีกจนกว่าจะกลับจากวันหยุด -- แล้วก็ทำได้เยี่ยมมากทุกคน เก่งมาก”
เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่จบประโยคนั้น
แฮร์รี่ยิ้มให้กับเพื่อนๆ
และดูท่าว่าเขาค่อนข้างจะดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตลอดหนึ่งเทอมที่ผ่านมา
ทุกคนทยอยเดินออกจากห้องไปเหมือนอย่างเคยเพื่อเก็บของกลับบ้านในช่วงหยุดเทศกาลคริสมาสต์
“เราไปรอที่ห้องนั่งเล่นนะ”
รอนว่าพร้อมกับดึงแขนเฮอร์ไมโอนี่ให้เดินตามไป
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ
ตามช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน โชคดีแค่ไหนที่พวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันบ่อยๆ
เหมือนตอนช่วงเปิดเทอม เฮเลนมองตามรอนแล้วเฮอร์ไมโอนี่ไปก่อนจะหันไปยังแฮร์รี่ที่ตอนนี้สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ใครบางคนที่ยืนอยู่หน้ากระจก
“เดรโก”
“หือ”
“ฉันว่าเราไปกันดีกว่า”
“เดี๋ยวๆ
แล้วเธอจะไปไหน...” ยังพูดไม่ทันจบดี
ร่างสูงก็ถูกคนตัวเล็กดึงมือออกไปจากห้องต้องประสงค์อย่างรู้งานหลังจากที่เห็นว่าสายตาของแฮร์รี่ไม่เคยละไปจากโช
แชงเลยแม้แต่นิดเดียว “เป็นอะไรไปเฮเลน
หมอนั่นยังไม่ออกมาเลยนะ”
“ปล่อยให้เขาอยู่กับโชเถอะน่า”
ร่างบางยิ้มกว้างและดึงเขาเข้าไปที่ลานปราสาทที่เดิมที่ชอบมานั่งด้วยกัน
ตอนนี้หน่วยตรวจตราของอัมบริดจ์คงต้องพักงานเพราะถึงช่วงเทศกาลและพวกเขาคงต้องไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านกันในวันพรุ่งนี้ด้วย
เฮเลนดึงเดรโกให้นั่งลงบนม้านั่งตัวเดิมที่เคยนั่ง ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม
เมฆหิมะลอยอยู่เบื้องบนราวกับว่ามันจะตกลงมาได้ตลอดเวลา
“ทำไมต้องปล่อยให้พอตเตอร์อยู่ในนั้นด้วยฉันไม่เข้าใจ”
“ทำไมล่ะ”
เฮเลนขมวดคิ้วมองหน้าเขา
“ฉันควรจะได้ขัดความสุขของหมอนั่นแท้ๆ”
“พักบ้างก็ได้นะเรื่องนี้น่ะ”
ร่างบางว่าแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เธอเอนศีรษะไปพิงไหล่เดรโกและเหม่อมองเมฆหิมะเพื่อรอคอยให้มันตกลงมา
วันหยุดกำลังจะมาถึงและมันกำลังจะทำให้ทั้งสองต้องห่างกัน
ถึงแม้จะเพียงชั่วคราวก็ตาม
“ฉันคงจะคิดถึงเธอแน่ๆ
เฮเลน”
“งั้นเหรอ?”
“เธอจะไม่คิดถึงฉันเหรอ?”
“ไม่คิดถึงหรอก
ตางั่งอย่างนายน่ะ” เฮเลนแลบลิ้นใส่เดรโกจนเขาแจกมะเหงกเธอไปหนึ่งที
“ตอบแบบนี้ล่ามโซ่ติดไว้ข้างเตียงเลยดีกว่ามั้ง
เธอจะได้มีแต่ฉันแค่คนเดียว”
เดรโกว่าแล้วเลื่อนมือขวามาเชยคางเธอขึ้นมาสบตากับเขา
ดวงตาสีฟ้าซีดยังคงมีเสน่ห์เหมือนทุกครั้งที่ได้มอง
เฮเลนเลื่อนใบหน้าเข้าไปฉกจูบจากคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะรีบถอยห่างออกมากันโดนร่างสูงจูบคืน
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาก่อนที่เดรโกจะขยับตัวเข้าไปเบียดกับร่างบางจนเกือบจะตกเก้าอี้
“เมื่อกี้เธอทำอะไรนะ?”
“ก็...”
เด็กสาวอึกอัก ดวงตากลมมองไปทางอื่น
“แบบนั้นไม่เรียกจูบหรอก
ถ้าจะจูบต้องแบบนี้”
มือซ้ายเลื่อนไปคว้าท้ายทอยของร่างเล็กก่อนจะจับล็อกเอาไว้เพื่อไม่ให้ใบหน้าหวานขยับหนีเขาไปไหน
ส่วนมือขวารั้งเอวเอาไว้เพื่อไม่ให้เฮเลนถอยหลังหนีได้อีก
ก่อนที่ริมฝีปากบางจะถูกครอบครองโดยเด็กหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์แห่งบ้านสลิธีรินเพียงผู้เดียวที่ยู่ในทัพดัมเบิลดอร์
เดรโกยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าทำให้อากาศในฤดูหนาวนี้อุ่นขึ้นมาอย่างกับเขาอยู่ในฤดูร้อนอย่างนั้นแหละ
เกล็ดสีใสร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
หิมะสีขาวสะอาดตากำลังค่อยๆ โปรยปรายลงมาบนพื้นดิน
ความเย็นที่ต้องลงมาบนผิวแก้มของเดรโกทำให้เขาชะงักและถอนจูบออกเพื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับเฮเลนที่เงยขึ้นมองตามเดรโกอย่างสงสัย
หิมะเริ่มโปรยลงมาแล้ว
เด็กหนุ่มเลื่อนหน้าผากของตนไปชนกับหน้าผากของเฮเลนเบาๆ
พลางยิ้ม ยิ่งเธอมองก็ยิ่งรู้สึกว่าคนอย่างเดรโก มัลฟอยไม่น่าทำอะไรแบบนี้ได้เลย
“ตอบมาซะ
วันหยุดเธอจะคิดถึงฉันไหม”
ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ
“แน่นอนสิ”
เพียงไม่นานเฮเลนและเดรโกก็แยกย้ายกันเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นบ้าน
ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวขาขึ้นไปบนบันไดที่หยุดนิ่งหลังจากมันเพิ่งกลายสภาพไปเมื่อสักครู่นั้นก็มีมือข้างหนึ่งดึงแขนเธออย่างแรงจนแทบหงายหลัง
เจ้าของมือนั้นลากเธอเข้าไปในซอกหนึ่งในช่วงของบันไดในปราสาท
แขนทั้งสองข้างของเขาดันกำแพงเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่างบางขยับหนีไปได้
“ไม่คิดเลยว่าคุณจะชอบทำผิดกฎโรงเรียน
คุณพอตเตอร์”
แท็ค
แม็คมาเวลล์!!
เฮเลนไม่ได้เจอเขาเลยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
สายตาและการกระทำของเขาดูเปลี่ยนไปมาก
ในตอนที่พบกันเขามีสายตาที่ราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
แต่ตอนนี้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดหมุนวนอยู่ในนั้นเต็มไปหมด โกรธ
เสียใจ ผิดหวังและความรู้สึกต้องการอะไรบางอย่างที่ถูกส่งมาให้เธอนั้น --
ช่างน่าประหลาดเหลือเกิน
เหมือนเฮอร์ไมโอนี่เคยบอกว่าแท็คได้เข้าไปอยู่ในหน่อวยสอบสวนของอัมบริดจ์ที่ขึ้นตรงต่อกระกทรวงเวทมนตร์
นั่นเป็นเหตุที่เธอไม่ได้ชวนแท็คเข้ามาในทัพดัมเบิลดอร์
และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เหตุผลหลักทั้งหมดหรอก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือแท็คเป็นคนเดียวในภาคีที่รู้เรื่องต่างๆ
น้อยที่สุดและถูกจัดเอาไว้ในหมวดคนที่ไม่สามารถบอกความลับสุดยอดแก่เขาได้!
"ฉัน - ฉันทำผิดอะไร" เฮเลนพูดเสียงตะกุกตะกัก
หลุบตาลงมองเท้าของตัวเองและเลี่ยงที่จะสบเข้ากับดวงตาสีเข้มนั้น
"ฉันยังไม่ได้ทำอะไร..."
"คุณอยู่ใกล้ผู้ชายในรัศมีแปดเมตร" แท็คพูดเสียงเรียบ
"และผู้ชายคนนั้นคือคุณมัลฟอย พรีเฟ็คบ้านผมเอง"
"แต่ - แต่ตอนนี้นายก็กำลังทำให้ฉันอยู่ใกล้นายในรัศมีแปดเมตรอยู่ไม่ใช่หรือไง"
เฮเลนตอบ ยังคงไม่มองหน้าเขา "ถ้านายรายงานเรื่องนี้
นายก็จะโดนกักบริเวณไปด้วย..."
"ใครบอกว่าผมจะรายงานเรื่องนี้กันครับ"
แท็คแสยะยิ้มและไม่รอช้าที่จะมอบบทลงโทษให้กับเด็กสาวในทันที
ริมฝีปากของเขาทาบลงมาบนริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ปลายลิ้นนุ่มแทรกเข้ามาภายในริมฝีปาก
แขนและขาเหมือนจะหมดแรงไปดื้อๆ ันไม่ได้มีความรู้สึกวาบหวามเหมือนตอนที่จูบกับเดรโกแต่มันทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงและขนลุกได้ในเวลาเดียวกัน
เฮเลนใช้แรงทั้งหมดผลักแท็คให้ถอยออกไปทันทีจนเจ้าของเรือนผมสีดำคลับเซล้มลงไปกองกับพื้น
แท็คเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอพลางเลียริมฝีปากตัวเองไปมาเบาๆ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนบังคับเธอตอนนี้เธอคงจะมองว่าการกระทำแบบนี้ก็อาจจะดูเซ็กซี่ดีสำหรับผู้ชายอย่างเขา
แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่!
เด็กสาวชักไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาทันทีที่ทำได้
เธอชี้ไม้ใส่หน้าเขาพลางใช้แขนขวาถูริมฝีปากไปมาแรงๆ อย่างรังเกียจ
เฮเลนเม้มปากแน่นโดยที่ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้
สิ่งที่แท็คทำมันไม่อาจพูดออกมาเป็นคำพูดได้เลย
เธอสะบัดหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะเก็บไม้และวิ่งขึ้นบันไดไปทันที
เด็กสาวรีบวิ่งไปยังห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์
ความรู้สึกเกลียดพุ่งเข้ามาเต็มสมองของเธอไปหมด! เธอเจอกับแฮร์รี่ที่หน้ารูปภาพสุภาพสตรีอ้วน (อีกแล้วเหรอ!)
หลังจากเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกันก็พบเฮอร์ไมโอนี่และรอนนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวเดิมหน้าเตาผิง
เฮอร์ไมโอนี่กำลังเขียนอะไรสักอย่างที่ยาวจนมันกองไปอยู่บนพื้นส่วนรอนนั้นคงทำการบ้านวิชาแปลงร่างที่ค้างเอาไว้ให้เสร็จ
“พวกเธอทำอะไรกันนานขนาดนี้”
รอนถามเมื่อแฮร์รี่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขา เฮเลนเองก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้นวมข้างๆ
กับเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งสองไม่ตอบ ใจหนึ่งก็อยากจะบอกอีกใจหนึ่งก็ไม่อยากพูดอะไรไป
แฮร์รี่เลือกหรี่ตามองเฮเลนก่อนที่จะได้มีใครพูดถามอะไรเขา
“เกิดอะไรขึ้น”
รอนถามพลางมองตามแฮร์รี่ เฮเลนสะดุ้งและพยายามมองหาครุกแชงก์ที่ปกติต้องวิ่งมาหา
“ไม่ต้องมองหามันหรอก
ฉันจับมันใส่กรงเอาไว้ก่อนแล้วเตรียมกลับบ้าน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “มัลฟอยใช่ไหม
ภารกิจที่เธออยากให้เขามาร่วมกับเรามันสำเร็จด้วยดีแล้วนี่ แล้วยังไง
คิดจะสานสัมพันธ์ต่อเลยใช่ไหม”
“หา
หมอนั่นทำอะไรเธองั้นเหรอ!” แฮร์รี่ขึ้นร้อง
“ไม่! ไม่ใช่เดรโก” เฮเลนส่ายหน้ายิกโบกไม้โบกมือไปมาด้วยความตกใจรีบบอกปฏิเสธ
“งั้นใครที่ทำให้เธอมีสีหน้าไม่ปกติตั้งแต่เข้ามาที่ห้องนี้" แฮร์รี่พูดเสียงแข็ง "เฮเลน! ตอบมา”
สายตาที่ทั้งสามจ้องมองมาทำให้เฮเลนรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
เธอไม่อยากโกหกแต่ก็ไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
เพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปจะทำให้พวกเขากล่าวหาว่าเดรโกดูแลเธอได้ไม่ดีอย่างที่หวังเอาไว้รึเปล่า
“จูบ”
เด็กสาวพูดพลางกลอกตาไปมา “เอ่อ... แท็ค”
“หา!!”
ทั้งสามคนอุทานเสียงดังจนเด็กปีสองที่เพิ่งเข้ามาสะดุ้งโหยง
“เธอว่าไงนะ
แท็คเหรอ? แล้วมัลฟอย...”
เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างไม่อยากเชื่อ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเถียงยังไงในเมื่อเธอเองก็เห็นว่าช่วงนี้แท็คก็ดูสนใจเฮเลนมากกว่าปกติ
“เดรโกมาส่งฉันที่ทางขึ้นบันได
แล้วฉันก็เจอแท็ค” เด็กสาวพูดนิ่งๆ และพยายามสังเกตอาการของแฮร์รี่ “ตะ
แต่ฉันทิ้งเขาไว้ตรงชานบันได
ไม่รู้ว่าฟิลซ์จะเห็นไหมแล้วก็บางทีอัมบริดจ์อาจจะโกรธ...”
“ฉันว่าแฮร์รี่คงแล่นไปสาปเขาแทนถ้าเกิดว่าเธอยอมเขามากกว่านี้”
รอนว่าพลางแสยะยิ้มมองแฮร์รี่ที่ทำหน้านิ่วเหมือนโกรธใครมาสักสิบเดือน
“พูดเหมือนรู้”
เขายักไหล่ “โชคดีที่ฉันไม่ได้อยู่ตรงนั้น หรือไม่ก็โชคดีที่มัลฟอยไม่เห็นเข้า”
“ทำไมล่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้ว
“ก็มัลฟอยไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของๆ
เขา! หมอนั่นกันท่าขนาดไหนเธอก็รู้”
แฮร์รี่พูดยิ้มๆ เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ รอนหัวเราะลั่น
ส่วนเฮเลนก็เอาแต่ก้มหน้างุดเพราะเริ่มรู้สึกเขินๆ
“แล้วเธอล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดบ้าง “ฉันรู้ว่าเธอจูบกับโช”
แฮร์รี่ทำหน้าอึ้งไปนิดหน่อย
เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่รอนจะยกมือขึ้นชูกำปั้นราวกับกำลังได้รับชัยชนะ
“แล้วเป็นไง!” รอนหันไปถาม “มันเป็นยังไงบ้าง!”
เสียงของรอนดูอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
นับว่าโชคดีที่เฮเลนไม่ได้ถูกถามแบบนั้นด้วย
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้จะเอ่ยอะไรตอบรอนไป!
“เปียก”
เขาตอบตามจริง รอนทำสีหน้าบอกไม่ถูกว่าจะยินดีดีรึเปล่า “เธอกำลังร้องไห้น่ะ”
“โธ่!” รอนโห่ร้อง “จูบของนายแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ
ถ้าเป็นเธอจะร้องไห้ไหมเฮเลน”
เด็กหนุ่มผมแดงหันมาถาม
เฮเลนสะดุ้งเฮือก “ถ้าไม่ชอบ โชคงจะทำเหมือนที่ฉันทำกับแท็ค”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า”
เฮอร์ไมโอนี่บอกพลางก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ
“รู้อะไรไหมว่าเดี๋ยวนี้โชร้องไห้อยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน เขาร้องไห้ตอนกินอาหาร
อยู่ในห้องน้ำแล้วก็ทุกที่นั่นแหละน่า!”
“เธอหมายความว่าไง”
รอนพูด “แล้วคนแบบไหนบ้างร้องไห้ตอนถูกจูบน่ะ”
“ใช่”
แฮร์รี่พูดเสียงอ่อย “ใครล่ะ?”
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าสมเพชต่างจากเฮเลนที่หลุดขขำออกมานิดหน่อย
“เธอไม่เข้าใจเหรอว่าโชรู้สึกยังไง”
เธอวางปากกาขนนกลง “เห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังเศร้ามากเพราะเชตริกตาย
แล้วก็คงสับสนเรื่องที่ชอบแฮร์รี่ เพราะเขาคงไม่มั่นใจว่าเขาชอบใครมากกว่ากัน
แล้วเขาก็คงจะรู้สึกผิดต่อเชตริกคิดว่าเป็นการหยามเขาในความทรงจำ และเขาเองก็คงกลุ้มใจที่คนอื่นจะมองว่าเป็นยังไงถ้าเกิดว่าเขาคบกับแฮร์รี่
ฉะนั้นมันก็เลยสับสนปนเปกันไปหมด อ้อ
แล้วเขาก็คงจะกังวลเรื่องที่อัมบริดจ์ขู่จะไล่แม่เขาออกจากกระทรวงแถมเรื่องจะถูกไล่ออกจากทีมควิดดิชเพราะตอนนี้เขาบินได้แย่มาก!”
เฮอร์ไมโอนี่พูดแบบไม่พยุดพักหายใจ
ความเงียบเข้าปกคลุมที่นั่นทันทีพร้อมกับความงุนงงของรอน
“คนๆ
เดียวจะรู้สึกหมดนั่นไม่ได้หรอก” เขาว่า “ต้องระเบิดแน่”
“ต่อมความรู้สึกของเธอเล็กเท่าช้อนชาน่ะสิ”
เฮอร์ไมโอนี่ว่าแล้วจับปากกาขึ้นมาเขียนใหม่ก่อนที่เสียงหัวเราะของเฮเลนและแฮร์รี่จะดังขึ้นโดยมีรอนทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียวเงียบๆ
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น