ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Until The End Of Time

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 1 Before Crisis ตอนที่ 4 เปลวเพลิงที่พ่ายแพ้แก่หัวใจ(2/3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 177
      0
      2 มี.ค. 50

             

                    ร่างสูงดึงดาบขึ้นจากพื้นแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า สายตาสีเลือดมองตรงด้วยความมั่นใจเกินร้อยอย่าง

    น่าเกรงขามจนร่างเล็กนึกหวั่นใจถอยหลังตั้งหลัก รูลขยับเท้าก้าวเดินไปข้างอย่างอย่างช้าๆดูเย็นใจ
    ยิ่งทำ

    แบบนั้น
    อีกฝ่ายก็ยิ่งถอยหลังรับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาลอย่างท้วมท้นจนก้าวขาแทบไม่ออก เม็ดเหงื่อไหลพุด

    พรายตามลำคอ กลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก


                   
    "
    โอ๊ย!" ร่างบางร้องด้วยความเจ็บปวด หันไปยังแขนข้างซ้ายที่อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาตาม

    สัญชาตญาณ เมื่อเห็นเลือดสีแดงฉานไหลนองจากใต้แขนเสื้อที่ขาดวิ่นราวกับถูกของมีคมบาดรินรดลงมาเต็ม

    ลำแขนค่อยๆหยาดลงสู่พื้นดิน ดวงเนตรสีฟ้าถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ


                   
    ได้แผลตั้งแต่ตอนไหนกัน..!?


                   
    พลันสัมปชัญะกลับคืนมาดวงเนตรหันมาสู่สนามรบอีกครั้งคนๆนั้นก็….ไม่อยู่เสียแล้ว..?! ร่าง

    เล็กกวาดสายตามองรอบหาก.....ไม่เห็นแม้แต่เงา.....ล่องหน?....หรือไม่....คงจะเป็นความไวสูงราวกับเป็น

    หนึ่งเดียวกับสายลม.......แต่....คนธรรมดาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?


                   
    ไว.....ไวอย่างกับ......ลิงแน่ะ.......


                   
    "
    ชั้วะ!"

    เสียงแขนเสื้ออีกข้างที่ถูกกรีดจนขาดพร้อมกับคมบาดที่บาดผิวเนื้อจนหยดเลือดหลั่งริน ทั้งที่มอง

    ไม่เห็นแต่ตัวแท้ๆ
    ….เข้าสร้างบาดแผลพวกนี้ได้อย่างไรกันพลันดวงเนตรหลับลงราวกับหยุดทุกประสาท

    สัมผัสทุกสิ่ง
    สรรพสิ่งทุกอย่างต่างหยุดอยู่นิ่ง….เพียงเพื่อรับฟังเสียงการเคลื่อนไหวของสายลม

    "อ๊า!!" ความเจ็บปวดรับรู้ที่ข้างดวงหน้าเมื่อแก้มขาวถูกกรีดลึกเป็นรอยเลือดที่ไหลอาบชั่วหวุดหวิดที่

    รอยดาบทำให้หลุดจากสมาธิพอดีกับที่ทุกอย่างได้กระจ่าง.....


    รู้แล้วเรารู้แล้ว....ว่าคนๆนั้นอยู่ที่ไหน!  

    ร่างเล็กปราดกายเข้าใกล้พุ่งตรงอย่างมั่นใจ มือบางจับที่ลำคอแกร่งขยับรอยยิ้มอย่างผู้มีชัย รูลหยุด

    การเคลื่อนไหวอย่างโดยดี
    ก่อนกายบอบบางจะออกแรงเหวี่ยงกระชากร่างสูงถูลู่ถูกังตามมางของกำแพงก่อน

    จะคว้าแขนโญนร่างสูงขึ้นอย่างเต็มแรง
    ทั้งๆที่กำลังผลาดท่าแต่รูลกลับขยับอมยิ้มอย่ามีแผน เข้ากระโดดม้วน

    ตัวกลับหลังเป้าหมายคือที่ฐานที่แข็งแรงที่สุด.......

    เมื่อเข้าใกล้ถึงกำแพงเขาปักดาบเซโร่ซีเอลลงบนผิวแข็งๆของอิฐต่างเป็นแป้นฐานก่อนจะวางเท้าลง

    กับตัวดาบอย่างรวดเร็วและดึงชักออกมาไวพอๆกับที่เข้ากระโดดออก


    รูลเบี่ยงตัวเข้าใกล้ร่างเล็กพลางวาดดาบโดยที่ไม่โดยร่างของฝ่ายตครงข้ามเพื่อขู่และล่อให้ตกใจ

    ก่อนจะพลักด้วยความรุนแรงจนนอนกองกับพื้น
    ชายหนุ่มจ่อดาบลงกลางคอใช้เท้าเหยียบซ้ำ ฝ่ายตรงข้าง

    กลืนน้ำลายลงคอ
    เมื่อเห็นดังนั้นรูลจะชักดาบกลับขยับรอยยิ้มกว้าง "ยอมแพ้หรือยังล่ะจ๊ะ เจ้าหนูต่อยหนัก"

    เสียงเข้มกล่าวอย่างอารมณ์ดี
    ยื่นมือให้คนที่นอนกับพื้นประครองตัวลุกขึ้นยืน

    "ค่ะ" ร่างเล็กตอบ….รูลแทบช็อคเมื่อได้ยินคำตอบเสียงหวานๆที่ตอบรับนั้น คำที่เขาได้ฟัง คะค่ะ

    งั้นเหรอ
    นั่นมัน…..หรือว่า….

    ฝ่ามือบางๆดึงหมวกออกจากศีรษะ เส้นผมสีแดงพระเพลิงยาวตรงที่ถูกปิดทับไว้ค่อยสยายออกมา

    เต็มแผ่นหลัง
    ดวงเนตรสีฟ้าครามมีประกายร่าเริง ดวงหน้าหวานขยับรอยยิ้มส่งมาให้เขา…..เธอผู้หญิงคน

    นั้น
    …..คนที่เจอกันที่ร้านดอกไม้..ไม่ใช่เหรอ….

    โอ้ย! นี่เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย

    รูลสบถร้องในใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง มือกร้านแดดยกขึ้นกุมขยับนั่งลงยองกับพื้นหญ้าชื้นน้ำค้าง

    นึกอยากจะ...ร้องไห้หรือไม่......ก็ฆ่าตัวตายตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยด้วยซ้ำ

    "เป็นอะไรไปเหรอคะ?"เสียงหวานใสเอ่ยถามอย่างคนซื่อ นอร์เฟรเซียชะโงกหน้าก้มกายมองร่าง

    สูงที่นั่งยองด้วยความสงสัย ใบหน้าคมเข้มของรูลเริ่มขึ้นสี นัยน์ตาสีแดงเริ่มกลายเป็นสีจัดกว่าเดิมด้วยตาขาว

    เริ่มช้ำคล้ายว่ากำลังจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ
    !!

    "ขะ...ขอโทษนะครับ..." เสียงเข้มเอ่ยไม่เต็มคำซบหน้าลงกับเข่า ไม่กล้ามองหน้าสาวเจ้าตรงๆ.....

    ทำร้ายผู้หญิงไปได้ยังไงวะไอ้บ้ารูล....

    "เรื่อง..?" หญิงสาวทวนคำนัยน์ตาสีฟ้าครามเจือประกายงุ่นงง "เรื่องอะไรเหรอคะ?" นอร์เฟรเซีย

    โน้มดวงหน้าหวานเข้าใกล้ รูลสดุ้งตัวดวงหน้าขึ้นสีระเรื่อขยับหนีด้วยความเขิน

    "กะ....ก็เรื่องที่ฉัน...ทำร้ายเธอ..ไง" คำพูดถูกกลืนกินด้วยความรู้สึกผิดอันเปี่ยมล้น หากแต่สาวเจ้า

    กลับขมวดคิ้วแน่นก่อนจะขยับรอยยิ้มบางๆส่งมือยื่นมาให้ร่างที่นั่งอยู่

    "ลุกขึ้นเถอะค่ะ" เสียงหัวเราะจางๆฟังดูหวานหูนัก รูลลังเลนิดก่อนจะสะบัดศรีษะส่งมือรับ จับ

    แล้วยันตัวขึ้นจากพื้นหญ้าเปียกชื้น
    "เพื่อนๆเขาเริ่มฝึกต่อสู้กันแล้วนะคะ"

    รูลเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยหันมองรอบตัวพบว่านักเรียนคนอื่นๆเริ่มจับคู่ออกมาฝึกการต่อสู้บนสนาม

    แล้ว
    "ขะ...ขอบใจนะ" ชายหนุ่มกล่าว รู้สึกใจหายวาบท้องเบาโหวงแถมหัวใจก็เต้นถี่ระรัวใบหน้าร้อนผ่าว....

    มันร้อนจน.....ชาไปทั้งหน้า เมื่อได้สบกับดวงเนตรสีครามใสสะอาดคู่นั้นโดยตรง

    รูลดึงมือออกเบาๆเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกตัว พลันเมื่อดวงเนตรเหลือบเห็นรอยแดงๆบนแก้มสีชมพูใส

    นั้น รูลถึงกับตกใจจนหัวใจแทบร่วงไปกองกับพื้นอีกครั้ง              

    ......คราบ...เลือด....!?

    "เอ่อ....เธอไปทำแผลก่อนดีไหม?"  น้ำเสียงเข้มดูละลักละล่ำ รูลก้มหน้าลงต่ำ....รู้สึกผิด...รู้สึกไม่

    ดี...หรือ...เสียใจกัน...เขาก็ไม่อาจจะรู้ได้แต่....ไม่แน่ใจนัก ถ้าหากว่า......อีกฝ่ายเป็นคนอื่น...เป็นผู้หญิงคน

    อื่น....ที่ไม่ใช่เธอคนนี้แล้วล่ะก็......บางที...เขาอาจจะ ไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้....ก็ได้....

    "เห...."เสียงหวานยกขึ้นสูง ก่อนเด็กสาวจะมองเห็นคราบเลือดจากๆบนแก้มแล้วมองผ่านๆกับ

    แขนทั้งสองข้างที่เลือดยังไหลอยู่
    แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับตอนแรก..แต่ก็ถือว่าบาดเจ็บ...เข้าขั่นหนักทีเดียว

    นอร์เฟรเซียยักไหล่ก่อนจะขยับรอยยิ้ม
    "ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ ร่ายเวทรักษาแป๊บเดียวก็หายแล้ว"


                   
    เด็กสาวหลับตาลงนิ่ง ริมฝีปากบางขยับส่งเสียงเบาๆที่พอจะจับได้ว่า เธอกำลังรวมสมาธิในการร่าย

    เวทอยู่
    ……


                   
    แสงเรืองทองทอทองสว่าง


                   
    เงากระจ่างปัดเป่าเหล่าทุกข์ภัย


                   
    เหล่าเทพาเอยโปรดขับไล่


                   
    ความเจ็บปวดให้ไกลจางจร


                   
    พลันกำไลสีทองที่สวมอยู่บนข้อมือซ้ายส่องแสงเรืองรอง นอร์เฟรเซียกุมข้อมือเล็กระหว่างอกราว

    กับสวดภาวนา ทันทีที่ดวงเนตรสีสะอาดเปิดขึ้นจากความมืด....แสงสว่างจากกำไลก็หายไปพร้อมๆกับที่บาด

    แผลจากการต่อสู้ที่ถูกลบเลือนไปเป็นปลิดทิ้ง.....เหมือนกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้เกิดการต่อสู้....และเธอก็ไม่ได้รับ

    บาดแผลจากการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย


                   
    "
    ...ไฮพลีส…" รูลพึมพำเบาๆในลำคอ....เวทมนตร์จะแบ่งออกมาได้สองประเภทใหญ่ๆคือสายต่อสู้

    กับสายสนับสนุน แต่ไฮพลีสมัน......นอกเหนือจากนั้น ไฮพลีสเป็นนักบวชชั้นสูงที่สามารถใช้เวทรักษาได้ทุก

    ประเภทโดยไม่มีขีดจำกัดเหมือนกับผู้ใช้เวทมนตร์สายสนับสนุนการรักษาทั่วไป......เพียงแต่.....ไม่สามารถ

    รักษาให้คนอื่นได้.......โดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน......ข้อแลกเปลี่ยนที่ว่า.....จะต้องแลกอายุขัยในส่วนที่เหมาะ

    สมกัน ถ้าบาดแผลสาหัสก็อาจจะเท่ากับชีวิตอีกครึ่ง....แต่ถ้าถึงชีวิตก็เท่ากับว่า....ไฮพลีสคนนั้นจะต้องตาย

    แทน.....


                   
    เพราะแบบนี้น่ะสิถึงไม่ค่อยจะมีใครเขาอยากเป็นไฮพลีสกัน


                   
    "เรียบร้อยแล้วค่ะ" นอร์เฟรเซียกล่าวน้ำเสียงร่าเริง รอยยิ้มน้อยแต่งแต้มที่มุมบางยกสองมือขึ้น

    ระดับไหล่กำมือหลวมๆราวกับจะกล่าวว่าเธอไม่เป็นไรแล้ว ท่าทางที่น่ารักและน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
    "เอา

    ล่ะค่ะ ถึงตาเธอแล้วนะ
    "


                   
    เด็กสาวก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้รูล ดวงเนตรสีฟ้าใสจะสำรวจไปรอบๆว่าได้บาดแผลที่ใดบ้าง เมื่อพบ

    นอร์เฟรเซียสัมผัสรอยช้ำจากการโดยเหวี่ยงเมื่อครั้งแรกอย่างเบามือก่อนริมฝีปากบางจะเริ่มขยับ.......กำลัง

    ร่ายเวทย์?
    !


                   
    รูลรีบคว้าข้อมมือบางนั้นอย่างรวดเร็วและเบาที่สุดอย่างถนุถนอม
    "อย่านะ" น้ำเสียงเข้มเอ่ยไวเร็ว

    ตามความคิด รูลจับจองดวงหน้าหวานที่ออกอาการงงอย่างเด่นชัด
    "ไม่ต้องรักษา ให้ฉันหรอก"


                   
    "
    แต่เลือดเธอออกตั้งเยอะเลยนะ" นอร์เฟรเซียเลื่อนมือขึ้นสำผัสบาดแผลเหนือตาอย่างเบามือ รู

    ลสั่นศรีษะเบาๆ
    "แค่แผลเหนือตาน่ะ เลือดมันก็เลยออกมามากที่จริงมันไม่เจ็บหรอก เธอไม่จำเป็นต้องรักษา

    ฉันหรอกน่า
    "


                   
    ถ้ารักษาให้ก็เท่ากับว่าเธอต้องแลกชีวิตของเธอ...ไม่ใช่เหรอ?


                   
    "แต่ว่า...." รูลสั่นศรีษะอีกครั้งเอาข้อมือยกขึ้ยช็ดบาดแผลเหนือตา ขยับรอยยิ้มน้ำเสียงเริงร่า "แค่นี้

    ไม่เป็นอะไรหรอกคร้าบ......ฉันน่ะมันหนังเหนียวทนทานแถมพลังการฟื้นตัวก็ไวกว่าแมลงสาบซะอีก
    "นอร์

    เฟรเซียนิ่วหน้าก่อนจะถอนหายใจคลายลง ริมฝีปากบางขยับพรมหัวเราะเสียงหวานราวกับระฆังแห่งนางฟ้า


                   
    "
    อ้อ....ถ้าคนที่อึดกว่าแมลงสาบที่หัวขาดยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอาทิตย์อย่างเธอบอกแบบนี้ก็.....ตามใจ

    ค่ะ....
    "  เสียงใสกล่าวสำทับจนรูลแอบคอตกเล็กน้อยที่จู่ๆก็ถูกเอาไปเปรียบเป็นแมลงสาบเฉย.....ถึงเขาจะเป็น

    คนเริ่มเองก็เหอะ.....


                   
    แต่โดนผู้หญิงมาว่าแบบนี้มันก็.......รู้สึกแย่แหะ.....


                   
    หญิงสาวเอียงคอลงเอานิ้วมือแตะที่ริมฝีปากเบาๆก่อนจะประกบมือระหว่าอกราวกับนึก

    บางอย่างออก นอร์เฟรเซียเอือมมือลงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีอ่อนระบายลายลูกไม้ตามแบบของเด็กผู้หญิงขึ้นมา

    ก่อจะวางลงลงบนบาดแผลยาวราวสามเซนติเมตรเหนือตาของรูลอย่างเบามือ


                   
    "ใช้นี่ซับเลือดไว้นะคะ......เอ่อ...เธอจะไม่ไปห้องพยาบาลหน่อยเหรอคะ?" รูลชะงักนิดดวงหน้า

    ขึ้นสีระเรื่อ
    "แต่ผ้าเช็ดหน้าเธอจะเปื้อนเอานะ" เขารีบต่อคำหากแต่คิ้วเรียวสีน้ำตาลอ่อนๆของนอร์เฟรเซียก

    ลับขมวดคิ้วราวกลับไม่พอใจ


                   
    "ใช้ไปเหอะค่ะ! ถ้าเช็ดหน้ามีไว้เช็ดนะคะไม่ได้มีไว้เพื่อพกไว้เฉยๆ" นอร์เฟรเซียส่งเสียงต่ำราว

    กับขู่คำราม จนรูลสะดุ้งเฮือก รีบพยักหน้าปลกๆแล้วรับผ้าเช็ดหน้าผืนบางนั้นมาซับหยาดเลือดบนบาดแผล

    ทันทีราวกับพยาสิงห์ที่กำลังขู่ลูกกวางตัวน้อยก็มิปาน..........


                   
    แต่สิงโตน่ารักๆแบบนี้ก็...โอเคล่ะน่า.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×