คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 1 Before Crisis ตอนที่ 4 เปลวเพลิงที่พ่ายแพ้แก่หัวใจ(2/3)
ร่างสูงดึงดาบขึ้นจากพื้นแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า สายตาสีเลือดมองตรงด้วยความมั่นใจเกินร้อยอย่าง
น่าเกรงขามจนร่างเล็กนึกหวั่นใจถอยหลังตั้งหลัก รูลขยับเท้าก้าวเดินไปข้างอย่างอย่างช้าๆดูเย็นใจ ยิ่งทำ
แบบนั้น อีกฝ่ายก็ยิ่งถอยหลังรับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาลอย่างท้วมท้นจนก้าวขาแทบไม่ออก เม็ดเหงื่อไหลพุด
พรายตามลำคอ กลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก
"โอ๊ย!" ร่างบางร้องด้วยความเจ็บปวด หันไปยังแขนข้างซ้ายที่อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาตาม
สัญชาตญาณ เมื่อเห็นเลือดสีแดงฉานไหลนองจากใต้แขนเสื้อที่ขาดวิ่นราวกับถูกของมีคมบาดรินรดลงมาเต็ม
ลำแขนค่อยๆหยาดลงสู่พื้นดิน ดวงเนตรสีฟ้าถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ได้แผล
ตั้งแต่ตอนไหนกัน..!?
พลันสัมปชัญะกลับคืนมาดวงเนตรหันมาสู่สนามรบอีกครั้ง
คนๆนั้นก็
.ไม่อยู่เสียแล้ว..?! ร่าง
เล็กกวาดสายตามองรอบหาก.....ไม่เห็นแม้แต่เงา.....ล่องหน?....หรือไม่....คงจะเป็นความไวสูงราวกับเป็น
หนึ่งเดียวกับสายลม.......แต่....คนธรรมดาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?
ไว.....ไวอย่างกับ......ลิงแน่ะ.......
"ชั้วะ!"
เสียงแขนเสื้ออีกข้างที่ถูกกรีดจนขาดพร้อมกับคมบาดที่บาดผิวเนื้อจนหยดเลือดหลั่งริน ทั้งที่มอง
ไม่เห็นแต่ตัวแท้ๆ
.เข้าสร้างบาดแผลพวกนี้ได้อย่างไรกัน
พลันดวงเนตรหลับลงราวกับหยุดทุกประสาท
สัมผัสทุกสิ่ง สรรพสิ่งทุกอย่างต่างหยุดอยู่นิ่ง
.เพียงเพื่อรับฟังเสียงการเคลื่อนไหวของสายลม
"อ๊า!!" ความเจ็บปวดรับรู้ที่ข้างดวงหน้าเมื่อแก้มขาวถูกกรีดลึกเป็นรอยเลือดที่ไหลอาบชั่วหวุดหวิดที่
รอยดาบทำให้หลุดจากสมาธิพอดีกับที่ทุกอย่างได้กระจ่าง.....
ร
รู้แล้ว
เรารู้แล้ว....ว่าคนๆนั้นอยู่ที่ไหน!
ร่างเล็กปราดกายเข้าใกล้พุ่งตรงอย่างมั่นใจ มือบางจับที่ลำคอแกร่งขยับรอยยิ้มอย่างผู้มีชัย รูลหยุด
การเคลื่อนไหวอย่างโดยดี ก่อนกายบอบบางจะออกแรงเหวี่ยงกระชากร่างสูงถูลู่ถูกังตามมางของกำแพงก่อน
จะคว้าแขนโญนร่างสูงขึ้นอย่างเต็มแรง ทั้งๆที่กำลังผลาดท่าแต่รูลกลับขยับอมยิ้มอย่ามีแผน เข้ากระโดดม้วน
ตัวกลับหลังเป้าหมายคือที่ฐานที่แข็งแรงที่สุด.......
เมื่อเข้าใกล้ถึงกำแพงเขาปักดาบเซโร่ซีเอลลงบนผิวแข็งๆของอิฐต่างเป็นแป้นฐานก่อนจะวางเท้าลง
กับตัวดาบอย่างรวดเร็วและดึงชักออกมาไวพอๆกับที่เข้ากระโดดออก
รูลเบี่ยงตัวเข้าใกล้ร่างเล็กพลางวาดดาบโดยที่ไม่โดยร่างของฝ่ายตครงข้ามเพื่อขู่และล่อให้ตกใจ
ก่อนจะพลักด้วยความรุนแรงจนนอนกองกับพื้น ชายหนุ่มจ่อดาบลงกลางคอใช้เท้าเหยียบซ้ำ ฝ่ายตรงข้าง
กลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นดังนั้นรูลจะชักดาบกลับขยับรอยยิ้มกว้าง "ยอมแพ้หรือยังล่ะจ๊ะ เจ้าหนูต่อยหนัก"
เสียงเข้มกล่าวอย่างอารมณ์ดี ยื่นมือให้คนที่นอนกับพื้นประครองตัวลุกขึ้นยืน
"ค่ะ" ร่างเล็กตอบ
.รูลแทบช็อคเมื่อได้ยินคำตอบเสียงหวานๆที่ตอบรับนั้น คำที่เขาได้ฟัง คะ
ค่ะ
งั้นเหรอ นั่นมัน
..หรือว่า
.
ฝ่ามือบางๆดึงหมวกออกจากศีรษะ เส้นผมสีแดงพระเพลิงยาวตรงที่ถูกปิดทับไว้ค่อยสยายออกมา
เต็มแผ่นหลัง ดวงเนตรสีฟ้าครามมีประกายร่าเริง ดวงหน้าหวานขยับรอยยิ้มส่งมาให้เขา
..เธอ
ผู้หญิงคน
นั้น
..คนที่เจอกันที่ร้านดอกไม้..ไม่ใช่เหรอ
.
โอ้ย! นี่เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย
รูลสบถร้องในใจอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง มือกร้านแดดยกขึ้นกุมขยับนั่งลงยองกับพื้นหญ้าชื้นน้ำค้าง
นึกอยากจะ...ร้องไห้หรือไม่......ก็ฆ่าตัวตายตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยด้วยซ้ำ
"เป็นอะไรไปเหรอคะ?"เสียงหวานใสเอ่ยถามอย่างคนซื่อ นอร์เฟรเซียชะโงกหน้าก้มกายมองร่าง
สูงที่นั่งยองด้วยความสงสัย ใบหน้าคมเข้มของรูลเริ่มขึ้นสี นัยน์ตาสีแดงเริ่มกลายเป็นสีจัดกว่าเดิมด้วยตาขาว
เริ่มช้ำคล้ายว่ากำลังจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ!!
"ขะ...ขอโทษนะครับ..." เสียงเข้มเอ่ยไม่เต็มคำซบหน้าลงกับเข่า ไม่กล้ามองหน้าสาวเจ้าตรงๆ.....
ทำร้ายผู้หญิงไปได้ยังไงวะไอ้บ้ารูล....
"เรื่อง..?" หญิงสาวทวนคำนัยน์ตาสีฟ้าครามเจือประกายงุ่นงง "เรื่องอะไรเหรอคะ?" นอร์เฟรเซีย
โน้มดวงหน้าหวานเข้าใกล้ รูลสดุ้งตัวดวงหน้าขึ้นสีระเรื่อขยับหนีด้วยความเขิน
"กะ....ก็เรื่องที่ฉัน...ทำร้ายเธอ..ไง" คำพูดถูกกลืนกินด้วยความรู้สึกผิดอันเปี่ยมล้น หากแต่สาวเจ้า
กลับขมวดคิ้วแน่นก่อนจะขยับรอยยิ้มบางๆส่งมือยื่นมาให้ร่างที่นั่งอยู่
"ลุกขึ้นเถอะค่ะ" เสียงหัวเราะจางๆฟังดูหวานหูนัก รูลลังเลนิดก่อนจะสะบัดศรีษะส่งมือรับ จับ
แล้วยันตัวขึ้นจากพื้นหญ้าเปียกชื้น "เพื่อนๆเขาเริ่มฝึกต่อสู้กันแล้วนะคะ"
รูลเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยหันมองรอบตัวพบว่านักเรียนคนอื่นๆเริ่มจับคู่ออกมาฝึกการต่อสู้บนสนาม
แล้ว "ขะ...ขอบใจนะ" ชายหนุ่มกล่าว รู้สึกใจหายวาบท้องเบาโหวงแถมหัวใจก็เต้นถี่ระรัวใบหน้าร้อนผ่าว....
มันร้อนจน.....ชาไปทั้งหน้า เมื่อได้สบกับดวงเนตรสีครามใสสะอาดคู่นั้นโดยตรง
รูลดึงมือออกเบาๆเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกตัว พลันเมื่อดวงเนตรเหลือบเห็นรอยแดงๆบนแก้มสีชมพูใส
นั้น รูลถึงกับตกใจจนหัวใจแทบร่วงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
......คราบ...เลือด....!?
"เอ่อ....เธอไปทำแผลก่อนดีไหม?" น้ำเสียงเข้มดูละลักละล่ำ รูลก้มหน้าลงต่ำ....รู้สึกผิด...รู้สึกไม่
ดี...หรือ...เสียใจกัน...เขาก็ไม่อาจจะรู้ได้แต่....ไม่แน่ใจนัก ถ้าหากว่า......อีกฝ่ายเป็นคนอื่น...เป็นผู้หญิงคน
อื่น....ที่ไม่ใช่เธอคนนี้แล้วล่ะก็......บางที...เขาอาจจะ ไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้....ก็ได้....
"เห...."เสียงหวานยกขึ้นสูง ก่อนเด็กสาวจะมองเห็นคราบเลือดจากๆบนแก้มแล้วมองผ่านๆกับ
แขนทั้งสองข้างที่เลือดยังไหลอยู่
แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับตอนแรก..แต่ก็ถือว่าบาดเจ็บ...เข้าขั่นหนักทีเดียว
นอร์เฟรเซียยักไหล่ก่อนจะขยับรอยยิ้ม "ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ ร่ายเวทรักษาแป๊บเดียวก็หายแล้ว"
เด็กสาวหลับตาลงนิ่ง ริมฝีปากบางขยับส่งเสียงเบาๆที่พอจะจับได้ว่า เธอกำลังรวมสมาธิในการร่าย
เวทอยู่
แสงเรืองทองทอทองสว่าง
เงากระจ่างปัดเป่าเหล่าทุกข์ภัย
เหล่าเทพาเอยโปรดขับไล่
ความเจ็บปวดให้ไกลจางจร
พลันกำไลสีทองที่สวมอยู่บนข้อมือซ้ายส่องแสงเรืองรอง นอร์เฟรเซียกุมข้อมือเล็กระหว่างอกราว
กับสวดภาวนา ทันทีที่ดวงเนตรสีสะอาดเปิดขึ้นจากความมืด....แสงสว่างจากกำไลก็หายไปพร้อมๆกับที่บาด
แผลจากการต่อสู้ที่ถูกลบเลือนไปเป็นปลิดทิ้ง.....เหมือนกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้เกิดการต่อสู้....และเธอก็ไม่ได้รับ
บาดแผลจากการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
"...ไฮพลีส
" รูลพึมพำเบาๆในลำคอ....เวทมนตร์จะแบ่งออกมาได้สองประเภทใหญ่ๆคือสายต่อสู้
กับสายสนับสนุน แต่ไฮพลีสมัน......นอกเหนือจากนั้น ไฮพลีสเป็นนักบวชชั้นสูงที่สามารถใช้เวทรักษาได้ทุก
ประเภทโดยไม่มีขีดจำกัดเหมือนกับผู้ใช้เวทมนตร์สายสนับสนุนการรักษาทั่วไป......เพียงแต่.....ไม่สามารถ
รักษาให้คนอื่นได้.......โดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน......ข้อแลกเปลี่ยนที่ว่า.....จะต้องแลกอายุขัยในส่วนที่เหมาะ
สมกัน ถ้าบาดแผลสาหัสก็อาจจะเท่ากับชีวิตอีกครึ่ง....แต่ถ้าถึงชีวิตก็เท่ากับว่า....ไฮพลีสคนนั้นจะต้องตาย
แทน.....
เพราะแบบนี้น่ะสิถึงไม่ค่อยจะมีใครเขาอยากเป็นไฮพลีสกัน
"เรียบร้อยแล้วค่ะ" นอร์เฟรเซียกล่าวน้ำเสียงร่าเริง รอยยิ้มน้อยแต่งแต้มที่มุมบางยกสองมือขึ้น
ระดับไหล่กำมือหลวมๆราวกับจะกล่าวว่าเธอไม่เป็นไรแล้ว ท่าทางที่น่ารักและน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก "เอา
ล่ะค่ะ ถึงตาเธอแล้วนะ"
เด็กสาวก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้รูล ดวงเนตรสีฟ้าใสจะสำรวจไปรอบๆว่าได้บาดแผลที่ใดบ้าง เมื่อพบ
นอร์เฟรเซียสัมผัสรอยช้ำจากการโดยเหวี่ยงเมื่อครั้งแรกอย่างเบามือก่อนริมฝีปากบางจะเริ่มขยับ.......กำลัง
ร่ายเวทย์?!
รูลรีบคว้าข้อมมือบางนั้นอย่างรวดเร็วและเบาที่สุดอย่างถนุถนอม "อย่านะ" น้ำเสียงเข้มเอ่ยไวเร็ว
ตามความคิด รูลจับจองดวงหน้าหวานที่ออกอาการงงอย่างเด่นชัด "ไม่ต้องรักษา ให้ฉันหรอก"
"แต่เลือดเธอออกตั้งเยอะเลยนะ" นอร์เฟรเซียเลื่อนมือขึ้นสำผัสบาดแผลเหนือตาอย่างเบามือ รู
ลสั่นศรีษะเบาๆ "แค่แผลเหนือตาน่ะ เลือดมันก็เลยออกมามากที่จริงมันไม่เจ็บหรอก เธอไม่จำเป็นต้องรักษา
ฉันหรอกน่า"
ถ้ารักษาให้ก็เท่ากับว่าเธอต้องแลกชีวิตของเธอ...ไม่ใช่เหรอ?
"แต่ว่า...." รูลสั่นศรีษะอีกครั้งเอาข้อมือยกขึ้ยช็ดบาดแผลเหนือตา ขยับรอยยิ้มน้ำเสียงเริงร่า "แค่นี้
ไม่เป็นอะไรหรอกคร้าบ......ฉันน่ะมันหนังเหนียวทนทานแถมพลังการฟื้นตัวก็ไวกว่าแมลงสาบซะอีก"นอร์
เฟรเซียนิ่วหน้าก่อนจะถอนหายใจคลายลง ริมฝีปากบางขยับพรมหัวเราะเสียงหวานราวกับระฆังแห่งนางฟ้า
"อ้อ....ถ้าคนที่อึดกว่าแมลงสาบที่หัวขาดยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอาทิตย์อย่างเธอบอกแบบนี้ก็.....ตามใจ
ค่ะ...." เสียงใสกล่าวสำทับจนรูลแอบคอตกเล็กน้อยที่จู่ๆก็ถูกเอาไปเปรียบเป็นแมลงสาบเฉย.....ถึงเขาจะเป็น
คนเริ่มเองก็เหอะ.....
แต่โดนผู้หญิงมาว่าแบบนี้มันก็.......รู้สึกแย่แหะ.....
หญิงสาวเอียงคอลงเอานิ้วมือแตะที่ริมฝีปากเบาๆก่อนจะประกบมือระหว่าอกราวกับนึก
บางอย่างออก นอร์เฟรเซียเอือมมือลงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีอ่อนระบายลายลูกไม้ตามแบบของเด็กผู้หญิงขึ้นมา
ก่อจะวางลงลงบนบาดแผลยาวราวสามเซนติเมตรเหนือตาของรูลอย่างเบามือ
"ใช้นี่ซับเลือดไว้นะคะ......เอ่อ...เธอจะไม่ไปห้องพยาบาลหน่อยเหรอคะ?" รูลชะงักนิดดวงหน้า
ขึ้นสีระเรื่อ "แต่ผ้าเช็ดหน้าเธอจะเปื้อนเอานะ" เขารีบต่อคำหากแต่คิ้วเรียวสีน้ำตาลอ่อนๆของนอร์เฟรเซียก
ลับขมวดคิ้วราวกลับไม่พอใจ
"ใช้ไปเหอะค่ะ! ถ้าเช็ดหน้ามีไว้เช็ดนะคะไม่ได้มีไว้เพื่อพกไว้เฉยๆ" นอร์เฟรเซียส่งเสียงต่ำราว
กับขู่คำราม จนรูลสะดุ้งเฮือก รีบพยักหน้าปลกๆแล้วรับผ้าเช็ดหน้าผืนบางนั้นมาซับหยาดเลือดบนบาดแผล
ทันทีราวกับพยาสิงห์ที่กำลังขู่ลูกกวางตัวน้อยก็มิปาน..........
แต่สิงโตน่ารักๆแบบนี้ก็...โอเคล่ะน่า.......
ความคิดเห็น