ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Innocent Calm

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ Lunatic innocent

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 52


    [การชดใช้บาปของปิศาจต่อพระองค์นั้น...

    ก็คือการมีอายุยืนยาวเพื่อทนทุกข์กับการสูญเสียสิ่งสำคัญไปยังไงล่ะ]

     

                  

     

                    "กฏพื้นฐานของพื้นฐานในการเต้นรำนั้นจะเริ่มต้นด้วยจังหวะควอดริล...แล้วหลังจากนั้นจะตามมาด้วยอะไรคะคุณหนูซาคัส?" เสียงพร่าของสตีวัยกลางคนเอ่ยคลอตามจังหวะที่ก้าวเดินวนไปวนมาหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ดวงตาสีอ่อนทอดมองตัวอักษรในหนังสือปกแข็งเล่มหนาและเงี่ยหูรอฟังคำตอบอย่างเย็นใจ

                    แต่ทว่ารอนาน...นานมากแล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมาสักที

              "คำตอบคือจังหวะวอลซ์ค่ะ...เอ๊!!!" เสียงพร่าร้องไม่เป็นภาษาเมื่อหล่อนเงยหน้าจากหนังสือเรียนขึ้นมาแล้วพบว่า...

                    บานหน้าต่างด้างหลังโต๊ะทำงานเปิดอ้าไว้จนลมพัดตีผ้าม่านให้ลู่เข้ามาด้านในแถมซ้ำด้วยใบไม้จากที่เพิ่งแตกใบใหม่ปลิวว่อนเข้ามาให้ห้องจนทั่ว...แต่แค่นั้นเธอจะไม่ตกใจเลยถ้าหากว่าคนที่ควรจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้นไม่ได้หายไปด้วย! 

                    "ค...คุณหนูซาคัส!!!" หล่อนร้องออกมาพร้อมกับสีหน้าท่าทางที่พร้อมจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ...ไม่สิน่าจะเป็นลมไปแล้วมากกว่าถ้าเกิดหล่อนไม่คว้าขอบโต๊ะไว้ทันก็คงได้ลมแหมบไปแบบไม่ต้องเก็บศพ

     

                    "เอ๋...อะไรน่ะโหวกเหวกดีจัง" น้ำเสียงเล็กฟังดูเยาว์วัยเอ่ยขึ้นมาอย่างเกือบจะใสซื่อ เด็กชายเรือนเส้นผมสีทองสว่างยาวประเคลียคอหมุนแอบเปิ้ลสีแดงสดที่อยู่ในมือก่อนที่ก้มลงกัดเข้าปากอย่างอารมณ์ดี ดวงตาสีน้ำเงินไพลินจับจ้องความวุ่นวายในตัวบ้านอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้วยสีหน้าระริกระรื้นสนุกกับมันเต็มที่

                    "โทษทีนะแคท" เด็กชายพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมๆ กับที่บานหน้าต่างที่ใกล้ตัวที่สุดเปิดออกมา "อ้าว...เสร็จแล้วเหรอฟาส"

                    เลิกเล่นอะไรแพลงๆ อย่างนี้สักทีเถอะครับ...คุณหนู ชายหนุ่มในชุดสูทหางยาวเอ่ยกล่าวอย่างสุภาพและนุ่มนวล เส้นผมสีดำขลับยาวระหลังมัดด้วยริบบิ้นสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อยกับดวงตาสีเขียวมรกตที่จับจ้องมาเหมือนกับจะตำหนิคนบนต้นไม้เล็กน้อย

                    "บอกแคทไปว่ายังไงบ้าง?" คุณหนูซาคัสตัวต้นเรื่องกล่าวถามด้วยแววตาอยากรู้...นี่ก็ไม่ใช่อะไรแค่เจ้าตัวกะเอาไว้เพื่อเตี๊ยมหาคำแก้ตัวนั่นเอง

                    "ผมก็บอกมิสซิสแคทเธอรีนไปว่ายังไม่ได้พบตัวคุณหนูตั้งแต่เที่ยงแล้วก็บอกไปว่าคุณอาจจะอยู่ที่หอสมุดเรือนกระจกน่ะครับ" ชายหนุ่มที่ดูจากชุดก็รู้ว่าเป็น 'พ่อบ้าน' ของคฤหาสน์หลังนี้กล่าวตอบ คิ้วเรียวบางสีดำขลับขมวดมุ่นเล็กน้อยยามมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของมารน้อยผมทอง

                    คิดยังไงถึงได้โดดเรียนวิชามารยาทการเข้าสังคมของมิสซิสแคทเธอรีนกันครับคุณหนู?” ฟาส...หรือชื่อเต็มๆ ก็คือฟราเรสว่าใช้ฝ่ามือช้อนร่างเล็กของนายน้อยที่กลายสภาพเป็นลิงแล้วอุ้มให้เข้ามาภายในตัวคฤหาสน์ ร่างสูงทรุดตัวลงปัดใบไม้ที่ติดอยู่ทั่วตัวของเจ้านายของตนออก

                    โธ่...ฟาส ก็วิชาของแคทมันน่าเบื่อจะตายไปแล้วอีกอย่างนะไอ้มารยาท...มารยาในการเข้าสังคมน่ะ พอเข้าไปจริงๆ เดี๋ยวก็ทำได้เองแหละน่าซาคัสพูดน้ำเสียงอืด มือเล็กๆ สาละวนกับการแงะเศษใบไม้ที่พันกับเส้นผมเป็นกระจุกก้อน

                    ฟราเรสเรสถอนหายใจก่อนจะจัดการเอาใบไม้ออกจากเส้นผมสีทองอย่างง่ายดาย

                    อย่าตัดตัว .’ ออกจากคำว่า มารยาทสิครับคุณหนู

                    ว่าแต่นายเถอะฟาสไปเรียนวิชาโกหกหน้าตายแบบนั้นมาจากที่ไหนน่ะน้ำเสียงเล็กเอ่ยถามก่อนที่ดวงตาสีมรกตจะมองกลับมาพร้อมกับเรียวคิ้วสีทองจากร่างตรงที่เลิกอย่างกึ่งจะยั่วประสาท ฟราเรสขยับเสียงหัวเราะในลำคอแล้วยันตัวขึ้นยืนเต็มความสูง

                    ผมก็ไม่ได้โกหกสักคำเลยนี่ครับ ที่ว่าไม่ได้พบ ตัวคุณหนูน่ะเป็นเรื่องจริงนะครับ...ก็คุณน่ะเล่นตะโกนสั่งจากต้นโอ๊คว่า ถ้าแคทมาช่วยเบี่ยงความสนใจให้ด้วยทันทีที่คุณโดดเรียนวิชาของหล่อนไม่ใช่เหรอครับ?” ดวงตาสีเขียวมรกตหันกลับมามองซาคัสที่ยิ้มเหมือนกำลังอุดก๊อกตัวเองอยู่

                    นี่คุณกำลังจะบอกว่าพบแต่ เสียงของผมใช่ไหมครับ ไอ้คุณพ่อบ้านสุดฉลาดแกมโกงเอ๊ย!!!

                    แล้วเรื่องห้องสมุดนั้นก็แค่คำแนะนำครับร่างสูงก้าวเท้าเดินตรงไปทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะจัดการปิดมันเสีย 

                    เอาล่ะครับคุณหนู...”

                    เอาล่ะ...อะไรของนายซาคัสเอ่ยถาม จากรอยยิ้มของคุณพ่อบ้านแล้วมันช่าง...ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย

                    ถึงเรื่องมารยาทในงานสังคมนั้นคุณอาจจะใช้ความสามารถแกมโกงส่วนตัวเอาตัวรอดได้แต่...” ฟราเรสหยุดพูดเล็กน้อยมุมปากที่ยิ้มอยู่แล้วฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมจนน่าขนลุก  

                    เรื่องการเต้นรำนั้นไม่มีใครทำได้แต่กำเนิดหรอกนะครับ คุณคงไม่อยากจะให้เหล่าบุตรตรีของคู่ค้าคนสำคัญทั้งหลายของตระกูลต้องผิดหวังยามเมื่อปรารถนาจะเต้นรำกับคุณหรอก...ใช่ไหมครับ?” เหมือนกับว่าได้ยินเสียงหัวเราะ หึๆดังออกมาจากคำพูดยังไงชอบกลๆ แฮะ

                    ใบหน้าที่แสดงออกของคนสองคนในที่นี้เมื่อคำพูดคำนี้ได้เอ่ยออกจากปากจนครบทุกคำทุกพยางค์แล้วนั้น...

                    ฟราเรส...ขยับยิ้มอย่างสุภาพและนอบน้อมอย่างที่เคยเป็นปรกติแต่ในสายตาของคนเป็นเจ้านายมองแล้วมันเหมือนรอยยิ้มเคลือบยาพิษชัดๆ                

                    ส่วนซาคัสนั้น...

                    ทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้ดื่มนมที่เกลียดแสนเกลียดทั้งถังลิตรพร้อมๆ กับกลืนลูกอมรสยี่ร่าเข้าไปรวดเดียวทั้งแท่งภายในสามวินาที!!!

                    . คฤหาสน์ตระกูลริธวันนี้ก็ยังคงดังด้วยเสียงบ่นโอดครวญของเจ้านายตัวน้อยและเสียงหัวเราะคลื่นความถี่ต่ำของคุณพ่อบ้านส่วนตัวเช่นเคย...               

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×