คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro~
สายฝนอันไร้สีสรรหลังหลากมาอย่างไม่อาจจะต้านทานได้
สายฝนที่สายทอกลบเกลื่อนคราบรอยน้ำตาราวกับถ้อยคำแห่งการปลอบโยน
หรือ... กระหน่ำซ้ำเติมถึงตัวตนที่น่าสมเพชกันแน่นะ?
ดอกบาวเออร์โรสสีน้ำเงินชูช่ออาบสายฝนถูกอ้อมแขนบางโอบอุ้มอย่างถนอม รอยเท้าเล็กๆ ก้าวบนพื้นหญ้าเขียวชื้นน้ำอย่างเชื่อช้าก่อนจะหยุดลงหน้าแท่นหินอ่อนสลักลายกางเขนกุหลาบ เขาทรุดตัวลงนั่งชันเข่าอย่างเชื่องช้า รอยยิ้มน้อยๆ คลี่ประดับบนใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ ถึงแม้ว่าภายในดวงตาและความรู้สึกที่แท้จริงนั้นไม่อาจจะยิ้มได้อีกต่อไปแล้วก็ตาม
นับตั้งแต่วันที่สูญเสียนายไป...
"ไง...ไม่ได้พบกันนานเลยนะ...ฟาส" น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยหน้าหลุมศพสีขาวสะอาด ซาคัสเอียงคอฝ่ามือเอื้อมทอดหมวกทรงสูงแล้วเสยเส้นผมสีทองประกายมุกเปียกชื้นขึ้นทัดหู ดอกกุหลาบสีหน้ำเงินถูกวางลงปนแผ่นหินเบื้องหน้าอย่างแผ่วเบา
"นี่รู้ไหมตั้งแต่วันฉลองแต่งตั้งผู้นำตระกูลวันๆ ฉันก็โผล่หัวอยู่แต่กับเพียวน์ ให้ตายสิสักวันหนึ่งฉันคงได้แต่งกับงานแหง" พูดพร้อมน้ำเสียงใสกิ๊ก...เสียงที่พูดนั้นถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะก้าวผ่านสายฝนที่สาดซัดเพื่อส่งต่อไปหานายได้หรือเปล่าแต่...
ฉันก็อยากจะเอ่ย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีอยู่ให้นายได้รับรู้
เพียงเพื่อที่จะ...ไม่ทำให้ตัวเองร้องไห้
ก็เท่านั้น
เสียงระฆังดังรอดผ่าเข้าสู่โสต เวลาที่ไม่อาจหยุดนิ่งยังคงเคลื่อคล้อยต่อไปเคยแปรเปลี่ยนประดุงดั่งสายกระแสธาราที่พัดผ่าน...ไม่ว่าจะทำจนสุดซึ่งหนทางเช่นไรก็ไม่อาจรั้งดึงให้กลับคืนมาได้อีก
การเวลาของมนุษย์นั้นสั้นแสยสั้นจนน่าใจหายเพราะกาลเวลาที่ช่างแตกต่างเสียจนไม่เป็นความจริงที่ไม่อยากจะยอมรับ
ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขที่ฉันได้ใช้ร่วมกับนายนั้นมันจบสิ้นลงไปแล้ว
เรื่องนั้นเขารู้ดี...รู้ว่าไม่มีทางฉุดรั้งอดีตให้กลับมาได้
นาฬิกาที่ไม่อาจจะเดินได้อีกครั้งหนึ่ง
ฉันรู้ดีว่านาฬิกาที่ไม่อาจจะขยับชีวิตบ่งบอกเวลาได้ตามหน้าที่ของมันนั้น...ก็ไม่แตกต่างอะไรกับสิ่งที่ไร้ซึ่งประโยชน์
หากแต่
ขอแค่เพียงนาฬิกาเรือนนั้นแสนสำคัญยิ่งกว่ามณีค่าใดๆ
ฉันก็ไม่อาจตัดใจทิ้งมันลงไปได้
สายฝนที่คลอเคล้าปะปนอยู่กับน้ำตา...ซาคัสเงยใบหน้าขึ้นแขนเสื้อยกปากเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าอย่างแผ่วเบารู้ดีว่าสิ่งที่สูญเสียไม่อาจจะกลับคืนมาได้อีก ความเจ็บปวดนี้ไม่อาจจะหายไปได้...ความเจ็บปวดที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
ดวงตาสไพลินหรี่ลงก่อนจะปิดสนิท...
เมื่อสูญเสียสิ่งใดไปแล้วเพียงแค่ครั้งหนึ่ง...ความเจ็บปวกก็ไม่ได้แตกต่างจากรอยร้าวที่ไม่อาจจะสมานตัวได้อีกครั้ง...ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเรียกกลับคืนมาได้
ถึงกระนั้น...ฉัน...
สาสน์เชิญแห่งข้าเอย จงล่องลอยไปทั่วสารทิศ ไม่ว่าโลกนี้ โลกไหน กาลเวลาใด
จงนำตัวผู้ต้องการช่วยต่อสู้กับผู้กลืนกินแสงอาทิตย์มาพบข้า บริวารแห่งผู้กำหนดชะตา เซียร์เฟล เด มิวราคิส
จงถ่ายทอดสาสน์แห่งข้า เทียบเชิญเหล่าผู้กล้าทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจ นักรบคนเดินดิน หรือเทพเจ้าตลอดจนพรายมาเพื่อรวมตัวกัน ส่งพวกเขาข้ามน้ำข้ามทะเลมา ณ ที่นี่
จงโบยบินเถิดสาสน์แสงแห่งเทพเจ้าผู้กำหนดสรรพสิ่ง
จงโบยบินในนามแห่งนายข้า
‘ผู้กำหนดชะตากรรมแห่งสรรพสิ่งทั้งหลายอันไร้นามเรียกขาน’
เจ้านายผู้ซึ่งข้าเรียกท่านผู้นั้นว่า
...เซรีเอล...
ถ้อยคำที่ปรากฏยังซึ้งลึกลงในความทรงจำไม่อาจแปรเปลี่ยนเนื้อความภายใน...นี่เป็นทางเลือก...ที่เราควรจะไปหรือเปล่านะ...?
โชคชะตาหรือสิ่งใดก็ตามแต่...ที่บรรเลงสรรนำพาสาสน์นี้สู่มือเรา ชักนำหนทางบางอย่างแก่เรา...อย่างนั้นเหรอ...
แล้วความปราถนา...เบื้องลึกของเรามันคือะไรกันแน่นะ?
ในเมื่อวันคืนที่จมอยู่กับความสูญเสียนั้น...ไม่อาจหายไปได้แม้แต่เสียววินาทีเดียว
ร่างเล็กฝืนพุดลุกขึ้นยืน ดวงตาคู่งามกดลงทองมองป้ายหลุมศพ
แต่กระนั้นแล้ว...เขาก็อยากจะขอ...
อยากจะขอ...
แค่เพียงแค่เสี้ยวหนึ่งในวินาที
เพียงแค่ได้พบหน้านายอีกครั้ง...ได้ไหม?
ขอแค่ฉัน...
ได้บอกนาย...
"ฟาส...นายรู้ไหมว่าฉัน..."
ความคิดเห็น