คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Spark 01 one five million six with eight hundred three(1/3)
วันนี้...ก็ยังเป็นวันดีอีกวันหนึ่งนะคะ ท้องฟ้าโปร่งใสเป็นสีฟ้ามีเมฆปุยนุ่มๆ สีขาวเหมือนกับขนมสายไหมที่หน้าตาน่ากินลอยเต็มไปหมด แสงแดดในตอนเย็นที่ลอดจากเงาของต้องไม้พลิ้วไหวตามลมที่พัดผ่านมา อา
ถ้าเกิดว่าเมื่อเช้าเอาฟูกมาตากป่านนี้ก็คงจะมีกลิ่นแดดหอมๆ ตอนนอนแน่ๆ เลย
วันนี้ก็เป็นวันปรกติอย่างทุกวันที่ฉันดำรงมาตลอดสิบเจ็ดปี
ตื่นเช้าตอนไปโรงเรียน เดินสะดุดหกล้มกับก้อนหินปริศนาจนหน้าทิ่มนิดหน่อย อาจจะหลงทางขึ้นสายรถไฟไปลงผิดที่บ้าง เดินขัดขาตัวเองจนกลิ้งตกบันไดจนข้อศอกแตกบ้างเล็กน้อย ตอนเย็นหลังจากที่ช่วยเพื่อนๆ ทำเวรเสร็จก็กลับบ้าน
ที่จริงฉันไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะนะคะว่าทำไมเพื่อนๆ ที่เป็นเวรในวันของฉันเนี่ยเขายุ่งกันจนไม่มีเวลาทำเวรทุกคนเลยนะคะ แต่ว่าก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะว่าฉันรู้ว่าเพื่อนๆ ทุกคนเขาต้องพยายามทำธุระที่ฉันไม่รู้ว่าคืออะไรอยู่อย่างเต็มที่แน่ๆ ค่ะ แต่ว่าเพราะว่านี้เรียนครึ่งวันเพราะเป็นวันสถาปนาโรงเรียนก็เลยไม่ต้องทำเวรความสะอาดมากนัก...โชคดีจังเลยนะคะ
อา...ชีวิตประจำวันของฉันเนี่ยช่างราบเรียบและปรกติ...?...จริงๆ เลยเนอะ
ฉันเดินเลี้ยวที่ทางแยกตรงด้าน และบ้านหลังแรกทางขวามือนั่นก็คือบ้านเช่าที่ฉันอาศัยอยู่เองล่ะค่ะแต่...
เอ๊ะ !?
ฉันยืนนิ่งนะจังงังตาค้างอยู่หน้าห้องพักขนาดสี่เสื่อครึ่งไม่มีห้องน้ำแต่มีห้องครัวโดยที่ไม่ไหวติงอะไรก่อนจะกระพริบตาปริบๆ ถี่ๆ เหมือนกับกำลังเช็คสายตาตาให้แน่ใจ ที่นี่ก็คือบ้านที่ฉันอาศัยอยู่กับครอบครัวของฉันเองค่ะ เพียงแต่ว่าตอนนี้น่ะนะบ้านของฉันไม่ได้มีแต่ฉัน พ่อแล้วก็แม่อย่างเดียวซะแล้วสิ...
เพราะว่ามีบุรุษใส่สูทชุดดำสวมแว่นตากันแดดหน้าตาเหมือนกับซีร็อกซ์ออกมาจากเครื่องถ่ายเอกสารเดินยุบยับเหมือนกับเป็นดอกเห็ดที่เพิ่งงอกหลังฝนตก!
กรี๊ดดดด!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
“โอ๊ะ ! กลับมาแล้วเหรอครับคุณหนู” หนึ่งในกลุ่มชายชุดดำเอ่ยพูดพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ห๊ะ? คุณหนู เอ่อ...ขอโทษนะคะ ถึงฉันอาจค่อนข้างซุ่มซ่ามและความจำสั้นแต่ฉันจำได้นะคะว่าบ้านฉันไม่มีบุรุษดอกเห็ดสูทดำนี่เป็นสมาชิกในครอบครัวนะ
“เอ่อ...นี่...เกิดอะไรขึ้นเหรอคะแล้วพ่อกับแม่ของฉันไปไหนเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฉันคิดว่าสุภาพที่สุดหากแต่กลุ่มชายชุดดำนั้นยังไม่ได้ตอบอะไรอยู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกระหว่างกลางกลุ่มสิบแปดมนุษย์ดอกเห็ด
“ สิบห้าล้านหกแสนแปดร้อยกับอีกสามเยน” น้ำเสียงนุ่มๆ ที่ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของชายหนุ่มที่วัยใกล้ๆ กันกับฉันที่เดินโดดเด่นจากกลุ่มคนชุดดำที่หน้าเป็นพิมพ์เดียวกันออกมา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายออกไปทางชาวต่างชาติ เส้นผมสีดำทีjสะท้อนแสงออกมาคล้ายๆ กับสีน้ำเงิน ดวงตาสีฟ้าราวกับท้องฟ้าที่ก้มลงอ่านเอกสารในมือเงยขึ้นมองฉันก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
และคงจะอ่อนโยนกว่านี้ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้พูดประโยคถัดไป
“คือหนี้สินทั้งหมดของพ่อกับแม่เธอยังไงล่ะครับ”
ห...หะ...ห๊า!!!
อะไรน๊ะ !! นี่ฉันคงหูฟาดไปสินะ หรือเพราะว่าเมื่อวานอาบน้ำนานเกินไปน้ำเลยเข้าหูถึงได้ยินอะไรเพี้ยนๆ ไปหรือไม่งั้นฉันก็คง...
“แหมๆ ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ หนี้สิบห้าล้านหกแสนแปดร้อยสามเยนที่พ่อกับแม่ของคุณได้กู้กับเครือข่ายของแฟมิลี่ผมไงล่ะครับ...คุณ ไดโตะ คางามิ” เขาพูด...ด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาก...แต่ทว่า...ไหงฉันถึงได้เห็นออร่าสีม่วงดำแถมออปชั่นเสริมเป็นเขากับหางเดวิลแบบนี้ได้นะ
“แฟมิลี่...?” ฉันเอ่ยทวนคำ แฟมิลี่ก็แปลว่าครอบครัวแล้วแต่ว่าเครื่อข่ายของแฟมิลี่ที่แปลว่าคราอบครัวมันคือเอ่อ...สั้นๆ ง่ายๆ งง...ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนรู้สึกเหมือนน้องหนูถีบจักรในหัวของฉันกำลังขาดออกซิเจนเพราะเหนื่อยจัดจากการพยายามปั่นจักรสมองน้อยๆ ของฉันอย่าเอาเป็นเอาตาย
“อ๊ะ...แย่จริงผมลืมแนะนำตัวไปเหรอครับเนี่ย” เขาพูด ฝ่ามือใหญ่วางทาบเบาๆเบาแผ่นอก “ ผมมาร์ควิส แลนทิคส์ ครับ” เขาคลี่ยิ้มออกมารอยยิ้มที่ดูนุ่มนวลของเด็กหนุ่มวัยเดียวกันตนฉันแอบคิดว่าน่าจะทำความรู้จักกันได้ง่าย หากแต่...ไอ้ประโยคถัดไปนั่น...นั่นมันอะไร๊
“เป็นบอสรุ่นที่เจ็ดของกลุ่มมาเฟียวัลเนล่าแฟมิลี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ม...มาเฟียยยยยย
เอ่อ...ฉันรู้สึกเหมือนว่าน้ำในหูของฉันมันต้องไม่เท่ากันมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้นหูของฉันคงจะไม่เพี้ยนบ่อยอย่างนี้หรอกหรือไม่...ฉันก็คงกำลังฝันอยู่...ฝันว่ามีบอสของมาเฟียอิตาลีรูปหล่อหน้าตาดีมาทวงหนี้กว่าสิบห้าล้านของพ่อกับแม่ฉัน!!!
ค่ะ ฉันสัญญาเลยค่ะว่าถ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไร่ฉันจะวิ่งไปหาหมอโสตที่โรงพยาบาลทันที
เพราะงั้นก็ตื่นซะที่เซ่! ยัยคางามิ!!!
“หึหึ คุณไม่ได้ฝันหรอกนะครับ” คุณบอสเอ่ยด้วยคำพูดที่เหมือนว่าจะรู้ถึงความขึ้นของฉัน แถมยังไอ้เสียงหัวเราะชวนหลอนประสาทหูนั่น! แง๊ !!! หนูกลั๊ว
“นี่ไงล่ะครับหลักฐานการกู้ยืม” เขาพูดพลางใช่หลังมือตบๆ เบาๆ บนกระดาษแผ่นหนาปึ๊กที่อยู่ในมืออีกข้าง คุณบอสยิ้มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน
“จะดูไหมล่ะครับ?” ถึงฉันจะกลัวแต่ฉันก็ยื่นมือไปรับปึกกระดาษแผ่นหนาราวกับพจนานุกรมตั้งโต๊ะของโคดันฉะที่เขาส่งมาให้ ฉันไล่สายตาอ่านแบบผ่านตั้งแต่แผ่นแรกจรดแผ่นสุดท้าย
ใบแรก สามแสนสามพันเยน
ใบที่สอง ห้าแสนเก้าหมื่นเยน
ใบที่สาม แปดแสนยี่สิบเจ็ดเยน
ใบที่สี่...
ใบที่ห้า...
ฯลฯ
ฉันมองไล่มองยอดจำนวนเงินในการกู้ยืมทั้งหมดตั้งแต่แผ่นแรก ไม่รู้เหมือนกันแต่ฉันรู้สึกเหมือนตัวฉันเริ่มซีดลงจนดูเหมือนฉายในจอโทรทัศน์ขาวดำสมัยก่อนสงครามโลกแล้วยิ่งพอเปิดมาถึง ผ...แผ่นสุดท้ายใบเช็คหนี้รวมยอดทั้งหมด...
สิบห้าล้านหกแสนแปดร้อยสามเยน!!! แถมยังไม่ได้รวมดอกเบี้ยอีกต่างหาก!!!
ถึงจะได้ยินมาแล้วก็เถอะแต่พอมาดูเองแบบนี้แล้วยิ่งช็อคไปกันใหญ่ โอยแม่เจ้า สิบห้าล้านกว่าๆ พ่อคะแม่คะเอาเงินมหาศาลขนาดที่ฉันไม่เคยได้แตะต้องนี่ไปใช้ทำอะไรกันคะ ถมที่เรอะ?
ฉันทรุดตัวลงกับพื้นเสื่อทาตามิอย่างหมดเรี่ยวแรง หนี้...หนี้สินมากมายขนาดนั้นทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนเลยล่ะแล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้ติดหนี้ก้อนโตขนาดนั้น ถึงพ่อกับแม่ฉันจะเล่นการพนันเหมือนกินข้าว แทงม้าเหมือนกับทำงาน เล่นปาจิงโกะเหมือนไปจ่ายตลาดแต่ก็...
เฮ้ย !?
ก็เพราะไอ้เล่นการพนัน แทงม้า ปาจิงโกะ เล่นหวยพวกนี้ไม่ใช่เหรอง๊ายยย
“แล้วพ่อกับแม่ของฉันล่ะคะ คุณเอ่อ...คุณ” อยากจะเรียกชื่ออยู่หรอกนะแต่ไอ้คำว่า ‘มาร์ควิส’ หรือ ‘แลนทิคส์’ เนี่ยสำหรับลิ้นคนญี่ปุ่นมันออกเสียงยากยิ่งกว่าอะไรซะอีก จะกระแดะออกเสียงอย่างนี้ยังไงให้มันดูดีดีวะเนี่ย?
“มาโคโตะ เรียกอย่างนี้ก็ได้ครับเพราะผู้หญิงที่ผมชอบก็เรียกผมแบบนี้ เธอบอกว่าชื่อผมมันไม่คุ้นลิ้นคนญี่ปุ่น” โอ้ววว ซึ้งน้ำตาไหลพรากฉันชักรู้สึกอยากจะขอบคุณแม่สาวน้อยคนที่คุณบอสมาโคโตะนี่ชอบด้วยการดื่มชาร้อยจอกให้จริงๆ...ถ้าฉันดื่มไหวนะ
“ส่วนพ่อกับแม่ของคุณล่ะก็...” เขานิ่งเว้นช่วงพูดไปสักพักก่อนจะชี้ไปทางซองจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ขาเตี้ยที่อยู่ด้านหน้าฉัน “ถึงจะเสียมารยาทที่เปิดอ่านเอาเอง...แต่คงต้องบอกว่าดูเหมือน...พ่อกับแม่ของคุณจะหนีไปแล้วล่ะนะครับ”
อะไรน๊าาา
ฉันกรีดร้องในใจก่อนจะคว้าซองจดหมายลายคิตตี้แล้วหยิบกระดาษลายแบบเดียวกันที่สอดอยู่ข้างในขึ้นมาเปิดอ่านด้วยอย่างรวดเร็ว ถึงจะไม่ใช่สีแดงและมีเขาแต่ก็ฉันก็จะด้านเร็วเป็นสามเท่า!!!
ถึง คางามิลูกรัก
เมื่อลูกอ่านจดหมายนี้พ่อกับแม่คงจะไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้วล่ะนะ แต่ว่าเพราะพ่อกับแม่มีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอกลูกในจดหมายนี้ให้ได้ เรื่องก็คือว่า...พวกเราติดหนี้ก้อนบานตะไทอีแล้วล่ะ แหะๆ สักเท่าไร่ก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเจ้าหนี้สมัยนี้น่ะเขาใจดีม๊ากมากเลยล่ะ ถึงจะไม่มีเงินจ่ายแต่ก็จ่ายแทนเป็นอวัยวะได้ด้วยล่ะจ้ะ
พ่อกับแม่คิดว่าอวัยวะภายในของเด็กสาวที่สุขภาพแข็งแรงของลูกคงจะเป็นที่ถูกใจของกลุ่มมาเฟียอิตาลีไม่มากก็น้อยละนะ คิดซะว่าเป็นการทำหน้าที่ลูกที่ดีละกันนะจ๊ะ โอ๊ะ! ดูเหมือนว่าเจ้าหนี้จะมาถึงกันแล้ว พ่อกับแม่ต้องไปแล้วล่ะ สุดท้ายนี้ไม่ต้องตามหาพ่อกับแม่นะจ๊ะ จุ๊บๆ >_<
หวังว่าอวัยวะของลูกจะขายได้ราคาดี
พ่อกับแม่
ความคิดเห็น