ตอนที่ 3 : 2
เมื่อถึงวันเดินทาง ศลิษาก้มกราบลงแทบเท้าของมารดา เพื่อเอ่ยคำล่ำลาเป็นการชั่วคราว เธอจะรีบไปรีบกลับ เต็มที่ก็เพียงสองอาทิตย์เท่านั้นตามโปรแกรมที่แจ็คกี้ให้เธอดู เมื่อกราบลาผู้เป็นมารดาแล้ว หญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะนำชายผ้าถุงของมารดาติดตัวไปด้วย เหมือนคนไทยโบราณยามจะออกศึกก็ทำแบบนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะแม่คือพระอรหันต์ของลูกเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สัมผัสได้ เวลาสวดมนต์ก่อนนอนที่นั่นเธอจะระลึกถึงพระคุณมารดา ไม่รู้ล่ะ ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาห่างไกลบ้านแบบนี้ ไม่รู้แต่ละคืนจะข่มตาหลับได้หรือเปล่า ยิ่งแม่ไม่สบายอยู่ด้วย แต่ละนาทีที่ล่วงเลยผ่าน ศลิษามีแต่เฝ้าภาวนาขอพรให้ท่านมีสุขภาพดีโดยเร็ววัน และเธอเองก็จะมีกำลังใจ ทุกความเหน็ดเหนื่อย เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเหนื่อยเพื่อใคร...
กว่าสองสัปดาห์ที่เธอจะต้องอยู่ที่นั่น และหวังอย่างยิ่งว่า การตามหาบิดาบังเกิดเกล้าจะไร้อุปสรรค เธออยากพาพ่อมาเจอแม่อีกสั้กครั้งในชีวิต เธอสัญญาว่าจะไม่ถามว่าทำไมพ่อถึงทิ้งพวกเราไปโดยไม่หันหลังกลับมาสักครั้ง
...สัญญาจริงๆ ว่าจะไม่เอ่ยถามให้เสียความรู้สึก เธอเพียงต้องการเจอหน้าพ่อ และพาท่านกลับมาเยี่ยมแม่สักครั้งเท่านั้นจริงๆ...
~$~
CHAPTER 2
ภารกิจไม่คิดฝัน
Rotterdam, Netherlands.
หญิงสาวพาร่างบอบบางและก้นพังๆ เดินกลับมายังที่พักที่ตั้งอยู่ในย่าน Charlois ใกล้สะพาน Erasmus[1] ที่แห่งนี้มันเป็นห้องพักขนาดกลางสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไปของที่นี่ ซึ่งทางบริษัทต้นสังกัดที่เมืองไทยจัดการให้ทั้งหมด รวมทั้งเงินในกระเป๋าสำหรับใช้จ่ายในแต่ละเดือน อย่างที่บอกว่ามันเป็นทริปในฝันก่อนมาถึง แต่เมื่อเท้าน้อยๆ ย่างเหยียบลงบนแผ่นดินกังหันสีส้มกลางดงทิวลิปเท่านั้นล่ะ เธอเพิ่งรู้ว่าเสนอตัวมาแดนนรกภูมิแท้ๆ เลย
‘ภารกิจผีอะไรเนี่ย...’ เธอสบถอย่างโกรธๆ แต่จะโกรธและโทษใครได้นอกจากตัวเอง ก็เธอช่วงชิงรางวัลนี้กับพนักงานคนอื่นๆ เอง แข่งแทบตายสุดท้ายอย่างกับโดนปล่อยเกาะ ทำงานไม่สำเร็จก็อดกลับบ้าน ถ้ารู้งี้... ไม่ไปช่วงชิงกับเขาก็ดีหรอก เฮ้อ...
แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ ไหนๆ ก็ได้มาแล้ว เพราะฉะนั้น ภารกิจตามหาพ่อต้องได้ไปต่อ
‘พ่อคะ... เราต้องพบกันนะคะ และพ่อต้องกลับไทยไปพร้อมหนู แม่รอพวกเราอยู่ค่ะ’ เธอคิดอย่างมุ่งมั่น
การมาทำงานตามลูกชายกลับไปรับตำแหน่งให้ท่านประธานอีวาน แม้จะหนักหน่วง หนักไม่หนักก็ดูเขาทุ่มเธอออกจากอพาร์ทเม้นท์ก็คงพอการันตีความร้ายกาจของเขาได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พอจะมีอภิสิทธิ์พวกนั้นแบบไม่มีขีดจำกัด แต่ก็ใช่ว่าจะดีใจ เพราะเมื่อแลกกับภารกิจที่เธอต้องทำให้สำเร็จแล้ว มันเดิมพันมากกว่าหลายขุม ย้อนคิดถึงอาทิตย์ที่แล้วเธอยังเจ็บใจไม่หาย ทำไมเจ้านายถึงใจร้ายทำกับเธอได้ลงคอ แบบนี้มันเท่ากับลอยแพเธอชัดๆ เลย
‘ภารกิจไม่สำเร็จไม่มีสิทธิ์กลับบ้านงั้นเรอะ หมูป่ายังได้กลับบ้านแล้วเลย ติดอยู่ที่นี่มันยิ่งกว่าติดถ้ำซะอีก!’
‘วะ... ว่าไงนะคะ?’ หญิงสาวแผดเสียงลั่น
‘คุณได้ยินชัดแล้วครับศลิษา คุณต้องอยู่ที่นั่นจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ’ แจ็คกี้กรอกเสียงมาตามสายหลังจากเธอออกจากสนามบินมุ่งหน้าสู่ที่พัก ทำไมไม่บอกตั้งแต่อยู่ไทย การตัดสินใจเธอจะได้ไม่เป็นแบบนี้ หญิงสาวยกมือขึ้นกุมศีรษะจนผมยุ่ง เธอตกหลุมพรางท่านประธานเสียแล้ว เวรกรรมของเธอ
‘แต่มันนอกเหนือจากข้อตกลง’ หญิงสาวคราง... เสียงตอบโต้ของพนักงานชั้นผู้น้อยเบาแผ่วยิ่งกว่าสายลมพัดผ่าน
‘คุณคือผู้ถูกเลือก อย่าลืม’ แจ็คกี้ย้ำ เธอถูกเลือกเชียวนะ ต้องภูมิใจสิและทำภารกิจให้สำเร็จด้วย อย่าหือ...
‘ทำไมพวกคุณไม่บอกฉันตรงๆ ตั้งแต่แรกว่าฉันต้องพาเจ้านายน้อยกลับไป ไม่งั้นฉันก็ไม่มีสิทธิ์กลับเมืองไทย’
‘ถ้าแบบนั้น ใครจะยอมไปครับ คุณก็รู้เจ้านายน้อยหัวแข็งแค่ไหน ทั้งแสบสัน ทั้งอันตราย จะว่าโหดก็ได้นะคุณ’ แจ็คกี้หมายถึง ‘ซาเร็ค’ หรือด็อกเตอร์อลัน ซาเร็ค เวทลีย์ บุตรชายเพียงคนเดียวของอีวาน ซาเร็ค เวทลีย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทต้นสังกัดของเธอนั่นเอง
‘แล้วอะไรทำให้ท่านตัดสินใจว่าฉันจะทำงานนี้สำเร็จคะ’
‘เพราะคุณมีคุณสมบัติหลายๆ อย่างที่คนอื่นไม่มีน่ะสิศลิษา ขอให้โชคดีกับภารกิจ’
‘โธ่แจ็คกี้... มันไม่ยุติธรรมเลย’ หญิงสาวครวญ
‘ผมรู้ว่าคุณทำได้ศลิษา’
แล้วแจ็คกี้ก็วางสายไปเสียดื้อๆ เหลือไว้เพียงหญิงสาวพนักงานระดับต๊อกต๋อยยืนงงในดงทิวลิปอยู่แบบนี้
หญิงสาวถอนใจอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อย้อนคิดถึงวันแรกที่เดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์ ก่อนเอนหลังนอนราบลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า... หลับตาแน่น ก่อนที่น้ำตาจะไหลเนื่องจากไม่สามารถบังคับได้ เธออุตส่าห์ฝันว่าจะได้มาดูงานและเที่ยว เที่ยว และท่องเที่ยว... มีเวลาจะไปบ้านคุณย่าและตามหาพ่อผู้ให้กำเนิดบ้าง แต่นี่ทุกอย่างกลับไปเป็นตามแผนที่วางเอาไว้
นรกชัดๆ เลยมั้งเนี่ย... พัง! ทริปในฝันของฉัน แทนที่จะปัง กลับพังไม่เป็นท่า พัง พัง พัง มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ฮือ...
ความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและหัวใจทำให้หญิงสาวเผลอหลับไปโดยอัติโนมัติ
ชีวิตน้อยๆ ของพนักงานเงินเดือนที่น่าสงสาร...
++++++++
ขอบพระคุณที่ติดตามนะคะ
นิยายเรื่องนี้วางขายแล้วนะคะที่ร้านเซเว่นและร้านหนังสือทั่วไป
ผู้เขียนทำการรีอัปอีกครั้งเพื่อให้นักอ่าน(ที่ยังไม่เคยอ่านงานของภัคร์ภัสสร) ได้ทดลองอ่านก่อนตัดสินใจสั่งซื้อค่ะ
อาจจะลงไม่จบเรื่อง และตัดทอนฉากหวานบางฉากออกไปนะคะ รวมถึงฉากโรมานซืร้อนแรงที่ไม่สามารถลงในเว็บต์ได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงของทางเว็บต์นะคะ
ขอบคุณค่ะ
[1] Erasmus Bridge- สะพานขาว หรือสะพาน Erasmus เป็นสะพานแขวนที่ใหญ่และสวยที่สุดในรอตเตอร์ดัม เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองรอตเตอร์ดัม แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เชื่อมต่อเมืองอุตสาหกรรมเก่ากับเมืองใหม่ของ Rotterdam ออกแบบโดย Ben van Berkel สถาปนิกผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ในวงการสถาปัตยกรรม โดยอ้างอิงจากตรรกะของวงแหวนโมบีอุส
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
