ตอนที่ 2 : Chapter 1 :: เกมล่าแจ็คพ็อต (30%) - รีไรท์
ดวงตาคู่โตของหญิงสาวหมองลง เมื่อรอคอยนานจนเริ่มหมดหวัง ในแววตานั้นกำลังหาทางออกให้กับตนเองว่าหากปกรณ์ไม่มาตามนัดแล้วตนจะทำอย่างไรต่อไป การถ่ายทำยังไม่เริ่ม เธอจึงเดินกลับออกมานั่งที่ม้านั่งข้างนอก แสงแดดยามบ่ายแรงจ้า ลมร้อนพัดผ่าน ความร้อนอ้าวของด้านนอกทำให้หญิงสาวเริ่มมีเหงื่อซึม
“โธ่... เชอร์รี่ฟังพี่ก่อนนะครับ เราก็เล่นเกมไม่กี่ชั่วโมงเอง” ปภาณพิชญ์หันไปมองตามเสียงสนทนาที่เธอได้ยินแว่วๆ ภาพชายหนุ่มหน้าตาดีเจ้าของร่างสูงสมาร์ทในเสื้อยืดแบรนด์ดังเข้ากันกับกางเกงยีนในสไตล์หนุ่มมาดเซอร์แต่ดูดีแบบเว่อร์วังในสายตาของครีเอทีฟสาว ดูเหมือนว่าเขากำลังงอนง้อคนรักที่มีอาการงอแง เพราะความคิดบางอย่างไม่ตรงกัน
‘อย่างน้อย... แฟนเขาก็มา ไม่เหมือนเรา... พี่หมอไปอยู่เสียที่ไหนแล้วก็ไม่รู้...’ ปภาณพิชญ์คิดอย่างน้อยอกน้อยใจ นัยน์ตาว่างเปล่าทอดมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย นาทีนั้นเสียงโวยวายเกือบถึงขั้นเหวี่ยงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ผ่านเข้ามาในโสตประสาทเธอ จนอดไม่ได้ที่จะปรายตาไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“พี่แทนจะให้เชอร์รี่ทนฟังคนที่โกหกเชอร์รี่มาตลอดอย่างนี้เหรอคะ เชอร์รี่ไม่ฟัง เราเลิกกันนับจากนี้!” คนเป็นแฟนกำลังเหวี่ยง ท่าทางเกรี้ยวกราด
“โอเค เชอร์รี่ เราจะเลิกกันก็ได้นะ แต่เชอร์รี่ทิ้งพี่ไปตอนนี้ไม่ได้” หนุ่มมาดเซอร์ยื่นคำขาด สีหน้าเขาเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ สีหน้าแบบนั้นถ้าไม่เพราะว่าเขาเป็นคนใจเย็นล่ะก็ เขาต้องเป็นคนเย็นชาแน่ๆ คนแอบฟังคิด
“ทำไมไม่ได้ล่ะ?” หญิงสาวหน้างอถามออกไปอย่างขัดใจ ปภาณพิชญ์เดาว่าหญิงสาวคงเป็นคุณหนูเอาแต่ใจไม่เบาเลย
“ก็เกมกำลังจะเริ่ม พี่จะแข่งในรายการกับใครล่ะ? ไม่มีใครหาคนมาแทนเชอร์รี่ได้ทันหรอกนะครับ เกมใกล้เริ่มแล้ว” เขาสรุป
“งั้นเหรอ?” หญิงสาวมาดคุณหนูจ้องตาชายคนรักอย่างเอาเรื่อง “ที่รั้งเชอร์รี่ไว้ไม่ใช่เพราะแทนแคร์เชอร์รี่ แต่รั้งไว้เพราะแทนกลัวจะไม่ได้เล่นเกมโชว์บ้าบอนั่น!” เธอตัดพ้ออย่างน้อยใจ หยาดน้ำตาเริ่มปริ่มที่ขอบตา
“พูดเบาๆ หน่อยสิเชอร์รี่!” เขาเอ็ดแฟนสาวก่อนหยุดหันมองรอบๆ เพราะไม่อยากให้ทีมงานได้ยินเสียงแฟนสาวที่กำลังพูดถึงรายการในทางที่ไม่ดี ‘เกมโชว์บ้าบอที่ไหนให้เงินรางวัลตั้งห้าแสนล่ะเชอร์รี่!’ เขาคิด
“เชอร์รี่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะ มันไม่ใช่อย่างนั้น” ชายหนุ่มพูดตอนนี้ใบหน้านิ่งเริ่มขมวดคิ้วชนกัน
“เชอร์รี่จะกลับ!” หญิงสาวมาดคุณหนูบอกอย่างคนเอาแต่ใจโดยไม่ไยดีสักนิดว่าแฟนหนุ่มจะเสียหน้าและพังพินาศมากแค่ไหนถ้าเธอทิ้งเขาไปกลางคันแบบนี้
แต่เธอก็ทำจริงๆ
“เชอร์รี่!” เขาเรียกชื่อคนรักสาวแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังเขาอีกต่อไปแล้ว
“ไม่ต้องตามมานะ เราขาดกัน” สิ้นคำแค่นั้นร่างบอบบางก็สะบัดหน้ากลับกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากเขาไป เธอไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าชายหนุ่มจะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างไรนับจากนี้
“ปัดโธ่เว้ย!” แทนหรือธันยาพัฒน์ชกต้นไม้อย่างหัวเสีย สายตาคมมองเข้าไปในโรงถ่าย มันอาจจะมืดสักหน่อยแต่ก็พอรู้ได้ว่าข้างในกำลังเตรียมการถ่ายทำ ทีมงานต่างกุลีกุจอเตรียมฉากและเริ่มเช็กรายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันกันแล้ว เขาลงชื่อแฟนสาวในการสมัครมาตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ชายหนุ่มยังลังเลว่าจะเดินเข้าไปดีไหม เพราะสภาพตอนนี้เขาไม่มีคู่แล้วน่ะสิ
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวท่าทางเรียบร้อยติดจะทึนทึกด้วยซ้ำ หล่อนนั่งเงียบๆทว่ามีแววร้อนรน ขณะเดียวกันมือเรียวสวยก็หยิบโทรศัพท์แนบใบหูเล็กนั่นเอาไว้ หญิงสาวกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจ เธอหันมาสบประสานเข้าพอดีกับดวงตาของเขานับได้ครั้งสองครั้ง ชายหนุ่มหวังว่าเธอคงจะไม่ได้ยินที่เขาทะเลาะกับแฟนสาวหรอกนะ
ธันยาพัฒน์ละสายตาจากหญิงสาว ‘จะสนใจทำไมเรื่องคนอื่นวะเนี่ยไอ้แทน? คิดหาทางรอดให้ตัวเองดีกว่าว่าจะเอายังไงดี ตอนนี้เชอร์รี่โกรธหนีไปแล้ว’ เขาคิด ก็จะไม่ให้แฟนสาวโกรธเขาได้อย่างไรในเมื่อเชอร์รี่เธอเป็นหญิงสาวขี้อายแม้จะมีหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้มพริ้มเพราระดับเน็ตไอดอล หรือเป็นดาราได้สบายๆ แต่เธอก็ไม่ชอบแสดงออกเอาเสียเลย เธอโกรธที่เขาไม่ยอมบอกเธอตรงๆ ว่าจะมาเล่นเกมโชว์เพื่อชิงเงินรางวัล เกมแต่ละอย่างโหดเข้าขั้น รายการที่ว่า‘แจ็คพ็อตรัก เลิฟเวอร์คูเปอร์เกม’ ไม่ใช่ไม่เคยดูทางทีวีดิจิตอลชั้นนำ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นคนดู กับผู้ร่วมเล่นเกมแล้วเชอร์รี่เลือกที่จะเป็นคนดูอยู่ทางบ้านดีกว่า อีกอย่างเธอเพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้เองว่าธันยาพัฒน์หรือแทนร้อนเงินถึงขั้นต้องมาเล่นเกมโชว์ล่าเงินรางวัล
“น้องแทนใช่ไหมคะ? พร้อมยังคะ แล้วแฟนน้องล่ะ?”ทีมงานเดินเข้ามาถามธันยาพัฒน์
“เอ่อ ขอเวลาสักพักครับ?” ชายหนุ่มตอบขณะแค่นยิ้มเจตนากลบเกลื่อนปัญหาที่ตนเองกำลังเผชิญ
“แฟนยังไม่มาเหรอ?” ทีมงานสาวอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปีท่าทางทะมัดทะแมงเอ่ยถามขึ้น เพราะดูสีหน้าชายหนุ่มผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะไม่สู้ดีนัก
“ครับ... เอ่อเข้าห้องน้ำครับ แฟนผมตื่นเต้น... เธอขี้อายครับผม” อ้อมแอ้มตอบไปแต่รู้อยู่แก่ใจว่าตนนั้นกำลัง ‘มุสา’ คำโต แล้วถ้าทีมงานสาวเดินตามไปดูแฟนที่กำลังอ้างถึงในห้องน้ำแล้วไม่เจอใครล่ะจะว่ายังไง แฟนสาวของเขาป่านนี้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วกระมัง
“อ๋อ... ทางรายการเราก็กำลังรอดาราที่มาร่วมเกมด้วยน่ะจ้ะเห็นตะกี้โทรมาบอกว่ากำลังเดินทาง น้องก็บอกแฟนน้องได้เลยว่าไม่ต้องรีบนะคะดาราเค้ารถติดอยู่ ยังไงก็ปลดปล่อยได้ตามสบายเลยจ้ะ” สาวทีมงานรายการบอก เธอคงเข้าใจว่าแฟนสาวของชายหนุ่มผู้เข้าร่วมแข่งขันคงจะตื่นเต้นจนท้องเสียหรือไม่ก็ปวดชิ้งฉ่องกลางกองถ่ายอะไรทำนองนั้น
“ครับๆ ขอบคุณครับ” ธันยาพัฒน์ตอบรับอย่างนอบน้อม
ทีมงานรายการเกมโชว์ชื่อดัง มองซ้ายทีขวาที ประเมินผู้เข้าร่วมเกมว่ามากันครบหรือยัง และกะเกณฑ์จำนวนเอ็กซ์ตร้า และคนร่วมชมรายการในห้องส่งด้วยสายตา ว่ากี่คนเพื่อจะได้จัดข้าวกล่องและเครื่องดื่มให้ ขณะเดียวกันก็ก้มลงเช็กรายชื่อผู้ร่วมสนุกจากทางบ้านในแฟ้มเอกสาร
“เอ... ยังเหลืออีกคู่นี่นา...” ทีมงานคนหนึ่งพึมพำเขาว่าตัวเองนับไม่ผิดแล้วนะ หายไปไหนหนึ่งคู่
“พี่กรณ์ถึงไหนแล้วค่ะ?” ปภาณพิชญ์ถาม หญิงสาวมีสีหน้าเป็นกังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อเวลาเหลือน้อยเต็มทีราวกับมีการนับถอยหลัง คนเดินวุ่นวายขวักไขว่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจใคร
“น้องโยเกิร์ต... พี่คงไปไม่ได้แล้วนะครับ” เสียงของนายแพทย์หนุ่มดังมาตามสายโทรศัพท์ ส่งผลให้ดวงหน้าหวานสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“อ้าว! ทำไมล่ะคะ?” ปภาณพิชญ์เอ่ยขึ้นถามขณะแววตาเศร้าลงอย่างชัดเจน ความจริงคำตอบนี้เธอเดาเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่คิดว่าคนรักจะมาบอกกัน ‘หน้างาน’ แล้วอย่างนี้เธอจะหาใครมาแทนพี่หมอได้ล่ะ เครียดจนปวดหัวตุ้บๆ ไปหมดแล้ว ร้อนผ่าวที่ดวงตาราวว่าน้ำตาจะไหลอย่างนั้นล่ะ ปกติปภาณพิชญ์ไม่ใช่คนอ่อนไหวร้องไห้ง่ายแบบนี้หรอกนะ แต่ในวันนี้เธอมาพร้อมกับความหวัง... ไม่ใช่หวังรางวัลครึ่งล้านนั่นหรอก แต่เธอมีความหวังจะได้คืนดีหรือง้องอนคนรักหนุ่มที่คบหากันมานานต่างหาก แต่ตอนนี้ฝันของเธอสลาย เหลือไว้เพียงคราบน้ำตาที่ร่วงเผาะอาบแก้ม โดยที่เธอก็ไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่า กำลังร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ขณะถือสมาร์ทโฟนแนบใบหูของตนเอง
“เอ่อ... พี่คงไม่สะดวกแล้ว” นายแพทย์หนุ่มกระอักกระอ่วนที่จะตอบ เพราะความจริงเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนรักได้อย่างไม่ยากเย็น
“พี่กรณ์ทำไมเพิ่งบอกล่ะคะ?” ปภาณพิชญ์บอกอย่างรู้สึกผิดหวัง หัวใจเต้นแรงเพราะความโกรธที่กำลังคุกรุ่นแต่ต่อให้โกรธสักแค่ไหนเธอก็คงทำอะไรมากกว่าการยอมรับสภาพไม่ได้ และดูเหมือนว่าเธอจะต้องเผชิญกับปัญหาในเวลาไม่ช้านับจากนาทีนี้
“พี่ขอโทษเราก็แล้วกัน คือเอ่อ...” ยังไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงแหลมเปี๊ยบของหญิงสาวดังมาตามสาย
“เธอเป็นใครเที่ยวชวนแฟนชาวบ้านไปหาน่ะ?” แรกที่ได้ยินปภาณพิชญ์รู้สึกคุ้นหูกับน้ำเสียงและจังหวะจะโคนการพูดจาแบบนี้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเสียงใครเพราะกำลังอยู่ในความเสียใจ
‘แฟนชาวบ้านงั้นหรือ... จำได้ว่าพี่ปกรณ์เป็นแฟนฉันนะถึงจะงอนกันบ่อยๆ รักๆ เลิกๆ กันก็หลายครั้งก็เถอะ แต่ถึงยังไง พี่หมอปกรณ์ก็ยังเป็นแฟนฉันอยู่’ ปภาณพิชญ์คิดในใจและเธอแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆ มีผู้หญิงคนอื่นพูดแบบนี้กับตนผ่านมือถือส่วนตัวของผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่า ‘แฟน’
“ขอโทษนะคะ ขอพูดกับพี่ปกรณ์ค่ะ” ปภาณพิชญ์เอ่ยอย่างกลั้นโกรธ หากแต่ยังคงรักษาความสุภาพเอาไว้ เธอยินดีไว้หน้าทุกคนนั่นแหละ เป็นธรรมดามีแฟนหล่อก็ต้องใจกว้างหน่อย
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

183 ความคิดเห็น
-
#83 9namfon (จากตอนที่ 2)วันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 / 23:36พี่แทนนน#830
-
#4 fahpsk (จากตอนที่ 2)วันที่ 20 ธันวาคม 2558 / 14:12รอตอนต่อไปค่าา#40