ลำดับตอนที่ #1
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Kill 1 : เริ่มสังหาร
ภายในค่ำคืนที่แสงจันทร์ส่องรำไร พระจันทร์ที่มีเพียงครึ่งเสี้ยวทอแสงประกายบนฟ้าอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ความเงียบสงบของคืนอันแสนจะ
เงียบงำได้ถูกทำลายโดยเสียงฝีเท้า..ในซากวิหารโบราณอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความลึกลับ..
"นี่นะเหรอ ที่ที่ซึ่งเหมาะแก่การจะฝึกของชั้น" ร่างนั้นช้อนตามองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเค้า..
..วิหารเมนทิส (Mentis Cathedral.)
---------------------------------------------------------------
ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
"ห่าวววว"
..เสียงง่วงหาวของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง..ดูภายนอกเเล้วเค้าเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาที่่มีบุคลิกลึกลับน่าค้นหา..ทรงผมสีบรอนที่ไว้ยาวพรางตาด้านซ้ายของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง ใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทำให้ไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าเค้ากำลังคิดหรืออยู่ในอารมณ์ใดๆ
และในขณะที่เค้ากำลังก้าวเข้าโรงเรียนเหมือนที่ทำทุกครั้ง..
..กลับมีเสียงหนึ่งเเทรกขึ้นมา..
"สวัสดีจ้า เเรร์ ^^"
เด็กหนุ่มหันตามไปหาที่มาของเสียงอย่างข้าๆ
"อ้าวว่าไงแมรี่ รองเท้าเธอยังสวยกว่าหน้าเหมือนเดิมเลยนะ ^^" เสียงตอบกลับมาอย่างเป็นมิตรมากมาย(?)จากผู้โดนทักทาย
"จ้า สุนัขในปากของนายก็ยังอยู่ครบสินะ แถมสุขภาพยังเเข็งเเรงดีเหมือนเดิมเลยใช่มั้ย? - +"
"อืมม..อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันเเฮะ ว่างๆก็พาไปหาหมอให้หน่อยดิ รู้สึกจะคุยกะสุนัขรู้เรื่องไม่ใช่เหรอ เธอพาไปน่าจะง่ายกว่าฉันพาไปนะ O^O"
..ในขณะที่บทต่อล้อต่อเถียงของคนสองคนกำลังดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันขิงก็ราข่าก็เเรงนั้นเอง..
..สภาพของเวลาเหมือนกำลังถูกหยุดไป..ทุกอย่าง ณ อาณาบริเวณนั้นกลับเหมือนหยุดนิ่งไหวติงไม่เคลื่อนไหว..ซึ่ง..เเม้เเต่สายลมที่เคยพัดกลับ
หยุดอยู่จนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง..ในขณะที่ร่างๆหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับคำพูดของร่างนั้น
"มันช่างง่ายดายอะไรเช่นนี้ คัมภีย์ที่โดนเจ้าเด็กนี้จิ๊กไปจากวิหาร ฉันคนนี้ขอรับไปต่อก็เเล้วกันนะ"
ในขณะที่มือของบุคคลลึกลับกำลังจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเเรน์นั้น..
เค้ากลับพบลำแสงพุ่งเข้าหาตนเองอย่างรวดเร็ว..
..บุคคลลึกลับถึงกลับต้องดีดตัว..เพื่อหลบลำแสงนั้นให้ทันถ่วงทีก่อนที่มันจะตัดลำตัวของเค้าให้กลายเป็นสองท่อน
"บ้าฉิบ! ใครวะ เจ้าเด็กนี่มีพวกพ้องด้วยงั้นรึ "ร่างนั้นพ่นคำสบถออกมา
"พวกพ้องบ้าบอคอแตกอะไรกันน้า"
เสียงของคนๆนั้นดังขึ้นมา
และ..เมื่อบุคคลซึ่่งเกือบจะโดนลำแสงฆ่าตายหันกลับไปยังต้นตอของลำแสง..
..กลับพบเด็กหนุ่มคนเดียวกันที่เขาจะแย่งคัมภีย์กำลังล้วงกระเป๋ายืนอยู่อีกฝากหนึ่ง..
เขาแทบสิ้นสติไปในพริบตา!!
"นี่..แกรู้ตัวได้ยังไง"
"ก็ไม่อยากหรอก ชั้นรู้ตั้งเเต่ตอนแกตามชั้นไปที่วิหารแล้วละ"
..บุคคลลึกลับที่โดนอีกฝ่ายรู้ตัวตนเข้าอย่างจังถึงกับอึ้ง..
"เจ้าของร้านหนังสือเฮงซวยที่พยายามตามหาวิหารมาทั้งชีวิต..เเต่กลับหามันไม่พบเลยคิดจะหลอกใช้เด็กที่สนใจเรื่องนี้เข้าด้วย เเถมยังไปได้สวยเพราะเด็กคนนั้นกลับค้นหามันพบซินะ"
"งั้นแกรู้ตัวได้ยังไงว่าชั้นมาถึงแล้ว"
เด็กหนุ่มผู้ซึ่งถือไพ่เหนือกว่าไว้ในมือ..ได้เผยรอยยื้มมุมปากออกมา..
"น้าไม่สังเกตหรอกเหรอ ตามเสาไฟฟ้าตามทาง ผมได้ทำสัญลักษณ์จับข่ายการใช้จิตที่สูงเกินกว่าปกติไว้นะ"
ผู้ที่มาเพื่อไล่ล่าได้หันกลับไปมองยังเสาร์ไฟฟ้าต้นต่างๆที่เรียงรายอยู่ข้างถนน ทำให้เขาเข้าใจชัดเจนว่า บัดนี้ เขาได้กลายเป็นผู้ถูกล่าไปเเล้ว
"แล้วพลังของน้า คือการหยุดยั้งเวลาใช่มั้ยละ ใช้พลังยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เปลืองจิตแย่เลยเนอะ เลยทำได้เพียงเเค่พื้นที่จำกัด"
..เสียงกัดฟันของผู้ที่โดนซ้อนแผนดังเป้นจังหวะๆ
"เป็นไปไม่ได้..แกจะมาทำสัญลักษณ์นี้ตอนไหน ในเมื่อชั้นสะกดรอยตามแกทุกฝีก้าวตลอดก่อนหน้าที่แกจะไปวิหารอีก"
..แววตาสมเพชของผู้มีชัยได้ชายตามองลงมา
"มันก็มุกเดียวกับที่ชั้นล่อให้น้าออกมานั่นเเหละ ร่างมายา(illusion) ที่น้าเห็นอยู่นะ มันก็ตอนเดียวกับที่น้าเห็นผมอ่านหนังสืออยู่เมื่อวานนั่นเเหละ"
เมื่อเสียงพูดจบ ผู้โดนไล่ต้อนกลับกระโจนหายเข้าไปในกำแพงโรงเรียนโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้
"เหอะ ให้ตายเหอะ อีกสามวินาทีบาเรียหยุดเวลาของมันคงจะหายไปสินะ ต้องรีบกลับไปยืนที่เดิมซะแล้ว"
ลมที่หยุดชะงักได้กลับมาพัดอีกครั้ง
"นี่ ยายมารีด"
"แมรี่ ย๊ะ = =" เจ้าของชื่อตอบคนเรียกด้วยความเอือมระอา
"อ๋อ เหรอ เข้าโรงเรียนกันดีกว่าเดี่ยวสายหรอก"
ในขณะที่เเรน์กำลังพูดอยู่นั้นได้มีมือมือหนึ่งเข้ามาเบิร์ดศีรษะเค้าเต็มแรง
ป๊าปป...เสียงมือกระทบศีรษะเขาอย่างรุนแรง
"แน่จริงก็เข้าแถวก่อนชั้นสิ เจ้าแร่น้อย - +"
แรร์ลูบหัวตัวเองพร้อมพึมพำ"เหอะ ฝากไว้ก่อนนะ ยัยมารีด + +"
พูดจบแรร์ก้วิ่งตามเข้าไปในโรงเรียนทันใด
..เลิกเรียนในตอนเย็น..
..ตอนบ่ายสี่โมงเย็น..แดดส่องรำไรไปตามท้องถนน เสียงผู้คนพลุกพล่านเนื่องจากโรงเรียนพึ่งเลิก..แรร์ได้เดินกลับบ้านเพียงลำพังสวนทางกับผู้คนมากมายที่จอเเจอยู่เต็มถนน
"สวัสดีครับทุกคน..คงสงสัยสินะ ผมคือใคร..ผมก็เเค่เด็กธรรมดาคนหนึ่่งที่สนใจเกี่ยวกับศาสตร์ทางจิตวิทยา..โดยผมได้ทดลองทำสิ่งต่าที่เสริมสร้างให้จิตเเข็งแกร่งตั้งเเต่เด็กๆ..จนวันหนึ่งผมคิดจะศึกษามันอย่างจริงจัง..ทดลองตามตำราที่หาจากที่ต่างๆที่พอจะมีเบาะแส..สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง จนมาเจอร้านหนังสือเฮงซวยที่เจ้าของร้านสุดหน้าโง่นั่นได้พยายามจะหลอกใช้ผมนั่นเเหละ..เเต่ผมรู้ว่าถ้าผมแกล้งโง่ไปก่อนผมจะได้พบกับการก้าวข้ามการใช้พลังจิตในรูปแบบธรรมดาของมนุษย์ทั่วไป..ผมจึงทดลองและยอมลาโรงเรียน 1 อาทิตย์เพื่อไปตามหาวิหารที่แม้แต่สุดยอดดาวเทียมที่จับภาพได้ทุกอย่างไม่สามารถจับได้..ผมได้มันมาและฝึกมัน..ที่ผมใช้จัดการกับเจ้าของร้านหนังสือนะ..นั่นมันก็แค่น้ำย่อยของหนังสือเล่มนี้..ถ้าอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้ทำอะไรได้อีก..ไว้เจอกับผมในตอนหน้านะครับท่านผู้อ่าน..สุดหล่อสุดสวยทุกๆท่านของกระผม..แรร์ วิลสตั้นท์ "
เงียบงำได้ถูกทำลายโดยเสียงฝีเท้า..ในซากวิหารโบราณอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความลึกลับ..
"นี่นะเหรอ ที่ที่ซึ่งเหมาะแก่การจะฝึกของชั้น" ร่างนั้นช้อนตามองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเค้า..
..วิหารเมนทิส (Mentis Cathedral.)
---------------------------------------------------------------
"ห่าวววว"
..เสียงง่วงหาวของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง..ดูภายนอกเเล้วเค้าเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาที่่มีบุคลิกลึกลับน่าค้นหา..ทรงผมสีบรอนที่ไว้ยาวพรางตาด้านซ้ายของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง ใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทำให้ไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าเค้ากำลังคิดหรืออยู่ในอารมณ์ใดๆ
และในขณะที่เค้ากำลังก้าวเข้าโรงเรียนเหมือนที่ทำทุกครั้ง..
..กลับมีเสียงหนึ่งเเทรกขึ้นมา..
"สวัสดีจ้า เเรร์ ^^"
เด็กหนุ่มหันตามไปหาที่มาของเสียงอย่างข้าๆ
"อ้าวว่าไงแมรี่ รองเท้าเธอยังสวยกว่าหน้าเหมือนเดิมเลยนะ ^^" เสียงตอบกลับมาอย่างเป็นมิตรมากมาย(?)จากผู้โดนทักทาย
"จ้า สุนัขในปากของนายก็ยังอยู่ครบสินะ แถมสุขภาพยังเเข็งเเรงดีเหมือนเดิมเลยใช่มั้ย? - +"
"อืมม..อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันเเฮะ ว่างๆก็พาไปหาหมอให้หน่อยดิ รู้สึกจะคุยกะสุนัขรู้เรื่องไม่ใช่เหรอ เธอพาไปน่าจะง่ายกว่าฉันพาไปนะ O^O"
..ในขณะที่บทต่อล้อต่อเถียงของคนสองคนกำลังดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันขิงก็ราข่าก็เเรงนั้นเอง..
..สภาพของเวลาเหมือนกำลังถูกหยุดไป..ทุกอย่าง ณ อาณาบริเวณนั้นกลับเหมือนหยุดนิ่งไหวติงไม่เคลื่อนไหว..ซึ่ง..เเม้เเต่สายลมที่เคยพัดกลับ
หยุดอยู่จนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง..ในขณะที่ร่างๆหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับคำพูดของร่างนั้น
"มันช่างง่ายดายอะไรเช่นนี้ คัมภีย์ที่โดนเจ้าเด็กนี้จิ๊กไปจากวิหาร ฉันคนนี้ขอรับไปต่อก็เเล้วกันนะ"
ในขณะที่มือของบุคคลลึกลับกำลังจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเเรน์นั้น..
เค้ากลับพบลำแสงพุ่งเข้าหาตนเองอย่างรวดเร็ว..
..บุคคลลึกลับถึงกลับต้องดีดตัว..เพื่อหลบลำแสงนั้นให้ทันถ่วงทีก่อนที่มันจะตัดลำตัวของเค้าให้กลายเป็นสองท่อน
"บ้าฉิบ! ใครวะ เจ้าเด็กนี่มีพวกพ้องด้วยงั้นรึ "ร่างนั้นพ่นคำสบถออกมา
"พวกพ้องบ้าบอคอแตกอะไรกันน้า"
เสียงของคนๆนั้นดังขึ้นมา
และ..เมื่อบุคคลซึ่่งเกือบจะโดนลำแสงฆ่าตายหันกลับไปยังต้นตอของลำแสง..
..กลับพบเด็กหนุ่มคนเดียวกันที่เขาจะแย่งคัมภีย์กำลังล้วงกระเป๋ายืนอยู่อีกฝากหนึ่ง..
เขาแทบสิ้นสติไปในพริบตา!!
"นี่..แกรู้ตัวได้ยังไง"
"ก็ไม่อยากหรอก ชั้นรู้ตั้งเเต่ตอนแกตามชั้นไปที่วิหารแล้วละ"
..บุคคลลึกลับที่โดนอีกฝ่ายรู้ตัวตนเข้าอย่างจังถึงกับอึ้ง..
"เจ้าของร้านหนังสือเฮงซวยที่พยายามตามหาวิหารมาทั้งชีวิต..เเต่กลับหามันไม่พบเลยคิดจะหลอกใช้เด็กที่สนใจเรื่องนี้เข้าด้วย เเถมยังไปได้สวยเพราะเด็กคนนั้นกลับค้นหามันพบซินะ"
"งั้นแกรู้ตัวได้ยังไงว่าชั้นมาถึงแล้ว"
เด็กหนุ่มผู้ซึ่งถือไพ่เหนือกว่าไว้ในมือ..ได้เผยรอยยื้มมุมปากออกมา..
"น้าไม่สังเกตหรอกเหรอ ตามเสาไฟฟ้าตามทาง ผมได้ทำสัญลักษณ์จับข่ายการใช้จิตที่สูงเกินกว่าปกติไว้นะ"
ผู้ที่มาเพื่อไล่ล่าได้หันกลับไปมองยังเสาร์ไฟฟ้าต้นต่างๆที่เรียงรายอยู่ข้างถนน ทำให้เขาเข้าใจชัดเจนว่า บัดนี้ เขาได้กลายเป็นผู้ถูกล่าไปเเล้ว
"แล้วพลังของน้า คือการหยุดยั้งเวลาใช่มั้ยละ ใช้พลังยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เปลืองจิตแย่เลยเนอะ เลยทำได้เพียงเเค่พื้นที่จำกัด"
..เสียงกัดฟันของผู้ที่โดนซ้อนแผนดังเป้นจังหวะๆ
"เป็นไปไม่ได้..แกจะมาทำสัญลักษณ์นี้ตอนไหน ในเมื่อชั้นสะกดรอยตามแกทุกฝีก้าวตลอดก่อนหน้าที่แกจะไปวิหารอีก"
..แววตาสมเพชของผู้มีชัยได้ชายตามองลงมา
"มันก็มุกเดียวกับที่ชั้นล่อให้น้าออกมานั่นเเหละ ร่างมายา(illusion) ที่น้าเห็นอยู่นะ มันก็ตอนเดียวกับที่น้าเห็นผมอ่านหนังสืออยู่เมื่อวานนั่นเเหละ"
เมื่อเสียงพูดจบ ผู้โดนไล่ต้อนกลับกระโจนหายเข้าไปในกำแพงโรงเรียนโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้
"เหอะ ให้ตายเหอะ อีกสามวินาทีบาเรียหยุดเวลาของมันคงจะหายไปสินะ ต้องรีบกลับไปยืนที่เดิมซะแล้ว"
ลมที่หยุดชะงักได้กลับมาพัดอีกครั้ง
"นี่ ยายมารีด"
"แมรี่ ย๊ะ = =" เจ้าของชื่อตอบคนเรียกด้วยความเอือมระอา
"อ๋อ เหรอ เข้าโรงเรียนกันดีกว่าเดี่ยวสายหรอก"
ในขณะที่เเรน์กำลังพูดอยู่นั้นได้มีมือมือหนึ่งเข้ามาเบิร์ดศีรษะเค้าเต็มแรง
ป๊าปป...เสียงมือกระทบศีรษะเขาอย่างรุนแรง
"แน่จริงก็เข้าแถวก่อนชั้นสิ เจ้าแร่น้อย - +"
แรร์ลูบหัวตัวเองพร้อมพึมพำ"เหอะ ฝากไว้ก่อนนะ ยัยมารีด + +"
พูดจบแรร์ก้วิ่งตามเข้าไปในโรงเรียนทันใด
---------------------------------------------------------------
..เลิกเรียนในตอนเย็น..
..ตอนบ่ายสี่โมงเย็น..แดดส่องรำไรไปตามท้องถนน เสียงผู้คนพลุกพล่านเนื่องจากโรงเรียนพึ่งเลิก..แรร์ได้เดินกลับบ้านเพียงลำพังสวนทางกับผู้คนมากมายที่จอเเจอยู่เต็มถนน
"สวัสดีครับทุกคน..คงสงสัยสินะ ผมคือใคร..ผมก็เเค่เด็กธรรมดาคนหนึ่่งที่สนใจเกี่ยวกับศาสตร์ทางจิตวิทยา..โดยผมได้ทดลองทำสิ่งต่าที่เสริมสร้างให้จิตเเข็งแกร่งตั้งเเต่เด็กๆ..จนวันหนึ่งผมคิดจะศึกษามันอย่างจริงจัง..ทดลองตามตำราที่หาจากที่ต่างๆที่พอจะมีเบาะแส..สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง จนมาเจอร้านหนังสือเฮงซวยที่เจ้าของร้านสุดหน้าโง่นั่นได้พยายามจะหลอกใช้ผมนั่นเเหละ..เเต่ผมรู้ว่าถ้าผมแกล้งโง่ไปก่อนผมจะได้พบกับการก้าวข้ามการใช้พลังจิตในรูปแบบธรรมดาของมนุษย์ทั่วไป..ผมจึงทดลองและยอมลาโรงเรียน 1 อาทิตย์เพื่อไปตามหาวิหารที่แม้แต่สุดยอดดาวเทียมที่จับภาพได้ทุกอย่างไม่สามารถจับได้..ผมได้มันมาและฝึกมัน..ที่ผมใช้จัดการกับเจ้าของร้านหนังสือนะ..นั่นมันก็แค่น้ำย่อยของหนังสือเล่มนี้..ถ้าอยากรู้ว่าหนังสือเล่มนี้ทำอะไรได้อีก..ไว้เจอกับผมในตอนหน้านะครับท่านผู้อ่าน..สุดหล่อสุดสวยทุกๆท่านของกระผม..แรร์ วิลสตั้นท์ "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
1ความคิดเห็น