ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNK fanfiction] Wind Beneath My Wings (Erwin x Levi)

    ลำดับตอนที่ #2 : 2000 nights [AU]

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 58


     

    Authors: Pichi + Sarenai

    Talk : ฟิคสดที่เกิดจากการโรลกับเพื่อนในทวิตเตอร์ค่ะ //มโนล้วนๆ ไม่มีสิ่งใดเจือปน

     

     

    จินนี่” นิทานปรัมปราที่เล่าถึงยักษ์ในตะเกียงวิเศษณ์ที่สามารถบันดาลความปรารถนาให้แก่ผู้เป็นเจ้านายได้ 3 ประการ หากแต่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าตำนานนี้อยู่จริง และแสวงหาตะเกียงวิเศษณ์นั้นมาครอบครอง

     

    คืนที่ 1

     

    Genie : กว่า 2000 ราตรีที่อยู่ในตะเกียง ทำได้เพียงอ่านตำราและเฝ้ามองโลกภายนอกผ่านลูกแก้วไม่เคยได้ออกไปจากตะเกียงวิเศษณ์ จนกว่า "เจ้านาย" จะปรากฏตัว

    Genie : เมื่อตะเกียงโบราณที่ประดับอยู่ในพิพิธภัณฑ์ถูกขโมย แต่เกิดหล่นหายระหว่างทางที่โจรหนีการจับกุม จนกระทั่งได้มีคนๆหนึ่งไปเก็บมันมา

    Sahib : ค่ำคืนที่มืดมิด มีเพียงร่างสูงที่พิจารณาวัตถุตรงหน้าที่ส่องประกายเงางามน่าสัมผัส ราวกับดึงดูดให้เขานำมันกลับมา...

    Genie : ร่างที่อยู่ในตะเกียงรับรู้ว่าตนถูกโจรขโมยมา และคนที่อยู่ภายนอกก็กำลังจะพาตะเกียงวิเศษณ์นี้ไปที่ไหนสักแห่ง

    Sahib : เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือ เขาหยิบผ้าผืนบางมาห่อวัตถุงดงามนั้นอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเดินทางกลับสู่คฤหาสน์ที่งดงาม

    Genie : มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทางลูกแก้ว ภายนอกตะเกียงนั้นสกปรกพอสมควรจากการที่มันไปตกอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยดินและฝุ่น

    Sahib : ไม่เข้าใจการกระทำของตนเองเท่าที่ควร ก้าวอย่างมั่นคงผ่านซุ้มประตูและเดินตรงสู่ห้องของตน ยกมือให้นางกำนัลออกจากห้องนอนไปก่อน

    Genie : ดวงตาสีรัตติกาลยังจ้องมองลูกแก้วเพื่อดูว่าชายผู้นี้จะทำอย่างไรกับตะเกียงวิเศษณ์

    Sahib : วางตะเกียงลงบนโต๊ะก่อนจะแกะห่อผ้าออกมา "ทำไม... ข้าถึงทำอะไรแบบนี้กัน...?"

    Genie : ใช้นิ้วร่ายมนต์ให้มองภาพจากลูกแก้วชัดเจนขึ้นจนเห็นใบหน้าภายนอกตะเกียงนั้น ชายผมทองรูปร่างสูงใหญ่ และมีดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้า

    Sahib : เอื้อมมือไปหยิบตะเกียงขึ้นมาพิจารณาใกล้ ๆ ก่อนจะใช้ผ้าที่ห่อมาขัดถูบริเวณที่สกปรกจากฝุ่นดินเมื่อซักครู่

    Genie : ภายในตะเกียงปรากฏแสงสว่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแสนนาน แต่ร่างเล็กรับรู้ได้ว่าถึงเวลาที่ตนจะได้ออกไปทำหน้าที่ของ 'จินนี่' แล้ว

    Sahib : ตกใจเล็กน้อยกับแสงวาบที่ส่องสว่างขึ้นมาจากปลายตะเกียง ลางสังหรณ์บอกถึงอะไรบางอย่างที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ

    Genie : ควันค่อยๆลอยออกมาจากตะเกียง และมีแสงสว่างลุกวาบก่อนจะปรากฏร่างเล็กผมสีดำสวมชุดที่คล้ายกับนางรำมาอยู่ตรงหน้าชายผู้นั้น

    Sahib : เพ่งมองร่างเพรียวตรงหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันจากอากาศธาตุ "เธอ... เป็นใครมาจากไหนกัน...?" พยายามตั้งสติ

    Genie : "ข้าคือจินนี่ในตะเกียงวิเศษณ์ ท่านได้ปลดปล่อยข้าออกมาจากตะเกียงใบนั้น ข้าจะบันดาลความปรารถนาให้ท่านสามสิ่ง ท่านต้องการสิ่งใดนายข้า?"

    Sahib : "...ถ้าขอครบสามสิ่งแล้วจะเป็นอย่างไรต่อรึ?" ตกตะลึงในความงามของร่างตรงหน้าแต่ยังคงสติไว้

    Genie : "เมื่อนายท่านสมปรารถนาทั้งสามข้อแล้ว ข้าก็จะกลับเข้าไปในตะเกียงวิเศษณ์ของข้าตามเดิม"

    Sahib : "ถ้าหากว่า ไม่ขอพร เจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไปหรือเปล่า ?"

    Genie : ทำสีหน้าแปลกใจแต่ยังดูนิ่งในสายตาเจ้านายคนใหม่ "นายท่านต้องการให้ข้าอยู่รับใช้ท่านตลอดไปงั้นหรือ?"

    Sahib : "รับใช้งั้นรึ ข้ามีนางกำนัลนับไม่ถ้วน คงไม่ต้องการให้เจ้ารับใช้เสียเท่าไหร่... แต่อยากให้อยู่ใกล้ ๆ ตัวมากกว่า" ยกยิ้ม

    Genie : มุ่นคิ้วกับท่าทางนั้นแต่ยังทำหน้าที่ของตัวเองต่อ "ถ้าอย่างนั้นทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาล่ะ ข้าสามารถเสกให้ท่านได้นะ"

    Sahib : "อืม... พวกนั้นข้าก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ที่มีอยู่แล้วก็พอกินพอใช้" พูดพลางเพ่งใบหน้าคมคายของอีกคนที่กำลังเริ่มมุ่นคิ้ว

    Genie : รู้สึกเหมือนกำลังถูกสายตาคู่นั้นจับจ้อง "...ไม่มีอะไรที่ท่านต้องการเลยหรือ?"

    Sahib : "อาจจะฟังดูโง่เขลา แต่ตอนนี้สิ่งที่ข้าสนใจมีเพียงใบหน้าของเจ้า เจ้าเป็นชายแน่รึ ?"

    Genie : "ข้าเป็นชายเช่นเดียวกับนายท่าน ท่านสงสัยอะไรงั้นรึ?" น้ำเสียงขุ่นเล็กน้อย

    Sahib : "ถ้าข้าบอกตามตรงว่า ข้ามองเจ้าแล้วรู้สึกลุ่มหลง จะดูน่ารังเกียจเกินไปหรือไม่?"

    Genie : "นายท่านว่าอะไรนะ?" ประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยินชัดเจนแต่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก

    Sahib : มองใบหน้าที่ดูฉงนใจแล้วรู้สึกขบขัน "แล้วเจ้าคิดว่าเวลาที่มองหน้าข้า เจ้ารู้สึกเช่นไร?" หรี่ตามองดวงตาเรียวสีนิลนั้น

    Genie : "ก็...รูปงาม หญิงสาวคนใดเห็นท่านคงไม่อาจละสายตาไปได้" ปากเอ่ยชมแต่น้ำเสียงติดจะแข็งกระด้างเล็กๆ

    Sahib : "แล้วเจ้ารู้สึกเหมือนหญิงสาวเหล่านั้นหรือไม่กันล่ะ" หัวเราะเบากับท่าทีเฉยชาของอีกฝ่าย

    Genie : "ข้าก็รู้สึก...ล่ะมั้ง" เสียงเบาในท้ายประโยค เบะปากเล็กน้อยภายใต้ผ้าปิดหน้าและเบี่ยงสายตาหลบไม่สบมองดวงตาสีฟ้าตรงๆ

    Sahib : "ข้าควรเรียกเจ้าว่าอะไรดี หืม?"

    Genie : "ข้าได้บอกนายท่านไปแล้วว่าข้าคือจินนี่"

    Sahib : "แต่จินนี่ก็ต้องมีนามเก่าไม่ใช่หรือ ... เข้ามาใกล้ ๆ ข้าทีสิ"

    Genie : เดินเข้าไปใกล้ๆตามที่ผู้เป็นเจ้านายสั่ง "ข้าชื่อรีไวล์"

    Sahib : "เป็นชื่อที่ดี" เว้นที่ให้อีกฝ่ายนั่งข้างๆ "แล้วเจ้าอยู่ในนั้นมานานเท่าไหร่แล้วรึ?"

    Genie : "ข้าอยู่ในนั้นมากว่า 2000 ปีแล้วนายท่าน" มองปฏิกิริยาตกใจไม่น้อยของอีกฝ่ายแล้วลอบขำ

    Sahib : "ข้าต้องเรียกเจ้าเป็นพี่หรือเปล่า?" เอ่ยขึ้ยอย่างขบขันกลบเกลื่อนความตกใจ

    Genie : "นายท่านเรียกข้าแค่รีไวล์ก็พอแล้ว" มองคนที่เหงื่อตกก่อนจะใช้นิ้วปาดเหงื่อที่ไรผมข้างๆหน้าผากอย่างเบามือ

    Sahib : ใบหน้าสัมผัสมือนุ่มนั้น "รีไวล์ ... อืม ถ้านี่ไม่ใช่ความฝัน ข้าคงเป็นคนที่โชคดีสินะ"

    Genie : "ใช่ แต่ท่านกำลังจะปล่อยให้โชคดีนั้นหลุดไปเพราะว่าท่านไม่ยอมขอพรอะไรจากข้า"

    Sahib : "ไม่หรอก ข้าไม่คิดว่าพรสามข้อนั้นคือโชค ข้าได้เจอยักษ์ในตะเกียงรูปงามต่างหาก นั่นคือสิ่งที่น่ายินดี"

    Genie : "...ข้าคงไม่งามเท่าเหล่านางกำนัลของนายท่านหรอก" ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อแต่ผ้าคลุมปิดหน้าได้ช่วยพรางเอาไว้

    Sahib : "หรือเพราะข้าเป็นมนุษย์ที่อยู่แต่ในคฤหาสน์ ถึงไม่เคยเห็นผู้ที่น่าดึงดูดเช่นนี้" มือเอื้อมไปหวังจะปลดผ้าคลุมหน้าผืนบางออก

    Genie : "นายท่าน!" ยกมือบังเมื่อผ้าคลุมหน้าหลุดออก

    Sahib : "หรือมีกฎว่าถ้าถอดผ้าคลุมแล้วเจ้าจะหายตัวไป หืม ?"

    Genie : "เปล่า เพียงแต่ข้า...ไม่ทันตั้งตัว" หลบดวงตาคู่สีฟ้าที่จดจ้องมองมา

    Sahib : "ถ้าเช่นนั้นข้าขออภัยที่ทำให้เจ้าตกใจ"

    Genie : ติดผ้าคลุมหน้าเหมือนเดิมแต่อีกคนก็ได้เห็นใบหน้าเต็มภายใต้ผ้าปิดหน้าของตนไปครู่หนึ่งแล้ว

    Sahib : "ถ้าข้าขอพรแล้ว เจ้ากลับเข้าไปในตะเกียงคงเป็นเรื่องน่าเศร้า" เปรยขึ้นเบาๆ

    Genie : "ดูท่าท่านคงไม่คิดจะขอสิ่งใด แต่ข้าคงต้องบอกนายท่านไว้ก่อนว่าข้าจะอยู่ข้างนอกนี่ได้เพียงแค่เจ็ดราตรีและจะต้องกลับเข้าไปในตะเกียง"

    Sahib : "ข้าสามารถขอพรให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้าเช่นนี้ได้หรือไม่ และข้าจะปล่อยเจ้าไปเมื่อถึงเวลาอันสมควร"

    Genie : "นั่นคือความปรารถนาของนายท่านเช่นนั้นหรือ?"

    Sahib : "ถ้าข้าต้องการ เจ้าคงจะสามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่จะทำให้จินนี่อย่างเจ้ากังวลหรือเปล่า ที่จะมาอยู่กับมนุษย์เช่นข้า"

    Genie : "ไม่มีสิ่งใดสำหรับจินนี่ที่จะน่ายินดีไปกว่าการที่เจ้านายได้ขอให้ข้ารับใช้เช่นข้าอยู่เคียงข้างอีกแล้วนายท่าน"

    Sahib : "ถ้าเช่นนั้น ข้าขอพรข้อที่หนึ่ง ขอให้เจ้า อยู่เคียงข้างตัวข้าจนถึงวันที่ข้าจะเอ่ยด้วยปากตนเองว่าจะปล่อยเจ้าไป"

    Genie : มองตาสีฟ้าที่จริงจังกับเสียงทุ้มที่เอ่ยความปรารถนาแรกออกมาก่อนจะเริ่มร่ายมนต์ "คำขอนั้นของท่านได้ตามที่ประสงค์แล้วนายท่าน"

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    คืนที่ 2

    Genie : ตื่นนอนและลุกขึ้นจากที่นอนของตนที่อยู่ในตะเกียง ก่อนจะออกมาข้างนอกเพื่อปลุกนายท่าน

    Sahib : นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนุ่ม

    Genie : "นายท่าน ตื่นเถอะ ตะวันตรงหัวแล้วนะ" เขย่าตัวเจ้านายที่ยังคงนอนหลับสนิทและเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น

    Sahib : แสร้งทำเป็นหลับตาและคว้าชายผ้าคลุมผืนบางของอีกคนไว้

    Genie : "ขี้เซาจริงๆนายท่าน" พยายามกระตุกดึงชายผ้าคลุมของตัวเองให้หลุดออกแต่ไม่เป็นผล จึงต้องเปลี่ยนไปพยายามแกะมือข้างนั้นออกแทน

    Sahib : คว้ามือนั้นไว้และกุมแน่น ครางในลำคออย่างงัวเงียเล็กน้อย

    Genie : "นายท่าน ข้ารู้แล้วนะว่าท่านแกล้งหลับ" ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพยายามแกะมือที่จับไม่ปล่อยนั้นออก

    Sahib : ถอนใจ "แต่มือของเจ้านุ่มกว่าที่คิดนะ รีไวล์"

    Genie : "มือของจินนี่ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละนายท่าน" สัมผัสมือของผู้เป็นเจ้านายที่ทั้งใหญ่และหยาบกระด้างกว่า

    Sahib : "ข้าคงต้องตื่น... และไปอาบน้ำสินะ" แสร้งทำเสียงงัวเงียก่อนจะลุกขึ้นมาช้า ๆ

    Genie : "เดี๋ยวข้าจะเรียกพวกนางกำนัลให้มาช่วยอาบน้ำให้นายท่านนะ" หันไปทางประตูที่มีเหล่าหญิงสาวรับใช้ยืนรออยู่

    Sahib : ยกมือขึ้นมาห้ามช้า ๆ ก่อนจะยิ้มอย่างมีนัยยะ "ข้าว่ามีวิธีอื่นที่น่าสนใจกว่า"

    Genie : "อะไรหรือนายท่าน?" มองด้วยสีหน้าอยากรู้นิดๆ

    Sahib : "เจ้านั่นล่ะ มาช่วยข้าอาบ" ขยับตัวลงจากเตียงและเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำ

    Genie : "หา? เดี๋ยว... นายท่าน!" เดินตามไปยังห้องอาบน้ำพลางทำหน้าสงสัยไปตลอดระหว่างที่เดิน

    Sahib : หยุดยืนที่ประตูทางเข้าห้องอาบน้ำ ถอดเสื้อคลุมที่ใส่นอนลงบนพื้นเผยเรือนร่างแกร่งก่อนที่จะเดินเข้าไป

    Genie : ยืนตะลึงและเผลอจ้องร่างกายกำยำชวนมองที่ค่อยๆทอดกายลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และกว้างขวาง

    Sahib : "ช่วยราดน้ำให้ข้าได้ไหม?" หันมามองคนที่ยืนลังเลอยู่ที่ขอบประตู

    Genie : "ตามบัญชานายท่าน" ปลดผ้าคลุมและผ้าปิดหน้าออกก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงไปในอ่างเพื่อชำระล้างร่างกายให้ผู้เป็นเจ้านาย

    Sahib : มองเรือนร่างบางภายใต้ผ้าที่เปียกน้ำ "ก่อนหน้านี้... เจ้าเคยมีนายครั้งล่าสุดเมื่อกี่ปีมาแล้วน่ะ ?"

    Genie : "สองพันปีก่อนข้าคอยรับใช้เจ้านายมาแล้วหลายคน แต่คนล่าสุดก่อนหน้าท่าน เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดที่ข้าเคยรับใช้"

    Sahib : "อย่างนั้นรึ..." ขยับตัวลงแช่อีกครั้ง "แล้วเหตุใดถึง.. อยู่ตรงนั้นได้ล่ะ หมายถึงที่ ๆ ข้าเจอเจ้าเมื่อคืน"

    Genie : "ตะเกียงวิเศษณ์ของข้า มันถูกขโมยออกมาจากที่ที่ข้าถูกเก็บซ่อนเอาไว้ และท่านก็บังเอิญเก็บมันกลับมา"

    Sahib : "แล้วเจ้าอยากกลับไปหาเจ้านายคนก่อนหรือเปล่า?" แสร้งถามลองเชิง

    Genie : "ตอนนี้เจ้านายของข้ามีแต่นายท่านเท่านั้น" เอ่ยจบก่อนจะพรมน้ำน้ำลงไปบนตัวและเริ่มขัดตัวให้

    Sahib : "ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ดี.. ข้ามักสนใจปัจจุบันมากกว่าอดีต"

    Genie : "ว่าแต่ว่านายท่าน พรข้อที่สองท่านคิดรึยังว่าจะขออะไร?" ราดน้ำชำระล้างจนผิวกายสะอาด

    Sahib : "ข้ามีสิ่งที่ต้องการมากมาย จนไม่รู้ว่าควรปรารถนาสิ่งใด" เงยหน้ามองเพดานโอ่โถงและเอนกายอย่างสบายใจ

    Genie : "งั้นหรือ ข้าหลงคิดว่าท่านคิดไม่ออกซะอีก เมื่อคืนเห็นทำท่าไม่อยากจะขออะไรเลย"

    Sahib : "ตอนนี้ข้ามีสิ่งที่ข้าสนใจที่สุดอยู่ตรงหน้าแล้ว ก็เลยไม่อยากจะขออะไรอีก" หันมามองจินนี่ที่อยู่ข้างกาย

    Genie : หันมองซ้ายขวาก่อนจะรู้ตัวว่าเป็นตนที่ถูกดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจ้องมองมา "...ข้าอาบน้ำให้ท่านเสร็จแล้ว ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนนะ"

    Sahib : ยกยิ้มพลางหลับตาลงช้า ๆ "รอข้าที่ห้องนอน ข้าจะแช่น้ำอีกครู่"

    Genie : "รับทราบ นายท่าน" ปีนขึ้นจากอ่างคว้าหยิบผ้าคลุมของตนก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบร้อนออกไปจากห้องอาบน้ำ

    Sahib : ยิ้มบางพลางฟังเสียงฝีเท้าที่ดูรีบเร่งออกจากห้องน้ำไป "อืม.. เจ้านายเก่างั้นรึ.. หนุ่มน้อยผู้โชคร้ายคนนั้นท่าจะเสียใจไม่น้อย

    Genie : แต่งตัวเสร็จและใช้มนต์ทำให้ตัวแห้งเร็ว มองสภาพห้องนอนของเจ้านายที่ดูเป็นระเบียบแต่ยังไม่ถูกใจตนนักจึงร่ายมนต์จัดระเบียบซะใหม่

    Sahib : เรียกผู้รับใช้ที่ซ่อนกายอยู่ให้ออกสืบหารายชื่อหัวขโมยที่โดนจับเมื่อไม่นาน ก่อนจะคลุมกายด้วยอาภรณ์เรียบง่ายและออกจากห้องน้ำ

    Genie : "แช่น้ำนานจริงๆนายท่าน ท่านเผลอหลับในห้องน้ำรึ?"

    Sahib : "ข้าเกือบจะเผลอหลับไป..." มองซ้ายขวาและรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในห้อง "ว่าแต่เจ้าทำอะไรกับห้องหรือเปล่า ?"

    Genie : "ข้าเห็นว่ามันดูรกไปหน่อยก็เลยจัดห้องให้ท่านใหม่ แต่หากนายท่านไม่ชอบข้าจะเสกให้เป็นเหมือนเดิมก็ได้" ยกมือขึ้นเตรียมจะเสกอีกครั้ง

    Sahib : "อา.. ไม่ต้องหรอก เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเหมือนกัน" เดินตรงไปนั่งที่โซฟาพลางมองรอบๆ

    Genie : เดินเข้ามาและย่อตัวนั่งลงข้างๆ "ข้าเพิ่งนึกได้ว่าข้ายังไม่รู้ชื่อของนายท่านเลย"

    Sahib : "เอลวิน คือนามของข้า"

    Genie : "นายท่านเอลวิน ท่านอยู่คนเดียวกับพวกข้ารับใช้หรือ ครอบครัวของท่านล่ะ?"

    Sahib : "ชีวิตที่ดำรงอยู่ขนานกับกฎหมาย ไม่ควรลากคนใกล้ตัวมาเกี่ยวข้องหรอก"

    Genie : "นายท่านทำอะไรหรือ?"

    Sahib : "หน่วยงานลับที่อยู่เหนือกฎหมายของสุลต่าน" พูดเสียงเบาลง

    Genie : ลอบถอนหายใจเล็กน้อย "โล่งใจหน่อย ข้านึกว่านายท่านจะเป็นพวกทำงานผิดกฎหมายเสียอีก"

    Sahib : "ทำไมรึ ? ถ้าเช่นนั้นแล้วจะทำให้เจ้าลำบากใจรึ?" ยิ้มขบขัน

    Genie : "ใช่ เพราะข้าเคยมีเจ้านายที่ทำงานผิดกฎหมายมาก่อน และข้าก็เคยใช้เวทมนต์ช่วยเขาทำเรื่องเลวร้ายด้วย..."

    Sahib : "ไม่ต้องห่วง.. เรื่องงานข้าสามารถจัดการเองได้ และจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ"

    Genie : แอบหวั่นไหวไปกับดวงตาสีฟ้าที่มองมาอย่างอบอุ่น "หรือว่า...ที่นายท่านอยู่คนเดียวเป็นเพราะว่าท่านทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้?"

    Sahib : "ข้าไม่ต้องการให้ใครลำบากเพราะข้าเสียเท่าไหร่ เลยไม่อยากอยู่กับคนใกล้ชิดหรือครอบครัว" ถอนใจเบาๆ

    Genie : จับมือของเจ้านายหนุ่มและกุมเอาไว้ "นายท่าน ข้าขอสาบาน ข้าจะอยู่กับท่าน จนกว่าจะถึงวันที่ท่านไม่ต้องการข้า"

    Sahib : ยิ้มบาง "ขอให้นั่นเป็นความต้องการ หาใช่ความสงสาร ถ้าเช่นนั้นข้าขอขอบใจ" กุมมืออีกคนไว้

    Genie : "ขอบคุณนายท่านเอลวิน" ยิ้มเบาๆให้กับเจ้านาย "นายท่านหิวหรือยัง?"

    Sahib : "อา.. ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องจริงด้วย... เดี๋ยวข้าเรียกให้นางกำนัลยกมาให้ แล้วเจ้าทานอะไรไหม ?"

    Genie : ส่ายหน้าเล็กน้อย "ไม่เป็นไรหรอก ข้าอยู่ได้โดยไม่ต้องดื่มกินอะไรเลย"

    Sahib : "สะดวกดีเหมือนกันนะ" เรียกนางกำนัลที่อยู่ด้านนอกให้ยกอาหารเช้าเข้ามา "ทุกครั้งข้าไม่ชอบอยู่ในห้อง แต่วันนี้รู้สึกพิเศษกว่าปกติ"

    Genie : "พิเศษยังไงหรือนายท่าน?" มองอาหารมากมายที่ถูกยกมาวางตรงหน้าชวนให้ละลานตาไปหมด

    Sahib : "มีใครที่ข้ารู้สึกสนใจและอยากนั่งมองตลอดเวลา" เลือกรับประทานอาหารทีละอย่าง

    Genie : "พูดแบบนี้อีกแล้ว เป็นเจ้านายที่ประหลาดจริงๆ" //หันหน้าหลบไปแอบพูดเบาๆ

    Sahib : "ข้ามีอะไรที่ทำให้เจ้าแปลกใจได้มากกว่านี้ เตรียมใจไว้ได้เลยรีไวล์"

    Genie : "ข้าจะรอดูนะนายท่านเอลวิน" เอ่ยอย่างท้าทายกลับไปและลอบยิ้มนิดๆ

    Sahib : รับประทานอาหารเรื่อยๆจนอิ่มแล้วจึงเรียกนางกำนัลมาเก็บสำรับ "วันนี้เป็นวันพักผ่อน เจ้ามีอะไรเสนอหรือไม่ว่าข้าควรทำอะไรดี?"

    Genie : ทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา "นายท่านอยากลองนั่งพรมวิเศษดูมั้ย?"

    Sahib : "หืม ? นั่งได้รึ" แปลกใจก่อนจะทำสีหน้านึกขึ้นได้ "อา... แต่จินนี่ในตำนานยังอยู่ตรงหน้าข้า แค่พรมบินได้จะประหลาดใจทำไม จริงไหม"

    Genie : "เป็นอันตกลงนะนายท่าน" เสกพรมวิเศษให้ออกมา พรมผืนใหญ่ขยับลอยอยู่กลางอากาศ

    Sahib : “น่าสนใจ” มองอย่างตกตะลึงเล็กน้อย ทุกครั้งข้าไม่นิยมความตื่นเต้นเสียเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงต้องลองดู”

    Genie : กระโดดขึ้นไปบนพรมก่อนจะยื่นมือส่งให้ผู้เป็นนาย ขึ้นมาสินายท่าน”

    Sahib : จับมือนั้นไว้และปีนขึ้นไปนั่งบนพรมที่ลอยอยู่บนอากาศ แล้วผู้คนจะไม่แตกตื่นหรือ ? ถ้าพวกเขาเห็นเรา”

    Genie : “ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก” เสกมนต์ร่ายให้ทั้งตัวเองและเจ้านายล่องหนก่อนจะพาบินออกไปทางหน้าต่าง

    Sahib : มองทิวทัศน์เบื้องล่างก่อนจะขยับกายเข้าใกล้ผู้บังคับพาหนะ เมืองหลวงที่มองจากด้านบน ...” ยิ้มบางกับความงามที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    Genie : “ทำแบบนี้สนุกกว่านะ” บังคับพรมวิเศษให้บินโฉบไปข้างล่าง บ้างก็พัดข้าวของปลิวเหมือนโดนลมแรงพัด

    Sahib : “โอ้ว.. เจ้าดูเพลิดเพลินดีนะ” พูดเคล้าเสียงหัวเราะ

    Genie : “อ่า...คงเพราะข้าไม่ได้ออกมาข้างนอกนานมากแล้วก็เลยเผลอไปหน่อย” หันไปมองทางข้างหน้า

    Sahib : “เอาสิ ข้าไม่ได้กล่าวโทษอะไร ข้าก็ชอบมองเจ้าเวลาที่ยิ้ม” ลอบมองใบหน้าอีกคน

    Genie : “แต่ข้าไม่ค่อยชอบยิ้มสักเท่าไหร่”

    Sahib : “ยิ่งเป็นโอกาสที่หายาก ยิ่งน่าชมมากขึ้น” เรือนผมสีทองปลิวลู่ไปตามลมเย็นสบาย*

    Genie : แอบมองเจ้านายจากด้านหลังเล็กน้อย นายท่านอยากไปที่ไหนรึเปล่า? ข้าจะได้พาท่านไป”

    Sahib : “ไม่มีเป็นพิเศษ แค่ข้าได้ขึ้นมาอยู่บนนี้ก็เกินคาดแล้ว อืม.. แล้วเจ้ามีที่ ๆ อยากไปหรือเปล่า?”

    Genie : “ข้าอยากไปทะเล...ได้ไหม?”

    Sahib : “เอาสิ ข้าก็ไม่ได้เห็นทะเลมานานแล้วเหมือนกัน”

    Genie : สั่งให้พรมข้ามเมืองไปยังชายฝั่งที่อยู่ไกลออกไป จนเริ่มมองเห็นชายทะเลและได้ยินเสียงคลื่น ก่อนจะสั่งให้พรมร่อนลงที่พื้นชายหาด

    Sahib : ค่อย ๆ ก้าวลงจากพรม ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นทรายเนื้อละเอียดสวยงาม เงยหน้าขึ้นสัมผัสกลิ่นอายทะเลตรงหน้า

    Genie : ปลดผ้าคลุมหน้าออกเพื่อสูดกลิ่นอายทะเลให้เต็มปอด และก้าวไปยืนให้น้ำทะเลซัดสาดสัมผัสเท้าทั้งคู่

    Sahib : มองร่างบางก่อนที่จะเดินไปทำตามบ้าง "เจ้า... ชอบทะเลงั้นรึ ?"

    Genie : พยักหน้าและยิ้มให้เล็กๆก่อนจะหันไปมองท้องทะเลสีคราม "ข้าชอบทะเล ภูเขา และทุกๆอย่างในโลกที่อยู่ภายนอกตะเกียง"

    Sahib : "ถ้านั่นทำให้เจ้ามีความสุข ข้าก็ปรารถนาที่จะออกมาท่องเที่ยวแบบนี้อีกบ่อย ๆ" ยิ้มให้กับคลื่นทะเลที่กระทบผิวให้ความรู้สึกเย็นสบาย

    Genie : หันไปมองหน้าผู้เป็นนายด้วยดวงตาที่มีประกายแสง ก่อนจะดึงมือของเจ้านายหนุ่มลากลงไปในน้ำบริเวณที่ลึกขึ้น

    Sahib : สาวเท้าตามอีกฝ่ายไปยังผืนน้ำสีฟ้าใสเบื้องหน้า มือกร้านกุมมือเรียวไว้กระชับ

    Genie : "นายท่านว่ายน้ำเป็นรึเปล่า? ข้าจะพาท่านดำลงไปใต้ทะเล" เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

    Sahib : "หืม ? ว่ายน้ำงั้นรึ ข้าคิดว่าพอได้อยู่ แต่ให้ดำน้ำนี่..." *หัวเราะเบา* "อาจจะต้องลองดูอีกที"

    Genie : เสกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายลูกกวาดสีน้ำทะเลออกมา "นายท่านอมสิ่งนี้ไว้ในปากนะ มันจะทำให้ท่านดำน้ำและหายใจใต้น้ำได้นานขึ้น"

    Sahib : "ข้าคงต้องฝึกเสียแล้วกระมัง ที่จะไม่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เจ้าสามารถทำได้..." รับลูกกวาดมาอม

    Genie : "พร้อมแล้วนะนายท่าน" จับมือใหญ่ของอีกคนไว้แน่นและพาดำลงว่ายน้ำไปใต้น้ำทะเล จนมาถึงที่ๆเต็มไปด้วยฝูงปลาสวยงามมากมายเต็มแนวปะการัง

    Sahib : มองฝูงปลาหลากสีสันที่ว่ายน้ำผ่าน รู้สึกตื่นตาในความสวยงามตรงหน้าและพยายามดำน้ำไปกับอีกคนที่ดูสดใสกว่าทุกครั้ง

    Genie : มองทัศนียภาพใต้ทะเลที่สวยงามยิ่งกว่าเคยจินตนาการเอาไว้และจับมืออีกคนพาดำน้ำไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้เบื่อ

    Sahib : ภาพตรงหน้านั้นช่างมีเสน่ห์ชวนมอง แต่เขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าไม่อาจละสายตาจากร่างบางใต้อาภรณ์สีสดใสตัดกับผืนน้ำแห่งนี้

    Genie : ยังคงพาเจ้านายหนุ่มดำน้ำลึกลงไปเรื่อยๆจนเผลอตัวลืมเวลาที่ลูกกวาดจะหมดฤทธิ์

    Sahib : บีบมือเล็กเมื่อรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ยังพอทนไหว

    Genie : หันไปมองหน้าเจ้านายของตนที่มีสีหน้าแปลกๆ ดวงตาเล็กเบิกกว้างเมื่อรู้สาเหตุ

    Sahib : เห็นท่าทีตกใจของอีกฝ่าย พยายามแสดงสีหน้าปกติ แต่ความอึดอัดที่มีมากขึ้นทำให้ไม่อาจประคองท่าทีไว้ได้เท่าไหร่นัก

    Genie : เห็นสีหน้าที่ทรมานเพราะขาดอากาศหายใจของเจ้านายจนตัวเองลนลานสับสนจำเวทมนต์ไม่ได้ มือจับใบหน้าของอีกฝ่ายและยื่นหน้าเข้าไปใกล้

    Sahib : รู้สึกร่างกายหนักอึ้ง ภาพตรงหน้าดูไม่ชัดเจน แต่สัมผัสได้ถึงไออุ่นที่สัมผัสที่ริมฝีปากและพร้อมกับอากาศที่ต้องการ

    Genie : ส่งอากาศผ่านริมฝีปากของตน ก่อนจะนึกถึงเวทมนต์หายตัวขึ้นมาได้และพาร่างของทั้งสองกลับไปที่ห้องนอนในคฤหาสน์ในสภาพเปียกปอนทั้งคู่

    Sahib : หอบหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดก่อนที่จะหัวเราะออกมาและถอนหายใจอย่างโล่งอก "ช่างตื่นเต้นกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้เสียอีก"

    Genie : สวมกอดอีกฝ่ายและกอดแน่นอีกทั้งยังตัวสั่นด้วยความกลัว "ข้าขอโทษนายท่าน...ข้าเกือบจะทำให้ท่านต้องตาย"

    Sahib : ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีกะทันหันของอีกฝ่าย ลูบปลอบบนหลังเพรียว "แต่เจ้าก็ได้ช่วยข้าไว้ ตอนนี้ข้าก็ปลอดภัยแล้วอย่าพูดเช่นนั้นเลย"

    Genie : "เพราะข้ามัวแต่สนุกจนลืมตัว หลงลืมในหน้าที่ของตัวเอง ข้ามันใช้ไม่ได้..." เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นนายด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

    Sahib : รู้สึกถึงความผิดชอบชั่วดีและความถูกต้องที่ตีกันอยู่ในความคิด "นิ่งก่อนเด็กดี..." ยั้งใจไม่ไหวก้มลงจูบเบาที่หน้าผาก

    Genie : "!...นายท่านเอลวิน" ดวงตาสีนิลเบิกกว้างเล็กน้อยและชะงักไปครู่หนึ่ง

    Sahib : "สงบอารมณ์ได้แล้วสินะ" รอยยิ้มอบอุ่นประดับริมฝีปาก "ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ถือโทษเจ้า และเจ้าก็ทำหน้าที่ได้ดีแล้ว อย่ารู้สึกผิดเลย"

    Genie : ก้มหน้าขอบคุณให้ผู้เป็นเจ้านาย "แต่ว่า...ข้าก็ยังรู้สึกผิดต่อท่านอยู่ดี"

    Sahib : "อืม... ถ้าอย่างนั้นต้องทำโทษสักเล็กน้อย..." แสดงสีหน้าครุ่นคิด "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน"

    Genie : เผลอก้มหน้าลงนิดๆรอรับการทำโทษจากผู้เป็นเจ้านาย

    Sahib : "ข้าไม่อนุญาตให้เจ้านอนในตะเกียงเป็นเวลาสามคืน"

    Genie : เงยหน้าขึ้นมอง "แล้วนายท่านจะให้ข้าไปนอนที่ไหน พื้นงั้นหรือ?"

    Sahib : "ข้าอาจจะไม่สบายเพราะร่างกายเย็นเกินไป เจ้าต้องนอนข้าง ๆ ตัวข้าเพื่อให้ความอบอุ่น" อธิบายพลางกลั้นหัวเราะเมื่อสบตาอีกคน

    Genie : อ้าปากค้างตะลึงไปเล็กน้อยกับคำสั่งนั้น "เอ่อ...ถ้านายท่านกลัวจะหนาวข้าว่าใช้เวทมนต์จะไม่ดีกว่าหรือ ตัวข้าคงไม่อุ่นสักเท่าไหร่"

    Sahib : "มันเป็นความสบายใจน่ะ" เอียงคอเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างจริงใจให้กับจินนี่ของตนที่เริ่มพูดจาตะกุกตะกัก

    Genie : พยายามซ่อนสีหน้าของตัวเองแต่ยามนี้กลับทำไม่ได้ และเพิ่งรู้ตัวว่ายังกอดเจ้านายหนุ่มอยู่ทั้งที่ตัวเปียกจนเสื้อผ้าแนบไปกับผิวกาย

    Sahib : ไม่ได้ทักท้วงถึงบรรยากาศล่อแหลมที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น เพียงแค่นั่งมองพวงแก้มที่เริ่มขึ้นสีเล็กน้อยเหมือนนึกอะไรได้บางอย่าง

    Genie : "...เดี๋ยวข้าจะไปหาเสื้อผ้ามาให้นายท่านเปลี่ยนนะ" พูดจบก็รีบผละตัวออกมาแล้วผลักบานประตูอย่างแรง เดินจ้ำอ้าวออกไปจากห้องนอน

    Sahib : มองตามชายผ้าคลุมของอีกฝ่ายที่เริ่มแห้งจากการร่ายเวท พลางมองยังเสื้อผ้าของตนก่อนจะหัวเราะเสี่ยงต่ำในลำคออย่างอารมณ์ดี

    Genie : ‘สามวันเชียวเหรอเนี่ย แล้วแบบนี้ข้าจะทำยังไงดีล่ะ...’ ลอบคิดในใจ

    Sahib : เอนกายบนเตียงกว้าง รู้สึกล้าเล็กน้อยหลังจากไปตรวจงานเมื่อช่วงเย็น "อืม.. รีไวล์ อยู่ในตะเกียงหรือเปล่า"

    Genie : เดินไปเดินมาในตะเกียง ได้ยินเสียงเรียกจากเจ้านายแต่ไม่กล้าออกไป

    Sahib : เดินตรงไปยังโต๊ะเล็กที่ด้านบนมีตะเกียงวางบนเฟอร์นุ่ม "รีไวล์.. ?" แสร้งทำเป็นเดินเซเล็กน้อยก่อนถึงโต๊ะ

    Genie : "นายท่าน!" ใช้มนต์พาตัวเองออกมาจากตะเกียงแล้วเข้าไปประคองเจ้านายเอาไว้ "นายท่าน! ท่านไหวรึเปล่า ไม่สบายหรือ?"

    Sahib : คว้าแขนที่ประคองตนไว้ ก่อนจะรวบตัวช้อนขึ้นมาอุ้มอย่างง่ายดาย "ขอโทษที่ใช้วิธีนี้นะ รีไวล์"

    Genie : ตกใจที่โดนหลอกและคิ้วขมวดเล็กน้อยที่เสียรู้ให้อีกฝ่าย "นายท่านขี้โกงนี่!"

    Sahib : "บางครั้งก็ต้องมีบ้าง แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะพยายามไม่แกล้งเจ้าบ่อย" วางร่างบางลงบนเตียงก่อนจะขยับกายขึ้นไปนอนข้าง ๆ

    Genie : นอนตัวเกร็งเพราะไม่คุ้นเคยกับการนอนร่วมกับผู้อื่น

    Sahib : เว้นระยะห่างแต่พอดีก่อนจะห่มผ้าให้อีกฝ่าย มือกร้านที่เย็นเล็กน้อยเอื้อมไปกุมมือเรียวที่อบอุ่น "ไม่ต้องเกร็งหรอก ข้าไม่ทำอะไร"

    Genie : กุมมือนั้นตอบและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

    Sahib : "อบอุ่นดีนะ ตัวเจ้าน่ะ..." หลับตาลงพลางเปรยเบาและค่อย ๆ เคลิ้มหลับ

    Genie : ลืมตาขึ้นมองคนที่หลับไปก่อนและได้ยินคำพูดนั้น "ท่านต่างหากล่ะที่อบอุ่น...อบอุ่นเสียจนข้า..." เสียงค่อยๆเงียบหายไปในราตรีนั้น

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    คืนที่ 3

     

    Genie : นอนหลับสนิทบนเตียงกว้าง อากาศเย็นในตอนเช้ามืดทำให้ร่างเล็กขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นจากคนตัวใหญ่กว่า

    Sahib : ลืมตาตื่นขึ้นมาพบคนข้างกายขยับชิดใกล้ อยากเคลื่อนมือไปโอบไว้แต่ก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะตื่น ได้แต่คิดในใจ 'ตอนหลับนี่..น่ารักดีนะ'

    Genie : อืม...//ขยับกายซุกตัวเข้าใกล้กว่าเดิม

    Sahib : เอื้อมมือไปเกลี่ยเรือนผมนุ่มที่ปรกใบหน้าเนียนอย่างเบามือเกรงว่าอีกฝ่ายจะตื่น

    Genie : "เอ......" //กำลังฝันถึงใครบางคนจึงละเมอเรียกชื่อนั้นออกมา

    Sahib : "หืม ?" เกลี่ยแก้มนุ่มเบา ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อฟังว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร

    Genie : "เล..." พึมพำแค่นั้นและค่อยๆปรือตาขึ้นมา ก่อนจะสะดุ้งตื่นเมื่อเห็นใบหน้าเจ้านายของตนอยู่ใกล้มาก

    Sahib : "อรุณสวัสดิ์ ขอโทษ ข้าทำให้เจ้าตื่นรึเปล่า?" เก็บความสงสัยนั้นไว้ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้อีกฝ่าย

    Genie : เอียงคอด้วยความสงสัยเล็กน้อย "ไม่หรอกนายท่าน แต่วันนี้ท่านตื่นเร็วจัง"

    Sahib : "ปกติข้ามักจะตื่นเช้าอยู่แล้วน่ะ" รู้สึกนึกสนุกขึ้นมา "อืม... ถ้าเช่นนั้นข้านอนต่อก็แล้วกัน..." หลับตาลง "ข้าก็อยากให้เจ้าปลุก.."

    Genie : เขย่าตัวอีกฝ่ายให้ตื่น "อย่าขี้เกียจสินายท่าน ท่านมีงานต้องทำไม่ใช่หรือ"

    Sahib : นั่นก็เป็นความจริง *ยังไม่ลืมตา พลางพาดมือไปโอบกอดร่างบางไว้อย่างสะลึมสะลือ* เจ้าคงต้องปลุกข้าอย่างจริงจังแล้วล่ะ

    Genie : ถอนหายใจกับความเอาแต่ใจนิดๆของเจ้านาย 'จะปล่อยให้นอนต่อทั้งวันก็คงไม่ดี ถึงจะเป็นเจ้านายก็เถอะ' คิดในใจพลางคิดหาวิธีปลุก

    Sahib : เริ่มเคลิ้มจนจะหลับอีกครั้งหนึ่ง

    Genie : นายท่าน นายท่าน //เขย่าตัวเจ้านายแรงขึ้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตื่นง่ายๆ

    Sahib : นอนรอว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นไรต่อ

    Genie : "ช่วยไม่ได้ ข้าอุตส่าห์ปลุกท่านดีๆแล้วนะ" ร่ายมนต์ให้ตัวเล็กลงแล้วกระโดดปีนเข้าไปในหูของเจ้านาย "นายท่านนนนน ตื่นได้แล้ววววว"

    Sahib : สะดุ้งเล็กๆจากเสียงที่ก้องในหู ลืมตาและหัวเราะเบา "สร้างสรรค์ดีนะ เจ้าเนี่ย..." ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง "ข้าตื่นแล้ว ๆ ออกมาเถอะ"

    Genie : ออกมาจากหูแล้วกลับเป็นเหมือนเดิม "ข้าปลุกอย่างจริงจังตามที่ท่านบอกแล้วนะ"

    Sahib : "เจ้ามีความตั้งใจที่ดีนะ แถมยังทำให้ข้าประหลาดใจได้ทุกวัน" ยิ้มให้อีกคน

    Genie : “ขอบคุณนายท่านที่ชม รีบลุกขึ้นมาแล้วไปทำงานเถิด”

    Sahib : ลุกออกจากเตียงอย่างว่าง่ายและตรงไปชำระร่างกายก่อนจะกลับออกมาในอาภรณ์สง่างาม รอข้าในตะเกียงก็แล้วกัน แล้วเย็นนี้ข้าจะกลับมา”

    Genie : "รับทราบนายท่านเอลวิน" //กลับเข้าไปในตะเกียงของตน

    Sahib : เดินกลับเข้ามาในห้องพักพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มก่อนจะหลับตาและนวดขมับเบา ๆ

    Genie : ออกมาจากในตะเกียง "ยินดีต้อนรับกลับมานายท่าน...เหนื่อยมากไหม?"

    Sahib : อา... รีไวล์ อืม...เจอเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยน่ะเลยรู้สึกเพลีย ๆ

    Genie : เรื่องอะไรเหรอนายท่าน?

    Sahib : "เรื่องงานนั่นล่ะ เกิดความไม่เข้าใจกันนิดหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรมาก ช่างเถอะ" เงยหน้ามองคนที่ทำให้รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ใกล้

    Genie : เข้าไปใกล้โซฟาและนั่งลงข้างๆ "มีปัญหาเรื่องงานหรือ ให้ข้าช่วยเอามั้ยนายท่าน?"

    Sahib : "อย่าเลย ข้าสามารถจัดการภายหลังได้ แค่เจ้าอยู่ข้าง ๆ ตรงนี้ข้าก็สบายใจขึ้นมากแล้ว"

    Genie : "แต่...ข้าอยากช่วยนายท่านบ้าง อยู่เฉยๆแบบนี้มันทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์กับนายท่านเลย" ใบหน้าเป็นกังวล

    Sahib : "สิ่งที่ข้าต้องการ นั่นคือรอยยิ้มของเจ้า" ยิ้มอย่างมีความสุข "สิ่งที่ข้าทำได้จักข้าเพียรทำด้วยมือของตนเอง เจ้าไม่ต้องห่วง"

    Genie : คำพูดของเจ้านายทำให้หัวใจของตนสั่นไหวแปลกๆ "..นายท่านนี่มักน้อยจริงๆเลยนะ" เผลอยิ้มโดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว

    Sahib : "จริง ๆ แล้ว ข้าเป็นคนเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัวพอสมควรเลยทีเดียว" หัวเราะเบากับคำชมนั้น

    Genie : “ถ้าท่านเป็นคนอย่างที่ว่าจริงล่ะก็ช่วยบอกคำขอเอาแต่ได้นั้นให้ข้ารู้ทีสิ”

    Sahib : "สิ่งที่ข้าปรารถนานี้ ข้าไม่อยากได้มาด้วยเล่ห์กลใด ๆ ทั้งนั้น ถ้ามันสมควรแก่ตัวข้า สักวันข้าจักได้ครอง"

    Genie : "แล้วถ้าหากท่านไม่ได้ครอบครองสิ่งที่ท่านปรารถนานั้นล่ะ ท่านจะทำอย่างไร?"

    Sahib : "ข้าก็จะปล่อยสิ่งนั้นไว้ยังที่ ๆ ควรอยู่" พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบเรือนผมสีเข้มของอีกคน

    Genie : "ทำไมท่านถึงตัดใจยอมปล่อยให้สิ่งที่ตัวเองต้องการหลุดมือไปเช่นนั้น?"

    Sahib : "สิ่งที่ข้าต้องการนั้นเลอค่าและทรงเกียรติ หากได้มาโดยวิธีมิชอบก็จะไม่สมแก่คุณค่าในตัวมัน และข้าก็จักไร้ความสุขแม้ได้ครอง"

    Genie : "นายท่านทำให้ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าสิ่งที่ท่านปรารถนาและยกให้เป็นสิ่งล้ำค่านั้นคืออะไร" //ดวงตาสีฟ้าจ้องมองมาที่ตนด้วยแววตาจริงจัง

    Sahib : "หากมีวันที่ข้าได้มา เจ้าจะเป็นคนที่ได้รู้คนแรก" ยังคงลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูและทะนุถนอม

    Genie : "ข้าจะรอวันนั้น..." รู้สึกดีกับสัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับ

    Sahib : "ข้าขอไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน เจ้าอย่าหลบเข้าตะเกียงอีกนะ รีไวล์" ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนที่จะตรงไปชำระร่างกาย

    Genie : รับทราบคำสั่งนั้นแล้วจึงนั่งรออยู่ในห้อง พอดีกับที่เหล่านางกำนัลยกสำรับอาหารมารอเจ้านายหลังอาบน้ำเสร็จ

    Sahib : เดินออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้นกว่าเดิม

    Genie : นั่งมองเหล่านางกำนัลแต่งตัวให้เจ้านาย

    Sahib : ยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ให้นางกำนัลออกไป ก่อนจะเดินตรงไปหาอีกคนที่เตียงกว้าง

    Genie : จัดที่นอนให้เจ้านายก่อนจะผายมือเชิญให้ขึ้นมา

    Sahib : เดินขึ้นไปนอนบนเตียงพลางเอ่ย "นวดให้ข้าทีได้ไหม"

    Genie : "ได้สินายท่าน" ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆพร้อมกับบอกให้เจ้านายนอนคว่ำ

    Sahib : จัดท่าทางตามคำบอกของอีกคนและหลับตารับสัมผัส

    Genie : เริ่มนวดจากช่วงท้ายทอยก่อน ออกแรงนวดสลับจุดไปตามลำดับ ค่อยๆไล่ลงมาเรื่อยๆไปจนถึงช่วงขา

    Sahib : "เก่งเหมือนกันนะเรา"

    Genie : "ขออภัยนายท่าน" ตวัดขาคร่อมนั่งชันเขาอยู่เยื้องด้านหลังแถวๆสะโพกคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่ "ข้าจะดัดหลังให้ เจ็บนิดหน่อยนะ"

    Sahib : "หืม... เจ้าว่ายังไงนะ ??"

    Genie : ยังไม่ทันจะได้ตอบก็จับแขนใหญ่ก่อนออกแรงดัดจากด้านหลัง 'กรึ่ก!'

    Sahib : "อั่ก !!!" เผลอครางต่ำในลำคออย่างตกใจเล็กน้อย "เจ้า... ทำอะไร... น่ะ... อืม... แต่ก็สบายดีนะ"

    Genie : "เสร็จแล้วล่ะนายท่าน สบายตัวดีมั้ย?" ปล่อยแขนลงตามเดิมและทำท่าจะลุกขึ้น

    Sahib : "อา.. เจ้ามานวดตรงนี้ที" บีบบ่าของตนเองเบา ๆ พร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนเล็กน้อย

    Genie : เปลี่ยนท่าให้อีกคนลุกขึ้นมานั่งก่อนจะหันไปนวดบ่าจากทางด้านหลัง

    Sahib : "เจ้าก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่างดีนะ" รู้สึกสบายจากการปรนิบัติของอีกฝ่าย "ถ้าข้าติดใจการนวดของเจ้าคงไม่แปลก"

    Genie : "ถ้าเป็นสิ่งที่ข้าสามารถทำให้นายท่านพอใจได้ข้าก็ยินดีทำทุกอย่าง"

    Sahib : "อืม พอได้แล้วล่ะ" เอื้อมไปกุมมืออีกคนไว้ให้หยุดก่อน

    Genie : "ท่านจะนอนแล้วงั้นหรือ?"

    Sahib : "เพลีย ๆ เล็กน้อยน่ะ... คงเข้านอนเร็ว" กุมมืออีกคนไว้หลวมๆไม่ยอมปล่อย "คืนนี้คืนที่สอง เจ้าคงไม่ค่อยเกร็งแล้วสินะ"

    Genie : "ก็...ยังเกร็งอยู่บ้างนิดหน่อยน่ะนายท่าน"

    Sahib : "กลัวข้างั้นรึ?"

    Genie : ส่ายหน้าเล็กน้อย "เปล่า...แต่ข้า..." ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อเล็กๆ

    Sahib : "รู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า หืม?" ขยับเข้าใกล้อีกคนพร้อมกับถามอย่างเป็นห่วง

    Genie : "!!" ตกใจกับใบหน้าของอีกฝ่ายที่ขยับเข้าใกล้จนหน้าแดงจัดกว่าเดิม มือคว้าหมอนขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง

    Sahib : ยิ้มบางกับท่าทีน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย "ก็ได้ ๆ ถ้าอย่างนั้นเราเข้านอนกันเถอะ"

    Genie : ล้มตัวฟุบลงนอนหันหลังไม่ยอมหันหน้าไปหาเจ้านาย

    Sahib : ขยับคลุมผ้าห่มให้ร่างบางถึงไหล่ ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับไออุ่นจากคนข้างกายในค่ำคืนนี้

    Genie : แอบหันตัวกลับมาเมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายนอนหลับไปแล้ว "ราตรีสวัสดิ์นายท่านของข้า..." เอ่ยเสียงเบาก่อนจะหลับตาลง

    Genie : กลางดึกเงียบสงัด ร่างเล็กนอนดิ้นไปมาบนเตียงและครางเสียงต่ำในคอเหมือนกำลังฝันร้าย ทำให้คนนอนข้างๆตื่นขึ้นมา

    Sahib : รู้สึกถึงอีกร่างบนเตียงที่ขยับตัวจึงลืมตาตื่นขึ้นมา "รีไวล์ .. ?" ยังคงสะลึมสะลือเล็กน้อย พยายามปรับสายตาใต้แสงสลัว

    Genie : "ฮือ...ฮื่อ..." สีหน้าดูไม่ดีอีกทั้งเหงื่อยังผุดขึ้นเต็มใบหน้า

    Sahib : ตกใจเมื่อเห็นร่างอีกคนดูทรมาน "รีไวล์ !!" พยายามเขย่าแขนร่างบางให้ตื่น

    Genie : น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยเสียงเรียกนามของตนดังขึ้นในห้วงฝันร้าย ค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลข้างแก้ม "นายท่าน...?"

    Sahib : มองหยดน้ำใสที่สะท้อนแสงจันทร์เลือนรางในความมืด รวบกายอีกคนเข้ามากอดแน่นโดยไม่ลังเล "เจ้าฝันร้ายหรือ ?"

    Genie : "อืม...ข้าฝันร้ายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะนายท่าน" ใบหน้าเกยอยู่บนบ่าของคนที่กอดตนเอาไว้ รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นห่วงใยที่ส่งมา

    Sahib : ไม่ยอมคลายอ้อมกอด "เรื่องของเจ้านายคนก่อนหรือ หากมีเรื่องค้างคาใจเจ้าสามารถเล่าให้ข้าฟังได้นะ"

    Genie : " ...ข้าไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ นายท่านอย่าได้สนใจเลย ท่านพักผ่อนเถอะ"

    Sahib : "ถ้าเช่นนั้น...อยู่แบบนี้ซักพัก" ก้มหน้าลงจูบหน้าผากอย่างนุ่มนวล "อย่างน้อยก็คงทำให้เจ้ารู้สึกปลอดภัย และข้าก็จะสบายใจด้วย"

    Genie : "อา...แล้วแต่ท่านเถิด" ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนจึงซุกใบหน้าลงกับอกกว้าง รู้สึกสบายใจและปลอดภัยในอ้อมแขนนี้อย่างน่าแปลกใจ

    Sahib : ได้ยินลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่ายจึงถอนใจช้า ๆ คลายอ้อมกอดออกหลวมเล็กน้อยและหลับลงอีกครั้ง

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    คืนที่ 4

     

    Sahib : "อืม..." ละเมอเสียงเบา ฝันถึงสถานเริงรมย์ที่แทบจะไม่ได้ไปเลยในช่วงที่ผ่านมานี้หากไม่มีธุระจำเป็นจริง ๆ "อือ.. เธอ.. นี่นะ..."

    Genie : "หือม์? นายท่าน?" เข้าไปใกล้ๆเจ้านายที่นอนละเมอพึมพำ

    Sahib : หัวเราะคิกคักเสียงเบา "ใช่.. สวย.. ทุกคน.. อืม..."

    Genie : "ฝันอะไรอยู่นะ?" เกิดความสงสัยเลยใช้เวทมนต์เข้าไปแอบดูในความฝันของเจ้านาย ภาพเหล่าหญิงสาวบริการมากมายกำลังห้อมล้อมนายของตน

    Sahib : ในฝันนั้น เขากำลังยื่นแก้วให้หญิงงามนางหนึ่งรินสุราให้พลางส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับหล่อน

    Genie : รู้สึกหงุดหงิดแปลกๆกับภาพของเจ้านายหนุ่มที่เคยสนใจตนเอง ช่างตรงข้ามกับหนุ่มเจ้าสำราญตรงหน้าที่กำลังหยอกล้อสนุกสนานกับสาวๆ

    Sahib : ในความฝันนั้นตนกำลังเคลิ้มไปกับรสสุราและสนุกสนานกับอิสตรีงดงามที่ล้อมรอบ

    Genie : "ฝันดีเลยสินะนายท่าน" นึกอยากแกล้งให้อีกฝ่ายตกใจตื่นจากฝันนี้ ก่อนร่ายมนต์คาถาแปลงกายเป็นหญิงสาวแล้วเข้าไปใกล้ๆอย่างจงใจให้เห็น
     

    Sahib : "โปรยเสน่ห์ให้กับนางทั้งหลายโดยรอบก่อนจะชะงักที่ร่างเพรียวอรชรที่เดินเข้ามาใกล้ ".. รีไวล์ ? เจ้าเองรึ ?"

    Genie : "ใครหรือเจ้าคะนายท่าน?" แสร้งทำเป็นไม่รู้จักหวังจะปั่นหัวให้อีกคนที่กำลังเพลิดเพลินกับสุรานารีสับสนเล่น

    Sahib : รู้สึกสับสนว่าฝันหรือเรื่องจริง ใบหน้าของอีกฝ่ายที่ให้เค้าเดิมแต่กลับดูอ่อนหวานขึ้น รู้สึกถูกดึงดูดเข้าไป "เจ้า..มาใกล้ๆได้ไหม"

    Genie : "เจ้าค่ะ" ขยับกายเข้าไปนั่งอยู่ข้างหน้าชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มหวานให้ แต่ในใจกำลังกลั้นอารมณ์ขัน

    Sahib : "ขออภัยที่เสียมารยาท ข้าคงเมาสุราจนเผลอทักคนผิดไป.... แม่นางรูปงาม เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?"

    Genie : อึ้งไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะถูกถามชื่อ หันไปเจอกระถางต้นกุหลาบสีแดงวางประดับอยู่จึงชี้ไปที่นั่น "ข้ามีนามเดียวกับดอกไม้นั่น"

    Sahib : "แต่รูปโฉมเจ้างามกว่ายิ่งนัก" พยายามยั้งใจตนเองไม่ให้ล่วงเกินนาง ด้วยสัญชาติญาณบางอย่าง

    Genie : โล่งใจที่ไม่ถูกจับได้ ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งบนตักอีกฝ่ายและพอใจเล็กๆที่อีกฝ่ายนั่งตัวเกร็ง "นายท่านช่างปากหวานยิ่งนัก"

    Sahib : บั้นท้ายกระชับนั่งลงบนต้นขาของตน รู้สึกตกใจกับท่าทีรุกเร้าของอีกฝ่าย ลองขยับมือไปโอบเอวไว้หลวมๆ "แน่นอนว่า ข้ากล่าวแต่ความจริง"

    Genie : "ข้าไม่เชื่อหรอก ก่อนข้าจะเข้ามานายท่านยังชมพวกนางอยู่เลย" ยังคงแสร้งเล่นละครต่ออย่างแนบเนียน

    Sahib : "แล้วเจ้ามองดูข้ามานานเพียงใดแล้วหรือ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ามา"

    Genie : "ก็นานพอที่ข้าจะทนไม่ไหวจนต้องเข้ามาหาท่านด้วยตัวเอง" ยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูหยอกเย้าอย่างจงใจให้เนินอกเบียดกายแกร่ง

    Sahib : "หากข้าพาลเข้าใจว่าเจ้าสนใจในตัวข้า จะเป็นการหลงตนเกินไปหรือเปล่า" เอียงคอหันมากระซิบลมหายใจอุ่นรดต้นคออีกคนกลับอย่างลองเชิง

    Genie : "นายท่านเองก็สนใจข้าไม่ใช่หรือเจ้าคะ" แขนเพรียวโอบรอบคอร่างสูง

    Sahib : "ถ้าความปรารถนาของเราสองคนตรงกัน คงเป็นเรื่องวิเศษณ์ แต่ข้าคงมิอาจเอื้อมกับหญิงงามเช่นเจ้า บอกข้ามาเถิด ว่าเจ้าหาใช่นางโลมไม่"

    Genie : "ข้ามิใช่นางโลมหรอกนายท่าน...แต่เป็นจินนี่" ดีดนิ้วสลายมนต์ ร่างกายกลับมาเป็นเหมือนเดิมจนอีกคนตกใจตื่นขึ้นมาจากฝัน

    Sahib : สะดุ้งตื่นจนนัยน์ตาเบิกโพลง "อืม.. นั่นฝันรึ.. รีไวล์ ?" งัวเงียเรียกคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างกายเพื่อพิสูจน์ว่าเขาตื่นแล้วจริงๆ

    Genie : "ข้าอยู่นี่นายท่าน" เสียงขานตอบดังมาจากทางโซฟานุ่ม "หืมม์? หน้าตาท่านดูไม่สดชื่นเลยนะ น่าจะฝันดีไม่ใช่หรือ?"

    Sahib : "นั่นเจ้าหรือ ? รีไวล์ ?" ขยี้ตาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าเหมือนยังอยู่ในความฝัน "ข้าควรจะลุกไปล้างหน้าล้างตาสินะ..."

    Genie : "มา ข้าช่วยท่านเอง" เสกมนต์ให้ร่างกายของผู้เป็นเจ้านายสะอาดสดชื่นเสมือนว่าอาบน้ำมาแล้วเรียบร้อย

    Sahib : "อืม... สะดวกดีเหมือนกัน... แต่เจ้า.. ช่วยขยับมาใกล้ ๆ ข้าที บางทีข้าอาจจะมีปัญหาการแยกแยะฝันกับความจริง"

    Genie : หายตัวย้ายจากโซฟาขึ้นไปอยู่บนเตียงกว้างตรงหน้าเจ้านายในทันที

    Sahib : "เมื่อครู่นี้ ข้าฝันถึงเจ้า... ที่อยู่ในร่างสตรี"

    Genie : "ท่านฝันเช่นนั้นหรือ แล้วยังไงต่อนายท่าน?" แกล้งถามด้วยความอยากรู้

    Sahib : "เป็นความรู้สึกแปลก ๆ น่ะ" แสดงสีหน้าครุ่นคิด "เหมือนตอนนี้ข้าก็ยังเห็นเจ้าเป็นแบบนั้นอยู่..."

    Genie : นั่งกอดอกมองหน้าเจ้านายของตน "ข้าเดาว่าท่านคงถูกใจไม่มากก็น้อยสินะ"

    Sahib : "จริง ๆ แล้ว เป็นเจ้า ไม่ว่าจะร่างไหนก็ทำให้ข้าพึงใจได้ไม่ต่างกัน... แค่บางทีข้าคงมีความรู้สึกขัดแย้งกับศีลธรรมเล็กน้อย"

    Genie : "ศีลธรรมอะไรหรือนายท่าน?"

    Sahib : "อา.. มันเป็นเรื่องซับซ้อน ถ้าข้าพูดไปเจ้าอาจจะรู้สึกกลัว"

    Genie : "ข้าอยากรู้นายท่าน มันจะทำให้ข้ากลัวหรือเปล่าโปรดให้ข้าตัดสินด้วยตัวเองเถิด"

    Sahib : "ถ้าข้ากล่าวว่า ข้ารู้สึกดีกับเจ้า และอยากกอดเจ้าทุกคืน เจ้าจะว่าอย่างไร?"

    Genie : "...ถ้านายท่านปรารถนาเช่นนั้นล่ะก็ข้าคงไม่อาจปฏิเสธได้"

    Sahib : "แต่ข้าจะไม่มีความสุข หากเจ้าไม่ยินยอมด้วยใจ” ยิ้มอ่อนโยนให้อีกฝ่าย ดังนั้นจงลืมเสียเถิด"

    Genie : "ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้น ข้าเต็มใจนายท่าน...หากเป็นท่านข้าก็ยินดี"

    Sahib : "จนกว่าข้าจะได้ใจเจ้ามาครองโดยแท้จริง... ถึงวันนั้น.. จะเป็นวันที่เหมาะสม และข้าจะไม่รีรอ"

    Genie : "ท่านรู้สึกเช่นนี้กับข้าตั้งแต่เมื่อไหร่?"

    Sahib : "อา... ข้าก็ไม่อาจแน่ใจได้ชัด หรือความรู้สึกของข้า จะเกิดจากเสน่ห์ของจินนี่ ? เจ้านายคนเก่าของเจ้าเป็นแบบข้าหรือเปล่า?"

    Genie : "มีแต่นายท่านคนเดียวเท่านั้นแหละที่เป็นเช่นนี้ เจ้านายคนก่อนๆของข้าล้วนพึงใจในอิสตรีมากกว่า"

    Sahib : "ข้าคงแปลกสินะ ที่หลงใหลเจ้าไม่ว่าในร่างใด" หัวเราะขบขันตนเอง

    Genie : หันใบหน้าไปทางอื่นเพื่อซ่อนสีหน้าเขินอายของตน

    Sahib : "ข้าขอถามถึง... นายเก่าของเจ้าคนหนึ่งได้ไหม"

    Genie : "เจ้านายเก่าของข้าหรือ?" หันหน้ากลับมาด้วยความสงสัยว่าไปรู้จักเจ้านายเก่าของตนได้อย่างไร

    Sahib : "ใช่แล้ว.. คนที่เจ้าฝันถึงน่ะ"

    Genie : "นายท่านอยากรู้ไปทำไมหรือ? ไหนท่านเคยบอกว่าไม่สนใจอดีตยังไงล่ะ" สีหน้ากังวลคล้ายกับลังเลที่จะเล่า

    Sahib : "ข้าแค่อยากแน่ใจว่า ข้าจะไม่เป็นตัวแทนของใคร ... และใจของเจ้าว่างพอจะยอมรับความรู้สึกของข้าได้หรือไม่"

    Genie : "นายท่านพูดเช่นนี้ ท่านคิดว่าข้ามีความรู้สึกผูกพันกับเจ้านายคนก่อนเช่นนั้นหรือ..."

    Sahib : "ถ้าเจ้าคาดว่านั่นคือคำถาม แล้วเจ้าตอบข้าได้ไหม?"

    Genie : "ได้สิ...ถ้านายท่านอยากรู้ ข้าก็จะเล่าให้ท่านฟัง" ดวงตาสีนิลหลับตาหวนคิดถึงเรื่องราวของตนกับเจ้านายคนก่อน เรื่องมีอยู่ว่า...”

    สองพันปีก่อน ชายคนหนึ่งซึ่งมีอาชีพเป็นหมอได้ซื้อตะเกียงมาจากร้านขายของเก่าเพื่อหวังจะเอามาประดับในบ้าน

    เอเลน’ ลูกชายของหมอคนนั้นได้นำตะเกียงไปขัดทำความสะอาด แล้วจินนี่ซึ่งก็คือรีไวล์ได้ออกมาจากตะเกียงวิเศษณ์ ส่วนเอเลนก็ได้กลายเป็นเจ้านายของตน ณ เวลานั้น

    เขาให้เอเลนขอพรได้สามข้อเหมือนเช่นทุกครั้งที่มีเจ้านายคนใหม่เรียกออกมาจากตะเกียง น่าประหลาดใจที่เอเลนขอในสิ่งที่เกินความคาดเดาของจินนี่

    ข้อแรก เอเลนขอให้เขาสร้างเมืองที่เอเลนอยู่ให้กลายเป็นเมืองที่มีความเจริญ จากที่เคยเป็นเมืองเก่ามีสภาพทรุดโทรมเพราะผลกระทบจากสงคราม กลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่ขึ้นมาทันที

    ข้อสอง เอเลนขอให้จินนี่ไปขโมยเอาเงินทองของชาวเมืองที่โดนฉ้อโกงขูดรีดภาษีกลับมาคืนให้กับทุกคน

    ชาวเมืองต่างมีความสุขที่ได้ทุกอย่างคืนกลับมา ยังเหลือพรข้อสุดท้ายที่เอเลนยังไม่ได้ขอเพราะคิดข้อสุดท้ายไม่ออก จินนี่รีไวล์จึงบอกไปว่าเอเลนควรจะขออะไรเพื่อตัวเองบ้าง

    ทว่า...เอเลนก็ไม่ได้ขอพรข้อสุดท้าย เพราะความลับเรื่องที่เขามีตะเกียงวิเศษณ์และจินนี่ซึ่งสามารถให้พรที่สมปรารถนาได้ทุกอย่างไว้ในครอบครองได้ถูกล่วงรู้ไปถึงหูพวกโลภที่ต้องการความมั่งคั่งและอำนาจ

    เอเลนถูกลักพาตัวไปพร้อมกับตะเกียงวิเศษณ์ และถูกขู่บังคับเพื่อให้เรียกจินนี่ออกมาให้พรที่เหลือข้อสุดท้าย เอเลนไม่ยอมและตะโกนสั่งจินนี่ว่าห้ามออกมาจากตะเกียงเด็ดขาด

    ฉัวะ!!

    เอเลนถูกฟันต้นคอขาดและตายทันที รีไวล์ไม่อาจทนอยู่นิ่งเฉยได้อีกเมื่อเจ้านายถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา เขาออกมาจากตะเกียงพร้อมกับใช้เวทมนต์สังหารทุกคนที่อยู่ตรงนั้นด้วยความเกลียดชัง อาฆาตแค้นและเกรี้ยวกราดที่สูญเสียเจ้านายไป

    รีไวล์เข้ามาดูศพของเอเลน เขาเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องชีวิตของเจ้านายที่ยังเยาว์วัยคนนี้เอาไว้ได้ รีไวล์ใช้เวทมนต์รักษาบาดแผลและทำพิธีชุบชีวิตเอเลนก่อนจะพาเอเลนหนีไปที่อื่นที่ไม่มีใครตามตัวเจอ

    รีไวล์เหลือพลังเวทมนต์อีกไม่มากเพราะเขาใช้เวทมนต์ฆ่าคนไป แถมยังฝ่าฝืนข้อห้ามทำพิธีชุบชีวิตคนตายทำให้ถูกริบมนตรา จึงให้เอเลนรีบขอพรข้อสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่เหลือพลังพอจะทำให้คำขอของเด็กหนุ่มเป็นจริงได้

     

    พรข้อสุดท้าย...เอเลนขอให้รีไวล์ไม่ลืมเรื่องของเขาจนกว่าจะเจอคนใหม่ที่ดีกว่าเขา

     

    รีไวล์ไม่ได้รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำขอนั้น แน่นอนว่าสำหรับจินนี่แล้วก็ย่อมจะตีความหมายไปถึงเจ้านายคนใหม่มากกว่า หาใช่ในความหมายอื่นแอบแฝง

    หลังจากนั้นรีไวล์ก็ถูกดึงกลับเข้าไปอยู่ในตะเกียง ถูกริบพลังไม่ให้ใช้เวทมนต์และถูกขังอยู่ในตะเกียงเป็นการลงโทษที่ฝ่าฝืนกฎข้อห้าม

    เขาทำได้แต่นั่งมองทุกอย่างผ่านลูกแก้วไปวันๆอย่างน่าเบื่อหน่าย และเมื่อลองใช้ลูกแก้วไปส่องดูว่าเอเลนยังสบายดีอยู่หรือไม่ เขาก็ต้องพบกับเรื่องสะเทือนใจ

    เอเลนถูกทางการจับกุมขณะที่แอบกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเกิด เขาถูกยัดเยียดข้อหาฆ่าสังหารหมู่ โดยกลุ่มผู้อำนาจที่ได้จ้างวานคนไปฆ่าเอเลนและขโมยตะเกียงวิเศษณ์มา โทษของเอเลนมีความผิดคือถูกจับแขวนคอ

    รีไวล์ถูกขังอยู่ในตะเกียงไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งที่ใจร้อนรนจนแทบลุกเป็นไฟ เขาต่างหากที่เป็นคนทำแต่เอเลนกลับต้องมาถูกตัดสินโทษประหารที่ไม่เป็นธรรมนี้เพราะความวู่วามของเขาเอง

    เขาเป็นคนทำให้เอเลนต้องตายด้วยมือของเขาเอง ภาพที่เอเลนถูกประหารชีวิตในวันนั้นยังคงติดตาเขามาจนถึงวันนี้

    รีไวล์ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะไม่อาจลืมเรื่องของเอเลนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเน้นย้ำชัดเจน ภาพตอนที่โกรธ ภาพตอนที่หัวเราะ ภาพตอนที่ร้องไห้ ภาพตอนที่เอเลนถูกฆ่าทั้งสองครั้ง มันไม่เคยลบเลือนหายไป

     

    ไม่มีราตรีใดที่จะข่มตาให้หลับได้โดยไม่ฝันเห็นภาพเด็กหนุ่มคนนั้น ราวกับคำขอสุดท้ายของเด็กหนุ่มเป็นคำสาปที่ทำให้เขาไม่สามารถลืมได้

    รีไวล์ติดอยู่กับภาพความทรงจำเหล่านั้นเป็นเวลาสองพันปีและไม่เคยได้ทำหน้าที่ของจินนี่ได้อีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    Sahib : "เจ้าอยู่กับความทรงจำนั้นมา .. สองพันปีเลยหรือ.. ?"

    Genie : หลังจากเล่าจบ ร่างเล็กเงียบไปพักใหญ่กว่าจะเงยหน้าขึ้นมามองนายของตนด้วยสีหน้าที่เหมือนกับคนอยากจะร้องไห้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเอเลนได้...”

    Sahib : "ข้าจะไม่ทำให้เจ้าลืม แต่ข้าสัญญาว่าข้าจะทำให้เจ้ามีความสุข... รีไวล์"

    Genie : “รู้อย่างนี้แล้วนายท่านยังจะคิดกับข้าเหมือนเดิมอยู่อีกหรือ?”

    Sahib : "เจ้าคือเจ้า ... รีไวล์ ไม่ว่าจะผ่านสิ่งใดมาก็ไม่สำคัญเท่าความสุขที่ข้าจะมอบให้จากวันนี้ไป"

    Genie : ดวงตาสีนิลจ้องมองดวงตาคู่สีฟ้า พลันหยดน้ำตาข้างหนึ่งก็ไหลออกมา

    Sahib : "มานี่สิ เข้ามาใกล้ ๆ ข้า" ขยับมือไปโอบร่างบางตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่เอ่อล้น

    Genie : "นายท่านเอลวิน ชีวิตนี้...ข้าขอยกให้กับท่าน" เอนตัวไปซบลงกับอ้อมกอดอบอุ่นด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมล้นจนหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด

    Sahib : "ข้าจะทำให้เจ้าฝันดี... และเปี่ยมด้วยความทรงจำที่ดี ข้าสัญญา" เคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้และจูบซับน้ำตาที่ไหลออกมา

    Genie : “ข้าจะเชื่อท่าน...นายท่าน” หลับตาลงรับสัมผัสอ่อนโยนที่ส่งมา

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    คืนที่ 5

     

    Genie : นั่งรออยู่ในห้องระหว่างที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังอาบน้ำ

    Sahib : เดินกลับเข้ามาในห้องด้วยกายสะอาดหอมกลิ่นกุหลาบจากน้ำที่ลงแช่เมื่อครู่ ป้องปากหาวเล็กน้อย

    Genie : "นายท่านง่วงนอนแล้วหรือ เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเองนะ"

    Sahib : "วันนี้เพลีย ๆ นิดหน่อยน่ะ อาจเป็นเพราะอากาศช่วงค่ำที่เย็นลงด้วย"

    Genie : "คืนนี้อากาศตอนดึกๆ คงจะหนาว งั้นข้าคงต้องทำให้ห้องนี้อุ่นขึ้นอีกสักหน่อยคงจะดีกว่า"

    Sahib : "อืม... ปกติเจ้าอยู่ในตะเกียง อากาศเป็นอย่างไรบ้างน่ะ?"

    Genie : นึกแปลกใจที่อีกฝ่ายถามแต่ก็ตอบไปตามตรง "ข้างในตะเกียงอากาศอบอุ่นสบายดีนายท่าน"

    Sahib : "โอ้ว... เจ้าดูท่าจะหลับสบายสินะ ข้าชักจะอยากทดลองไปนอนด้านในบ้าง"

    Genie : "แต่ข้างในนั้นไม่กว้างขวางเท่าห้องนอนของนายท่านหรอกนะ"

    Sahib : "แคบ ๆ ก็ดีเหมือนกัน เจ้าจะได้ขยับมาใกล้ ๆ ข้า" นั่งลงข้างๆอีกฝ่าย

    Genie : "...นอนด้วยกันมาสองคืนยังใกล้ไม่พออีกหรือนายท่าน"

    Sahib : "เจ้ายังดูเกร็ง ๆ อยู่เลย เวลาอยู่ข้าง ๆ ข้า" เอื้อมไปกุมมือ "เมื่อไหร่จะเลิกกลัวหืม ?"

    Genie : ""ข้ามิได้กลัวนายท่าน แค่ไม่ชินก็เท่านั้น

    Sahib : "ถ้าเจ้านอนในตะเกียง จะรู้สึกคุ้นชินมากกว่าหรือเปล่า ?"

    Genie : "ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสินายท่าน"

    Sahib : "อืม... แต่ข้าเข้าไปนอนด้านในกับเจ้าไม่ได้นี่สิ" แสดงสีหน้าครุ่นคิด

    Genie : "ถ้านายท่านไม่รังเกียจห้องนอนในตะเกียงเก่าๆ ข้าจะให้ท่านเข้าไปก็ได้"

    Sahib : "หืม แต่ข้าเป็นมนุษย์ แล้วจะเข้าได้หรือ ?"

    Genie : "ท่านสามารถเข้าไปได้ เพียงแต่ต้องทิ้งร่างกายเอาไว้ข้างนอกตะเกียง นายท่านอยากจะลองดูหรือเปล่า"

    Sahib : "น่าลองไม่ใช่น้อย ข้าเชื่อว่าถ้ามีเจ้าอยู่ด้วย คงไม่มีอันตรายอันใด"

    Genie : ถ้าเช่นนั้นนายท่านหลับตาลงสักครู่ ถ้าข้าบอกให้ลืมตาท่านค่อยลืมตานะ

    Sahib : ทำตามที่อีกคนกล่าว

    Genie : ร่ายมนต์ใส่เจ้านาย ร่างกายของอีกฝ่ายล้มตัวลงไปนอนแผ่กับเตียงกว้าง ส่วนจิตของเจ้าตัวยังยืนหลับตาอยู่และยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

    Sahib : รู้สึกแปลก ๆ แต่ยังไม่ลืมตา

    Genie : จับมือข้างหนึ่งก่อนจะพาร่างของทั้งสองหายวับเข้าไปในตะเกียง "เอาล่ะ ลืมตาได้แล้วนายท่าน"

    Sahib : มือข้างหนึ่งยังกุมมือเรียวไว้ ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาพบกับสถานที่แปลกใหม่ที่ไม่ใช่ห้องนอนของตน "นี่คือ... บ้านของเจ้างั้นรึ?"

    Genie : "ใช่ เป็นยังไงบ้าง ท่านคิดว่าจะนอนได้ไหม?"

    Sahib : "ก็ไม่ได้อึดอัดอะไรนี่ ถึงจะแคบกว่าห้องนอนของข้า แต่ความเป็นระเบียบทำให้ดูสบายตาดีเหมือนกัน"

    Genie : "เตียงข้าเล็กนะนายท่าน" หันไปมองที่นอนของตนที่เล็กเกินกว่าจะนอนสองคนได้อย่างสบายๆได้

    Sahib : "อืม ข้านอนบนพื้นก็.. ดูจะนุ่มดีนะ นั่นพรมเปอร์เซียหรือ ?"

    Genie : ทำสีหน้าตกใจและส่ายหน้า "ไม่ ไม่ ข้าไม่ให้นายท่านนอนที่พื้นเด็ดขาด"

    Sahib : "ข้าก็ไม่อยากให้เจ้านอนพื้นเช่นกัน นี่ห้องของเจ้านะ" ยิ้มมีเลศนัย

    Genie : "ยิ้มแบบนั้น นายท่านคิดอะไรอยู่น่ะ?"

    Sahib : "หลายเรื่องน่ะ หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าคิดสิ่งใดกัน?" ก้าวไปนั่งบนเตียงนุ่มของอีกคน

    Genie : "ข้าเปล่าคิดอย่างนั้นสักหน่อย..."

    Sahib : "มานี่สิ" วางมือบนตักเบาๆ

    Genie : "......." ไม่ยอมนั่งตักแต่นั่งลงข้างๆแทน

    Sahib : หันไปมองคนข้าง ๆ "คืนนี้ข้านอนบนเตียงเดียวกับเจ้าคืนสุดท้าย ใช่หรือเปล่า? ตามที่เราตกลงกัน"

    Genie : "ก็...ตามที่นายท่านว่า" พยักหน้ารับเล็กน้อย

    Sahib : "ไหนมองหน้าข้าตรง ๆ" เชยคางอีกฝ่ายขึ้นมาสบตาเรียวเล็กด้วยสีหน้าอ่อนโยน

    Genie : สบมองดวงตาคู่สีฟ้าอ่อนโยนที่มองมาที่ตน ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อนิดๆ

    Sahib : "ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร นอนข้าง ๆ ข้าเฉย ๆ ก็พอ อย่ากลัวเลย"

    Genie : "...ขอบคุณนายท่าน" มือทั้งสองข้างจับมือใหญ่ที่อบอุ่นนั้นมาแนบแก้มของตน

    Sahib : เกลี่ยนิ้วบนพวงแก้มเนียน "ข้าจะไม่ทำสิ่งใดจนกว่าความปราถนาของเจ้าและข้าจะสอดคล้องกัน... ข้าอยากให้เจ้ามีความสุขจริง ๆ รีไวล์"

    Genie : "ทำไมนายท่านต้องดีกับข้าที่เป็นเพียงจินนี่ถึงขนาดนี้?"

    Sahib : "เพราะว่าสำหรับข้า เจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่จินนี่"

    Genie : "แล้วข้าเป็นอะไรสำหรับนายท่านหรือ?" เงยหน้าถามด้วยความสงสัยอยากรู้

    Sahib : "เป็นคนที่สำคัญกับข้ามาก ๆ ในตอนนี้ ที่ข้าใส่ใจ และอยากให้มีความสุข..."

    Genie : "ตอนนี้?...แล้วสักวันข้าจะหมดความสำคัญหรือเปล่า ?"

    Sahib : "ถ้ามีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลง คงจะไปในทางที่ .. เจ้าจะสำคัญกับข้ามากกว่านี้" ยกยิ้มบางๆ

    Genie : ทบทวนสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาจนถึงตอนนี้แล้วตีความหมายออกมาตามที่เข้าใจ "ข้ารู้แล้ว นายท่านคิดกับข้าเป็น 'เพื่อน' อย่างนั้นสินะ"

    Sahib : หัวเราะกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา "แน่นอน ตอนนี้เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า"

    Genie : "ข้าดีใจจริงๆที่ได้เป็นเพื่อนกับนายท่าน" ปล่อยมือจากเจ้านายของตนแล้วโผเข้ากอดแทน

    Sahib : ตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับมือกอดตอบอีกฝ่ายและเปรยเบา ๆ "แต่ถ้าเจ้าทำแบบนี้บ่อย ๆ ข้าจะได้ทำเกินเพื่อนเข้าซักวัน..."

    Genie : "นายท่านพูดว่าอะไรหรือ?" ได้ยินไม่ค่อยชัดนักเพราะอีกฝ่ายเสียงเบา

    Sahib : "อา... ช่างเถอะ สมมติว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน..." หลับตาลงรับความอบอุ่นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากอีกคน

    Genie : "ก็ได้นายท่าน ถ้าเช่นนั้นก็นอนกันเถอะ" ดันอีกคนลงบนที่นอนและตัวเองพลิกกายมานอนเบียดข้างๆ

    Sahib : ข่มทุกความรู้สึกไว้เมื่อเรือนร่างของอีกคนเบียดมาแนบชิด "ขอให้เจ้าฝันดี ... รีไวล์"

    Genie : "ขอให้นายท่านฝันดีด้วยเช่นกัน" ยิ้มให้อีกคนก่อนจะเอนหัวมานอนอิง

    Sahib : มองร่างบางที่หลับตาลงช้า ๆ ก่อนที่จะโน้มไปจูบเบาที่หน้าผาก

    Genie : นอนหลับสนิทด้วยสีหน้ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานแล้ว

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    คืนที่ 6

    Genie : ลืมตาตื่นขึ้นมาพลันเงยหน้ามองคนที่นอนข้างๆ และจ้องมองอย่างนั้นอยู่สักพักใหญ่

    Sahib : กระพริบตาถี่เล็กน้อยเพื่อปรับสายตาเมื่อตื่นจากนิทรา อืม...”

    Genie : ตื่นแล้วหรือนายท่าน //เอ่ยทักทายยามเช้าด้วยสีหน้าอารมณ์ดีกว่าทุกวัน

    Sahib : “อืม.. อรุณสวัสดิ์..รีไวล์” ดวงตาสีฟ้าปรือมองอีกคน เป็นยังไงบ้าง หลับสนิทดีหรือเปล่า?”

    Genie : “ข้าไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเช่นนี้มานานมากแล้ว”

    Sahib : "อืม.. ดีแล้ว" หลับตาอีกครั้ง "เช้าแล้วหรือ..แสงในตะเกียงนี่สลัว ๆ ดีนะ.."

    Genie : "สายแล้วล่ะนายท่าน พวกเราออกไปข้างนอกกันเถอะ"

    Sahib : "ลองปลุกข้าแบบสร้างสรรค์ทีสิ..." เอานิ้วมาแตะปาก "ห้ามซ้ำกับครั้งก่อนนะ"

    Genie : "ก็ได้..." ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆข้างหูอีกฝ่าย แล้วกัดจนอีกฝ่ายสะดุ้ง

    Sahib : "อึก !! รีไวล์.. ก็ได้ ๆ ข้าตื่นก็ได้" สะดุ้งเล็กน้อย

    Genie : ยอมปล่อยแต่โดยดี มองใบหูของเจ้านายที่แดงเป็นรอยแล้วลอบขำ

    Sahib : ขยับใบหน้าไปหอมแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยวก่อนจะลุกขึ้นมานั่ง "ขอบใจที่เจ้าทำให้ข้าตาสว่าง" พูดเคล้าเสียงหัวเราะก่อนจะป้องปากหาว

    Genie : ตกใจกับสิ่งที่อีกคนทำเมื่อครู่ ก่อนจะเสกให้เจ้านายของตนกลับออกไปเข้าร่างที่อยู่นอกตะเกียง ส่วนตัวเองนั่งอึ้งอยู่ข้างในนั้น

    Sahib : ยิ้มบางและเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ทันเห็นสีหน้าหรือแก้มระเรื่อของอีกคนในตะเกียง ลุกออกจากเตียงของตนช้า ๆ และเข้าไปชำระร่างกาย

    Genie : "อะไรกันเนี่ย?...เอาคืนที่โดนกัดงั้นเหรอ" ยกมือทาบแก้มข้างที่โดนหอมแก้มเมื่อสักครู่

    Sahib : อาบน้ำอย่างอารมณ์ดี เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับอาภรณ์งดงาม "ข้าออกไปทำงานก่อนนะ เย็นนี้ข้าจะพาเจ้าออกไปขี่ม้านอกเมืองด้วยกัน"

    Genie : "...เข้าใจแล้วนายท่าน" เอ่ยเสียงตอบออกไปผ่านทางตะเกียงแทนที่จะออกไปเจอ

    Sahib : เดินเข้าไปใกล้ที่ตะเกียงพลางยิ้มอ่อนโยนโดยที่ไม่รู้ว่าคนด้านในจะมองเห็น "โกรธข้ารึเปล่า หืม?"

    Genie : "ข้าโกรธนายท่านไม่ลงหรอก..." ตอบอีกฝ่ายผ่านตะเกียงอีกครั้ง

    Sahib : "แล้วทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าหลบหน้าล่ะ ถ้าไม่ชอบก็ออกมาบอกข้าเถอะ" ยิ้มกับเสียงของอีกคนผ่านตะเกียง "ข้าจะได้ขอโทษโดยดี"

    Genie : "ข้าไม่ออก..." ตอบเสียงห้วน

    Sahib : "ข้าอยากเห็นหน้าเจ้าก่อนไปทำงานนะ" ปรับเป็นน้ำเสียงออดอ้อน

    Genie : นั่งลังเลอยู่ในตะเกียง

    Sahib : ถอนหายใจ "ถ้าไม่อยากเห็นหน้าข้าตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ตอนเย็นข้าจะกลับมาใหม่" หันหลังให้ตะเกียงและเดินไปยังประตูห้อง

    Genie : "...!" ออกมาจากในตะเกียงทันทีแต่คลาดกับคนที่เดินออกไปแล้ว

    Genie : นั่งอ่านหนังสือรอฆ่าเวลา จนเผลอนอนหลับไปบนเตียงกว้าง

    Sahib : เดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นร่างบางนอนหลับอยู่จึงเข้าไปนั่งใกล้ ๆ และลูบเรือนผมสีดำอย่างเบามือ

    Genie : ปรือตานิดๆ รู้สึกได้ถึงมือที่ลูบผมอย่างอ่อนโยน

    Sahib : มองเปลือกตาบางที่ปรือขึ้น "ตื่นแล้วหรือ หลับสบายไหม?"

    Genie : ส่ายหน้าช้าๆและยังไม่ลุกขึ้นนั่ง

    Sahib : "อยากนอนต่อหรือเด็กดื้อ ไม่อย่างนั้นข้าจะนอนด้วยคนนะ" ลูบกระหม่อมเบาอย่างทะนุถนอม

    Genie : "ข้าหลับไม่สบายหรอก เพราะนายท่านไม่อยู่ด้วยนี่... "

    Sahib : หัวเราะกับคำตอบนั้น อยากจะโอบร่างบางมากอดแน่นแต่ก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะตกใจ "ออกไปข้างนอกกับข้าไหม? หรืออยากให้ข้านอนเป็นเพื่อนเจ้า ?"

    Genie : "นายท่านจะไปที่ไหนหรือ?" ลุกขึ้นจากที่นอนมานั่งคุย

    Sahib : "ข้าจะพาเจ้าไปขี่ม้าเล่นที่นอกเมือง เจ้าขี่เป็นหรือเปล่า ?"

    Genie : "เคยแต่ขี่อูฐ..." ตอบหน้านิ่ง

    Sahib : "อืม... ถ้าอย่างนั้น เจ้านั่งไปกับข้าดีไหม? ข้าอยากพาเจ้าไปชมอาทิตย์ลับฟ้าที่เนินเขา"

    Genie : "นั่งพรมของข้าไปมันจะไม่เร็วกว่าหรือ?"

    Sahib : "ถ้าขี่ม้าไปจะได้แวะชมเมืองข้างทางด้วย" เอานิ้วแตะหน้าผากของคนทำหน้าง่วงนอนอย่างขบขัน "หรือวันนี้ไม่อยากออกไปข้างนอก หืม?"

    Genie : "ไปสิ...ข้าอยากไป พาข้าไปนะ"

    Sahib : "ได้สิ... ตามข้ามา" กุมมือบางของอีกคนไว้และพาไปยังโรงม้าด้านล่าง

    Genie : "ม้าของนายท่านตัวไหนหรือ?" กวาดสายตามองม้านับสิบๆตัวที่อยู่ที่โรงม้า

    Sahib : เดินเข้าไปและจูงม้าสีดำสนิทที่สูงสง่างามออกมา "นี่คือม้าตัวโปรดของข้า เจ้าลองค่อย ๆ ลูบมันดูสิ"

    Genie : ยื่นมือออกไปช้าๆ และค่อยๆลูบเบาๆ "มันน่ารักดีนะ"

    Sahib : "มันดูท่าจะชอบเจ้านะ" มองดูม้าตัวเก่งของตนที่โน้มคอลงเล็กน้อยรับสัมผัสของอีกฝ่าย

    Genie : โดนเจ้าม้าเลียหน้าไปเล็กน้อย "เดี๋ยวสิ มันจั๊กจี้นะ"

    Sahib : "มาทางนี้สิรีไวล์" อุ้มร่างเล็กขึ้นไปนั่งบนหลังม้าอย่างง่ายดายก่อนจะกระโดดตามขึ้นไป

    Genie : "นั่งอยู่บนนี้แล้วรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ..." รู้สึกแปลกใหม่ที่ได้นั่งหลังม้าเป็นครั้งแรก

    Sahib : กุมบังเหียนพร้อมกับโอบคนตรงหน้าไว้หลวมๆ "ไม่ต้องกลัวนั่งให้สบายเถอะ จับแขนข้าไว้ก็ได้"

    Genie : นั่งอยู่นิ่งๆปล่อยให้เจ้านายของตนบังคับม้าพาออกไปข้างนอก

    Sahib : เดินทางผ่านถนนสายกว้างที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ ตรงไปยังประตูออกสู่นอกเมืองที่ผู้มีตราประทับเท่านั้นที่ผ่านได้

    Genie : ทันทีที่ประตูเมืองเปิด สายลมเข้าพัดปะทะใบหน้าจนผ้าคลุมสะบัดปลิวไหว

    Sahib : ควบม้าออกไปช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เร่งจังหวะ พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ

    Genie : ยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเพราะไม่ได้สวมเสื้อผ้าหนาๆ

    Sahib : บังคับม้ามาหยุดที่เนินแห่งหนึ่ง ที่มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างจรดเส้นขอบฟ้า "หนาวหรือเปล่า?" มองคนในอ้อมกอดก่อนจะเปรยถาม

    Genie : "อา...หนาวแค่นี้เอง ข้าไม่เป็นอะไรหรอก"

    Sahib : ถอดเสื้อคลุมชั้นนอกมาคลุมไหล่บาง "อา.. ดูนั่นสิ" นัยน์ตาสีฟ้าสะท้อนแสงสีแดงจากดวงอาทิตย์ตรงหน้า

    Genie : มือกระชับเสื้อคลุม ส่วนดวงตาสีนิลทอดมองไปยังดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า "สวยเหลือเกิน..."

    Sahib : "ก่อนหน้านี้ ข้าก็ชอบมาคนเดียวอยู่บ่อย ๆ ... แต่พอได้มองพร้อมกับเจ้าแล้ว ก็ให้อีกความรู้สึกหนึ่ง..."

    Genie : "แสดงว่าข้าเป็นคนแรกที่ได้มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่พร้อมกับท่านอย่างนั้นสินะ" เงยหน้ามองคนข้างกายพร้อมกับแสงสุดท้ายที่กำลังจะลาลับ

    Sahib : "ใช่แล้ว... คนที่ข้าอยากจะแบ่งปันความสุขด้วย..."

    Genie : "ข้าไม่รู้จะขอบคุณนายท่านอย่างไรดีที่ทำให้ข้าได้เห็นโลกที่สวยงามที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน" ยกตัวขึ้นยื่นหน้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ

    Sahib : ตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของอีกคน แสงสุดท้ายลับฟ้าไปจนไม่ทันสาดส่องใบหน้าระเรื่อบาง ๆ ของตน "ที่จริง.. รอยยิ้มของเจ้าก็เพียงพอ.."

    Genie : "เปลี่ยนจากรอยยิ้มของข้าเป็นคำขอข้อที่สองไม่ได้หรือนายท่าน" จ้องมองไปที่ดวงตาคู่สีฟ้า

    Sahib : "ความปรารถนาของข้าในตอนนี้ ไม่อยากให้ลุล่วงด้วยการขอพรน่ะ.." ยิ้มบางพร้อมกับสบตาเรียวเล็กตรงหน้าอย่างแน่วแน่

    Genie : ลอบถอนหายใจเบาๆ "ข้าเป็นเพื่อนของท่านแล้วนะ จะบอกข้าสักหน่อยไม่ได้หรือ?

    Sahib : "ข้าอยากอยู่กับเจ้า และรอวันที่เจ้าจะรักข้าด้วยใจจริง หาใช่จากเวทมนต์ไม่..."

    Genie : "ข้ารักและภักดีต่อท่านอยู่แล้วนายท่านเอลวิน ชีวิตของข้า ข้าก็ยกให้ท่านแล้ว"

    Sahib : ถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าลงประกบริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวลและถอนออกในชั่วอึดใจ

    Genie : "นายท่าน...ทำไม?" มองคนที่จุมพิตตนเมื่อครู่โดยที่ไม่ทันตั้งตัว

    Sahib : "ข้าเพียงอยากให้เจ้าเป็นคนรัก หาใช้ผู้รับใช้หรือติดตาม... ซึ่งนั่นคงต้องใช้ใจของเจ้าในการตัดสิน เข้าใจหรือยัง"

    Genie : "...ข้าคงเป็นคนรักของนายท่านไม่ได้ จินนี่เป็นได้เพียงข้ารับใช้ของเจ้านายเท่านั้น"

    Sahib : "ข้า... สามารถขอพร ให้เจ้าเป็นมนุษย์ได้หรือไม่..."

    Genie : "อย่าได้ขออะไรเช่นนั้นเลยนายท่าน ข้าทำไม่ได้..."

    Sahib : "ข้อที่สอง ขอให้เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ในขณะที่อยู่กับข้า และข้อที่สาม วันใดที่ข้าสิ้นใจ เจ้าจะกลายเป็นจินนี่ในตะเกียงตามเดิม โดยที่เจ้าจะยังคงเหลือเพียงความทรงจำที่เปี่ยมความสุขขณะที่เราอยู่ด้วยกัน ... คำขอของข้า... เจ้าทำให้เป็นจริงได้หรือเปล่า?"

    Genie : ดวงตาสีนิลเบิกกว้างกับคำขอทั้งสองข้อนั้น ร่างเล็กสั่นเทาและพยายามควบคุมจิตใจของตัวเอง "...นายท่านจักได้ในสิ่งที่ท่านต้องการ"

    Sahib : "ขอบใจ..รีไวล์"

    Genie : "ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ท่านต้องการ" ไม่อาจฝืนทนกลั้นน้ำตาของตนไว้ได้ หยดน้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

    Sahib : "ข้ารักเจ้า รีไวล์ ในสิ่งที่เจ้าเป็นและในรอยยิ้มของเจ้า" จูบร่างตรงหน้าอย่างหนักแน่นแต่นุ่มนวล ร่างทั้งสองแนบสนิทท่ามกลางสายลมแห่งราตรีสุดท้ายที่คนตรงหน้าจะอยู่ในร่างจินนี่ ก่อนที่ทั้งสองจะเผชิญกับชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ กับความรักในแบบมนุษย์..

     

    End.

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×