ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #15 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER THIRTEEN

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.93K
      54
      27 ต.ค. 56

    [ SEHUN x LUHAN ] THIRTEEN

     

     




     

     

     

              ถึงที่พักแล้วครับ . .

                ขอสงวนชื่อเอาไว้ป้องกันแฟนคลับไทยจะมาขัดจังหวะสวีทของผมกับลู่หานนะ >////< แต่สวีทอะไรนั่นน่ะผมมโนขึ้นมาเอง เพราะอีกคนเขาไม่เห็นแสดงหน้าตายินดีเรื่องที่จะได้มานอนกับผม ตรงกันข้าม เขายังยืนอยู่หน้าประตูและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ราวกับกลัวว่าถ้าเขาเดินเข้ามา ผมจะขย้ำเขาในทันที

                ถึงแม้จะอยากทำ แต่เดินทางมาตั้งหลายชั่วโมงมันก็เหนื่อยแล้วป่ะ

                “ทำอะไรน่ะลู่หาน นี่มันดึกแล้วนะ” เวลาท้องถิ่นของที่นี่คือเกือบตีหนึ่ง ลู่หานยังอยู่ในชุดเต็มยศ และยังคงยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกระเป๋าลากของเขา “รีบเข้ามาพักผ่อนเร็วๆเข้า ยังไม่หายดีไม่ใช่หรือไง”

                “ฉันไม่ไว้ใจนาย” ลู่หานเอ่ยอย่างหวาดๆ “ฉันเปลี่ยนใจ ฉันจะไปนอนกับพี่แจซอก”

                “เห้ย” หน้าผมหื่นขนาดนั้นเลยเหรอ . . ผมรีบเดินเข้าไปใกล้ลู่หาน ลากกระเป๋าเขาเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ “คำไหนคำนั้นดิ ไม่อยากทานส้มตำรึไง” เอาอาหารไทยมาล่อ ปฏิกิริยาตอบโต้ของลู่หานเริ่มดีขึ้นนิดนึง เห็นบ่นว่าอยากลองดูว่ามันเผ็ดจริงแซ่บจริงอย่างที่เขาลือหรือเปล่า “ถ้านายผิดสัญญา นายก็จะไม่ได้ทานส้มตำนะ เงินไทยฉันแลกมาไว้แล้ว” ให้พี่แจซอกแลกเอาไว้ให้ประมาณสิบล้านวอน พี่แจซอกถือมาเป็นกระเป๋าเล็กให้ผมเลย เพราะสิบล้านวอนเป็นเงินไทยนั้นถือว่าเป็นปึกที่ใหญ่มากทีเดียว เกือบสามแสนบาทครับ

                ลู่หานลังเล . . ก่อนที่จะเริ่มทำหน้าสบายใจขึ้น คนป่วยไม่อยากรีบไปพักผ่อนหรือไง ผมไม่เข้าใจ “ดีที่ฉันพกมีดมาด้วย”

                ว่าไงนะ . . ผมมองดูลู่หานเดินดุ่มๆไปเปิดกระเป๋าลาก หยิบสิ่งที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าลากขึ้นมา สิ่งนั้นพันด้วยกระดาษและตรงปลายนั้นดูแหลมคม . .

                มีดจริงๆสินะ . . ผ่านด่านตม.เข้ามาได้ไงวะเนี่ย ???? T_T

                “ฉันจะอยู่กับไอ้นี่ตลอดเวลา ถ้านายทำอะไรฉันล่ะก็ . . . . ชิ้ง กระดาษถูกแกะออกไป เผยให้เห็นใบมีดเงาวับสะท้อนแสงไฟสีส้มของโรงแรม “ฉันไม่รับประกัน . . ชีวิตนาย”

                “จะฆ่ากันจริงๆเหรอเนี่ย” อดไม่ได้ที่จะโอดครวญ

                “ก็นายมันไม่น่าไว้ใจ”

                “เอาเถอะ” ผมลูบหัวอย่างเหนื่อยๆ “จัดของซะ ฉันจะไปอาบน้ำ เอ๊ะ หรือนายอยากอาบก่อน”

                “ฉันอาบก่อน!!!!” ลู่หานร้องขึ้นมา กระโดดเหยงๆเปิดกระเป๋าเดินทางเตรียมอาบน้ำเต็มที่ ผมยิ้มกับท่าทางของเขา สงสารพรุ่งนี้คงหายเป็นปลิดทิ้งไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง ร่างกายของเขาฟื้นตัวเร็วดีชะมัด “มองอะไร หลบไปทางนู้นเลย”

                “อ๋อ อื้อ เร็วๆนะ ง่วงแล้ว . .” ผมเดินไปรอที่เตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อไวไฟโรงแรมและก็เล่นรอเพื่อที่จะอาบน้ำเป็นคิวถัดไป

                ห้องผมเป็นห้องเตียงเดี่ยวครับ คือที่ๆผมเคยพักส่วนใหญ่จะเป็นเตียงคู่และผมก็นอนกับพี่แจซอก ทีนี้เจ๊ใหญ่ได้ยินว่าผมมีผู้จัดการสองคนเจ๊ก็เลยให้ทีมงานจองห้องเตียงเดี่ยวที่ราคาแพงสุดๆให้ ที่ว่าแพงก็เพราะห้องนี้เป็นห้องสูทของโรงแรม ทั้งใหญ่และก็หรูเอามากๆไม่รู้ตกคืนละกี่หมื่นกี่แสนของที่นี่ สงสัยเธอคงอยากให้รางวัลผมมั้ง เพราะผมทำให้ค่ายของเธอติดอันดับหนึ่งของเกาหลี รายได้เป็นกอบเป็นกำ . .

                แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ . . มันกว้างขนาดนี้ลู่หานจะนอนบนเตียงกับผมมั้ยล่ะ โซฟาปลายเตียงก็มี หน้าทีวีก็มี ริมหน้าต่างก็มี มีให้ลู่หานเลือกอิดออดไม่นอนบนเตียงตั้งสามที่ เซฮุนล่ะกลุ้มใจ . . ทำไงดีวะ . .

                “ฉันเสร็จแล้ว” เพราะอากาศร้อน ลู่หานเลยไม่ลังเลที่จะอาบน้ำทั้งๆที่ตัวยังรุ่มนิดๆ ลู่หานอยู่ในชุดนอนลายทางสีฟ้าอ่อน เส้นผมของเขาเปียกนิดหน่อย . .



                น่ารัก T_T


                “เซฮุน ถึงคิวนายแล้ว รีบอาบเร็วๆเข้า พรุ่งนี้ต้องตื่นตีห้านะ ที่นี่รถติดมาก”

                “ขะ เข้าใจแล้ว” มองลู่หานในชุดนอนตัวหอมๆเดินผ่านไปมา นี่ขนาดอยู่ห่างสามสี่เมตรยังหอมลอยมาขนาดนี้ และถ้าอยู่ใกล้ๆล่ะ . .


                ซอกคอ . . ที่ผมเคยสัมผัส


                ชิ้ง . . ไอ้มีดโสมมนั่นส่องแสงขึ้นมาขัดอารมณ์ผมจริงๆ มันถูกวางไว้ที่โต๊ะมุมห้อง ผมไม่น่าให้มันอยู่ในสายตาของผมเลย . . ไอ้มีดเวรเอ๊ย . . จะทำงานดีไปไหน หวงนักหรือไงเจ้านายของเอ็ง ให้มันรู้ซะมั่งว่าของใครเป็นของใคร หึหึ

                ชิ้ง ชิ้ง . . ที่ต้องมีหลายชิ้งเพราะลู่หานหยิบมีดขึ้นมาดูเล่น

                “นายจ้องมีดทำไมเหรอ”

                ให้ตายสิ . . ผมเพิ่งทะเลาะกับมีดมา . . “เอ่อ ฉันไปอาบน้ำแล้ว”

                หยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาและก็หายจ๋อมเข้าไปในห้องน้ำ พลางคิดว่าจะเอามีดนั่นไปซ่อนไว้ที่ไหนดี ???



     

                ออกมาจากห้องน้ำอีกทีไฟในห้องก็ปิดหมดแล้ว ผมเช็ดผมของผมช้าๆพลางเดินหาอีกคนที่เป็นรูมเมทของผม ไม่รุ้ว่าเขาอยู่ที่ไหน . . เห็นเงาตะคุ่มๆที่โซฟาหน้าทีวี ผมก็รู้เลยว่าเขาเลือกที่จะนอนโซฟาไหน

                ทำไมแทงหวยไม่เคยถูก . . ลู่หานน่ะเหรอจะยอมนอนเตียงเดียวกับผม แค่นอนห้องเดียวกันก็บุญถมเถแล้ว “เฮ้อ” ผมถอนหายใจ ถ้านอนไกลขนาดนั้นมีดก็ไม่มีประโยชน์แล้วมั้ง

                ผมเดินเข้าไปใกล้ลู่หาน อาศัยแสงไฟจากระเบียงมองลู่หานขณะหลับ . . เอ๊ะ ตรงนี้แอร์เย็นแฮะ แอร์มันตกลงมาตรงนี้พอดีเลย ผมมองที่ลู่หาน เขาใช้ผ้าขนหนูฟรีจากโรงแรมมาห่มนอน ไม่ได้นะ ใช้ได้ที่ไหนกัน . . เดี๋ยวก็เป็นหวัดเพิ่มขึ้นมาอีกหรอก

                “ลู่หาน ไปนอนบนเตียง ตรงนี้มันหนาว” ผมปลุกเขา แต่ผมไม่เชื่อว่าเขาจะหลับได้เร็วขนาดนั้น

                “ฉันไม่เป็นไร” ลู่หานพูด แต่ก็พูดทั้งๆที่นอนขดจนตัวสั่น “นายไปนอนได้แล้ว รีบๆพักผ่อนซะ ตื่นตีห้า”

                “ฉันจะไม่นอน ถ้านายไม่นอนบนเตียง”

                “เซฮุน เล่นแง่อะไรอีก ดึกแล้วนะ ไม่มีอารมณ์เล่นด้วยนะ”

                “ไปนอนบนเตียง”

                “เซฮุน”

                “ถ้านายไม่ไป ฉันก็ไม่นอน”

                แสงไฟจากระเบียงตกกระทบใบหน้าของลู่หานที่เริ่มทำหน้าเซ็ง “ก็ได้ๆ แต่นายต้องไปนอนที่อื่นนะ”

                “

                “ฉันหวงทุกที่ที่ฉันนอน” เขาพูดไปเดินไป หึ นายก็หวงทุกอย่างยกเว้นฉัน . .


                ลู่หานทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ผมห่มผ้านวมอย่างดีให้ ลู่หานตกใจกับความนุ่มมหัศจรรย์ของเตียงในห้องสูท สบายใช่มั้ยล่ะ . . เขายกผ้าห่มขึ้นมาปิดครึ่งหน้า จนโผล่ออกมาแค่ดวงตากับหัวทุยๆของเขา “แล้วนายนอนไหนอะ”

                ผมมองไปที่ริมหน้าต่าง โซฟาน่านอนตั้งอยู่ตรงนั้น “นั่นมั้ง”

                “อื้ม ฝันดีนะ ขอบใจที่ยกเตียงให้” พูดจบเขาก็หลับตาไปเลย


                ง่ายจังนะ . . หมั่นไส้จริงๆเลย


                ผมหยิบหมอนอิงสองใบบนเตียงและก็เดินไปยังฐานทัพริมหน้าต่างของผม ทิ้งตัวนอนลงเอาผ้าขนหนูแจกฟรีของโรงแรมมาห่ม(ของลู่หานนั่นแหละ) นอนตรงนี้เห็นลู่หานชัดเจนเลยแฮะ . .

                จริงๆที่นอนมันก็มีผ้าหลายชั้น เอามาทำผ้าห่มได้ แต่พอเห็นเขานอนหลับสบายอย่างนั้นแล้ว ผมก็ไม่อยากขัด

                ขนตายาวของลู่หานแผ่บนเปลือกตาที่กำลังหลับพริ้มอย่างเป็นสุข ดวงหน้าที่โผล่พ้นผ้าห่มขึ้นมานิดหน่อยนั้นสะท้อนกับแสงจันทร์ เข้ากับผ้านวมสีขาวที่ทับอยู่บนร่าง



              สวย . . ราวกับภาพวาด






                ผมจะหลับลงได้ยังไง . .




                ผ่านไปนานหลายนาทีผมคิดว่าลู่หานน่าจะหลับแล้ว . . (และไอ้มีดนั่นก็ไม่น่าจะโผล่มาแย่งซีนผม) ผมก็ค่อยๆย่องเข้าไปที่เตียง เปิดผ้าห่มนวมขึ้นมาช้าๆไม่ให้ลู่หานรู้สึกตัวและก็ยัดตัวเองลงไปในนั้นซะเลย

                เตียงนี้มันกว้าง ลู่หานอยู่ห่างจากผมไปนิดหน่อย . . เขาหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ท่าทางจะหลับไปแล้วจริงๆ

                ถึงคราวที่ผมต้องหลับบ้างสินะ . . ผมมองผมด้านหลังของลู่หานเป็นครั้งสุดท้าย และตัดสินใจหลับตานอน




                .


                .


                .



                คิดว่าผมหลับป่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


                ไอ้ความรู้สึกที่ว่าอยากกอดอยากจูบอยากหอมอยากดอมดมคนข้างๆนี่มันอะไร!!!! ทำไมมันเริ่มกัดกินพื้นที่สมองผมทีละน้อยๆให้ผมทำตามใจอยากล่ะ!!!! ไม่ได้นะ ลู่หานจะฆ่าเอานะ!!!! นิ่งไว้ เซฮุน เอ็งนิ่งไว้ . .

                แต่ลู่หานอาจจะหลับไปแล้วจริงๆนะ . .

                แค่กอด . . เขาคงไม่รู้สึกหรอกมั้ง . .

                ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ลู่หานที่กำลังหลับปุ๋ย กวาดแขนขวาไปช้าๆและโอบรอบเอวลู่หานอย่างแผ่วเบา

                นั่นไง . . ลู่หานหลับไปแล้วจริงๆ . .

                ผมเลยฉวยโอกาสเอาหน้าซุกซอกคอของลู่หานซะเลย สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆให้มันหายอยาก

                หอม . . หอมชิบหาย TT

                หอมจนไม่อยากให้คนอื่นมาดมนอกจากผม . . มันคนไหนอยากทำต้องข้ามศพผมไปก่อน!!!! (เตรียมตัวตายสามล้านแปดแสนหนนะคะโอเซฮุน)

                “ฮะ อะไรน่ะ เซฮุน” ลู่หานดิ้นพล่าน เขาตื่นแล้ว . .

                แต่อยู่ในอ้อมกอดผม และอยู่ใต้ผ้าห่มแสนจะอบอุ่น เขาจะไปไหนได้ . .

                “ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย” เขาหันหน้ากลับมาขู่ผม . . นั่นยิ่งทำให้ผมกอดเขาแน่นเข้าไปใหญ่ ใช้สูตรโกงโดยเอาขามาเกี่ยวมันตอนอยู่ที่บ้านลู่หานด้วย เขาจะดิ้นไปไหนได้ “เซฮุน ฉันจะฆ่านาย!” ลู่หานเอื้อมมือจะไปหยิบมีดที่ตรงหัวเตียง เอาจริงเหรอนั่นน่ะ!

                ผมยิ่งกระชับอ้อมกอดใหญ่เลย โชคดีที่คนในอ้อมกอดของผมแขนสั้น เขาเอื้อมไม่ถึง

                ผมใช้มือเชยคางลู่หานให้หันมาสบตากับผม “นี่ อยากให้ตายจริงๆเหรอ”

                นัยน์ตาของลู่หานสั่นระริก . . “อะ เออดิ!

                “งั้นฆ่าเลย” ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น คู่ที่อยู่ห่างจากผมแค่ห้าเซนต์ ลู่หานหลุบตาต่ำหลบ และก็ดิ้นพล่าน



                “ก็ปล่อยฉันสิ!



                ใครมันจะไปอยากตายเล่า . . “นิ่งๆเลยนะ นอนเดี๋ยวนี้เลย” ผมจับแก้มลู่หานและก็จ้องเขาเพื่อที่จะบังคับ

                ลู่หานสู้ด้วย ฮ่าๆๆ เขาก็จ้องมองผมเขม็งเหมือนกัน “ปล่อยฉันนะ”


                “คิดว่าฉันจะปล่อยมั้ย”

                “จะปล่อยมั้ยล่ะ”




                จุ๊บ . .




              “ไอ้เชี่ยเซฮุน!!!!!!!!! ลู่หานสบถ



                ผมเอาลิ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างยิ้มๆ . . “หวานจัง”

                อั้กๆๆ ลู่หานทุบอกผม “ไอ้บ้า ไอ้ไม่รักษาสัจจะ! ใส่บ๊อกเซอร์ไปสนามบินเลย!

                “แค่จุ๊บเบาๆเองนะ” ผมโวย . . เจ็บใช่เล่น แต่ผมก็ไม่ปล่อยคนในอ้อมกอดหรอกนะ

                “มาโดนเองดูบ้างมั้ยล่ะ”

                “ก็จุ๊บเค้ามาสิ” . . ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ลู่หานที่พยายามเอียงคอหลบสุดๆ แต่พื้นที่มันก็มีแค่นี้ จะหลบไปไหนพ้น “จูบก็ได้ เค้ายอมทุกอย่างเลย”

                “นายนี่มัน . .” อั้ก! ผมโดนทุบอีกครั้ง . . “ไม่พูดด้วยแล้ว”

                “จะได้นอนกันซักที”

                “โอเซฮุน!!!!

                “งอนใช่มั้ย ง้อพรุ่งนี้นะ ง่วงแล้วอ่า” ผมแกล้งหลับเอาหน้าผากตัวเองซบกับหน้าผากลู่หาน

                “นี่!!!!!!

                “หลับเถอะนะ นะนะนะ” ผมพูดเบาๆ . .

                ลู่หานพ่นลมหายใจแรงจนหน้าผมรู้สึกร้อน แต่กระนั้นลมหายใจนั้นก็แผ่วลงเรื่อยๆ ลู่หานนิ่ง . . นิ่งจนผมต้องแอบลืมตาขึ้นมาดู

                ดวงตากลมแป๋วนั่นกำลังจ้องมองมาที่ผม . . ใกล้มาก ใกล้จนผมนึกอิจฉาตัวผมเอง

                “หลับสิ” ผมบอกเขา

                “ใครจะไปหลับลง”

                “นี่ พรุ่งนี้ต้องทำงานนะ” ถึงคราวที่ผมเอางานมาอ้างบ้าง . .

                “ก็มันอึดอัดนี่ ถูกกอดแบบนี้ แถมยังมีคนมาหายใจรดแบบนี้อีก” ลู่หานบ่นอุบ เสียงนั่นทำให้ผมหัวเราะเบาๆ . . “น่าขำตรงไหน”

                “ขำดิ คิดเหมือนฉัน ฉันเองก็อึดอัด”

                “งั้นก็รีบๆปล่อย!!!” อ้าว หงุดหงิดซะงั้นอ่ะ . . ตามอารมณ์ไม่ทันแฮะ

                “ยังไงเนี่ย”

                “ปล่อย!

                “ไม่ปล่อยหรอกกกกกกกกก” ผมพูดเสียงอู้อี้ ใช้จมูกคลอเคลียแก้มของลู่หานราวกับต้องการงอนง้อและก็ต้องการอ้อนเขา “แบบนี้ก็ดี ดีกว่านอนคนเดียวเยอะเลย”

                ลู่หานเอียงคอหลบผมเป็นการใหญ่ “หยุดนะ ถ้ามากกว่านี้ฉันจะถีบนายและก็จะไปนอนที่อื่น”

                “หยุดเดี๋ยวนี้เลยครับ” เอาหัวกลับมาวางที่เดิมและก็ทำท่าหลับ “หลับกันนะๆ”



                “อืม” ในที่สุดลู่หานก็ยอมนอนง่ายๆ . . เหนื่อยใช่เล่น




                . . แต่ก็มีความสุขดี




                ผมจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของลู่หานที่หลับตาอยู่ ยังไงเขาก็รู้สึกว่าผมทำ . . เพราะตาของเขาหลับปี๋แบบสุดๆแถมเปลือกตาก็ยังสั่นระริก

                แต่ไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น . .







                “คนนี้ . . เซฮุนจองแล้วนะ”








                อั้ก! ผมโดนทุบอกอีกรอบ และลู่หานก็มุดหน้าลงไปซบกับอกของผมแทน
















     

                รู้สึกตัวตอนเช้าผมก็คลำหาคนที่นอนอยู่ข้างๆทันทีราวกับว่าเป็นสัญชาตญาณ พบว่ามีแต่เตียงนอนเปล่าๆและก็หมอนหนึ่งใบเท่านั้น

                ลู่หานไปไหน . .

                ชิ้ง . . ลู่หานถือมีดนั่งอยู่ข้างๆเตียง สาบานได้จากที่งัวเงีย ผมงี้สะดุ้งลุกขึ้นมานั่งพร้อมหนีทุกเมื่อ

                “อะไรอ่ะ! แต่เช้าเลยรึไง”

                “เปล่า กำลังจะหาที่ซ่อน เดี๋ยวจะมีแม่บ้านขึ้นมาเก็บห้อง” ลู่หานอยู่ในชุดพร้อมไปทำงานเรียบร้อยแล้ว กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตสีสุภาพ “ตื่นได้แล้ว ตีห้าครึ่งแล้วนะ”

                “ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย” ผมบอกกับเขา เดินไปหยิบผ้าขนหนูและก็เดินเข้าไปในห้องน้ำทันที . . ไอ้มีดบ้านั่น ผมจะส่งซิกกับแม่บ้านให้เธอหยิบมีดของลู่หานไปหั่นผักหั่นปลาที่บ้านซะ มันจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระของผม ว่าแต่ผมจะสื่อสารกับแม่บ้านไทยยังไงดี ภาษาไทยผมนี่อ่อนด๋อยสุดๆ “ลู่หาน ชุดฉันล่ะ” อาบน้ำเสร็จผมก็เดินออกมาพร้อมๆกับพันผ้าขนหนูไว้รอบเอว ดวงตาลู่หานจ้องมองทีวีอยู่ ไม่ได้สนใจผมเลย “ลู่หาน ชุดฉัน??”

                เขาไม่ได้ยินหรือไงเนี่ย ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆเขา . . และพอลู่หานหันมาเห็นผม เขาก็รีบหันหน้าหนี

                “อยู่นั่น” ชี้ส่งๆไปที่ตู้เสื้อผ้า “รีบใส่ชุดเลย จะมีคนเข้ามาแต่งหน้ากับทำผมให้ เร็วๆเข้า”

                “และมันอันไหนล่ะ มาหยิบให้หน่อย”

                ลู่หานส่งเสียงไม่พอใจเล็กๆ ค่อยๆเดินแบบเลี่ยงที่จะมองมาที่ผม หยิบเสื้อผ้าส่งให้

                ผมรับมา มองเขางงๆว่าเขาเป็นอะไรไป . . “อะไรของนาย ผิวฉันขี้กลากขึ้นรึไง ทำไมรังเกียจขนาดนั้น”

                “ใส่ชุดเหอะน่า!!!!” ตะโกนซะลั่นห้อง โอเค ใส่ชุดก็ได้ . .

                งานแรกคือไปออกรายการสองรายการติดแต่เช้าเลยครับ ผมเดินออกมาจากโรงแรมพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดของแฟนๆที่มารอรับ และก็มุ่งตรงไปยังสถานที่ถ่ายรายการ มีล่ามไทยมาอธิบายว่ารายการนี้ดังยังไง และถ้าผมไปออกผมจะมีผลตามมายังไงบ้าง และเขาจะถามอะไร เธอยื่นสคริปต์มาให้ผม และก็ให้ผมฝึกพูดภาษาไทยอีกตั้งหลายคำ

                ก็เสร็จไปได้ด้วยดี แปลกแต่จริงที่แฟนชาวไทยตามผมไปทุกที่ ผมชอบพวกเธอมากเลยครับ นอกจากพวกเธอจะชูป้ายเชียร์ผม ร้องเรียกผม ให้กำลังใจผมตลอดแล้ว ยังส่งน้ำส่งขนมมาให้อีก

                พวกเธอซัพพอร์ตผมไม่พอ พวกเธอยังซัพพอร์ตผู้จัดการคนสวยของผมด้วย ครั้งแรกที่เขาได้ของ เขาอึ้งมาก เพราะอยู่ที่เกาหลีมีแต่คนฝากของให้ผม ไม่เคยมีใครให้ของเขามาก่อนเลย

                เขาจ้องมองถุงในมือเอาเป็นเอาตาย ตอนที่ผมกำลังจะเคลื่อนย้ายไปถ่ายโฆษณาตอนสายและจะถ่ายแมกกาซีนยาวไปถึงดึกดื่นค่อนคืนนี้เลยทีเดียว จริงๆแล้วมีงานในส่วนของวันพรุ่งนี้ด้วย แต่พี่แจซอกบอกดูเหมือนทีมงานชาวไทยจะเลื่อนเข้ามา ว่ายังไงก็ว่าตามกัน เพราะถ้าพรุ่งนี้ผมว่างทั้งวันล่ะก็ . .

                ผมจะได้พาลู่หานไปเที่ยว ^^

                ย้อนกลับมาที่ถุงของฝากในมือของลู่หานก่อน . .

                “อะไรอ่ะ” ผมถาม รู้ว่าเป็นของฝากจากแฟนไทยของลู่หาน แต่อยากรู้ว่าข้างในคืออะไร

                “ไม่กล้าเปิด” ลู่หานหันหน้ามาสารภาพ “เขาห่อมาดีมาก”

                ฮ่าๆๆๆ ผมแอบหัวเราะขำและก็หยิบหนังสือแมกกาซีนที่จะไปถ่ายแบบขึ้นมาดู ตอนนี้ข้างนอกรถติดมาก คงอีกนานกว่าถึงสตูดิโอที่ถ่ายทำ

                “อิจฉาอ่ะลู่หาน ฉันอิจฉา” พี่แจซอกกำลังใช้พัดลมจิ๋วที่แฟนไทยให้มา “ดูของฉันสิ พัดลมโดราเอมอน”

                “โหย พี่แจซอก เขาอุตส่าห์ให้มา ใช้ๆไปเหอะ”

                “ใช่สิเซฮุน ใครจะเหมือนนาย ข้างหน้านั่นหลุยส์มั่งแหละ แอร์เมสมั่งแหละ ชิ”

                ผมยักไหล่อย่างขบขัน ขณะเหลือบมองดูลู่หานแกะกล่องของขวัญอย่างช้าๆ มือของเขาสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น นี่ถ้ารู้ว่าเขาตื่นเต้นที่จะได้ของขนาดนี้ ผมซื้อให้เขาตั้งนานแล้ว . .

                จะว่าไป . . ผมก็ยังไม่ได้ซื้ออะไรให้เขาเป็นชิ้นเป็นอันเลยนี่นา เลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมเลี้ยงชานมไข่มุกมันคือเรื่องที่แสนจะธรรมดาไปแล้ว

                “ว้าว” ลู่หานทำตาโต กระเป๋าสตางค์หลุยส์วิคตองอยู่ในมือเขา

                “นี่ฉันเริ่มสงสัยแล้ว ว่านายเป็นผู้จัดการหรือไอดอลกันแน่ ดูแฟนคลับให้ของสิ” พี่แจซอกมองตาละห้อย

                “ไหนดูซิ” ผมเอื้อมมือจะไปแตะ

                เพี๊ยะ!

                “นี่ของฉันนะ!

                คุณคนที่ให้กระเป๋าตังค์ลู่หาน สบายใจได้เลยครับ . . ไอ้สิ่งไหนที่ผมแตะไม่ได้ มันคือสิ่งที่ลู่หานเรียกว่าของๆเขาได้เต็มปากเต็มคำ







                ตลอดทั้งบ่าย . . ผมทำงานหนักมากจริงๆครับ คือผมอยากมีอะไรมาอธิบายให้มากกว่านี้จริงๆ แต่คำว่าทำงานหนักน่ะเป็นอะไรที่เหมาะกับผมที่สุดในตอนนี้แล้ว ผมต้องถ่ายแบบประมาณสิบชุดและก็สัมภาษณ์ลงในสกู๊ป และไม่ใช่แค่นั้น ผมต้องถ่ายอีกเล่มในเวลาต่อมาเช่นเดียวกัน(ครั้งนี้ดีหน่อยที่ได้ลงแค่เนื้อหาข้างในไม่ใช่ปกตามที่คุยไว้ แต่อะไรก็ช่างเถอะ เสร็จเร็วๆก็พอ เหนื่อยTT) หลังจากนั้นผมก็ต้องไปถ่ายโฆษณาที่สตูอีกที่ตอนเวลาที่ใกล้จะโพล้เพล้และก็ถ่ายอยู่ชานเมืองกรุงเทพโน่น กว่าจะนั่งรถไปถึง กว่าจะฝ่าด่านรถติดของกรุงเทพ เรียกได้ว่าเหนื่อย เหนื่อย และก็เหนื่อยมากจริงๆครับ

                ถ่ายโฆษณาเสร็จประมาณสี่ทุ่ม ผมเดินโซซัดโซเซขึ้นรถตู้ในขณะที่ลู่หานหอบของตามมา รอฤกษ์ที่จะได้กลับโรงแรมกันซะที แต่พี่แจซอกกับคนขับยังไม่มาเลย

                คืนนี้ผมจะหลับเป็นตาย . . ลู่หานก็คงจะหลับเป็นตายเช่นกันอย่างแน่นอน

                พอขึ้นรถปุ๊บ ผมรู้สึกได้ปั๊บว่ามันร้อน คนขับรถที่เป็นคนไทยยังไม่มา ตอนนี้เหงื่อผมก็เลยไหลออกมาเป็นทางน้ำหลาก

                ลู่หานหากระดาษแถวนั้นมาพัดให้ ในขณะที่ผมหลับตาลง ไม่อยากจะเม้าว่าวันนี้เขาดูแลผมดีมาก ไม่เหมือนเมื่อคืนที่ฆ่าผมอยู่หยกๆ ไม่ว่าผมจะทำอะไรและอยู่ไหน ก็จะมีเขาอยู่ด้วยเสมอโดยที่ผมไม่ต้องขอ(ไม่รู้ว่าเพราะเขาพูดภาษาไทยไม่ได้รึเปล่า เขาถึงตามติดผมแจ) คอยเช็ดหน้าคอยส่งน้ำมาให้ผมดื่ม แต่ตอนเช็ดหน้า ไม่รู้ทำไมต้องรีบเช็ดรีบเสร็จก็ไม่รู้ ผมแค่มองหน้าเขานิดหน่อยเอง เขาก็เช็ดๆๆอย่างแรงไม่ได้สนใจเลยว่าเมคอัพบนหน้าผมจะหลุดเอา

                ไม่เชื่อผมจะทำให้ดูก็ได้ . .

                “เหงื่อเต็มเลย เช็ดหน้าให้หน่อย” ผมพูดเสียงเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ตอนนี้ลู่หานเหมือนไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่น นอกจากสวัสดิภาพของดาราของเขา . . เขาติดกับผมแล้ว

                “แป๊บนึงนะ” ลู่หานร้อนอกร้อนใจมาก ควานหากระดาษทิชชูสำหรับซับหน้าอย่างดีในเป้ของเขา “ไหน เหงื่อตรงไหน ฉันมองไม่เห็น”

                “นี่ๆ ตรงนี้” ผมหันหน้ามาหาเขาเต็มๆให้เขาเช็ดให้

                ลู่หานเริ่มเช็ดหน้าให้ผมอย่างแผ่วเบา ผมลืมตาขึ้นมา จ้องหน้าลู่หานอยู่นาน และตอนที่เขารู้ตัว เขาก็เริ่มเช็ดให้ผมแบบลวกๆเหมือนรีบทำรีบเสร็จ “โอ้ยๆ ฉันเจ็บนะ” ผมบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม TT

                “เหงื่อหมดแล้ว” ลู่หานเอียงตัวกลับไปนั่งที่เดิม

                ผมหน้ามุ่ย . . “ยังไม่หมด” . . ทักษะการเรียกร้องความสนใจของโอเซฮุนนั้นมากกว่าระดับสิบเต็มสิบ

                “หมดแล้ว”

                “นี่ฉันทำงานมาเหนื่อยๆนะ ดูแลฉันหน่อยสิ” ผมอ้อน ลู่หานหันกลับมามอง ท่าทางเขาสงสารผมเหมือนกัน วันนี้เขาคงรู้ว่ามันเป็นวันที่หนักสำหรับผมมาก

                “อยากได้อะไรล่ะ” ลู่หานพูดขึ้นเสียงเบา ทั้งๆที่ไม่มองหน้า . .

                ผมยิ้มกริ่ม ก่อนจะเอียงคอไปกระซิบข้างหูลู่หาน “คืนนี้ขอนอนกอดหน่อยนะ”

                ลู่หานหันหน้ามาหาผม ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ และก็ชี้หน้าด่าผม “ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!

                “ฉันเปล่านะ” ผมยกมือสองมือขึ้นราวกับยอมรับผิด

                “นายนี่มัน . .

                “ฉันมันอะไร . . หล่อเหรอ หล่อที่สุดในปฐพี หล่อกว่ารุ่นพี่อีมินโฮ ชมกันมาตรงๆเลยก็ได้ คิกคิก”

                “มินโฮฮยองหล่อกว่านายตั้งเยอะ” ลู่หานเปรย

                นั่นทำให้ผมสติแตก “อะไรกัน เขายังเคยชมว่าฉันหล่อเลยนะ!

                “ก็ฉันไม่ได้ยินกับนายนี่”

                “เอาใหม่ ฉันหรือพี่มินโฮหล่อกว่ากัน!

                “พี่มินโฮสิ”

                จากที่ผมวินอยู่หยกๆทีนี้ลู่หานก็พลิกโผขึ้นมาวินจนได้ เพราะเขารู้วิธีทำให้ผมสติแตก ผมหน้ามุ่ย หยิบหนังสือบางๆในรถตู้ขึ้นมาพัดให้ตัวเอง

                วินไปก่อนเหอะ คืนนี้แหละ . . นายจะต้องแพ้ฉัน ลู่หาน . .

     

     

     

     

     

                พอกลับมาถึงโรงแรม . . พี่แจซอกเซอร์ไพรส์ผมด้วยการส่งทีมสัมภาษณ์อีกทีมมาสัมภาษณ์ผมที่ล็อบบี้ ผมนี่แทบจะลงไปดิ้นกับพื้นและก็นอนร้องไห้ นึกว่าจะได้ขึ้นไปนอนหลับพักผ่อน แต่ที่ไหนได้ก็ต้องมาทำงานต่อ ให้ตาย . .

                พี่แจซอกกระซิบบอกว่าเขาใช้เส้นเพื่อนคนไทยของเขาในการยัดตารางงานทั้งหมดของผมลงในวันนี้วันเดียว เพื่อที่เขากับผมจะได้ไปเที่ยวเมืองไทยได้ในวันพรุ่งนี้แบบเต็มๆวัน ตอนแรกก็อยากจะโวยวาย แต่พอมองหน้าผู้จัดการคนสวยที่นัยน์ตาปรือเพราะเริ่มง่วงนั่น ผมก็ต้องยอมทนเหนื่อยต่ออีกนิดหน่อย คงมีดาราน้อยคนนักที่จะมายัดตารางงานลงในวันเดียวแบบนี้ ผมนี่แหละมั้งคนแรก . . เห้อ

                เรียกได้ว่าสัมภาษณ์ไปผมแทบจะหลับไป . . ทีมงานจากเกาหลีของผมทุกคนก็รวมพลังใจฮึดสุดท้ายด้วยการทำงานนี้ร่วมกันให้สำเร็จ พรุ่งนี้จะได้แยกย้ายกันเที่ยวได้ตามอำเภอใจ

                พี่แจซอกย้ำนักย้ำหนาว่าถ้าจะไปไหนให้ไปกับเขา เพราะถ้าผมไปกับลู่หานสองคน อาจถูกมองว่าเป็นไอดอลเกาหลีหลงประเทศก็เป็นได้ และจะโดนรุมในไม่ช้า . .

                หึหึ . . โทษฐานที่พี่ยัดงานให้ผมเหนื่อยสายตัวแทบขาด พี่คอยดูพรุ่งนี้ก็แล้วกัน . .

     

     

     


     

     

                พอถึงห้องที่โรงแรมปุ๊บ ผมก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงปั๊บ . . หลับตา เตรียมนอนทันที

                “เซฮุน ทำไมไม่ถอดรองเท้าล่ะ” ลู่หานร้องทัก          

                “อือออออ” มันเหนื่อยอ่ะ TT จึงได้แต่ส่งเสียงแบบนี้ตอบกลับไป แรงจะพูดยังไม่มีเลย

                “เฮ้อ เด็กสี่ขวบจริงๆเลย” ลู่หานเดินเข้ามาจับรองเท้าผม

                นั่นทำให้ผมต้องลุกขึ้นนั่งถอดรองเท้าเองแต่โดยดี ผมเกรงใจลู่หานจะตายไป ไม่อยากให้เขามาถอดรองเท้าให้ แต่พอถอดเสร็จ ผมก็ล้มลงไปนอนในท่าเดิม คือนอนหงายอล่างฉ่าง

                “เซฮุน เมื่อกี้เพิ่งเติมหน้ามาไม่ใช่เหรอ ต้องล้างหน้าก่อน ถ้านายเป็นสิวฉันจะโดนรองประธานว่าเอานะ”

                คราวนี้ผมเงียบ . .

                “เซฮุน!!!” ลู่หานเขย่าตัวผม แต่ผมยังคงหลับอยู่ “อา ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”

                “อ้อนสิ” ผมโพล่งขึ้นมาทั้งๆที่ตายังหลับอยู่

                “อ้อน อ้อนอะไรเล่า”

                “อ้อนสิ เซฮุนนี่ของเสี่ยวลู่ไปล้างหน้าเถอะนะ เซฮุนนี่ของเสี่ยวลู่ไปอาบน้ำเถอะนะ ปุอิ๊งๆๆ ไรงี้” ผมเป็นคนที่มีทักษะการแสดงสูงมาก ผมพูดสิ่งเหล่านั้นทั้งๆที่ไม่ลืมตาและก็อยู่ในอารมณ์ง่วงนอนสุดๆได้ ผมนี่เมพจริงๆ (อินเนอร์มาจากอารมณ์ง่วงของเอ็งมั้ง - -“)

                “ย่าห์!!!” ลู่หานทุบอกผม ที่เดิมเหมือนเมื่อคืนเด๊ะๆเลย ป่านนี้คงมีรอยช้ำไปแล้ว “เลิกเล่นแล้วไปอาบน้ำล้างหน้าเดี๋ยวนี้เลย เร็วๆเข้า!!!!

                “นี่อ้อนหรือบังคับวะ”

                “จะไปไม่ไป”

                “ไม่อ้อนจริงอ่ะ” ผมลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งเพื่อดูหน้าลู่หาน ตอนนี้เขาเหมือนยักษ์ตัวเล็กๆกำลังโกรธ ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลย

                “ไม่อ้งไม่อ้อนอะไรทั้งนั้นแหละ เร็วๆเลย”

                “ลู่หานนนนนนนนนน” ผมเขย่าแขนเขา . .อ้าวชิบหาย กลายเป็นผมที่อ้อนเขาซะงั้น

                “ถ้านายไม่ลุกขึ้นภายในสามวิ ฉันจะไปนอนกับพี่แจซอกจริงๆด้วย” ลู่หานพูด ว่าไงนะ เห้ย เอาจริงเหรอเนี่ย “หนึ่ง . . สอง . .

                “ไปแล้วๆๆ ไปแล้วววววววววววว” ผมลุกขึ้นและก็เข้าไปในห้องน้ำทันที เซ็ง นึกว่าเขาจะยอมอ้อนผมซะแล้ว

                สาบานได้ว่าผมได้ยินเสียงลู่หานหัวเราะตามหลังมาด้วย . .

               

     

     

                ตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จและเดินมาที่เตียง เห็นลู่หานกำลังหลับในท่าที่เขาเองคงไม่คิดว่าจะหลับในท่านั้นเป็นแน่ คือเผลองีบไปน่ะ ท่าทางเขาจะเหนื่อยเหมือนกัน

                “หือ เสร็จแล้วเหรอ” เขาลุกขึ้นมาขยี้ตาและก็จะเดินไปอาบน้ำ “รีบนอนเลยนะ พรุ่งนี้อาจจะมีตารางงาน กี่โมงก็ไม่รู้พี่แจซอกไม่ได้บอกเอาไว้แต่เตรียมไว้ก่อน”

                หึหึ . . ไม่รู้เหรอว่าผมโดนยัดตารางงานซะจนพรุ่งนี้โคตรว่าง ว่างพอที่จะได้พาผู้จัดการของผมไปเที่ยว “อืม นั่นสินะ งั้นฉันนอนเลยนะ”

                “อื้อ”

                “และนาย . . ห้ามไปนอนที่อื่น ต้องมานอนตรงนี้”

                “รู้แล้วล่ะน่า”

                ผมเลยนอนลงบนเตียงและหลับตา ด้วยความเพลียผมจึงหลับปุ๋ยไปเลย

                สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ลู่หานกำลังหลับอยู่ข้างๆผม ตอนเขาหลับเขาเหมือนลูกแมวน้อยจริงๆ ผมดีใจที่สองคืนที่ไทยผมได้นอนอยู่ใกล้ๆเขาแบบนี้ ได้มองตอนที่เขาหลับแบบนี้

                และได้ฉวยโอกาสแบบนี้ . .

                กอดทันทีหลังจากที่ผมรู้สึกตัว . . พยายามกอดให้แผ่วเบาไม่อยากรบกวนเขา เดี๋ยวเขาตื่น . .

                “นิสัยเสีย”

                ลู่หานตื่นจนได้ . . พอโดนด่าแบบนั้นผมก็หดมือกลับ

                “ไอ้คนฉวยโอกาสเอ๊ย”

                คนด่านี่เคยมองหน้าตัวเองมั่งมั้ย คนอยู่ใกล้ๆจะอดใจไหวได้ไง!!!!!

                “ก็บอกแล้วไงว่าคืนนี้ขอนอนกอด บนรถตู้อ่ะ ขอไปแล้ว”

                “ฉันยังไม่ได้อนุญาตสักหน่อย”

                ผมหน้ามุ่ยในความมืด .  . สงสัยคืนนี้คงจะไม่ฟินเหมือนเมื่อคืน ขออภัยทุกคนด้วยนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน ฝันดีนะครับ . .

                ผมพลิกตัวไปอีกฝั่ง หันหลังให้ลู่หานเพื่อจะหลับ . .

                “นี่” ลู่หานสะกิดผม

                ผมเงียบ . .

                “งอนรึไง”

                “

                “ไอ้บ้าเซฮุน ไม่ได้น่ารักเลยนะโว้ย”

                “

                “นี่”

                “

                “เป็นแบบนี้ฉันนอนไม่หลับนะ”

                “

                “อย่าทำแบบนี้สิ”

                ลู่หานกำลังพึมพำอยู่คนเดียว ในขณะที่ผมลืมตามองซ้ายมองขวาคิดว่าจะพูดอะไรออกไปดี หรือปล่อยให้ลู่หานพูดคนเดียวไปเรื่อยๆ

                “กอดฉันแล้วนายจะหลับฝันดีรึไง”

                ฝันดีไม่ดีไม่รู้ แต่รู้สึกดีและมีความสุขน่ะใช่แน่ๆ . .

                แต่ผมก็ไม่อยากบังคับจิตใจเขานักหรอก . . “เฮ้อออออออออ” ผมเผลอถอนหายใจยาวออกมา

                “โอเซฮุน นายนี่มัน . .” ลู่หานไม่รู้ว่าจะด่าอะไรผมดี แต่มือเล็กๆที่เอื้อมมากอดผมนั้น คือสิ่งที่ทำให้ผมอึ้ง

                เขากอดผมเหรอ O_O กอดจากทางด้านหลังด้วย


                แม่เจ้า พ่อแก้วแม่แก้ว ลุงช้าง พระเจ้าจอร์จ กล้วยทอด . .


                ผมทำตาโตอยู่นาน ในขณะที่ลู่หานซึ่งเอื้อมมือมากอดผมอยู่ก็เงียบไปนานเช่นกัน . . นานจนผมคิดว่าเขาคงจะหลับไปแล้ว . . ผมอยากหันหลังกลับไปและก็กอดเขาแทนเหมือนเมื่อคืน แต่กลัวว่าหันกลับไปแล้วเขาจะปล่อยมือออกไปจากผมน่ะสิ . .

                “นายหลับไปแล้วเหรอ” ลู่หานโพล่งขึ้นมาเบาๆ เขายังไม่หลับแฮะ . .

                เขาค่อยๆปล่อยมือจากเอวผมช้าๆ เขาคงคิดว่าผมหลับไปแล้วและไม่รู้สึกตัวแล้ว

                ที่จริงรู้สึกเซ็งมากกว่า . . ได้ยินเสียงเขาพลิกตัวเตรียมหลับเรียบร้อย

                ที่กอดเมื่อกี้คือง้อ พอง้อได้ผลก็เลิกทำ อย่างงี้เหรอลู่หาน!!!!!!!!!!

                “มานี่เลย” ผมพลิกตัวกลับมาและก็กอดลู่หานจากทางด้านหลังบ้าง ตอนนี้เขาเป็นเหมือนตุ๊กตาตัวเล็กๆที่มีผมซึ่งเป็นคนตัวใหญ่ยักษ์เกาะกุมอยู่ทั้งมือทั้งขา

                “ไอ้บ้า นี่ยังไม่หลับอีกเหรอ!

                “ง้ออะไรของนายแบบนั้นน่ะฮะ”

                “อะไร”

                “กอดเฉยๆแบบนั้นน่ะ”

                ลู่หานงับแขนผม

                “โอ้ยยยยยยยยยยยย”

                “เรื่องมาก นี่ฉันง่วงนอนจะบ้าตายอยู่แล้วนะ” ลู่หานโวยวาย “นายต้องการอะไรเซฮุน นายต้องการอะไรจากฉัน”

                ตอนแรกคิดว่านี่จะกลายเป็นเรื่องเล่นๆ แต่สิ่งที่ลู่หานพูดออกมานั้นเขาค่อนข้างจริงจังกับมันมากทีเดียว และถ้าผมตอบจริงจัง . .

                สามหน้ากระดาษเอสี่ก็คงร่ายไม่หมด

                “ก็ได้ๆ ฉันปล่อยนายแล้ว ฉันไม่แกล้งนายแล้ว” ผมปล่อยลู่หาน “จะได้หลับกันสักที”

                “ให้มันจริงเหอะ”

                ลู่หานพูดกับผมน้ำเสียงประชดประชันอย่างยิ่ง ส่วนผมนั้นหน้ามุ่ยในความมืด และก็หลับด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ลู่หานเงียบไปแล้ว และก็คงจะหลับไปแล้ว

                แต่ผมนั้นนอนไม่หลับเลย . .

                ก็เพราะลู่หานนอนอยู่ข้างๆ และก็เพราะมันไม่ฟินเหมือนเมื่อคืน ผมก็เลยนอนไม่หลับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากให้เขาอ้อน อยากให้เขาแสดงท่าทีว่าคิดเหมือนผมบ้างก็เท่านั้น ถ้ามีสิ่งเหล่านี้เพียงน้อยนิดนั่นก็อาจจะทำให้ผมนอนหลับได้ แต่มันไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลยสักนิด หรือถ้ามีก็คงเป็นสิ่งที่ลู่หานฝืนใจทำ เหมือนที่เขากอดผมจากด้านหลังนั่น

                ใกล้แค่นี้ . . แต่ก็เหมือนไกลหลายแสนโยชน์

                ลู่หานคงจะหลับไปแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆเขากำลังจะบ้าตายเพราะเขาอยู่แล้ว ไม่ยุติธรรมเลยสำหรับคนที่แสดงออกว่ารักข้างเดียวแบบนี้



                เพี๊ยะ!



                โอ้ยยยย มีคนตบหน้าผากผมเบาๆ ตอนนั้นผมหลับตาปี๋แต่ก็ยังนอนไม่หลับ จะมีใครตีผมได้นอกจากลู่หาน

                “ฉวยโอกาส เอาแต่ใจ เดาใจยาก ไอ้บ้าเอ๊ย”

                ลู่หานกำลังแอบด่าผมเหรอเนี่ย . .

                “ไปหัดงอนคนอื่นมาจากไหนกัน”

                โอ๊ะ . .เขาแคร์ผมด้วย

                “นายทำให้ฉันนอนไม่หลับ”

                เขาเป็นเหมือนผมเลย . .

                และหลังจากนั้น . .ผมก็รู้สึกว่าผมได้รับสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มละมุนที่หน้าผาก แม่จ๋า คังมิร่า!!!!! ลู่หานจูบหน้าผากผม เขาจูบหน้าผากผมอ่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!

                หัวใจของผมเต้นตึกๆ พยายามหลับตาให้นิ่งที่สุด เพราะผมกลัวเขารู้จริงๆ . . ถ้าผมจับได้ตอนนี้ เขาก็คงไม่ยอมรับแน่ๆว่าเขาทำ . .

               

     

                “อย่าหันหลังให้ฉันอีกนะ”

     

     

                “

     
     

     

                “ฉันง้อนายแล้ว”

     


     

     

     

                ดีใจจนอยากจะร้องไห้ .  . TT

     

                ผมไม่ได้งอนเขาอะไรขนาดนั้นซะหน่อย แต่เขาคงสะเทือนใจที่ผมหันหลังให้เขานานขนาดนั้น

     

     

                “ขอโทษนะ . .” ผมลืมตาขึ้นมา เห็นลู่หานกำลังนอนคว่ำจ้องหน้าผมอยู่ เขาสะดุ้งแบบสุดๆ เตรียมดึงผ้าห่มมาปิดหน้าแต่ผมดึงเอาไว้ “ . . ฉันจะไม่หันหลังให้นายแบบนี้อีกแล้ว”

     

     

     

                ลู่หานเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้ . . เขาคงเครียดมากจริงๆสินะ

     

     

     

                ไอ้เชี่ยเซฮุน เอ็งทำอะไรลงไป . .

     


     

               

                ลู่หานทุบอกของผมอย่างแรงหนึ่งครั้ง . . และเขาก็หลับซบอกผม

     

     





     

                ที่เดิม . . เหมือนเมื่อคืน 














    chiffon_cake say hi : อิคู่นี้นี่มันยังไง ??? 55555555555555
    เม้นให้กำลังใจคนเขียนสุดขยันคนนี้โหน่ยนะ เลิฟคนอ่านที่ฝุด <3









    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×