ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #25 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER NINETEEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.34K
      41
      2 ธ.ค. 56


     
    [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER NINETEEN

     

     

     

     

     

                การสอบมิดเทอมของผมผ่านไปอย่างหืดขึ้นคอจริงๆครับ . .

                หลังจากคังมิร่ากลับไปหมั้นที่ญี่ปุ่นแล้ว (และผมก็เป็นลูกที่ดีอีกตามเคย ไม่ได้ไปงานหมั้นแม่ เนื่องจากทำงานหามรุ่งหามรุ่ง . . อ่านกันไม่ผิดหรอกหามรุ่งหามรุ่งจริงๆ งานอะไรเสร็จตีสามตีสี่ตลอด) ผมกับลู่หานก็ตั้งใจทำงานตั้งใจอ่านหนังสือเรียนชนิดที่ว่าผมแต่งหน้าอยู่ลู่หานก็หยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาถามผม อยู่บนรถปกติผมอาจจะนอนพักสายตาแต่ตอนนี้คือผมทั้งอ่านทั้งท่องทั้งทำโจทย์แบบเวลาทุกวินาทีของผมมันมีค่ามากจริงๆ แม้ว่างานจะเต็มตารางสักแค่ไหน . . ผมก็พยายามเจียดเวลาให้กับหนังสือเรียนมากที่สุด

                จนในที่สุด . . ผมก็ผ่านมันมาได้ . . และหลังจากนั้น . . การถ่ายทำซีรี่ส์ของผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกอาทิตย์หน้า เรียกได้ว่าเวลาพักมีแค่วันสองวันเองมั้ง . .

                แม้จะมีรายได้จากสัปดาห์อภิมหานรกแตกนั่นมากมายมหาศาล . . แต่เรี่ยวแรงที่จะเอาเงินไปใช้นั้นแทบจะไม่มีเหลือ ในคืนวันสอบเสร็จผมกับลู่หานหลับเป็นตาย(แยกกันนอนด้วย คิดดูว่าเหนื่อยแค่ไหน) ตื่นขึ้นมาอีกทีก็สี่ทุ่มแล้ว (วันสอบเสร็จคือวันเสาร์ที่สอบครึ่งวัน) ผมตื่นก่อนลู่หาน เลยออกมานั่งข้างนอก

                ไม่เปิดทีวีครับ เซ็งหน้าตัวเอง (เจอบ่อยเหลือเกินเพราะถ่ายโฆษณาประมาณ3ชิ้นเอาไว้จากที่มีอยู่แล้ว4 เป็น 7) เอาลูกชายตัวใหม่ที่คังมิร่าซื้อมาทิ้งไว้ให้มาประกอบและกำลังคิดว่าจะพ่นสี . . นี่คือกิจกรรมคลายเครียดของผมหลังจากได้นอนเต็มอิ่มไปหลายชั่วโมง ผมจะมีสมาธิและมีความสุขกับมันมาก พอผลงานสำเร็จแล้วมันรู้สึกภูมิใจน่ะที่ตัวเองทำได้

                ผมไม่ได้ปลุกลู่หาน ไม่อยากกวนเขาเพราะผมอดหลับอดนอนเขาก็ยิ่งอดหลับอดนอนมากกว่าผม เขาจะนอนไม่หลับถ้าผมไม่ได้หลับก่อนหรือห่มผ้าให้เขาดู . . แต่ถึงอย่างนั้น . . ตอนนี้ผมก็เป็นหวัดนิดๆซะแล้ว เพราะสามสี่วันที่ผ่านมานอนน้อยมากจริงๆ

                สูดน้ำมูกให้กลับเข้าไปในจมูกไม่อยากให้มันหล่นเปื้อนลูกชายตัวใหม่ ขณะก้มหน้าก้มตาต่อให้เสร็จ . . พอต่อเสร็จจะได้พ่นสีข้างนอกระเบียงคืนนี้เลย . . ฟินสุดอะไรสุด . . ความสุขของผมมันมีแค่นี้จริงๆ

                กลิ่นหอมๆโชยเข้ามาในจมูก . . จำได้ว่าเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำของลู่หาน สอบเสร็จก็นอนมาทั้งวันแต่ทำไมกลิ่นยังติดตัวอยู่ แปลกแต่จริง . .

                ผมหันไปมองต้นกำเนิดกลิ่นหอมนั่น . . ลู่หานเดินง่วงๆออกมาจากห้องตัวเอง ชุดนักเรียนสีขาวยับยู่ยี่กับกางเกงสแลคแสดงออกได้ถึงการที่เขายังไม่เปลี่ยนชุดหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน

                ลู่หานขยี้ตา เดินเข้ามาใกล้ผม . .

                “ทำอะไรอ่ะ” เขาถามอย่างสะลึมสะลือ ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม และก็มองดูผลงานที่ยังไม่เสร็จดีของผมอย่างเบลอๆ

                ที่รัก . . ถ้าง่วงขนาดนี้ก็กลับไปนอนต่อเถอะ . .

              “ลูกชายตัวใหม่ ตัวที่คังมิร่าหิ้วมาฝากจากญี่ปุ่น” ผมตอบยิ้มๆ

                “ใกล้เสร็จแล้วนี่”

                “ช่ายยยย”

                “หิวข้าวมั้ย” ลู่หานถามผม

                “ลู่หานอ่ะ หิวรึเปล่า” ผมถามกลับทั้งๆที่ยังไม่ได้ตอบ

                จ๊อกกกกกกกกกกกกกกก

              เสียงท้องลู่หานดังแทนคำตอบ . .

                “ฮ่าๆๆ” ผมขยี้ผมที่หยิกน้อยๆของเขา “ไม่ต้องทำกับข้าวหรอกนะ สั่งไก่มากินดีกว่าวันนี้”

                “ไก่เหรอ” ลู่หานเลิกคิ้ว

                “ช่ายยยย ไก่ทอด อยากกินอ่ะ” ผมรู้สึกอยากกินไก่ทอดตั้งแต่อยู่ในห้องสอบแล้ว กะจะฟาดสักยี่สิบน่องให้หายอยาก . . ในที่สุดตังค์ที่เหน็ดเหนื่อยหามาตั้งนานก็จะได้ใช้สักที

                “จะเล่นซีรี่ย์อยู่แล้วนะ ถ้ามีพุงขึ้นมาทำไง”

                “ง่ะ อย่าขัดสิ” อยากกินมานานแล้วนะ TT

                “ไก่ทอดเหรอ เอางั้นเหรอ” ลู่หานดูลังเล อะไรของเขาเนี่ย . .

                “ทำไมเหรอ หรือลู่หานไม่อยากทาน?”

                “ไม่ใช่นะ” ลู่หานลูบพุงตัวเอง “ ถึงนายจะไม่กลัว แต่ . . ฉันกลัวอ้วน”

                กรรม . . ถ้าดื่มน้ำก็คงจะสำลักน้ำ . . คนอะไรกลัวอ้วนด้วย ผอมซะขนาดนี้ . .

                “ไม่อ้วนหรอก”

                “ฉันอ้วนง่าย” เขาทำหน้าซึมและก็วิตกกังวลอย่างหนัก

                “ทำไมเหรอ กลัวฉันไม่รักเหรอ” ได้ทีเลยขอแซวสักหน่อย

                “ตลก” อุ้ก!!!! ลู่หานใช้ศอกแหลมๆของเขาถองสีข้างของผมอย่างจัง “แต่นายเป็นหวัดนะ ทานของทอดได้เหรอ”

                ทำไมขัดจังเลยเนี่ยยยยย . . คนมันอยากกินนะ อยากกินจริงๆนะ “ไม่ได้เจ็บคอ”

                “แต่ไอ . . น้ำมูกไหล . .

                “ก็อยากกินง่า”

                ลู่หานมองหน้าผมที่อ้อนเขาอย่างชั่งใจ . . ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าลู่หานนั้นเขาถือไพ่เหนือกว่าผมเยอะ เป็นผู้จัดการที่บังคับผมได้ไม่พอยังเป็นแฟนอีก . . เรียกได้ว่าเหนือกว่าแบบสุดๆจนผมไม่กล้าขัด . .

                “ก็ได้” เขาตอบในที่สุด เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองมา และก็เอื้อมหยิบนามบัตรร้านไก่ทอด “นี่เป็นเพราะทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานายตั้งใจทำงานนะ”

                “หุหุ มันน่าให้รางวัลใช่มั้ย”

                “แต่สัญญานะว่าทานครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าเริ่มถ่ายซีรี่ย์จะไม่ได้ทานไก่ทอดแล้วนะ” ลู่หานยื่นคำขาด

                ผมหน้าสลด . . แต่สักพักก็ทำใจได้ “ก็ดีกว่าห้ามกินชานมไข่มุกละกัน”

                ลู่หานยิ้ม .  . และก็ลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อที่จะคุยโทรศัพท์และก็สั่งไก่ทอดเข้ามาทานกัน ผมก็เลยก้มหน้าก้มตาต่อเจ้าลูกชายตัวใหม่อย่างมีสมาธิและคร่ำเคร่ง คิดว่าจะรีบต่อให้เสร็จก่อนไก่ทอดมาถึงและพอกินไก่ทอดเสร็จก็จะได้ออกไปพ่นสี . . และถ้าลูกตัวนี้มันมีสีสมใจอยากของผมแล้ว คืนนี้ผมก็จะหลับฝันดี . .

                ผมหยิบชิ้นแล้วชิ้นเล่าขึ้นมาประกอบเป็นตัว . . ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโดนใครจ้องมาจากห้องครัว . .

                “เซฮุน . .

                ผมไม่ได้ยินเสียงเรียกนี้ครับ . .

                “ไก่ทอดนี่มันมีน้ำจิ้มกี่แบบนะ จะได้จัดถ้วยถูก”

                ไม่ได้ยินอะไรเลย . .

                “โอเซฮุน . .

                เอ๊ะ . . หรือผมหยิบผิดอันวะ ทำไมแขนลูกตัวใหม่มันดูเบี้ยวๆชอบกล ผมอ่านคู่มืออย่างเครียดๆ ยิ่งออกมาใหม่ลูกเล่นมันก็ยิ่งเยอะ โคตรงงเลยครับพี่น้อง . .

                อยู่ในโลกกันดั้มอยู่นาน จนไม่ได้สังเกตว่าโซฟาที่อยู่ข้างๆมันยุบลง . .

                “เซฮุน . .

                “

                “โอเซฮุน”

                “

                “นี่ฉันจะงอนแล้วนะ!

                มันเหมือนเป็นคำต้องห้ามจนผมต้องหันขวับกลับไปมองลู่หานที่กำลังทำหน้าโกรธนิดหน่อย

                “อ้าว มาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ด้วยความสัตย์จริง เมื่อตะกี้ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

                “จะสิบนาทีแล้ว”

                “หา . .

                “ไก่ก็จัดลงจานแล้ว ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย”

                “โทษที ต่อเจ้านี่อยู่ไง”

                “ไปทานได้แล้ว”

                “ครับ แต่อีกแป๊บนึงได้มั้ย”

                “นี่อยากกินจริงรึเปล่าเนี่ย” ลู่หานกอดอกมองผม

                “อยากกินจริงสิ แต่ไอ้นี่มันใกล้จะเสร็จแล้วอ่า”

                “ถ้ามันเย็นแล้วไม่อร่อยไม่รู้ด้วยนะ” ลู่หานลุกขึ้นยืน

                “ทานก่อนเลยๆ เดี๋ยวตามไป”

                จริงๆก็หิวอยู่ แต่ถ้าไอ้นี่ไม่เสร็จผมรู้สึกว่ามันค้างคา อีกนิดก็จะเสร็จแล้ว ผมก็เลยนั่งต่ออยู่ก่อน ปล่อยให้ลู่หานเดินไปทานไก่ทอดที่จัดลงจานเรียบร้อยคนเดียวที่โต๊ะใกล้ๆห้องครัว

                “เซฮุนนี่ . . ไก่อร่อยน้า”

                “

                “ฉันกินเป็นน่องที่สิบห้าแล้ว . . หมดก่อนไม่รู้ด้วย”

                “

                “ย๊า!!!

                “หา ว่าไง” เพิ่งได้ฤกษ์เงยหน้าขึ้นมาจากผลงาน ลู่หานงับน่องไก่ค้างไว้แล้วมองหน้าผมอย่างโกรธๆ

                “ไม่ได้ยินเลยเหรอเนี่ย”

                “หือ” ทั้งงงทั้งเอ๋อ

                “ฉันพูดไปหลายประโยคเลยนะ”

                “พูดว่าไงมั่งอะ” ผมเกาหัว . .

                “นายนี่มัน . .” ลู่หานไม่รู้จะด่าอะไรผมดี “. . เห็นกันดั้มสำคัญกว่าของกินเหรอ”

                “ก็ในบางเวลานะ” เช่นเวลานี้ . . เวลาที่อยากเห็นมันเสร็จเร็วๆ . .

     

                “แล้ว . . มันสำคัญกว่าฉันมั้ย . .

               

                “หา” เพราะลู่หานก้มหน้างุดและก็รำพึงเสียงเบาจนผมต้องก้มลงไปฟังให้ได้ยินชัดๆ

                “เปล่าหรอก ทำต่อสิ แต่ไก่หมดไม่รู้ด้วย”

                “อย่าทานเยอะ เดี๋ยวจะอ้วนเอานะ” ผมแซวเขายิ้มๆ

                “ก็รีบๆไปช่วยกันทานสิ!

                ผมพยักหน้า . . หันไปต่อโมเดลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ . .

                “เซฮุนนี่ . .” ครั้งนี้ผมได้ยินชัดแจ๋ว เพราะมันไม่ยากเลยไม่ได้ใช้สมาธิอะไรมากมาย(เวลาต่อโมเดลรุ่นยากๆพี่แจซอกเคยบอกว่าฟ้าถล่มแผ่นดินทลายผมก็ไม่รู้สึกถ้าที่ผมต่ออยู่มันไม่เสร็จ) ลู่หานพูดเสียงอ่อยจนผมชะงักนิดหน่อย . .

                แต่อยากแกล้ง . . เลยทำเป็นไม่ได้ยิน (นิสัยนี้โทษคังมิร่าได้เลยนะครับ เธอแกล้งผมมาทั้งชีวิต)

                “เซฮุนนี่ . . ไม่สนใจฉันเหรอ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดมากซะจนผมอยากดึงตัวเข้ามาหอมซักฟอด

                นานๆทีจะเห็นมุมนี้ของลู่หาน สงสัยเพราะผมสนใจอย่างอื่นมากกว่าเขา (น้อยครั้งนักที่ผมจะเป็นแบบนี้)

                “งือออ” ดูทำเสียงเข้า . . ผมค่อยๆหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลู่หานเอามือมาดึงเสื้อนักเรียนของผมพอดี “สนใจกันบ้าง” เขากระตุกเสื้อผม . .

                “โอ๋ๆๆ ไม่แกล้งแล้วนะ สนใจแล้วๆ” ผมจับมือเขาเอาไว้

                “เห้ย นี่แกล้งเหรอ”

                “แกล้งเมื่อกี้ครั้งเดียว นอกนั้นไม่ได้ยินจริงๆ”

                “ตัวประหลาด” ลู่หานเอาตะเกียบชี้หน้าผม

                “หิวแล้วอ่ะ”

                “งั้นก็วางและก็ไปกินซะ”

                “มันยังไม่เสร็จนี่”

                “แล้วจะทำยังไง . .

                ผมดึงตัวลู่หานเข้ามาใกล้ ให้เขานั่งอยู่ในระหว่างอ้อมกอดและหว่างขาของผม โชคดีที่ตัวเขาเล็กกว่าผมเยอะ ทั้งขาผมและก็ตัวผมเลยโอบรอบเขาได้อย่างสบายแถมยังต่อโมเดลได้สะดวกด้วย ลู่หานดูตะลึงงัน กะดิ้นออกไปจากตัวผม . .

                “นี่ไง . . ทั้งสนใจลู่หาน ทั้งได้ต่อโมเดล แถมยังได้กินไก่ทอดอีก” ผมบอกเขา . . กระซิบข้างหูให้ได้ยินชัดๆ แน่นอนว่าเขาเอียงคอหลบแทบจะในทันที . .

              จุดอ่อนครับจุดอ่อน . .

              วางคางบนไหล่ของลู่หาน มือข้างหนึ่งจับตัวเขาส่วนอีกข้างก็ต่อโมเดล . .

                “อึดอัด” ลู่หานบอกผม . . ผมเลยกอดเขาแน่นขึ้นไปอีก (ไม่ได้ฟังเสียงแฟนตัวเองเล้ย)

                “หิวแล้ว ป้อนหน่อย”

                “อีกมือก็ว่างนี่” เขาหมายถึงมือที่ผมโอบเขา

                “ว่างที่ไหน . . กอดแฟนอยู่”

                “เรื่องมาก” ลู่หานด่าผม แต่ก็คีบไก่ทอดขึ้นมาป้อนผมแต่โดยดี . . งับ . . ผมงับไก่ชิ้นนั้นอย่างเอร็ดอร่อย  . .

                “พิงก็ได้นะ . . ไม่ต้องเกร็ง” ผมเห็นเกร็งตัวอยู่นานเลยบอกเขา “ไม่ต้องเกรงใจ . . ร่างกายนี้เป็นของลู่หานทั้งนั้น ลืมแล้วเหรอ”

                ไม่รู้ว่าเขินหรือว่าอะไร . . ตะเกียบแทบจะทิ่มตาผม . .

                แต่เขาก็ค่อยๆเอนหลังเขามาพิงตัวผม . . มันเบาหวิวราวกับปุยนุ่น . .

              แต่ก็อบอุ่นดี . .

              “เซฮุน . .

                “หืม . . ว่าไง”

                “อาทิตย์หน้ามีสองสามวันที่เป็นวันหยุดใช่รึเปล่า . .

                “อ่า ใช่มั้ง” ถามคนที่ไม่รู้วันเวลาเนี่ยนะ . .

                “ฉันขอลาหยุดนะ”

                ผมชะงัก . . แม้แต่ไก่ทอดหรือกันดั้มก็ไม่ช่วยให้ความสนใจของผมเบี่ยงเบนไปจากคำพูดของลู่หานได้

                “ลาหยุดเหรอ . .

                “ใช่ สองสามวัน”

                “จะไปไหน”

     

                “กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ปักกิ่งน่ะ”

     

              สองสามวันมันเป็นช่วงเวลาที่สั้นก็จริง . . แต่ลู่หานจะรู้มั้ยว่าทำไมผมรู้สึกเหมือนเขาพูดว่าสองสามปีเลย . .

     

                “ไปด้วยได้มั้ย  . .” พูดขึ้นมาทันทีแบบไม่ต้องคิด

                โป๊ก ตะเกียบถูกเคาะจากคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด “จะเปิดกล้องอยู่แล้วนะ”

                “ไม่อยู่ให้กำลังใจหน่อยเหรอ” ผมจะร้องไห้อยู่รอมร่อ(แอคติ้งเรียกร้องความสนใจนะครับ)

                “เซฮุน . .

                “ไม่อยากให้ไปเลย”

                “สองสามวันเอง”

                “ไม่เอา”

                “เด็กสี่ขวบ . .

                “ลู่หานนนนนนอ่า” ผมดึงจานกับตะเกียบจากมือลู่หานไปวางและก็รวบตัวเขาเข้ามากอดแน่น

                ลู่หานเอามือแตะแขนผม . . เงยหน้าขึ้นมาชนกับใบหน้าผมที่ซุกลงไป จมูกเขาฝังลงบนแก้มผม แต่เขาก็ไม่ได้เอาออกไปไหน . .

                “สองสามวันเองนะ”

                “จะไปจีน จะไปจีน จะไปจีน” ผมดิ้นพล่าน . . ก็คนมันติดแฟนอ่ะ . . “จะโทรให้พี่แจซอกจองตั๋วให้เดี๋ยวนี้”

                “ไม่ได้”

                เพี๊ยะ โดนตีมือ . .

                “มีงานมีการก็ต้องทำสิ”

                “ทีลู่หานยังลาได้เลย . .

                “ฉันจำเป็นนี่นา” ลู่หานพูด “ลู่ถิงคิดถึงพ่อกับแม่จะแย่ และมันก็เป็น . . คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพวกท่านน่ะ ว่าจะกลับทุกสี่เดือน” ลู่หานอธิบาย “ถ้าฉันไม่ทำตามที่สัญญา ฉันก็จะไม่ได้กลับมาที่เกาหลีอีกเลยนะ”

                ผมหน้าหงิก . .




                “ถ้าโทรไปต้องรับนะ” ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ . .

                “อื้อ”

                “พ่อกับแม่ลู่หานชอบอะไรอ่ะ จะซื้อให้”

                “ไม่เป็นไร ต้องดูแลคุณยายกับลู่ถิงไม่อยากหอบของลำบาก”

                “ที่นู่นหนาวมั้ย เอาเสื้อกันหนาวไปด้วยนะ”

                “โอเค”

                “ลู่หาน . .  ต้องตอบเมสเสจทุกครั้งนะ”

                “เข้าใจแล้วน่า . .

                “หอบหมีเซฮุนไปด้วยดิ”

                “ว่าไงนะ” เขาถึงกับร้องเสียงหลง

                “ก็มันเป็นตัวแทนฉัน” ผมก้มหน้างุด . .

                “ไอ้บ้า จะให้หอบหมีไปกลับเนี่ยนะ”

                “ตุ๊กตากวางก็ได้”

                “

                “เป็นตัวแทนฉัน เฝ้านาย . . ไม่ให้นายไปมองใคร”

                ลู่หานยิ้มเบาๆ . . เขาใช้นิ้วชี้เขี่ยแก้มผมเล่น . .

                “ฉันจะมองใครได้อีก เซฮุน”

                “

                “ฉันต้องมองแต่นายคนเดียว นายเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ”

                เพราะลู่หานเป็นคนให้ความสำคัญกับคำสัญญา . . ผมเลยเบาใจขึ้นมาหน่อย . .

                “แต่อย่าให้ใครมามองล่ะ ปิดหน้าเอาไว้ . . ตัวเองน่ะน่ารักมาก เข้าใจมั้ย”

                “

                “หรือฉันจะจ้างการ์ดให้นายดี”

                “เซฮุน อย่าเวอร์น่า”

                “ไปกี่โมง”

                “พรุ่งนี้สายๆ”



     


     

                “งั้นคืนนี้ . .



               

                ลู่หานสะดุ้ง . . ก่อนที่จะพูดเบาๆ “อะ อะไร . .” เขาดูหวาดระแวงสุดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะพอเดาคำตอบออกก็เถอะ . .


     

              . . ขอนะ”










     

                ลู่หานลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมศอกที่โดนคางผมอย่างจังแบบที่เขาตั้งใจจะให้โดน

                “หื่น!” เขาบอกผมว่าอย่างงี้ เดินไปเก็บจานเฉย ไม่ได้สนใจผมที่คลำคางตัวเองป้อยด้วยความเจ็บปวด

                “ตกลงว่ายังไงเนี้ย” ยังคงอยากรู้คำตอบ . .

                “ดึกแล้ว . . จะนอน” เขาล้างจานตัวเองและทำท่าจะกลับเข้าห้องตัวเองเฉย

                “นี่ลู่หาน . . พรุ่งนี้ตัวเองจะไปอยู่แล้วนะ”

                กันด้งกันดั้มอะไรไม่รู้จัก . . ตอนนี้ต้องรีบไปคุยกับเมียก่อน ผมรีบลุกขึ้นไปคว้าข้อมือเขาเอาไว้ . .

                แต่ลู่หานสะบัดออก . . “ฝันดีนะเซฮุน”

                “เห้ยยยยยยยยยยยยยยยย”

                “อย่าลืมทานยาด้วย”

                “มาป้อนสิ”

                เขาไม่สนใจผมเลย พอพูดจบเขาก็ปิดประตูห้องตัวเองเสียงดังเป็นสัญญาณว่าผมไม่มีสิทธิ์รบกวนเขาอีกต่อไป มันเป็นความผิดของผมใช่มั้ยที่ผมสนใจกันดั้มมากกว่าเขา . .

              เซ็งเลย . .

     

     

     

              หลังจากที่พ่นสีลูกตัวใหม่อยู่นานที่ริมระเบียง บอกตามตรงตอนพ่นไม่ได้สนใจไอ้ลูกชายเลย สนใจแต่ประตูห้องลู่หานซึ่งปิดสนิทเงียบฉี่ซะจนคนข้างในคงจะหลับไปแล้วสักสามตื่น ฝันสักสามเรื่อง ผมพ่นจากสีเงิน เป็นสีทอง ตกแต่งด้วยสีแดง . . ลู่หานก็ยังไม่เปิดประตู . .

                นี่เรากำลังจะห่างกันตั้งสามวันนะ สนใจใยดีกันมั่ง TT

                จะตีสองแล้วการรอคอยของผมคงเปล่าประโยชน์ ผมทิ้งเจ้ากันดั้มที่ยังคงมีกลิ่นสีฉุนๆไว้ด้านนอกระเบียง ไม่ลืมที่จะหยิบมันเข้ามาไว้ข้างในๆหน่อย เผื่อฟ้าฝนจะเซอร์ไพรส์ตกลงมาในวันรุ่งพรุ่งนี้แล้วสีจะไม่สวยเอา . .

                ปิดประตูกระจก และก็เหลือบมองไปที่ประตูห้องลู่หาน ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นและนิ่งสนิท . .

                เห้อ . . ไม่ได้หื่นขนาดนั้นซะหน่อย นอนกอดเฉยๆก็ยอม TT

                ผมสั่นหัวให้ตัวเองเบาๆพลางปิดไฟในส่วนของห้องนั่งเล่น เปิดประตูห้องตัวเองและก็เข้าไปนอนบนเตียงอย่างเหงาๆ . . เตียงก็ใหญ่นอนคนเดียวในคืนแบบนี้มันเหงาจริงๆ . .

                ลู่หานไม่อยากนอนซบอกผมรึไงนะ . .

                ทิ้งตัวลงไปแล้วเอามือก่ายหน้าผากตัวเองอย่างปลงๆ . .

                เกือบจะไม่รู้ตัวว่ามีอะไรไม่รู้ดิ้นขลุกขลักเข้ามาหาผมจนผมเกือบที่จะเผลอเตะออกไป

     

              ลู่หาน . .

     

              “เห้ยยย เล่นไรเนี่ย . .” ผมร้องอย่างตกอกตกใจ

                “นานเวอร์” เขาพูดแบบนี้ . .

                “นี่ไม่ได้อยู่ในห้องตัวเองหรอกเหรอ”

                “ช่ายยยยย” น้ำเสียงงัวเงียเหมือนหลับไปแล้วสักสามตื่น “มัวแต่ทำอะไรอยู่เหรอ”

     

                ลู่หานเวอร์ชั่นก่อนนอนจะเป็นอะไรที่เป็นตัวเขาสุดๆแล้วครับ ไม่มีฟอร์ม ไม่ค่อยซึน ไม่อะไรเลย

     

                น่าฟัดสุด . .

     

                แถมยังขี้อ้อนเอามากๆ เขาชอบเอาหัวทุยๆมาซุกแถวตัวผมตลอดเลย

     

                แบบนี้อย่าว่าแต่สองสามวันเลยครับ แค่สามชั่วโมงผมก็ไม่ทนแล้ว T^T

     

    “พ่น . . ลูกตัวใหม่น่ะ”

    “อืม” ลู่หานรับคำ น้ำเสียงงัวเงียเหมือนเขาง่วงนอนเหลือเกิน

    “นอนได้แล้ว ฝันดีนะครับ” ผมบอกกับเขา ห่มผ้าห่มให้ผมกับเขาได้อุ่นในคืนนี้

    “นึกว่านายจะทำในสิ่งที่นายขอไว้ซะอีก . .

    “ไม่เคยลักหลับคนง่วง”

    “แต่คนเมาน่ะ . . เคยใช่มั้ย”

    “เสี่ยวลู่ พูดมาก . . เดี๋ยวก็โดนหรอก”

    “โอเค งั้นนอนละ”

    ฮ่าๆๆๆๆ น่ารัก เขาคงกลัวว่าผมจะทำอะไรเขาจริงๆใช่มั้ยนี่ . .

    “ขอโทษนะเซฮุน . .” เงียบอยู่นานก่อนที่จะพูดออกมาแบบนี้

    “หืม ขอโทษอะไรเหรอ”

    “ที่ฉัน . .

    “ครับ?”

    ทำไมดูตะกุกตะกักและก็พูดออกมายากเย็นเหลือเกิน “ที่ฉัน . .ไม่ยอมนาย”

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย” ผมจูบขมับข้างซ้ายของเขา “ก็แค่ . . ขอไปงั้น เผื่อฟลุ๊ค”

    “ไอ้ . .

    “ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะ “ก็เข้าใจ พรุ่งนี้ต้องเดินทาง ถ้าเซฮุนทำเสี่ยวลู่เจ็บ แล้วเสี่ยวลู่จะดูแลคุณยายกับลูกหมูน้อยได้ไง”

    “ใช่ . .ของนายแม่ง . . เจ็บทุกครั้งอ่ะ!” ลู่หานมุดหน้าลงใต้ผ้าห่ม ไม่อยากให้ผมมองเห็นหน้าเขา “และดูที่นายเรียกน้องสาวฉัน เรียกแบบนั้นระวังเขาจะเปลี่ยนจากแฟนคลับเป็นแอนตี้แฟนนะ”

    “น่ารักดีออก”

    “จะนอนแล้ว . .

    “เสี่ยวลู่”

    “หืม”

    “ที่คุยไว้อ่ะ . . อย่าลืมนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง . .

    ลู่หานเงียบไปนิดนึง ก่อนรับคำตอบกลับมา “อืม ไม่ลืมหรอก”

    เพราะลู่หานไม่เคยผิดคำพูดที่เคยให้ไว้ ผมจึงได้เบาใจ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าผมใจหายอย่างประหลาด

    “ตั้งสามวัน” เปรยออกมาน้ำเสียงเศร้าสร้อย “ถ้าทนไม่ไหวขอบินตามไปนะ”

    โป๊ก ลู่หานเขกกะโหลกของผมทันทีแบบที่เค้าไม่เงยหน้าขึ้นมาจากกองผ้าห่ม “ทำงานทำการดีกว่า”

    “เสี่ยวลู่อ่า”

    “นอนได้แล้ว . .

    ผมถอนหายใจ . . เอาวะ สามวันเอง อดทนนะเว้ยโอเซฮุน . .

    “เดี๋ยว อย่าเพิ่งนอน” กำลังคิดอะไรเพลินๆ ลู่หานก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมาจากกองผ้าห่มด้วย . . คนอะไรง่วงจะตายก็ยังน่ารัก

    “ครับ?”

     

    จุ๊บ . .

     

    ริมฝีปากนุ่มสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของผมเร็วชนิดความไวแสง . . ผมอึ้ง . . ใจเต้นตุบๆ ไม่คิดว่าลู่หานจะทำแบบนี้กับผม . . ร้ายกาจจริงๆ . .

    “มานี่ มาให้กอดเลย”

    ลู่หานก่อนนอน . . ไม่เล่นตัวครับ ยอมให้กอดง่ายมากจริงๆ

    และแน่นอน . . เขาไม่ลืมที่จะซบอกของผม . . ที่โปรดของเขา . .

     

     

     



     

     

     

    รุ่งเช้าผมลืมตาตื่นขึ้นมา . .

    เห้ย ไม่สิ นี่มันสิบโมงกว่าแล้ว นาฬิกาดิจิตอลสีขาวดำข้างๆกันดั้มตัวจิ๋วหัวเตียงบอกกับผมว่าอย่างนี้ . . ผมรู้สึกใจคอไม่ดี ไม่ดีเลยจริงๆ ลุกพรวดขึ้นมานั่งบนเตียงมองซ้ายมองขวา . .

    ไม่มีเงาลู่หาน . .

    “เสี่ยวลู่!!!!!!!!!!!” ร้องลั่นบ้านก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา . .

     อย่าบอกนะ . . ว่าไปจีนแล้ว . .

    ไม่นะ!!!!!!!!!!!!!!! อย่างน้อยต้องได้ไปส่งสิ!!!!!!!!!!!

    มือของผมคงฟาดงวงฟาดงาจนโดนโพสต์อิทสีเหลืองอ๋อยบนหมอนที่ลู่หานใช้นอนเมื่อคืนนี้ . .

    รู้สึกกลัวและก็ใจหายไปในคราวเดียวกัน . .

     

    เห็นหลับปุ๋ย เลยไม่อยากกวน

    ไปแล้วนะ แล้วเจอกันในอีกสามวัน : )

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    ผมเดินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาข้างนอกห้องนอน กดโทรออกหาลู่หานทันที มือไม้ผมสั่นไปหมด

    เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ . .

    แทบจะเขวี้ยงทิ้ง บทจะไปก็ไปง่ายๆแบบนี้เลยเหรอเสี่ยวลู่!!!!!!!!!!!!!!!

    เอามือทึ้งหัวตัวเอง . . นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียวเงียบๆแบบนี้ . . ไม่มีเงาลู่หานทำกับข้าว ไม่มีเงาลู่หานที่เข้าๆออกๆห้องแต่งตัวของผม มันเงียบ เงียบ และก็เงียบ แม้ว่าผมจะเพิ่งนั่งปลงตกอยู่หน้าทีวีได้ไม่นานก็เถอะ

    เอ๊ะ มีโพสต์อิทแปะอยู่บนโต๊ะแฮะ . . ลู่หานเขาเล่นอะไรก่อนที่ผมจะตื่นเนี่ย . .

     

    ห้ามพ่นสีกันดั้มในห้อง แต่ต่อกันดั้มตรงนี้ได้ . .

     

    มันเป็นจุดที่ผมชอบใช้วางกันดั้มน่ะครับ ไอ้ตัวที่เขาทำพังผมก็วางตรงนั้น . . มีโพสต์อิทอีกอันซ้อนทับอยู่

     

    ตัวที่พ่นสีเมื่อคืนเก็บเข้าสู่พิพิธภัณฑ์กันดั้มให้แล้ว อยู่ตรงไหน หาเอาเอง :P

     

    จะน่ารักไปไหนเนี่ย . . T^T ทำแบบนี้ยิ่งคิดถึงนะรู้มั้ย . .

    หยิบรีโมทขึ้นมาจะเปิดทีวี . . ก็มีโพสต์อิท . .

     

    ดูแล้ว อย่าเปิดทิ้งไว้ เปลืองไฟ  . .

     

    ผมว่าผมไม่อยากทำอย่างอื่นแล้วล่ะ . . ผมตามหาข้อความในโพสต์อิทดีกว่า . .

     

    ห้องแต่งตัว . .

    ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ละลานตาไปด้วยโพสต์อิทที่แปะอยู่บนขวดโลชั่นแทบจะทุกขวด อะไรทาเวลาไหน จากที่เขาไม่รู้บัดนี้เขารู้มากกว่าผมอีก รู้ถึงขนาดที่ว่าตอนนี้หน้าผมควรใช้อะไรถึงจะเหมาะ(ซื้อมาให้เองอีกด้วย) และที่น่าประทับใจ . . ตรงราวที่ผมชอบแขวนเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันถัดไปเอาไว้ ลู่หานจัดไว้ให้หมดเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้าและตลอดสามวันที่เขาไม่อยู่

    วันอาทิตย์ อยู่แต่บ้านหาเสื้อใส่เอง ปล.ชุดนอนห้ามใส่ตัวเดิม นี่ตัวใหม่ . .

     

    เขาตื่นมาทำเรื่องแบบนี้ให้ผมจริงๆน่ะเหรอ T________T

     

    วันจันทร์ เปิดกล้องถ่ายซีรี่ส์ อย่าลืมใส่โค๊ทไปกองถ่ายด้วย อากาศจะหนาวมาก

    วันอังคาร ห้ามใส่โค๊ทตัวเดิม!!!!!!!!!!! ถ้าฉันกลับมาแล้วเห็นใส่ตัวเดิมเจอมะเหงก

     

    น่ารัก T^T

     

    “โอเซฮุน” พี่แจซอกโผล่พรวดเข้ามาในห้องแต่งตัวผม “ทำไมในบ้านมีกระดาษเหลืองๆอยู่เต็มไปหมดเลยฟะ”

    “ลู่หานเล่นเกมส์กับผมน่ะ” ผมตอบยิ้มๆ

    “อ๋อ ใช่สินะ เจ้าเด็กบ้านั่นเกือบตกเครื่องเพราะมัวแต่มาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้นี่เอง”

    “พี่ไปส่งเขามาเหรอ!” ผมหันมาเขย่าคอเสื้อพี่แจซอกอย่างกระตือรือร้น

    “แหงสิ ลู่หานมันก็น้องนุ่งของฉันนะ”

    “เขาไปแบบไม่ปลุกผมเลย” ผมหน้าบึ้ง จะร้องไห้อยู่รอมร่อ (แอ๊คติ้ง)

    “ถ้านายไปส่ง นักข่าวก็คงแห่กันไปให้รึ่ม นึกว่านายจะออกนอกประเทศ แล้วจะไม่ถ่ายซีรี่ส์”

    “คิดกันไปได้” ผมบ่น “ว่าแต่ลู่หานอยู่บนเครื่องแล้วใช่มั้ย”

    “ช่ายยย อยู่บนฟ้าแล้วตอนนี้ อีกสักพักคงถึง”

    “คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”

    “น้อยๆหน่อย ปล่อยให้เขามีชีวิตส่วนตัวมั่ง”

    “ถ้าโทรไปไม่รับนะ น่าดู  . .

    “ลู่หานน่ะเหรอจะไม่รับโทรศัพท์นาย?”

     

     

     




     

     

    ใช่ . . ลู่หานไม่รับโทรศัพท์ผม

    และนี่มันก็หกโมงเย็นแล้วนะครับ!!!!!!!!!!!! ผมกระหน่ำโทรไปตามเวลาที่เครื่องแลนดิ้งที่สนามบินปักกิ่งแบบเป๊ะ เป๊ะ เขาก็ยังไม่ยอมเปิดเครื่อง และคิดดูจากที่เครื่องแลนดิ้งเวลามันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วเขาก็ยังไม่รับโทรศัพท์  ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว

    เปิดทีวีดูข่าว . . กลัวว่าหนักสุดจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ซึ่งมันก็ไม่มี แต่ผมก็ห่วง ไม่ติดต่อกันมาเลยแบบนี้คิดจะฆ่าผมทั้งเป็นเลยหรือยังไง

    “พี่แจซอกถ่ายซีรี่ส์เลื่อนไปก่อนได้หรือเปล่า” ผมพูดขึ้นมาตอนที่พี่แจซอกหาของกินเข้ามาไว้ให้และพี่เขากำลังจะกลับ

    “มะเหงกน่ะสิ เขาพร้อมกันทุกอย่างแล้ว เลื่อนไม่ได้เด็ดขาด ตารางล็อค”

    “ลู่หานไม่รับโทรศัพท์ผมอ่ะ” ผมงอแงเป็นเด็ก พี่แจซอกกระแอม

    “อาจจะยุ่งๆ บ้านเขาญาติเยอะจะตายไป อาจจะกำลังคุยกับลุง ป้า น้า อาอยู่ อย่าไปกวนเขาเลยน่า”

    “ขอสักสองสามนาทีให้ผมไม่ได้เหรอ”

    “ใจเย็นๆ เดี๋ยวเขาก็คงโทรมา” พี่แจซอกเดินมาตบบ่าผม “ฉันกลับละนะ พรุ่งนี้จะมารับตอนตีห้า คืนนี้ . . ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ห้ามโดยเด็ดขาด ของกินซื้อมาตุนไว้ให้แล้ว”

    ผมไม่ได้ฟังอะไรพี่แจซอกเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เขาออกจากห้องไปแล้ว ผมนั่งจมกับความคิดของตัวเองจ้องมองแต่โทรศัพท์ที่รายชื่อสายที่โทรออกมีแต่ชื่อของคนๆเดียวอยู่เต็มไปหมด ผมเชื่อว่าผมโทรไปมากกว่ายี่สิบสายแล้วตอนนี้ แต่ละสายก็เว้นอย่างน้อยสิบห้านาทีเผื่อเขาจะไม่ว่างจริงๆ แต่เขาก็ยังไม่ยอมเปิดเครื่อง

    เป็นห่วงจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว . .

    เดินไปที่ห้องครัวเพื่อที่จะหาน้ำดื่มมาประทังคอแห้ง เห็นโพสต์อิทสีเหลืองอ๋อยแล้วชวนหดหู่ใจจากที่อารมณ์ดีกับมันมาทั้งวัน

     

    ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ผิวจะดี : )

     

    ผมเดินไปหยิบหมีลู่หานที่อยู่หน้าลิฟต์มา ให้มันนั่งจมปุกอยู่ข้างๆผมบนโซฟา ตัวแทนลู่หานถูกมัดโบว์สีชมพูสดใสและดูเหมือนกำลังยิ้มเยาะผมหน่อยๆ ราวกับว่าตัวจริงของหมีตัวนี้กำลังแกล้งปั่นหัวผมเล่น ให้ตาย จะแกล้งอะไรก็แกล้งเถอะ อย่างน้อยก็ควรรู้ว่ามีคนเขาใจจะขาดอยู่แล้ว

    ทำไมตรงรักแร้หมีลู่หานมีโพสต์อิทสีเหลืองเหน็บไว้ด้วยนะ

     

    สุดหล่อ . . งอนเหรอ

     

    เห้ย . . ผมมองซ้ายมองขวาทันที เผื่อลู่หานจะแอบซุ่มอยู่ที่ไหนไม่ไกลจากตรงนี้ เขารู้ได้ไงว่าผมกำลังรู้สึกอะไร . .

    มีอีกหลายอันแปะไว้ติดๆกันจนเกือบจะเป็นปึก

     

    อย่างอนเลย เวลางอนให้ดูหน้าน้องหมี

     

    ก็รู้สึกดีขึ้น แต่มันจะไปเหมือนตัวจริงได้ยังไงฟะ . .

     

    งอนมากไม่หล่อนะ

     

    รู้ได้ไงว่ากำลังทำหน้าบึ้ง . .

     

    ไว้ใจฉันนะ โอเซฮุน

     

    แผ่นนี้แผ่นเดียวชนะสามสิบกว่าแผ่นที่ผมอ่านเจอในวันนี้ . .

    แม้จะดีใจที่เห็นถ้อยคำเหล่านี้มาจากลายมือเล็กๆน่ารักของลู่หาน แต่ทว่า . . บางทีผมก็อยากรู้ว่าแฟนเป็นอย่างไร อยู่ยังไง อยู่ที่ไหน เมาเครื่องรึเปล่า อะไรแบบนี้บ้าง ไม่ใช่ตัดการติดต่อแบบนี้ผมใจไม่ดี

    และผมก็คิดถึงเขามากด้วย . .

    กำโทรศัพท์แน่นเข้าไปในห้องของลู่หาน ไม่สนใจโพสต์อิท ห้ามเข้าห้องฉัน!’ ที่แปะอยู่ที่หน้าประตู ผมเดินเข้าไปในห้องที่มีแต่กลิ่นของลู่หาน ชุดนักเรียนที่รีดเรียบร้อยยังแขวนอยู่ข้างตู้อยู่เลย เหมือนเจ้าตัวจะเพิ่งรีดเอาไว้แต่เช้า ไม่รู้จะมีระเบียบไปไหน

    โพสต์อิทบนเตียง . .

     

    ห้ามนอนเตียงฉันนะเว้ย . . ถ้าฉันรู้ฉันเตะนายแน่ . .

     

    ก็มาเตะสิ . . มาเตะตอนนี้เลย . .

    ทิ้งตัวลงไปนอนบนหมอนของลู่หานที่มีเพียงใบเดียว แน่นอนว่ามีกลิ่นของลู่หานลอยคละคลุ้งอบอวลไปหมดทั่วห้อง ค่อยยังชั่วขึ้นนิดหน่อย แม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็ได้กลิ่นก็ยังดีวะ

    ผมรู้สึกว่าผมนอนทับอีกอันที่ซ่อนไว้ใต้หมอน เขาจะใช้เวลาเท่าไหร่กันนะในการทำเรื่องเหล่านี้ . .

     

    คิดถึงล่ะสิ ฮ่าๆๆ

     

    เซ็งคนรู้ทันว่ะ . .

     

    ถ้านายคิดถึงฉัน รู้ไว้เลยนะ ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกัน . .

     

     

    อ่านแล้วดิ้นอยู่บนเตียงราวกับคนบ้า . . ทั้งแสบทั้งน่ารักเลย คนอะไรวะ?

     

    ออด ออด  . .

     

    ใครมา? ผมค่อยๆเดินไปเปิดอินเตอร์คอมดูว่าใครมา . . ไม่ลืมที่จะลากหมีลู่หานไปด้วยด้วยการจับมันที่แขนเพียงข้างเดียว(ลู่หานรู้คงด่าผมตาย)

    หน้าสวยที่ผมเพิ่งเห็นในทีวีเมื่อตะกี้โผล่มาเต็มจอ . .

    “มาทำไมวะ” โวยวายออกไปอย่างเสียมารยาท

    “เสียมารยาท” เธอหน้าบึ้งและก็โวยวายตอบกลับมา “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ โอเซฮุน”

    “ปาร์คเยอึน . . นี่มันดึกแล้ว กลับบ้านกลับหอไปสิ”

    “ผู้จัดการของนายไม่รับโทรศัพท์ใช่มั้ย” เธอพูดอย่างยิ้มๆ

    ผมชะงัก . . เผลอปล่อยหมีลู่หานลงไปกองอย่างตกอกตกใจ . .

    “รู้ได้ไง”

    “ถ้าอยากรู้ก็เปิดประตูสิ”

    ยัยนี่จะมาไม้ไหน . . ผมกลืนน้ำลายก้มลงไปหยิบหมีขึ้นมาจากพื้นปัดฝุ่นให้ด้วยและก็อุ้มมันขึ้นมาเหมือนอุ้มเด็ก ก่อนที่จะกดเปิดประตูให้นางเอกซีรี่ส์ที่ผมต้องเจอะต้องเจอในวันรุ่งพรุ่งนี้

    ยิ่งเจอก็ยิ่งสวยขึ้นทุกวัน แต่ผมไม่ได้สนใจความสวยอะไรของเธอเลยสักนิด ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมเธอถึงรู้เรื่องของลู่หาน

    เยอึนถอดรองเท้าส้นสูงของเธอไว้ที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมอุ้มหมีอยู่

    “นาย . . กับหมี”

    ผมทำหน้าแบบนี้ใส่เธอ -_-

    “ควิโยมิอ่า > <

    ผมเดินหนีเธอเข้าไปในบ้านของตัวเอง

    “นี่เซฮุนน่า . . อย่าเย็นชานักสิ” เธอรีบตามผมเข้ามาด้วยขาสั้นๆของเธอ

    “มีอะไรจะพูดรีบพูดเลย อยู่กับฉันสองต่อสองมันดีกับตัวเธอหรือไง” เข็ดกับครั้งที่แล้วที่ลู่หานมาเห็นพอดี ง้อแทบตายที่โรงเรียน แทบจะคุกเข่าขอแต่งงานเขาอยู่แล้ว

    “ไม่ดียังไง อยู่กับนายก็ดีออก”

    ผมว่ายัยนี่น่ะโรคจิต . . ถึงแม้ว่าผมจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายบนโลกที่คิดจะทำอะไรเธอก็เถอะ แต่ที่เธอไม่กลัวอะไรเลยมันก็มากเกินไป

    “นายไม่ทำอะไรฉันหรอก ฉันไว้ใจนาย”

    “เลิกพูดไร้สาระ และก็พูดมาว่าเธอรู้อะไร”

    “ก็ . .” เธอเดินไปที่โซฟา นั่งลง และก็เปิดทีวี

    เดี๋ยวนะ . . ยัยนี่จะลงหลักปักฐานที่บ้านผมหรือยังไง รีบพูดรีบกลับไปซะสิ!

    “เยอึน ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะให้หมีตีหัวเธอ”

    ผมไม่ทำร้ายผู้หญิงน่ะ . .

    “พูดอะไรเหรอ”

    “เยอึน”

    “อย่าโหดกับฉันสิ”

    “ออกจากบ้านฉันไปเลย” ผมใช้มือของหมีลู่หานตีเธอเบาๆที่หัว หมีทำนะครับ ไม่ใช่ผม

    “เซฮุนน่า . .

     

    จะมาอ้อนอะไรก็ไม่สนใจหรอก ไม่ใช่แฟนไม่ใช่เมียเว้ย . . ยั่วโมโหกันชัดๆ ผู้หญิงอะไรเนี่ย . .

     

    ผมได้ยินเสียงริงโทนเพลงวงEXOดังอยู่ในห้องนอนของลู่หาน เป็นริงโทนตอนเมสเสจเข้า . . ซึ่งมันดังแบบสั้นๆ

     

    คือเรอูล์ฟ เนกาอูล์ฟ อู๊ววววววววววววววว อะซารางเฮโยว!

     

    ต้องเป็นลู่หานแน่ๆ . .

    “เฝ้ายัยนี่ไว้นะ อย่าให้ยัยนี่มาขโมยของ” วางหมีลู่หานลงข้างๆเยอึนและก็รีบเข้าไปในห้อง

    หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างไม่ลังเล เป็นเมสเสจมาจากลู่หานจริงๆ . .

     

    เราเลิกกันเถอะ . .

     

    มันเป็นเพียงไม่กี่คำสั้นๆที่ทำให้ผมตาลายเห็นคำเหล่านี้เป็นอักษรหลายพันตัวในสายตาเดียวกัน

    อะไร . . เกิดอะไรขึ้น  . .ผมงง . . ผมไม่เข้าใจ . .

    แม้จะช็อค . . แต่ผมก็ยังพอรวบรวมสติได้(นับถือตัวเอง) ผมเดินออกไปข้างนอก ไปหาเยอึนที่เริ่มทำการสำรวจหมีลู่หานอย่างถือวิสาสะ ผมแย่งหมีออกมาจากมือเธอ และประจันหน้ากับเธอ

     

    “ปาร์คเยอึน”

     

    น้ำเสียงของผมจริงจังและค่อนข้างโกรธในเวลากัน

     

    เยอึนดูสะอึกเล็กน้อย ตกใจที่ผมทำหน้าแบบนี้ . .

     

    “บอกมาซะว่าเธอรู้อะไร . .

     

    ผมชูถ้อยคำที่เบอร์ลู่หานส่งมาให้ผมให้เธอดู ถึงแม้เธอจะดูตกใจ แต่เธอก็แอบยิ้มที่มุมปาก . .

     

    “รู้อะไรเหรอ” เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างร้ายกาจ . .

     

    ถ้าเธอมีแผน . . ผมคิดว่าแผนของเธอมีช่องโหว่รูเบ้อเร่อ

     

    “เธอรู้สาเหตุที่ลู่หานไม่รับโทรศัพท์ . . มันทำให้ฉันรู้ . .

    ...

     

    “ลู่หานไม่ได้เป็นคนพิมพ์ประโยคนี้แน่นอน”

     

    เยอึนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม . . ให้ตายสิ เธอคิดว่าผมเป็นเด็กหรือยังไง ที่จะหลอกผมกับเรื่องแบบนี้ได้ . .

                และอีกอย่าง . . ผมกับลู่หานก็รักกันมากพอที่จะไม่พิมพ์ประโยคบ้าๆตัดความสัมพันธ์แบบนี้ง่ายๆแน่ๆ

     

                ลู่หานเป็นคนพูดเอง . . ว่าให้ผมไว้ใจเขา

              ถ้าผมคิดถึงเขา เขาก็คิดถึงผม

     

                แบบนี้เราจะเลิกกันได้ยังไง . .

     

                “เธอส่งใครไปอยู่กับเสี่ยวลู่ตอนนี้”

                เยอึนยังคงรับไม่ได้ที่ตัวเธอเองทำให้ผมรู้ถึงแผนการของเธอ

                “ตอบมาซะ โทษหนักจะได้เป็นเบา”

                “ฉันไม่ได้ส่งใครไป หมอนั่นไปเอง”

     

                ผู้ชาย . . ใครกัน

     

                “ใคร”

     

     

     

                “อีวอนน่ะ”

     

     

     

                ผมกำหมัดแน่นทันทีที่ได้ยิน . . นอกจากไอ้อีวอนมันจะเล่นโทรศัพท์ของลู่หานแล้ว

                มันยังอยู่ใกล้ลู่หานมากกว่าผม . .

     

     

                “พรุ่งนี้อีวอนยังไม่มีคิวถ่าย หมอนั่นเลยตามผู้จัดการของนายไปที่ปักกิ่ง”

                “

                “เขาโทรมาหาฉัน บอกให้ฉันมาอยู่กับนาย ตอนที่ ..

                “

                “เขาอยู่กับลู่หาน”

     

     

     

                ผมกำลังรู้สึกว่าตัวผมมีไฟลุกขึ้นทั่วตัวของผม . .

     

                พอจะรู้สาเหตุที่ลู่หานไม่ยอมเปิดเครื่องแล้ว . .

     

               

     

     

     

                อีวอน ชาตินี้เห็นทีมึงกับกูคงไม่ได้ญาติดีกัน . .

     

     

     






     

     

              เครื่องแลนดิ้งลงปักกิ่ง . .

                ร่างบางรู้สึกเสียดายที่คุณยายกับลู่ถิงต้องยกเลิกการเดินทางมากับเขาแบบกะทันหัน ลู่ถิงต้องเข้าประกวดโคฟเวอร์แดนซ์แทนเพื่อนที่เป็นไข้เลือดออก คุณยายก็เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอ ทำให้ร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้มต้องมาที่ประเทศบ้านเกิดคนเดียวอย่างเหงาหงอย

                แม้จะต้องรีบไปหาพ่อกับแม่ทันทีที่มาถึง แต่ลู่หานก็รู้ว่าเขาต้องทำยังไงทันทีที่เครื่องลงจอด . .

                ถ้าไม่โทรไปหาต้องโวยวายแน่ๆ . .

                ลู่หานยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อกำลังบึ้งตึงมากขึ้นทุกทีในความคิดของเขา เหมือนเด็กเอาแต่ใจที่ไม่สนว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไงเวลาที่โดนขัดใจ และนั่นล่ะ คือตัวจริงของโอเซฮุน . . คนรักของเขาที่เป็นดาราดังข้ามประเทศ เงยหน้าขึ้นไปก็ยังเห็นรูปเซฮุนแปะอยู่บนป้ายโฆษณาสายการบินแห่งหนึ่ง

                ลู่หานยืนนิ่งมองดูรูปเซฮุนที่เก๊กหล่อ . . แม้จะอยู่ในชุดนักบินที่โคตรเท่แต่เขาก็ยังดูเด็กเอามากๆ . .

              อย่าเพิ่งโวยวายล่ะ กำลังจะโทรไปหาแล้ว . .

              ลู่หานควานหาโทรศัพท์ในเป้ของตัวเอง ไม่มี . .

                ในกระเป๋ากางเกง . . ก็ไม่มี . .

     

                ชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย . .

     

                หายไปไหนวะ . . กระเป๋าก็อยู่ใกล้ๆตัวเขาตลอด . .

                “ลูกแม่!” ยังไม่ทันได้ตั้งสติดี แม่ของลู่หานก็เข้ามาโอบรอบคอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ยังคงงงเรื่องโทรศัพท์ของตัวเอง พ่อของเขาก็มาอยู่ข้างๆ และที่หนักไปกว่านั้น . .

                เครือญาติโกโหติกาก็มากันหมด ลุงป้าน้าอามารับเขาหมดเลย

                “เอ่อ คือว่า . .” หลังจากที่ทักทายครบ โดนกอดโดนหอมไปซะเยอะ(หลานชายเพียงไม่กี่คนของตระกูลที่เรียนนอกประเทศ) ลู่หานก็กะจะปรึกษาแม่เขาว่าโทรศัพท์ของเขาหาย . .

                แต่แม่ไม่ฟัง . . “กลับบ้านกันก่อนให้หายคิดถึง ไปกินอาหารจีนกัน คุณป้ากับคุณน้าลงมือทำแต่เช้าไว้รอเลยนะลูก คิดว่ายัยลู่ถิงจะมาเลยล้มวัวทั้งตัว”

                “แม่ คือ . .

                “มีอะไรไว้ค่อยคุยกันกับที่บ้านนะ อาเฉินก็โทรมาที่บ้านแล้วด้วย กะจะขอคิวลูกวันพรุ่งนี้” อ้างไปถึงเพื่อนรักชาวจีนของลู่หาน . .และหลังจากนั้นแม่ก็พูดไม่หยุดแข่งกับป้าๆน้าๆจนลู่หานต้องโดนญาติผู้ใหญ่ลากออกไปจากสนามบิน เสียงดังอึกทึก . .

     

                เซฮุนต้องโกรธแน่ๆ จะต้องโกรธมากแน่ๆ . . T^T

     

     

                ลู่หานไม่รู้ว่าเขานั้นอยู่ในสายตาของอีวอนตลอด . . ชายที่ขโมยโทรศัพท์ของเขาไป ตอนที่ลู่หานเผลอหลับอยู่บนเครื่อง . .

                “เอาไงอีวอน จะตามไปเลยรึเปล่า . .” ผู้จัดการคู่หูถามอีวอนที่ทำหน้ายิ้มๆ

                พระเอกซีรี่ส์มองดูโทรศัพท์ในมือ

     

     

                “ไม่ล่ะ  . . แค่นี้ก็น่าจะปั่นหัวเซฮุนได้แล้ว”

     

     

     

    แม้จะสำเร็จเพียงแค่ครึ่งเดียวเพราะเซฮุนรู้ความจริง แต่ความโกรธของเซฮุนนั้นมีมากกว่าที่อีวอนคิดนัก . .







     

    หลังจากที่ไล่เยอึนไป เซฮุนก็ได้แต่นั่งจ้องดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า

     

    ถึงมันจะสวยงามมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีอะไรมาห้ามโทสะที่คุกรุ่นของเขาได้เลยแม้แต่น้อย

     

    ไม่มีเลยจริงๆ . .

     

     

    “อย่าให้มันแตะแม้แต่ปลายเล็บเชียวนะ เสี่ยวลู่ . .










    “ไม่อย่างนั้นต้องเอาตัวเองแก้ผ้าผูกโบว์มาง้อจริงๆด้วย . .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

     

    เม้นเสียเถิดจะเกิดผลเร็ว . .
    ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ มาร่วมฟินกับคนเขียนไปนานๆ : D

     

     

     

     

     






     









    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×