ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #16 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER FOURTEEN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.48K
      38
      30 ต.ค. 56

    [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER FOURTEEN

     

     








     

                ตอนเช้าตื่นมาจะมีอะไรสุขีไปกว่าการที่มีลู่หานอยู่ข้างๆ . .   

                เพราะว่าไม่มีใครมาเรียกให้ตื่นแต่เช้าบวกกับต้องการการพักผ่อนกันทั้งนั้น วันนี้ผมเลยตื่นสายได้(เก้าโมงเช้าเวลาท้องถิ่น) แดดส่องเข้ามาในห้องค่อนข้างแรงแต่โชคดีที่แอร์มันเย็น คนข้างๆผมเลยไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่และเขาก็คงจะหลับลึกจริงๆเพราะไม่รู้สึกตัวเลยว่าผมกำลังจ้องหน้าเขาอยู่

                คนอะไรหลับได้สนิทดีจริงๆแถมยังไม่ดิ้น นอนท่าไหน ตอนเช้าก็ยังอยู่ท่านั้น . . ซบอกผมอยู่อย่างนั้น

                ผมไม่กล้าลุกไม่กล้าปลุก . . (ฉวยโอกาสตามเคย) แอบมองใบหน้าลู่หานยามหลับนี่อยู่นาน (ประมาณเกือบชั่วโมงได้แล้วมั้ง) ขนตาของเขา พวงแก้มชมพู และใบหน้าละเอียดอ่อนนั่นอยู่ห่างจากผมไม่เท่าไหร่ และนี่ก็ไม่ใช่ความฝัน ไม่อยากให้ใครช่วงชิงเขาไปจากผม ไม่อยากให้คนๆนี้อยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นที่ไม่ใช่ผม หรือหลับซบอกคนอื่นที่ไม่ใช่ผม เขาน่ารัก เขานิสัยดี และเขาเป็นคนดีซะขนาดนี้ . .

                ไม่อยากรอแล้ว แต่งงานกันเลยมั้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                เป็นช่วงเพ้อของคนทำงานหนักและได้นอนเต็มอิ่มแบบเบลอๆ(ตรรกะไหน?) ตอนเช้าก็เลยเพ้อเจ้อไปนิดนึง ไม่รู้ว่าเพราะผมเพ้อเจ้อในใจดังเกินไปรึเปล่า เพราะตอนนี้ลู่หานเริ่มที่จะขยับตัวเลย

                ชิบหายแล้วตู .  . ผมรีบปิดตาตัวเองลงอย่างรวดเร็ว

                หรี่ตาขึ้นมามองนิดนึง เห็นลู่หานทำตาปรืออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลและเขากำลังจะขยับไปจากผม ผมนี่กอดตัวเขาไว้แน่นเลย ไม่อยากปล่อยเขาไป

                “โอเซฮุน . . ปล่อยนะเว้ย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียแต่ค่อนข้างบังคับขู่เข็ญ

                “อยู่ต่ออีกนิดสิ”

                “นี่แกล้งหลับเหรอ”

                “เขาเรียกพักสายตา 5 วินาที”

                “ปล่อยเลยยยยยยยยยยยย” ลู่หานผลักผมให้ออกห่างจากตัวเขา แต่คนตัวเล็กกว่าย่อมเสียเปรียบ “เซฮุน นี่จะเล่นทั้งคืนยันตื่นนอนเลยหรือยังไง นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

                “ถ้าได้เล่นกับนายตลอด ฉันก็ยอมเป็นเด็กนะ”

                . . ลู่หานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม และเขาก็ก้มหน้างุด

                “หูแดงนะเรา” ผมทัก

                “ปล่อยโว้ยยยยยยยยยยยยยย”

                “ถ้าหอมแก้มเค้านะ เค้าจะปล่อยตัวเองทันทีเลย”

                “ไอ้เชี่ยเซฮุน!” ลู่หานทำหน้าเหมือนหมดความอดทนกับผม แต่จริงๆแล้วเขาก็คงแอบเขินอยู่เหมือนกันใช่มั้ย เพราะหน้าของเขาแดงก่ำ

                “นะ” ผมยิ้ม

                ถ้ายอมก็ไม่ใช่คนสวยของผมสิ . . “เห็นนี่มั้ย” เขายกกำปั้นขึ้นมาขู่ผม

                “อะไรเหรอ”

                “กำปั้น ไม่ปล่อยจะชกจริงๆด้วย”

                โดนขู่ทำร้ายร่างกายอีกแล้ว . . “ปล่อยก็ได้ แต่ . .






                จุ๊บ





                ในเมื่อลู่หานไม่ทำ ผมทำเอง ผมแอบจุ๊บแก้มลู่หานอยากรวดเร็วและลุกหนีเข้าห้องน้ำไปเลย

                ลู่หานโยนหมอนมาใส่หลังผม “ไอ้บ้าเซฮุน!!!!!!!!!!!!!!

                เวลาลู่หานเขินและก็ระบายออกมาเป็นความรุนแรงเนี่ย โคตรจะน่ารักเลยว่ะครับ

                แต่ผมไม่ได้เป็นพวกชอบความรุนแรงนะ . .

                “มาอาบด้วยกันป่าว ประหยัดเวลา” ผมโผล่หน้าออกมาจากประตูห้องน้ำ และทันใดนั้นผมก็โดนหมอนอีกข้างปาโดนเข้าที่หน้าเต็มๆ สะเทือนไปถึงกระดูกดั้ง . .

                “ยังจะกล้าถาม!!!!

     

     

     


     

               

                “นี่ . .ใส่ชุดนี้”

                “อะไร” ลู่หานถาม เมื่อเห็นผมเตรียมชุดมาให้เขา เขาหยิบเสื้อกล้ามกับขาสั้นขึ้นมาดู “ให้ใส่เนี่ยอะเหรอ”

                “ช่าย” ผมเองก็ใส่เหมือนกันนะ . . ขาสั้นกับเสื้อกล้าม ชิวสุดๆ

                “นายจะไปทำงานสภาพเนี้ยอ่ะเหรอ” ลู่หานมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ลืมไปว่าเขาไม่รู้ว่าผมไม่มีงาน

                “ช่าย” ผมตอบคำเดิม ยักคิ้วจึกๆ “เหมือนนักท่องเที่ยวป่ะ”

                “อืม ก็เหมือนอยู่” ลู่หานพูด หยิบชุดที่ผมเตรียมให้ไปใส่ ตอนนี้ผมกับเขากำลังจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในประเทศไทยแล้วนะครับ!

                แต่ผมขาดหมวกไม่ได้ . . ไม่รู้ว่าจะมีใครจำผมได้มั้ย . .

                “พร้อมยัง” ผมถามลู่หาน

                “ยัง” ลู่หานตอบ “เอ้านี่” เขาโยนครีมกันแดดมาให้ผม “แดดที่นี่แรง”

                ไม่นานนักผมกับลู่หานก็แต่งตัวเสร็จ ประมาณสิบโมงนิดๆผมก็เปิดประตูออกไปข้างนอก และสิ่งที่ผมเห็นและทำให้ผมผงะนั่นก็คือ . .

                การ์ดจำนวนมหาศาลในชุดทะมัดทะแมงสีดำสกรีนคำว่าซีเคียวริตี้ . .

                “สวัสดีตอนสายๆนะครับคุณเซฮุน” (ภาษาไทย)

                (เกาหลีถึงกับงงไปเลย) “เอ่อ คุณต้องตามผมไปเหรอครับ ผมกำลังจะไปเที่ยว”

                “พอดีผู้จัดการของคุณบอกให้พวกเราไปดูแลความปลอดภัยของคุณกับผู้จัดการคนนี้น่ะครับ” (ภาษาไทย)

                “เขาพูดว่าอะไรน่ะลู่หาน” ผมเกาหัว ในขณะที่ลู่หานเองก็ส่ายหน้าพรืดไม่รู้ความหมายของมัน“เอ่อ ครับ ไม่ต้องตามผมไปก็ได้นะครับ ผมดูแลตัวเองได้”

                หัวหน้าการ์ดคนนั้นยิ้มอย่างเดียว . . ให้ตายสิ จะสื่อสารกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย

                “ไปเถอะ” ผมคว้ามือลู่หานแล้วออกเดินทันที แน่นอนว่าการ์ดเหล่านั้นก็เดินตามผมมากันใหญ่ “คุณครับ ไม่เป็นไรก็ได้ครับ ไม่มีใครจำผมได้หรอก”

                เขายังคงยิ้มอยู่ . . ท่าทางเขาจะฟังผมไม่รู้เรื่อง . .   

                “เอ๊ะ มีข้อความจากพี่แจซอก” ลู่หานเช็คโทรศัพท์ “เขาบอกว่านายจะไปไหนก็ได้ แต่ต้องมีการ์ดพวกนี้ไปด้วยในทุกที่ ห้ามกลับเกินสี่ทุ่มวันนี้ เพราะพรุ่งนี้มีไฟลต์กลับเกาหลีแต่เช้า”

                จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ผมกำลังจะไปเที่ยวและมีการ์ดพวกนี้คอยตามไปอยู่มันใช่เรื่องที่ไหน . .



              การซ้อมฮันนีมูนของผม ต้องกลายเป็นการซ้อมแสดงละครบู๊แทนเหรอนี่


              “ลู่หาน”

                “หืม” ลู่หานทำตาแป๋วใส่ผม

                “มัดเชือกรองเท้าแน่นยัง”

                เขาทำหน้างงใส่ผม . . “แน่นแล้ว . .มั้ง”

                “งั้นก็ . .” ผมมองไปข้างหน้า หันหลังให้การ์ดนับสิบที่ยืนเรียงกันหน้าสลอน “วิ่ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


                ลู่หานแทบหัวทิ่มตอนที่ผมออกตัว และทันทีที่ผมออกตัววิ่ง การ์ดพวกนั้นก็วิ่งเหมือนกัน นี่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยหรือไงว่าอยากไปลู่หานแค่สองคนน่ะฮะ?!!!!!!!


                “เซฮุน ทำอะไรของนาย!!!!

                “หนีไง!!!

                “พวกนั้นไม่ได้พานายไปทำงานหรอกเหรอ!!!

                “งานของฉันวันนี้ . .คือพานายเที่ยวตามที่ฉันสัญญาไง”

                ลู่หานชะงัก . . “แต่ว่า ถ้าไม่มีการ์ดพวกนั้นนายอาจจะ….

                ผมจับหน้าลู่หานให้หันมามองผม เขาเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยความงุนงง



     


     

                “วันนี้มีแค่ผู้จัดการของผมกับผมก็พอ...



     

              “

     

     

     

              “ผมจะดูแลผู้จัดการเอง”


     

              ลู่หานกระพริบตาปริบๆ และตอนที่เราหยุดคุยกันการ์ดก็วิ่งไล่ตามมาเกือบทันพอดี ผมเลยต้องคว้ามือลู่หานและก็ออกวิ่งอีกครั้ง ประชาชนหน้าโรงแรมทุกคนต่างพากันคิดในใจว่าไอ้สองนักท่องเที่ยวเกาหลีตัวเผือกนี่ไปขโมยอะไรใครเขามารึเปล่า

                “อา ทำไงดี” มองไปข้างหน้าก็มีแต่ถนน

                “เซฮุน” ลู่หานเขย่ามือผม “จะดีเหรอ”

                “ดีสิ” ผมตอบทันที และไปเจอะอะไรอย่างหนึ่งเข้าอย่างจัง “นึกออกแล้ว”

                “อะไร???”

                “นั่นไง”

     

     

                ชี้มือไปที่พาหนะที่จอดเรียงรายกันอยู่ คล้ายมอเตอร์ไซค์ที่มีหลังคาครอบ . .

     

     

                “ไปกันเลย” พาลู่หานขึ้นไปนั่งบนนั้นและสื่อสารบอกกับคนขับว่า “ไปเร็วๆเลยครับลุง ไปไกลๆ ไปที่ไหนก็ได้”

                แน่นอนว่าลุงคนไทยฟังผมไม่รู้เรื่อง “แวอายูโกอิ้ง???”

                “ลู่หาน ตอบทีสิ” ขอโทษครับที่อ่อนภาษาอังกฤษ . .

                “เอ่อ . . ขับไปเรื่อยๆเลยครับ” สงสัยหน้าสิ่วหน้าขวานลู่หานก็เลยไม่รู้จะตอบว่าไง

                “อะไรกันหว่า . . เห้ย นั่นใครตามมา เวรละ เดี๋ยวผมพาซิ่งเลยนะครับ!!!!!

                ไม่รู้ว่าลุงเขาพูดอะไร แต่ทันทีที่เขาออกตัว ตัวผมกับลู่หานก็กระเด้งกระดอนไปตามจังหวะที่เขาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา



                “โอ้ว ยูคงเพิ่งเคยมาไทยครั้งแรกสินะ เวลคัมทูไทยแลนด์แดนรวยสไมล์!!!!

     

                ไม่ได้ฟังอะไรกันทั้งนั้น เพราะต่างคนต่างหาที่เกาะ ขับหวาดเสียว กลัวตกลงไปจากรถมากมาย . .


     

              “ดิสอิสเดอะตุ๊กตุ๊ก!!!! สนุก ปลอดภัย แน่นอน!!!





     

     

                  ไอ้รถมหาประลัยนี่เรียกว่าตุ๊กตุ๊กเหรอเนี่ย ?!!!!!! แบ๊วไม่สมกับความหวาดเสียวเลยนะเอ็ง!!!!!!













     

     

                “คิดว่าน่าจะหลบพ้นแล้วนะครับ”

                ผมหายใจหอบ เอื้อมมือไปแตะมือลู่หานที่อยู่ในอาการช็อคพอกัน จนแล้วจนรอดก็ยังคุยกับลุงคนขับไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็พาพวกผมมาไกลใช้ได้และไม่เห็นเงาการ์ดสักคนแล้วตอนนี้

                “อ่า คัมซาฮัมนีดา” ผมบอกกับเขา ยัดแบงก์หนึ่งพันบาทใส่มือคุณลุง

                “โหย เยอะไป เยอะไปครับ มีแบงก์ร้อยมั้ย สีแดงๆ เรดเพเพอร์!!!

                กระดาษสีแดง ??? ผมทำหน้างงไปใส่ลู่หาน และลู่หานก็ร้อง “อ๋ออออ ยูว้อนวันฮันเดรด???”

                “เยสสสสสสสส แค่นั้นพอครับ”

                “มีแบงก์ร้อยมั้ย”

                ผมมองดูในกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง แบงก์พันล้วน แถมยังมีเป็นปึก . . “ไม่มีอ่ะ”

                ลู่หานเลยต้องควักกระเป๋าตังค์ของตัวเองที่มีแบงก์ร้อยไทยมาจ่ายให้ลุงคนขับ “คัมซาฮัมนีดา”

                “แทงกิ้ว”

                ผมบอกกับลุงคนขับและลงไปจากรถ ไม่ลืมยื่นมือไปให้ลู่หานจับตอนลงจากรถด้วย เขาก็จับนะ แต่พอลงมาถึงพื้นได้เท่านั้นแหละ รีบปล่อยทันทีไม่รู้ทำไม

                “ฉันลงเองได้”

                อยากจะขำให้ฟันร่วง . . ตอนลงน่ะใครกันนะที่ขาสั่นพั่บๆ “โทษทีนะที่ให้นายจ่ายก่อน”

                “ไม่เป็นไร” ลู่หานหันมายิ้มให้ . . สาบานได้ว่าหัวใจของผมกระตุก “วันนี้นายต้องเลี้ยงฉันทั้งวันนี่นา” ยิ้มจนตาหยี เมื่อรู้ว่าจะได้กินฟรีเที่ยวฟรี เขาเดินนำหน้าไปในขณะที่ผมเดินตาม

     

                ต่างประเทศ กับลู่หาน แค่สองคน . .

             

     

              เหมือนฝันเลย . .

                “นายอยากไปไหน ที่จริง . . ฉันไม่รู้อะไรเลย” ผมชวนเขาคุย ขยับหมวกลงมาเล็กน้อยตอนที่กลุ่มเด็กสาววัยรุ่นเดินผ่าน พวกเขาชี้ชวนกันดูกับลู่หานใหญ่

                “ฉันก็ไม่รู้ . . ฉันก็แค่ . .” ลู่หานลูบท้อง

                “หิวข้าว?” ผมถาม ในขณะที่ลู่หานไม่กล้าตอบ “และเราจะทานอะไรกันดีล่ะ ในห้างดีมั้ย อีกนิดน่าจะถึงห้างแล้ว”

                “มาถึงนี่ทั้งทีทานที่ห้างได้ไง” ลู่หานท้วงขึ้นมา “ฉันอยากทาน . . ไอ้นี่”

                ผมมองไปสิ่งที่ลู่หานชี้มือ ก๋วยเตี๋ยว??? มันไม่ค่อยไทย แต่ท่าทางเขาจะหิว

                “เอาสิ ฉันตามใจนาย” ผมยักไหล่

                “แน่นอน นายต้องตามใจฉันอยู่แล้ว” ลู่หานเดินนำเข้าไปในร้าน ในขณะที่ผมอมยิ้มตามหลังเขาไป เขาอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าผมตามใจเขาแค่วันนี้ . .

                . . จริงๆแล้ว ทั้งชีวิตเลยต่างหาก

                โก่งคออ้วกกันใหญ่ ตามใจที่ไหน อยู่บนเตียงบังคับเขาจะตาย!!!! . . อย่าเพิ่งโวยวายกันครับ ถ้าคุณมาอยู่กับผมตอนที่ผมอยู่กับลู่หาน คุณก็คงไม่ต่างจากผม ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ

                ลู่หานนั่งตรงข้ามผม หลังตรง กระตือรือร้นพร้อมสั่งเต็มที่

                “เซฮุน นายจะทานไร”

                “ฉันเอาเหมือนนาย”

                ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคช่วยหรืออะไรก็ตามแต่ . . เจ้าของร้านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ลู่หานพูดกับเขาใหญ่เลย โม้นั่นโม้นี่เป็นภาษาจีนซะจนผมมึนและงง งงภาษาไทยไม่พอยังจะต้องมางงภาษาจีนต่ออีก บาปกรรมอะไรของผมเนี่ย TT

                “เขาบอกว่านายเหมือนดารา” ลู่หานหัวเราะคิก เมื่อเจ้าของร้านนำก๋วยเตี๋ยวหอมฉุยมาเสิร์ฟ “แต่เขาไม่รู้จักนาย”

                ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี . . “คุยอะไรกับเขาไปบ้างน่ะ”

                “ถามเขาว่าควรไปเที่ยวที่ไหน เขาแนะนำหลายที่เลย แต่

                “อะไร”

                “ไปไม่เป็น”

                ผมกับลู่หานนี่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรกันมาจริงๆ ถึงแม้ว่าลู่หานจะสนใจเมืองไทยมากแค่ไหน แต่แค่สนไม่ได้สนใจในเส้นทาง สงสัยวันนี้ผมคงต้องสดลูกเดียวพาลู่หานไปไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่รู้สิ แค่มีลู่หาน ผมจะไปไหนก็ได้ จริงๆนะ . .

                “ไว้ค่อยคิดตอนทานเสร็จละกัน”

                ลู่หานพยักหน้า และเขาก็เริ่มทาน แต่เขาก็มีสีหน้าวิตกกังวล มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหน้าจอโชว์เบอร์พี่แจซอก งานกำลังเข้าลู่หาน . .

                “เอามานี่” ผมหยิบโทรศัพท์ของลู่หานมาและก็กดตัดสาย

                “เซฮุน! นายทำแบบนั้นฉันจะถูกตัดเงิน!

                “นี่ เงินจ้างนายฉันก็มีส่วนนะ” ผมเถียง “วันนี้มีแค่เราได้มั้ย..


                ลู่หานทำตาโตจ้องผมอยู่ครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นเขาก็ก้มหน้าก้มตาโซ้ยก๋วยเตี๋ยวในชามใหญ่เลย


                พอเราพากันทานเสร็จ ลู่หานก็ไม่ลืมที่จะไปโฟ่ภาษาจีนกับเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวใหญ่ราวกับนึกถึงปักกิ่งของตัวเอง ผมผู้ที่มีทักษะภาษาที่สองสามสี่ห้าติดลบก็ได้แต่ยิ้ม ยิ้ม ยิ้มและก็ยิ้ม สักพักเจ้าของร้านก็เอากระดาษมาให้ผมเซ็นให้

                เขาบอกว่าเขาเคยเห็นผมในซีรี่ส์เกาหลีที่ลูกสาวเขาเปิดดู ผมรีบมองหาเธอคนนั้นอย่างระแวดระวัง ไม่อยากให้แฟนๆมาเห็นผมในสภาพหลบๆซ่อนๆแบบนี้เท่าไหร่ ดีที่เจ้าของร้านบอกว่าเธอคนนั้นไปโรงเรียน ผมเลยปลอดภัย

                แต่เขาก็ถ่ายรูปคู่กับผมเอาไว้ให้เธอได้กรี๊ดเล่นๆ . .

                “ทีนี้จะไปไหนต่อ” ผมเอ่ยขึ้นมา เกาหลีกับคนจีนที่อยู่เกาหลีสองคนกำลังเดินอยู่ริมฟุตบาท ไม่มีที่จะไปและไม่รู้จะไปที่ไหน “นายอยากเที่ยวที่ไหน นำทางไปเลย ฉันจ่ายเอง”

                “นี่ ช่วยกันคิดสักหน่อยก็ดีนะ”

                ผมขยับหมวกมาปิดหน้า ส่วนลู่หานก็เดินมองซ้ายทีขวาที “อีกนิดก็จะถึงที่นี่แล้ว . .” เขาพูดเมื่อเราเดินมาได้สักพัก

                “อะไรเหรอ”  

                “เซ็นทรัลเวิลด์”

                “มันคืออะไรอ่ะ”

                “ห้างใหญ่ห้างหนึ่ง”

                “มาไทยทั้งทีจะไม่ไปที่อื่นหน่อยเหรอ”

                “อย่ามาถามแบบนี้ได้มั้ย นายก็ไปที่อื่นไม่เป็นเหมือนกันไม่ใช่รึไง”

                ก็จริงของเขา จะเอาอะไรมากกับดาราในกระแสและก็ผู้จัดการของเขาที่มาเที่ยวแบบหลบๆซ่อนๆ ผมเดินตามลู่หานไปเรื่อยๆ และรู้สึกได้เลยว่าคนที่เดินสวนมาก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ผมเอาหมวกมาปิดหน้าให้มิดชิด เพราะบางคนก็มองผมจนเหลียวหลังและก็ชี้ชวนกันดู . .

                ขนาดลู่หานไม่ใช่ดาราเขาก็โดนผู้หญิงที่เดินสวนมามองตามกันตาละห้อย . . จริงๆแล้วเขาเป็นคนหน้าสวยก็จริงแต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเขาหล่อแบบจิ้มลิ้มน่าจะถูกมากกว่า ยังไม่เคยชมลู่หานตรงๆเลยว่าเขาสวย และถ้าผมชมเขาไปอย่างนั้นเขาจะถีบผมมั้ยอ่ะ . .

                “ตรงนี้คืออะไร . . แพลตินัม ??” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่อตรงที่ๆเราเดินผ่าน

                “นี่” ผมเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้ๆเขาแล้วถาม

                “ว่าไง” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมามองผม “ฉันได้ยินคนพูดชื่อโอเซฮุนสามครั้งละนะ”

                เขาทำให้ผมต้องขยับหมวกอีกรอบ “จริงเหรอ”

                “ทำไมกลัวมีคนจำได้ขนาดนั้น”

                “นี่ถามเหมือนไม่เคยโดนมรสุมแฟนคลับของฉันที่โรงเรียนเลยนะ”

                “เออว่ะ” ลู่หานเหมือนจะลืมนึกไป ซื่อจริงๆ . . “แล้วเมื่อกี้เรียกฉันมีอะไรเหรอ”

                ได้เวลาปฏิบัติการในสิ่งที่ผมสงสัย “นายคิดว่า . .” ผมมองหาเหยื่อที่เข้าตา คนนั้นน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากเกาหลี ดูจากสีผิว และก็ดวงตาของเธอ “. . คนนั้นสวยป่าว”

                ปกติไม่เคยคุยเรื่องผู้หญิงกับลู่หานเลย . . ไม่เคยเลยจริงๆ นอกจากเรื่องของคังมิร่าตั้งแต่งานถ่ายแบบครั้งกระโน้น

                “นายถามทำไม” ลู่หานชักสีหน้า

                “ตอบมาเหอะน่า”

                “ก็ . . สวยดี” ลู่หานตอบ “นายถามทำไม”

                “แต่ฉันว่า . .นายสวยกว่า”

                ผมรอดูปฏิกิริยาตอบโต้ของเขา . . ก็เขาสวยจริงๆนี่นา . . ลู่หานกระพริบตาปริบๆ ชี้นิ้วเข้าหาที่ใบหน้าของตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ . . สวย?”

                “ใช่ . . สวย”


                “จะบ้าเหรอ สวยเสยอะไรกัน นายบ้าหรือเปล่า ฉันเป็นผู้ชายนะ และฉันก็แมนเอามากๆด้วย ไม่เชื่อนายจะดูกล้ามฉันหรือเปล่า ดูน่องขาของฉันมั้ย หา!!!!! สวยเชี่ยไร ฉันไม่ได้สวยเลยนะโว้ยยย ฉันน่ะหล่อ!!!! เข้าใจรึเปล่า”

                พูดออกมาเป็นน้ำไหลไฟดับ ด่าซะจนแม่ค้าปากตลาดยังอาย เขาทำผมหงอไปเลยปิดหูแทบจะไม่ทัน . . แต่ก็ตลกดี สวยจะตายยังไม่คิดว่าตัวเองสวยอีก . . “ก็นาย . .สวยจริงๆ”

                “หุบปากไปเลย”

                “เมื่อกี้นายทำท่าเหมือนหึงฉันเลย ตอนที่ฉันพูดถึงผู้หญิงคนนั้น”

                “หา”

                “นายทำหน้าไม่พอใจเอามากๆ”

                “มโน!

                “จริงๆนะ”

                “เรื่องชมว่าฉันสวย ฉันยังไม่หายโกรธเลยนะ นี่ยังจะสร้างอีกเรื่อง?”

                “อ้าว นี่โกรธฉันเหรอ”

                “

                “โกรธไรเล่า อย่างอนง่ายๆสิ”

                “ทำไมล่ะ”

                ผมกระซิบใส่หูคนที่ถูกยั่วให้โกรธ “ฉันก็จะง้อนายไง”

                “ไปไกลๆเลย” ลู่หานผลักไหล่ผม “เล่นอะไรก็ไม่รู้ เลิกเล่นนะ”

                “ไม่ได้เล่น นี่จริงจัง”

                ลู่หานมองหน้าผมและเขาก็ทำหน้าหมดความอดทน เขาเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว ข้ามสะพานที่จะนำพาเขาไปยังเซ็นทรัลเวิลด์ . .

                ตอนนี้ผมกำลังจีบเขาอย่างออกหน้าออกตา . . ผมยอมรับเลย มีความสุขแบบสุดๆ ชนิดที่ว่าแม้แต่แดดเมืองไทยก็ทำลายความสุขของผมไปไม่ได้


              รออย่างเดียว รอวันที่ลู่หานใจอ่อน . . วันที่เขายอมรับว่าเขาชอบผมเหมือนกัน . .



                “อ่า ถึงแล้ว” ฝ่าแดดมากันจนถึงเซ็นทรัลเวิลด์จนได้ . . ลู่หานเหงื่อไหล่นิดหน่อย “โน่นไง เอ๊ะ ตรงนี้มีพระพิฆเนศ! เซฮุน ไปไหว้ท่านกัน!

                ผมยังหอบอยู่เลยตอนที่ลู่หานดึงผมไปซื้อพวงมาลัยกับดอกไม้สำหรับไหว้ ลู่หานหยิบไปและก็ไปไหว้ขอพรเลย ไม่รอผมเลยสักนิด ลำบากผมที่ต้องจ่ายตังค์และก็หยิบดอกไม้และพวงมาลัยไป นี่ไม่อยากทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันเลยหรือยังไง

                ลู่หานหลับตาและก็กำลังไหว้อธิษฐานอยู่ ผมเลยทำบ้าง . .


                พระพิฆเนศ ถ้าลูกช้างมีบุญขอให้ลูกช้างได้กลับมาที่นี่อีกครั้งพร้อมคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และอยู่ในฐานะคนรักไม่ใช่ผู้จัดการ สาธุ . .

              “เซฮุน นายขออะไรเยอะแยะน่ะ”

                “หึ” ผมส่งเสียงไม่ได้ตอบอะไร

                พวกเราวางดอกไม้พวงมาลัยไว้ในที่เดียวกันและวางพร้อมกัน . .

                “สบายใจขึ้นมั้ย” ผมถามลู่หาน

                “อื้อ”

                “หายโกรธฉันยัง”

                “ฉันไม่ได้โกรธขนาดนั้น” ลู่หานติดจะรำคาญผมหน่อยๆ

                “งั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ เหงื่อนายไหลเพียบเลย” ผมเอาหลังมือเช็ดเหงื่อให้เขา ลู่หานยืนนิ่งอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็เบี่ยงตัวหลบ ไม่รู้เขินหรืออะไร

                “เช็ดเองได้น่า” เขาเดินหนีผมและก็เดินนำผมไปอีกแล้ว

                ผมส่ายหน้าเบาๆและก็เดินตามเขาไป . . โทรศัพท์ของลู่หานที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเริ่มสั่นขึ้นมาอีกระลอก แน่นอนว่าเป็นเบอร์พี่แจซอก

                ปั่นหัวพี่แกเล่นหน่อยเป็นไง . . เมื่อคืนใครบอกให้เซอร์ไพรส์เอาทีมงานมาถ่ายผมอีกทีมล่ะ???

                “ครับ”

              “ไอ้เด็กบ้า!!!!!!!!! นายอยู่ไหน!!!!!!!!! ไปไหนทำไมไม่เอาการ์ดไปด้วย!!!!!!!! แกอยากทำให้ฉันโดนรองประธานฆ่าเหรอ!!!!!!!!! เด็กเวร!!!!!!!!!!!!

              โทรศัพท์ลู่หานจะพังมั้ย . . “เบาๆก็ได้มั้งพี่”

                “จะไปไหนก็ได้ในไทยฉันก็ไม่ว่าเลยนะ แค่เอาการ์ดไปด้วยเท่านั้นน่ะ!

                “ผมไม่เป็นไรจริงๆนะพี่”

                “อยู่ไหนตอนนี้ มีแฟนๆรุมรึเปล่า อย่ารับของจากคนแปลกหน้านะโว้ย”

                “สบายมาก”

                “แล้วอยู่ไหนล่ะ”

                “ผมจะบอกพี่ทำไม บอกไปพี่ก็มาตามผมน่ะสิ”

                “โอเซฮุน นายจะซนที่เกาหลีแค่ไหนฉันไม่ห้าม แต่นี่เมืองไทยนะ มันไม่ใช่บ้านนายนะ!!!

                “จริงป่ะเนี่ยพี่” ผมยียวน “แค่นี้ก่อนนะครับ”

                “เฮ้ย เดี๋ยว โอเซฮุน ห้ามกลับโรงแรมเกินหกโมงเย็น!

                “อ้าว ก็ไหนพี่บอกผมว่าสี่ทุ่มไง!

                “ก็นายไปโดยไม่มีการ์ด มีเวลาเที่ยวอีกหกชั่วโมง ฉันให้เวลานายแค่นั้น”

                “เชอะ!!!!!!!!

                ผมกดตัดสายใส่พี่แจซอก และแน่นอนผมรีบปิดเครื่องทันควันเพราะกลัวว่าเขาจะตามหาผมผ่านทางโทรศัพท์นี่ เครื่องพี่แจซอกมีแอพอะไรสักอย่างที่ใช้ตามหาโทรศัพท์อีกเครื่องโดยเฉพาะ ผมโดนบ่อย . .

                “มีอะไรรึเปล่า” ลู่หานถามอย่างเป็นกังวล เมื่อผมเดินตามเขาได้ทัน

                “เปล่า พี่แจซอกกลัวเงินสดของฉันไม่พอเลี้ยงนายน่ะ” ตาของผมยิ้มจนหยี

                ลู่หานทำหน้าเหลอหรา ก่อนที่เราสองคนจะได้สัมผัสแอร์เย็นๆของเซ็นทรัลเวิลด์

                เฮ้อ . . ค่อยยังชั่ว เย็นดีชะมัด . .

                ทันทีที่เข้าไปในห้าง ลู่หานก็รีบเดินดูของทันทีในแบบที่ผมตั้งตัวไม่ติด ผมไม่เคยไปเที่ยวห้างกับลู่หาน นี่เป็นครั้งแรก และผมก็เพิ่งรู้สไตล์การช็อปปิ้งของเขา

                เขาช็อปเก่งมาก . .

                เชื่อเลยว่านานๆทีจะออกไปช็อปปิ้งเพราะฐานะทางบ้าน แต่ถ้าได้ออกไปลู่หานก็คงจะช็อปกระจายเหมือนคราวนี้ “นายว่าคู่นี้เป็นไง”

                รองเท้าผ้าใบสีขาวคือสิ่งที่ลู่หานชูให้ผมดู “อ๋อ ก็ . .

                “เซลล์ด้วยนะ”

                ผมเตรียมควักกระเป๋าตังค์เพื่อที่จะจ่าย แต่ลู่หานกลับวางรองเท้าคู่นั้นลงซะงั้น . . “อ้าว ไม่ซื้อล่ะ ลืมไปแล้วเหรอ ทริปนี้นายฟรีตลอดทริปน่ะ”

                “บ้าเหรอ ของมันไม่ใช่วอนสองวอน เอ๊ย บาทสองบาท”

                “ซื้อเหอะ”

                “ไม่เอา”

                “ฉันจ่ายไง”

                “จ่ายค่ากินก็พอ”

                “สวัสดิการผู้จัดการของฉัน . . ถ้านายอยากได้ ฉันจะซื้อให้”

                ลู่หานชะงัก . . เขามองไปที่รองเท้าคู่นั้นแล้วกลืนน้ำลาย สักพักหนึ่ง . . เขาก็บอกผมว่า “คู่นี้ยังไม่โดนเท่าไหร่ จะไปดูคู่อื่น”

                ซะงั้น . . และหลังจากนั้นลู่หานก็ให้ผมเสียตังค์ซะจนการหยิบจ่ายออกไปเป็นเรื่องปกติ

     

              “เสื้อตัวนั้นนายว่าเท่มั้ย เซฮุน ฉันว่าเท่ออกนะ”

              “ง่ะ มีแต่ไซส์แอล ตัวนี้ฉันน่าจะใส่ไซส์เอ็ม . . งืม ซักไปมันคงหดมั้ง”

              “เซฮุน ยืมตังค์ก่อนนะๆๆๆ”

              “ออกให้ก่อนได้มั้ย แหวนนี่แมร่งเท่จริงๆ นะๆๆ เดี๋ยวกลับเกาหลีฉันจ่ายคืน ฉันสัญญา!

              “นายหักจากเงินเดือนฉันก็ด้ายยยยยยยยยย TT

              “เซฮุน หนักมั้ย ให้ฉันช่วยถือเถอะ”


     

    สงสัยต้องขยันทำงานมากกว่านี้ซะแล้วล่ะมั้ง ถ้าเมียในอนาคตจะช็อปเก่งซะขนาดนี้ . .

    ตอนนี้ของในมือของผมมีมากกว่าห้าถุง ทั้งหมดเป็นของลู่หาน และตอนนี้ลู่หานกำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล . . ผมไม่เสียใจเลยสักนิดกับตังค์ที่เสียไป ตรงกันข้ามผมกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นลู่หานยิ้มและก็ช็อปปิ้ง ผมว่า . . การช็อปปิ้งนี่ทำให้เขามีความสุขและก็ที่สำคัญ  . .

    เขาโคตรจะอ้อนผมเลย . .

    “นี่ นายหมดกับฉันไปเท่าไหร่น่ะ ฉันขอโทษนะ” หลังจากที่เดินไปทั่วตอนนี้เรากำลังมานั่งพักที่ร้านเค้กร้านหนึ่งครับ ลู่หานจ้วงเค้กเข้าไปในปากเป็นเสี้ยวที่สาม ท่าทางจะใช้พลังงานหมดไปกับการเดินจับจ่ายซื้อของซะเยอะ เลยไม่กลัวอ้วนเลย . .

    “ถ้าให้นับจริงๆก็ . . หมื่นกว่าบาทแล้วนะ”

    “หมื่นกว่า!!!!!!!” ลู่หานทำช้อนร่วง “กี่วอนเหรอ”

    “ประมาณ . . เกือบสามแสนห้า”

    ลู่หานสตั๊นไปประมาณสิบวิ ก่อนจะรีบโค้งหัวให้ผมใหญ่เลย “กลับไปที่เกาหลีฉันจะใช้คืนให้ จริงๆนะ ฉันจะใช้คืนให้”

    “ก็บอกแล้ว นี่มันสวัสดิการของผู้จัดการ” ผมยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม

    ลู่หานนั่งเข่าชิดเท้าชิดก้มหน้าก้มตา กลายเป็นคนสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยมไปเลย โคตรน่าขำอ่ะ . .

    “นี่ อย่าคิดมากสิ เงินยังไม่หมดกระเป๋าสักหน่อย” มีให้นายใช้เล่นอีกพันกว่าล้านวอนในบัญชี . .

    “เปล่า . .

    “เงยหน้าขึ้นมาหน่อยสิ”

    “ฉันปวดฉี่ . . ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”

    ลู่หานพูดจบลู่หานก็เดินหนีไปเลย ทิ้งให้ผมอยู่กับเค้กที่เขาทานหมดแล้วอยู่คนเดียว . .


    ระหว่างที่นั่งรอลู่หานอย่างอารมณ์ดี หางตาของผมก็หันไปเจอะกับซีเคียวริตี้สองสามคนที่กำลังเดินหาอะไรบางอย่างอยู่ ทำไมยูนิฟอร์มมันเหมือนกับพวกที่ไล่ตามผมเมื่อเช้าเลยฟะ ?!!!!!

    และทันทีที่เขาหันมาผงะเมื่อเห็นผม ผมก็รู้เลยว่าเขาตามหาใคร . .


    ชิบหาย . . พี่แจซอกนี่ร้ายกาจจริงๆ


    ผมคว้าถุงทั้งหมดและก็หนีออกมาจากร้าน เดินอย่างรีบเร่งชนคนนั้นคนนี้ไปทั่ว (ขอโทษนะครับ tt) การ์ดสามคนนั่นตามผมมาอย่างไม่ลดละ ให้ตายสิ เจ๊ใหญ่จ้างสามพันแต่ทำงานสามหมื่นหรือยังไง

    ผมยังไม่อยากถูกจับได้ ยังไม่อยากกลับไปนั่งเหี่ยวในโรงแรมตอนนี้ อยากอยู่กับลู่หานสองต่อสองโดยไม่มีใครมารบกวน

    และยิ่งพวกเขาทำแบบนี้ . . คนก็เริ่มให้ความสนอกสนใจผม

     

     

    “กรี๊ดดดดดดดด!!!!! โอเซฮุนอ่ะแกกกกกกกกกกกกก”

    “จริงด้วย เซฮุนน่า!!!!!

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!! องค์ชายรัชทายาทขา ..

    “มากับใครอ่ะแก มาคนเดียวเหรอเนี่ย ทำไมดูรีบๆ”

     

     

    ผมฟังสิ่งที่คนเหล่านั้นพูดไม่รู้เรื่องเลย ตอนนี้ผมต้องการหลบการ์ดพวกนั้นให้ได้ แต่ทว่า . . 

    เพราะมันเด่นที่มีคนตามหรือไม่รู้ว่าเพราะอะไร มีคนเข้ามาขอลายเซ็นผมจนได้ . .

    เมื่อไม่มีผู้จัดการ . . ผมปฏิเสธไม่ค่อยเป็น

    “พลีสไซน์ฟอร์มี . . พลีส ไอเลิฟยู”

    แต่โดนแฟนคลับขอแบบนี้ ใครจะกล้าปฏิเสธลง

    และทันทีที่ผมเซ็นลงบนสมุดให้เธอ การ์ดก็มายืนยิ้มอยู่ข้างๆผมแล้ว พร้อมแสดงความใจดีด้วยการถือถุงให้และก็เริ่มกันคนที่เริ่มมามุงให้ห่างออกไป

    ผมโดนจับได้ทางอ้อมชัดๆ . .

    “ออฟคอส!” ผมยิ้มแล้วเซ็นให้เธอ . . “ว็อทอิสยัวร์เนม???”

    “มายเนมอิส . . เค้ก”

    “โอ้ . . ยัวเนมอิสโซสวีท” คนไทยมีคนมีชื่อเป็นขนมด้วยเหรอเนี่ย . . ผมเขียน TO CAKE ให้เธอแล้วยิ้มให้ เธอทำหน้าเหมือนเธอกำลังจะเป็นลม . . และเธอก็เดินจากไป

    และตอนนี้จากที่เคยมีคนมุงสี่ห้าคน บัดนี้ . . กลายเป็นสามสิบกว่าคนได้ยังไง

    งานเข้าชนิดที่ว่า . . หาทางออกไม่ได้

    “กลับไปกับพวกเรานะครับ คุณโอเซฮุน” การ์ดคนนี้พูดเกาหลีได้แฮะ . .

    “ผมยังไม่อยากกลับ”

    “ยิ่งคุณอยู่นาน คนยิ่งจะเยอะนะครับ”

    “ผู้จัดการของผมล่ะ ผมต้องตามหาผู้จัดการของผมก่อน”

    “ถ้าคุณหมายถึงคุณแจซอกล่ะก็ . . เขาอยู่ . .

    “ไม่ใช่พี่แจซอก ผู้จัดการที่มากับผม”

    “คือว่า . .

    “ผมต้องไปหาเขาก่อน”

    ผมไม่สนใจการ์ด เดินฝ่าคนที่เริ่มเข้ามามุงออกไป นั่นทำให้ทั้งการ์ดทั้งคนเหล่านั้นเดินตามผมมาเป็นพรวน . . ผมเดินกลับไปยังร้านเค้กเผื่อลู่หานจะกลับมา . .

    แต่เปล่า . . เขายังไม่ได้กลับมา

    ด้วยความเคยชินผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปรากฏว่าในมือผมมีโทรศัพท์ของลู่หานอยู่ ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ลู่หานตัวเปล่าไม่ได้พกโทรศัพท์ . .

    ผมเริ่มร้อนใจพิกล . .

    “คุณครับ ช่วยตามหาผู้จัดการของผมได้มั้ย” ผมหันไปหาการ์ดที่พูดเกาหลีได้

    “ครับ??”

    “ผู้จัดการของผมที่อยู่กับผมเมื่อเช้าน่ะครับ ตัวเล็กๆน่ารักๆ”

    “คุณช่วยกลับไปกับพวกเราก่อน และพวกเราจะช่วยตามหาเขาให้คุณครับ”

    “ไม่เอา!!!!!! ผมร้องออกมาทันที “หาเขาเดี๋ยวนี้ ทันทีเลย ไม่งั้นผมไม่กลับ!!!!!

    การ์ดดูจะตกใจที่ผมร้องใส่เขา . . เขาวอหาคนอื่นในทีมการ์ดของเขาทันที ผมมองซ้ายมองขวา มองผ่านคนมากมายที่จ้องมองมาที่ผมและถ่ายรูปผม ลู่หาน แค่ไม่กี่นาทีนายจะไปไหนได้ หรือว่า . . นายจะถูกใครจับตัวไป ยิ่งหน้าตาน่าลักขโมยอยู่ด้วย

    เวรเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!

    “ถ้าพวกคุณหาเขาไม่เจอ ผมไม่กลับจริงๆด้วย”

    ผมฝากคำมั่นไว้กับการ์ด . . และก็กลับมานั่งแหมะอยู่ในร้าน ที่เดิมที่เคยนั่ง แต่ฝั่งตรงข้ามกลับไม่มีลู่หานอยู่ด้วย . . พยายามมองโลกในแง่ดีว่าลู่หานอาจจะไปเข้าห้องน้ำนาน ผมพยายามมองแบบนั้น

    แต่นั่งอยู่เฉยๆมาชั่วโมงกว่าแล้วลู่หานก็ยังไม่มานี่หมายความว่ายังไง!!!!!!!!!

    ผมนั่งไม่ติดกับที่ กะจะลุกไปตั้งหลายครั้ง แต่มีการ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ตอนนี้ผมเป็นเหมือนเป้านิ่งให้ชาวห้างเซ็นทรัลเวิลด์เมืองไทยได้จับภาพกันยกใหญ่ ผมถอดหมวก หยิบแว่นกันแดดมาสวม ไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมกำลังมีอารมณ์บูดเป็นอย่างยิ่ง

    ที่จริง . . ผมอยากเดินหาลู่หานเองด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดอยู่ที่การ์ดพวกนี้มาล้อมไว้ และถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่าผมประกาศกร้าวออกไปว่าถ้าไม่เจอลู่หานผมก็ไม่กลับ และพอการ์ดหาไม่เจอสักที ผมก็เลยต้องมาติดแหงกอยู่นี่ไง

    ไม่อยากจะยอมแพ้เลยสักนิด . . แต่ยิ่งนั่งก็ยิ่งรู้สึกว่าหมดหวัง . .


    ลู่หาน . . นายอยู่ที่ไหน

    ผมหยิบโทรศัพท์ของลู่หานขึ้นมาเปิดดู หน้าจอวอลเปเปอร์ของเขาเป็นรูปลู่ถิงกับคุณยายชูสองนิ้วพร้อมฉีกยิ้มแป้น ผมยิ้มเบาๆ . . ขณะกดสไลด์เลื่อนไปที่แกลเลอรี่ ลู่หานจะถ่ายรูปตัวเองเก็บเอาไว้บ้างหรือเปล่า

    ส่วนใหญ่ . .เขาจะถ่ายในสิ่งที่เขาพบเจอในแต่ละวันมากกว่า ถนน รถยนต์ ท้องฟ้า ดอกไม้ ต้นไม้ . . ไม่ค่อยเห็นรูปเขาถ่ายตัวเองเลย

    เห้ย. . แต่รูปนี้คืออะไร ชูสองนิ้ว อัดลมเข้าไปที่พวงแก้ม คืออะไร!!!!!!!!!!!!! แบ๊วจัง! น่ารักโคตร! นี่แรร์ไอเทมเลยนะเนี่ย!

    นี่ถ้าตัวจริงอยู่ผมจะแซวชิบหายวายป่วง แต่เขาดันไม่อยู่เนี่ยสิ . .

    ผมกลัวอยู่อย่างเดียว . . กลัวเขาจะได้รับอันตราย . .

     

    ครืด ครืด

     

    เสียงข้อความเข้า . . และสิ่งที่ผมเห็น . .นั่นทำให้ผมลมแทบจับ


     

                พี่แจซอกถ่ายรูปคู่ชูสองนิ้วกับลู่หานที่ไม่รู้ตัว . .

     

     

              ฟิวส์แทบขาด . . นึกอยากโทรฟ้องเจ๊ใหญ่ให้หักเงินเดือนทั้งเดือนของพี่แจซอกทิ้งไปเลย!!!!!!!!

                ผมกดโทรออกหาพี่แจซอกทันที ลุกขึ้นยืน ทำให้นกกระจอกแถวนั้นแตกรัง ทั้งการ์ดทั้งคนมุง เดินตามผมกันใหญ่ด้วยความตกอกตกใจในการขยับกะทันหันของผม

                “พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง!!!!!!!!!

                “นายคงจะเข็ดแล้วสินะ คิกคิก”

                “ไอ้พี่แจซอก โป้งๆๆๆๆๆๆ!!!!” ไม่รู้ว่าผมจะด่าเขาว่าอะไรแล้วจริงๆ

                “กลับมาได้แล้ว ลู่หานกำลังแย่”

                “แย่อะไร ถ้าจะแย่ก็คงเป็นเพราะพี่อ่ะแหละ พี่ทำอะไรเขา!

                “ฉันเปล่า แต่ตอนนี้เขากำลังรู้สึกว่าเขาทำนายหาย . . เขารู้สึกผิดมาก กว่าฉันจะกล่อมได้ ก็แทบตาย”

                “กลับไปเดี๋ยวเนี้ยๆๆๆๆ!!!!

                ไว้คิดบัญชีกับพี่แจซอกทีหลัง . . ตอนนี้รู้ว่าลู่หานปลอดภัยผมก็รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

     

     

     


     

     

     

                โรงแรม . .

                ทันทีที่ผมเปิดประตู ผมก็เจอะเข้ากับกลิ่นเบียร์รุนแรงที่โชยมาจากในห้อง ใครมากินเบียร์ในห้องผมวะ?

                “ลู่หาน นายอยู่ไหนน่ะ”

                ไม่มีใครตอบผม พอผมเดินไปข้างใน . . ผมก็เจอะเข้ากับสิ่งที่ผมตามหามานานหลายชั่วโมง


                และเขากำลังเมา . . นั่งซึมอยู่ในมุมห้อง ในมือถือกระป๋องเบียร์กระป๋องที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้


              ผมเห็นดังนั้นผมจึงหันหลังกลับไป พี่แจซอกเดินมาพอดี ผมเลยจะเค้นเอาข้อมูลมาจากเขา

                “ใครพาเขาดื่ม เขายังเด็กนะ!

                “ฉันเปล่า . . ลู่หานเขาดื่มเอง . . บอกแล้วไง . . ว่าเขาเครียดเรื่องนาย”

                “ผมจัดการเอง” ผมกระซิบบอกพี่แจซอก “เรื่องของผมไว้คุยกันต่อพรุ่งนี้นะ”

                ผมผลักพี่แจซอกออกไปจากห้อง จากนั้นผมก็ล็อคประตูแล้วเดินไปหาคนเมา

                ลู่หานหลับซบกับเตียง แถมยังนั่งพับเพียบอีก . .

                “ลู่หาน” ผมเข้าไปเรียกเขา แย่งกระป๋องเบียร์มาจากมือเขา “พอได้แล้ว นายดื่มเข้าไปมากแล้วนะ”



                ลู่หานลืมตาปรือๆขึ้นมามองผม . . แล้วเขาก็คว้าคอเสื้อผม “ไอ้เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


                อะไรวะ . . นี่ผมทำผิดอะไรเนี่ย!


              “โอเซฮุนอยู่ไหน โอเซฮุน . . อยู่หนายยยยยยยยยยยยยยยยยยย”


              เมาแล้ว ของแท้ แน่นอน . . ไม่ต้องใช้ให้ใครมามอม ลู่หานมีความสามารถในการมอมตัวเอง

                “ฉันอยู่นี่” ผมบอกเขา แกะมือลู่หานออกไปจากคอเสื้อและจับเขานั่งลงบนเตียงเบาๆ ระหว่างนั้นผมก็เก็บกระป๋องเบียร์ที่กระจัดกระจายลงถังขยะ

                “หนายยยย . . โอเซฮุน อยู่หนาย”


                “อยู่นี่ไง” ให้ตาย. . เขากินทาโร่ของผมหมดไปตั้งหลายซอง


                “ขอดูหน้าใกล้ๆโหน่ย”

              ผมชะงัก . . มองดูคนเมาที่นั่งตาหวานอยู่บนเตียง เพราะงี้ไงถึงไม่อยากให้เมา ผมรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะยั่วแต่เพราะหน้าตาและก็รูปร่างของเขานั่นแหละที่ดึงดูด ผมนั่งลงบนเตียงข้างหน้าเขา “อยู่นี่”

                ลู่หานยกมือสั่นๆของตัวเองขึ้นมาจับหน้าผม และเขาก็จ้องมองผมพร้อมๆกับเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผม นี่เขาจะทำอะไร จะจูบผมเหรอ . . เห้ย . .


                และเขาก็ผลักหน้าผมออกไป “ไม่ใช่ ไม่ช่าย นี่ไม่ใช่เซฮุน”

                กรรม งั้นผมคือใคร . . “ลู่หาน นายเมามากแล้วนะ นอนลงไปเลย”


                “ไม่ ยังนอนไม่ได้ ถ้าเซฮุนยังไม่มา”


              “คิดถึงเซฮุนมันรึไง” ผมถามไปหัวเราะไป . . แกล้งคนเมาสนุกดี

                “ไม่ . .


                “


                . . กล้า”


              จากที่ผมยิ้มๆผมต้องหุบยิ้มฉับทันทีที่ได้ยิน . . “ว่าไงนะ”


                “ฉันไม่กล้าคิดถึงโอเซฮุน”


              “ทำไม”


                “ถามมากจัง บู้วววววววว” เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากผมและก็ผลักใบหน้าของผมเบาๆ


                นี่ถ้าเป็นเวลาปกติ แล้วมาทำแบบนี้ใส่ผมนะ . . มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ . .

                “ก็อยากรู้อ่ะ”


                “ฉันทำ . .โอเซฮุน . .หล่น”


                “หล่นเนี่ยนะ”

                “ช่าย . .หายไป . . หล่นหายไปเลย”

                “

                “ความผิดของฉันเอง”

                ความผิดพี่แจซอกต่างหาก . . “นี่ . .ฉันอยากรู้จริงๆนะ . . ทำไมนายไม่กล้าคิดถึงฉันล่ะ” ผมร้อนใจจริงๆนะครับคุณ ยอมโดนประณามว่าแกล้งหลอกถามคนเมาเลยอ่ะ ก็คนมันอยากรู้ . .


              “เซฮุน . .


                “หืม”


                . . เขายังไม่มาอีกเหรอ”

              อยากจะเอาฝ่าเท้ามาก่ายหน้าผาก “ฉันอยู่นี่ไง” ผมเอื้อมมือไปจับมือทั้งสองข้างของเขามากุม “นี่ไง จับมือนายอยู่นี่”


              “. . ดีแล้วล่ะ”


              . .

              “ยังไม่มา . . ก็ดีแล้ว”


              ใครไม่งงบ้างครับ TT ผมโคตรงงเลย “อยากให้มา หรืออยากให้ไม่มากันแน่ TT


                “เขาทำให้ฉันสับสน . .


              ผมชะงัก เพราะลู่หานเริ่มซึมลงอย่างเห็นได้ชัด


              “เขาทำให้ฉัน . . สับสน . . มากๆเลย”

             

              “นายรู้มั้ย . . ฉันเป็นคนรักเดียวใจเดียว”

             

              “ถ้าฉันรักใคร . . ฉันก็จะรักแต่คนๆนั้นคนเดียว”

                “

              “แต่โอเซฮุน . . เขาทำให้ฉันสับสน”


              ตัวผมชาและก็แข็งไปแล้ว แม้ว่าสองมือของผมจะจับสองมือของลู่หานเอาไว้ แต่มือผมก็ยังสั่น ลู่หานจะบอกอะไรผม . . เขาจะบอกผมว่าอะไร . . เขารักผมไม่ได้ . . หรือว่า . .เขามีคนรักอยู่แล้ว . . หรืออะไร

                ผมเองก็สับสน . . เช่นกัน


                “เขา . . คือ . .ไอ้ทุเรศ”


              โดนด่าซะงั้นสิตู . .


                “นายคิดว่าฉันควรจะทำยังไงดี . .


              ผมยังไม่รู้ความหมายในสิ่งที่ลู่หานพูดอย่างแน่ชัดเท่าไหร่ . . แต่ผมก็จับมือเขา “อย่าฝืนใจตัวเองนะ ชอบอะไร รักอะไร ก็ตามแต่ใจของนายเลย”

                “นายใจดีจัง . .

                “

                “ไม่เหมือนเซฮุนเลย”

              “

              “เขามันขี้บังคับ ฉวยโอกาส และก็ . . ชอบแต๊ะอั๋งฉันอยู่เรื่อย”

              “

              “แต่ฉันก็ . . ชอบนะ” พูดจบก็ก้มหน้างุดและก็บิดตัวเองส่ายไปส่ายมา


              ตกลงลู่หานจะตบหัวผม และก็ลูบหลังผมรึเปล่า . . ผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี


              “เขาทำให้ฉันสับสน . . เขา . . กับความรักของฉัน . . อา ฉันจะทำยังไงดี”


              ลู่หานปล่อยมือไปจากผมและเอามือจับแก้มทั้งสองข้างของตัวเอง

              “นายเคย . .มีรักครั้งแรกรึเปล่า”

              เคยดิ นั่งอยู่ตรงหน้านี่เลย . . แถมยังเพิ่งถามเมื่อตะกี้ด้วย “เคยสิ”

              “สวยมั้ย”

                “สวย”

              “มากป่าว”

                “มากๆ”



                “ไม่เหมือนของฉันแฮะ . .



                “


                “เขาน่ะ . . หล่อมากเลย”


                “



                “เจอกันครั้งแรกฉันก็ไปขโมยจูบเขาซะแล้ว . . ฉันเสียใจ”


                “


                “แต่ฉันจำหน้าของเขาได้ เขาหล่อ หล่อสู้กับแสงแดด . .


                “


                “เป็นเด็กผู้ชาย น่าจะป.5


                “


              “หลังจากที่ฉันจูบเขา เขาก็ไม่ยอมกลับมาที่สวนนั่น เขาหายไป ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน”


                ผมอ้าปากค้างในความอึ้ง . .


              “ฉันไปที่สวนนั่นทุกวัน แต่ฉันก็ไม่เจอเขา”


                เพราะหลังจากที่เขากลับมาจากสวน ผมก็เดินตามหลังเขากลับบ้าน .  .


                “ทั้งๆที่พ่อแม่ฉันอยู่ที่ปักกิ่ง แต่ฉันก็เลือกที่จะกลับมาอยู่เกาหลี เพราะฉัน . . อยากตามหาเขา ฉันมันบ้า”


                “


              “เป็นนาย นายจะเลือกใคร คนที่เป็นรักครั้งแรกกับคนที่นายสับสนมากๆ นายจะเลือกใคร”


              โธ่ . .ลู่หาน มันคนนั้นคือคนๆเดียวกัน คือโอเซฮุนคนนี้ ที่กำลังนั่งอยู่ข้างหน้านายในตอนนี้ . .


                ผมดึงตัวเขาเข้ามากอด . . ไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหน สงสัยผมคงปลื้มปิติมากเกินไป


                “นาย . . จะกอดฉันไม่ได้นะ”


              “ทำไมจะกอดไม่ได้ ฉันเป็นเจ้าของหัวใจนายนะ” ผมเอาใบหน้าซุกซอกคอลู่หาน

                “ถ้าเซฮุนมาเห็น . . เขาจะโกรธมาก”


                “


                “เขาจะต่อยนายนะ”




              ทำไมซื่อแบบนี้ T_____________T


                “ฉันคือโอเซฮุนนะลู่หาน TT


              “ไม่ใช่”


                “ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ TT

                “

                “ต้องจูบก่อนสินะ นายถึงจะจำได้”



                “


                “ฉันจะจูบให้เหมือนจูบแรกของฉันที่นายขโมยไป ลู่หาน”

     

     

     



     

     

                และผมก็จูบเขา . . อย่างที่ปากของผมบอก . .

             

     

     

     




     

               

                -จะ NC มั้ย NC รึเปล่า 55555555555555555555555555555555555
                 ผู้จัดการของผมเล่ม 1 จะรวมถึงตรงนี้ พร้อมกับตอนพิเศษพาร์ทลู่หาน 1 ตอนนะคะ
                 ให้ความสนใจกันเยอะๆนะ ขอบคุณที่รักกันค่ะ ปล. เม้นด้วยยยยยยยยยยยยยยยยย-

                













     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×