ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sehun x luhan } .ผู้จัดการของผม

    ลำดับตอนที่ #13 : [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER ELEVEN

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.06K
      35
      20 ต.ค. 56

    [ SEHUN x LUHAN ] CHAPTER ELEVEN

     

     

     

     

                [ CUT ] ลิงก์หาเอาเองนะ 555555 : )






     

                เมื่อคืนผมทำอะไรลงไปเนี่ย . .

                ตื่นเช้ามาผมแทบจะเอามือทึ้งหัวของตัวเองด้วยความตกอกตกใจ(ปนความสุข) ลวนลามลู่หานชนิดที่ว่าทุกอณูรูผิวส่วนบนของลู่หานนั้น . . เป็นของผมหมดแล้ว และถ้าเขาเกิดจำทุกอย่างได้ล่ะ ผมจะตายมั้ย เอ๊ะ หรือจะเละเป็นกระสอบทรายก่อนจะตาย หรือยังไง . .

                แต่ทำไปแล้วต้องไม่กลัวผลที่จะตามมาเพราะการกระทำของตัวเอง ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ชงอาหารเสริมดื่มด้วยตัวเอง วันนี้ผมตื่นเร็วกว่าลู่หาน และนี่ก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว ลู่หานยังหลับปุ๋ยอยู่ในห้องอยู่เลย

                ราวกับว่าให้ผมมีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนรับศึกหนัก . .

              ป๊ง ปะล้ง ป๊งเป๊ง . .

              เสียงของตกกระทบกันอย่างต่อเนื่อง และก็ตามมาด้วยเสียงกระทืบเท้าที่เข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ และ . .

                “โอเซฮุน นี่มันอะไรกัน!!!!!!!!!!!!

              คนแมนของผมคว้าคอเสื้อของผมและก็ลากคอให้ลุกขึ้นยืน

                ลู่หานพันผ้าขนหนูและเปลือยท่อนบนออกมาเดินท่อมๆ อา ให้ตาย ลำตัวท่อนบนของลู่หานมีแต่รอยจ้ำเต็มไปหมด . . นี่ขนาด . . ยังทำได้ไม่ถึงไหนเลยนะ

                “โอเซฮุน จ้องไรวะ!!!!!!!!!!!!!!   

                ลู่หานง้างหมัดเตรียมจะต่อยผม บอกตามตรงเสียงลู่หานโวยวายตอนนี้อย่างกับฟ้าผ่ากลางบ้าน

                “ใครทำ นายเหรอ!!!!

                “เอ่อ คือ . .

                “ทำทำไม ใครอนุญาต!!!!!” เปรี้ยง! ผมโดนไปเต็มๆหนึ่งหมัดจากลู่หาน หน้าหันคอแทบหัก หมัดลู่หานหนักมาก ชนิดที่ว่าปากผมใกล้จะแตกแล้ว ถ้าเขาออกแรงขึ้นอีกนิด

                เมื่อคืนเขาจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ . .

                นี่ถ้าเกินเลยถึงขั้นนั้นผมคงโดนกระทืบหนักกว่านี้ . .

                และอยากจะบอกลู่หานเหลือเกินว่าละเมอออกมาซะขนาดนั้นพระอรหันต์ก็ยังจะทนไม่ไหวเลยนะ (ไอ้นี่บาปกรรม)

                “เอ่อ คือว่า . .

                “โอเซฮุน นายนี่มัน . .” ลู่หานง้างหมัดจะต่อยผมอีกรอบ แต่ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรไม่ออกราวกับด่าผมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา

                เพราะฉะนั้น . . เขาจึงเดินหนีไป

                “เดี๋ยว อย่าเพิ่ง” ผมรีบคว้าข้อแขนของเขาไว้ทันที มีหรือที่เขาจะยอมง่ายๆ เขาสะบัดมือผมออก และเตรียมที่จะเข้าห้องของตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนชุด “ลู่หาน . .

                ลู่หานหันขวับกลับมา เขามองผมด้วยสายตาเฉยชา ซึ่งนั่นมันเจ็บกว่าหมัดของเขากระแทกหน้าผมนับพันครั้ง . . “ถึงฉันจะไม่มีอะไรเสียหาย แต่เรื่องนี้ฉันไม่โกรธไม่ได้ว่ะโอเซฮุน”

                เพราะคำพูดนั้นของลู่หานทำให้ผมเผลอปล่อยมือเขา รู้สึกตัวอีกทีตอนที่หลังของเขาพ้นกรอบประตูห้องของเขาไปแล้ว ผมเดินเข้าไปใช้เท้าขวางประตูห้องของลู่หานเอาไว้ ไม่ให้เขาปิดประตูได้

                “โอเซฮุน นายอย่าบังอาจล้ำเส้นนะโว้ย!!!

                “ก็ล้ำไปแล้วนี่หว่า . . จะเจ็บยังไงก็ต้องยอมแล้วอ่ะ! ผมกับลู่หานฉุดกระฉากประตูเปิดปิดราวกับเด็กแย่งห้องกัน

                “นี่นายยอมรับแล้วใช่มั้ยว่านายเป็นคนทำ” ลู่หานชี้หน้าผม

                “ถ้ามีใครหน้าไหนมันอยากทำ ฉันก็ไม่ยอมหรอกนะ!

                “โอเซฮุน” มือที่ชี้หน้าผมเริ่มสั่นนิดๆ . .

                “เริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้วใช่มั้ย”

                “

                ผมมองลู่หานด้วยสายตาที่สำนึกผิดปนเกรงใจที่สุดในโลก . . พร้อมๆกับพ่นคำพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่จริงใจและจริงจังที่สุดออกไป . . ลู่หานลดมือลง และหลังจากนั้น . . เขาก็ปิดประตูดังปัง!

                เกือบโดนดั้ง!!!!!!!

                ผมเอามือปิดหน้าตัวเอง เดินโซซัดโซเซมานั่งลงบนโซฟาอย่างเครียดๆ ตอนทำน่ะอะไรๆมันก็ดีไปหมดทั้งอารมณ์และก็บรรยากาศ แต่ผลที่จะตามมานี่สิ มันต้องไม่มีอะไรเหมือนเดิม . .

              โอเซฮุน . . นายทำอะไรลงไป . .

              เจ้าของห้องนั้นไม่ยอมเปิดประตูอยู่นานมากซะจนผมเครียดลงกระเพาะ(เริ่มหิวข้าว ไม่ได้กินเพราะคนทำงอน) ท้องร้องจ๊อกๆ อา หาอะไรกินในตู้เย็นก่อนลู่หานดีมั้ย (นี่เครียดจริงป่ะวะ)

                กำลังคิดอะไรอยู่ดีๆ อะไรก็ไม่รู้ลอยมาปิดหน้าผม เสื้อ . . เสื้อนอกของผมตัวที่ใส่เมื่อคืนนี่ . .

                “ถ้านายทำแบบนี้อีกนะ นายตาย!” ลู่หานพูด ท่าทางเขาจะเดินดุ่มๆไปที่ครัวเพื่อจะทำอาหาร

                หา นี่เขาหายงอนผมแล้วเหรอ ผมที่กำลังเอ๋อๆอยู่ดึงเสื้อออกจากหัวตัวเอง . . เสื้อตัวนี้ผมทิ้งไว้ที่ห้องของลู่หานเหรอ อืม หลักฐานมัดตัวชิ้นเอก

              “ . . จะทำแบบนี้ ขออนุญาตกันก่อนไม่ได้รึไงวะ . . แมร่ง”

                หืออออ อะไรขออนุญาตๆวะ ลู่หานพูดอะไรน่ะ เขาบ่นหรือเขาจะพูดกับผม และพูดว่าอะไร นี่ผมฟังผิดไปรึเปล่า . .

                “มองอะไรโอเซฮุน!

                ผมสะดุ้งสุดตัวตอนที่ลู่หานยกมีดขึ้นมา หน้าแดงก่ำนั่นชี้ปลายมีดมาทางผม . .

     

                โหด ชิบ หาย

     

              “ไม่ต้องมองมา อยู่นิ่งๆ และจะทำกับข้าวให้”








     

              พี่แจซอกเข้ามาหลังจากที่บรรยากาศระหว่างผมกับลู่หานคลายความตึงเครียดลงไปเยอะมาก เขามาแจ้งข่าวคราวเรื่องงานของผม ถึงแม้ว่าลู่หานจะยังคงไม่ค่อยคุยกับผมตรงๆ แต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องนี้ทำเขาเสียการเสียงานของเขา

                งานของผมด้วย . .

                ผมนั่งสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยมอยู่บนโต๊ะทานอาหาร โดยมีอาหารที่ลู่หานทำให้กองอยู่หลายอย่าง

                “วันนี้มีฟิตติ้งซีรี่ส์เรื่องใหม่”

                “ฟิตติ้ง  นี่จะถ่ายกันแล้วเหรอเนี่ย” ผมร้องเสียงหลง . . ลืมวันเวลาไปนานมาก ฟิตติ้งคือลองชุดและก็ถ่ายแบบคาแรคเตอร์ของตัวเองในซีรี่ส์ จะว่าไปนี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วนี่หว่า

                “เปิดกล้องต้นเดือนหน้า ฟิตติ้งตอนนี้ฉันว่าก็ไม่เร็วไปหรอกนะ” พี่แจซอกชี้แจง หันไปหาลู่หาน ที่ยังคงเชิดใส่ผม “ลู่หาน จดไว้นะ หลังจากนี้ตารางชีวิตโอเซฮุนนะแน่นหน่อย นายต้องจัดเวลาให้เขาได้เข้าฟิตเนส ทำสปาผิว เรื่องแอคติ้งเขาคงชำนาญแล้ว ถ้าอย่างนั้น . . นายอย่าลืมติวสอบกลางภาคให้เขาด้วยนะ”

                ตารางชีวิตผมกำลังจะแน่นเอี๊ยด ลู่หานพยักหน้า และผมเชื่อว่าเขาจะทำตามที่พี่แจซอกพูดได้อย่างดี(จนมากเกินไป)เลยทีเดียว . .

                “เพราะฉะนั้นวันนี้ นายคงไม่ได้ไปเรียนหรอก”

                ผมมองดูนาฬิกา “สายโด่งขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องได้โดดอะ”

                มีเพียงเด็กเรียนอย่างลู่หานคนเดียวที่ทำหน้ารู้สึกผิดจะเป็นจะตาย ส่วนเด็กที่เรียนตอนไหนก็ได้อย่างผมทำหน้าชิวๆ

                “ไม่เป็นไรน่าลู่หาน เรื่องที่โรงเรียนนายกับลู่หานน่ะ มีแต่อาจารย์ใจดีและก็ให้ความร่วมมือกับบริษัทเรา” พี่แจซอกตบบ่าลู่หาน “นายโผล่ไปโรงเรียนตอนสอบเลยก็ยังได้ ว่าแต่ . . รอยอะไรวะนั่นน่ะ สีแดงๆที่คอ”

                พี่แจซอกจะดึงคอเสื้อลู่หานให้เปิดขึ้น . . ลู่หานรีบหลบให้พ้นรัศมีมือของพี่แจซอก พี่คนนี้ตาไวชะมัด

                ส่วนผมก็ร้องห้าม “อย่า!!!!!” เพราะไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่ไปมากกว่านี้น่ะ . . ลู่หานคงจะอายมาก และคงอยากจะปิดให้เป็นความลับน่าดู

                “หรือว่าที่นี่จะมียุง??” พี่แจซอกทำจมูกฟุดฟิดและก็มองหาต้นตอของรอยแดงที่คอลู่หาน

                ต้นเหตุอย่างผมนั่งนิ่ง ผิวปากไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนลู่หานก็ยัดข้าวเข้าไปในปากแบบเงียบๆและก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก

                “ฟิตติ้งกี่โมงอ่ะ”

                “นี่แหละ ทานข้าวกันเสร็จและก็จะออกไปเลย” พี่แจซอกมองดูนาฬิกา “ลู่หาน โทรจองคิวช่างตัดผมที่ร้านXXXด้วยนะ อ้อ หมอสิวที่คลินิกYYYด้วย”

                ท่าทางวันนี้ผมจะโดนเปลี่ยนลุค . .

                ลู่หานพยักหน้า เขาจดคำพูดพี่แจซอกเอาไว้ทุกคำอย่างไม่มีตกหล่น

                “นายอยากจะทำด้วยก็ได้นะลู่หาน พอดีฉันมีการ์ดไม่จำกัดวงเงินของบริษัทน่ะ” พี่แจซอกชูเครดิตการ์ดให้ลู่หานดู “ยิ่งสปาผิวนี่ยิ่งโคตรสบาย นายจะได้ผิวสวยและก็สบายไปในตัว เอาป่ะ”

                “คงไม่ดีกว่าครับ” ผมโบกมือปฏิเสธรัวๆ

                ผมยิ้มกับตัวเองเงียบๆ ทำสปาผิวมันต้องเปลือยท่อนบนให้พนักงานได้ดู ซึ่งลู่หานคงต้องการปิดบังเรือนร่างของตัวเองไม่ให้ใครดู

                “อารมณ์ดีนักรึไงโอเซฮุน” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมาแขวะผม

                บอกได้เลยว่าสะดุ้งจนตะเกียบแทบหลุดออกจากมือ “เปล่า”

                “เอาหมูมานี่เลย” ลู่หานคีบชิ้นเนื้อหมูออกไปจากถ้วยของผม

                “เฮ้ย ได้ไงอ่ะ”

                ลู่หานยักไหล่ ท่าทางเขาอยากจะแก้เผ็ดผม . . ทำหน้าเชิดอย่างกับนางพญาแน่ะ เอาเถอะ ถ้าเขาจะแก้เผ็ดได้อย่างโคตรน่ารักแบบนี้ล่ะก็ ผมยอม . .

                “อิ่มกันหรือยัง ไปได้แล้วนะ”

                พี่แจซอกเข้ามาเรียก ผมกับลู่หานเลยช่วยกันเก็บจานที่ซิงก์ล้างจานและก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก เสื้อผ้าผมไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมาก เพราะชุดที่จะต้องฟิตติ้งมันก็อยู่ในสตู พอวางจานบนซิงก์เสร็จ ผมก็พร้อมที่จะไปทำงานแล้ว

                ส่วนลู่หานนั้นวิ่งไปหยิบของอีกหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเขา และกระเป๋าของผม

                “ถือให้นะ” ผมจะแย่งทั้งหมดมาถือ

                แต่ . . ผลั่ก! ลู่หานโยนเป้ของผมมาใส่อกผมอย่างแรง “ถือแต่ของนายเถอะ”

                และก็เดินสะบัดตูดผ่านหน้าผมไปเลย . .

                พี่แจซอกที่มองผมกับลู่หานอยู่นานก็ได้พูดขึ้นมาก่อนออกไปว่า “อย่างกับสามีภรรยาทะเลาะกัน”

                ผมได้แต่ยิ้มกับคำพูดนั้น . .

     

     


     

               

                S STUDIO

                ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัว ผมก็ต้องเบ้ปากทันที เพราะเห็นหน้าไอ้อีวอนยิ้มหราโบกมือให้มาแต่ไกล นี่แหละครับ พระเอกซีรี่ย์เรื่องนี้ มันอยู่กับดูโอ้ป่วนวงการของมันซึ่งก็คือผู้จัดการหน้าหล่อที่พี่แจซอกชอบมาบ่นให้ฟังทีหลังว่าหมอนี่มันมีแฟนไซต์เป็นของตัวเองด้วย . . เขาอยากมีมั่ง . .

                “เซฮุนน่า นายมาช้า” เยอึนเดินเข้ามาหาผม เธอดูสวยขึ้นผิดหูผิดตาชนิดที่ว่าราศีนางเอกกำลังจับ

                “กินข้าวอยู่” ผมเดินผ่านเธอไป เอากระเป๋าไปวาง เตรียมให้ช่างแต่งหน้าเซ็ทผมให้

                “นี่ อีกอาทิตย์กว่าก็จะสอบกลางภาคแล้วนะ นายช่วยติวให้ฉันหน่อยสิ” เยอึนยังคงเดินมาหาผมและก็ชวนผมคุยไม่หยุด ว่าแต่เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ ให้คนอย่างผมติวให้เนี่ยนะ . .

                “ฉันไม่มีความรู้หรอก” มีแต่วิชาลู่หานเต็มสมอง ซึ่งเจ้าของชื่อวิชากำลังนั่งเงียบๆอยู่ตรงมุมโน้น ผมมองเขาอยู่และคอยมองไอ้อีวอน ที่ไม่รู้ว่ามันจะไปเต๊าะลู่หานของผมเมื่อไหร่

                “นายออกจะเป็นคนเก่งน้า”

                “ไม่ล่ะ ฉันไม่เก่ง” ผมหน้าบึ้งตึง ตอนที่อีวอนมันเริ่มไปชวนลู่หานคุย . . มันไม่ต้องเซ็ทผมรึไงวะ “เฮ้ อีวอน นายต้องมาแต่งหน้าเซ็ทผมรึเปล่า!

                ผมตะโกนออกไปก่อนที่มันจะเดินไปถึงลู่หานซะอีก . . มันหันกลับมา ทำหน้าฉงน “ก็นี่ไง ฉันแต่งแล้ว เซ็ทผมแล้ว”

                “เหรอ นึกว่ายังไม่ได้ทำซะอีก”

                ผมตั้งใจสบประมาทไอ้อีวอนให้มันคิดว่าตัวเองยังดูไม่ดีพอ ซึ่งได้ผล มันเบะปากและก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม “เติมหน้าให้ผมทีครับ” มันพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ หึหึ . . แผนขัดขวางอีวอนของผมสำเร็จไปหนึ่ง

                ตอนที่ผมแต่งหน้าอยู่ผมก็คอยมองไปที่ลู่หาน เขาเอาแต่เช็คไอแพด คุยกับพี่แจซอก ทักทายผู้จัดการคนอื่น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรผมเลย

              โหยยยยย . . คนมองมันห่อเหี่ยวนะเออ มองกลับบ้างดิ นี่ฉันเป็นดาราของนายนะ!

              ขนาดผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักเรียนเครื่องแบบสีดำที่หล่อเฟี้ยวเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ยังไม่สนใจผม ให้ตายสิ ผมจะต้องทำยังไงดีนะเขาถึงจะสนใจผม แต่จะให้ผมเข้าไปคุยด้วยมันก็ไม่ได้ เพราะสไตล์ลิสต์และก็สตาฟฟ์รุมผมเต็มไปหมด

                “โอเซฮุน” เสียงเรียกผมดังขึ้น ทุกคนนิ่งสนิทไปในบัดดล

                เจ๊ใหญ่ปรากฏตัว . . เธอรับคำทักทายของทุกคน แต่เดินมาคุยกับผมคนเดียว

                “ครับ” ผมตอบรับ

                “ผมยาว ไปตัดซะ”

                “เย็นนี้แหละ” เธอเหมือนแม่ของผมมากกว่าคังมิร่าอีก . .

                “หน้าเป็นสิวผดนี่”

                “อะไรกันเจ๊ นี่ผมเมคอัพปิดแล้วนะ” ผมโวยวาย เจ๊ใหญ่ตาดีชะมัด

                “ต้นเดือนหน้าจะถ่ายแล้วนะ เตรียมตัวมาให้ดีด้วย บทตัวร้ายครั้งแรกของนายใครๆเขาก็จับตามอง” เจ๊ใหญ่เดินไปเดินมารอบๆตัวผม ในขณะที่ผมเผยอปากให้สตาฟฟ์เติมลิปกลอส “ว่าแต่ผู้จัดการหน้าตามุ้งมิ้งของนายไปไหน”

                “ทำไม เจ๊จะทำไม” ผมถามดักไว้ก่อน

                “อะไรกัน เด็กนี่ ฉันก็แค่จะให้ข้อมูลเขาเรื่องการประทินโฉมของนาย” เจ๊ใหญ่ยกคูปองอะไรไม่รู้เป็นปึกมาให้ผมดู “นี่จะทำให้นายหล่อขึ้นนะยะ”

                “เจ๊ พระเอกมันอยู่โน่น ทำไมไม่เอาไปให้พระเอกล่ะฮะ” ผมแอบแซว

                เจ๊ใหญ่กระแอมนิดหน่อย ก่อนตอบ “ฉันลำเอียง”

                ตรงจนอยากจะคารวะ . . “ผมเอาไปให้เองดีกว่า” ในที่สุดก็มีข้ออ้างที่จะเอาไว้ใช้คุยกับลู่หานสักที

                ผมเดินไปหาลู่หานที่นั่งเล่นไอแพดอยู่ตรงมุมสตู นึกว่าเครียดอะไรมากมาย เขากำลังเล่นเกมอยู่ ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขา เขาเงยหน้าขึ้นมา และพอเห็นว่าเป็นผม . .

                เขากลับทำหน้าบึ้งซะงั้น . .

                “มีอะไร”

                สงสัยคงต้องง้อยาวเป็นระยะทางจากโซลถึงเกาะเชจู “นี่คูปอง เจ๊ใหญ่ให้เอามาให้นาย”

                พอเห็นว่าเป็นเรื่องงาน ลู่หานเปลี่ยนสีหน้าทันที “รองประธานฝากมาเหรอ” ลู่หานรับคูปองเหล่านั้นด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “โห เยอะขนาดนี้เลย”

                “ช่าย” ผมยิ้ม “นายจะเอาไปใช้มั่งก็ได้นะ”

                “ฉันไม่ใช้หรอก” ลู่หานเผลอตอบผมดีๆ และเหมือนเขาจะนึกขึ้นได้ทีหลัง เขาก็เลยปั้นหน้าหงิกใส่ผม

              ไม่ทันแล้วม้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง . .

              “โธ่ ลู่หาน อย่างอนฉันเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว TT” ผมทำหน้าเป็นแมวครางหงิงๆใส่เขา สาบานเหอะไม่เคยมีใครที่ผมทำหน้าอย่างนี้ใส่ . . จริงๆนะครับ

                “ฉันไม่ได้งอน! นี่นายอย่าพูดเหมือนฉันเป็นผู้หญิงได้มั้ย” ลู่หานง้างกำปั้นเตรียมเคาะหัวผม

                “เฮ้ย อย่านะ นี่เซ็ทนานนะ” ผมรีบเอางานมาอ้าง ยกมือปัดป้องอย่างรวดเร็ว

                “ชิ” ลู่หานเหวี่ยงหมัดไปทางอื่น

                “ฉันขอโทษ ต่อไปถ้าฉันทำฉันจะขอดีๆ . .

                “ว่าไงนะ”

                “ได้ยินไม่ผิดหรอก”

                “โอเซฮุน นี่นาย . .

                ลู่หานดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่เขาก็กลืนมันลงไป และก็ทำหน้าหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจแทน หึหึ . . ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกเหมือนผมเป็นต่ออยู่ลึกๆ

                “เซฮุนน่า ไปถ่ายได้แล้ว” เยอึนในชุดนักเรียนหญิงเดินมาตามผม “พวกนายสองคน ใกล้กันเกินไปแล้วนะ”

                ผมกับลู่หานผละออกจากกัน . . เมื่อกี้ผมกับเขาอยู่ใกล้กันมากเหรอ ??? ผมไม่รู้ตัวเลย

                “พระเอกกับนางเอกถ่ายกันเสร็จแล้วรึไง”

                “ใช่ ต่อไปถ่ายสามคน ถ้านายไม่รีบไป นายจะทำให้คนอื่นช้านะ” เยอึนพูดด้วยน้ำเสียงติดจะเหวี่ยงๆ ผมเลยพยักหน้า

                “โอเคเดี๋ยวตามไป” ผมหันไปหาลู่หาน

                “เดี๋ยวนี้ โอเซฮุน”

                ยัยนี่ . . ผมจิ๊ปาก และก็ลุกขึ้นยืน “ฉันไปนะ” ไม่ลืมที่จะบอกลาลู่หาน

                ลู่หานพยักหน้าหนึ่งครั้ง และก็ก้มหน้าลงไปเล่นเกมอีกครั้ง . .

                “นี่ ไม่ให้กำลังใจฉันหน่อยรึไง ฉันเป็นดาราของนายนะ!” ผมโวยวาย

                ลู่หานเงยหน้าขึ้นมาจากเกม “สู้ๆ”

                น้ำเสียงของเขาเนือยมากซะจนผมเพลีย ไม่ได้ . . ยังไงผมก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าลู่หานยังพูดแบบนี้

                “ไม่ไปแล้ว นายต้องพูดดีๆก่อน”

                “อะไรของนาย โอเซฮุน เขารอนายกันเกือบทั้งสตูล่ะนะ” ลู่หานหวาดกลัวสายตาของคนในสตูที่กำลังมองมายังพวกผม

                “นายต้องพูดดีๆก่อนเซ่”

                “นายนี่มัน . .”    

                “เร็วๆเลย”

                ลู่หานดูเหมือนจะพยายามระงับความโกรธเอาไว้อย่างสุดฤทธิ์ อะไร มันแปลกตรงไหนที่ดาราจะอ้อนผู้จัดการ . . ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการอ้อนแบบกึ่งบังคับก็เถอะ

     

                “เซฮุนนี่ สู้ๆนะ! ลู่หานชูสองนิ้วขึ้นมาที่ข้างตาและก็วิ้งให้ผมหนึ่งที . .

     

                ทรุดเลยตู . .

     

                บอกได้เลยว่ายืนแทบจะไม่อยู่

                น่ารักชนิดที่ว่าอยากบังคับแม่ให้ไปสู่ขอเขาจากคนตระกูลลู่เดี๋ยวนี้ . .

                “อึ้งอะไรเล่า ไปได้แล้วไป” ลู่หานไล่ผม และเขาตั้งใจเอาไอแพดขึ้นมาปิดหน้า

                การทำงานในวันนั้นบอกเลยว่ากำลังใจมาเต็มอ่ะ . . ค่าตัวห้าร้อย เต๊ะท่าถ่ายรูปไปซะห้าพัน

     

     

     

                หลังจากที่พยายามกันท่าไอ้อีวอนไม่ให้มายุ่งกับลู่หานจนเหนื่อย(บอกตรงๆว่าเหนื่อยกว่าถ่ายรูปและก็เปลี่ยนชุดอีก) ผม ลู่หาน และพี่แจซอกก็พากันออกมาจากเอสสตูดิโอทันที พี่แจซอกบอกผมไม่มีตารางงานต่อ วันนี้เลยอิสระทั้งวัน แต่ก็ไม่อิสระอยู่ดีเพราะต้องไปตัดผม ทำสีผมใหม่ และก็ไปที่ๆเจ๊ใหญ่ส่งคูปองมาให้

                ตอนที่ผมนั่งตัดผมอยู่ ลู่หานก็นั่งอ่านแมกกาซีนอยู่ข้างหลัง

                “พี่ครับ” ผมบอกช่างแต่งหน้า “ตัดผมให้คนนั้นด้วยสิ”

                “อ๋อ ได้สิคะ” เธอยิ้มให้ผม

                “แต่บอกเขาไปนะครับ ว่าตัดให้ฟรีน่ะ”

                “ฮ่าๆๆ โอเคค่ะ”

                ถ้าไม่บอกอย่างนี้ลู่หานก็คงไม่มานั่งตัดผมข้างๆผม ผมเห็นผมของเขาแทงตามานานแล้วก็เลยกลัวเขาจะรำคาญ ลู่หานแม้จะดูอึ้งๆขัดๆเขินๆแต่พอบอกว่าฟรี เขาก็รีบนั่งลงข้างๆผมทันที ท่าทางอยากตัดมานานเหมือนกัน

                “พี่ครับ เอาตรงนี้ออก . .เอาข้างหลังออกด้วย มันหนาไป” ได้ทีก็สั่งช่างเขาใหญ่เลย นั่นทำให้ผมแอบขำ “ไถข้างด้วยดีมั้ยครับ พี่คิดว่าไง”

                “เดี๋ยวนะ . .” ผมขัด “ไถข้งไถข้างอะไร ไม่เอา”

                ลู่หานชักสีหน้า “นี่มันหัวฉันนะ”

                “แต่นั่นมัน . .” เงินฉันนะโว้ย . . อยากจะตะโกนแต่กลัวเขาลุกหนีไม่ตัดผม “. . ไม่เหมาะกับนาย”

                ลู่หานชะงัก “เหรอ” เขามองตัวเองในกระจก “ไม่เป็นไร ฉันว่าเท่ดีออก”

                “ไม่ได้ ไม่ให้ไถข้าง ให้ตัดผมออกนิดหน่อยเท่านั้น”

                “เซฮุน นี่มันหัวฉัน!

                “ทำตามที่ฉันพูดเถอะน่า”

                “นายสนใจแต่หัวของตัวเองเถอะ”

                “ไม่ ฉันจะสนใจหัวของนายด้วย”

                “เซฮุน!

                “เอาล่ะค่ะ” ช่างที่ตัดผมให้ผมห้ามปราม “เดี๋ยวให้พวกเราจัดการเองดีกว่านะคะ พวกเราพอรู้ว่าคนไหนจะเหมาะกับทรงอะไร” ช่างพูดยิ้มๆ ลู่หานเลยไม่พูดอะไรต่อ

                ส่วนผมกระซิบบอกพี่ช่างตัดผมลับหลังลู่หาน “ผมให้สองเท่าเลย ถ้าพี่ไม่ไถข้างให้ลู่หาน”

                และนั่นก็ทำให้เจ๊แกไม่ไถข้างให้ลู่หานจริงๆด้วย . . เยสสสสสสสสสสสสสสสส

                ระหว่างทำสีผม . . ลู่หานที่ตัดผมเสร็จแล้ว (น่ารักมากขอบอก ^^) ส่งเสียงขึ้นมาถามผมที่กำลังโดนกัดสีผมให้เป็นสีทอง

                “นายรู้จัก . . ช้างมั้ย”

                “ช้าง?” ผมทวนคำ “หูใหญ่ๆตัวใหญ่ๆจมูกยาวๆใช่มั้ย มาถามทำไมตอนนี้เนี่ย” การกัดสีผมเป็นอะไรที่ไม่ใช่เรื่องคี่ๆ

                “ก็ถามดู” ลู่หานก้มหน้าก้มตาอ่านแมกกาซีน “และนายรู้จัก . . ต้มยำกุ้งรึเปล่า”

                “เอ่อ เคยได้ยินนะ แต่ยังไม่เคยกิน”

                “ส้มตำล่ะ”

                “มันคืออะไร”

                “อั้ม พัชราภา รู้จักมั้ย” ลู่หานกำลังพยายามจะทำอะไรของเขาอยู่น่ะ

                “ไม่รู้จัก”

                “อ๋อใช่ นายชอบนางแบบฝั่งยุโรป” ลู่หานรำพึง

     

     

                “

     

     

     “นายรู้จักกรุงเทพรึเปล่า”

     

    “เดี๋ยวนะ นายกำลังพูดถึงประเทศไทยใช่มั้ย”

    “ใช่” ลู่หานชูไอแพดให้ผมดู

    “ทำไมเหรอ มีอะไรเกี่ยวกับไทยเหรอ”

     

     

     

     

    “ก็อีกสองสามวันนายจะมีงานที่ประเทศไทย”

     

     

     

     

     

     

     

     

    chiffon_cake say hi : ติ่งโอเซฮุนเตรียมไปรับนางที่สนามบินกันค่ะ 5555555555555555555555
    ป้ายไฟเชียร์โอเซกับผู้จัดการหน้าตามุ้งมิ้งอย่าให้พร่องนะคะ ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ฝากฟิคอีกเรื่องหน่อยจิ #ฟิคสภากาแฟ 
    เป็นฟิคจีบกันมุ้งมิ้งน่ารักที่คนเขียนตั้งใจเขียนมาก
    ลองไปอ่านดูนะคะ ^____________________^

    ปล.คนเขียนเป็นคนใจอ่อน ถ้าเม้นล้นหลาม แทคล้นหลาม เซฮุนกับผู้จัดการของนางจะมาเร็วแน่นอน เยิ๊ฟ <3

     









    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×