ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2.
"น่าโมโหจริงๆ!! มันคิดว่ามันเป็นใคร!!!"
เอรินพูดพร้อมกับทุบโต๊ะเสียงดังอย่างอารมณ์เสีย
"เธอก็หัดใจเย็นลงบ้างเถอะนะเอริน อย่าวู่วามมากนัก"
"เธอก็พูดได้สิอิเร็ตต้า!! เธอไม่ได้เป็นฉันนี่!! เธอมันก็ดีแต่ปาก ไม่ยอมลงมือสักที.."
เอรินพูดพร้อมกับชายตามองไปที่อิเร็ตต้าที่กำลังนั่งจิบชายามบ่าย
"เพราะคนที่ใจร้อนวู่วามคือคนโง่ไงล่ะ..ว่าแต่..ทำไมยัยนั่นถึงกลับมาได้..ฉันสั่งให้เธอกำจัดไปแล้วไม่ใช่หรือไง?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันมั่นใจว่าฉันฆ่ายัยนั่นเองกับมือ"
"ฆ่าเองกับมือแน่หรอ?"
"จะ..จริงๆก็ไม่ใช่หรอก ฉันสั่งให้ลูกสมุนกำจัดมันอีกทีน่ะ.."
เอรินยังพูดไม่ทันจบดีอิเร็ตต้าก็สาดน้ำชาใส่หน้าเอรินจนหมดแก้ว
"โง่จริงเชียว ทำไมถึงได้โง่แบบนี้ ต่อไปฉันจะลงมือเอง"
อิเร็ตต้าพูดจบก็เช็ดปากแล้วลุกเดินออกไป ทิ้งให้เอรินจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
"กล้าดียังไง..กล้าดียังไงมาพูดแบบนั้นกับฉัน!! ฉันไม่ใช่ขี้ข้า!!"
เคร้ง!!
เอรินบันดาลโทสะด้วยการปัดสิ่งของบนโต๊ะกลมร่วงลงพื้นด้วยจนแก้วน้ำชาแตกกระจายเป็นเศษชิ้นส่วนเล้กๆแล้วเธอก็ใช้ส้นสูงเหยียบมันซ้ำจนแตกละเอียด
---------------------------------
ซิโคซีกำลังเดินชมสวนในเรือนกระจกหลังปราสาท
"ยี้..ดอกกุหลาบสีขาว..เอามันไปทิ้งเดี๋ยวนี้!! ฉันเกลียดมัน!!"
สิ้นเสียงซิโคซีก็มีหญิงชราแก่ๆคนนึงสวมชุดคนรับใช้เดินอย่างทุลักทุเลมาหาซิโคซี
"ทิ้งทำไมคะนายหญิง ดอกกุหลายสีขาวสวยออกขนาดนี้ ดูสิกำลังบานสะพรั่งเชียว"
"ฉันบอกให้ทิ้งก็ทิ้ง!! อย่ามาเถียงฉัน!! หรือป้าอยากจะโดนทิ้งแทนดอกกุหลาบพวกนี้!!!"
ซิโคซีพูดพลางดึงตรงก้านที่เต็ทไปด้วยหนามของดอกกุหลาบจนในมือมีเลือดไหลออกมาเป็นทางจนดอกกุหลาบกลายเป็นสีแดงสดก่อนจะทิ้งมันลงไปบนพื้นแล้วใช้ส้นสูงปรี๊ดเหยียบขยี้มันจนไม่เหลือเค้าเดิม..เมื่อย่ำยีจนพอใจซิโคซีก็เดินจากไป..ทิ้งให้หญิงชราที่ตั้งใจปลูกดอกกุหลาบพวกนี้ใจสลาย..
ต้นไม้บางต้นก็มีสีแดงราวกับมีใครบางคนสาดเลือดสดเข้าไปที่้ต้นไม้ ตรงกิ่งก้านของต้นไม้ก็คดงอเข้าหาโคนต้นดูแปลกประหลาดราวกับกำลังกรีดร้องออกมาอย่างน่าขยะแขยง ใบไม้เป็นรูปทรงเพชรแวววาวและแหลมคมราวกับใบมีดหากสัมผัสสักหน่อยคงจะได้แผลเป็นแน่
"ต้นไม้พวกนี้สวยจัง เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันดูน่าขยะแขยง..ฮึฮึ..น่าขยะแขยงจริงๆเลย ฮึฮึ"
ซิโควีพูดพลางหัวเราะในลำคอแล้วอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"นั่นเรียกว่าต้นไม้สิ้นหวังเพคะองค์ราชินี..มันดูสวยงามใช่ไหมเพคะ? มีเรื่องเล่าว่ามีสาวงามอยู่คนหนึ่ง เธองดงามมากจนชายหนุ่มจากต่างเมืองหมายปองจะได้ครองคู่กับเธอ แต่เธอกลับไม่เคยพบรักแท้..และสาวอัปลักษณ์นางหนึ่งริษยาในความงามของสาวงามนางนั้น..เธอจึงไปขอร้องให้พ่อมดช่วยเสกเธอให้กลายเป็นสตรีที่งามที่สุดในปฐพีไม่มีใครเทียบได้ เธอได้สมปรารถนา..เมื่อกาลเวาผ่านพ้นไปสาวงามถูกหลงลืมเพราะสาวอัปลักษณ์ได้กลายเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในปฐพี..สาวงามเศร้าโศกเสียใจ..จึงตรอมใจตายใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง..ร่างกายของเธอถูกหลอกรวมเข้ากับต้นไม้ตนนั้น..สีแดงฉานหมายถึงหยาดน้ำตาของเธอ..ใบไม้แหลมคมหมายถึงจิตใจที่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ..มันจึงดูน่าขยะแขยงและไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพคะ องค์ราชินีทรงโปรดปรานเรื่องเล่านี้รึไม่? กระหม่อมโปรดปรานมากที่สุดเพคะ กระหม่อมชื่นชมความงามของสีแดงที่น่าขยะแขยงเพคะ"
อิเร็ตต้าพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับซิโคซีที่ฟังจนเผลอเหม่อลอยตาม
"อะ..อืม!! ฉันชอบ!! เธอมีเรื่องเล่าอีกไหม ฉันอยากฟังอีก!!"
"มีอีกเยอะแยะเพคะ หากเป็นประสงค์ของพระองค์ กระหม่อมน้อมรับคำบัญชา"
อิเร็ตต้าส่งยิ้มหวานให้ซิโคซีที่กำลังทำสีหน้าดีใจ..ที่จะได้ฟังนิทานอีกเยอะแยะ..
สรุปว่า...เหยื่อติดเบ็ดล่ะนะ..ฮึฮึ..อิเร็ตต้านึกในใจแล้วอมยิ้มระหว่างการพาองค์ราชินีเข้าไปในห้องหนังสือ
"พระองค์อยากทราบเรื่องใดเพคะ"
"ฉันอยากรู้ว่าที่นีเรียกว่าอะไร มีความเป็นมายังไง !!"
"กระหม่อมเกรงว่า..เรื่องนั้นคงจะไม่เหมาะนะเพคะ"
"ฉันจะฟัง!! ถ้าฉันไม่ได้ฟังฉันจะไล่เธอออก!! เธอคงไม่อยากจะออกไปใช้ชีวิตอย่างคนเร่ร่อนเป็นขอทานสกปรกไม่มีใครอยากคบหาใช่ไหม งั้นก็เล่าให้ฉันฟังสิ!! ฉันอยากฟังฉันก็ต้องได้ฟัง!!"
"ถะ..ถ้าเป็นประสงค์ของพระองค์ หม่อมฉันยินดีเพคะ"
อิเร็ตต้าพูดพลางหันไปเลือกหนังสือให้..ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เฉยเมย..เอาแต่ใจจริงเชียว..ยัยเด็กเวรเอ้ย!!
"หาเจอรึยัง! ทำไมชักช้านัก!! ฉันเบื่อแล้วนะ! จะให้รอไปถึงเมือ่ไหร่!!!"
อเร็ตต้าหันหน้ามายิ้มแย้มให้ซิโคซีก่อนจะวางหนังสือปกหนาเล่มหนึ่งไว้บนโต๊ะไม้เบาๆ
หน้าปกหนังสือเป็นสีน้ำตาลเข้มตกแต่งด้วยลวดลายมากมายต้องปลดล็อกหนังสือถึงจะเปิดเข้าไปได้
ทันทีที่อิเร็ตต้าเปิดมันออกก็พบกับหน้าหนังสือเพียงสองหน้าเท่านั้น..มันเป็นหน้ากระดาษสีขาวก่อนจะตามมาด้วยรูปวาดที่ขยับได้..จึงไม่น่าแปลกใจที่จะไม่มีหน้าอื่นๆ ซิโคซีมองสิ่งตรงหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วจดจ้องไม่ยอมละสายตา
"หนังสือแบบนี้มันทำขึ้นมาได้ยังไงกัน ใครเป็นคนทำ ฉันอยากทำบ้าง"
ซิโวซียังไม่ได้คำตอบ หน้ากระดาษตรงหน้าก็เริ่มปรากฏตัวหนังสือที่เขียนอย่างสวยงาม
'หนังสือที่มีประโยชน์'
แล้วขึ้นด้วยประโยคต่อไป
'ท่าอยากรู้อะไร ท่านจะได้รู้'
ฉับพลันตัวหนังสือทั้งหมดก็หายไปแล้วขึ้นเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งขึ้นมา หญิงสาวคนนั้นสวมชุดสีขาวกระโปรงยาว มีวงแหวนเล็กๆบนหัวและปีกสีขาวงอกออกมาจากข้างหลัง ก่อนจะมีรูปขาตั้งสำหรับกระดาษวาดรูปขึ้นมา และมีเก้าอี้รูปทรงสวยงามตั้งอยู่ข้างๆ
เก้าอี้นั้นค่อยๆเลื่อนมาหาหญิงสาวก่อนที่หญิงสาวจะนั่งลงไปแล้วหยิบพู่กันด้ามสีทองขึ้นมาสะบัดสองทีแล้วเริ่มวาดรูปลงไปบนกระดาษนั้นเผยให้เห็นเป็นรูปร่างของเมืองที่ดูอุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองมีความสุข ผู้ครองเมืองครองเมืองอย่างสันติวิธี มีป่าไม้และสัตว์หลากหลายชนิดที่ดูแปลกตา ทุกสิ่งทุกอย่างดูมีความสุขดี ทันใดนั้นหญิงสาวคนนั้นก็หยิบพู่กันด้ามสีดำออกมาสะบัดสามทีแล้วละเลงสีแดงฉานลงไป เมืองกลายเป็นเมืองที่ไร้ชีวิตชีวา ประชาชนแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ผู้ครองเมืองทำสงครามกับประชาชน ป่าไม้เริ่มเหี่ยวแห้งลงทีละน้อย เหล่าบรรดาสัตว์ทั้งหลายล้มตายลงราวกับไม้ผลัดใบ ฤดูใบไม้ผลิกลายเป็นฤดูใบไม้ร่วง.. หญิงสาวคนนั้นหยิบพู่กันด้ามสีทองขึ้นมาสะบัดสองทีก่อนจะวาดรูปผู้หญิงที่ดูจิตใจดีลงไป.. ทำให้เมืองกลับมามีความสุขอีกครั้ง .. หรือก็คือ .. องค์ราชินีนั่นเอง . .
ซิโคซีจดจ้องหน้าหนังสือราวกับจะกลืนกินมันลงไป..ก่อนที่รูปทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป..แล้วมีตัวหนังสือขึ้นมาแทนที่
'ท่านอยากรู้อะไรอีก?'
"ฉันอยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้น!!"
ซิโคซีตอบหนังสือไปแทบจะทันทีแล้วตัวหนังสือก็หายไปค่อยๆขึ้นมาเป็นภาพ..
พรึ่บ!!
แต่อิเร็ตต้ากลับปิดหนังสือลงแล้วจัดการล็อคมันไว้อย่างเดิมก่อนจะเก็บมันเข้าที่
"เธอจะรีบเก็บไปทำไม!! เอาหนังสือมาให้ฉัน!!"
"เรื่องราวต่อจากนี้พระองค์ไม่ควรทราบ"
"ฉันบอกว่าจะดู!! เอามาให้ฉัน!! เดี่ยวนี้!! ฉันบอกให้เอามา!! เดี๋ยวนี้! ได้ยินไหม! หูตึงหรือไง! เอามาให้ฉัน! เดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เอามาให้ฉัน!!!!!!!!!!!! ฉันบอกให้เอามา!!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ซิโคซีเริ่มกรีดร้องเสียงแหลมอย่างสติแตกจนอิเร็ตต้าต้องเอามือปิดหูไว้ ซิโคซีเริ่มทึ้งผมตัวเองแล้วส่งเสียงร้องเหมือนเดิม
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฉันคือราชินี!!!!!!!!!!!!! สั่งอะไรก็ต้องทำตาม!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!"
ซิโคซีส่งเสียงร้องดังกว่าเดิมจนดอกทานตะวันและเหล่าทหารบุกเข้ามาในห้องสมุดแห่งนี้กันอย่างตื่นตระหนก
"เกิดอะไรขึ้น!? เธอทำอะไรองค์ราชินี!! ทหาร! จับตัวมันไป!!!!"
สิ้นเสียงดอกทานตะวันอิเร็ตต้าก็ถูกเหล่าทหารลากตัวออกไป
"ซิโคซีไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อิเร็ตต้าทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว"
ดอกทานตะวันพูดปลอบซิโคซีที่เบาเสียงลงและพูดพึมพำไปมาอย่างคนเสียสติอยู่คนเดียว..ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินออกจากห้องไป..
++++++++++++++++++++++++++++++++
ก่อนหน้านี้ไรท์ต้องขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะคะ ได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากค่ะ >___<
+ naru
เอรินพูดพร้อมกับทุบโต๊ะเสียงดังอย่างอารมณ์เสีย
"เธอก็หัดใจเย็นลงบ้างเถอะนะเอริน อย่าวู่วามมากนัก"
"เธอก็พูดได้สิอิเร็ตต้า!! เธอไม่ได้เป็นฉันนี่!! เธอมันก็ดีแต่ปาก ไม่ยอมลงมือสักที.."
เอรินพูดพร้อมกับชายตามองไปที่อิเร็ตต้าที่กำลังนั่งจิบชายามบ่าย
"เพราะคนที่ใจร้อนวู่วามคือคนโง่ไงล่ะ..ว่าแต่..ทำไมยัยนั่นถึงกลับมาได้..ฉันสั่งให้เธอกำจัดไปแล้วไม่ใช่หรือไง?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันมั่นใจว่าฉันฆ่ายัยนั่นเองกับมือ"
"ฆ่าเองกับมือแน่หรอ?"
"จะ..จริงๆก็ไม่ใช่หรอก ฉันสั่งให้ลูกสมุนกำจัดมันอีกทีน่ะ.."
เอรินยังพูดไม่ทันจบดีอิเร็ตต้าก็สาดน้ำชาใส่หน้าเอรินจนหมดแก้ว
"โง่จริงเชียว ทำไมถึงได้โง่แบบนี้ ต่อไปฉันจะลงมือเอง"
อิเร็ตต้าพูดจบก็เช็ดปากแล้วลุกเดินออกไป ทิ้งให้เอรินจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
"กล้าดียังไง..กล้าดียังไงมาพูดแบบนั้นกับฉัน!! ฉันไม่ใช่ขี้ข้า!!"
เคร้ง!!
เอรินบันดาลโทสะด้วยการปัดสิ่งของบนโต๊ะกลมร่วงลงพื้นด้วยจนแก้วน้ำชาแตกกระจายเป็นเศษชิ้นส่วนเล้กๆแล้วเธอก็ใช้ส้นสูงเหยียบมันซ้ำจนแตกละเอียด
---------------------------------
ซิโคซีกำลังเดินชมสวนในเรือนกระจกหลังปราสาท
"ยี้..ดอกกุหลาบสีขาว..เอามันไปทิ้งเดี๋ยวนี้!! ฉันเกลียดมัน!!"
สิ้นเสียงซิโคซีก็มีหญิงชราแก่ๆคนนึงสวมชุดคนรับใช้เดินอย่างทุลักทุเลมาหาซิโคซี
"ทิ้งทำไมคะนายหญิง ดอกกุหลายสีขาวสวยออกขนาดนี้ ดูสิกำลังบานสะพรั่งเชียว"
"ฉันบอกให้ทิ้งก็ทิ้ง!! อย่ามาเถียงฉัน!! หรือป้าอยากจะโดนทิ้งแทนดอกกุหลาบพวกนี้!!!"
ซิโคซีพูดพลางดึงตรงก้านที่เต็ทไปด้วยหนามของดอกกุหลาบจนในมือมีเลือดไหลออกมาเป็นทางจนดอกกุหลาบกลายเป็นสีแดงสดก่อนจะทิ้งมันลงไปบนพื้นแล้วใช้ส้นสูงปรี๊ดเหยียบขยี้มันจนไม่เหลือเค้าเดิม..เมื่อย่ำยีจนพอใจซิโคซีก็เดินจากไป..ทิ้งให้หญิงชราที่ตั้งใจปลูกดอกกุหลาบพวกนี้ใจสลาย..
ต้นไม้บางต้นก็มีสีแดงราวกับมีใครบางคนสาดเลือดสดเข้าไปที่้ต้นไม้ ตรงกิ่งก้านของต้นไม้ก็คดงอเข้าหาโคนต้นดูแปลกประหลาดราวกับกำลังกรีดร้องออกมาอย่างน่าขยะแขยง ใบไม้เป็นรูปทรงเพชรแวววาวและแหลมคมราวกับใบมีดหากสัมผัสสักหน่อยคงจะได้แผลเป็นแน่
"ต้นไม้พวกนี้สวยจัง เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันดูน่าขยะแขยง..ฮึฮึ..น่าขยะแขยงจริงๆเลย ฮึฮึ"
ซิโควีพูดพลางหัวเราะในลำคอแล้วอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"นั่นเรียกว่าต้นไม้สิ้นหวังเพคะองค์ราชินี..มันดูสวยงามใช่ไหมเพคะ? มีเรื่องเล่าว่ามีสาวงามอยู่คนหนึ่ง เธองดงามมากจนชายหนุ่มจากต่างเมืองหมายปองจะได้ครองคู่กับเธอ แต่เธอกลับไม่เคยพบรักแท้..และสาวอัปลักษณ์นางหนึ่งริษยาในความงามของสาวงามนางนั้น..เธอจึงไปขอร้องให้พ่อมดช่วยเสกเธอให้กลายเป็นสตรีที่งามที่สุดในปฐพีไม่มีใครเทียบได้ เธอได้สมปรารถนา..เมื่อกาลเวาผ่านพ้นไปสาวงามถูกหลงลืมเพราะสาวอัปลักษณ์ได้กลายเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในปฐพี..สาวงามเศร้าโศกเสียใจ..จึงตรอมใจตายใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง..ร่างกายของเธอถูกหลอกรวมเข้ากับต้นไม้ตนนั้น..สีแดงฉานหมายถึงหยาดน้ำตาของเธอ..ใบไม้แหลมคมหมายถึงจิตใจที่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ..มันจึงดูน่าขยะแขยงและไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพคะ องค์ราชินีทรงโปรดปรานเรื่องเล่านี้รึไม่? กระหม่อมโปรดปรานมากที่สุดเพคะ กระหม่อมชื่นชมความงามของสีแดงที่น่าขยะแขยงเพคะ"
อิเร็ตต้าพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับซิโคซีที่ฟังจนเผลอเหม่อลอยตาม
"อะ..อืม!! ฉันชอบ!! เธอมีเรื่องเล่าอีกไหม ฉันอยากฟังอีก!!"
"มีอีกเยอะแยะเพคะ หากเป็นประสงค์ของพระองค์ กระหม่อมน้อมรับคำบัญชา"
อิเร็ตต้าส่งยิ้มหวานให้ซิโคซีที่กำลังทำสีหน้าดีใจ..ที่จะได้ฟังนิทานอีกเยอะแยะ..
สรุปว่า...เหยื่อติดเบ็ดล่ะนะ..ฮึฮึ..อิเร็ตต้านึกในใจแล้วอมยิ้มระหว่างการพาองค์ราชินีเข้าไปในห้องหนังสือ
"พระองค์อยากทราบเรื่องใดเพคะ"
"ฉันอยากรู้ว่าที่นีเรียกว่าอะไร มีความเป็นมายังไง !!"
"กระหม่อมเกรงว่า..เรื่องนั้นคงจะไม่เหมาะนะเพคะ"
"ฉันจะฟัง!! ถ้าฉันไม่ได้ฟังฉันจะไล่เธอออก!! เธอคงไม่อยากจะออกไปใช้ชีวิตอย่างคนเร่ร่อนเป็นขอทานสกปรกไม่มีใครอยากคบหาใช่ไหม งั้นก็เล่าให้ฉันฟังสิ!! ฉันอยากฟังฉันก็ต้องได้ฟัง!!"
"ถะ..ถ้าเป็นประสงค์ของพระองค์ หม่อมฉันยินดีเพคะ"
อิเร็ตต้าพูดพลางหันไปเลือกหนังสือให้..ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เฉยเมย..เอาแต่ใจจริงเชียว..ยัยเด็กเวรเอ้ย!!
"หาเจอรึยัง! ทำไมชักช้านัก!! ฉันเบื่อแล้วนะ! จะให้รอไปถึงเมือ่ไหร่!!!"
อเร็ตต้าหันหน้ามายิ้มแย้มให้ซิโคซีก่อนจะวางหนังสือปกหนาเล่มหนึ่งไว้บนโต๊ะไม้เบาๆ
หน้าปกหนังสือเป็นสีน้ำตาลเข้มตกแต่งด้วยลวดลายมากมายต้องปลดล็อกหนังสือถึงจะเปิดเข้าไปได้
ทันทีที่อิเร็ตต้าเปิดมันออกก็พบกับหน้าหนังสือเพียงสองหน้าเท่านั้น..มันเป็นหน้ากระดาษสีขาวก่อนจะตามมาด้วยรูปวาดที่ขยับได้..จึงไม่น่าแปลกใจที่จะไม่มีหน้าอื่นๆ ซิโคซีมองสิ่งตรงหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วจดจ้องไม่ยอมละสายตา
"หนังสือแบบนี้มันทำขึ้นมาได้ยังไงกัน ใครเป็นคนทำ ฉันอยากทำบ้าง"
ซิโวซียังไม่ได้คำตอบ หน้ากระดาษตรงหน้าก็เริ่มปรากฏตัวหนังสือที่เขียนอย่างสวยงาม
'หนังสือที่มีประโยชน์'
แล้วขึ้นด้วยประโยคต่อไป
'ท่าอยากรู้อะไร ท่านจะได้รู้'
ฉับพลันตัวหนังสือทั้งหมดก็หายไปแล้วขึ้นเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งขึ้นมา หญิงสาวคนนั้นสวมชุดสีขาวกระโปรงยาว มีวงแหวนเล็กๆบนหัวและปีกสีขาวงอกออกมาจากข้างหลัง ก่อนจะมีรูปขาตั้งสำหรับกระดาษวาดรูปขึ้นมา และมีเก้าอี้รูปทรงสวยงามตั้งอยู่ข้างๆ
เก้าอี้นั้นค่อยๆเลื่อนมาหาหญิงสาวก่อนที่หญิงสาวจะนั่งลงไปแล้วหยิบพู่กันด้ามสีทองขึ้นมาสะบัดสองทีแล้วเริ่มวาดรูปลงไปบนกระดาษนั้นเผยให้เห็นเป็นรูปร่างของเมืองที่ดูอุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองมีความสุข ผู้ครองเมืองครองเมืองอย่างสันติวิธี มีป่าไม้และสัตว์หลากหลายชนิดที่ดูแปลกตา ทุกสิ่งทุกอย่างดูมีความสุขดี ทันใดนั้นหญิงสาวคนนั้นก็หยิบพู่กันด้ามสีดำออกมาสะบัดสามทีแล้วละเลงสีแดงฉานลงไป เมืองกลายเป็นเมืองที่ไร้ชีวิตชีวา ประชาชนแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ผู้ครองเมืองทำสงครามกับประชาชน ป่าไม้เริ่มเหี่ยวแห้งลงทีละน้อย เหล่าบรรดาสัตว์ทั้งหลายล้มตายลงราวกับไม้ผลัดใบ ฤดูใบไม้ผลิกลายเป็นฤดูใบไม้ร่วง.. หญิงสาวคนนั้นหยิบพู่กันด้ามสีทองขึ้นมาสะบัดสองทีก่อนจะวาดรูปผู้หญิงที่ดูจิตใจดีลงไป.. ทำให้เมืองกลับมามีความสุขอีกครั้ง .. หรือก็คือ .. องค์ราชินีนั่นเอง . .
ซิโคซีจดจ้องหน้าหนังสือราวกับจะกลืนกินมันลงไป..ก่อนที่รูปทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป..แล้วมีตัวหนังสือขึ้นมาแทนที่
'ท่านอยากรู้อะไรอีก?'
"ฉันอยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้น!!"
ซิโคซีตอบหนังสือไปแทบจะทันทีแล้วตัวหนังสือก็หายไปค่อยๆขึ้นมาเป็นภาพ..
พรึ่บ!!
แต่อิเร็ตต้ากลับปิดหนังสือลงแล้วจัดการล็อคมันไว้อย่างเดิมก่อนจะเก็บมันเข้าที่
"เธอจะรีบเก็บไปทำไม!! เอาหนังสือมาให้ฉัน!!"
"เรื่องราวต่อจากนี้พระองค์ไม่ควรทราบ"
"ฉันบอกว่าจะดู!! เอามาให้ฉัน!! เดี่ยวนี้!! ฉันบอกให้เอามา!! เดี๋ยวนี้! ได้ยินไหม! หูตึงหรือไง! เอามาให้ฉัน! เดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เอามาให้ฉัน!!!!!!!!!!!! ฉันบอกให้เอามา!!!!!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ซิโคซีเริ่มกรีดร้องเสียงแหลมอย่างสติแตกจนอิเร็ตต้าต้องเอามือปิดหูไว้ ซิโคซีเริ่มทึ้งผมตัวเองแล้วส่งเสียงร้องเหมือนเดิม
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฉันคือราชินี!!!!!!!!!!!!! สั่งอะไรก็ต้องทำตาม!!!!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!"
ซิโคซีส่งเสียงร้องดังกว่าเดิมจนดอกทานตะวันและเหล่าทหารบุกเข้ามาในห้องสมุดแห่งนี้กันอย่างตื่นตระหนก
"เกิดอะไรขึ้น!? เธอทำอะไรองค์ราชินี!! ทหาร! จับตัวมันไป!!!!"
สิ้นเสียงดอกทานตะวันอิเร็ตต้าก็ถูกเหล่าทหารลากตัวออกไป
"ซิโคซีไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อิเร็ตต้าทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว"
ดอกทานตะวันพูดปลอบซิโคซีที่เบาเสียงลงและพูดพึมพำไปมาอย่างคนเสียสติอยู่คนเดียว..ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินออกจากห้องไป..
++++++++++++++++++++++++++++++++
ก่อนหน้านี้ไรท์ต้องขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะคะ ได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากค่ะ >___<
+
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น