คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : {sf} High School series ♡taeten♡ EP.2
EPISODE 2
“ถ้าเห็นเด็กมึงแล้วบอกกูด้วยนะ”ตอนนี้ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว แจฮยอนเลยพาผมมาซอกระหว่างตึกศิลป์กับตึกวิทย์เพื่อดักรอดูเด็กที่ผมพลั้งปากบอกว่าอยากรู้จักเมื่อตอนเช้า ตรงนี้สามารถเห็นประตูหน้าของโรงเรียนที่เด็กต้องใช้เข้าออกกัน ส่วนฮันซลไปห้องสภานักเรียนเป็นเพื่อนโดยอง
“มึงรอดูพรุ่งนี้ไม่ได้หรือไงวะ กูเมื่อย”ผมพูดอย่างหงุดหงิด ผมอยู่ในซอกตึกกับมันมาร่วมสิบนาทีแล้ว ก็ยังไม่เห็นเด็กปีหนึ่งจะลงมาสักคน
“ไม่ได้ กูอยากเห็นวันนี้ไม่งั้นกูนอนไม่หลับ”มันหันมาพูดเสียงจริงจัง ตกลงนี่ใครเป็นคนอยากรู้จักกันแน่ กูหรือมึง -_-
“ความตั้งใจเสือกของมึงนี่แข็งแกร่งจริงๆ”ผมด่ามัน แต่ก็ยังมีหน้ามายิ้มรับ
“ขอบคุณ”
“= =”ผมอยากถีบมันจริงๆ
“อีกห้านาทียังไม่มา กูกลับ ถ้ามึงเถียง กูจะกลับเดี๋ยวนี้”ผมยื่นคำขาด มันหุบปากฉับทันที ผมยืนพิงกำแพงหลับตาอย่างเบื่อหน่าย แจฮยอนยังคงชะเง้อคอมองหาเด็กปีหนึ่ง
“มาทำไรกันตรงนี้วะ”
“แม่แหก! กูตกใจหมด ไอ้เชี่_”
เสียงอุทานอันไพเราะของแจฮยอน ทำให้ผมลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเจอไอ้ฮันซลกับโดยองยืนอยู่
“ทำไรของพวกมึงวะ มายืนตรงนี้ทำไม”ฮันซลถามอีกครั้ง ผมพยักเพยิดให้ไปถามไอ้แจเอาเอง
“มาส่องเด็กไอ้แทยง พวกมึงมาก็ดีละจะได้เห็นพร้อมกันไปเลย”แจฮยอนตอบ จัดแจงดึงไอ้ฮันซลกับโดยองมายืนข้างมัน
“ปีหนึ่งประชุมกันอยู่ กูเพิ่งจะออกมาจากหอประชุมเนี่ย แต่คงใกล้เสร็จแล้วล่ะมั้ง”โดยองบอกข่าวที่ช่วยผมได้ดีทีเดียว กูยืนมาเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่ออะไร ผมหยิบกระเป๋าที่วางทิ้งไว้บนพื้นขึ้นมาสะพายแล้วเดินออกจากซอกตึกทันที ไม่สนใจไอ้แจที่วิ่งโวยวายตามผมมา
“มึงจะไปไหน ไอ้แทย๊งงงง”
ผมเดินไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวแล รำคาญมันจริงๆ เสียเวลาชะมัด คิดถูกหรือเปล่าที่ให้มันรู้ = = ทางเดินไปหน้าประตูโรงเรียนก็ต้องผ่านหอประชุมซึ่งตอนนี้เริ่มมีเด็กทยอยออกจากที่นั่นแล้ว แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์มาสนใจแล้ว รีบก้าวเพื่อออกจากประตูโรงเรียนจนไม่ได้มองคนรอบข้างเท่าไหร่
พลั่ก!!!
“โอ๊ยยยย”
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นหลังจากผมรู้สึกเหมือนเดินชนอะไรสักอย่าง ก้มลงมองเด็กผู้ชายที่ล้มลงไปกองกับพื้น ผมรีบเข้าไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้นอย่างตกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า”ผมถามหลังจากเด็กคนนั้นยืนขึ้นมาแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ”ก้มหน้าก้มตาปัดเศษดินออกจากเสื้อผ้า จนผมไม่เห็นหน้าตาของเด็กคนนั้น
“ขอโทษน…”
“เฮ้ย เตนล์เป็นอะไรมั้ย”ยังไม่ทันพูดจบ อยู่ดีๆก็มีเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาหา ก่อนผมจะชะงักค้างเมื่อเห็นหน้าของเด็กที่ผมชน พูดอะไรไม่ออกทันที เหมือนกดปิดสวิตซ์ตัวเอง
“ถลอกนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรมาก เอ่อ รุ่นพี่ครับ…”หันไปตอบเพื่อนตัวเอง ผมได้แต่จ้องใบหน้าน่ารักนั่น ก่อนจะได้สติเมื่อเด็กคนนั้นหันกลับมามองผม แต่ผมก็ยังพูดอะไร เหมือนเสียงได้อันตธานหายไปตั้งแต่เห็นหน้าน้องเค้า
“รุ่นพี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”น้องเตนล์(ตามที่อีกคนเรียก)พูดขึ้นอีกครั้ง คือผมต้องเป็นคนพูดประโยคนี้มั้ย แต่ปากสั่นเกินกว่าจะพูดออกมาเป็นคำได้ น้องเค้าทำหน้างงที่ผมไม่ยอมตอบอะไร เอาจริงๆไม่ใช่แค่ปาก แต่มือ ขา นี่สั่นตามกันไปหมด รู้สึกเหมือนจะยืนไม่อยู่ อย่าบอกนะว่ามันกำลังจะมา อาการนี้…มัน…
ตุ้บ!
“เฮ้ย!”
“ไอ้แทยง! / ชิ_หาย”
เหมือนได้ยินเสียงเพื่อนรักดังแว่วๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลงพร้อมกับสติของผม
……………
…………
………
…..
…..
…
..
.
.
.
ไม่อยากจะถามคำถามแบบนางเอกละครหลังข่าว แต่…ผมอยู่ที่ไหนกัน ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก็เจอเพดานสีครีมคุ้นตา สติยังกลับคืนมาไม่เต็มร้อยเลยยังประมวลผลไม่ได้ว่ากำลังอยู่ที่ไหน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับผม
“แทยงฟื้นแล้ว”เหมือนจะเป็นเสียงโดยอง ผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับภาพให้ชัดขึ้น รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นมาคลึงขมับ
“กูเป็นไรวะ”พอสติเข้าร่าง ก็มองไปรอบๆทันที จึงได้รู้ว่านี่ห้องนอนของผมเอง ข้างเตียงก็มีแก๊งผมอยู่กันครบ
“เอาตั้งแต่ที่กูเห็นเลยมะ”ไอ้แจฮยอนเสนอหน้าเข้ามาทันที ผมพยักหน้า สมองกำลังเบลอ ความจำก็เบลอตาม
เดี๋ยวนะ เท่าที่จำได้ ผมอยู่โรงเรียนแล้วกำลังยืนอยู่กับน้องคนนั้นกับเด็กอีกคนไม่ใช่หรอ
“มึงเดินชนเด็กปีหนึ่งคนนึงจนล้ม มึงก็เลยช่วยพยุงเค้าให้ลุกขึ้นด้วยความตกใจ กำลังจะขอโทษน้องเค้าแต่ก็เพื่อนวิ่งเข้ามาหาก่อน พอมึงเห็นหน้าน้องคนที่มึงชน มึงก็เงิบแด-ก นิ่งค้างเป็นหุ่น น้องพูดกับมึง มึงก็ไม่ตอบน้องเค้า และแล้วก็มาถึงจุดพีคของเรื่อง…”ไอ้แจฮยอนเว้นจังหวะพูดให้เนื้อเรื่องตื่นเต้นยิ่งขึ้น คือกูไม่ได้ตื่นเต้นไปกับมึงเลย - - ผมคิดตามที่แจฮยอนเล่าประหนึ่งยืนอยู่ข้างผม เหตุการณ์ค่อยๆไหลเข้ามาในสมอง จนมันเล่าเหตุการณ์สุดท้ายนั่นแหล่ะ ผมแทบจะกระโดดระเบียงตาย
“มึงเป็นลมต่อหน้าต่อตาน้องเค้า”
“ทำไมอาการมึงมากำเริบตอนนี้วะ ครั้งสุดท้ายที่มึงเป็นตอนป.1 วันงานโรงเรียนที่มึงต้องเต้นเปิดงานแต่เสือกเป็นลมเพราะตื่นเต้น วุ่นวายกันทั้งโรงเรียน”ไอ้ฮันซลเล่าความอับอายสมัยประถมของผมให้คนที่ยังไม่เคยรู้อย่างโดยองและไอ้แจฮยอนฟัง มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะจดจำเท่าไหร่ นึกถึงแล้วอยากจะร้องไห้ด้วยความอับอาย แต่ก็ยังไม่เท่าวันนี้…
อับอายจนไม่อยากก้าวออกจากบ้าน
“แล้วทำไมมึงถึงเป็นลมวะ”
“กูไม่รู้”ผมตอบโดยองด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะต่อหน้าเด็กคนนั้น
“จากที่ฮันซลเล่า มึงเป็นลมเพราะตื่นเต้นน้องเค้าใช่มั้ย”โดยองสรุปสาเหตุอาการของผม ผมนิ่งทันที ก็คงใช่ นี่ผมตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอวะ
“สรุปว่ามึงชอบเด็กหน้าหวานนั่นสินะ ตอนแรกคิดว่ามึงชอบผู้หญิงซะอีก แต่ไม่เป็นไร น้องเค้าน่ารัก กูให้ผ่าน”แจฮยอนบอก คือปัญหาไม่ใช่ตรงนี้ว่ะ
“แล้วทีนี้มึงจะจีบน้องเค้าได้มั้ย ขนาดแค่เจอหน้ากันครั้งแรกมึงก็เป็นลมเป็นแล้งต่อหน้าน้องเค้าละ”ไอ้ซลพูดขึ้น
นี่แหล่ะปัญหา รู้สึกเหมือนเรื่องจะจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบ อยากอยู่บ้านเพื่อนั่งไว้อาลัยให้แก่ตัวเองสักสองปี ไม่ต้องโผล่หน้าไปโรงเรียนให้น้องเค้าเจอหน้า
“เอาน่า ยังไงก็มีพวกกูช่วยอยู่แล้ว จะกลัวไรวะ”แจฮยอนตบไหล่พร้อมพูดปลอบประโลมจิตใจที่แห้งเหี่ยวของผม
“ไหนๆ ก็เจอหน้ากันแล้ว พรุ่งนี้เริ่มปฏิบัติการเพื่อความรักของลีแทยงเพื่อนรักเลย !”แล้วมันก็หันไปแท็คมือกับฮันซลโดยมีโดยองยิ้มเป็นกำลังเสริม
กูกลัวพวกมึงนี่แหล่ะ เพื่อนรัก
ความคิดเห็น