คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : {sf} High School series ♡taeten♡ EP.3
EPISODE 3
เช้าวันใหม่มาถึง ผมเดินเข้าโรงเรียนด้วยจิตใจอันหดหู่ คนในโรงเรียนมีประปรายเพราะยังเช้าอยู่มาก ถือเป็นเรื่องดีที่ยังมีเด็กนักเรียนไม่มาก ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อวานมีคนเป็นพยานความกากของผมมากขนาดไหน เดินผ่านโต๊ะม้าหินประจำกลุ่มไป วันนี้ไม่มีอารมณ์นั่งรอคอยพวกมัน กะว่าจะขึ้นไปนอนที่ห้องซักงีบ เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็ล่อไปตีสาม
แต่พอก้าวเช้าห้องก็เจอกับเหล่าเพื่อนรักที่นั่งสุมหัวกัน หน้าตาแต่ละคนเคร่งเครียดประหนึ่งร้านข้าวมั่นไก่เจ้าประจำปิด เครียดยิ่งกว่าตอนสอบย่อยของเจ๊ฮีชอลจอมโหด
“เอาแบบนี้แหล่ะ”
“แล้วใครจะเป็นคนไป”
“มึงไง”
“ทำไมต้องกูวะ ไอ้ซลก็ไปได้”
“ก็มึงเป็นหัวหน้าห้อง น้องเค้าจะได้เชื่อถือไง”
ฟังจากบทสนทนาคงวางแผนให้ผมอยู่สินะ ผมล่ะซาบซึ้งกับความตั้งใจของพวกมันจริงๆ น้ำตาจะไหล
ไอ้แจฮยอนหันมาเจอผมพอดี มันรีบลุกมาดึงคอเสื้อลากผมเข้าร่วมวงทันที
“พระเอกของเรามาแล้วครับ นี่พวกกูคิดแผนแรกให้มึงเสร็จเรียบร้อยแล้วนะเว้ยย”มันอวดอย่างภาคภูมิใจ ผมได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่าย ตอนนี้ก็ครบองค์ประชุมแล้ว ในห้องเรียนมี่แค่พวกผม เพราะยังถือว่าเช้ามากสำหรับพวกมัน ผมมาเช้าเป็นปกติเพราะติดรถพี่ชายข้างบ้านที่อยู่วัยทำงานแล้วบังเอิญโรงเรียนผมเป็นทางผ่านพี่เค้าพอดีเลยขอมาด้วยแล้วให้หย่อนผมลงหน้าโรงเรียน
ประเด็นคือขี้เกียจมาโรงเรียนเองเลยยอมตื่นเช้าเพื่อได้นั่งรถมาโรงเรียนฟรีๆ แล้วค่อยมาหลับชดเชยในห้องเรียนเอา…
แต่วันนี้พวกมันมาเช้ากว่าผมอีก กับการเรียนพวกมึงทุ่มเทขนาดนี้มั้ยครับ
“ว่าแผนของพวกมึงมาซิ”ไหนๆก็หลุดพ้นพวกมันไม่ได้ละ ยอมเดินตามเกมพวกมันหน่อยละกัน นี่ไม่ได้อยากจีบเด็กคนนั้นเลยนะครับ แค่สงสารพวกมันที่อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นมาโรงเรียนกันแต่เช้าเพื่อผม #หรา
“คืองี้ เราก็เล่นสายเทคกันอยู่แล้วใช่มะ ก็ใช้ข้อนี้เอาไปอ้างขอช่องทางติดต่อน้องเค้าซะเลย ได้ประโยชน์สองต่อ มึงก็ได้ไลน์หรือเฟซบุ๊คน้องเค้า แถมเพื่อนๆยังได้ส่องน้องเทคตัวเองหลังจากวันจับพี่เทคอีก เป็นไงแผนเจ๋งป่ะ พี่แจฮยอนคนฉลาดคิดเองเลยนะครับ”
ก็เจ๋งดีนะ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้แจจะคิดอะไรดีๆแบบนี้ได้ แต่เดี๋ยวก่อน…
“มึงลืมไปหรือเปล่าว่ากูไม่เล่นเฟซ”อย่าว่าแต่เฟซบุ๊คเลยครับ ไลน์ ทวิตเตอร์หรือโซเชียลทั้งหลายบนโลกใบนี้ผมก็ไม่เล่น พอดีเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริงมากกว่า… อย่าใช้สายตาชื่นชมผมขนาดนั้น ความจริงคือผมเล่นไม่เป็น แหะๆ เวลามีอะไรก็ให้พวกมันโทรหาหรือส่งข้อความเท่านั้น โทรศัพท์ที่ใช้อยู่แค่รับสาย โทรออก เปิดดูข้อความเป็นก็บุญแล้วครับ
“เออว่ะ ลืมไปว่าไอ้แทยงมีโทรศัพท์ไว้ให้กระเป๋าหนักเล่น”ฮันซลพูดอย่างนึกขึ้นได้ แล้วพวกมันก็ทำหน้าเครียดอีกรอบ คือกูแค่ไม่เล่นโซเชียลมิเดียอย่างคนทั่วไปนี่ทำให้พวกมึงเครียดขนาดนี้เลยหรอ กูขอโทษก็ได้…
“ก็สมัครให้มันดิ” หลังจากเห็นพวกมันเคร่งเครียดจนเกรงว่าจะเส้นเลือดสมองแตกเสียก่อนผมเลยจะบอกให้พวกมันล้มเลิกแผนการไป แต่โดยองก็พูดขึ้นมาก่อน
“แต่กูไม่อยากเล่นอ่ะ”ผมบอกมัน คือถ้าเล่นชีวิตก็ต้องวุ่นวายไปอีก เห็นไอ้แจมันถ่ายรูปหน้าตัวเองทั้งวันเพื่อลงไอจีไรของมันก็ไม่รู้ผมก็เครียดละ มีครั้งนึงมันยืมโทรศัพท์ผมไปถ่ายรูปเล่น อือหือ เป็นร้อยรูปครับ แล้วแต่ละรูปผมก็ไม่เห็นความแตกต่างของใบหน้าในร้อยกว่ารูปนั่นเลย เพื่ออะไร -_-
“ไหนๆมึงก็จะจีบเด็ก ออกจากแคปซูลโดเรมอนของมึงได้แล้ว”ฮันซลแซะผม แค่ชอบดูโดเรมอนแล้วมันเกี่ยวกับจีบเด็กตรงไหนไม่ทราบครับ
“กูไม่เล่น”สามคำเน้นๆ
“มึงต้องเล่น”ไอ้ซลก็ตอบกลับมาสามคำเน้นๆเหมือนกัน แล้วมันก็หยิบโทรศัพท์ที่ผมวางไว้บนโต๊ะตัวเองไป ผมโวยวายทันที คือกูไม่เล่นยังจะบังคับกูอีก กำลังจะไปแย่งคืนมา เสียงออดเข้าแถวก็ดังขึ้นก่อน มันเอาโทรศัพท์ผมใส่กระเป๋ากางเกงไว้แล้วลุกขึ้นเพื่อลงไปเข้าแถวกัน
“ไอ้ซล เอาโทรศัพท์กูคืนมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย”ตะโกนโหวกเหวกไปตามทางเดิน มันก็ทำเป็นหูตึงชั่วขณะ เดินลิ่วๆไปที่แถวไม่สนใจเสียงของผม แต่นักเรียนรอบข้างกลับสนใจ… ต่างมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว คนหล่อก็งี้แหล่ะครับ ย่อมมีคนสนใจเป็นธรรมดา #ยักคิ้ว
กำลังจะวิ่งไปกระโดดล็อคคอมันเป็นการแก้แค้น แต่ก็ตองร้องเชี่_ยออกมาดังๆ เมื่อเห็นเด็กปีหนึ่งคนหนึ่งที่จำได้ฝังใจ จากที่จะกระโดดล็อคคอไอ้ซลเลยกลายเป็นขี่หลังมันแล้วเอาหน้าซุกไหล่มันเป็นเคะตัวน้อยๆ นี่ผมทำอะไร…
“ทำไรของมึงเนี่ยสั_ส ลงจากหลังกูเดี๋ยวนี้ กูอาย”มันโวยวาย เดินไปด้วยก็พยายามจะลสัดผมลงไปด้วย แต่ผมก็เกาะมันไว้แน่นจนมันเดินผ่านกลุ่มเด็กปีหนึ่งนั่นแหล่ะ ผมรีบลงจากหลังมันทันที ไอ้ซลก็หันมามองผมอย่างเหี้ยมโหด โดยมีไอ้แจฮยอนกับโดยองหัวเราะเป็นกองเสริม
“ก กูแก้แค้นมึงที่เอาโทรศัพท์กูไปไง ฮ่าๆๆๆ”ผมทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนความจริง แต่ไอ้แจก็สวนกลับมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่กวนตี_น
“หรออออ ไม่ใช่มึงหลบน้องเค้าหรือไงครับ” เกลียดมันจริงๆ = =
“นักเรียนกลุ่มนั้นไม่เข้าแถวหรือไงห๊ะ อยากยืนหน้าแถวใช่มั้ย!” กำลังจะยกขาถีบมัน แต่เสียงโหดอันเป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ฮีชอลก็ดังขึ้นพร้อมกับตัวที่กำลังเดินเข้ามาทางนี้ พวกผมรีบวิ่งไปเข้าแถวห้องตัวเองทันที
-UP-
หลังจากสร้างเหตุการณ์อันอับอายให้แก่ตัวเองและไอ้ฮันซลไปเมื่อเช้า ผมก็มายืนขาสั่นอยู่หน้าห้องปีหนึ่ง B เพราะโดนไอ้แจกับไอ้ซลทั้งบังคับ ทั้งถีบให้มากับโดยองเพื่อล่าเฟซบุ๊คของเด็กคนนั้นช่วงเวลาที่รอให้อาจารย์ประจำชั้นโฮมรูมเสร็จ ก็เป็นช่วงการทำใจให้สงบของผมเอง รอจนหมดคาบ พอได้ยินเสียงทำความเคารพอาจารย์ของเด็กในห้องสติที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ก็แตกกระเจิงทันที
“ก กูไปห้องน้ำแป๋ปนะ”ไม่รอให้มันอนุญาต ผมก็วิ่งออกจากตรงนั้น แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจคิดเพราะโดยองคว้าคอเสื้อแล้วลากผมที่ดีดดิ้นเข้าห้อง ก้มหัวให้อาจารย์ที่เดินสวนออกมา
พอเข้ามาในห้อง ผมก็หอบแฮ่ก เห็นตัวบางๆแบบนี้แรงควายชะมัด เสียงจอแจประหนึ่งตลาดสดก็เงียบลงทันทีเมื่อเห็นพวกผมยืนอยู่หน้าห้อง แต่ก็ยังได้ยินกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงที่ผมจับใจความไม่ได้ ถ้าไม่ได้คิดไปเอง รู้สึกเหมือนน้องจะให้ความสนใจผมเป็นพิเศษ จะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าน้องๆไม่ได้มองผมด้วยสายตาแปลกๆ… หรือว่าผมหล่อเกินไปวะ ต้องใช่แน่ๆ ไม่มีเหตุผลอื่นแน่นอน ว่าแล้วก็ส่งยิ้มหล่อให้น้องๆ
“สวัสดีครับ พี่ชื่อโดยอง อยู่ปีสองห้องบี ซึ่งเป็นห้องพี่เทคของน้องๆ พี่เลยจะให้น้องเขียนชื่อเล่น และช่องทางการติดต่อ ขอเป็นเฟซบุ๊คนะครับ ไลน์ไว้เดี๋ยวค่อยให้กับพี่เทคตัวต่อตัวเลย”โดยองพูดเป็นการเป็นงานทันที ดูน่าเคารพสมกับเป็นหัวหน้าห้องสองปีซ้อน เด็กๆก็พยักหน้ากันหงึกหงักอย่างเข้าใจ เชื่อฟังกันดีจริงๆ ไม่เหมือนผม พอรุ่นพี่บอกปุ๊ปก็ถามทันทีว่าเอาไปทำไม พอพี่เค้าเห็นผมเขียนแค่ชื่อเล่นก็โดนหาว่ากวนตี_นพี่เค้า เกือบโดนรุ่นพี่แบน ถ้าโดยองไม่ช่วยอธิบายกับพี่เค้าว่าผมไม่เล่นโซเชียลจริงๆ - -
“เดี๋ยวพวกพี่จะเดินตามโต๊ะให้เขียนทีละคนนะครับ แทยงมึงไปสองแถวนั้นนะ”โดยองบอกกับน้องๆ แล้วหันมาสั่งผมที่ยืนมองไปนอกหน้าต่างอย่างเดียวพร้อมยื่นกระดาษมาให้หนึ่งแผ่น ผมรับไว้แล้วกำลังจะเดินไปโต๊ะที่ตั้งเรียงเป็นคู่ติดริมหน้าต่าง พอกวาดสายตามองเด็กที่นั่งอยู่แถวนี้เท่านั้นแหล่ะ แทบจะกรีดร้องดีที่โดยองเหมือนรู้อยู่แล้วรีบปิดปากผมไว้ทันที
“อย่าโวยวาย กูกำลังช่วยมึงอยู่นะ ถ้ามึงวิ่งหนี กูจะให้แจฮยอนเผาหนังสือโดเรมอนที่อยู่ใต้โต๊ะมึงให้หมด ”มันบอกเบาๆที่ข้างหูผมด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผมแทบจะร้องไห้แล้วผละออกไปหาน้องอีกฝั่งนึง
ทำไมต้องเอาลูกม่อนมาขู่กูวะ นี่แม่งเป็นเพื่อนผมจริงๆหรือเปล่า T_________T
ในเมื่อชีวิตเลือกไม่ได้ก็ต้องทำใจ ผมสูดหายใจเข้าลึกตั้งสติให้มั่น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะคู่แรกซึ่งเป็นน้องผู้หญิง ผมยิ้มทักทายน้องเค้าเล็กน้อยแล้ววางกระดาษรายชื่อลงบนโต๊ะ พอเขียนเสร็จทั้งสองคนก็ส่งคืนให้ แอบเห็นน้องเค้าเขินผมด้วยแหล่ะ อิอิ ผมเดินมาโต๊ะถัดมายังไม่ทันยิ้มหล่อทักทายก็ต้องเกือบสะดุดขาโต๊ะหน้าทิ่มพื้น
“พี่เป็นแฟนกับพี่ฮันซลหรอคะ”น้องคนหนึ่งถามขึ้นดังพอที่จะทำให้เด็กทั้งห้องได้ยิน เหมือนทุกคนจะรอคอยเวลานี้มานาน เพราะแต่ละคนโดยเฉพาะผู้หญิงหันมามองผมเป็นจุดเดียว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเซเลปกำลังจะตอบคำถามนักข่าวเลยล่ะ ถถถถว่าแต่น้องเค้ารู้จักไอ้ซลได้ไง นี่มันดังขนาดนี้เลยหรอ แล้วผมล่ะ
“แค่เพื่อนครับ”ตอบอย่างสุภาพทั้งที่ในใจนี่แทบพ่นไฟใส่เด็กนี่ เอาส่วนไหนคิดว่าผมกับไอ้ซลเป็นแฟนกัน แค่พูดก็แทบจะวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ
“ก็หนูเห็นพี่ขี่หลังพี่ฮันซลตอนเช้า คิดว่าเป็นแฟนกันซะอีก”น้องคนนั้นทำหน้าเสียใจประหนึ่งอกหักรวมถึงเพื่อนในห้องคนอื่นๆ แค่พี่กับมันไม่ได้กัน ไม่ต้องเสียใจขนาดนั้นก็ได้ครับ…
“เป็นเพื่อนกัน มิตรภาพยาวนานกว่านะครับ”ยิ้มหล่อให้น้องเค้าหนึ่งที เป็นไงคำตอบดูเท่ห์ใช่มั้ยครับ พอน้องเขียนเสร็จผมก็เดินมาโต๊ะถัดไปทันที
เชี่_ย!
กูยังไม่ได้เตรียมใจเลย ฟหดเสวง ทำไมมาถึงโต๊ะน้องเค้าเร็วจังวะ ผมแทบจะหมุนตัวกลับถ้าไม่เจอหน้าโหดๆของโดยองมองกดดันอยู่ ผมเลยวางกระดาษบนโต๊ะ ยืนหันหลังให้น้องเพราะกลัวว่าตัวเองจะเป็นลมอีก ไม่ไว้ใจสังขารตัวเอง ที่นี้แหล่ะ ได้ดังกว่าไอ้ซลแน่ๆ เย่! - - นี่น้องจะจำได้มั้ยว่าผมคือคนที่เป็นลมเป็นแล้งหน้าน้องเค้า อีกใจก็อยากให้จำได้ แต่คิดไปคิดมา อย่าจำเรื่องราวอันอัปยศนี้เลยดีกว่า ให้ผมได้เหลือความภาคภูมิใจให้น้องได้เห็นบ้าง...
ผมยืนรอให้น้องเตนล์กับเพื่อนอีกคนเขียนเสร็จ จนรู้สึกว่ามีคนดึงชายเสื้อนักเรียนของผม เลยยื่นมือไปด้านหลังเพื่อรับกระดาษที่คิดว่าน้องคงเขียนเสร็จแล้ว คือมือผมก็จับกระดาษไว้แล้วแต่ทำไมน้องเค้าไม่ปล่อยมันให้ผมสักที ความสงสัยผลักดันเป็นความกล้าให้ผมเหลือบๆตามอง จนรู้สึกปวดตาไปหมด…
“ม มีอะไรหรือเปล่า”รวบรวมเสียงที่อยู่ในลำคอถามออกไป หวังลึกๆในใจอยากให้น้องถามชื่อ แต่ประโยคที่น้องพูดออกมาก็ทำผมแทบล้มตึง
“พี่แทยงใช่มั้ยครับ พี่กับพี่ฮันซลน่ารักดีนะ เมื่อวานที่พี่เป็นลมเค้าก็แบกพี่กลับบ้าน”
โดยอง ลงไปเก็บศพกูที่พื้นชั้นล่างด้วยนะ....
………
…..
…
…
..
.
.
“ก๊ากกกกก จี้สั_สสส ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”ไอ้แจฮยอนขำลั่นห้องเหมือนชีวิตนี้จะไม่ได้หัวเราะอีกแล้วไม่พอ ยังลงจากเก้าอี้ไปกลิ้งคลุกฝุ่นบนพื้นห้องด้วย ไม่ได้สนใจเพื่อนในห้องที่มองมันเหมือนกับมองคนบ้าเลยสักนิด นับถือความหน้าด้านของมันจริงๆ เออ ขำไปเถอะมึง ขำให้ขาดใจตายไปเลยนะ พื้นห้องนี่ก็ไม่ต้องทำความสะอาดละ ผมกับฮันซลที่ตกเป็นจำเลย ‘คู่จิ้นขวัญใจเด็กปีหนึ่ง’ ก็ได้แต่นั่งหน้าเบื่อโลก หลังจากที่น้องเตนล์พูดประโยคทำร้ายจิตใจอันบอบบางของผมแล้วปิดท้ายด้วยการยิ้มจนตาปิด โดยองก็เข้ามาลากผมที่กำลังจะกระโดดหน้าต่างลงสู่พื้นดินหนีความอัปยศของตัวเอง
นอกจากจะให้ผมกับไอ้ซลได้กันเองแล้ว น้องเค้าก็ยังจำเหตุการณ์เมื่อวานได้ด้วย แต่ถ้าสมองไม่เบลอเกินไป ผมได้ยินชื่อตัวเองจากปากน้องเค้านะ ควรดีใจมั้ยที่น้องเค้ารู้จัก น้ำตาจะไหล ไม่รู้จะว่าจะรู้สึกยังไงดี....
“เอาน่า อย่างน้อยน้องเค้าก็รู้จักมึงเลยนะเว้ย”หลังจากหัวเราะเหมือนคนบ้าเสร็จ ไอ้แจฮยอนก็ตบบ่าปลอบใจผม ก่อนจะหยิบกระดาษรายชื่อไป ไม่ได้สนใจว่ามันจะเอาไปทำอะไร
“นั่นดิ อย่างน้อยก็สำเร็จไปขั้นนึงแล้ว มึงไม่ต้องเสียแรงทำให้น้องเค้ารู้จักมึง”โดยองเสริมทันที พวกมึงไม่ได้โดนกล่าวหาเหมือนกูกับไอ้ซลเลยพูดได้นี่ หึ
“เลิกทำหน้าขี้ไม่ออกได้แล้ว นี่กูสมัครเฟซบุ๊คให้มึงเรียบร้อยแล้วนะ แอดเฟซฯพวกกูกับน้องเค้าให้เรียบร้อยแล้วด้วย”ไอ้แจพูดอย่างตื่นเต้น ลืมไปเลยว่าโทรศัพท์อยู่ที่พวกมัน มันส่งโทรศัพท์มาให้ผม จอโทรศัพท์แสดงหน้าแอพพลิเคชั่นสีน้ำเงินยอดฮิต
“ไอ้เชี่_ยแจ!!! ตั้งรูปนี้ทำเชี่_ยไร แล้วนี่ชื่อบ้าอะไรของมึง!”ทันทีที่พิจารณาสิ่งที่ปรากฏอยู่บนจออย่างละเอียด ผมก็แทบปาโทรศัพท์ใส่หน้ามัน
พี่แทยงคนเดิม เพิ่มเติมคือความหล่อ
“ก็กูเห็นในโทรศัพท์มีรูปหน้ามึงเดี่ยวๆอยู่รูปเดียวเลยใช้ไปก่อน ส่วนชื่อเฟซฯ น้องเค้าจะได้สะดุดตาไง เห็นปุ๋ปก็ต้องรับแอดมึงปั๋ปแน่ๆ”มันบอกพร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจปนกวนส้น** รู้สึกเป็นพระคุณอย่างมากจนอยากระโดดถีบมันให้
กระเด็นลงไปชั้นล่างโดยไม่ต้องเดินลงบันได้ให้เหนื่อย
“ไอ้แจ มึงเปลี่ยนให้กูเดี๋ยวนี้เลย!”ผมยื่นโทรศัพท์ให้มันพร้อมกับสายตาข่มขู่ ‘ถ้ามึงไม่เปลี่ยนให้ มึงเตรียมตัวตายได้เลย’ เหมือนจะรับรู้ถึงรังสีประหารของผม มันรับโทรศัพท์ของผมไปยังไม่ทันถึงสิบวิ มันก็ยื่นมาให้ผมพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆให้
“ไม่ทันแล้วว่ะ แหะๆ”
ผมรบโทรศัพท์กลับคืนมา แล้วก็ต้องร้อง เชี่ยยย! ออกมาดังๆในรอบที่สามของวัน จนรู้สึกว่าตัวเองใกล้เคียงสิ่งมีชีวิตประเภทนี้แล้ว... มือไม้สั่นแทบไม่มีแรงจับโทรศัพท์
Bunny Boy รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว
Bunny Boy รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว
Bunny Boy รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว
Bunny Boy รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว
Bunny Boy รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว
ชื่อเฟซบุ๊คที่น่ารักน่าเอ็นดูเหมาะกับน้องที่จำได้ขึ้นใจเพราะเดินท่องมาตลอดทางกลับห้อง...
หมดสิ้นแล้ว ความภาคภูมิใจในหน้าตาอันหล่อเหลาของผม......
ความคิดเห็น