คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Cloud's Diary - Tiffany [Complete]
Cloud’s Diary Tiffany
“ก้อนเมฆไม่อาจเคลื่อนที่ได้โดยไร้สายลม
ฉันก็ยังคงรอเธอพัดกลับมาที่เดิม...อีกครั้ง”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ก้อนเมฆ ... คือ... สิ่งที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มไอน้ำมากมายบนท้องฟ้า... มันไม่ต่างอะไรกับหัวใจดวงนี้ ที่เกิดจากการรวมตัวของทุกอณูความรักที่เคยได้รับจากเธอ รวมกันเป็นก้อนเนื้อที่เต้นแผ่วเบาภายใต้แผงอกด้านซ้าย มันร่ำร้องเป็นชื่อของเธอ... เธอรับรู้ถึงมันบ้างไหม
ฉันเปรียบเสมือนเป็นก้อนเมฆ ใครหลายคนอาจบอกว่ามันสวยงาม จินตนาการเป็นรูปร่างแตกต่างมากมายในห้วงความคิดของแต่ละคน ทว่าในความสวยงามเช่นนั้น มีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่ในทุกห้วงชั้น มันเป็นเพียงกลุ่มไอน้ำจำนวนมาก ที่คอยบดบังแสงอาทิตย์อันสว่างไสว ประโยชน์ของมัน... คงมีได้เพียงเท่านั้น
...เหมือนกับฉัน... ที่มีประโยชน์ได้แค่นี้... แค่คนที่เธอหมดใจ...
บางวันเมฆอาจมีหลากสีต่างกันออกไป... อาจจะเป็นสีส้มอ่อนฉาบบางเบายามอัสดง อาจจะเป็นดั่งสีชมพูสดใสลัดเลาะเลียบแผ่นฟ้า หยอกล้อกับแสงสุริยา... อาจจะเป็นดั่งสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากซึ่งมลทิน หรือแม้กระทั่งอาจเป็นสีเทา แทนอารมณ์เศร้าหมอง
ฉัน...คือก้อนเมฆสีเทา ราวกับมันกักเก็บหยาดฝนที่ใกล้จะโรยริน ถ้าเปรียบมันแทนหยาดน้ำใสที่คลอเอ่ออยู่รอบดวงตาซึ่งเคยเปล่งประกายคู่นี้ เธอจะรู้สึกอะไรไหม... เมื่อหยาดฝนจากฟ้ากำลังจะหยาดรินตกกระทบลงบนพื้นโลก หากถ้าหยาดน้ำตาที่กลั่นกรองจากหัวใจอันแสนเจ็บปวดดวงนี้ มันพอรั้งความรู้สึกของเธอให้กับคืนมาหาฉันได้บ้างหรือเปล่า
...ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน กับการรอคอยอะไรที่เหมือนไร้ค่า และไร้ซึ่งความหวังเช่นนี้...
เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนกำลังสาดเป็นสาย นำพาความหนาวเย็นมาเขย่าหัวใจอ่อนไหวให้จนแทบสั่นสะท้าน สองแขนยกขึ้นกอดตนเอง ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า เมฆแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มจนเกือบดำ แสดงถึงความหม่นหมองและทุกข์ทนเสียเต็มประดา
...ร้องไห้... ก้อนเมฆนั้นกำลังร้องไห้อยู่...
...แล้วก้อนเมฆบนพื้นดินอย่างฉันล่ะ จะกลั้นน้ำตาได้เช่นไร...
เธอเปรียบเสมือนสายลม... สายลมที่ใครต่อใครก็ว่าดีเลิศเลอ นำมาซึ่งความเย็นอย่างพอดีทำให้สุขสบาย จนไม่อยากให้สายลมอันแสนอบอุ่นนี้จางหายไปไหนไกล
ฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้คน ที่หลงระเริงไปกับสายลมนั้น โดยลืมตระหนักไปว่า... สายลม ไม่ได้พัดมาหาฉันเพียงแค่คนเดียว ทว่าเธอยังคงแบ่งปันความอบอุ่นนี้ให้กับคนอื่นทั่วไป
...เจ็บ... แต่ทำอะไรได้ล่ะ...
ได้แต่เฝ้าหวังลมๆ แล้งๆ หวังว่าในซักวันหนึ่ง สายลมอย่างเธอ จะยังคงอยู่เคียงข้างฉัน โดยไม่ได้จากไปไหน มอบความอบอุ่นอันแสนอ่อนโยน พัดให้หายร้อนรนจากการทนทรมานในเรื่องอันเลวร้ายต่างๆ ฉันหลงรักสายลมเข้าเต็มหัวใจ ไม่เหลือพื้นที่แม้เพียงเศษเสี้ยวแบ่งปันให้ใครได้อีกแล้ว
...ทว่ากับเธอเล่า... สายลมเจ้าเอย... ได้เคยมอบความรู้สึกดีๆ อย่างนี้ให้ใครไปบ้าง...
ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเข้าใจอะไรอีกแล้ว เพียงแต่เรื่องระหว่างเราในวันวาน มันสร้างความรานร้าวในห้วงหัวใจได้อย่างไม่ควรจะเป็น เสียงหัวใจของก้อนเมฆเต้นแผ่วบางเบาลงทุกที จนเหมือนจะขาดใจได้ทุกเมื่อ ยามไร้ซึ่งความรักของเธอเข้ามาหล่อเลี้ยงในทุกพื้นที่ตารางใจ
...พัดมาแล้วก็พัดไป... นั่นคือธรรมชาติของสายลม...
...แต่ทำไม... ก้อนเมฆก้อนนี้จึงไม่อาจทำใจรับมันได้ไหวเลย...
เมื่อมันรัก รักเธอมากเหลือเกิน รักจนไม่อาจพรรณนาคำใดออกมาเพื่อใช้เอ่ยได้ รู้แค่ว่าหัวใจที่เต้นไหว ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด นอกเสียจากความรักของเธอที่ช่วยเติมเต็ม เพิ่มพูนความรักให้ในแต่ละวันที่กาลเวลาเริ่มเคลื่อนผ่าน ราวกับละอองน้ำหยดเล็กๆ ที่มารวมตัวกันจนได้ก้อนเมฆใหญ่แสนสวยงามนั่นแหละ กว่าจะได้มากมายขนาดนั้นย่อมใช้เวลา กว่าที่ฉันจะรักเธอได้มากขนาดนี้ ก็ใช้ความรู้สึกผูกพันมาแสนนาน
ถ้าสายลมอยากจะพัดจากไป ทำไมไม่ไปก่อนที่ฉันจะรักเธอล่ะ... มาทำให้หวั่นไหว สอนให้รู้จักคำว่ารักอันแสนยิ่งใหญ่ แล้วพัดจากไปทำไมกัน...
...สายลมเคลื่อนไหวไม่คงที่ ก้อนเมฆกลับคงที่ไม่เคลื่อนไหว...
เธอพัดผ่านฉัน ให้ฉันก้าวออกจากกรอบเดิมๆ ที่เคยอยู่ พาให้ฉันเข้าไปอยู่ในโลกที่ฉันและเธอสร้างขึ้น เพื่อเรียนรู้ในความรักซึ่งกันและกัน โลกที่ไม่ใช่เพียงสีชมพู ทว่ามันเป็นโลกที่พวกเราสองคนช่วยกันออกแบบ ก้อนเมฆอย่างฉันจึงถูกพัดพาเข้ามาอยู่ในห้วงแห่งรักของเธออย่างไม่อาจถอนตัวได้
แต่แล้วเธอกลับทิ้งฉันคนนี้ไว้ที่เดิมแต่เพียงลำพัง เธอรู้บ้างหรือเปล่า ว่าก้อนเมฆที่เคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้าได้นั้นต้องการสายลมเพื่อก้าวข้ามผ่านผืนนภาไปด้วยกัน ถ้าเธอรู้เช่นนั้น เหตุใดเธอจึงยังคงใจร้าย ทิ้งให้ฉันอยู่ที่เดิมเช่นนี้ได้ พาฉันเข้ามาในความรัก ช่วยพาฉันออกไปจากบ่วงพันธนาการหัวใจของเธอเสียทีเถอะ
ในขณะที่เธอจางหาย เพื่อไปมอบความสุข ความสบายใจ ความอบอุ่นอย่างอ่อนโยนให้ใครคนอื่น เธอพอจะรู้บ้างไหม ว่าคนที่เธอเคยผ่านมาเจอในครั้งหนึ่งของชีวิต กำลังทุกข์ทรมานเพราะเธอมากมายเพียงใด เธอพัดฉันให้เคลื่อนจากที่เดิม เธอทำให้ชีวิตฉันไม่เหมือนกับที่เคยเป็น หากเธอกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหัวใจดวงนี้ให้สมบูรณ์แบบ เธอเลือกจะพัดต่อไปอย่างนั้น โดยทิ้งฉันไว้ยังจุดที่เธอพามา
ที่ๆ ฉันไม่เหลือใคร มันช่างว่างเปล่า เงียบเหงา และเดียวดาย... หนาวเหน็บกับความอ้างว้างจนได้ยินเสียงหัวใจสะอื้นพร้อมๆ กับท้องฟ้าที่กำลังร่ำไห้
...กลับมาเถอะนะ... กลับมาได้ไหมคนดี...
ฉันคนนี้เป็นเพียงก้อนเมฆ ไม่อาจเคลื่อนที่ต่อไปได้ถ้าไม่มีสายลมอย่างเธอ ขอร้องเถิด...ที่รัก
อย่าทิ้งฉันไว้ลำพังตรงนี้ มันแทบขาดใจ จนฉันไม่อาจมองเห็นจุดจบสิ้นของมัน หัวใจมันเต้นช้าลงทุกที จนเหมือนจะหยุดได้ทุกเมื่อถ้าเพียงแต่เธอทิ้งให้ฉันจมอยู่กับความเหงา ต่อสู้กับความเหว่ว้าเพียงลำพังเช่นนี้ต่อไป
...รู้ว่าไม่มีหวัง... แต่ฉันยังคงรอเธออยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ไม่ใช่ไม่อยากไปจากบ่วงรักอันแสนเศร้านี้ ทว่าฉันไม่อาจไปจากเธอ ไม่อาจไปจากความรักของเราได้ ฉันจึงทำได้เพียงแค่เฝ้ามองดูสายลมที่พัดผ่านรอบด้าน หากไม่มีใครทำให้ฉันรู้สึกรักและผูกพันได้มากเท่าเธออีกแล้ว
...วันใดที่เธอพัดกลับมาทางนี้... ช่วยรับรู้ทีว่าก้อนเมฆสีเทาอันแสนหม่นหมอง ยังคงเฝ้ารอคอยเธออยู่เสมอในทุกห้วงลมหายใจ...
...ยังรออยู่ที่เดิม เพื่อรอคอยการเติมเต็มความรักอีกซักครา...
Tiffany
Ma-Bung: เรื่องนี้จะเป็นเรื่องบรรยายล้วนนะคะ ไม่มีบทพูด (ในแยกบทตัวละคร)
แต่จะมีบทพูดเฉพาะตอนสรุปของแต่ล่ะคู่เท่านั้น เพราะเนื้อหาโดยรวมจะเป็นไดอารี่ ^^
พี่อ่อยเป็นคนเสนอโปรเจ็คต์นี้ค่ะ หลังจากข้อมือหาย ก็โทรมาฟิตงานกับน้องซะจนมึนตึ๊บ
น้องอ่อย: “บุงจะแต่งทันมั้ยเนี่ยพี่ ต้องอัพวันอาทิตย์ (วันนั้นวันศุกร์)”
พี่อ่อย: “ไหนตอนนั้นบอกอยากแต่งเรื่องนี้ไง แต่งเซ่ แต่งเล้ยย”
แง้... พี่อ่อยนะพี่อ่อย รู้ว่าฝีมือการแต่งของน้องคนนี้มันเต่าคลานกว่าพี่สามเท่าได้ เลยกดดันซะงั้น
พอวางหูจากคุยโทรศัพท์เสร็จ บุงก็จัดให้ค่ะ เห็นบอกให้แต่งเลย จากนั้น 20 นาทีก็โทรกลับไป...
น้องอ่อย: “พี่ชิคคะ ว่างอยู่เปล่า บุงมีเรื่องจะถามนิดหน่อย”
พี่อ่อย: “หืม... ว่าไง”
น้องอ่อย: “แต่งเสร็จแล้ว... ทำไงดีคะพี่ ฮ่าๆ ^o^”
พี่อ่อย: “ห๊ะ!!! O[ ]o
น่าแปลกใจมั้ย ปกติสองหน้าเอสี่ บุงใช้เวลาอย่างต่ำหนึ่งชั่วโมงในการเขียนนะคะ
ปรากฏว่านี้สองหน้าเอสี่เต็มๆ บุงใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น
อย่าว่าแต่พี่อ่อยงงเลย มะบุงก็งงจนไม่รู้จะงงยังไง T^T
อ่านแล้วก็อย่าลืมคอมเมนต์ติชมกันด้วยนะคะ
บุงเองก็ไม่ค่อยถนัดแนวอย่างนี้ เพราะไม่ได้แต่งแบบบรรยายล้วนเลย
ไม่รู้ว่าออกมาเป็นไงบ้าง ต้องการคำแนะนำอย่างสุดซึ้งค่ะ T___T
ความคิดเห็น