ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Compare [[ Fic. SNSD :: Yuri ]]

    ลำดับตอนที่ #4 : Cloud's Diary - Tiffany [Complete]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 53


     

     

    Cloud’s Diary – Tiffany

     

     

    ก้อนเมฆไม่อาจเคลื่อนที่ได้โดยไร้สายลม

    ฉันก็ยังคงรอเธอพัดกลับมาที่เดิม...อีกครั้ง

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

                   

                    ก้อนเมฆ ... คือ... สิ่งที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มไอน้ำมากมายบนท้องฟ้า... มันไม่ต่างอะไรกับหัวใจดวงนี้ ที่เกิดจากการรวมตัวของทุกอณูความรักที่เคยได้รับจากเธอ รวมกันเป็นก้อนเนื้อที่เต้นแผ่วเบาภายใต้แผงอกด้านซ้าย มันร่ำร้องเป็นชื่อของเธอ... เธอรับรู้ถึงมันบ้างไหม

                   

                    ฉันเปรียบเสมือนเป็นก้อนเมฆ  ใครหลายคนอาจบอกว่ามันสวยงาม จินตนาการเป็นรูปร่างแตกต่างมากมายในห้วงความคิดของแต่ละคน ทว่าในความสวยงามเช่นนั้น มีความเศร้าสร้อยแฝงอยู่ในทุกห้วงชั้น มันเป็นเพียงกลุ่มไอน้ำจำนวนมาก ที่คอยบดบังแสงอาทิตย์อันสว่างไสว ประโยชน์ของมัน... คงมีได้เพียงเท่านั้น

                   

                    ...เหมือนกับฉัน... ที่มีประโยชน์ได้แค่นี้... แค่คนที่เธอหมดใจ...

                   

                    บางวันเมฆอาจมีหลากสีต่างกันออกไป... อาจจะเป็นสีส้มอ่อนฉาบบางเบายามอัสดง อาจจะเป็นดั่งสีชมพูสดใสลัดเลาะเลียบแผ่นฟ้า หยอกล้อกับแสงสุริยา... อาจจะเป็นดั่งสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากซึ่งมลทิน หรือแม้กระทั่งอาจเป็นสีเทา แทนอารมณ์เศร้าหมอง

                   

                    ฉัน...คือก้อนเมฆสีเทา ราวกับมันกักเก็บหยาดฝนที่ใกล้จะโรยริน ถ้าเปรียบมันแทนหยาดน้ำใสที่คลอเอ่ออยู่รอบดวงตาซึ่งเคยเปล่งประกายคู่นี้ เธอจะรู้สึกอะไรไหม... เมื่อหยาดฝนจากฟ้ากำลังจะหยาดรินตกกระทบลงบนพื้นโลก หากถ้าหยาดน้ำตาที่กลั่นกรองจากหัวใจอันแสนเจ็บปวดดวงนี้ มันพอรั้งความรู้สึกของเธอให้กับคืนมาหาฉันได้บ้างหรือเปล่า

                   

                    ...ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน กับการรอคอยอะไรที่เหมือนไร้ค่า และไร้ซึ่งความหวังเช่นนี้...

                   

                    เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนกำลังสาดเป็นสาย นำพาความหนาวเย็นมาเขย่าหัวใจอ่อนไหวให้จนแทบสั่นสะท้าน สองแขนยกขึ้นกอดตนเอง ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้า เมฆแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มจนเกือบดำ แสดงถึงความหม่นหมองและทุกข์ทนเสียเต็มประดา

                   

                    ...ร้องไห้... ก้อนเมฆนั้นกำลังร้องไห้อยู่...

                   

                    ...แล้วก้อนเมฆบนพื้นดินอย่างฉันล่ะ จะกลั้นน้ำตาได้เช่นไร...

                   

                    เธอเปรียบเสมือนสายลม... สายลมที่ใครต่อใครก็ว่าดีเลิศเลอ นำมาซึ่งความเย็นอย่างพอดีทำให้สุขสบาย จนไม่อยากให้สายลมอันแสนอบอุ่นนี้จางหายไปไหนไกล

                   

                    ฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้คน ที่หลงระเริงไปกับสายลมนั้น โดยลืมตระหนักไปว่า... สายลม ไม่ได้พัดมาหาฉันเพียงแค่คนเดียว ทว่าเธอยังคงแบ่งปันความอบอุ่นนี้ให้กับคนอื่นทั่วไป

                   

                    ...เจ็บ... แต่ทำอะไรได้ล่ะ...

                   

                    ได้แต่เฝ้าหวังลมๆ แล้งๆ หวังว่าในซักวันหนึ่ง สายลมอย่างเธอ จะยังคงอยู่เคียงข้างฉัน โดยไม่ได้จากไปไหน มอบความอบอุ่นอันแสนอ่อนโยน พัดให้หายร้อนรนจากการทนทรมานในเรื่องอันเลวร้ายต่างๆ ฉันหลงรักสายลมเข้าเต็มหัวใจ ไม่เหลือพื้นที่แม้เพียงเศษเสี้ยวแบ่งปันให้ใครได้อีกแล้ว

                   

                    ...ทว่ากับเธอเล่า... สายลมเจ้าเอย... ได้เคยมอบความรู้สึกดีๆ อย่างนี้ให้ใครไปบ้าง...

                   

                    ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเข้าใจอะไรอีกแล้ว เพียงแต่เรื่องระหว่างเราในวันวาน มันสร้างความรานร้าวในห้วงหัวใจได้อย่างไม่ควรจะเป็น เสียงหัวใจของก้อนเมฆเต้นแผ่วบางเบาลงทุกที จนเหมือนจะขาดใจได้ทุกเมื่อ ยามไร้ซึ่งความรักของเธอเข้ามาหล่อเลี้ยงในทุกพื้นที่ตารางใจ

                   

                    ...พัดมาแล้วก็พัดไป... นั่นคือธรรมชาติของสายลม...

                   

                    ...แต่ทำไม... ก้อนเมฆก้อนนี้จึงไม่อาจทำใจรับมันได้ไหวเลย...

                   

                    เมื่อมันรัก รักเธอมากเหลือเกิน รักจนไม่อาจพรรณนาคำใดออกมาเพื่อใช้เอ่ยได้ รู้แค่ว่าหัวใจที่เต้นไหว ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด นอกเสียจากความรักของเธอที่ช่วยเติมเต็ม เพิ่มพูนความรักให้ในแต่ละวันที่กาลเวลาเริ่มเคลื่อนผ่าน ราวกับละอองน้ำหยดเล็กๆ ที่มารวมตัวกันจนได้ก้อนเมฆใหญ่แสนสวยงามนั่นแหละ กว่าจะได้มากมายขนาดนั้นย่อมใช้เวลา กว่าที่ฉันจะรักเธอได้มากขนาดนี้ ก็ใช้ความรู้สึกผูกพันมาแสนนาน

                   

                    ถ้าสายลมอยากจะพัดจากไป ทำไมไม่ไปก่อนที่ฉันจะรักเธอล่ะ... มาทำให้หวั่นไหว สอนให้รู้จักคำว่ารักอันแสนยิ่งใหญ่ แล้วพัดจากไปทำไมกัน...

                   

                    ...สายลมเคลื่อนไหวไม่คงที่ ก้อนเมฆกลับคงที่ไม่เคลื่อนไหว...

                   

                    เธอพัดผ่านฉัน ให้ฉันก้าวออกจากกรอบเดิมๆ ที่เคยอยู่ พาให้ฉันเข้าไปอยู่ในโลกที่ฉันและเธอสร้างขึ้น เพื่อเรียนรู้ในความรักซึ่งกันและกัน โลกที่ไม่ใช่เพียงสีชมพู ทว่ามันเป็นโลกที่พวกเราสองคนช่วยกันออกแบบ ก้อนเมฆอย่างฉันจึงถูกพัดพาเข้ามาอยู่ในห้วงแห่งรักของเธออย่างไม่อาจถอนตัวได้

                   

                    แต่แล้วเธอกลับทิ้งฉันคนนี้ไว้ที่เดิมแต่เพียงลำพัง เธอรู้บ้างหรือเปล่า ว่าก้อนเมฆที่เคลื่อนที่ไปบนท้องฟ้าได้นั้นต้องการสายลมเพื่อก้าวข้ามผ่านผืนนภาไปด้วยกัน ถ้าเธอรู้เช่นนั้น เหตุใดเธอจึงยังคงใจร้าย ทิ้งให้ฉันอยู่ที่เดิมเช่นนี้ได้ พาฉันเข้ามาในความรัก ช่วยพาฉันออกไปจากบ่วงพันธนาการหัวใจของเธอเสียทีเถอะ

                   

                    ในขณะที่เธอจางหาย เพื่อไปมอบความสุข ความสบายใจ ความอบอุ่นอย่างอ่อนโยนให้ใครคนอื่น เธอพอจะรู้บ้างไหม ว่าคนที่เธอเคยผ่านมาเจอในครั้งหนึ่งของชีวิต กำลังทุกข์ทรมานเพราะเธอมากมายเพียงใด เธอพัดฉันให้เคลื่อนจากที่เดิม เธอทำให้ชีวิตฉันไม่เหมือนกับที่เคยเป็น หากเธอกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหัวใจดวงนี้ให้สมบูรณ์แบบ เธอเลือกจะพัดต่อไปอย่างนั้น โดยทิ้งฉันไว้ยังจุดที่เธอพามา

                   

                    ที่ๆ ฉันไม่เหลือใคร มันช่างว่างเปล่า เงียบเหงา และเดียวดาย... หนาวเหน็บกับความอ้างว้างจนได้ยินเสียงหัวใจสะอื้นพร้อมๆ กับท้องฟ้าที่กำลังร่ำไห้

                   

                    ...กลับมาเถอะนะ... กลับมาได้ไหมคนดี...

                   

                    ฉันคนนี้เป็นเพียงก้อนเมฆ ไม่อาจเคลื่อนที่ต่อไปได้ถ้าไม่มีสายลมอย่างเธอ ขอร้องเถิด...ที่รัก

                   

                    อย่าทิ้งฉันไว้ลำพังตรงนี้ มันแทบขาดใจ จนฉันไม่อาจมองเห็นจุดจบสิ้นของมัน หัวใจมันเต้นช้าลงทุกที จนเหมือนจะหยุดได้ทุกเมื่อถ้าเพียงแต่เธอทิ้งให้ฉันจมอยู่กับความเหงา ต่อสู้กับความเหว่ว้าเพียงลำพังเช่นนี้ต่อไป

                   

                    ...รู้ว่าไม่มีหวัง... แต่ฉันยังคงรอเธออยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ไม่ใช่ไม่อยากไปจากบ่วงรักอันแสนเศร้านี้ ทว่าฉันไม่อาจไปจากเธอ ไม่อาจไปจากความรักของเราได้ ฉันจึงทำได้เพียงแค่เฝ้ามองดูสายลมที่พัดผ่านรอบด้าน หากไม่มีใครทำให้ฉันรู้สึกรักและผูกพันได้มากเท่าเธออีกแล้ว

                   

                    ...วันใดที่เธอพัดกลับมาทางนี้... ช่วยรับรู้ทีว่าก้อนเมฆสีเทาอันแสนหม่นหมอง ยังคงเฝ้ารอคอยเธออยู่เสมอในทุกห้วงลมหายใจ...     

                   

                    ...ยังรออยู่ที่เดิม เพื่อรอคอยการเติมเต็มความรักอีกซักครา...

     

     

    Tiffany…

     

     

     

    Ma-Bung: เรื่องนี้จะเป็นเรื่องบรรยายล้วนนะคะ ไม่มีบทพูด (ในแยกบทตัวละคร)

    แต่จะมีบทพูดเฉพาะตอนสรุปของแต่ล่ะคู่เท่านั้น เพราะเนื้อหาโดยรวมจะเป็นไดอารี่ ^^

     

    พี่อ่อยเป็นคนเสนอโปรเจ็คต์นี้ค่ะ หลังจากข้อมือหาย ก็โทรมาฟิตงานกับน้องซะจนมึนตึ๊บ

    น้องอ่อย: บุงจะแต่งทันมั้ยเนี่ยพี่ ต้องอัพวันอาทิตย์ (วันนั้นวันศุกร์)

    พี่อ่อย: ไหนตอนนั้นบอกอยากแต่งเรื่องนี้ไง แต่งเซ่ แต่งเล้ยย

    แง้... พี่อ่อยนะพี่อ่อย รู้ว่าฝีมือการแต่งของน้องคนนี้มันเต่าคลานกว่าพี่สามเท่าได้ เลยกดดันซะงั้น

    พอวางหูจากคุยโทรศัพท์เสร็จ บุงก็จัดให้ค่ะ เห็นบอกให้แต่งเลย จากนั้น 20 นาทีก็โทรกลับไป...

    น้องอ่อย: “พี่ชิคคะ ว่างอยู่เปล่า บุงมีเรื่องจะถามนิดหน่อย

    พี่อ่อย: “หืม... ว่าไง

    น้องอ่อย: แต่งเสร็จแล้ว... ทำไงดีคะพี่ ฮ่าๆ ^o^

    พี่อ่อย: “ห๊ะ!!! O[   ]o

     

    น่าแปลกใจมั้ย ปกติสองหน้าเอสี่ บุงใช้เวลาอย่างต่ำหนึ่งชั่วโมงในการเขียนนะคะ

    ปรากฏว่านี้สองหน้าเอสี่เต็มๆ บุงใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น

    อย่าว่าแต่พี่อ่อยงงเลย มะบุงก็งงจนไม่รู้จะงงยังไง T^T

     

    อ่านแล้วก็อย่าลืมคอมเมนต์ติชมกันด้วยนะคะ

    บุงเองก็ไม่ค่อยถนัดแนวอย่างนี้ เพราะไม่ได้แต่งแบบบรรยายล้วนเลย

    ไม่รู้ว่าออกมาเป็นไงบ้าง ต้องการคำแนะนำอย่างสุดซึ้งค่ะ T___T

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×