คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 :: Confused (Complete)
Chapter 1 :: Confused
ความรักนั้นไม่ได้มีความหมายตายตัวเหมือนพจนานุกรม
หัวใจดวงนี้จึงไม่อาจแสดงความรู้สึกที่แท้จริงได้
แล้วฉันจะหลอกตัวเองอีกนานแค่ไหนกัน...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Paris, France
แสงแฟลชอาบทั่วเรือนร่างสวยกระจ่างตา ผิวขาวเนียนถูกเปิดออกเล็กน้อยพอให้หัวใจสั่นไหว ใบหน้าสวยนั่นยังไม่ตราตรึงได้เท่ากับดวงตาคู่คมคายสีน้ำตาลที่เปล่งประกาย ซึ่งดูแล้วเหมือนมีหยาดน้ำใสคลอกลิ้งอยู่ในนั้นตลอดเวลา จมูกโด่งรั้นเป็นสันได้รูป รับกันดีกับเรียวปากบางสีกลีบกุหลาบ ที่ยามเจ้าตัวแย้มออกแล้วเหมือนโลกหยุดหมุนลงในบันดล
ขาเรียวยกขึ้นวางพาดเก้าอี้ลายหรูราคาหลายหลัก ร่างบางโพสต์ท่ายั่วยวนเล็กน้อยแต่พองาม เนื่องจากมันยังคงแฝงไปด้วยความสดใสและน่ารักสมกับนางแบบหน้าใหม่ และเพราะความที่เธอเป็นลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน มันทำให้เธอสวยคมในสไตล์สาวเอเชีย หากความหวานจนน่าจับตามองนั้นมันก็ระคนไปด้วยใบหน้าลูกครึ่งอย่างฝรั่งจ๋า
วินาทีนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่านางแบบที่กำลังทำงานถ่ายหน้าปกนิตยสาร Elle นิตยสารชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสมีเสน่ห์มากมายเสียจริงๆ
“พักได้!” เสียงทุ้มนุ่มหลุดมาจากปากของช่างกล้องหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหลังกล้องถ่ายรูปตัวโตคุณภาพสูง ที่แค่ตัวเลนส์ก็เหยียบไปเกือบหกหลักได้ ทีมงานพากันเข้าไปมะรุมมะตุ้มนางแบบสาว ทั้งจัดเสื้อผ้าหน้าผม หรืออะไรต่อมิอะไรให้เธอได้แต่มึนงงไปหมด
“เยี่ยมมากฟานี่” คนตัวเล็กเดินเข้ามาแตะไหล่ ฮวัง ทิฟฟานี่ หรือในชื่อเกาหลีว่า ฮวัง มิยอง... เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครจะเรียกชื่อนั้นเท่าไหร่หรอกนะ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ปลาบปลื้มเพราะย้ำอยู่บ่อยๆ ว่ามันค่อนข้างฟังดูโบราณมากไปนิด
“ต้องถ่ายอีกกี่เซ็ทน่ะแท...” ทิฟฟานี่ถามกลับ เธอเอื้อมมือไปรับน้ำขวดที่เย็นเฉียบมาจากอีกคน ช่างกล้องก็อยู่ ทีมงานก็มีตั้งเยอะแยะ ดันไม่ถาม... มาถามเอากับผู้จัดการส่วนตัวคนสวยนี่ซะได้!
“เซ็ทเดียวค่ะ งานวันนี้ก็หมดแล้วล่ะ” คิม แทยอน พูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา เมื่อถึงเวลาที่ทิฟฟานี่ต้องถ่ายรูปเซ็ทต่อไป เธอยกมือเรียวขึ้นมาโบกเบาๆ ระดับใบหน้า เนื่องจากอากาศภายในสตูดิโอที่ร้อนจนอบอ้าว อดสงสารอีกคนไม่ได้ที่ต้องนั่งปั้นหน้ายิ้มอยู่หลายชั่วโมง เปลี่ยนชุดไปมา แถมยังต้องโพสต์ท่าอีกสารพัดที่แม่คุณจะสามารถ แค่คิดแทยอนยังเหนื่อยแทนแล้วเลย!
“ฝีมือดีมากเลยนะครับ” ภาษาฝรั่งเศสรัวเร็วที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ผู้จัดการสาวถึงกับสะดุ้ง เธอหันกลับไปจึงพบกับใบหน้าที่หล่อคมอย่างฝรั่งเศสแท้ๆ ของซีมอง (Simon) เขาดูดีมากในชุดสูทเรียบสีดำ ที่เนี้ยบตั้งแต่เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม จรดปลายรองเท้ามันปลาบ ด้วยความที่อายุเพียงยี่สิบปลายๆ หากบริหารนิตยสารแฟชั่นชั้นหนึ่งในฝรั่งเศสได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นทำให้ชื่อของเขาดังเปรี้ยงปร้าง จึงไม่แปลกที่มีผู้หญิงหลายต่อหลายคน เข้าคิวเพื่อเป็นคนพิเศษของเขาจนยาวเหยียดประหนึ่งกำแพงเมืองปารีส
“ค่ะ...” แทยอนทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น เพราะเธอไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีมากไปกว่านี้ได้ ...จริงของเขา ทิฟฟานี่ดูดีมากในฐานะนางแบบ หนำซ้ำเจ้าตัวก็เข้ากับคนง่าย ไม่ได้หยิ่งเหมือนนางแบบแนวหน้าหลายต่อหลายคน จึงมีคนอยากทำงานด้วยมากเข้าไปใหญ่
“ผมไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ไว้ใจคุณ ที่ให้ทิฟฟานี่มาร่วมงานกับเรา” ซีมองกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ นอกจากคนตัวเล็กจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของทิฟฟานี่แล้ว เธอยังเป็นผู้ช่วย ที่ปรึกษา รวมถึงเป็นคนที่เขาสนิทและไว้ใจมากที่สุด ซึ่งบางทีมันอาจเกินเลยคำว่าสนิทสนมไปไม่น้อย...
...เขาผิดตรงไหนล่ะ ถ้าจะแอบรักผู้ช่วยตัวเอง ถ้าเรื่องหัวใจมันห้ามได้ง่ายๆ ก็ดีน่ะสิ...
“ฟานี่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังอยู่แล้วล่ะค่ะ เธอตั้งใจทำงานทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่หรือเล็กก็ตาม” แทยอนพูดด้วยความไว้ตัว ดวงตาเลื่อนจากชายหนุ่มไปเป็นหญิงสาวที่กำลังโพสต์ท่าอยู่ท่ามกลางแสงแฟลชและฉากหลังสีขาวสะอาดตาด้วยสายตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง ชั่ววูบหนึ่งเธอเห็นดวงตาของทิฟฟานี่กำลังจ้องมองมาทางนี้พอดี ริมฝีปากบางแย้มให้เธอเล็กน้อย ทว่านั่นทำให้ก้อนเนื้อในช่องอกด้านซ้ายเริ่มทำงานผิดจังหวะ เลือดสูบฉีดแรงนำพาความร้อนผ่าวไหลเวียนไปกองรวมกันที่ใบหน้า ส่งผลให้แก้มเนียนแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่เธอเริ่มมองทิฟฟานี่ไม่เหมือนเดิม... จากคนแปลกหน้าที่โคจรมารู้จัก และได้ทำงานด้วยกันจนเกิดความผูกพัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทุ่มเทดูแลทิฟฟานี่ไป หญิงสาวอาจคิดเสมอว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้จัดการส่วนตัวเท่านั้น หากเปล่าเลยซักนิด ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของหัวใจทั้งสิ้น
แทยอนไม่คิดจะบอกความรักครั้งนี้ออกไปเลยแม้แต่น้อย ให้ทิฟฟานี่รู้ว่าเธอคิดกับอีกฝ่ายเพียงแค่เพื่อนน่ะดีสุดแล้ว เนื่องจากร่างเล็กกลัวการเปลี่ยนแปลงและความห่างเหินมาที่สุด หนำซ้ำผู้หญิงบอกรักกัน มันมีซักกี่คู่เล่าที่สมหวัง อีกอย่างหนึ่งคือทิฟฟานี่เป็นใคร?... หญิงสาวเป็นถึงนางแบบชื่อดัง ถึงอาจจะไม่ดังพลุแตก ทว่างานที่เข้ามาไม่ขาดสายก็คงมากพอที่จะเป็นตัวการันตีฝีมือได้เป็นอย่างดี
แล้วเธอล่ะเป็นใคร... ก็แค่คิม แทยอน ที่มันไม่มีอะไรเลย!
พยายามหลอกตัวเองอยู่หลายต่อหลายครั้ง เวลาคิดถึงทิฟฟานี่มาจนเกินเลย หรือแม้กระทั่งเป็นห่วงจนแทบบ้า นั่นคือความรู้สึกของเพื่อนสนิทคนนึงที่มีให้กันเท่านั้น
...เธออาจจะหลอกตัวเองได้ว่าไม่รักใครคนนั้น หากท้ายสุดแล้ว แทยอนก็ไม่อาจหลอกหัวใจตัวเองได้เลย ว่ามันเรียกร้อง... ร่ำหาทิฟฟานี่มากมายแค่ไหน...
“แทยอน... คุณได้ยินผมมั้ย!” เสียงตะโกนก้องริมใบหู ปลุกแทยอนให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เธอหันหน้ามาทางซีมองด้วยสภาพที่งุนงง ลืมไปเลยว่าตนเองกำลังคุยกับเจ้านายคนสำคัญอยู่แท้ๆ แต่เพียงครู่เดียวที่มองดวงตาของทิฟฟานี่คู่นั้น มันก็ดึงความสนใจของเธอให้ออกจากทุกสิ่งทุกอย่างได้จนหมดสิ้น
“เอ่อ... ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี๊คุณพูดว่าไงนะคะ” แทยอนตอบกลับเป็นภาษาฝรั่งเศสตะกุกตะกักแก้เก้อ เมื่อเห็นร่องรอยความไม่พอใจเล็กน้อยบนดวงตาสีฟ้าคู่นั้น ถ้าพูดตามตรงแล้วมันก็สวยงามดีไม่หยอกหรอกนะ เพียงแต่มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกวูบวาบในช่องอกได้เหมือนลูกแก้วใสสีน้ำตาลของทิฟฟานี่เลยซักนิด
“ผมพูดว่า...เย็นนี้คุณว่างมั้ย ผมกะจะชวนคุณไป Dinner ซะหน่อย” ซีมองเอ่ยชวนอย่างช่ำชอง ไม่จำเป็นต้องเกริ่นนำใดๆ ทั้งสิ้น อาจเพราะเขาพูดคำนี้ออกมาบ่อยก็ได้ล่ะมั้ง ดังนั้นสำหรับแทยอนแล้วมันจึงเหมือนกับประโยคไม่จริงใจ ที่เจ้านายสุดหล่อจะใช้กับใครอื่นได้ไปทั่ว
“ขอโทษด้วยค่ะ... พอดีวันนี้ฉันมีนัดกับฟานี่แล้ว ขอโทษจริงๆ นะคะ” เธอพยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทิฟฟานี่ถ่ายรูปเสร็จพอดี เธอจึงโค้งคำนับซีมองอีกครั้งเป็นเชิงบอกลา การกระทำที่เต็มไปด้วยมารยาทและไว้ตัวในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเช่นนั้น ทำเอาเขาแทบสะอึก ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากยิ้มแห้งๆ ให้กับร่างเล็กพลางโบกมืออย่างเสียดาย เมื่อต้องพลาดนัดกินข้าวกับแทยอนอีกครั้ง
เขาหันมองตามแผ่นหลังของเธอไป จึงพบกับภาพการเทคแคร์ระหว่างผู้จัดการสาว และนางแบบ...
...ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องรู้สึกเจ็บในช่องอกลึกๆ ขึ้นมา...
...มันก็เป็นแค่การดูแลกันธรรมดาเท่านั้นไม่ใช่... หรอ...
“ฟานี่... เหนื่อยมั้ย” แทยอนถามด้วยความเป็นห่วง เธอเดินเข้ามาใกล้คนที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเป้สีหวานอยู่ ผ้าขนหนูผืนนุ่มถูกยกขึ้นเช็ดหน้าผากมนที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เธอค่อยๆ ไล่ผ่านลงมาตามแก้มใส ก่อนจะหยุดอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานอย่างเคลิ้มฝัน เมื่อใบหน้าตอนนี้มันใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน
...แค่ได้ดูแล เพียงเท่านี้ก็พอใจ...
“อื้ม... ไม่หรอก” ทิฟฟานี่ที่เริ่มใจสั่น เธอกุมมือของแทยอนที่กำลังเช็ดใบหน้าอยู่หลวมๆ ก่อนจะดันมันลงเป็นการบ่ายเบี่ยง หญิงสาวรู้ดีถึงจังหวะอัตราการเต้นในหัวใจที่เริ่มแปรเปลี่ยนไป มันทำให้เธอสั่นสะท้านแทบควบคุมไม่ได้ และแน่นอนว่าหากให้เป็นเช่นนั้นนานกว่านี้ แทยอนคงเห็นความหวั่นไหวในดวงตาของเธอ
น่าขำเนอะ... นางแบบแอบรักผู้จัดการตัวเอง เพราะอ่อนไหวไปกับการเทคแคร์ที่แม้จะทำเพราะหน้าที่พวกนั้น หากหัวใจเจ้ากรรมมันกลับดื้อรั้นไม่ฟังกันเลยซักนิด เอาแต่ลอยวนเวียนไปหาใครอีกคนอย่างไม่เกรงกลัวต่อความเจ็บปวด
มันก็แค่หน้าที่... เธอสลักคำนั้นลงในหัวใจหลายต่อหลายครั้ง ทว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับความรักที่สลักทับซ้อนกันลงไปเลยแม้แต่น้อย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอพยายามตีตัวออกห่างแทยอนยามอีกฝ่ายเข้าใกล้
ยิ่งใจผูกพัน...กายก็ยิ่งห่างกันไปทุกที... ใครบ้างล่ะ จะกล้าเข้าใกล้คนที่ตนเองแอบชอบได้นานๆ ทั้งที่รู้ดีว่าเขาคนนั้นเป็นคนที่ไม่อาจปล่อยหัวใจไปรักได้เลย...
ทิฟฟานี่แสร้งให้ความสนใจกับข้าวของอยู่ ทั้งที่เครื่องสำอางภายในนั้นก็ถูกเก็บจนเรียบร้อยแล้ว แต่มือเรียวก็ยังไม่วาย ดึงมันเข้าออกอยู่นั่น เนื่องจากเธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบสายตาตัดพ้อของแทยอน... เธอไม่กล้าจะมองหน้าคนข้างกายเลยด้วยซ้ำ เมื่อหัวใจมันยังสั่นไหวผิดจังหวะอยู่เช่นนี้
“น้ำ...” ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ ตามมาด้วยการยื่นน้ำเต็มขวดที่เย็นจนไอน้ำเกาะพราวให้นางแบบสุดสวย ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสุดแสนธรรมดา ทั้งที่เธอมีเงินมากพอจะซื้อชุดสวยและหรูสมฐานะได้ตั้งมากมาย ทว่าทิฟฟานี่บอกแทยอนอยู่เสมอว่าเสื้อผ้ามันก็แค่เครื่องประดับภายนอก แต่งสวยหรือดียังไงมันก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ...
“ขอบใจ...” พูดแล้วรับไปดื่มอึกใหญ่ด้วยอาการเหนื่อยจากการทำงาน ถึงปากแข็งบอกว่าไม่ หากแทยอนยังคงรู้ดีเสมอว่าทิฟฟานี่แค่ไม่อยากให้เธอเป็นห่วง และไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเธออ่อนแอ...
เมื่อกินเสร็จก็ยื่นขวดกลับคืน โดนทิ้งให้ร่างเล็กถึงกับยืนแน่นิ่งเมื่อรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกเมิน กระเป๋าน่ะ...มันไม่ได้สำคัญกว่าเธอหรอก เพราะผู้จัดการคนนี้ ไม่เคยมีความสำคัญแต่แรกอยู่แล้ว!
‘ใช่สิ... ฉันมันก็แค่คนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเธอ ทุ่มเทไปแค่ไหน ก็เหมือนกับเทน้ำลงในแก้วรั่วๆ... ไม่เคยเต็ม และไม่มีวันเต็ม...’
ความคิดที่สวนทาง ทำให้พวกเธอพยายามหลอกกันต่อไป... หลอกหัวใจ หลอกตัวเอง และหลอกสายตากับสิ่งที่เห็น ว่าการกระทำของคนข้างกายมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านางแบบและผู้จัดการส่วนตัวเลย...
...เพราะหัวใจมันรับความเจ็บปวดไม่ไหว ยามสิ่งที่ต้องการไม่เป็นดังหวัง สู้หลอกหัวใจต่อไป ว่าไม่เคยคิด ไม่ได้หวัง ไม่ได้รักอีกคนแต่แรกอยู่แล้วคงเจ็บน้อยกว่า...
“กลับกันเถอะ” ทิฟฟานี่เอ่ยทำลายความเงียบ เมื่อปรับความหวั่นไหวให้เป็นปรกติได้แล้ว เธอกำลังจะยกกระเป๋าขึ้นพาดบ่า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อแทยอนดึงมันไปสะพายไว้เองเสียอย่างนั้น ทั้งที่กระเป๋าของร่างเล็กก็หนักจะแย่... คนบ้าอะไร ทำไมต้องแบกกระเป๋าสองใบด้วยเล่า!
“เอามานี่ ฉันถือเองได้...” พวกเธอยื้อแย่งกระเป๋ากันเหมือนเด็กๆ หลังเดินออกจากห้องแต่งตัว ทว่าเสียงเอ่ยแซวที่ดังขึ้น ทำเอาทั้งสองต้องหยุดการกระทำดังกล่าว
“ตกลงน้องแทกับน้องฟานี่เป็นแฟนกันจริงปะคะเนี่ย” ทีมงานผู้หญิงคนนึงกล่าว ขณะที่คนอื่นๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วยในคำถาม ทำเอาผู้ถูกกล่าวถึงได้แต่เหวอ... ในใจพากันคิดเป็นตุเป็นตะไปคนละทางว่าถ้าเป็นจริงก็ดีน่ะสิ จะได้ไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์อึดอัดและน่าคลุมเครือเช่นนี้
“ไม่หรอกค่ะ...” ทิฟฟานี่ปฏิเสธเสียงแผ่ว ขณะอีกคนได้แต่ก้มหน้าต่ำ... ‘เธอรังเกียจฉันหรอ’
“ใครได้ยัยนี่เป็นแฟนก็โชคร้ายแย่สิคะ” แทยอนทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนอาการเศร้าหมองของตนเอง จนทุกคนพากันหัวเราะครืน เว้นเสียแต่ร่างบางข้างกายที่ทำหน้านิ่ง คนอื่นอาจคิดว่านางแบบสาวโกรธในถ้อยคำหยอกล้อ ทว่าเปล่าเลยซักนิด ในเมื่อเธอกำลังกลั้นหยาดน้ำใสที่วิ่งมาคลอเอ่ออยู่ต่างหาก ทิฟฟานี่คงไม่ปล่อยมันให้ไหลรินในตอนนี้แน่ๆ
‘นั่นสิ... เธอคงไม่อยากมาโชคร้ายกับฉันสินะ... แล้วฉันจะเจ็บไปทำไม’
“ใช่แล้วค่ะ... แทไม่ได้รักฟานี่หรอก” พูดไป แล้วคนพูดนั่นไม่ใช่หรือที่ทรมานแทบขาดใจ ใบหน้าที่เรียบเฉย ลึกลงไปแล้ว หัวใจมันกำลังบีบตัวเชื่องช้า... ทำใจลำบากชะมัด กับความเป็นจริงที่ต้องมานั่งยอมรับว่าพวกเธอไม่ได้รักกัน พวกเธอไม่สามารถเป็นอะไรได้นอกจากเพื่อนร่วมงานเท่านั้น!
“ถ้าไม่พูด พวกพี่ไม่เชื่อเลยนะนั่น... เพื่อนที่ไหนจะถือกระเป๋าให้กันล่ะคะ” ทีมงานยังคงเอ่ยแซวไม่เลิก ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเขินอายทั้งคู่ แต่พวกเธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตากัน เพราะความหวั่นไหวในหัวใจกำลังรุมเร้า สร้างพิษบาดแผลของความเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่าง จนฝืนยืนแทบไม่ไหว
“ฟานี่เจ็บไหล่อยู่ค่ะ... แทเลยต้องถือให้” แทยอนอ้างเหตุผลสดๆ ร้อนๆ ก่อนจะจับมือทิฟฟานี่และลากออกไปนอกสตูดิโอทันที ความอบอุ่นที่ร้อนผ่าวอยู่ยังฝ่ามือ ไม่อาจช่วยสมานแผลในหัวใจได้เลย ถ้าเพียงแต่มีใครซักคนกล้าพูด มีใครซักคนเลิกจมอยู่กับคำว่าหลอกลวง... คงไม่มีใครต้องทรมานเช่นนี้...
...เรื่องของความรัก บางทีมันก็ซับซ้อนจนเกินเข้าใจ...
“นิตยสารนั่นมันมีอะไรหรอ เห็นฟานี่มองมานานแล้ว” ร่างเล็กเอ่ยถามยามเข้ามาในร้านอาหารระดับปานกลางที่ไม่แพงเว่อร์จนเหมือนปล้น เธอกำลังรออาหารมาเสิร์ฟ แต่คนตรงหน้านี่สิ พอสั่งอาหารที่เจ้าตัวชอบเสร็จก็เอาแต่ยกนิตยสารเล่มหนาขึ้นปิดหน้า เสมือนมีอะไรน่าสนใจนักหนา
“ลุ้นชิงโชคไปเกาหลีน่ะ” ทิฟฟานี่บอกเสียงเรียบและยื่นหน้านั้นให้แทยอน เธอรับมันไปดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วย่น แพคเกจทัวร์เกาหลีสามวันสองคืน ฟรีค่าที่พักและค่าเดินทางทุกอย่าง ถ้าซื้อสิ่งของที่เขาพยายามโฆษณาแล้วส่งไปชิงโชค พร้อมทั้งให้เขียนสเป็กหนุ่มหรือสาวในฝันของตนเองลงไปด้วย...
“ฟานี่อยากไปเกาหลีหรอ”
“อื้ม... ฉันเกิดที่เกาหลี แต่โตที่’เมกา แล้วมาทำงานที่ฝรั่งเศส” นางแบบสาวพูดเปื้อนรอยยิ้มเศร้าๆ “ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าประเทศที่ฉันเกิดเป็นไงบ้าง ถ้ามีโอกาสก็เลยอยากไปซักครั้งน่ะ...”
“แล้วเธอคิดจะส่งชิงโชครึไง”
“บ้าหรอ... ฉันก็แค่คิดเฉยๆ แหละ ว่าถ้าได้ไปเกาหลีจริงๆ มันจะมีความสุขแค่ไหนกันนะ” เธอกล่าวพลางดึงนิตยสารกลับคืนมาและเก็บมันที่ชั้นวางข้างๆ แทน ทิฟฟานี่ไม่เคยคิดจะซื้อผลิตภัณฑ์อะไรเทือกนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่เธอแค่เห็นภาพของประเทศเกาหลี แล้วรู้สึกเหงาๆ ขึ้นมาเสียอย่างนั้น...
“แล้วถ้าเธอจะส่งชิงโชค เธอจะเขียนสเป็กว่าไงอ่ะ” แทยอนลองถามดู... ไม่รู้สินะ ความหวังอันเลือนรางมันยังพอเป็นแสงรำไรว่าขอเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งในร้อยที่คล้ายเธอ เจ้าตัวก็พอใจแล้วล่ะ
“หืม... สเป็กฉันหรอ... ตัวสูงๆ ผิวออกน้ำผึ้งหน่อยๆ ขี้อาย...แต่ก็ดูดี เทคแคร์และเอาใจเก่ง... เท่แต่เซ็กซี่ได้ในคนๆ เดียวกัน อืม... แบบมีซิกแพ็กจางๆ ก็พอ ฉันว่าคงเซ็กซี่ไม่เบาอ่ะ ประมาณนี้ล่ะมั้ง...” ทิฟฟานี่พูดขณะเริ่มนึกไปด้วย เธอเป็นคนชอบผู้หญิงที่สวยและหล่อพร้อมๆ กันได้... เนื่องจากเธอตกหลุมรักในใบหน้าที่สวยออกคมๆ เข้มๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากจะระบุให้แทยอนรับฟังว่าเธอชอบผู้หญิงก็ใช่ที่ เลยตอบไปแบบกลางๆ เช่นนั้น
“ไม่ตรงฉันเลยซักนิด...” คนตั้งคำถามพึมพำเบาๆ กับตนเอง เธอสูงถึงร้อยหกสิบเซ็นต์รึเปล่าก็ไม่รู้ ผิวไม่ต้องพูดถึงหรอก เพราะมันขาวเว่อร์จนดำยาก ขี้อายนี่คงไม่ใกล้เคียงซักนิด เธอเข้าได้กับทุกคนอย่างไม่ต้องมีเคอะเขิน เทคแคร์และเอาใจเก่งงั้นหรือ... เธอเอาใจใครไม่เป็น หากถ้าเทคแคร์ ทิฟฟานี่ก็ไม่เคยมองเห็นเลยซักนิด
เรื่องความเท่ตัดออกไปได้เลยมีแต่ความรั่วอย่างหมดมาดล่ะสิไม่ว่า เซ็กซี่ก็ไม่มีส่วนคล้าย สุดท้ายซิกแพ็ก... ลืมมันไปซะ ถึงเธอจะมีหุ่นที่เรียกว่าค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับผู้หญิงหลายๆ คน หากเธอก็ไม่ได้ฟิตจัดอะไรขนาดนั้น!
“ไม่เห็นจะเหมือนแทเลยอ่ะ” สิ้นคำคนฟังก็ต้องสะดุ้ง แทยอนแน่ใจว่าเธอไม่ได้พูดดังจนทิฟฟานี่ได้ยิน นั่นหมายความว่าอีกฝ่าย ‘จงใจ’ พูดประชดเธอ...
‘ใช่สินะ... เธอไม่มีอะไรที่เป็นสเป็กของทิฟฟานี่เลย’ คิดในใจอย่างเจียมตัว กลัวเหลือเกินถ้าความเจ็บปวดมันจะสร้างบาดแผลในใจเวลานี้... อย่าเพิ่งเลยน้ำตา... กลับไปไหลที่บ้านเถอะนะ... ฉันไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเธอ...
“ฮ่าๆ... มันจะไปเหมือนได้ไงล่ะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายในฝันเธอนี่” ผู้จัดการสาวทำทีหัวเราะกลบเกลื่อนเช่นเคย ใครจะรู้บ้างว่าลึกลงไปภายในเสียงหัวเราะนั้น มันกำลังซ่อนเสียงสะอื้นอันสั่นสะท้านอยู่... ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หากมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น คงไม่อาจปกปิดความรู้สึกแท้จริงได้
“อืม... นั่นสิ” ทิฟฟานี่ว่าแล้วก็เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แทยอนคงไม่รับรู้เลยถึงความนัยของเธอ... ความจริงเจ้าตัวยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมแทยอนที่ไม่ตรงสเป็กเธอเลยซักข้อ กับสร้างความหวั่นไหวให้กับหัวใจได้อย่างไม่ควรจะเป็น หรือมันเป็นเพราะความรักไม่อาจขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอกได้ เพราะมันต้องใช้หัวใจเป็นตัวตัดสิน...
การได้เป็นเหมือนดั่งคนในฝัน อาจไม่ได้มีความหมายเทียบเท่ากับการได้เป็นคนที่รักในชีวิตจริงเลยซักนิด...
...ถ้าเพียงแต่แทยอนหันกลับมาฉุกใจคิดบ้าง... ความรักของเธอสองคนอาจไม่ต้องสับสนเหมือนที่เป็นอยู่...
[Free talk]
MRchick3n: ทรมานไส้มั้ยคะ?
เรื่องนี้พล็อตเหมาะกับคนแต่งจริงๆ
พี่วางพล็อตค่ะ .. แต่พล็อตก็ไม่ได้ทรมานอะไรมาก
ถ้ามันปวดตับ ต้องโทษคนแต่งนะคะ
พี่อ่อยไม่ได้แต่ง .. พี่แต่งเรื่องฮาๆ ปวดตับไม่ถนัดแต่งนัก (หรอ??)
ขอให้มีความสุขกับของขวัญ ที่เราสองคนพี่น้องตระกูลอ่อยจัดมาให้อ่านกันนะคะ
Ma-Bung: ช่วงนี้มะบุงกำลังนอยจัดเพราะเรื่องสารพัดรอบทิศค่ะ
และระหว่างที่แต่งเรื่องนี้อยู่ เกิดจี๊ดระบมมากระทันหัน
จึงยิ่งเมามันในการถนอมตับรีดเดอร์ (?) เหลือเกิน
เพราะส่วนตัวแล้ว... รู้สึกว่าชีวิตมันตรงเรื่องฟลูบ้างอะไรบ้าง ฮ่าๆ
ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ เอาเป็นว่าอ่านแล้วก็คอมเมนต์ด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้สาวๆ ทั้งเก้า และสองไรท์เตอร์ตระกูลอ่อยด้วยค่ะ ><
[Special Bonus: หูไม่ดี??]
พี่อ่อย: บุงได้ดูรายการ SBS เมื่อคืนรึเปล่า ที่ Gee ชุดนอน กับ Genie เซ็กซี่น่ะ
น้องอ่อย: ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ อ๊าย...อยากดู >o< (นั่งรอโหลดยูทูป)
พี่อ่อย: ก็เพลงจีที่นั่งอยู่บนเตียงน่ะ ที่รักพี่ (ฟานี่) ลืมร้องด้วยแหละ = =”
น้องอ่อย: อ้าว...ไหงงั้นล่ะคะ?
พี่อ่อย: อื้ม... ก็แทนั่งข้างล่างใช่ปะ แต่ฟานี่มัวแต่เต้นกระโดดๆ ขย่มๆ อยู่บนเตียงอย่างเมามัน กับฮโย เลยลืมร้องท่อนตัวเอง!
น้องอ่อย: ห๊ะ!! แทอยู่ข้างล่าง ฟานี่มัวแต่ขย่มอยู่บนเตียงอย่างเมามัน จนลืมร้องเพลง อ๊ากกกก...ฟานี่เมะ!!! O/////////o
พี่อ่อย: ไอ้นี่! ฉันบอกว่าแทนั่งอยู่ข้างล่างเตียง ฟานี่มัวแต่ลัลล้าอยู่บนเตียงเลยลืมร้อง แกคิดไปหนายยย =[]=
น้องอ่อย: เง้อ... ก็เค้าหูไม่ดีนี่ T^T
พี่อ่อย: หูไม่ดี...หรือต่อมหื่นแตกกันแน่ฟระ! - -^
ความคิดเห็น