คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : `8th break up_ (ผู้มาใหม่)
-7-
เด็กหนุ่มร่างโปร่งที่เพิ่งจบหมาดๆเดินตามหลังหญิงสาวเลยวัยกลางคนตั้งแต่หน้าแผนก เขาได้แต่ก้มหน้าก้มตามองซ้ายทีขวาทีด้วยความไม่เคย จนคนข้างหน้าหยุดเดินนั่นแหละ เธอกระแอมเล็กน้อยก่อนจะเริ่มเอื้อยเอ่ยวาจาที่แฝงไปด้วยอิทธิพล
“ฮึ่ม.... นี่ โจว คยูฮยอน จะเข้ามาทำงานที่แผนกนี้ ทักทายพี่ๆหน่อยสิ” เธอหันหลังกลับมามองผมด้วยสายตาแบบที่หัวหน้าเขามีกัน ผมโค้งหัวไปทุกทิศทางก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้ชานคนหนึ่ง เขายืนชะเง้อหน้าออกมาจากกระจกโปร่งแสงแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้กับผม
“สวัสดีครับ ผมคยูฮยอนครับ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“เอาล่ะ.. โต๊ะทำงานเธออยู่ตรงโน้น” เธอยกมือขึ้นชี้ไปทางคนที่ยืนโบกมือให้ผมอยู่ตอนนี้ เขาดูเป็นร่าเริงมากๆเลยล่ะครับ ผมเดินตรงไปตามทางเดินจนไปถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง มีแค่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง นี่สินะครับ ความรู้สึกที่กำลังจะมีโต๊ะทำงานเป็นของตัวเอง ไม่ทันไรเขาก็เข้ามาสะกิดเข้าที่หลังผมพร้อมกับแนะนำตัว
“พี่ชื่อจองซูนะ มีอะไรก็ถามพี่ได้ตลอดเลยนะไม่ต้องกลัว”
“อ่า...ครับ”
“อ้อ! แล้วถ้ายังไม่มีเพื่อนไปทานข้าวกลางวัน ไปกับพี่ได้นะ”
“ครับ”
พี่จองซูช่วยสอนงานให้กับผมตลอดทั้งวัน เขาไม่เคยบ่นเลยแถมยังยิ้มตลอดเวลา ถึงบางครั้งที่ผมถามคำถามที่ดูไม่น่าจะกล้าถาม ถ้าเป็นบางคยอาจจะถอนหายใจแล้วหันมาต่อว่า แต่กับพี่จองซู เขาเพียงหัวเราะน้อยๆแล้วก็ยิ้มๆก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งข้างๆผมแล้วค่อยๆบอกค่อยๆสอน
รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ถึงที่บ้านจะมีพร้อมให้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้ด้วยซ้ำ
“ได้เวลาพักกลางวันแล้วล่ะ”
“หืม.. ที่นี่พักกัน 11 โมงหรือครับ” คยูฮยอนขมวดคิ้วอย่างนึกฉงน ไม่นึกว่าบริษัทใหญ่จะได้พักกันเวลานี้
“เปล่าหรอก แต่ละแผนกพักกลางวันไม่ตรงกันน่ะ แล้วเรามีเพื่อนไปทานข้าวด้วยหรือยังล่ะ” จองซูพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบเรือนผมนิ่มสองสามครั้ง
“ผมจะไปมีจากที่ไหนล่ะครับ”
“งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ” ว่าแล้วพี่จองซูเอื้อมมือของเขามากุมข้อมือผมเอาไว้ บอกไม่ถูกเลยครับ ผมเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มของเขาก่อนจะก้มหน้าลงแบบเดิมท่าจะดีกว่า ผมเดินตามเขาต้อยๆไปจนถึงโรงอาหาร พี่จองซูแนะนำผมว่าอะไรร้านไหนอร่อย ผมก็พยักหน้าเข้าใจไปตามน้ำทั้งที่จำในสิ่งที่เขาพูดมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมกำลังต่อแถวซื้อบะหมี่อยู่ แต่ก็ถูกพี่จองซูดึงตัวไปยืนต่อเข้าแถวอยู่ข้างหน้าเขา เขายกมือทั้งสองข้างวางไว้ที่ไหล่ของผมเหมือนเด็กๆที่ชอบมาเกาะไหล่แล้วกระซิบเบาๆว่าให้กินร้านนี้ดีกว่าทำไมผมไม่ยอมฟังเขาเลย
ก็เขาเล่นพูดไม่หยุดผมจะไปฟังทันได้ยังไงกัน...
ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ผ่านไปหลายเดือน ที่คยูฮยอนกับจองซูตัวติดกันตลอดเวลา จองซูคอยดูแลคยูฮยอนตลอด ตั้งแต่ข้าวปลาอาหารไปจนถึงเรื่องสุขภาพ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องจุกจิกจิปาถะ จนคยูฮยอนรู้สึกดีไปเองฝ่ายเดียว
ระหว่างที่กำลังทานมื้อกลางวันกันอยู่ จองซูก็เอ่ยปากถามเขาถึงเรื่องไปพักร้อนกับบริษัท ด้วยเหตุผลส่วนตัวทำให้คยูฮยอนเองไม่อยากไปเที่ยวที่ไหน แต่เพราะจองซูบอกว่าไป คยูฮยอนก็ต้องเปลี่ยนใจเสียใหม่
ร่างโปร่งของคยูฮยอนอยู่ในชุดไปรเวทย์สบายๆเตรียมพร้อมไปพักร้อนริมทะเล ไหล่บางพิงเข้ากับหน้าต่างข้างๆเช่นเดียวกับใบหน้าที่มองออกไปข้างนอก ชมบรรยากาศ ดูรถรา จนเขารู้สึกเคลิบเคลิ้มร่างโปร่งของจองซูก็มาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขาพร้อมกับขนมซองใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า
“กินนี่หน่อยสิ” ไม่พูดเปล่า เขาล้วงมือเข้าไปหยิบขนมยอดฮิตขึ้นมาจ่อปากคยูฮยอน มือเรียวยกขึ้นหยิบขนมที่ถูกยื่นให้เมื่อกี้นี้มากัดสองครั้งก็หมดทั้งที่เขาเองก็ไม่ชอบขนมแบบนี้สักเท่าไหร่
“ชอบไหม พี่มีเยอะเลยนะ”
ถ้าตอบไปว่าไม่ชอบ พี่จองซูต้องไม่ชอบเขาแน่ๆ...
“ชอบครับ”
“ถ้าชอบงั้นพี่ยกให้หมดซองเลย” จองซูว่ายิ้มตาปิด คยูฮยอนเม้มปากเป็นเส้นตรงแล้วจึงรับขนมห่อใหญ่มาถือไว้ในมือแล้วแสร้งทำเป็นชอบกินมันหนักหนา
“เดี๋ยวพี่มานะ” คยูฮยอนเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ แล้วจัดแจงเก็บซองขนมให้เข้าที่เข้าทาง ว่างแบบนี้เขาขอนอนเอาแรงสักหน่อยแล้วกัน
“คยูฮยอน” มือเรียวแตะเข้าเบาๆที่ไหล่บางสองสามที จองซูยิ้มออกมาบางๆก่อนจะบีบไหล่อีกคนให้รู้สึกตัว คยูฮยอนสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้างัวเงียเสมามองเขาพลางยกมือขึ้นนวดต้นคอตัวเองเบาๆ
“ถึงที่พักแล้วไปกันเถอะ” ว่าพลางช่วยเก็บข้าวของเล็กๆน้อยๆให้เจ้าตัวที่ทำหน้างอเป็นคนขี้เซาอยู่แบบนั้น “เดี๋ยวไปนอนต่อที่ห้องน่าคยูฮยอน” จองซูหัวเราะเบาๆแล้วจูงมือเด็กโข่งลงมาจากรถจนได้ กว่าจะเอากระเป๋าสัมภาระครบทั้งสองคนก็นานพอสมควร เจ้านายเขาช่างใจดีอะไรแบบนี้นะ
คยูฮยอนเดินตามจองซูตัวฉิวด้วยเหตุผลที่จองซูบอกว่าเขาดูง่วงเกินไปที่จะถือของแบบนี้ นึกแล้วก็ลอบหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสภาพอีกคนถือของพะรุงพะรังเป็นพวกบ้าหอบฟาง ไหนจะเป้ของเขากระเป๋าเสื้อผ้ารวมกับของอีกคนแล้วก็หลายใบได้ ดูเหมือนจองซูจะทุลักทุเลกับการสแกนคีย์การ์ดเขาจึงแย่งมาจากมือจองซูไปวางทาบลงบนแป้นเอง
ร่างโปร่งกระโดดทิ้งตัวลงบนฟูกหนา มือเรียวรีบดึงผ้าห่มสอดไส้สีกาแฟออกจนมุ่นก่อนจะแทรกกายเข้าไปแล้วซุกใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ปาร์คจองซูหัวเราะพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อยกับท่าทางเด็กๆของอีกคน เขาเดินไปนั่งลงบนเตียงอีกฝั่งหนึ่งก่อนจะเหยียดขาพิงหมอนแล้วหันไปมองร่างโปร่งที่ซุกใต้ผ้าห่มเป็นระยะ
RRRrrrrrrrrrrr
“ครับ ที่รัก”
(ถึงที่พักหรือยังคะจองซู)
“ถึงแล้วล่ะ.. ว่าจะงีบสักยกน่ะ”
(อ้อ...)
“อ้อ ทานข้าวหรือยัง”
(ทานแล้วค่ะ งั้นฉันไม่กวนแล้วนะคะ พักผ่อนเถอะค่ะ นั่งรถหลายชั่วโมงคงเหนื่อยแย่~)
“โซรา.. เธอน่าจะมาด้วยนะ ที่นี่สวยแล้วก็สบายมากเลย” ว่าพลางหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆแล้วเล็งค้างไว้อย่างนั้น
(ก็คุณไม่ว่างสักทีนี่คะ~ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ)
“อื้ม ดูแลตัวเองดีๆนะ” เอ่ยเสียงหวานก่อนจะจุ๊บเบาๆไปที่หน้าจอทัชสกรีนนั่น จองซูเอื้อมมือไปวางเครื่องมือสื่อสารไว้บนโต๊ะข้างๆ สายตาคมเอาแต่จ้องมองใบหน้าเรียวได้รูปของคยูฮยอนไม่ละไปไหน นานจนเขาเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว
คงมีเพียงแค่คยูฮยอนเองที่ไม่ได้หลับไป...
เสียงฝักบัวในห้องน้ำเป็นต้นเหตุให้จองซูต้องงัวเงียลุกขึ้นมาดูพระอาทิตย์ยามเช้ากำลังโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำทะเลพอดีตรงที่ที่เขายืนอยู่ตรงนี้ หันกลับไปอีกทีก็เจอคยูฮยอนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำกำลังเดินไปนั่งหน้าหน้ากระจก กลิ่นสบู่อ่อนๆลอยฟุ้งอบอวลไปทั่วห้องพัก ร่างโปร่งของปาร์ค จองซูย่างฝีเท้าไปซ้อนด้านหลังคยูฮยอนแล้วจ้องดวงตากลมผ่านทางกระจก คยูฮยอนเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยอีกฝ่าย หน้าเขามีอะไรอย่างนั้นหรือ.. แต่ไม่ต้องสงสัยนาน มือแกร่งก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมให้เขาอย่างเบามือ เปลือกตาสีไข่ค่อยๆปิดลงพริ้มเมื่อถูกนวดผ่อนคลายเบาๆที่ท้ายทอย
“เราแอบหนีไปเที่ยวกันสองคนไหม?”
“ครับ?”
คืนสุดท้ายก่อนจะกลับโซล มีงานปาร์ตี้ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม บางส่วนก็ลุกขึ้นไปเต้น บ้างก็เล่นเกมส์ในวง คยูฮยอนเองก็คอแข็งพอสมควร แต่ขอจิบเพียงเล็กน้อยรักษาภาพพจน์จะดีกว่า คงมีเพียงจองซูที่ทำท่าจะเมาย้วยทั้งที่เพิ่งดื่มไปไม่กี่แก้ว ในขณะที่จองซูกำลังเล่นเกมส์อยู่ในกลุ่มนั้น คยูฮยอนเริ่มสังเกตเห็นใบหน้าหล่อนั้นเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อๆ คงไม่ต้องสงสัย.. เมา
ชายหนุ่มร่างโปร่งสองคน ที่อีกคนพยายามแบกหามอีกคนเข้าห้องอย่างทุลักทุเลกว่าจะโยนคนเมาลงบนเตียงจนได้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววสับสนไปหมด ทุกอย่างที่เขาได้ยินตอนจองซูคุยโทรศัพท์ในวันแรกยังคงวนในหัวอยู่ตลอดเวลา 3 วันที่ผ่านมา
คยูฮยอนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆร่างของจองซูที่เมาหัวเราะไม่รู้เรื่อง มือเรียวขยุ้มกางเกงของตัวเองแน่นแล้วค่อยๆคลายออกก่อนจะเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อคนขี้เมาที่ละเมอถึงบทสนทนาเมื่อครู่ที่ยังตกค้างอยู่ ลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับมาพร้อมผ้าขนหนูบิดหมาด แตะผ้าเย็นเฉียบกับผิวกายอีกฝ่าย เช็ดฝ่ามือที่อยากจะสัมผัสมานานแสนนานไล่ไปถึงหัวไหล่ไปจนถึงต้นคอ เลื่อนมือต่ำลงที่แผงอกกำยำ
ถ้าจองซูรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่จองซู จองซูจะเกลียดเขาหรือเปล่า จะยังทำกับเขาเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า ความรู้สึกสุมอยู่ในอกจนแทบลุกเป็นไฟไหม้โชน โชคดีที่เสียงโทรศัพท์ของเขาเองที่ดังขึ้นมาแทรก กดรับสายแล้วกรอกเสียงแหบพร่าลงไปแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้รับการตะคอกกลับมาจากปลายสาย
คยูฮยอนทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด
“ครับ พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้วครับ”
(อย่าให้ฉันรู้อีกว่าแกหนีไปเที่ยวแทนที่จะทำงานอยู่ในบริษัทอีกครั้งล่ะ ฉันจ้างแกมาทำงาน ไม่ใช่ให้แกไปเสวยสุขแบบพนักงานคนอื่นๆ)
“ครับ ทราบแล้วครับ”
มือเรียวกำโทรศัพท์มือถือของตนไว้แน่นไม่ต่างกับริมฝีปากอิ่มที่เม้มเข้าหากัน แนวฟันกดลงไปบนริมฝีปากจนขึ้นสีเลือด เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเป็นอย่างดีสลับกับลมหายใจของคนตรงหน้า ตัดสินใจเดินลงไปเคาน์เตอร์บาร์ชั้นใต้ดินแล้วสั่งเครื่องดื่มสักสองสามแก้ว กรอกลงคอรวดเดียวจนหมด จมูกโด่งรั้นที่เคยขาวกลับเป็นสีแดงระเรื่อไปจนถึงพวกแก้ม ยามใดที่ได้กลิ่นควันของเศษผงยาสูบมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ ดวงตากลมปราดมองไปยังต้นเรื่องก่อนจะหันหน้ากลับมาถามบาร์เทนเดอร์หนุ่ม
“มีแบบนั้นให้ฉันสูบหรือเปล่า”
“ผมชื่อจงฮยอน อี จงฮยอน”
“เหอะ... ฉันถามถึงบุหรี่แบบนั้น” พ่นลมหงุดหงิดออกทางจมูกแล้วชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มที่ตอนนี่จิ้มมวนนั่นลงไปกับทรายเสียแล้ว “ที่นี่มีหรือเปล่า”
นัยน์ตาสีเข้มมองตามเด็กหนุ่มที่ง่วนกับการชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้ารายใหม่ คยูฮยอนจิ๊ปากไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเด็กหนุ่มละความสนใจจากตัวเขาแล้วขลุกกับเครื่องดื่มผสมนั่นแทน
“ออกไปข้างนอกกันหน่อยไหม”
“ผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอกนะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดแบบที่นายคิด”
สุดท้ายอี จงฮยอน ก็ยอมออกมาข้างนอกกับลูกค้าที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อแซ่ ร่างสูงโปร่งล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสี่ส่วนของตัวเองแล้วพิงหลังใส่พนักพิงของเก้าอี้สาธารณะหน้ามินิมาร์ทก่อนที่อีกคนจะเดินออกมาพร้อมกับกล่องเล็กๆในมือ จงฮยอนหันไปมองร่างโปร่งที่กำลังนั่งลงข้างๆเขาระรื่นกับสิ่งที่ได้มาใหม่
“มีไฟแช็กหรือเปล่า”
“ผมไม่สูบ” โป้ปดไปทั้งที่ตอนนี้กำลังกำไฟแช็คไว้ใต้เนื้อผ้ายีนส์สีซีด
“เอามันอกมาซะเถอะ เก็บไว้ก็รกใจนายเปล่าๆ” ราวกับรู้ทัน เด็กหนุ่มฉายแววตาพิรุธเมื่อผู้ใหญ่ที่ทำตัวเอาแต่ใจตรงหน้าเขาจับได้ ยอมควักไฟแช็คออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมๆกันอีกฝ่ายที่กำลังตอกมวนบุหรี่ออกจากซองอย่างชำนาญ มืออีกข้างแบลงตรงหน้าเด็กอายุสิบเจ็ดไม่กี่วินาทีก็กำเข้าเมื่อได้รับของที่ตนต้องการ คาบมวนกระดาษอัดไว้ในปากแล้วจุดไฟอย่างที่เคยทำ
จงฮยอนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกรอบแล้วหยิบลูกอมขึ้นมาสองสามเม็ดแล้วยัดใส่มือว่างๆของอีกคน คยูฮยอนหรี่ตามองก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ พ่นควันจนหมดแล้วหันมาพูดกับเด็กน้อย
“ฉันรู้แล้วน่า” พูดพร้อมกับยกกล่องเม็ดอมขึ้นเขย่าจนได้ยินเสียง เป็นอีกครั้งที่จงฮยอนก้มหน้าเพราะรู้ไม่ทันคยูฮยอนสักที
“คุณชื่ออะไร”
“คยูฮยอน”
“นามสกุลล่ะ”
“นายจะอยากรู้ไปทำไม จะขอทุนการศึกษาจากฉันหรือไง” อีจงฮยอนไม่ชอบให้ใครดูถูกหรือพูดล้อเล่น เพียงแค่สิ่งที่คยูฮยอนกำลังพูดมันแทงใจดำเขาเต็มๆ “ฉันมันพวกยาจกไม่ต่างจากนายหรอก.. อี จงฮยอน” พ่นควันฉุนออกครั้งสุดท้ายแล้วจึงจิ้มมวนบุหรี่สั้นลงบนหน้าทราย
“ฉันต้องกลับโรงแรมแล้ว”
“พรุ่งนี้คุณจะกลับไปที่นั่นอีกหรือเปล่า”
“หืม? ที่นั่นงั้นเหรอ..ที่ไหนกันล่ะ” คยูฮยอนยิ้มกริ่มพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จงฮยอนลุกขึ้นตามพร้อมกับจ้องไปบนใบหน้าคนอายุมากกว่า
“ที่เราเจอกันเมื่อกี้ไง”
“นี่เบอร์โทรฉัน ถ้าอยากเจอเมื่อไหร่ก็โทรหาล่ะ” พูดพร้อมกับหยิบเอานามบัตรจากกระเป๋าสตางค์ยัดใส่กระเป๋าเสื้อคอปกของเด็กหนุ่ม
“.......................?”
“เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องกลับโซลแล้ว”
ความคิดเห็น