ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` *BREAK UP;/ WONKYU&LEETEUK

    ลำดับตอนที่ #5 : `5th break up_ (แขกพิเศษ)

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 55


     

     
    -4-

     

     

                ร่างสูงโปร่งในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงขายาวนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ไม้สีขาวริมระเบียงในโซนที่จัดไว้ให้สูบบุหรี่ มือเรียวคีบมวนกระดาษไว้ที่สองนิ้วพลางยกขึ้นสูดควันพิษเข้าปอดอย่างใจเย็นแล้วพ่นออกมาช้าๆ ดวงตากลมเรียวทอดมองออกไปยังแสงสีแห่งกรุงโซลยามค่ำคืน รถราที่แข่งวิ่งก็เริ่มจะลดน้อยลงเรื่อยๆ...

     

                สูดเข้าปอดครั้งสุดท้ายแล้วเอื้อมไปขยี้บุหรี่ที่โถข้างๆแล้วได้แต่พ่นออกมา... มือทั้งสองข้างสอดประสานกันไว้หลวมๆ

     

    ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดแบบนี้กันนะ ? ...

     

                ขยับเปลี่ยนท่าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา นี่ก็ปาไปตีสามกว่าแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมานั่งเล่นตรงนี้ได้นานเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง อากาศที่ว่าจะดีหรือก็ไม่ มีแต่กลิ่นบุหรี่ที่ต่างคนผลัดกันหมุนเวียนมานั่งสูบบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... เขาก็เลือกที่จะนั่งนิ่งๆมองไปรอบๆอยู่ดี

     

     

     

     




     

                ยิ่งเข้าเวลาผับใกล้ผิดยิ่งด้วยแล้วทำให้ความเงียบมันเข้าปกคลุมจากชั้นล่างมาสู่ชั้นบนได้ คยูฮยอนลุกขึ้นจากตรงนั้นแล้วเดินกลับมายังเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มแบบเดิมมาอีกสักแก้ว เวลาเงียบๆแบบนี้ก็ดี ที่หนีไปข้างบนมาก็เพราะมันเสียงดังยังไงล่ะ

     

                สอดนิ้วเรียวเข้ารองก้นแก้วแล้วยกขึ้นจิบช้าๆ ดวงตาเรียวหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด กวาดมองขวดไวน์ที่เรียงรายอยู่ที่ชั้นฝั่งตรงข้ามด้วยความตั้งใจ....

     

    เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                ดวงหน้าเรียวหันไปมองที่มาของเสียงแล้วต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยปัดแก้วเหล้าผสมในมือนั่นทิ้งลงพื้น ใบหน้าคมสันที่ตอนนี้แดงด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ คยูฮยอนหยุดนิ่งคิดกลอกตาไปมาก่อนจะวางแก้วไวน์ในมือลงแล้วเดินเข้าไปหา

     

                “มาทำอะไรที่นี้” สายตาคาดโทษถูกส่งออกไปมองเด็กหนุ่มที่เสตากลับมามองคยูฮยอน

     

                “.................................”

     

                “ทำไมไม่ยอมตอบ หรืออยากจะให้แจ้งฝ่ายปกครอง”

     

                “...................................” ซีวอนไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา จะมีก็แต่ตาเข้มที่จ้องหน้าของร่างโปร่งไว้นิ่งปากอิ่มเม้มเข้าหากันก่อนจะเอื้อมมือไปตบเข้าที่แก้มแดงของอีกคนแรงๆให้ตื่นเสียที พร้อมกับมืออีกข้างที่ชี้หมุนวนเข้ากับเครื่องดื่ม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     






                “ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมพยุงเค้ามา ถ้าไม่ได้คุณผมแย่แน่ๆเลยจริงๆครับ” เสียงนุ่มกล่าวขึ้นหลังจากที่ปิดประตูรถฝั่งคนนั่งเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆที่ผุดขึ้นบนใบหน้า

     

                “ไม่เป็นไรครับ ผมดูท่าแล้วเจ้าเด็กนี่เมามากจนคุณเองที่ตัวใกล้ๆกันยังลำบากเลย” ชายหนุ่งร่างโปร่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับกลั้วหัวเราะ เขาหยิบนามบัตรออกจากกระเป๋าหนังสีน้ำตาลบเล็กแล้วยื่นให้กับคยฮยอน

                “พอดีว่าผมเพิ่งมาเปิดแกลอรี่อยู่แถวๆนี้พอดี ถ้าเกิดว่าคุณสนใจ...”

     

                “อ่า... คุณทำงานเกี่ยวกันศิลปะหรอครับ ผมเพิ่งทำงานเป็นครูหัดสอนศิลปะพอดีเลยครับ” มือเรียวรับนามบัตรมาอ่านอย่างสนอกสนใจพร้อมกับรอยยิ้มที่แย้มกว้างขึ้นอีก “คิม...”

     












                “คิมฮีชอลครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               



     

                ร่างโปร่งที่ยืนเอามือเท้าเอวขมวดคิ้วมองร่างเด็กหนุ่มที่นอนแผ่หลาหมดสภาพอยู่บนเตียงของเขา มือเรียวยกขึ้นปิดจมูกไว้กันกลิ่นเหม็นเหล้าที่คลุ้งไปหมด เดินกลับไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้เพราะมองเห็นเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้าหล่อก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     

     




                นอนอีกห้องก็ได้............

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

     









     

                เปลือกตาหนาค่อยๆกระพริบปรับสายตาที่พร่ามัวตั้งแต่ดึกเมื่อคืนแล้ว ลืมขึ้นเต็มตาก็เห็นเพดานสีขาวสะอาดที่เว้าลึกเข้าไปติดโคมไฟที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมแน่น ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขา ไม่ใช่บ้านของคิบอมหรือเพื่อนคนไหนๆ หืม ?

     

                ค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหมอนใบโตไว้ กวาดสายตามองไปรอบห้องนอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องล้วนเป็นสีขาวดูสะอาดเรียบร้อยซีวอนยกมือขึ้นนวดขมับและท้ายทอยของตนเบาๆให้รู้สึกตัวแล้วค่อยๆก้าวขาออกจากเตียงแต่เสียงเปิดประตูก็ดังเข้ามาเสียก่อน

     

                “ตื่นแล้วหรอ ?”

     

                อาจารย์คยูฮยอน....................

     

                ใช่สินะ........... เมื่อคืนนั่นไง.........

     

                “ตัวนายเหม็นไปหมดแล้วล่ะ” เข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลงเสียงเบา ร่างโปร่งจัดแจงวางผ้าขนหนูผืนใหญ่พร้อมกับเสื้อผ้าที่พอจะหาให้อีกคนใส่ได้วางไว้บนโต๊ะ “เข้าไปอาบน้ำก่อนสิ”

     

                ว่าเสร็จก็รีบออกจากห้องไปโดยที่ซีวอนเองก็ยังจูนแทบไม่ทัน มือหนายกขึ้นป้องปากหาวหวอดใหญ่แล้วขยี้หัวตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเก้ๆกังๆ

     

     

     

     

     









                ร่างสูงของชเว ซีวอนเดินออกมาจากห้องนอนด้วยท่าทางงัวเงีย กลิ่นสบู่และแชมพูสระผมหอมอ่อนจางๆโชยมาเรียกให้คยูฮยอนละสายตาจากแผนการสอนมองไปยังร่างสูงที่ยืนพิงประตูห้องนอนที่เขาเพิ่งเปิดออกมาเมื่อครู่

     

                “ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มานั่งนี่สิ”

     

                คยูฮยอนว่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบพอๆกับสายตาที่ส่งไปหาเขาจนต้องเนรเทศตัวเองจากที่ที่เคยยืนทำหล่อเต๊ะจุ้ยไปนั่งตรงข้ามอาจารย์หนุ่มคนใหม่

     

                “เมื่อคืน.... ที่นั่น... อายุนายถึงพอที่จะเข้าสถานที่แบบนั้นแล้วหรือไงกัน ?”

     

                “ใครก็เข้าทั้งนั้นแหละครับ”

     

                “อย่าเถียงครู”

     

                “.......................................” ได้แต่นั่งเงียบๆสินะ...

     

                “ครูพอเดาออกแล้วล่ะว่านายคงทำแบบนี้หลายครั้งจนกลายเป็นนิสัยไปซะแล้ว นั่นก็เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ครูก็ไม่ว่าหรอก เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กผู้ชาย ครูเองก็เป็น” เอ่ยไปพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเอื้อมมือไปตบเข้าที่ไหล่เด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู

     

                “แต่หนักไปก็ไม่ดีหรอกนะ สภาพแย่จนเขาคิดว่าเป็นหมาเสียอีก 555555555555555555555555555555555555555555555

     

    555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

     

    ครับ อาจารย์.......

     

    “หิวข้าวหรือยังล่ะ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว” ว่าไปมือก็รวบกองกระดาษเข้าหากันแล้วจัดให้เรียบร้อยวางกองไว้บนโต๊ะรับแขกที่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยกองเอกสารแก้วปากกาดินสอ แทนที่โต๊ะทำงานจะรกกลับเป็นโต๊ะรับแขกที่รกเสียเอง

     

    “ให้ผมช่วยเก็บหรือเปล่าครับ” ซีวอนทำท่าจะเอื้อมมือมาช่วยจัดการกับของเหล่านั้นทั้งที่เขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเอาไปไว้ส่วนไหนของที่นี่ แต่ความอยากช่วยมันล้นปริ่มเต็มอก แต่ทันที่มือจะเข้าไปหยิบแก้วใส่ปากกาก็ถูกมือเรียวจับไว้ก่อนแล้วจึงดันออกทันที

     

    “ครูชอบทำงานไปด้วยดูโทรทัศน์ไปด้วยน่ะ ไว้ตรงนี้แหละ” พูดจบก็ค่อยๆละมือออกจากอีกฝ่ายช้าๆ ร่างโปร่งลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัวแล้วหยิบอาหารแช่แข็งสองกล่องออกมาจากตู้เย็นก่อนจะยัดเข้าใส่ไมโครเวฟอย่างเคยชิน

     

    “อาหารแช่แข็ง.....คงไม่ว่ากันนะ ?” เงยหน้าหลังจากเก็นเศษถุงพลสติกลงถังขยะพร้อมกับส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ตามมายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์

     

    “ค...ครับ ไม่เป็นไร เวลาที่ผมมีงานรีบผมก็กินมันตลอดอยู่แล้ว” ซีวอนผายมือไปข้างหน้าเป็นสัญลักษณ์ว่าได้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้สูงก่อนจะเท้าคางมองเวลาที่ค่อยๆนับถอยหลังของไมโครเวฟ

     

    “วันเสาร์ไม่ออกไปเที่ยวหรือยังไง ?”

     

    “ผมชอบนอนอยู่บ้านมากกว่าล่ะครับ”

     

    “ก็วันศุกร์นายเล่นเมาเหมือนหมาขนาดนั้น วันเสาร์มาจะไปมีแรงไปเที่ยวไหนได้กันล่ะ” สวมมือเข้าไปในถุงมือผ้ากันร้อนแล้วหยิบอาหารแช่แข็งที่กลายเป็นอาหารร้อนจัดส่งกลิ่นหอมให้คนตรงหน้าแล้วค่อยวางของตนเองไว้ฝั่งตรงข้าม

     

    “เหลือแค่นี้ล่ะนะ คงต้องออกไปซื้อกันแล้วล่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    การได้ใช้เวลากับใครสักคนนานๆ

    มันทำให้ตัวเองเปลี่ยนใจได้....

    อย่างนั้นน่ะหรือครับ ?

     

     





     

     

     

    ร่างโปร่งของคยูฮยอนที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สีเข้มและซีวอนที่ออกมาข้างนอกในชุดของอีกคน ใส่แล้วมันก็ดูเล็กไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้นหรอก.......

     

    “อาจารย์ทำอาหารไม่เป็นหรอครับ” ซีวอนเอ่ยขึ้นในระหว่างที่คยูฮยอนยืนเลือกขนมปังและแยมอย่างใจเย็น

     

    “..........ก็ทำเป็นอยู่อย่างสองอย่างน่ะ”

     

    “.........................” ทำได้แค่พยักหน้าเข้าใจ

     

    “สปาเก็ตตี้............. ถ้านายจะอยู่ทานมื้อเย็นน่ะนะ”

     

    จริงๆแล้วคยูฮยอนเป็นคนที่ใจดีมากๆต่างหากล่ะ..........................

     

     

     

     

     

    “นายชอบซอสอะไร”

     

     “ซ......ซอสหรอครับ อะไรก็ได้ครับผมทานได้หมดอยู่แล้ว” ว่านอนสอนง่ายปั้นยิ้มกว้างใส่อาจารย์ คยูฮยอนพยักหน้ารับแล้วเลือกหยิบเครื่องปรุงซอสตามใจตัวเองตามที่อีกฝ่ายบอกว่าอะไรก็ได้จนซีวอนได้แต่แอบกลั้นหัวเราะเพราะคยูฮยอนเอาแต่ขมวดคิ้วอ่านฉลากอย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้ได้ของตามที่ต้องการ

     

     






     

     

     

     

    เวลาแห่งความสุขมันมักเดินผ่านไปเร็วเสมอนั่นแหละ

     

    เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นในใจของซีวอน วัตถุดิบในการทำมื้อค่ำวันนี้กองเกยกันอยู่บนรถเข็น ที่ขาดไม่ได้นั่นคือของสำคัญ อาหารแช่แข็งนั่นล่ะ เป็นสิ่งที่คยูฮยอนบอกเขาว่าขาดไม่ได้เพราะไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดที่จะทำกินเองเพราะเขาไม่ใช่พวกแม่บ้าน ฟังแล้วก็น่าขำ ผู้ชายทำอาหารมันแปลกตรงไหนกัน ?

     

    ร่างสูงของเด็กหนุ่มและร่างโปร่งของอาจารย์คยูฮยอนช่วยกันหอบถุงพะรุงพะรังคนละสามสี่ใบเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเล คยูฮยอนเองก็เดินออกเซอยู่เล็กน้อยเพราะไม่ค่อยออกกำลังกายเรี่ยวแรงเลยสู้คนอื่นเขาไม่ค่อยจะได้ จัดการกับของสดเข้าตู้เย็นหลังใหญ่เรียบร้อยแล้วก็ขอดื่มน้ำแล้วนั่งพักสักหน่อยแล้วค่อยทำมื้อค่ำทานกัน

     

    ซีวอนเองที่แอบดีใจอยู่เล็กน้อยที่ได้อาศัยชายคาของอาจารย์หนุ่มบนตึกสูงชั้นสิบห้าที่มองออกไปก็เห็นทิวทัศน์รอบเมือง ทำให้ได้แต่นึกในใจว่าคืนนี้อยากจะเมาอีกสักยกจะได้นอนค้างที่นี่เสียเลย

     

    “อา.... จะหนึ่งทุ่มแล้ว ถ้าดึกกว่านี้นายจะกลับบ้านยังไงล่ะ” คยูฮยอนที่เป็นห่วงนักเรียนอย่างเขาเหมือนกับเป็นเด็กประถมที่ต้องคอยให้พ่อแม่รับส่ง ก็เขาน่ะตัวคนเดียวอยู่แล้ว บ้านช่องมีไว้ซุกหัวนอนเท่านั้นล่ะ ความอบอุ่นมีซะที่ไหน

     

    ซีวอนเลิกคิ้วมองอาจารย์หนุ่มที่แสร้งหัวเราะก่อนที่จะหันกลับไปยุ่งกับการทำมื้อเย็น นี่กะจะไม่ฟังคำตอบของเขาเลยหรือยังไง ร่างสูงของซีวอนเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างหลังของคยูฮยอนอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบพอไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน มือทั้งสองข้างประสานกันไว้อย้างหลังหลวมๆแล้วชะเง้อหน้าแทรกไหล่ลาดของอีกฝ่ายไปสูดกลิ่นหอมของมะเขือเทศ

     

    “หอมจังเลยครับอาจารย์...” เพียงแค่ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วที่ข้างใบหูคยูฮยอนก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แม้แต่จะคนซอสยังต้องหยุดมือลง

     

    “นายไปนั่งรอก่อนสิ เกือบจะเสร็จแล้วล่ะ” ซีวอนยอมทำตามคำสั่งที่อาจารย์บอก เขาเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ไม้สีอ่อนก่อนจะเท้าแขนแล้วเคาะนิ้วเข้ากับโต๊ะเบาๆให้เสียงดังคล้ายนาฬิกา

     

    คยูฮยอนคีบเส้นขึ้นจากถ้วยใบใหญ่จัดใส่จานสองใบแล้วค่อยราดซอสลงไปอย่างพิถีพิถันก่อนจะยกไปวางลงบนโต๊ะอาหารที่มีแจกันดอกเดซี่วางอยู่ตรงกลาง ซีวอนทำท่าสูดกลิ่นหอมของมื้อค่ำแล้วก็ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มจนอาจารย์หนุ่มต้องยิ้มตาม

     

    “นี่คือเมนูพิเศษที่ครูจะนำเสนอนายเลยนะ ยังไม่เคยทำให้ใครทานบ้างเลย นายน่ะเป็นคนแรกเชีวนะ อย่าเที่ยวไปบอกใครว่ามันห่วยล่ะเข้าใจไหม?”

     

    “มันไม่ห่วยหรอกครับ ผมเชื่อใจครูอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับจับส้อมม้วนเส้นแล้วงับเข้าปาก คยูฮยอนเองก็ลุ้นจนตัวโก่งว่าจะโชว์ห่วยใส่เด็กอายุสิบเจ็ดหรือเปล่าเพราะซีวอนเอาแต่ทำหน้านิ่งตลอดเวลาที่เขาเคี้ยวอยู่

     

    “เป็นยังไงบ้าง อร่อยล่ะสิ” ร่างโปร่งเอ่ยเสียงนิ่งแกมข่มขู่ให้อีกฝ่ายตอบว่าอร่อย แต่เขามั่นใจว่ามันอร่อยไม่ต่างจากใครทำหรอก เพราะเขาชิมอยู่ตอดเวลาเพื่อความแน่ใจ แต่ไม่รู้จะถูกปากซีวอนหรือเปล่านี่สิ

     

    “ไม่อร่อยเลยครับ....”

     

    “เด็กขี้โกหก”

     

    “ผมพูดจริงนะครับครู”

     

    “อย่ามาโกหกเลย นี่มันของอร่อยดีๆทั้งนั้น” คยูฮยอนเริ่มขึ้นเสียงดังเมื่อซีวอนไม่เลิกพูดว่ามันไม่อร่อยซักทีในเมื่อเขาก็ชิมจนจะอิ่มอยู่แล้ว ดวงตาเรียวขมวดเข้าหากันพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่ทำท่าจะเบะออก ได้คำตอบเพียงเสียงหัวเราะของชเวซีวอนจนอาจารย์หนุ่มต้อวหันไปทำหน้าขรึมใส่

     

    “...................................” มีแต่ตาของซีวอนที่กลอกไปมาแล้วนิ่งเงียบ คยูฮยอนเองก็รู้สึกงอนที่โดนเด็กแกล้ง

     

    “กินเข้าไปให้หมดเลยนะ”

     

     

     

     

     

    “...................ก็ได้ครับ . _.

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     

                หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คยูฮยอนก็อาสาขับรถมาส่งเด็กในการอบรมมาส่งถึงที่บ้าน มินิคูปเปอร์สีขาวคันเล็กจอดเทียบที่หน้าประตูบ้านของอีกฝ่ายช้าๆ คยูฮยอนเอื้อมมือไปหยิบถุงกระดาษที่ใส่เสื้อผ้าของซีวอนที่ซักจนกลิ่นหอมแล้วยื่นให้เด็กหนุ่มพร้อมกับยิ้มบาง

     

                “อยู่คนเดียวหรอ” เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบเมื่อเห็นประตูหน้าต่างของบ้านขนาดกลางถูกปิดไว้เรียบร้อยรวมไปถึงไฟที่ยังไม่ถูกเปิดเลยแม้แต่ดวงเดียว

     

                “อ่า......ครับ”

     

                “อยู่ในหมู่บ้านแบบนี้.....อยู่คนเดียว.....”

     

                “อาจารย์กำลังจะถามว่าผมกลัวหรือเปล่าน่ะหรอครับ”

     

                “ก็คงจะใช่....”

     

                “ไม่หรอกครับ ชินแล้ว” มือหนาเอื้อมไปจับประตูรถทันทีที่ตอบคำถามเสร็จแต่กลับถูกคยูฮยอนจับมือเอาไว้ก่อน

     

                “พ่อกับแม่ล่ะ”

     

                “ไม่มี”

     

                “...................”

     

                “ผมไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันวัน..”

     

                “ขอครูเข้าไปข้างในก่อนได้มั้ย ?”

     

     
















    มาแล้วค่า ไม่ได้อัพเดือนนึงพอดีเลย

    พาร์ทนี้ขอแบบกรุบกริบไม่มีอะไร กลัวว่ามันจะน่าเบื่อ ._ .

    บ๊ายบาย (วาร์ป)

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×