คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์วัดเกตุการาม
ผมได้เข้าไปสอบถามประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์วัดเกตุแห่งนี้ว่าเป็นมาอย่างไร จากนั้นคุณลุงก็ได้นั่งคุยเล่าเรื่องราวต่างๆเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรโดย ที่คุณลุงไม่รู้สึกเบื่อที่จะเล่าและถ่ายทอดออกมา
คำว่าพิพิธภัณฑ์วัดสระเกตุ ใช้เมื่อวันที่เปิดพิพิธภัณฑ์เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2542 แต่เดิมในพื้นที่ตรงนี้เป็นกุฎิเก่าของเจ้าอาวาศพระครูบาศรีลวิมล คั่นเป็นห้องๆแต่ละห้องมีพระเณรอยู่ห้องละสององค์ และไม่มีไฟฟ้าเชื่อมต่อมาภายในเลยเพราะโครงสร้างมันเป็นไม้เกรงว่าจะเกิดเพลิงลุกไหม้ได้ง่าย
หลังจากเจ้าอาวาศคนแรกมรณภาพ ก็ได้พระครูญาณารการจำพรรษาอยู่ ส่วนพระเณรก็มีทั้งเด็กโตเด็กเล็กมีการจับกลุ่มมั่วสุมกัน ทั้งสูบบุหรี่ คือเด็กพวกนี้ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร คณะกรรมการวัดเห็นไม่เหมาะไม่ควรเลยปิดกุฎิแห่งนี้และนิมนต์พระบางรูปไปอยู่ที่อื่น และได้เอาตรงนี้มาทำเป็นโกดังเก็บของ ทั้งโต๊ะเก้าอี้เก่าๆ ปิดกุฎิแห่งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 และไม่มีการใช้งานในส่วนนี้ตั้งแต่นั้นมา
ภายในนั้นมืด ครึ้ม ชื้น ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้า จนถึงขนาดมีคนคิดที่จะรื้อทิ้งโดยมีการร่างแบบแปลนตึกใหม่นั้นเป็นโครงสร้าง ปูนสามชั้น แต่คณะกรรมการบางคนไม่ยอมแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับกุฎิแห่งนี้ จะปิดตายไปเลย ให้มันพังไปเอง เพราะข้างในนั้นซ่อมแซมยากไม่มีส่วนที่เป็นตะปู เพราะเป็นไม้ประกอบแผ่นใหญ่ๆด้านบนเท่านั้น และเมื่อมีคนเห็นว่ากุฎิแห่งนี้เป็นสมบัติของแผ่นดิน คือ คุณตาแจ็ค ลูกครึ่งไทย อังกฤษ ได้เห็นความสำคัญของกุฎิไม้แห่งนี้ซึ่งทุกวันนี้จะหาได้ยาก จึงขออนุญาติคณะกรรมการจะปรับปรุงอนุรักษ์เชิงพัฒนานาครึ่งนึง โดยได้ทำหนังสือไปถึงเจ้าคณะอำเภอและจังหวัด
และทางจังหวัดก็ได้ส่งเลขามาเปิดกุฎิแห่งนี้ดู ปรากฎว่าพอเปิดมาแล้วไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างในเลยด้วยสภาพที่ปิดตายมาหลายปี ทั้งๆที่กลางวันแดดจ้ายังต้องใช้ไฟฉายส่องข้างใน สุดท้ายก็มองดูว่าโครงสร้างยังสามารถพัฒนาไปได้ไม่มีปลวกกินเพราะเป็นไม้ประดู่ คุณลุงบอกว่าสมัยก่อนถ้าเค้าจะคัดเลือกไม้มาสร้างอะไรต้องคัดไม้ที่มีคุณภาพ เท่านั้นไม่เหมือนสมัยนี้
เเละการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดเกตุการาม ก็เริ่มขึ้นตั้งเต่วันนั้นเป็นต้นมา...
KiT Ta
ความคิดเห็น