คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Galaxy NGC 3370.
그리울때 눈감으면 더 잘보이는 그런사람 잊으려 하고 지우려 하면 더 많이 생각 나는 사람
ยามที่คุณหลับตาและคิดถึงเขา คุณจะเห็นเขาคนนั้นได้อย่างชัดเจน ยามที่คุณพยายามที่จะลืมและลบเขา
คุณก็จะยิ่งคิดถึงเขาคนนั้นมากขึ้น
그사람 꼭 올거라고 내 가슴에 해로운 거짓말을 하고 꼭 올거라고 말은 안했지만 기다릴 수 밖에 없는 사람
แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกคุณว่า เขาจะมา แต่คุณก็คือคนที่รอเขาอยู่ ผมบอกตัวเองว่า เขาคนนั้นจะต้องมา ผมกำลังโกหกหัวใจตัวเองอยู่
Love sick – FT. island
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา……
“ ขาดเหลืออะไรก็บอกป๊านะเข้าใจมั้ย “ เสียงปลายสายในไอโฟนเครื่องหรูกล่าวขึ้น ตอนนี้เกือบบ่ายสามโมงที่โซล แสงอาทิตย์ยังคงสว่างจ้าในฤดูใบไม้ผลิ ลู่หานท้าวแขนกับระเบียงคอนโดมิเนียมชั้น12ที่ป๊าของเขาซื้อไว้ย่านแถบเมียงดง ย่านธุรกิจสำคัญของโซลตามแผนความคิดของนักธุรกิจที่กะไว้เก็งกำไรในอนาคต เขาตอบรับคำสั่งแล้วคุยด้วยอีกเล็กน้อยก็วางสาย แบคฮยอนกำลังเอกเขนกมองดูเอกสารนับสิบแผ่นบนพื้น ใบหน้าหวานซบลงกับแขนตัวเองในคณะที่นิ้วเรียวยังคาอยู่บนแป้นคีย์บอร์ดแมคบุ๊ค
“ ตายแน่ ตายแน่ๆ ตายสถานเดียว “ คนตัวเล็กพึมพำจนพี่คนโตต้องเดินไปดู เขายิ้มแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“ เป็นอะไรป๋าย ใจเย็นๆก่อน“
“ มหาลัยทำไมไกลจากที่นี้แบบนี้ พี่ดูสิเดินทางแค่รถไฟใต้ดินก็สามสิบนาทีแล้วไม่รวมต้องเดินมาที่สถานี ฝ่าฟันมนุษย์ป้าระดับบอสขึ้นรถแถมเดินกลับถึงคอนโด ไม่ต่ำกว่าชั่วโมงกว่าแน่ๆ โอ้ยยยยยยยยยย “
แบคฮยอนกลิ้งไปมากับพื้นแล้วขยี้หัวจนไม่เป็นทรง เขาเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยฮงอิกในย่านชินซอน คณะบริหารธุรกิจเพื่อจะได้ไปช่วยงานในบริษัทของป๊า ซึ่งถ้านับดีๆก็โคตรห่างจากที่นี้เลย คำนวณดูการเดินทางไปกลับน่าจะวันล่ะเกือบสามชั่วโมง เขาต้องตายก่อนแน่ๆ เมื่อก่อนบ้านกับโรงเรียนห่างกันสิบห้านาทีเขายังบ่นแทบตาย
“ หื้อ แล้วจะทำยังไงล่ะ “ เขามองแผนที่รถไฟใต้ดินที่ยึกยือเหมือนหนอน โอ้ย ทำไมรถไฟมันหลายสถานีแบบนี้เนี่ย แบคฮยอนทึ้งหัวอีก
“ บยอนแบคฮยอนต้องตายแน่ๆๆๆ แงงงงงงงงงงง “ งอแงเป็นเด็กๆ เขาลูบหัวน้องแล้วมองตารางเรียนที่กำลังจะเปิดในอีกสองอาทิตย์ ไวชะมัด หลังจากที่เขาขอป๊าว่าจะมาที่เกาหลี ป๊าก็ไปจัดการยื่นเกรดและเอกสารของแบคฮยอนให้ทางมหาวิทยาลัยเสร็จสรรพ โชคดีที่แบคฮยอนเกรดค่อนข้างดีและรู้ภาษาเกาหลีอยู่แล้วเลยไม่ยากที่จะได้เรียนที่นี้ ลู่หานมองไปรอบๆห้อง ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วเขาคงดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี้แล้วตามคริสในทุกวัน เห็นรอยยิ้มของคนนั้นในทุกวัน
“ พี่ลู่อ่า หน้าเศร้าอีกแล้ว ยิ้มนะๆๆๆๆ “ แบคฮยอนเผลอละความเครียดของตัวเองและดึงแก้มพี่ชายที่หน้าเริ่มเศร้า อาทิตย์นี้ลู่หานยังดีขึ้นมาบ้าง กินข้าวกินปลาแต่ก็ไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน ถ้าได้อยู่คนเดียวก็เหม่อตลอดเวลา
“ ยิ้มแล้วหน่า เอาเรื่องตัวเองก่อนเถอะ ถ้ามันไกลขนาดนี้ ป๋ายก็ต้องอยู่หอแถวมหาลัยแทนแล้วแหละ “ ก็คงเป็นทางเลือกเดียว แบคฮยอนบะปากจะร้องไห้
“ ไม่อยากอยู่คนเดียว กลัวผี ไม่เอา จะอยู่กับพี่ลู่ “ โผเข้ากอดจนแทบล้มไปด้วยกัน ลู่หานหัวเราะเสียงใสในรอบอาทิตย์แล้วผลักน้องออก
“ หยุดนะป๋าย พี่หายใจไม่ออก ฮ่าฮ่า “ พยายามผลักน้องตัวเล็กออก แบคฮยอนละออกมาชันเข่าแล้วทำหน้าจะร้องไห้ต่อ
“ ไม่เอาอ่ะ เค้าไม่เคยอยู่คนเดียว เค้ากลัวผี “ ยังย้ำคำเดิม ลู่หานกอดคอแบคฮยอน
“ ป๋ายก็ยังกลับมาหาพี่เสาร์อาทิตย์ได้หนิ วันไหนมีเรียนตัวเดียวก็มานอนกับพี่ วันไหนพี่ไม่มีงานก็จะไปนอนกับป๋ายไง “ พูดหว่านล้อม ลู่หานตัดสินใจรับงานแปลเล็กๆน้อยๆจากบริษัทอาของซิ่วหมินที่พึ่งเปิดตลาดที่เกาหลี ข่าวดีมากๆก็คืออีกไม่นานซิ่วหมินจะได้มาทำงานที่โซลเมื่อฐานการผลิตแข็งแรงและยังมีงานแปลพวกวารสารที่อาจารย์ประจำภาควิชาติดต่อหาให้อยู่เนื่องๆ เขาไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้วเพราะยังมีเงินเก็บอยู่มากและคงไม่ได้ใช้เงินเพื่อบินตามคริสมากมายเหมือนแต่ก่อน
“ มันไม่เหมือนกันนี่นา “ บ่นงุ้งงิ้งแล้วทำหน้าหงอย มือเล็กลูบไหล่บางของน้อง
“ แล้วป๋ายมีวิธีดีกว่านี้มั้ย ถ้ามีก็บอกพี่มา เรามาคุยกันแบบผู้ใหญ่นะ ตัวเองโตแล้วนะ ปีหนึ่งแล้ว “ ต้องใช้ไม้แข็งกันบ้างไม่งั้นก็ไม่โตซะที แบคฮยอนนิ่งไปนานๆแล้วถอนหายใจ
“ ไม่มี “ ตอบแล้วทรุดนอนกลิ้งกับพื้นอีกรอบ ลู่หานลูบผมนุ่มสลวยสีคาราเมลของคนเป็นน้อง
“ โอเค งั้นเราไปหาหอกัน เอาแบบหรูๆเลยมั้ย “
“ พี่จ่ายนะ “
“ พ่อจ่ายต่างหาก “ เรียกเสียงหัวเราะกลับมาได้หน่อย ทั้งคู่ลุกขึ้นไปหยิบฮู้ดมาใส่ วันนี้อุณหภูมิสิบเจ็ดองศาสบายๆ หยิบข้าวของเล็กน้อยใส่กระเป๋าสะพายบ่าแล้วเดินออกจากคอนโดแค่ไม่ถึงห้านาทีก็ถึงสถานี แบคฮยอนจัดการเรื่องตั๋วแล้วทั้งคู่ก็อยู่บนรถไฟใต้ดินที่กำลังมุ่งหน้าไปชินซอนย่านฮงแด
“ พี่ลู่ เค้าขออะไรตัวเองอย่างนึงได้มั้ย ไหนๆวันนี้ก็ออกมาข้างนอกแล้ว “ พูดเสียงหวานกับอีกคนที่พยายามทำความเข้าใจกับแผ่นที่รถไฟใต้ดิน ลู่หานเบิกตากวางของตัวเองกว้างเป็นเชิงถาม
“ ตัวเองห้ามโกรธหรือเศร้านะ “ เขาขมวดคิ้วแต่ก็พยักหน้า
“ ตัวเองต้องอย่าหาว่าเค้างั้นงี้นะ “ เขาพยักหน้าอีก
“ ตัวเองต้องโกรธเค้าแน่ๆเลย “
“ ถ้าไม่พูดมาซักทีนี้แหละจะโกรธ “ ดีดหน้าผากน้องตัวเองไปทีนึง แบคฮยอนกัดปากแน่นแล้วยิ้มแห้งๆ
“ พาเค้าไปตึกMSE.หน่อยได้มั้ย เค้าอยากเห็นเซฮุนตอนเข้าตึกบ้าง “
MSE. Building
“ พี่จะไปรอที่ปาร์คนะ “ ลู่หานพูดแล้วโบกมือในน้องที่ยืนอยู่หน้าตึก พวกเขาพึ่งหาหอใกล้มหาลัยได้ตอนเกือบสองทุ่ม หลังจากเดินหากันมาเกือบสองชั่วโมง หอนั้นค่อนข้างกว้างและสะอาดมากเลยทีเดียว อีกทั้งห่างจากมหาลัยเพียงเดินแค่ห้านาที เขาตรวจเช็คระบบรักษาความปลอดภัยจนน้องเล็กงอนว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมีระบบมากมายอะไรแบบนั้น เจ้าของหอที่เป็นป้าวัยกลางคนท่าทางใจดีก็บอกว่าสามารถย้ายมาทำสัญญาได้เลยเมื่อจะเข้าพัก เขาโล่งใจไปเปราะแล้วพาคนตัวเล็กมาส่งถึงหน้าบริษัทที่คุ้นเคย
“ เดี๋ยวป๋ายจะรีบไปหานะ “ พูดกับพี่ชายเกร็งๆ เขารู้ว่าลู่หานไม่อยากเหยียบที่นี้ด้วยซ้ำแต่จะทำยังไงได้ล่ะ เขาอยากเจอเซฮุนจริงๆหนิ กระแสข่าวมากมายบอกเหมือนกับเหล่าเมมเบอร์ภายในวงรวมถึงยูเนี่ยนใหญ่ๆของเกาหลีกำลังแบนพี่คริสและแบ่งเป็นสองฝั่งกันเลยทีเดียว แบคฮยอนกัดปาก บ้าบอที่สุดแม่.ง
ลู่หานเงยหน้ามองตึกสูงแล้วพ่นลมหายใจออกมา การฟ้องร้องที่ระบุว่าสัญญาบริษัทไม่เป็นธรรมและการหายตัวไปของคนที่เขาตามมาตลอดเกือบสองปี ลู่หานโตพอที่จะไม่ตัดสินอะไรอย่างหุนหัน แม้สมองจะบอกให้เขารอจนกว่าจะรู้ความจริงแต่หัวใจเขาก็เลือกที่จะเข้าข้างคริสอยู่ดี ตลกชะมัดเมื่อคิดถึงประโยคนึงที่บอกว่าถ้าเป็นคนที่เรารัก ต่อให้เขาจะฆ่าคนมาเป็นร้อยคน เขาก็ยังจะเป็นคนดีในสายตาเราเสมอ
ขาเล็กก้าวเข้ามินิมาร์ทแล้วซื้อบุหรี่กับไฟแช็ค EXOคงจะออกจากตึกประมาณสามทุ่มกว่าๆจากการที่แบคฮยอนถามแฟนคลับที่มารอด้วยกันแถวนั้น ถ้าแบบนั้นก็หมายความว่าเขาต้องนั่งรอแบคฮยอนที่สวนสาธารณะใกล้ๆอีกเกือบชั่วโมงโดยไม่มีอะไรทำ ลู่หานไม่ได้เปิดดูเว่ยป๋อหรือทวิตเตอร์ใดๆทั้งสิ้น เขาคุยกับเทียนเท่านั้นเพราะด้วยข่าวลือด้านลบเกี่ยวกับทั้งคริสและEXOที่ไม่อยากแม้จะเห็น บ้านใหญ่ของสมาพันธ์แสดงจุดยืนชัดว่าจะซับพอร์ตคริสรวมถึงเขาด้วย มือบางลูบหน้าตัวเองอย่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อไหร่มันจะจบ เมื่อไหร่เขาจะกลับมา
22.07 pm.
“ ผม-อยาก-กิน-ไก่! อ่านปากผมนะ ผมอยากกินไก่! “
“ เดี๋ยวสั่งให้ตอนถึงหอ เลิกบ่นซะคิมไค “ สงครามย่อยๆเกิดขึ้นมาบนรถ พวกเขาทั้งหกคนแบกร่างเหลวเป็นน้ำของตัวเองขึ้นรถตู้ เพราะคอนเสิร์ตกำลังจะมีในอาทิตย์หน้าแล้วพี่ใหญ่ชาวจีนหายไปทำให้ต้องเปลี่ยนบล็อคกิ้งกันวุ่นไปหมด ทุกอย่างต้องซ้อมใหม่ทั้งหมด พวกเขาเหนื่อยจนต้องร้องขอชีวิตทีเดียว เซฮุนก้าวขึ้นไปนั่งแล้วก้มจิ้มนั้นนี้ในไอโฟนจนรถตู้เคลื่อนออกมา ข้างๆเขาเป็นคิมจงอินที่บ่นว่าอยากกินไก่อยู่ตลอดเวลา เบาะหน้าเป็นพี่ซูโฮที่กำลังฟิกบล็อกกิ้งในไอแพดและเบาะหลังเป็นจือเทา พี่อี้ชิงและพี่ชานยอลที่ยังคงนิ่งเงียบและตาบวมเหมือนอาทิตย์ก่อนทุกอย่าง เขาถอนหายใจ
“ วันนี้แฟนคลับเราเยอะมากเลย พวกเราต้องพยายามทำให้คอนออกมาดีที่สุดเพื่อพวกเขานะ “ ซูโฮพูดแล้วพยายามยิ้มให้ทั้งสามคนเบาะหลังที่ดูเหมือนจะจมอยู่กับความเศร้าจนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆและทั้งรถก็เงียบอีก รถแวนคันใหญ่แล่นมาจนถึงถนนที่ตอนนี้แทบจะไม่มีรถ เซฮุนมองออกไปนอกกระจกอย่างที่เคยทำ
“ เฮ้ย อะไรวะ! “ จงอินร้องเสียงดังเมื่อเพื่อนตัวขาวของเขาพุ่งไปชิดกระจกประตูอีกด้าน เข่าแหลมเหยียบบนตักเขาเต็มๆจนต้องร้องโอดครวญ เซฮุนแนบฝ่ามือกับกระจกแล้วเพ่งสายตาออกไปด้านนอก
“ คนนั้น แฟนไซต์พี่คริส “ ใช่! เขาจำได้ มาสเตอร์นิมแฟนไซต์ของพี่คริสที่มักจะเจอกันเกือบทุกครั้งเวลามีงาน หนุ่มตัวเล็กชาวจีนหน้าหวานและตากวางสีน้ำตาเข้ม คนเดียวกับที่เขาเจอครั้งแรกที่ไปเปิดตัวที่จีน คนเดียวกับที่เขาแอบมองเสี้ยวหน้าที่โผล่พ้นเลนส์กล้องออกมาอยู่เสมอ มาอยู่ทำไมตรงนี้ ?
ทั้งรถหันไปมองทางเดียวกันรวมถึงสามทหารเสือสามทหารเศร้าหลังรถที่ได้ยินคำว่าคริส ตาสีชาของคนตัวสูงมองร่างเล็กที่นั่งอยู่กับเก้าอี้ไม้ริมถนนในความมืดตอนสี่ทุ่ม มีพียงแสงไฟข้างทางที่ส่องจางๆเท่านั้น ปากบางพ่นควันบุหรี่สีเทาขุ่นออกมาตัดกับริมฝีปากสีฉ่ำ ใบหน้าหวานดูซูบลงไปอย่างเห็นได้ชัด คงเป็นเพราะเรื่องพี่คริส
โอเซฮุนรักสัญญาณไฟจราจรสีแดงก็วันนี้ เขามองคนนัยน์ตาเศร้าที่นั่งพ่นควันบุหรี่ เขาเห็นคนตัวเล็กเบิกตากว้างกับโทรศัพท์แล้วรีบทิ้งบุหรี่ที่พึ่งสูบได้ไม่ถึงครึ่งมวน รีบเร่งล้วงขวดน้ำหอมจากกระเป๋ามาฉีดจนฟุ้งแล้วออกมายืนข้างถนนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ มีคนมาหาเขา “ จงอินที่ดันเพื่อนตัวเองไปที่หน้ากระจกสำเร็จพูดแล้วชี้ที่กลุ่มคนที่กำลังเดินมา เซฮุนหรี่ตามอง เขาคนนั้นยิ้มให้ผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงที่เดินมาพร้อมกลุ่มแฟนคลับของพวกเขา
“ นั้นแฟนคลับเราหนิ เหมือนจะเมนมึงด้วยฮุน “ จงอินยังคงรายงานผล เขาเพียงแค่มองนิ่งๆจนกระทั่งทั้งคู่ข้ามถนนมาด้วยกัน ไวเท่าความคิดเขาพุ่งตัวไปที่ด้านหน้ารถ โชคดีที่รถแวนของพวกเขาจอดเป็นคันแรกติดทางม้าลาย นิ้วเรียวคว้าไอโฟนมากดเข้าคาเมร่าก่อนระดมลั่นชัดเตอร์รัวๆ วินาทีนึงคนตัวเล็กหันเข้ามาในรถสบตากับเขา
“ หยุดนะเซฮุน ทำอะไรเนี่ย “ ซูโฮที่พึ่งได้สติรีบดันไอโฟนน้องคนเล็กออกไป ไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้องคนเล็กแอบชอบคนที่เป็นมาสเตอร์นิมแฟนไซต์บ้านพี่คริสมานานแล้ว แต่การที่มาถ่ายรูปคนนั้นในระยะประชิดโดยที่เขาอาจรู้ตัวแบบนี้ก็ไม่เป็นผลดีกับภาพลักษณ์ของตัวน้องเขาเอง
“ มึงหนักแล้วเพื่อน “ จงอินคว้าคอเพื่อนที่แทบจะพุ่งชิดกระจกหน้ารถมานั่งที่เดิม เซฮุนถอนหายใจก่อนพิงเบาะหนังนุ่ม มือเรียวกดไล่ดูรูปในแกลอรี่
“ อย่าทำแบบนี้อีกนะโอเซฮุน “ พี่ใหญ่ของวงสั่งเสียงเฉียบแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆอีกแล้ว ทำไมไม่มีใครฟังเขาเลยนะ เซฮุนเลื่อนดูรูปนั้น ความมืดทำให้เห็นอะไรไม่ชัดเลยจริงๆ นิ้วเรียวหยุดที่ภาพที่คนตัวเล็กสบตากับเขาพอที รูปที่เหมือนมองที่กล้องเขา เขาหยุดมองแววตาเศร้านั้นจนรู้สึกตัวอีกทีจนก็เคลื่อนออกไป
“ กูนึกว่าจะไม่ได้เจอเขาแล้ว “ เขาพูดกับจงอินเพื่อนสนิทที่พยายามมองดูรูปของเขา เพราะการที่พี่คริสยื่นฟ้องแปลว่าจะไม่มีงานใดๆจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เขาคิดว่าคนตัวเล็กคงหายไปเลยด้วยซ้ำ จงอินถอนหายใจ
“ งั้นมึงคงเป็นเนื้อคู่เขามั้ง แอบชอบมาสองปีก็ได้เจอกันตลอด “ พูดหยอกแกล้มให้กำลังใจเพื่อน ตาคมมองนิ้วขาวของเพื่อนที่ตั้งรูปนั้นเป็นแบล็คกราวด์ไอโฟน มองผ่านๆอ่าจจะนึกว่าเป็นเพียงฉากสีดำที่มีแสงจ้าของไฟรถแต่ถ้ามองดีๆถึงรู้ว่ามีร่างเล็กกับใบหน้าหวานที่มีตาเศร้ามองเข้ามา ความมืดแทบมองไม่เห็นดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำนั้น เขาว่ารูปนี้ให้ความรู้สึกน่ากลัวและสงสารอย่างแยกไม่ออก
“ กูอยากเจอเขาอีก “ เซฮุนพูดเบาๆก่อนกดล็อคไอโฟน เขาหันไปมองด้านหลังแม้รู้ว่าจะไม่มีอะไร ทำไมถึงยังมาที่นี้อีก ?
_________________________ 50 percent ______________________________
วันต่อมา…….
“ พี่จะรอที่ปาร์คนะ “ คำเดิม แบคฮยอนเสพติดกับการเจอโอเซฮุนไปแล้ว ลู่หานถอนหายใจ เมื่อคืนเจอเซฮุนวินาทีเดียวน้องเขาก็เพ้อทั้งคืนแต่ถ้าได้ยินไม่ผิดเหมือนจะบอกว่าคิมจงอินน่ะหล่อมากๆด้วย เขารับฟังและยิ้มตามน้อยๆเนื่องจากก็เจอกันบ่อยจะตายตอนตามถ่ายรูปคริส แถมคืนนี้ก็ลากเขามาด้วยอีกครั้ง ไม่น่าตกหลุมพรางที่ว่าคนตัวเล็กจะต้องมาเอาเอกสารที่มหาลัยเลยให้ตาย ฉลาดมาตลอดมาพลาดท่าเพราะตาแป๊วๆของบยอนแบคฮยอนตลอดเลย
“ เดี๋ยวเค้าจะเลี้ยงต๊อกกะหม้อไฟคืนนี้น้า “ โบกมือหยอยๆแล้วพุ่งไปที่ตึกแทบจะทันที เขาหัวเราะแล้วเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำ เสียงใสเอ่ยซื้อบุหรี่ยี่ห้อประจำ ให้ตายเถอะ! อาทิตย์นี้จะสูบเยอะไปแล้ว ต้องเพลาๆบ้าง ถ้าติดขึ้นมาคงไม่ดีแน่ เขามองเงาตัวเองในกระจกที่สะท้อนออกมา โทรมชะมัด คืนนี้ขอกินอะไรอร่อยๆต่อชีวิตตัวเองหน่อยเหอะ
ห้องซ้อม……
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! “
“ พี่ครับ จงอินจะตายแล้ว “
“ เพื่อไก่ เพื่อไก่ เพื่อไก่ ไก่จ๋าได้ยินมั้ยว่าเสียงไคคคคคคคคค “ เสียงโหวกเหวกเต็มห้องซ้อมหลังจากการฝึกซ้อมท่าใหม่ที่ต้องเกร็งขาอย่างหนัก จือเทารีบตะโกนบอกซูโฮด้วยท่าทางสนุกๆ คิมจงอินกำลังทรมานแต่ก็ต้องพยายามผ่านไปให้ได้เพราะหัวหน้าวงบอกคืนนี้จะเลี้ยงไก่ทอดและหม้อไฟ ทุกคนกำลังพยายามซ้อมอย่างหนักเพื่อให้คอนเสิร์ตในอาทิตย์หน้าดีที่สุดรวมถึงซ้อมจนไม่มีเวลาเพื่อลืมเรื่องอีกคนด้วย
“ เหลือนายคนเดียวแล้วไค เร็วเข้าจะได้ไปกินหม้อไฟๆๆๆๆ “ เซฮุนเดินมากอดอกหัวเราะเพื่อนผิวแทนที่เหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลาที่พี่สตาฟดัดขา เขานวดขาไปด้วย ไอ้ท่านี้โคตรเจ็บเลยให้ตาย ถ้าจงอินดัดขาเสร็จพวกเขาก็ได้ไปกินหม้อไฟกันตามสัญญาของพี่ซูโฮ ดวงตาคมหลุบลงเมือนึกถึงพี่ใหญ่ชาวจีนที่ชอบกินหม้อไฟ
“ หม้อไฟของแท้ต้องปักกิ่งสิ เดี๋ยวไปจีนกันจะพาไปกิน “
“ โห นานเลยอ่ะพี่ กว่าจะได้ไปจีนครบเจ็ดคนก็ต้องรอคัมแบ็คอัลบั้มใหม่อีก “
“ อย่าไปเชื่อพี่คริสเลยเซฮุนนา เขาแค่หาข้ออ้างไม่อยากเลี้ยง “
“ เลี้ยงได้อยู่แล้ว เด็กอ้วนชานยอลลายังเลี้ยงได้ทั้งคน เซฮุนน้องเล็กตัวผอมขนาดนี้ ป๋าเลี้ยงไหว “
“ จริงนะครับป๋าคริส พาน้องเซฮุนไปกินหม้อไฟจริงๆนะ “
“ ย่าห์! เซฮุนเอาหน้าออกจากแขนพี่คริสเดี๋ยวนี้นะ “
เขาเผลอคิดถึงสัญญาของพี่คริสขึ้นมา ทั้งที่อีกแค่สองอาทิตย์ก็จะได้ไปจีนพร้อมกันทั้งเจ็ดคนแล้วแท้ เขาไม่รู้ว่าอารมณ์ตอนนี้ของตัวเองเป็นยังไง โกรธจนอยากต่อยที่พี่ใหญ่หายไปโดยไม่บอกกล่าว ทิ้งภาระให้อีกทั้งหกคนหรือเศร้าและยังร้องไห้อยากให้พี่เขากลับมา ความรู้สึกปนเปจนแทบแยกไม่ออก ถ้าเพียงเขาบอกซักหน่อยว่าจะไป
.” Finally I got it!!! “ เสียงตะโกนจากเพื่อนผิวแทนร้องขัดจังหวะ คิมจงอินกลิ้งไปรอบๆห้อง เขาสะบัดหน้าไล่ความรู้สึกสับสนนั้นแล้วเดินไปเก็บของ นาฬิกาสีดำบนแขนบอกเวลาเกือบตีสอง ให้ตายเถอะ แฟนคลับที่มารอจะเป็นยังไงบ้างนะ พวกเขาเข้าบริษัทกันตอนสองทุ่มถ้านับก็เกือบหกชั่วโมง โชคดีที่อากาศไม่หนาวเท่าไหร่แต่การมยืนรอแบบนี้ก็อันตรายมาก ใบหน้าขาวคิดถึงภาพของคนๆนึงที่เจอเมื่อคืน วันนี้จะอยู่ตรงนั้นอีกมั้ยนะ ?
“ วันนี้พี่ไปกินด้วยไม่ได้นะเด็กๆ เดี๋ยวต้องกลับไปดูเสื้อผ้าในคอนด้วย “ ซูโฮที่พึ่งเดินกลับมาบอกน้องๆที่กำลังเก็บของ จงอินเบะปากคนแรก
“ พี่ทำไงได้ไง พี่บอกว่าถ้าเราทำท่านั้นผ่านทุกคนจะให้กินหม้อไฟกับไก่ทอดวันนี้อ่ะ พี่ผิดสัญญา พี่จุนมยอนใจร้าย พี่มันคนไม่รักษาสัญญา “
“ กราบล่ะคิมจงอิน เอาแบล็กการ์ดพี่ไปเลย เลือกคร่ำครวญซะที “ โยนการ์ดสีดำมันวาวให้ จงอินเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแฉ่ง
“ เซเลปกังนัมผู้น่ารัก พี่ชายที่พวกเราเคารพสูงสุด ทำไมพี่หล่อได้ขนาดนี้นะพี่จุนมยอน “
“ เอาหน้าไปไกลๆนะ เซฮุนเอามันออกไป “ ผลักน้องตัวสูงที่พยายามเข้ามาหอมแก้ม พี่ชายผู้เป็นที่รักแห่งEXOของแท้ เขากับจือเทาช่วยกันดึงจงอินออกมา
“ พี่กับพี่อี้ชิงไม่ไปนะ อยากพักผ่อน “ พี่ชานยอลสวมฮู้ดทับแล้วเก็บรองเท้า ผมถอนหายใจกับสภาพพี่ชายทั้งสองคน พี่อี้ชิงที่ถือเป็นเพื่อนสนิทพี่คริสดูซูบซีดไปเยอะ รอยยิ้มที่ยิ้มจนลักยิ้มบุ๋มที่ทุกคนชอบแทบไม่มี ส่วนพี่ชานยอลรายนั้นหนักกว่า เขาจินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าวันนึงมีคนรักที่อยู่ด้วยกันทุกวันตลอดปีกว่าแล้ววันนึงมาหายไปเขาจะรู้สึกยังไง เจ็บเหมือนเอามีดมากรีดเขากลางสี่แยกล่ะมั้ง
“ ไปกินโซจูกันก็ได้พี่ชานยอล พี่อี้ชิงหรือเบียร์ดี ผมจะกินเป็นเพื่อน “ จงอินถามออกไป เขาไม่ชอบที่เห็นพี่ทั้งสองเป็นแบบนี้ พี่ชายหน้าหวานทั้งสองส่ายหน้านิ่งๆแล้วเดินออกไปจากห้อง เขาถอนหายใจ
“ มีแค่เราสามคนป่ะ “ เทาพูดขึ้นมา ผมพยักหน้ากับจงอิน มักเน่ไลน์ชัดๆ ผมตบไหล่เทาแล้วพวกเราก็เดินออกไปตามพี่ๆ ก้าวลงจากตึกมาจนถึงหน้าประตู แฟนคลับยังคงมีรออยู่ ผมอยากจะบอกให้ทุกคนรีบกลับและรักษาสุขภาพกันหน่อยแต่ติดที่กฎของบริษัทคือห้ามพูดอะไรกับแฟนคลับที่มาดักรอหน้าตึก คืนนี้ผมจะอัพอินสตราแกรมบอกพวกเขาแทนล่ะกัน ผมไม่อยากให้ทุกคนมาทรมานตัวเองเพื่อพวกเราแบบนี้จริงๆนะ
“ ร้านป้าซอนมีเลยฮะ “ จงอินบอกลุงโฮดงคนขับรถ ผมนั่งติดหน้าต่างแทนในวันนี้ แค่หวังว่าจะได้เห็นเขาอีกครั้ง รถแวนของเราเคลื่อนออกไปที่ถนนใหญ่ ผมเลียริมฝีปากแบบที่ชอบทำเวลาประหม่า บ้าแล้วเซฮุน เขาจะมานั่งอยู่ที่นั้นทำไมตอนตีสองวะ สมองก็คิดแบบนั้นแต่ทำไมหัวใจยังแอบเชื่อล่ะว่าเขาจะอยู่ตรงนั้น เขามองถนนด้วยใจลุ้นระทึก
“ อ้าว ไฟเขียว “ เทาพูดแทนแล้วตบไหล่ผมปลอบใจ ผมยู่หน้า ให้ตายเหอะ! ดวงตารีเพ่งมองม้านั่งตัวเดิม ไม่มีหรือดูไม่ทันกันนะ
“ ให้ตายเถอะ ลุงโฮดงครับทำไมขับรถเร็วแบบนี้ล่ะ “ บ่นดังๆ ชายวัยกลางคนตัวอ้วนขมวดคิ้ว
“ ก็ขับปกตินะเซฮุน เหยียบแปดสิบ “
“ ผมไม่คุยกับลุงแล้ว “ พูดแล้วกอดอกพิงตัวแรงๆกับเบาะ ถ้าเขาเดาไม่ผิด พี่ซูโฮน่ะแหละบอกให้ลุงโฮดงขับเร็วแบบนี้ เขาขยี้หัวเซ็งๆแล้วรวบฮู้ดให้คลุมหัวดีๆ ร้านหม้อไฟป้าซอนมีอยู่ในเตนท์สีแดงที่มีทั่วไปในเกาหลีแต่ร้านนี้ดีที่หม้อไฟอร่อยแถมอยู่ห่างจากบริษัทเขาแค่หนึ่งแยกถนน เป็นร้านประจำของศิลปินค่ายESM.มาตั้งแต่สมัยรุ่นพี่H.O.T สมัยป้าซอนมีแกยังสาวๆและพวกเขาก็ยังไม่เกิด จือเทาแกล้งเตะจงอินขณะที่พวกเราทะยอยกันลงจากรถ
“ กินเสร็จแล้วกลับกันดีๆล่ะ อย่าให้แฟนคลับเห็นนะ “ พี่ซูโฮกล่าวแบบเดิม พวกเราพยักหน้าแล้วไล่เตะกันระหว่างเดินไปร้านป้าซอนมี นี้ก็ตีสองกว่าแล้วคงไม่มีคนหรอก ปกตินอกจากพวกเขาก็ส่วนมากจะเป็นลุงแก่ๆที่นั่งกินเบียร์กับเชียร์บอลมากกว่าเพราะร้านน่ะอยู่ลึกมากๆในซอยที่ค่อนข้างคดเคี้ยว เลี้ยวเข้าซอยแคบๆ เขาหาวแล้วดันเพื่อนตัวสูงทั้งคู่เข้าไปก่อนระหว่างที่ดูคนซ้ายขวา
“ เซฮุน! “ จงอินกระตุกชายเสื้อเพื่อนที่เดินตามหลังมาแรงๆ ตาสีนิลเบิกกว้างเมื่อเห็นโต๊ะพับเล็กๆในร้านมีคนนั่งอยู่ จะไม่ตกใจเลยถ้าไม่ใช่มาสเตอร์นิมแฟนไซต์พี่คริสที่เพื่อนสนิทเพ้อหนักเพ้อหนา จือเทาเองก็อึ้งไปเหมือนกันก่อนพยายามดึงคอเสื้อเพื่อนตัวขาวมากระซิบ
“ คนนั้นของมึง “ กล่าวสำทับ คนตัวสูงอึ้งไปจนแทบไม่ขยับตัวเมื่อเห็นคนที่พึ่งคิดถึงนั่งหน้านิ่งอยู่ในร้านหม้อไฟเล็กๆ ใบหน้าหวานโผล่พ้นหม้อไฟมาเพียงเล็กน้อย ด้านข้างเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เป็นแฟนคลับเขา เขาเคยเห็นตอนงานแฟนไซต์ ร่างโปร่งของทั้งสามคนนิ่งไปทันที
“ อ้าว วันนี้มีแขกนะ สะดวกมั้ยล่ะ “ ป้าซอนมีเงยหน้าจากกระทะทอดไก่มาถาม เขายังคงไม่รู้จะทำตัวแบบไหนดีจนจงอินต้องบอกป้าซอนมีว่าสะดวกใจมากๆและลากเขาไปนั่งโต๊ะข้างๆสองคนนั้น ดวงตากลมสีฉ่ำแบบกวางมองสบตาผมเพียงไม่กี่วินาทีก่อนหันไปสนใจกับทีวีเล็กๆด้านหน้า
“ ไก่ทอดสาม หม้อไฟทะเลครับป้าซอนมี วันนี้ขายดีมั้ยครับ “ จงอินสั่งแบบเดิมเพราะผมเอาแต่เงียบ เทาเดินไปเลือกน้ำในตู้ ผมไม่กล้าหันขึ้นมามองคนที่นั่งตรงข้ามเยื้องๆกัน
“ ถ้าจะอัพรูปกรุณาหลังพวกเราออกไปได้มั้ยครับ นะๆๆ “ จงอินหันไปฉีกยิ้มกับโต๊ะด้านข้าง ผู้ชายตัวเล็กอีกคนกำลังเอาไอโฟนขึ้นมาถ่ายรูปพวกผม เขาพยักหน้าแล้วหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
“ งะ งั้นขอลายเซ็นได้มั้ยครับ “ เขาพูดแล้วหน้าแดงแทบจะกลืนกับเตนท์ผ้าใบสีแดง ผมพยักหน้าว่าได้ เขาเดินกล้าๆกลัวๆมาที่โต๊ะพวกเรา ผมเหลือบมองคนที่ยังคงนั่งมองทีวีเงียบๆ
“ คุณเป็นแฟนบอยที่น่ารักมากเลยนะเนี่ย “ จงอินหยอดไปหนึ่งมุก ผมหลุดหัวเราะแล้วเหยียบเท้ามัน ตาเป็นประกายแบบนั้น ถูกใจเขาล่ะสิท่า เขาเขินจนแทบจมลงไปกับดิน
“ ขะ ขะขอบคุณครับ คือคุณช่วยเซนต์ที่เคสโทรศัพท์ผมได้มั้ยครับเซฮุน “ ตัวเขาเล็กจริงๆ จงอินยู่ปากเมื่อคนตัวเล็กสนใจเซฮุนมากกว่าเขา จงอินกับจือเทาเซนต์ลงกระดาษใบเล็กๆให้โดยเซฮุนรับไอโฟนมาก่อนกัดเปิดปลอกปากกาแล้วเซนต์ลงไป
“ พี่ลู่หานๆถ่ายรูปให้หน่อย “ เสียงเล็กบอกแทบกระซิบแต่กับเตนท์เล็กๆและไม่มีคนทำให้ก็ดังอยู่ คนตากวางหันกลับมาแล้วล้วงไอโฟนมากดชัตเตอร์ให้ส่งๆ เซฮุนนิ่งไป ชื่อลู่หานงั้นเหรอ
“ พี่คุณเหรอครับ “ เขาเผลอถามออกไป ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกใจเต้นขนาดนี้ รู้จักชื่อครั้งแรกตั้งแต่ปีกว่าที่แอบชอบมา เขาเห็นคนๆนี้ระยะไกลมาตลอด ใกล้สุดก็ตอนงานแฟนไซต์ที่คนตัวบางมาขอลายเซนต์พี่คริสแต่กลับใช้ชื่อแฟนไซต์ตัวเองแทนชื่อจริง ลู่หาน ลู่หาน ลู่หาน วันนี้เขาจะไปถามพี่อี้ชิงว่าแปลว่าอะไร
“ อ่าครับ คุณคงคุ้นหน้าเขาเพราะเขาเป็นแฟนไซต์ “
“ แบคฮยอน พี่ไปซื้อหมากฝรั่งนะ “ ก่อนที่จะทันแนะนำตัวอะไร เสียงใสก็พูดทะลุปล้องขึ้นมา พวกเขามองงงๆเมื่อแผ่นหลังบางเดินดุ่มๆออกจากเตนท์ ป้าซอนมียกไก่ทอดและหม้อไฟมาวางให้
“ ถ้าไม่รังเกียจย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกันมั้ยครับ “ จือเทาบอกอย่างใจดี คนตัวเล็กแทบเป็นลมไปตรงนั้น
“ ได้ด้วยเหรอครับ โอ้ย คุณพูดจริงนะ “
“ มาเถอะครับ กว่าพี่คุณจะกลับมาน่ะ กินด้วยกันเยอะๆสนุกดีแต่เรื่องนี้น่ะเป็นความลับได้มั้ยครับ “ เขาพูดอีก ทำไมจือเทาจะไม่รู้ว่าเพื่อนผิวเข้มของเขาแอบมองแฟนคลับเพื่อนเยอะขนาดไหน ต้องเปิดทางกันบ้าง คนนั้นพยักหน้ารัว
“ ได้ครับได้ ได้ตลอดเลย สัญญา “ ลิ้นพันกันรัว เขาหัวเราะแล้วไล่จงอินไปช่วยคนตัวเล็กย้ายโต๊ะ ตาคมเหมือนเหยี่ยวมองเพื่อนตัวขาวอีกคนที่ชะเง้อมองไปด้านนอก
“ ตามเขาไปได้แล้ว “
“ หื้อ ว่าไงนะ “
“ บอกให้ตามเขาไป ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว “
“ จะดีเหรอวะ “ ถามเพื่อนคนจีนทั้งที่ใจวิ่งนำไปก่อนเท้าแล้ว จือเทาชกไหล่เพื่อน
“ อยากเข้าใกล้เขามาปีกว่าพอมีโอกาสก็ไม่ทำนี้ถือเป็นคนโง่นะโอเซฮุน “ กระตุ้นบอก เซฮุนเลียริมฝีปาก
“ จะให้ไปคุยยังไงวะ “
“ เอาที่ใจมึงอยากทำ พลาดครั้งนี้ไปไม่มีโอกาสล่ะนะพูดแค่นี้ “ ดันหลังเพื่อนให้ลุกขึ้น จงอินเอาตัวบังทางไว้ไม่ให้คนตัวเล็กเห็นเซฮุนที่กำลังกล้าๆกลัวๆจะเดินออกไปอย่างรู้กัน คนตัวสูงผิวขาวกัดปากอีก
“ แล้ว “
“ ไม่ออกไปตอนนี้จะถีบแล้วนะ “ ขู่สำทับ เซฮุนเอามือล้วงกระเป๋า
“ ดีแน่ๆนะ “
“ งั้นไม่ต้องไป กูจีบเขาเอง “
“ เรื่องไรล่ะ “ วิ่งออกไปทันทีที่ได้ยินคำนั้น จือเทาแทบอยากขย้ำคอเพื่อนใจเสาะ ถ้าพลาดครั้งนี้ไปล่ะก็ไม่มีโอกาสอีกแล้วแหละเขารู้ พรหมลิขิตน่ะมันจะมีซักกี่ครั้งวะ โอเซฮุน
ความคิดเห็น