คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Galaxy Hoag's Object.
“ ทางต้นสังกัดยังไม่ให้คำตอบใดๆกับข่าวที่เกิดขึ้น ด้านนักร้องหนุ่มชื่อดังยังคงเก็บตัวเงียบทั้งเจ็ดคน สำหรับคอนเสิร์ตที่ใกล้เข้ามาถึง……. “
มือบางกดปิดโทรทัศน์เครื่องหรู ดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำน้ำบวมแดงปรือมองไอโฟนในมือที่เต็มไปด้วยตัวอักษรมากมาย หัวใจหนักอึ้งเหมือนโดนก้อนหินก้อนใหญ่ถ่วงอยู่
“ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาหายไปแบบนี้ไม่ได้นะ “
“ เขาแค่ป่วยและไม่นานจะกลับมา “
“ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ “
“ ไม่มีใครพูดอะไรสักอย่าง “
“ เขาทรยศ “
“ มีเหตุผลอะไรที่ต้องว่าเขาขนาดนี้ เราต่างไม่รู้ความจริง “
“ อย่ามาแตะผู้ชายของฉัน “
หลายข้อความที่ดุเดือดราวกับสงครามดูพร่าเลือนในความทรงจำของสมอง คนตัวเล็กทิ้งตัวนอนกับเตียงนุ่ม แอพพลิเคชั่นหลากสีในไอโฟนสีมืดแจ้งเตือนสีแดงกว่าหลายร้อยข้อความรวมถึงสายที่ไม่ได้รับอีกเท่าไหร่เขาก็ไม่ได้นับ ไม่มีแรงจะทำอะไรทั้งนั้น
“ พี่ลู่หาน เปิดประตูเถอะนะ “ เสียงโอดครวญดังขึ้นหน้าประตูไม้ เขาตอบเสียงแหบพร่า
“ พี่ขออยู่คนเดียว แบคฮยอน “ ตอบกลับแล้วจ้องมองรูปภาพนับร้อยที่ยึดติดกับผนังด้วยเทปสีขุ่น ภาพผู้ชายตัวสูงผมสีบลอนด์ทองในหลายอิริยาบท ยิ่งเห็นน้ำตาที่พึ่งแห้งไปก็เริ่มไหลออกมาอีกจนต้องเบนหน้าหนีแล้วขดตัวมาอีกทาง
“ ลู่หาน นี้ฉันซิ่วหมินน่ะ ให้ฉันเข้าไปได้มั้ย ? “ ร่างเล็กของคนสองคนรอลุ้นหลังประตูบานใหญ่ บยอนแบคฮยอนกัดเล็บเป็นนิสัยประจำที่ทำเมื่อเครียด พี่ชายคนโตเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาสองวันติดแล้ว ไม่มีการตอบรับใดๆนอกจากคำเดิมซ้ำๆราวกับกรอเทปว่าพี่ขออยู่คนเดียว อาหารนับสิบอย่างที่เขาบรรจงทำให้ก็วางไว้หน้าห้องเหมือนเก่า เดือดร้อนถึงเพื่อนสนิทของพี่ลู่หานอย่างพี่ซิ่วหมินต้องนั่งเครื่องกลับมาจากฝึกงานที่ฉางซาเลยทีเดียว
“ ไอ้ลู่มันไม่รับโทรศัพท์ฉัน “
“ อย่าว่าแต่รับโทรศัพท์พี่เลย ผมอยู่บ้านเดียวกับพี่เขา เขายังไม่คุยกับผมด้วยซ้ำ “
“ มันหนักมากเลยใช่มั้ย “
“ หนัก “
เสียงใสตอบตามตรง เขาพอจะรู้ข่าวมาและก็รู้ด้วยว่าพี่ชายเขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้แน่ๆและไม่เพียงแต่พี่ชายเขาหรอก กระแสในอินเทอร์เนทนับพันนับหมื่นก็เป็นในแนวเดียวกัน
“ เขาเป็นทั้งโลกของมัน ไม่หนักก็แปลก “ ซิ่วหมินพูดเบาๆ ตาชั้นเดียวเบิกกว้างกว่าเดิมเมื่อมีเสียงปลดล็อคประตู
“ ลู่หาน “ เขาครางในลำคอเมื่อเห็นสภาพเพื่อน ใบหน้าหวานซีดเซียวกับดวงตากวางที่ทุกคนบอกว่ามันสวยตอนนี้ช้ำจนแทบลืมไม่ขึ้น เปลือกตาบวมแดงและริมฝีปากแตกแห้ง เขารีบเข้าไปประคองเพื่อนตัวเองที่ดูจะล้มได้ทุกเมื่อ
“ นี้แกกลับมาจากฉางซาเหรอ “
“ อื้อ แกเป็นขนาดนี้เลยเหรอไอ้ลู่ “ พูดแล้วช่วยกันประคองร่างบางมาวางกับเตียง แบคฮยอนหย่อนตัวนั่งขัดสมาธิข้างซ้าย ส่วนเขานั่งข้างๆด้านขวา ตากลมมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ ฉันเป็นอะไรยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ “ ตอบกลับเสียงพร่า ตลอดสองวันที่มีข่าว เขาไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ มันฝืดคอไปหมด การตามข่าวทางโซเชียลที่ถึงแม้เขาจะมีอิทธิพลค่อนข้างใหญ่แต่กลับไม่มีใครรู้ข่าวอะไรมากไปกว่าการหายตัวไปด้วยคดีฟ้องร้องของคนๆนั้น ทุกแหล่งข่าวรู้เหมือนกันเพียงแค่ว่าเขาหายไป…..
“ เดี๋ยวเขาก็กลับมา “ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร ซิ่วหมินจึงตัดสินใจพูดแบบนี้ มือเล็กบีบมือนิ่มของเพื่อนอีกคน ลู่หานปกติก็ผอมอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเหมือนโครงกระดูกเดินได้ ภาพลักษณ์หนุ่มดอกไม้แห่งคณะแทบไม่เหลือ ริมฝีปากสีซีดแตกระแหงขบกันก่อนสั่นนิดๆ
“ เมื่อไหร่ล่ะซิ่วหมิน “
“ นี้พึ่งผ่านไปสองวันเองนะ “
“ ยังกะสองปีแล้วเลย “ เพื่อนตัวอวบถอนหายใจ ถ้าจะให้เล่าน่ะเหรอว่าทำไมเพื่อนตากวางถึงเป็นได้ขนาดนี้ ผมคิดว่าพวกคุณต้องอยากฟังมากแหงๆ ต้องย้อนเวลากันยาวเลย คือแบบนี้นะ เมื่อสองปีก่อนน่ะ............
______________________________ 40%____________________________________
“ วันนี้อากาศดีจัง “
“ จะเอาอะไรว่ามาป๋าย “ เสียงหัวเราะคิกคักคลอเสียงเดินหนักเบาดังขึ้น ร่างเด็กหนุ่มสองคนความสูงไล่เลี่ยกันเดินออกจากซอยกว้าง คนตัวผอมกว่าขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นคนตัวอวบกว่าที่มีศักดิ์เป็นคนน้องดูอารมณ์ดีแปลกๆ ลู่หานกับแบคฮยอนเป็นพี่น้องคนล่ะพ่อและแม่กัน พ่อของพวกเขาเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกที่อยู่ไม่ติดบ้าน ทำให้ต้องเลิกกับแม่ของลู่หานซึ่งเป็นคนจีนตั้งแต่ตอนลู่หานอายุสิบห้าและได้แต่งงานใหม่กับแม่ของแบคฮยอนที่พึ่งหย่าซึ่งตอนนั้นแบคฮยอนอายุได้สิบเอ็ดขวบและย้ายมาอยู่ที่จีนอย่างถาวร เขาทั้งคู่อายุห่างกันถึงสี่ปีแต่ก็ไม่เป็นปัญหานักเพราะลู่หานทั้งรักและตามใจแบคฮยอนมาตั้งแต่เจอกัน
“ วันนี้แค่เข้าไปเอางานจากพี่ซิวหมิ่นแล้วก็ว่างเลยใช่มั้ยอ่ะ “ แบคฮยอนหรือป๋ายเซียนที่ทุกคนชอบเรียกในครอบครัวยิ้มตาหยีให้ ลู่หานกระชับกระเป๋าเบาๆกับไหล่แล้วพยักหน้า เขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาเกาหลี สดๆร้อนๆเปิดเทอมมาได้แค่สองอาทิตย์และวันนี้มีนัดไปเอาเปเปอร์ที่ซิ่วหมินเพื่อนสนิทตอนเช้าเลยกะจะขึ้นรถเมล์ไปพร้อมแบคฮยอน เขาไม่ค่อยชอบการขับรถนักแม้พ่อซื้อเบนซ์คันหรูให้ก็ตาม เขาเกลียดรถติด เกลียดการนั่งคนเดียวในรถ
“ วันนี้ป๋ายก็ว่างน่ะ ช่วงบ่ายมีงานโรงเรียน โห โคตรน่าเบื่ออ่ะ จัดทุกปีธีมเดิมทุกปี ให้นักเรียนร้องเพลงแล้วตบมือแปะๆๆ ปีนี้ป๋ายก็ม.5แล้ว มาทำอะไรแบบนี้ตั้งแต่ม.1น่าเบื่อมากเลยพี่ลู่ มันน่าจะมี…. “
“ อยากไปไหนก็พูดมาตรงๆเลยหน่า “ ตากวางหลิ่วมองอย่างรู้ทัน แบคฮยอนน่ะพล่ามมายาวขนาดนี้มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ รู้เลยว่าเรื่องแบบนี้แน่ๆ น้องคนเล็กยิ้มแหะๆ
“ คือวันนี้EXOมาจีนแหละพี่ลู่ “
“ หือ EXO ? “
“ ก็วงเกาหลีนั้นอ่ะที่หล่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ป๋ายเคยเอารูปให้พี่ลู่ดูไง “
“ อื้ม ห้ะ! นะ นี้ชอบผู้ชายเหรอป๋าย “ พี่คนโตที่ตัวไม่โตตามศักดิ์เบิกตากว้าง ถึงแบคฮยอนจะน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงแต่หน้าตาจิ้มลิ้มตากลมกับปากแดงฉ่ำนั้นก็ขัดกับนิสัยห้าวหาญของเจ้าตัวเองจะตายจนลู่หานไม่เห็นจะเคยรู้ว่านิสัยแมนๆแบบแบคฮยอนน่ะ จะชอบผู้ชาย
“ ก็เค้าหล่อ “ เสียงใสตอบอ่อยๆแล้วก้มหน้าชิดอก ใบหน้าสนุกเปลี่ยนเป็นหงอยเมื่อกลัวว่าพี่ชายจะรับไม่ได้ ลู่หานถอนหายใจแล้วลูบหัวนุ่ม เหตุผลเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มชะมัด
“ เอาเหอะๆ จะชอบอะไรพี่ก็รับได้ แค่ป๋ายเป็นคนดีก็พอ เข้าใจมั้ย ? “ ลูบหัวแล้วลากคอน้องเดินมาตามทางอีก แบคฮยอนรวบเอวคอดของพี่ตัวเองไว้แล้วกอดแรงๆ
“ รักเสี่ยวลู่จังงงงง “
“ พี่กับวงนั้นรักใครกว่ากัน “
“ เทียบกันไม่ได้นะ มันคนล่ะแบบ “
“ ย่าห์! ป๋ายเซียน “ แลบลิ้นใส่แล้ววิ่งหนี ลู่หานวิ่งไล่ตามมาถึงป้ายรถเมล์ นี้ชอบถึงขั้นเลือกไม่ได้ระหว่างพี่กับพวกนั้นเลยรึไง น้อยใจชะมัด รู้ตัวอีกทีก็มีแขนขาวมาเขย่าเขาแรงๆ
“ งั้นวันนี้เดี๋ยวพอพี่ลู่เอางานที่พี่ซิ่วหมินแล้วไปส่งป๋ายดูEXOที่ห้าง Mหน่อยน้าๆๆ เขามาแจกลายเซนต์ที่จีนงานแรกเลย ป๋ายอยากได้ลายเซ็นเซฮุน “ จิ้มๆหน้าจอแบล็คเบอร์รี่ของตัวเองยิก หน้าจอปรากฏหน้าผู้ชายหน้าหล่อคนนิ่ง ดวงตาสีเข้มดูเย็นชาและริมฝีปากบางแดง เขาหรี่ตามอง
“ หน้าโหดชะมัด “
“ ไม่โหดนะ เซฮุนน่ะหล่อจะตาย น่ารักแล้วก็ขี้อายด้วย สเปคป๋ายเลย “
“ จะฟ้องป๊าว่าโดดเรียนไปตามผู้ชาย “
“ จะฟ้องม๊าว่าเตะบอลไปโดนแจกันม๊า “
“ โอเค ไม่สู้ เจ๊ากัน “ ยกมือสงบศึก เขาไม่ผิดนะ ก็แจกันราชวงศ์ชิงดันอยู่ในระนาบที่เขาเดาะบอลเล่นอยู่พอดี ทำเอาแทบทำเสียงเมี้ยวๆแทบไม่ทัน รอดตัวไปอย่างหวุดหวิด รถเมล์คันใหญ่เคลื่อนมาจอด ป้ายบอกมหาวิทยาลัย Kที่เขาเรียน พี่และน้องเดินขึ้นรถเมล์ที่เบียดกันจนแทบได้เสียกับคนข้างหน้าเพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน เขาดึงหูฟังเสียบเข้ากับไอโฟนแล้วฟังเพลงระหว่างทาง
ห้าง M ….
“ คนเยอะนะเนี่ย “ เขาพึมพำ สถานที่จัดงานแจกลายเซ็นเป็นลานกว้างกลางห้างดัง กำหนดการณ์เริ่มบ่ายโมงแต่ตอนนี้แค่สิบโมงคนก็เริ่มมากันแล้ว แบคฮยอนยัดบัตรคิวที่ไปต่อแถวมาราวครึ่งชั่วโมงใส่มือพี่ชายพร้อมแผ่นซีดีสีอ่อน
“ หือ ? “
“ ป๋ายซื้อมาสองแผ่น กลัวคิวรันไปแล้วไม่ได้ลายเซ็นเซฮุน พี่ลู่หานช่วยด้วยน้าๆๆ “
“ นี้คือประเด็นที่เอาพี่มาด้วยใช่มั้ย “
“ แฮ่ “ ร้องแฮ่อย่างจนมุม พี่ลู่หานฉลาดเป็นกรดถึงขั้นเข้ามหาลัยอันดับหนึ่งของจีนได้เรื่องแค่นี้ก็คงดูออกไม่ยาก ไม่ผิดซะหน่อย ก็ที่งานกำหนดว่าได้ลายเซ็นแค่คนเดียว เขากลัวไม่ได้ลายเซ็นเซฮุนนี้นา
ตากลมเหมือนกวางมองไปรอบๆงาน เหล่าแฟนคลับผู้หญิงเต็มไปหมดแล้วมีบางคนมองหน้าเขายิ้มๆอีกด้วย เขาขมวดคิ้วแล้วลูบหน้าลูบตา มีอะไรติดหน้าเขารึเปล่านะ
“ สวัสดีค่ะ คุณเป็นเมนใครคะ “ อยู่ๆผู้หญิงกลุ่มเดิมก็ปรี่เดินเข้ามาถาม เขาทำหน้าเหรอหรา อะไรคือเมน ?
“ อ๋อ พี่ชายมาเป็นเพื่อนผมน่ะครับ เขามาส่งเฉยๆ “
“ อ่า นึกว่าพวกคุณเป็นแฟนบอยซะอีก “
“ ผมเป็นแฟนบอยเซฮุนครับ “
“ จริงเหรอคะ กรี๊ดดดดดฟดกหด่าสวพพำ “ แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังพร้อมกรูเข้าหาแบคฮยอน เขาเกาหัวงงๆ อะไรของพวกเขาเนี่ย เขาจับใจความได้แค่ว่าน่ารัก ขอถ่ายรูปและสวย เอ๊ะ! นานกว่าสิบนาทีที่แบคฮยอนมีคนรุมจนเขาคิดว่าน้องเป็นสมาชิกคนที่9ของEXO เขาเฟดตัวเองออกมานั่งตรงน้ำพุข้างๆแถว เพราะว่ารันตามนัมเบอร์เลยไม่ต้องไปเข้าคิวให้ยุ่งยาก เขารู้มาคร่าวๆแค่ EXOเป็นบอยแบนด์หน้าใหม่พึ่งเดบิวท์ของเกาหลี ประกอบด้วยสมาชิกชาวจีนและเกาหลีรวมกันเจ็ดคน กระแสตอบรับค่อนข้างเกินความคาดหมาย เขาเคยเห็นคนเดียวก็คือคนที่ชื่อเซฮุนบนหน้าจอแบล็คเบอร์รี่ของแบคฮยอน
“ คิกคิก “ เสียงหัวเราะดังขึ้นด้านหลังเขา ร่างบางเด้งแผ่นหลังแล้วมองไปรอบๆ เสียงหัวเราะใคร ?
“ มองอะไรไอ้ฮุน / เป็นผู้ชายอย่าขี้เสือ.กไอ้ไค / อาห์ น่ารักจังน่อ / หุบปาก! “
เสียงทะเลาะกันกลายๆตามมา เขาหันมองลอดต้นไผ่และบอร์ดที่ตกแต่งสถานที่ ตากลมเห็นเพียงลูกตาสีดำสนิทสองคู่ที่มองออกมาจากผ้าม่าน อย่าบอกนะว่าผี!
“ พี่ลู่หาน “
“ ป๋าย พี่เห็น…. “ รีบชี้มือไปที่ผ้าม่านแต่ก็ไม่เห็นดวงตาสองคู่นั้นแล้ว เขาอ้าปากพะงาบๆ เจอดีเข้าแล้วลู่หาน!!!
“ อะไรเหรอ เห็นอะไรอ่ะ “ มองตามนิ้วเรียวแต่ก็ไม่เห็นอะไร คนตากวางส่ายหน้าให้เชิงไม่มีอะไรทั้งที่คาใจและเริ่มกลัว
“ พี่นึกว่าเพื่อนเราน่ะ เอ่อ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มแจกลายเซนต์ล่ะ พี่ต้องไปอ่านหนังสือต่อนะ “ มองนาฬิกาที่ใกล้เที่ยง แบคฮยอนเลื่อนดูกำหนดการณ์ในมือถือไวๆ
“ ก็งานเริ่มบ่ายโมงที่บอก มีโชว์สองเพลงล่ะก็สัมภาษณ์ น่าจะแจกลายเซ็นประมาณสามโมงนะ “ มองคิวตัวเองที่เกือบท้ายๆ เขาได้คิวที่381กับ382จากการจำกัดแค่400คนด้วย โชคดีที่ทัน ที่ไปถามคนคิวแรกๆน่ะมาตั้งแต่แปดโมงเช้า
“ พี่ว่าเราไปหาอะไรกินก่อนมั้ย อีกตั้งสองชั่วโมงแหน่ะ “
“ ไม่ได้ๆๆๆๆ เดี๋ยวไม่ได้ที่ดีๆนะ ป๋ายฝากผู้หญิงคนเมื่อกี้จองที่ด้านหน้าแล้วแต่เราต้องไปยืนเฝ้าอยู่ดี ไปกันๆ “ ดึงแขนพี่ชายด้วยความกระตือรือร้น ลู่หานอ้าปาก ยืนรอสองชั่วโมงเนี่ยนะ
“ ยืนสองชั่วโมงเนี่ยนะป๋าย “
“ พี่ลู่หานไม่รักป๋ายแล้วเหรอ “ คำนี้อีกแล้ว แบคฮยอนชอบใช้คำนี้เวลาที่เขาขัดใจคนตัวอวบ แล้วลู่หานน่ะถึงจะแมนๆเตะบอลครัฟแค่ไหนก็แพ้น้ำเสียงและสีหน้าหงอยน้ำตาคลอของน้องอยู่ดี
“ กลับไปนวดให้พี่ด้วยล่ะกัน “ ในที่สุดก็ต้องตามใจ แบคฮยอนยิ้มกว้างจนตาปิดแล้วลากพี่ชายไปโซนหน้าเวที หลังจากพยายามฝ่าดงผู้หญิงนับร้อยเขาไปเขาก็แทบหมดสภาพ แบคฮยอนโบกมือหยอยๆให้ผู้หญิงคนที่เขามาทักเขาเมื่อกี้
“ พี่ลู่หานนี้เทียนเทียน เป็นแฟนไซต์บ้านพี่คริส ส่วนนี้พี่ลู่หานนะเทียน พี่ชายเราเอง “ แนะนำตัวเสียงจ้อยแจ้ว เขายิ้มให้แล้วโค้งหัวเล็กน้อย เทียนเทียนเป็นผู้หญิงน่าจะวัยไล่เลี่ยกับเขาที่มีกล้องตัวใหญ่อยู่ในมือ
“ สวัสดีค่ะ เรียกเทียนเหมือนป๋ายเซียนก็ได้ พวกคุณเป็นพี่น้องที่น่ารักมากๆเลย “ เธอเอ่ยชม ใบหน้าสวยยิ้มให้
“ อ่า คุณก็สวยมากเลยครับ เอ่อ แฟนไซต์ นี้คือ …. “
“ แฟนไซต์คือการตามถ่ายรูปศิลปินที่เราซับพอร์ตแล้วเอามาแชร์ให้คนอื่นได้ดูค่ะ ฉันตามถ่ายพี่คริส “
“ เทียนน่ะดังมากเลยนะพี่ลู่หาน คนตามเว่ยป๋อบ้านเธอตั้งเกือบหมื่น เทียนถ่ายรูปสวยมากทุกงานเลย “
“ ไม่เอาน่า อย่าอวยฉันสิป๋ายเซียน “
“ เอ่อ คุณคงเหนื่อยนะครับ กล้องนี้ใหญ่มากเลย “ เขาชวนคุยระหว่างรอ กล้องและเลนส์ไม่น่าจะต่ำกว่าสิบกิโลแถมพวกกระเป๋าและเลนส์ที่ใช้เปลี่ยนอีก ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวเนี่ยนะ ใบหน้าสวยยิ้มกว้างแล้วส่ายศีรษะ
“ ไม่หรอกค่ะ ทำสิ่งที่เรารักน่ะไม่เหนื่อยหรอก ถ้าเรารักใครซักคนแค่เห็นรอยยิ้มเขา เราก็ไม่เหนื่อยที่จะทำอะไรทั้งนั้น“ ยิ้มให้อย่างจริงใจ ลู่หานยิ้มตอบ เป็นความรักแบบไหนกันนะ ความรักระหว่างแฟนคลับกับศิลปินมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“ คุณต้องไม่เข้าใจแน่ๆ “ เธอหลิ่วตาแล้วถามเมื่อเห็นเขายังขมวดคิ้วแน่น เขาเลิ่กลั่ก
“ ผมแค่ ……. “
“ ลองเป็นแฟนคลับพวกเขาสักคนสิคะคุณจะรู้ “
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด “ เสียงกรีดร้องดังขึ้นขัดจังหวะ เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็หันไปจดจ่อการการมองผ่านเลนส์ในมือซะแล้ว แฟนคลับงั้นเหรอ เหมือนที่เขาชอบแบคแฮมของแมนยูรึเปล่านะ
“ มาเร็วกว่ากำหนดการณ์แหละพี่ลู่ โอ้ยยยยยย เซฮุนๆๆๆ “ แบคฮยอนหันมากระซิบกับเขาก่อนหันไปตะโกนชื่อเซฮุนต่อ เขาหัวเราะแล้วกวาดตาของมองบนเวที เสียงกรี๊ดดังไม่ขาดสาย ตาฉ่ำสีน้ำตาลมองผู้ชายร่างสูงที่ก้าวเดินออกมาทั้งเจ็ดคน ผมสีบลอนด์ของผู้ชายคนนึงสะดุดตาและโดดเด่นออกมาจากอีกทั้งเจ็ดคน เขาเพ่งมองใบหน้าคมนั้น
“ ให้ตาย….. “ เขาครางออกมา ใบหน้าหล่อราวปานเทพบุตรกับดวงตาคมเหมือนเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเล็กสีแดง ส่วนสูงที่ดูโดดเด่นจากสมาชิกคนอื่นไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ผมสีบลอนด์ที่รับกับใบหน้าเรียวคมทำให้เขาเหมือนลูกครึ่งเอเชียกับฝั่งตะวันตก ตากลมนั้นปราบมองทั่วบริเวณ ลู่หานเหมือนหยุดหายใจเมื่อตาสีดำสนิทนั้นมองมาที่เขา
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด “ เสียงกรี๊ดยังคงดังอย่างไม่หยุดหย่อนจนกระทั่งเริ่มสัมภาษณ์ เขาจดจ้องแต่ใบหน้าหล่อคมนั้น คนตัวสูงรับไมค์มาก่อนยิ้มให้แฟนคลับ
“ สวัสดีครับ ผมคริส อู๋อี้ฟาน หัวหน้าวง EXO – M ครับ “
และนั้นคือวันแรกที่ลู่หานเจอเขา ได้รู้ชื่อเขาและรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อไปในชีวิต
“ ซิ่วหมิน พรุ่งนี้ฉันจะไปเกาหลีนะ ฝากจดเลคเชอร์ด้วย “
“ ซิ่วหมิน อาทิตย์นี้พี่คริสมาเซี่ยงไฮ้แหละ “
“ ซิ่วหมิน ฉันต้องไปไทย พี่คริสมีโชว์เคสที่นั้น “
“ ซื่วหมิน วันนี้ฉันต้องไปญี่ปุ่น พี่คริสมีคอนเสิร์ตที่นั้นแหละ“
“ ซิ่วหมินๆๆๆๆๆ “
“ หยุดนะลู่หานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!! “ ซิ่วหมินเงยหน้าจากกองชีทนับพันใบบนโต๊ะในห้องสมุดของคณะ ลู่หานกำลังกดจองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีรอบที่นับไม่ถ้วนจนเขาอยากแนะนำให้ลู่หานซื้อเครื่องบินส่วนตัว ใบหน้าหวานสะดุ้งแล้วเบะปากแกล้งจะร้องไห้
“ ก็ฉันกลัวจองล่ะไฟลท์กับพี่คริส “ บ่นแล้วเกยคางกับโต๊ะไม้ นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ปีกว่าเกือบสองปีแล้วที่ลู่หานเป็น’แฟนบอย’พี่คริสเต็มตัวและไม่ใช่แค่แฟนบอยทั่วไป เพื่อนตากวางของเขาลงทุนเปิดบ้านแฟนไซต์ที่ตามถ่ายรูปพี่คริสอย่างจริงจัง จริงจังระดับที่ว่ากล้องและเลนส์ที่ลู่หานใช้ตามถ่ายรูปสามารถซื้อคอนโดดีๆได้ซักห้อง ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการตามพี่คริสแต่ล่ะครั้งก็เยอะระดับใช้ได้สบายเป็นเดือนๆ ถามว่าลู่หานเอาเงินมาจากไหนน่ะเหรอ ?
“ เล่นหุ้น “ คำตอบสั้นๆที่ทำเอาซิ่วหมินแทบอยากถลาไปเล่นด้วย กำไรแต่ล่ะรอบไม่ต่ำกว่า10,000หยวน(X 5.5=บาท) เขาเคยไปเล่นด้วยอยู่เดือนนึงแล้วพบว่าไม่ใช่สไตล์ของเขา ปิดตลาดเดือนนั้นด้วยเขาขาดทุนเกือบ20,000หยวน
“ เรากำลังจะสอบอีกสองอาทิตย์นะลู่หาน “
“ ฉันไปสองวันเอง เอาหนังสือไปอ่านด้วย ติวให้หมินหมินผ่านสไกป์ยังได้เลย “
เพราะลู่หานมีมันสมองที่ฉลาดกว่าคนทั่วไปโยนรวมกันสิบคน ในขนาดที่ตามถ่ายรูปพี่คริสก็ยังหาเวลาว่างเว้นจากตารางเรียนและเอาตัวรอดด้วยเกรด3.00-3.7ได้ในแต่ล่ะเทอม(แล้วแต่ตารางงานEXOในแต่ล่ะเทอมว่าเยอะหรือน้อย) ขนาดซิ่วหมินที่นั่งอ่านเป็นเดือนๆกว่าจะแตะ3.00เขายังแทบตายในแต่ล่ะเทอม
“ งั้นรีบไปรีบกลับ จะจดข้อสอบไว้ให้ “
“ หมินหมินน่ารักจังเลย ถ้าหมินหมินเป็นพี่คริส ฉันขอแต่งงานแล้วนะเนี่ย “
“ ย่าห์! ประเด็นมันอยู่ที่พี่คริสอยู่ดีนั้นแหละ “
“ คิกคิก “
“ ฉันชอบโตเกียวบานาน่ากับคิทแคทชาเขียวนะอย่าลืม “
เหตุการณ์ล่าสุดพึ่งผ่านมาได้เพียงเกือบเดือน แต่ลู่หานในวันนั้นกับวันนี้กลับต่างกันราวกับฟ้าและเหว ใบหน้ายิ้มแย้มในวันที่หอบคิทแคทและโตเกียวบานาน่ากลับมาให้เขาพร้อมอวดรูปทะเลกาแลคซี่ด้วยแท่งไฟที่แฟนคลับทำให้เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าอมทุกข์และซูบผอม ตากวางที่หวานฉ่ำกลับบวมแดงช้ำ ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้เพื่อนเขาเป็นขนาดนี้น่ะเหรอ ? ผมจะเล่าดีมั้ย ผมว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้วรึเปล่า
** Talk ;
ดราม่าดำทะมึนเลยใช่มั้ยคะ ? 55 #ฟิคกาแลคซี่ กันด้วยน้าาา
ความคิดเห็น