ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend of Pyramid

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 51


                ปิรามิด1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกกล่าวขานมาจวบจนทุกวันนี้ด้วยความสวยงามและรูปร่างที่น่าประหลาดใจของมันทำให้หลายคนสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์จริง   หรือหากไม่ใช่ฝีมือมนุษย์แล้วเป็นฝีมือใคร!?  มนุษย์ต่างดาวหรือ?!   ปริศนาในเรื่องนี้ยังคงเป็นความลับอยู่แต่ถึงกระนั้นก็ตามก็มีหลายข้อสันนิฐานและอีกหลายตำนานเกี่ยวกับการกำเนิดเจ้าสิ่งนี้...   และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตำนานของเรื่องราวเกี่ยวกับปิรามิด…..

                ย้อนไปเมื่อประมาณ  2640 ปี ก่อนคริสตกาล ยุคสมัยแห่ง  ฟาโร ดีโจเซอร์กษัตริย์แห่งอียิปต์ผู้เกรียงไกล  มีกองกำลังที่เชี่ยวชาญศึก  ด้วยความแข็งแกร่งของกองกำลังของพระองค์จึงเป็นที่โจทย์ขานกันไปทั่วทุกแว่นแคว้น  เมื่อพระองค์ปรากฏขึ้นที่ใดที่นั้นจะเกิดไฟแห่งสงครามที่นั้น  กองซากศพที่กองเท่าภูเขาถูกเรียงรายตามเมืองต่างๆที่พระองค์ได้ผ่านมา  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกหลายเมืองที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงของอียิปต์จึงอยู่กันอย่างสงบสุข....

                ณ เมือง มิเดียน ในค่ำคืนเดือนมืดแสงดาวสุกสว่าง  ส่องแสงระยิบระยับอยู่บนฝากฟ้า  มีเด็กชายคนหนึ่งนั่งอยู่กลางทุ่งทะเลทราย   เหม่อมองดูดวงดาวเหล่านั้นด้วยสีหน้าที่ฉงนและสงสัยว่าบนดวงดาวเหล่านั้นจะมีใครบ้างไหม พวกเขาจะเป็นคนเช่นไร...  แล้วพวกเขาจะแหงนหน้ามองท้องฟ้าแบบเขาบ้างหรือป่าว...  เขายิ่งใช้ความคิดเขายิ่งรู้สึกเหน็บหนาวแม้ว่าเขาจะอยู่ข้างกองไฟก็ตาม...  เขาโอบกอดตัวเองให้แน่นขึ้น  เขาเริ่มสั่น ที่สั่นนั้นมิใช่เพราะอากาศรอบกายแต่มันสั่นสะท้านมาจากข้างใน... จากใจของเขาเอง...   ในขณะที่เขาอยู่ในห้วงแห่งความคิดก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังของเขา   เสียงก้าวเท้าของอูฐที่ย่ำอยู่บนทะเลทรายดังขึ้นเด็กชายหันกลับไปมองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนหลังอูฐ  แสงจากกองไฟที่เขาได้ส่องกระทบใบหน้าของเด็กผู้หญิง ทำให้เด็กชายรู้ทันที่ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือน้องสาวของเขาเอง

    “นี่ก็มืดแล้วนะ ออกมาทำอะไรข้างนอกหรือ..คราร่า  อากาศข้างนอกนี้แสนหนาวเย็นเดี่ยวก็ไม่สบายหรอก” เด็กชายเอ่ยขึ้นบอกกับน้องสาวของตน

    “ข้าก็มาตามท่านพี่นั้นแหละ มิคคาเอล ท่านแม่บอกว่าดึกแล้วกลับบ้านกันเถอะ”คราร่าเอ่ยขึ้น

    “ข้าก็กำลังจะกลับอยู่พอดี  ราฟ เราก็ไปกันเถอะ” เมื่อเขากล่าวจบเขาก็หยิบท่อนไม้  ขึ้นมาท่อนหนึ่งจากกองไฟ   จากนั้นก็โดดขึ้นสู่หลังอูฐ

    “กลบไฟเถอะ”เมื่อสิ้นเสียงของมิคคาเอล  ขาหลังของอูฐก็กระทืบทรายจนฟุ้งกลบกองไฟจนสนิท  ควันไฟพวยพุงขึ้น

    “กลับบ้านกันเถอะ”ทั้งสองกระแทกเท้าเบาๆลงบนสีข้างของอูฐ     ในขณะที่พวกเขาเดินทางกลับ  มิคคาเอลมองไปที่ท้องฟ้า  เขาเห็นดาวดวงหนึ่งวิ่งเป็นลำแสง  แต่มันกลับตกเข้าใกล้ขึ้นมาเลื่อยๆ ขนาดของมันก็ขยายขึ้นเลื่อยๆเช่นกัน  และในที่สุดมันก็หายไป   จากนั้นไม่นานก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาเป็นแสงสีทองที่สุกสว่างราวกับดวงตะวันกำลังตก ในขณะที่แสงส่องสว่างอยู่นั้นก็เกิดแผ่นดินไหว...  พื้นทะเลทรายเริ่มยุบตัวลงอย่างช้าๆ

    “ไปเร็ว!!!...คราร่าพื้นทรายยุบตัวอย่างนี้เราคงจมแน่” 

     พวกเขากระแทกสีข้างอูฐอย่างแรงให้อูฐออกวิ่งไป   พื้นทรายก็ยุบตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเลื่อยๆ  เกิดฝุ่นตะลบอบอวนอยู่เบื้องหลังของพวกเขา  พวกเขาบังคับให้อูฐกระโดดขึ้นสู่ภูเขาหิน  พวกเขาพยายามไปให้สูงขึ้น  บนนั้นมีเพียงแค่การสั่นไหวอย่างเบาบางฝุ่นละอองกระจายไปทั่ว  ไฟที่คบเพลิงในขณะนี้ดับลงแล้ว  

    แล้ว   ความมืดเริ่มปกคุม  เหลือเพียงแต่แสงจากดวงดาวบนทองฟ้าเท่านั้น  ทั้งสองเริ่มลงจากอูฐ  แต่เมื่อเท้าของพวกเขาแตะพื้นเรี่ยวแรงที่มีก็หายไป  พวกเขาทรุดตัวลงกองอยู่กับพื้น  ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจะนั่ง  พวกเขานั่งพิงหลังก้อนหินขนาดใหญ่  ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

    “น...........นั้นมัน   อ......อะไรกันนะ..  มิค  ม.........มันเกิดอะไรขึ้น...?!  คราร่าพูดด้วยน้ำเสียงหวาดๆๆ

    “ม....ไม่รู้สิ  ข้าก็พึ่งเคยเห็นนี่แหละ”มิคคาเอลตอบด้วยเสียงสั่น “ข้าว่าเราพักที่นี้ก่อนดีกว่า รุ่งเช้าแล้วค่อยไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น...”

                เมื่อรุ่งเช้าพวกเขาเดินทางไป ณ จุดที่คาดว่าน่าจะเป็นที่ส่องแสงสว่างเมื่อคืน
    เมื่อใกล้ถึงพวกเขาก็พบภูเขาทรายขนาดยักษ์ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปีนขึ้นไปสู่ยอด
    ของภูเขา  เมื่อไปถึงพวกเขาต้องตะลึงลานกับภาพที่เห็น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×