ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Frawteer ดินแดนแห่งสุดท้ายของผู้ลี้ภัย

    ลำดับตอนที่ #6 : อาวุธ

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 56


     


     
    " พระเจ้า! "
     
    " สูงมาก อยู่ในกลุ่มเอเลย! "
        
          พนักงานเต่าผู้ที่นำทั้งสองเข้ามาวัดพลังถึงกับหน้าซีด เพราะประชาชนทั่วไปในอนาจักรดราโก้มีพลังอยูในระดับแอลย่างไอ ถ้าเก่งหน่อยก็ไอ พวกที่พลังไม่ถึงเกณฑ์เลยก็มีจัดอยู่ในพวกไร้พลัง ส่วนเคยที่ปรากฎในระดับซีถือว่าเป็นพวกระดับหัวกระทิ เพราะทหารของจักรพรรดิหรืออัศวินแห่งดราโก้ยังเป็นระดับบีลบก็มี การที่มีระดับเอปรากฎตัวถือว่าเป็นเรื่องประหลาด
         
         แสงที่ปรากฎตรงหน้าคือสีแดงสดคือพวกที่เข้าเกณฑ์ระดับเอ และสองคนตรงหน้าก็มีพลังพอที่จะถล่มเมืองทั้งเมืองได้ง่ายๆ ระดับบีที่ว่าหายากแล้วยังมาเจอระดับเอถึงสองคนพร้อมๆกันอีก ในเมื่อคนตรงหน้ามีพลังสูงขนาดนี้คงไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำแล้ว พนักงานเต่าจึงบอกทางของโซนให้และเอ่ยลาอย่างรวดเร็ว
     
    " อาวุธระดับเออยู่โซนในสุด ขึ้นชั้นสองบันไดสามแล้วเลี้ยวขวา เจอแยกแล้วเลี้ยวซ้ายสองทีเจอทางแยกให้ตรงต่อไปแล้วขึ้นบันไดแรก ตรงไปในสุด ส่วนเคาร์เตอร์ชำระเงินอยู่หน้าร้าน ขอตัวครับ "
     
    "..."
         
         พูดจบแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ชิเอลและฟรานยืนหน้ามึนอยู่ตรงที่เดิม แต่แล้วฟรานก็ระเบิดเสียงหัวเราะชวนประสาทเสียขึ้นก่อนจะเดินนำทางไปด้านหน้า
     
    " สุดยอดเลยนะหนุ่มน้อย ไม่คิดว่าจะเป็นพวกคมในฝักแบบนี้ นี่ไงบันได! สองหรือสามนะ "
     
    " สามครับ เลี้ยวต่อขวาด้วยครับ " ชิเอลตอบขึ้นมาโดยไม่สนใจที่ฟรานพูดขึ้นก่อนหน้านี้ " แยกเลี้ยวซ้ายอีกสองครั้ง "
         
         ฟรานเดินตามทางที่ชิเอลบอก พลางแอบทึ่งในใจ เพราะชิเอลจำทางที่ไม่ต่างอะไรกับเขาวงกตได้เพียงแค่ฟังครั้งเดียว ส่วนตัวเขาเองน่ะเหรอ มึนตั้งแต่คุณเต่าเริ่มแรพแล้วล่ะ
      
         สุดท้ายของทางเดินมีิอยู่เพียงประตูเดียว ดูสภาพแล้วไม่ได้ต่างไปจากปราสาทสยองขวัญสักเท่าไร แต่มันก็พอจะทำให้ชิเอลห่อไหล่ด้วยความไม่ชอบใจเท่าไรนัก เขาน่ะกลัวความมืดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ร่างสูงของฟรานที่นำหน้าไปหยุดอยู่ตรงประตูเห็นท่าทางของอีกคนก็หลุดขำออกมา ส่วนคนโดนขำก็ได้แต่ทำหน้ายุ่งอย่างขัดใจ สุดท้ายฟรานก็เลือกที่จะจูงมือของอีกคนเข้าไปในห้องนั่น
     
    " มันจะมีอะไรโผล่มามั้ย "
     
    " หนุ่มน้อยผีมีจริงที่ไหนล่ะ " หลังจากชิเอลถามฟรานไป คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ชิเอลต้องหน้ายุ่งกว่าเดิมโดยที่ยังไม่ทันจะเถียงอะไรกลับฟรานก็ขัดมาซะก่อน " มันเป็นแค่ความเชื่อเรื่องงมงายเท่านั่นแหละ "
     
    " พูดแบบนั้นระวังจะเจอดีแบบไม่รู้ตัวนะครับ โลกนี้มีคนที่มีหูหางกระดองได้ แล้วนับประสาอะไรกับผีทำไมจะมีไม่ได้ "
     
         พูดจบก็พาร่างบางของตัวเองเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทุกสิ่งกับเหมือนภาพโสลโมชั่นในหนังต้นทุนต่ำ ราวกับมีมวลบางอย่างในช่องท้องบรรยากาศหนักอึ่งทำให้ชิเอลนึกย้อนกลับไปถึงวันที่เดินทางโผล่มาที่นี่ วันที่เขาอยู่ที่ห้องสมุดกับจิซาล และความรู้สึกบ้าๆนั่นก็ไม่ปล่อยให้ร่างบางฟุ้งซ่านนาน ชิเอลไม่สามารถควบคุมการทรงตัวของร่างกายตัวเองได้ก่อนจะเซไปด้านหน้าเพื่อหาอะไรยึด
     
    " หนุ่มน้อยอย่าแตะมัน! "
     
         นั่นเป็นเสียงสุดท้ายและภาพของฟรานในสีหน้าตกใจพุ่งมาทางตนก่อนที่ทุกอย่างจะถูกกลืนหายไป
     
     
     
    " อืมม... "
     
         ร่างบางพยายามปรับสายตากับทางด้านหน้าให้ชัดเจน แต่ก็เหมือนเดิมทุกสิ่งรอบตัวยังคงมืดมิดมีเพียงสีดำสีเดียวที่ยังคงเด่นชัดในโสตประสาท
      
         ภาพสุดท้ายคือร่างสูงของฟรานพุ่งเข้ามาทางตนก่อนทุกสิ่งจะดำมืด คิดดังนั้นชิเอลก็กวาดสายตาไปรอบตัวอย่างตื่นตะหนกโดยมีบางสิ่งที่ดังกึกก้องราวกับคำภวานาอยู่ในใจ

    ...ขออย่าให้หายไปอีกนะ อย่าให้เป็นเหมือนจิซาล...

    ...ไม่เอานะ!...
     
    " ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ... "
     
         เสียงหนึ่งดังก้องมาจากทิศทางด้านหลังตัวเอง ทำให้ร่างบางหันหลังกลับไปอย่างตกใจแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นเพียงไอหมอกบางๆที่ก่อบรรยากาศหนาวเหน็บได้เพียงชั่วขณะ ฝ่ามือบางยื่นไปข้างหน้าตามความคิด ภาพมายาที่นึกว่าหมอกข้างหน้าบดบังทุกอย่าง
     
    " คุณลืมผมไปแล้วเหรอ... "
     
         เสียงเดิมยังกังวานทั่วทุกทิศ และทันทีที่ฝ่ามือบางสัมผัสได้ถึงไอเย็นของหมอกที่บัดนี้มาอยู่เบื้องหน้าตนแล้ว หมอกนั้นจับตัวกันเป็นรูปร่างอย่างไม่ชัดเจนมากนักจนเป็นร่างของชายหนุ่มแปลกหน้าปรากฎขึ้นมา
     
         ไม่ว่าชิเอลจะพยายามเพ่งมองไปยังข้างหน้าขนาดไหนก็ยังไม่สามารถมองเห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจนได้อยู่ดี และมันก็เริ่มทำร่างบางหัวเสียจนลืมความกลัวเข้าไปอีก เมื่อไม่รู้ว่าตนกำลังเจอกับอะไร
     
    " ไม่ต้องพยายามหรอกครับ ถึงยังไงคุณก็ไม่สามารถเห็นผมได้ มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้สิ่งที่จะทำได้ก็คงปล่อยให้มันเป็นไปตามวงล้อแห่งชะตากรรมล่ะมั้ง "
     
    " มันเรื่องบ้าอะไรกัน "
     
         สิ่งที่อะไรซักอย่างตรงหน้าพูดมาไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้นแม้แต่น้อย แม้ชิเอลจะเอ่ยถามไปแต่ดูถ้าอะไรซักอย่างนั่นจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย แถมยังพึมพำอะไรที่ร่างบางไม่เข้า ก่อนจะหันขวับมาทำให้ชิเอลถึงกับสะดุ้งเฮือก
     
    " ยังขวัญอ่อนเหมือนเดิมเลยนะ... "
     
         มันทำท่าทาวาดมือไปกลางอากาศตรงหน้า ก่อนทุกอย่างจะกระจายเป็นไอไปทิ้งเพียงเสียงสุดท้ายของชิเอลที่สามารถเรียกรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของร่างประหลาด แต่มันก็ไม่ได้ตอบรับคำขอกรรโชกนั่นเลยแม้แต่ เพียงชั่ววินาทีสุดท้ายดวงตาสีมรกตเห็นดวงตาอีกนั้นที่ตนพยายามแต่กลับไม่เห็นมองกลับมาด้วยความขบขันและเสียงของตนที่ดังก้องไปทั่ว
     
    " เดี๋ยวก่อน!!! "




     
     
     
     
    " ชิ.....ล... "
     
    " ชิเ.........ล "
     
         ฟรานเขย่าตัวของชิเอลอยู่หลายครั้งกว่าร่างบางจะรู้สึกตัว แต่ไม่นานดวงตาสีมรกตก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง
     
         ภาพเบื้องหน้าทั้งคู่มีเพียงสีดำสนิทที่แตกต่างออกไปจากความฝันของชิเอล อย่างน้อยชิเอลก็อุ่นใจที่ฟรานยังอยู่ข้างๆแต่ภาพตรงหน้าก็ไม่ได้ลดความกังวลให้น้อยลงเลยเมื่อมีเพียงสีดำยิ่งกว่ารัตติกาลปกคลุมไปทั่ว เป็นข้อกังขาสำหรับคนแปลกหน้าอย่างชิเอล
     
    " ที่นี่มัน..... "
     
    " ขอต้อนรับสู่โลกแห่งวิญญาณ "
     
    "...!!!!"
     
     
     
      

     

    [TBC]
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×