ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พบเจอ
ดวงตาสีมรกตสุกใสเปิดขึ้นพลางสะบัดศีรษะพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ความความมึนจนเส้นผมสีคาราเมลสะบัดไปมาตามแรงนั่น ทันทีที่ลุกขึ้นมาได้ก็ถูกจู่โจมด้วยความรู้สึกหนักอึ่ง เกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ว่าเป็นอาการปวดหัว
...ฝันเหรอ? ฝันร้ายเป็นบ้าเลย...
ชิเอลเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นลุกขึ้นยืนก่อนจะสัมผัสได้ถึงความรฺ้สึกผิกปกติ ไม่ว่าจะลองพยายามเพ่งสายตาเท่าไรก็ไม่อาจจะมองจุดหมายปลายทาง หรือสิ่งต่างๆที่อยู่เบื้องหน้าได้ ราวกับกำลังล่องลอยอยู่ใรสถานที่ๆไร้แรงโน้มถ่วงใดๆมาฉุดรั้งไว้
...'ชิเอล'...
เสียงแผ่วเบาแต่กังวานดังขึ้นแหวกความมืดมิดรอบตัวของเขา นั่นทำให้ประสาทสัทผัสทุกส่วนของชายหนุ่มตื่นตัว ราวกับตั้งรับภัยอันตรายที่ไม่อาจรับรู้ได้
...'ชิเอล'...
เสียงเดิมยังก้องกังวาน ราวกับต้นเหตุเสียงเกิดอยู่ในห้วงของความคิดของตนเอง ประสาทสัมผัสรอบตัวกำลังร้องเตือนจิตใต้สำนึก ราวกับจะบอกให้หวาดกลัวกับสิ่งที่ไม่สามารถรับรู้ได้
...'คุณ...ลืมผมไปแล้วเหรอ'...
"..."
เสียงก้องกังวาน หวานจับใจแต่น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังตัดพ้อออกมา ก็ว่าได้
และเป็นอีกครั้งที่ประสาทสัมผัสทั้งหมด ถูกกระชากออกไปแบบไร้การตั้งตัว
อีกครั้งที่ดวงตาสีมรกตสุกใสนั้นเปิดขึ้นมาจากโลกแห่งความฝันอันโหดร้ายดังเช่นทุกครา แต่แทนที่จะสัมผัสได้ถึงไอเย็นรอบตัวดังเช่นทุกที มันกลับมีความปวดร้าวทั่วร่างเข้ามาแทนที่ เหมือนกับร่างกายบางๆจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆก็ว่าได้
ชิเอลพยายามฝืนเสียงเรียกร้องของร่างกายเพื่อที่จะดันตัวขึ้น แต่ภาพที่ปรากฎตรงหน้ากลับทำให้เจ้าของร่างบางอยากล้มตัวลงไปสภาพเดิมและพร่ำบอกกับตัวเองว่าเป็นแค่เพียงฝันร้ายช่วงหนึ่งเท่านั้นเพราะภาพตรงหน้าเป็นทะเลทรายกว้างยาวสุดสายตา ไอแดดแรงจัดเป็นเครื่องยืนยันความเป็นจริงที่โหดร้ายได้อย่างทารุนที่สุด
...กุบกับๆ...
เสียงของบางสิ่งดังขึ้นมาจากสักแห่งทำให้ร่างบางต้องฝืนความเจ็บปวดตามร่างกายลุกขึ้นมา เพื่อหาเสียง ต้นเหตุที่ดูเหมือนว่ามาจากทางด้านหลังของตน
...กุบกับๆ...
ในช่วงเวลาของวันนี้ดวงตาสีมรกตเบิกขึ้นกว้างอยู่หลายครั้ง และนี่เองก็เป็นอีกครั้งเช่นกัน เพื่อเบื้องหน้าปรากฎภาพขบวนรถม้าสีคำสนิทที่ตกแต่งราวกับเป็นหมู่คณะละครสัตว์ ที่คิดว่าจะได้เห็นแต่ในภาพยนต์ของดิสนีย์เท่านั้นซะอีก แถมม้าสีดำที่ทำหน้าที่รากขบวนทั้งหกตัวมันยังสีเขาสีเดียวกับตัวมันของออกมาจากหัวอีกด้วย
...เขานะเว้ย!!! ม้าบ้านใครมีเขากันบ้างเล่า!
ไม่นานขบวนรถม้าสีดำก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของชิเอล มันทำให้เขารู้สึกอยากตบหัวตัวเองให้สลบเพื่อตื่นจากฝันบ้าๆนี่ แต่บางทีมันทำให้เขาคิดว่าตัวเองเป็น อลิส รุ่นที่สองก็ได้ งั้นคงต้องเปลี่ยนชื่อเรื่ิอง เป็นชิเอลอินวันเดอร์แลนด์ซะแล้วสิ แต่ไม่นานก็มีเสียงที่ทำให้ต้องหยุดความคิดไร้สาระของตัวเองลง เมื่อประตูรถมาเปิดออก
...ปึง!...
" โอ๊ะ! หนุ่มน้อยมานี่ได้ไง รู้มั้ยเขตทะเลทรายซาบีเป็นพื้นที่อันตรายระดับC+เลย"
"..."
" ไม่กลัวตายรึไงหนุ่มน้อย เฮ้ย!ฟังป่าว "
ชายแปลกหน้าหน้าโบกมือไปมาตรงหน้าของชิเอลที่มัวแต่ตื่นตะลึง ชายตรงหน้ามีใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาสีอะเมทิส ถูกล้อมกรอบด้วยผมสีบร์อน ทำให้ใบหน้านั้นดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด แม้กระทั่งกับชิเอลที่ว่าน่ารักแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้ามองชิเอลตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนดวงตาทรงเสน่ห์จะเบิกกว้างด้วยอัปกริยาตกใจ คนเบื้องหน้าใช้นิ้วชี้มาทางชิเอลพลางวาดขึ้นลงอย่างไร้มรรยาทก่อนจะตะโกนออกมาดังลั่น
" นายไม่ใช่คนที่นี่!!!!! "
ร่างบางของชิเอลสะดุ้งเฮือกตามเสียงก่อนพยักหน้าขึ้นลงอย่างรัวแทนคำตอบให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ที่ยังคงมองร่างบอบบางของตนอย่างตกตะลึง แต่ท่าทีนั่นก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพอๆกับการถูกกระชากขึ้นขบวนรถที่ออกตัวทันทีที่ประตูปิดลง ปล่อยให้ชิเอลนั่งในรถอย่างตกตะลึงไม่หาย
" ฉันกำลังจะไปที่ดราโก้พอดีเลยล่ะหนุ่มน้อย "
"..."
" อ่ะ! ลืมบอกไปฉันชื่อ ฟราน 'ฟรานซิสก้า มาเดคอฟ' ยินดีที่ได้รู้จัก! แต่ว่าหนุ่มน้อยชื่ออะไรล่ะ "
" เอ่อ.. ."
ชิเอลเพิ่งได้สติหลังจากโดนฉุดมา มองคนตรงหน้าที่พูดรัวจนมึน ทั้งยังไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเชื่อใจได้รึเปล่า แต่แค่ชื่อคงไม่เป็นอะไรหรอก...มั้งนะ
" ชิเอล 'ชิเอล เซโรท' ยินดีที่ได้รู้จักครับ "
" อืม ชื่อน่ารักดีแต่ฉันชอบหนุ่มน้อยมากกว่า เรียกหนุ่มน้อยละกันน ะ"
ฟรานพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีพร้อมตบไหล่ชิเอลสองสามทีอย่างเป็นกันเอง ตรงข้ามกับชิเอลที่เริ่มทำหน้าไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าหนุ่มน้อย แค่ตัวโตช้าไปนิดเท่านั้นเอง รู้ว่าไม่เป็นผลแต่ชิเอลยังแก้ชื่อของตัวเองเผื่อคนตรงหน้าจะเรียกถูกขึ้นซักนิด
" ผมชื่อชิเอลครับ "
" หนุ่มน้อย~ "
ชิเอลทำหน้าบูดขึ้นเรื่ิอยๆในขณะที่ฟรานเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาสีอเมทิสสั่นระรึกอย่างนึกสนุก ที่มีเพื่อนใหม่จากต่างแดนมาด้วย
เดิมทีทุกครั้งที่มีคนที่ 'หลุดมิติ' ออกมาจะต้องจับส่งทางการทันทีเพื่อความปลอดภัยของโลกแห่งอิเดโก้และตัวของผู้ที่หลุดมิติมาเองและข้อบังคับพวกนี้ก็ถูกบันทึกไว้เป็นกฏหมายที่ทุกประเทศนั้นต้องปฏิบัติตามอย่างแคร่งครัด แต่ก็มีบางพวกที่ได้รับสิทธิพิเศษให้สามารถอาศัยอยู่ในโลกแห่งนี้ได้ในฐานะของผู้ที่ลี้ภัยจากต่างแดนแต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
ในหัวของฟรานตอนนี้กำลังประมวลผลทุกสิ่งทุกอย่างอย่างหนักเพราะหากไม่ทำตามกฎหมายหลักที่ว่าให้จับตัวผู้ที่หลุดมิติมาส่งทางการแล้ว ไม่ว่าผู้ที่ขัดขืนจะเป็นใครก็ล้วนแต่ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ทั้งนั้น แต่มีบางสิ่งในตัวที่กระตุ้นความรู้สึกว่าไม่ควรจะส่งคนผู้นี้ให้กับทางการ นัยน์ตาสีอเมทิสพราวระยับอย่างนึกสนุกพลางคิดว่าเก็บไว้สักคนทางการคงไม่มีทางรู้หรอก(มั้ง)
เมื่อสามารถตัดสินใจได้ร่า่งสูงจึงขยับรอยยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีและรอยยิ้มนั้นทำให้อีกร่างนึงที่ไม่รู้เรื่องอะไรขนลุกซู่ด้วยความรู้สึกซักอย่าง ด้วยท่างทางแบบนั้นทำให้ฟรานหัวเราะออกมาอย่างชอบใจเพราะบางที...
...การเดินทางครั้งนี้คงไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดแล้วล่ะ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น