ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Frawteer ดินแดนแห่งสุดท้ายของผู้ลี้ภัย

    ลำดับตอนที่ #7 : เจ้าของ

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 56







     
    " ขอต้อนรับสู่โลกแห่งวิญญาณ "
     
         สิ้นเสียงกังวานที่ไร้แหล่งกำเนิดนั่นชิเอลรู้สึกราวกับหัวถูกฟาดเข้าไปซัักเปรี้ยงสองเปรี้ยง ตั้งแต่คนมีหู กระดอง เวทมนต์ แล้วยังมาโลกวิญญาณอีก ให้ตายเหอะ! พระเอกเรื่องนี้ตายเร็วไปมั้ยเนี่ย
          
         ท่อนแขนเล็กๆของชิเอลเกี่ยวเข้ากับแขนที่ดูทรงพลังของฟรานไว้แน่นราวกับว่ามันเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้าย แต่นั่นก็ทำให้ฟรานหันกลับมามองร่างบางด้วยความเอ็นดูจนเผลอลูบหัวของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว เรียกดวงตาสีมรกตให้ค้อนกลับได้อย่างทันใด
     
    " กลัวเหรอหนุ่มน้อย "
     
    " ใครกลัวกันครับ อย่ามาพูดมั่วๆนะ! " ฟรานหัวเราะออกมาเบาๆทันทีที่เห็นท่าทางแบบนั้น จนทำให้เขาคิดถึงใครบางคนเมื่อนานมาแล้ว นานจนแทบจะลืมเลือนไป
     
    " เฮ้! " สายลมเบาๆที่ประทะไปหน้าเรียกสติของฟรานให้กลับมาได้ เขาหันกลับมามองหน้าชิเอลที่กำลังงุนงงกับท่าทางของเขาเอง " คุณเป็นอะไรรึเปล่า? "
     
    " ไม่เป็นอะไรหรอกหนุ่มน้อย "
     
         ชิเอลขมวดคิ้วมองซีกหน้าด้านหนึ่งของฟรานที่กำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงชอบบอกว่าไม่มีอะไรทั้งที่เมื่อกี้ก็แสดงอาการที่แบบนั้นออก ถึงจะคิแบบนั้นแต่ก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรจึงเลิกสนใจก่อนหันกลับไปมองเบื้องหน้าที่เคยเป็นสีดำสนิท แต่ตอนนี้กลับมีกลุ่มไอบางอย่างรวมตัวกันจนดูเหมือนบางสิ่งมีขนาดใหญ่และค่อยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 
     
         กลุ่มไอควันสีเทาที่ดูคล้ายหมอกเริ่มเด่นชี้เป็นรูปร่างขึ้นมาในความมืด ไอสีเทาเริ่มแรกดูคล้ายกับภูเขาลูกยักษ์ ก่อนจะเข้ารูปเข้าร่างส่วนที่เรียวดูเหมือนหัวขนาดยักษ์มหึมานั่นเกินกว่าจะเป็นหัวของมนุษย์แน่ๆ ทั้งยังมีส่วนที่งอกออกมาจากหัวคล้ายจะเป็นเขาต่อด้วยลำคอที่ยืดยาวแล้วลำตัวที่ดูไปต่างอะไรกับภูเขาดีๆและดูเหมือนจะมีปีกงอกออกมาจากส่วนหลังเสียด้วย
     
    ...ปีก!!!...
     
    " เฮ้ย!ปีก!!!/มังกือ!!! " สองเสียงประสานขึ้นต่างหัวข้อแต่พร้อมเพรียงในจุดประสงค์ที่ต้องการแสดงถึงความตกใจและแน่นอนชิเอลต้องเจ้าของประอุทานอันแรก ดังนั้นต้องหันไปมองหน้าเจ้าของประโยคสุดเพี้ยนอันหลัง
     
    ...มังกือ?! มันคือไฟลัมหรือสปีชีล์เดียวกับมังกรรึเปล่า...
     
         ยังไม่ทันจะได้ไขข้อข้องใจ เสียงต้นก็ดังขึ้นอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้ชิเอลและฟรานสัมผัสได้ถึงต้นเสียงได้อย่างชัดเจนเมื่อมันมาจากมังกรร่างยักษ์เบื้องหน้า
     
    " ข้าคือรีไซเดอร์ที่อยู่ในดาบที่เจ้าสัมผัสหรืออีกนัยนึงข้าเองก็คือดาบดร์ากวอร์ " นัยน์ตาสีแดงเลือดกวาดมองร่างบางของชิเอลสลับกับฟรานไปมาก่อนจะเอ่ยต่อ " ผู้ใดก็ตามที่ได้สัมผัสดร์กวอร์จะต่องได้รับการทดสอบ หากผ่านไปได้คนผู้นั้นจะเป็นนายแห่งข้า แต่หากไม่คนผู้นั้นก็ไม่อาจหวนคืน "
     
    " นั่นไง นั่นไง " ฟรานยกมือขึ้นกุมผมสีบร์อนของตัวเองก็ส่ายหัวไปมานั่นทำให้ชิเอลนึกไปถึงคุณป้าร้านอาหารในโรงเรียนที่มักจะเป็นแบบนี้ทุกวันที่หนึ่งกับสิบหกซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไม
     
    " แล้วถ้าผมไม่รับบททดสอบอะไรนั่นจะได้รึเปล่า "
     
         มังกรเบื้องหน้ามองชิเอลอย่างพิจารณา ผู้อื่นที่สัมผัสดาบมักเข้ามารับบททดสอบด้วยความเต็มใจไม่ว่าจะเพื่อพละกำลัง อำนาจ กิเลส มันต่างพบเจอมาหมดสิ้นแต่เด็กหนุมเบื้องหน้าดูเหมือนจะไม่มีสิ่งที่ว่าเลย " เมื่อใดก็ตามที่สัมผัสกับดาบก็มิอาจปฏิเสธการทดสอบได้ "
     
    " เพราะแบบนี้ไงหนุ่มน้อยถึงบอกไม่ให้จับอะไร จะว๊าก!!เฮ้ย!! "
     
         รีไซเดอร์ในดาบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ฟรานก่อนจะทำสิ่งที่ดูเหมือนจะแสยะยิ้ม...
     
    " จะเริ่มเลยหรือรอให้เวลาล่วงเลยไป "
     
    " ถามเหมือนมีทางเลือกอื่น หมุ่นน้อย!ฉันหิวแล้วล่ะ รีบกลับกันดีกว่า "
     
         ยังไม่ทันที่ชิเอลจะพูดอะไรเสียงรีไซเดอร์กันดังขึ้นขัดเสียก่อน " งั้นถือว่า'พวกท่าน'ตกลง "
     
    " เอ๋?! 'พวกท่าน'ไม่ใช่แค่คนที่สัมผัสดาบเหรอ เฮ้ย! "
     
         อีกครั้งที่ชิเอลไม่สิทธิ์ที่จะตัดสินใจอะไรก็ปรากฏเป็นหลุมดำอยู่ใต้เท้าของทั้งคู่ และเป็นธรรมดาที่ทั้งสองจะต้องตกลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกเหลือไว้เพียงเสียงโหยหวนของฟรานที่บ่งบอกความเป็นเจ้าตัวได้ดีอย่างสุดซึ้ง
     
    " แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! "
     



     
     
     
         ชิเอลยกมือขึ้นมาลูบหัวตัวเองที่โดนแรงกระแทกเหมือนตกจากที่สูงแต่ไม่ยักเจ็บเท่าที่ควร ดวงตาสีมรกตกวาดมองบรรยากาศรอบๆที่ไม่ได้เป็นสีดำสนิทอย่างเดิม ก่อนจะรู้สึกเหมือนใต้พื้นนั้นกำลังขยับอยู่น้อยๆ
     
    " แผ่นดินไหว!!! "
     
    " ใช่ที่ไหนเล่า! เมื่อไหร่จะลุก มันหนักนะหนุ่มน้อย " ชิเอลก้มลงมองเบาะมีชีวิตที่อยู่ด้านล่างก็เห็นฟรานจ้องมาทางตนจนนัยน์ตาสีอเมทิสนั่นแทบจะหลุดถลนออกมาจากกรอบตาด้วยซ้ำ
     
         หลังจากที่ร่างบางลุกออกไปฟรานก็ปัดฟุ่นตามชุดของตนด้วยสีหน้ายุ่งใจก็จะเห็นชิเอลกำลังจ้องมองมาทางตนแบบไม่น่าไว้ใจเท่าไร " อะไรอีกล่ะ "
     
    " แผ่นดินไหว... "
     
    " ใช่ที่ไหนเมื่อกี้ตอนที่หนุ่มน้อยลุกขึ้นมาน่ะ... " ยังไม่ทันที่ฟรานจะพูดจบก็มีดังมา 'เปรี๊ยะ' ขึ้นมาและเหมือนว่าต้นเสียงจะมาจากพื้นที่เขายืน ฟรานก้มลงมองพื้นดินที่ตนยืนด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจก่อนจะ " เฮ้ย!!!! "
     
    " ฟราน!!! "
     
          ชิเอลตะโกนพร้อมยื่นมือไปไขว่คว้าร่างที่ยืนอยู่เบื้องหน้าบนรอยแตกของแผ่นดินที่เริ่มทรุดตัวหายไปอย่างสุดตัว
     
         ในวินาทีนั้นเองที่เห็นภาพหนึ่งซ้อนทับร่างของฟรานขึ้นมา ภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ภาพที่เปลี่ยนโลกของเขาไป
     
    ...ทั้งที่เป็นของสำคัญ ของสำคัญเพียงหนึ่งเดียวยังไม่มีปัญญารักษาเอาไว้...
     
    " จิซาล...อย่าหายไปนะ อยะ...าย..ป "
     
         นัยน์ตาสีอเมทิสของฟรานเบิกกว้างทันทีในขณะที่พื้นที่ตนกำบังยืนค่อยๆทรุดทลายลง การที่จะหลบการแตกตัวของแผ่นดินคงไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเกรดเออย่างเขา
     
         ที่น่าตกใจคือร่างตรงหน้า ร่างของชิเอลกำลังเรืองแสงสีเขียว ฟรานสัมผัสได้ถึงไอพลังมหาศาลที่ทลักออกมาจากร่างตรงหน้า มันทำให้ประสาทสัมผัสทุกส่วนในร่างกายของเขาตื่นตัว ขนในกายพากันชันตัวขึ้น เลือดในกายร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว เขากำลังรู้สึกถึงความ'ท้าทาย'ที่ห่างหายไปนาน 
     
    ...ถ้าได้สู้กับคนตรง 
    ...ถ้าได้ลองสู้กับชิเอล
     
       เพียงแค่นั้นเลือดในกายก็ยิ่งเดือดพล่าน ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่เขากับรู้สึกสนใจในตัวของชิเอลและตอนนี้พลังนี้บ่งบอกได้ว่าสัญชาตญาณของเค้าไม่ผิด เด็กหนุ่มตรงหน้ามีอะไรมากกว่าที่เห็นภายนอก ทั้งทั้งเป็นคนนอกแต่กลับมีพลังมากมายขนาดนี้
     
    คนนอก!!!...
     
         คนนอกที่หลุดมิติมาไม่มีพลัง พวกที่ผ่านมิติมาโดยไม่ตั้งใจไม่ใช่พวกมีพลัง เป็นไปไม่ได้ เมื่อคิดดังนั้นเลือดในกายที่เคยเดือดพล่านก็พากับเย็นเฉียบลงก่อนจะปล่อยเสียงที่แทบจะเป็นการกระซิบรอดไรฟันออกมา " นี่มันบ้าชัดๆ "
     
         ไม่มีเวลามากพอจะให้ฟรานได้นั้นอึ้ง เมื่อเสียงลั่นราวกับการแตกหักของห้วงเวลาท้องฟ้ามายาที่แรกเป็นสีดำกลายเป็นสีฟ้าเริ่มปรากฎรอยแยกและเสียงแตกหักของไอพลัง
     
    เปรียะ!
     
         ท้องฟ้ามายาในมิติที่ถูกสร้างขึ้นโดยรีไซเดอร์ในดาบทลายลง ราวกับเศษแก้วชิ้นเล็กชิ้นน้อย เบื้องหลังฟ้าครามนั่นกลับกลายเป็นบรรยากาศห้องสีดำที่คุกรุ่นไปด้วยไอเวทของเหล่าอาวุธร้าย ฟรานมองร่างบนตักที่กอดตนไว้แน่นร่างบางของชิเอลกำลังสั่นเบาๆและพึมพำบางสิ่งที่ฟรานไม่สามารถจะเข้าใจได้
     
         กลุ่มไอดำรวมตัวกันอย่างเรือนรางอยู่เบื้องหน้าทั้งคู่ก็จะเอื้อนเอ่ยวาจาที่คล้ายกับตรวนที่จะสร้างพันธนาการให้ผู้ลั่นวาจา " ข้าขอยอมรับท่าน นายแห่งข้า "
     
         ฟรานลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะดึงชิเอลขึ้นมา ดวงตาสีมรกตของชิเอลมองดาบสีดำสนิทเบื้องหน้าอย่างลังเลว่าควรจะแตะมันอีกรึเปล่า
     
     " มองอะไรเล่าหนุ่มน้อย ตอนนี้เจ้าดาบนี่เป็นของนายแล้วนายจะจับมันได้ตามใจอยากแล้ว "
     
     " คุณแน่ใจนะว่ามันจะไม่เป็นเมื่อกี้ "
     
    " นั่นคือบททดสอบและเมื่อกี้หนุ่มน้อยก็ผ่านมันได้แล้วถือว่าเป็นเจ้าของเจ้าดาบนี่แล้ว "
     
         ชิเอลมองดาบสีดำนั่นอีกทีก่อนจะตกใจเมื่อมันลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ดวงตาสีมรกตเงยขึ้นไปสบกับนัยน์ตาสีอเมทิสตรง ฟรานยิ้มน้อยเป็นการตอบกลับก่อนจะหันหลังแล้วเดินต่อไปในส่วนที่ลึกเข้าอีกด้านหนึ่งของห้อง ทำให้ชิเอลไม่มีทางเลือกต้องคว้าดาบสีดำตรงหน้าขึ้นแล้วรีบวิ่งตามคนข้างหน้าที่ดูเหมือนจะจะหายไปในความมืดมิด
     
     

     
     
         อีกฟากหนึ่งของห้องเมื่อพ้นหนทางที่มืดมิดมา ปรากฎเป็นแสงประหลาดอ่อนๆที่ทำให้บรรยากาศเบื้องหน้าดูเหมือนดึงดูดผู้มาเยือนให้เข้าไปสัมผัสกับความเร้นรับที่อยู่ภายใน ร่างสูงของฟรานก้าวต่อไปตามทางเดินพลางจับจังหวะเสียงของฝีเท้าคนด้านหลังที่ตามมา การที่ชิเอลสามารถครอบครองดาร์กวอร์ได้และยังผ่านบททดสอบกับการยอมรับจากรีไซเดอร์ในดาบได้ในเวลาสั้นๆเท่านั้นเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเด็กนี่ไม่ธรรมดาจริงๆยิ่งคิดได้แบบนั้นใบหน้าคมของฟรานก็ยิ่งขยับยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเป็นการคาดหวังว่าความสนุกมากมายจะต้องเกิดหลังจากนี้แน่
     
         ฟรานเดินมาหยุดอยู่ใจกลางของห้องอีกด้านหนึ่งที่ล้อมรอบไปด้วยไอเวทของเหล่าอาวุธทั้ง คทา ดาบและสารพัดของอันตรายเหมือนห้องที่ผ่านมาสิ่งที่แตกต่างจากห้องที่แล้วคือไอเวทของห้องนี้ไม่ให้ไอเวทสีดำทั้งหมดแต่มีไอเวทไฟ น้ำ และอื่นๆมากมายที่ผสมปนเปกัน
     
    " ทางนี้...ข้าอยู่นี่ "
     
    " เสียง  "ฟรานหันไปด้านหลังเพื่อหาต้นเสียงก็พบกับชิเอลที่ทำหน้างงและถามว่า " เสียงอะไร "
     
    " ทางนี้...มาหาข้า "
     
    " นี่ไงหนุ่มน้อยไม่ได้ยินเหรอ " เมื่อเสียงดังขึ้นอีกรอบฟรานหันไปบอกชิเอลทันที แต่ก็เหมือนเดิมชิเอลยังคงทำหน้างงอยู่ บางที่เสียงนั่นอาจจะต้องการให้เขาได้ยินอยู่เพียงคนเดียวก็เป็นได้
     
         ฟรานพยาเดินเข้าหาต้นเสียงที่อยู่มุมหนึ่งก็ไปสะดุดสายตากับดาบที่ถูกโอบอุบด้วยไอสีม่วงประหลาดแสงเรืองรองที่ล้อมดาบที่เงินราวกับจะดึงดึงดูดให้สัมผัส
     
    " ข้าอยู่นี่ ข้ารอท่านมาเนิ่นนาน "
     
    "..."
     
    " ท่านจะยอมรับการทบสอบจากข้าหรือไม่ "
     
         คราวนี้ชิเอลได้ยินเสียงเต็มสองหูก็หันไปสบตาฟรานและอีกครั้งที่ได้รับรอยยิ้มบางๆตอบกลับมาก่อนที่เจ้าของสายตาจับสัมผัสดาบที่อยู่เบื้องหน้าของตน
     
     
     
     





    [TBC]
     
     




    clear your mind
     
     
         อย่างแรกต้องขอขอบคุณที่ช่วยคอมเม้นแนะแนวทางให้มากๆเลยนะคะ ทุกข้อผิดพลาดจะรีบนำไปแก้ไขโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ
     
         เนื่องด้วยที่มีคนบอกว่าพิมพ์ผิดเยอะมากกกก อันนี้ข้าน้อยขอยอมรับและขออภัยจากใจจริงเลยนะเจ้าคะ-/|\-
    เพราะด้วยประการนึงคือพิมพ์ผ่านทางไอโฟนพอคิดได้ หัวแล่นไปทางไหนก็ลงมันพรวดพราดไปเลยจนมีคนถามว่าไม่ตรวจก่อนเหรอ คือตรวจแล้วนะเจ้าค่ะ(แต่ก็ยังผิดอยู่ดี)T-T 

    แล้วเรื่องการสะกดคำผิดต้องขอบคุณทุกคนและก็ฝากขอร้องนิดนึงว่าถ้าเจอช่วยสะกิดกับเบาๆเพราะเขียนไม่ถูกจริงๆค่ะ-.,-/// เป็นเหมือนกับตอนทำของสอบที่โรงเรียนเลยเจ้าค่ะ เพราะโดนหักคะแนนตรงจุดนี้บ่อยมากโดยเฉพาะวิชาภาษาไทย
    แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่รับทราบข้อกล่าวหาเรื่องคำผิดนะเจ้าคะ ข้าน้อยจะเร่งปรับปรุงให้เร็วที่สุดนะเจ้าค่ะ -0- b!!!
     
         ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่า Frawteer ของข้าน้อยเป็นแนว Y นั้น ข้าน้อยขอบอกเลยว่าไม่ใช่เจ้าค่ะ เพียงแค่ความสนุกกับการจินตราการตกขอบโลกไปนิดนึงและแอบฟินหน่อยๆ=.,=\ จนเผลอคิดว่าบางทีอาจจะมีบางตัวละครที่จับมาคู่กันจริงๆก็เป็นได้(โฮกกกกกก) 
    แต่คือหลักๆอยากให้เป็นแฟนตาซีไม่ค่อยอยากให้เอนเอียงไปทางนั้นมากนักนะเจ้าคะเพราะเรื่องนี้แต่งขึ้นจากความคิดหรือสิ่งที่ไม่อาจจะกระทำในโลกแห่งความเป็นจริงได้จึงขอถ่ายทอดออกมาเป็นตินตนาการแทนเจ้าค่ะ
     
         ส่วนเรื่องการอัพเดตอาจจะมีล่าช้าบ้างเพราะเนื่องจากพระราชา(หรือก็คือบิดาของข้าน้อย)นั้นไม่พอใจที่จะให้ข้าน้อยมีโลกส่วนตัวในการฟิน จิ้น เพ้อ ไปกับโลกที่ไม่มีอยู่จริงหรือโลกไซเยอร์มากเกินไป เวลาที่สามารถแต่งได้จึงมีเพียงเวลาที่พระราชาเสด็จไปที่อื่นเท่านั้นน่ะเจ้าค่ะ
     
         .....  เรื่องจุดที่ตอน นี่หลังจากบทนี้ไปจะไม่มีปรากฎบนชื่อตอนแล้ว ขอบคุณมากๆเจ้าที่ช่วยแสดงความคิดเห็นออกมา>_<
     
         มีอีกผู้นึงที่กล่าวเอาไว้ว่ารอบทที่10เเล้วจะอ่าน ข้าน้อยจะรีบอัพให้ว่องที่สุด
     
     
    ***ขอบคุณทุกความคิดเห็นทุกกำลังใจนะเจ้าคะ
    ข้าน้อยนังเป็นเพียงแค่มือใหม่หัดแต่งอยู่จึงอยากขอให้ทุกท่านช่วยกันวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นในทิศทางใดก็ตาม 
    ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะเจ้าคะ^_^\
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×