ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++ สำนักงานของเชอร์ล็อค ++

    ลำดับตอนที่ #41 : เมื่อเชอร์ล็อคกลายเป็นนักเวทย์....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      0
      26 ก.ค. 58

    Application

     

     1  2  3
     

    "เรา…..อยากลืม เราอยากลืม ลืมมันไปให้หมด กรี๊ดดดดดดดด!!"

     

    ชื่อ-นามสกุล : เฮสเทอรินัส  เวนท์วอร์ท II Hesterinus  Wentworth

    ชื่อเล่น : เรเน่ II Rene

    อายุ : 15 ปี

    น้ำหนัก : 37 กิโลกรัม

    สูง : 155 เซนติเมตร

    เพศ : หญิง

    ชั้นปี : ม.ปลายปี 1

    ลักษณะเด่นและรูปร่างหน้าตา : เรเน่คือเด็กสาวเจ้าของใบหน้าหมองเศร้า ใบหน้ารูปไข่สวยหวานไร้ซึ่งชีวิตชีวาอย่างที่เด็กวัยรุ่นควรจะเป็น ดวงตากลมโตสีฟ้าหม่นที่มักจะหลุบต่ำลงตลอดเวลา และในบางครั้งก็ประดับไปด้วยหยาดน้ำตาเม็ดโต จมูกโด่งรั้นปลายเชิดขึ้น แต่ปลายจมูกมักแดงก่ำอันมาจากการร้องไห้อยู่เป็นนิจ ริมฝีปากบางสีชมพูซีดที่ไม่เคยแย้มรอยยิ้มออกมาสักครั้ง เครื่องหน้าของเด็กสาวงดงามราวกับรูปสลัก แต่กลับถูกปกปิดอยู่ภายใต้ฮู้ดและผมหน้าม้ายาวเกือบครึ่งหน้า เรือนผมยาวถึงสะโพกสีทองสว่างตัดกับผิวขาวซีดราวกับแผ่นกระดาษได้เป็นอย่างดี หากแต่ผิวเนียนกลับเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว (แต่คนทั่วไปมองไม่เห็นเพราะใส่เสื้อแขนยาวปิดไว้ตลอดเวลา) ยามเรเน่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดเด็กสาวก็เหมือนกับจะเรืองแสง แล้วหายไปกับไอร้อนของดวงอาทิตย์ ผีรึเปล่าหว่า เรเน่เป็นเด็กหญิงรูปร่างเล็กบางค่อนไปทางผอมเกร็ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไร้ซึ่งความโดดเด่นอย่างสิ้นเชิงเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คน ชุดที่เรเน่มักสวมใส่เป็นประจำนอกจากเครื่องแบบนักเรียน คือ เสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีทึบกับกางเกงยีนส์ขาสั้น สาเหตุที่เลือกเสื้อมีฮู้ดก็เพราะต้องการจะดึงฮู้ดลงมาเพื่อปกปิดใบหน้า และเรเน่ก็มักจะใส่เสื้อแบบนี้ทับเครื่องแบบนักเรียนอยู่เป็นประจำ

    ตำหนิ : รอยแผลเป็นบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง และแผลจากการถูกไฟไหม้ที่กลางหลัง

    ลักษณะนิสัย : เฮสเทอรินัสคือเด็กสาวที่มีความเศร้าและน้ำตาเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีวันไหนที่เธอไม่ร้องไห้ และไม่มีวันไหนที่เธอยิ้มเช่นกัน เรเน่เป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างยึดติดกับอดีต เรื่องราวในอดีตอันเลวร้ายทำให้เธอจมอยู่กับความเศร้า เธอมักจะคิดถึงเรื่องนี้เสมอ ส่วนหนึ่งก็เพราะโรคของเธอ เรเน่เป็นโรคไฮเปอร์ธีมีเซีย ทำให้สามารถจำทุกๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิตได้เป็นอย่างดี เธอไม่เคยลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เคยลืมว่าใครเคยพูดหรือทำอะไรเธอไว้ ยิ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายหรือกระทบจิตใจมากๆ เจ้าตัวก็จะยิ่งจำมันได้ดี เธอจะจมปลักอยู่กับเรื่องเหล่านั้น นั่นทำให้เรเน่กลายเป็นเด็กหญิงที่เปราะบางอย่างที่สุด เรเน่นั้นเป็นคนอ่อนไหวง่ายแค่มีเรื่องมากระทบแม้เพียงเล็กน้อยก็สร้างความกระทบกระเทือนกับจิตใจได้อย่างมหาศาล แต่เรเน่ไม่เคยคิดจะพูดมันออกมา เธอจะเก็บมันไว้คนเดียวและเอาแต่นึกถึงมัน เป็นผลให้ชีวิตของเด็กสาวคนนี้เต็มไปด้วยความทรมาน เรเน่ไม่สามารถระบายเรื่องในจิตใจให้ใครฟังได้ เพราะตัวเธอเองก็ไม่มีใครให้พึ่งพิง การอยู่ตัวคนเดียวทำให้เธอต้องเผชิญกับโลกที่โหดร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่เชื่อใจใคร และไม่คิดจะไว้ใจใครทั้งสิ้น เธอมักจะมีระยะห่างสำหรับคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเธออยู่เสมอ  

                เรื่องที่เรเน่ร้องไห้นั้นนับเป็นเรื่องปกติ แต่เรเน่ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาร้องไห้คร่ำครวญ หรือสะอื้นฮักๆ ให้ใครเห็น ต่อให้ต้องน้ำตาแตกต่อหน้าฝูงชนจริงๆ เรเน่ก็จะทำเพียงแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ แต่ช่วงเวลานั้นมันช่างยาวนาน ราวกับเธอมีน้ำตาไม่จำกัดอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งเด็กสาวไม่ส่งเสียงร้องหรือเสียงสะอื้นแม้แต่นิดเดียว ก็ยิ่งชวนสงสัยว่าเธอคนนี้เอาอากาศที่ไหนมาหายใจตอนร้องไห้กันแน่ อุปนิสัยส่วนตัวของเรเน่อย่างหนึ่งคือการมองโลกในแง่ร้าย เธอเป็นเด็กสาวที่มองโลกในแง่ร้ายเข้าขั้นติดลบ ซึ่งพอคิดแล้วก็จะหยุดคิดไม่ได้ ทำให้ต้องพะวงเป็นคนบ้า เรเน่มีนิสัยส่วนตัวอยู่อย่างหนึ่งคือ พอคิดอะไรแล้วจะกัดปากตัวเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งถ้าหากเรเน่คิดมากถึงขีดสุดเมื่อไหร่ เธอก็จะลงมือทำร้ายร่างกายตัวเองทันที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตามตัวของเรเน่จะเต็มไปด้วยรอยเขียวจ้ำ หรือรอยช้ำน่ากลัว

                เรเน่เป็นคนร่างกายอ่อนแอและมีภูมิต้านทานต่ำมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เธอไม่สามารถทำงานหนักหรือออกกำลังได้เหมือนอย่างคนอื่นๆ แค่ขึ้นบันไดสองสามชั้นเรเน่ก็หอบจนตัวโยนเสียแล้ว เรื่องยกของหนักยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าหนักมากกว่าโต๊ะเรียนอย่าหวังเลยว่าเรเน่จะยกไหว บางครั้งแค่ตั้งหนังสือมือของเรเน่ยังสั่นเลยด้วยซ้ำ แถมเรเน่ยังไม่สบายอยู่บ่อยๆ บางครั้งแค่ตากแดดนานๆ ก็ไข้ขึ้นเสียแล้ว เธอไม่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้เหมือนอย่างเด็กคนอื่นๆ นี่ยังไม่นับร่างกายที่อ่อนแอและเปราะบางยิ่งกว่าแก้วอีกนะ แค่จับแรงๆ หรือผลักนิดหน่อยเนื้อตัวของเรเน่ก็จะปรากฏรอยแดงหรือรอยช้ำขึ้นมาอย่างง่ายดาย (ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าตัวผิวขาวด้วยแหละ) ดังนั้นงานใช้แรงหรือกิจกรรมแอคทีฟต่างๆ เรเน่จึงมักจะถูกคัดชื่อออกเป็นคนต้นๆ

                เรื่องที่เรเน่ถนัดที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องการใช้สมอง เรเน่นั้นฉลาดเป็นกรด (แม้ในบางครั้งจะฉลาดแกมโกงก็เถอะ) แถมยังรอบรู้ราวกับห้องสมุดเคลื่อนที่ เรื่องวิชาการนี่ขอให้บอกเรเน่ยิ่งกว่าเชี่ยวชาญ!! แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้แต่เรื่องในตำราอย่างเดียวนะ ความรู้รอบตัวของเรเน่ก็แน่นพอสมควร ถามปุ๊บตอบปั๊บเป็นอับดุลกันเลยทีเดียว (แต่เจ้าตัวจะยอมพูดรึเปล่านี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง) หรือจะเป็นวิถีโจรเล็กๆ น้อยๆ อย่างการสะเดาะกลอนหรือการย่องเบา แม้กระทั่งให้ไปสืบข้อมูลของชาวบ้านมาเรเน่ก็สามารถนะคะ!! เรียกได้ว่าถ้าอยากรู้ฐานข้อมูลของใครนี่ให้นึกถึงเรเน่เลยค่ะเพราะเจ้าตัวรู้หมด แต่จะยอมบอกมั้ยนี่ก็อีกเรื่องนะ….

                ท่ามกลางผู้คนนับร้อยนับพัน เอาง่ายๆ แค่ภายในโรงเรียนนะคะ หาคนที่รู้จักเรเน่ยากยิ่งกว่าการหาแมวที่ออกลูกเป็นหมาเสียอีก!! เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเรเน่นั้นแสนจะจืดจางยังไงล่ะ ไม่มีใครรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอหรอก มักจะรู้ตัวก็ตอนที่สัมผัสถึงพลังงานบางอย่างได้จากด้านหลัง (เรเน่ไม่ใช่ผีนะคะ!!) ยิ่งเจ้าตัวเป็นคนไม่ค่อยพูดด้วยแล้ว….หาคนรู้จักยากค่ะพูดเลย ที่สำคัญเรเน่ยังมีมนุษยสัมพันธ์แย่ไปจนถึงแย่มาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเข้าหาหรือพูดคุยกับคนอื่นนั้นควรทำยังไง หรือถ้าหากจะให้พูดเสียงของเธอมันก็ช่างเบายิ่งกว่ามดกระซิบ ต้องฟังแล้วฟังอีกว่าเธอพูดอะไรกันแน่ ซึ่งหลายคนก็อาจจะหมดความอดทนไปซะก่อน เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดกับคนอื่นยังไงเรเน่เลยมักจะพูดแทงใจดำคนฟังอยู่บ่อยๆ (อันนี้ได้ยินอย่างไวไม่ต้องฟังหลายรอบ) ซึ่งเรเน่ไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเขาไม่ชอบ พอถูกบางคนตวาดใส่ก็เก็บเอาไปคิดมากอีก

                เห็นเรเน่เอาแต่ทำหน้าเศร้าแล้วร้องไห้แบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่มีอารมณ์อื่นนะคะ เวลาดีใจซึ่งมันก็ไม่มีหรอก เรเน่จะหลับตา (ว้อท!?) เพื่อแสดงออกว่าเธอกำลังผ่อนคลายและซึมซับความสุขที่ได้รับ เวลาเสียใจก็อย่างที่เห็น….เรเน่จะร้องไห้ บางครั้งถ้าเสียใจมากๆ ก็จะเอาแต่โทษตัวเองแล้วก็เริ่มทำร้ายร่างกาย เวลาโกรธ (อันนี้ก็ไม่ค่อยจะมี แถมเจ้าตัวยังไม่ค่อยรู้ตัวด้วย) เรเน่จะเงียบเป็นปกตินั่นแหละ แต่บรรดาข้าวของประดามีจะลอยเข้าประทุษร้ายคนที่ทำให้เธอโกรธทันที!!  เวลาตกใจเรเน่จะทำเพียงกะพริบตาแล้วยกมือขึ้นดึงฮู้ดลงมาปิดหน้าทันที (บางครั้งมันคลุมหน้าอยู่แล้วก็จะดึงมันลงมาอีกนั่นแหละ) เวลากลัวร่างกายของเรเน่จะสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยล่ะ เธอจะพยายามถอยออกห่างจากสิ่งที่กลัวแล้วส่ายหน้าลูกเดียว และอาจจะคุ้มคลั่งได้ถ้าหากกลัวจนถึงขีดสุด

    คำพูดติดปาก : อา….. / ระ เราไม่เป็นไร

    ลักษณะการพูดจา : เรเน่พูดจาอย่างคนปกติทั่วไปนั่นแหละค่ะ เพียงแต่เสียงของเธอมันเบามาก คนฟังก็เลยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่…. แถมเจ้าตัวยังเป็นคนไม่ค่อยพูดด้วย คำพูดคะ ขานี่มีบ้างถ้าคนที่คุยด้วยเป็นผู้ใหญ่ มักจะแทนตัวเองว่าเรา (กับคนอายุมากกว่าก็ยังแทนแบบเดียวกัน) แล้วเรียกคนอื่นด้วยชื่อค่ะ ไม่มีการเรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมใดๆ ทั้งสิ้น (เพราะแม้แต่ชื่อเล่นของเธอเองเธอยังไม่บอกให้ใครรู้เลย -___-) ตัวอย่างการพูดของเธอก็ประมาณนี้เลยค่ะ //ชี้นิ้วลงด้านล่าง

                อา…..วันนี้อากาศแจ่มใสดีนะพูดเสียงเบา ไม่ระบุด้วยว่าพูดกับใคร บางคนก็ได้ยินว่า อยากลงไห อะไรเทือกๆ นั้น

                ฝน….ตกแล้วพูดพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย

                (ชื่อคน) เนี่ยอ้วนจังเลยนะพูดเบาๆ แต่คนฟังดันได้ยินชัดเจน

                “…….เราทำอะไรผิดงั้นเหรอมักจะพูดประโยคแนวๆ นี้เวลามีคนไม่ชอบใจเรื่องการพูดของเธอ

                อาหารร้านนั้นไม่อร่อยเลยพูดแล้วก็ส่ายหน้าประกอบอย่างมีอินเนอร์(?)

                ไม่! ไม่เอา! เอามันออกไปที กรี๊ดดดดดด!!!” เวลากลัวอะไรสักอย่างจนถึงขีดสุดแล้วและเริ่มคุ้มคลั่ง

                เรา……ไม่น่าเกิดมาเลยพูดด้วยน้ำเสียงปวดร้าวก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ

                อา คือ เราไม่ตั้งใจ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราขอโทษเวลาไปทำอะไรสักอย่างให้ใครไม่พอใจ เธอจะพูดประโยคแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา

                เราว่าคุณลุงไม่ควรเดินไปทางนั้นเมื่อมีผู้หลงผิดสักคนเดินเข้ามาถามทาง

                อา…..เอ่อ……” เวลาเขินหรือทำอะไรไม่ถูก ซึ่งไม่มีวันนั้นหรอก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเรเน่ไม่สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไงล่ะ

    ประวัติ : เรเน่เคยมีครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวของเรเน่ในอดีตประกอบด้วยพ่อ แม่ น้องสาวและตัวเรเน่ เธอเป็นเด็กสาวร่าเริงและมีความสุขเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะมีได้ แต่แล้ววันหนึ่งวันที่เธอไปเที่ยวทะเลกับครอบครัว รถของเธอชนเขากับรถอีกคนที่ขับสวนเลนมา การชนอย่างแรงทำให้ร่างของเธอและน้องสาวกระเด็นออกมานอกรถไปคนละทิศละทาง ส่วนพ่อและแม่ของเธอนั้นเสียชีวิตคาที่ เรเน่กระเด็นมาที่ป่าข้างทาง ตามตัวเต็มไปด้วยแผลถลอกและรอยฟกช้ำ ส่วนน้องสาวของเธอโชคร้ายที่กระเด็นออกมากลางถนน ซึ่งในเวลานั้นรถอีกคันก็ขับมาด้วยความเร็ว เรเน่ยังไม่ทันได้เข้าไปช่วยน้องสาวรถคันนั้นก็ชนร่างของน้องสาวเธออย่างจัง ร่างของน้องสาวที่ลอยอยู่บนอากาศแล้วตกลงมากับพื้นในสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น เรเน่ยังจำได้ติดตา รถคันที่ชนน้องสาวของเธอขับหนีไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ เรเน่ในวัยห้าขวบทำได้เพียงแค่กอดศพน้องสาวเอาไว้แล้วร้องไห้ เรเน่ร้องไห้จนสลบไปรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เรเน่กลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ครอบครัวมาตั้งแต่นั้น หลังจากงานศพของครอบครัวเรเน่ได้มาอาศัยอยู่กับป้าคนหนึ่งที่ญาติฝั่งพ่อ ซึ่งหล่อนไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ที่ต้องมาเลี้ยงดูเรเน่ หลังจากมาอาศัยอยู่กับป้าได้ไม่นานพลังของเรเน่ก็เริ่มแสดงออกมา มันเริ่มจากเธอสามารถยกแก้วน้ำและจานบนโต๊ะอาหารขึ้นได้ แม้กระทั่งทำให้ต้นไม้ที่ข้างบ้านปลูกไว้ลอยขึ้นจากพื้น ป้าของเธอตกใจมากและคิดว่าเธอเป็นตัวประหลาด จากที่เคยเลี้ยงดูก็เริ่มทุบตีและต่อว่าด้วยคำหยาบคายเพราะความอับอายที่หลานมีพลังประหลาด เรเน่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เธอถูกขังอยู่ในห้องไม่มีสิทธิแม้แต่จะลงมาร่วมโต๊ะอาหาร เธอต้องอาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ด้วยความทรมานเพราะยิ่งนานวันพลังของเรเน่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนสามารถควบคุมสิ่งของในบ้านได้ทุกอย่าง แล้วบังเอิญไปทำเตาแก๊สระเบิด ไฟลุกท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว ป้าของเธอรีบหนีออกมาจากบ้านไม่แม้แต่จะห่วงเธอเลยสักนิด เรเน่ถูกเสาในห้องนอนโค่นลงมาทับที่แผ่นหลัง แต่ยังโชคดีที่หนีออกมาได้ แต่หลังจากที่ดับไฟได้เรเน่ก็ถูกป้าไล่ออกมาจากบ้าน เรเน่ไม่มีที่ไปต้องเร่ร่อนอยู่เป็นอาทิตย์ เรเน่ต้องขโมยของจากร้านต่างๆ เพื่อเอามาทานประทังชีวิต สำหรับเด็กวัยเจ็ดขวบมันเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเธอถูกจับได้ขณะจะขโมยขนมปังในร้านเบเกอรี่ เธอถูกเจ้าของร้านไล่ทุบตีและไล่ออกมานอกร้านไม่ต่างจากหมูจากหมา แต่ก็ได้ผู้หญิงใจดีคนหนึ่งช่วยไว้ เธอชื่อ โรดี้ หล่อนเป็นนักข่าวและยังเป็นโสด เธอรับเรเน่มาเลี้ยงดูอย่างดี เรเน่ได้ทานอาหารดีๆ มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่แต่นั่นไม่มากพอที่จะเติมเต็มหัวใจที่บอบช้ำของเด็กน้อยได้ เรเน่ยังคงคิดถึงครอบครัว จนวันหนึ่งเรเน่ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือทั้งสองข้าง ยิ่งเด็กสาวเป็นโรคฮีโมฟีเลีย(เลือดไหลไม่หยุด) ด้วยแล้วมันก็ยิ่งง่ายขึ้น เธอแช่มือทั้งสองข้างลงในน้ำอุ่นหวังจะตายสมใจ แต่โรดี้ก็มาเจอซะก่อน เธอพาเรเน่ไปส่งโรงพยาบาลพอเรเน่ฟื้นขึ้นมาก็คอยอยู่ดูแลตลอด เธอร้องไห้และบอกเรเน่ว่าตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วอย่าคิดสั้นอีก เรเน่ทำเพียงพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่เปิดใจให้โรดี้ง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำตัวห่างเหินเหมือนแต่ก่อน โรดี้ที่อยากจะให้เรเน่ร่าเริงขึ้น รุ้จักเข้าสังคม และเพื่อนดีๆ จึงส่งเรเน่มาเรียนที่โรงเรียนนี้เพราะหวังว่ามันจะทำให้คนในครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอไม่ยึดติดกับอดีตอีกต่อไป

    บทที่อยากได้ : นางเอก (แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอเป็นบทอะไรก็ได้ แล้วแต่ไรท์จะสะดวกให้เลยค่ะ><)

    พลังพิเศษ : สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือมวลสารต่างๆ ภายในระยะห้าเมตร (กินพื้นที่สามร้อยหกสิบองศาเลยค่ะ ขอแค่ไม่เกินห้าเมตรก็เป็นอันใช้ได้)

    อยากมีคู่ไหม : ถ้าถามว่าอยากมั้ย นี่ก็ต้องอยากเป็นธรรมดาค่ะ 5555 แต่ไม่รู้จะมีใครเอาน้องน้อยของเรารึเปล่า //โดนตบดับ

    ชอบ : ฝนและอากาศตอนฝนตก (หลับตาอย่างผ่อนคลาย แต่ไม่ถึงขั้นเดินออกไปตากฝนนะ! จะเดินไปนั่งริมหน้าต่างแล้วนั่งมองด้านนอกเงียบๆ) / สปาเกตตี้คาโบนาร่า (ทานจนเกลี้ยงจานในเวลาอันรวดเร็ว ปกติเรเน่จะทานอาหารเท่าแมวดมเท่านั้น ถ้าไม่ใช่อาหารที่ชอบจริงๆ เธอทานไม่ถึงครึ่งจานหรอก) / เสื้อแขนยาวแบบมีฮู้ด (มีเก็บสะสมนับสิบตัว) / ห้องที่เปิดแอร์เย็นๆ (ไม่ค่อยถูกกับอากาศร้อน แต่ถ้าแอร์เย็นเกินไปก็จะไม่สบายอีก เลยต้องใส่เสื้อแขนยาว) / ที่เงียบๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน (หลับตาอย่างผ่อนคลาย จนเผลอหลับไปอยู่บ่อยๆ) / ชาอุ่นๆ (ดื่มเงียบๆ จนหมดแล้วเติมใหม่อย่างรวดเร็ว แต่จะไม่แตะขนมที่เอาไว้ทานคู่กับชาเด็ดขาด) / หนังสือทุกประเภท (นั่งอ่านอย่างสนอกสนใจเงียบๆ)

    ไม่ชอบ : อากาศที่ร้อนจนเกินไป (จะหลบเข้าที่ร่มทันที เพราะถ้าอยู่ในที่ที่อากาศร้อนมากๆ โดยเฉพาะกลางแดดจะยิ่งทำให้อ่อนเพลีย) / ขนมหวาน (แอบชักสีหน้าไม่ชอบเล็กน้อย) / ที่ที่มีคนมากๆ (ทำหน้าอึดอัดเล็กน้อย ก่อนจะพยายามหลบฉากไปอย่างเนียนๆ) / อาหารรสจัด (เบือนหน้าหนีจากจานอาหาร ต่อให้หิวแค่ไหนก็จะไม่ทานเด็ดขาด)

    เกลียด : คนที่ชอบพูดเรื่องในอดีตซ้ำๆ ซากๆ (โกรธมากและจะปล่อยพลังใส่ทันที)

    แพ้ : เกสรดอกไม้ (คัดจมูกและจามอย่างแรง หน้าแดงจมูกแดง และมีน้ำมูกไหลด้วย) / ฝุ่น (คัดจมูกและจามอย่างเดียว) / ไข่กุ้ง (ทานเข้าไปแล้วจะหายใจไม่ออก ผื่นจะขึ้นและขึ้นมากที่บริเวณท้องแขน ถ้าไม่ทานยาแก้แพ้หรือทนไม่ไหวจะช็อคและหมดสติในที่สุด)

    กลัว : ความผูกพัน (ไม่มีอาการ แค่กลัวว่าสักวันถ้าเปิดใจกับใครคนๆ นั้นจะต้องจากไปหรือทำให้เธอเสียใจในที่สุด)

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    คุยกับผปค.

     

    สวัสดีค่ะ!! ยินดีที่ได้รู้จัก!

    -สวัสดีเจ้า! เราเชอร์ล็อคนะ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า ><

    แบบฟอร์มไม่ยาวไปใช่ไหม?

    -ไม่เลยค่ะ ปั่นกำลังดี ปั่นดีจนปั่นเพลินเลยค่ะ…..

    อยากให้ลูกมีคู่รึเปล่าคะ?

    -อยากอยู่ค่ะ แต่ไม่รู้จะมีใครเหมาะกับยัยหนูนี่รึเปล่า ฮะฮะ

    แล้วถ้าอยากให้มีจะให้คู่กับคนแบบไหน? (เช่น อบอุ่น ใจดี อ่อนโยน)

    -เป็นคนอบอุ่นหน่อยก็ดีค่ะ ดูเข้าใจผู้หญิง มีความเป็นผู้ใหญ่และใจเย็นพอที่จะรับมือกับเรเน่เวอร์ชันคลุ้มคลั่งได้ (ข้อนี้สำคัญมากนะคะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า ;___;) เรื่องส่วนสูงนี่คงเราไม่ฟิกนะคะเพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนเตี้ยกว่ายัยหนูนี่แล้ว //หลบโต๊ะที่ลอยผ่าน สูงกว่ามากหน่อยก็ดีค่ะ มีโมเม้นเงยหน้าคุยกันคงฟินพิลึก แล้วก็ถ้าอายุมากกว่าคุณแม่จะยิ่งโอเคเลยค่ะ แหะแหะ #กรี๊ด! ดูเรื่องมากT^T

    พอแค่นี้แล้วกันค่ะ อย่าลืมโหวต เม้นท์ กดเฟบนะ!

    -โอเคเจ้าค่ะ ตอนนี้กดเฟบเรียบร้อยแล้ว ><

    ค่ะ! สวัสดีค่ะ!

    -ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ สวัสดีค่า ^0^

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×