คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 장 화유 | Jang Hwa - Yu
Senorita’s Diary
Welcome to this story, if you ready let the page be opened.
And
I wanna show you
All
my favorite things
And
when something happens
I
wish you were with me
-
Something about you
Sophie
Meiers.
Document contestant No. 2
Image: Jung Ye Rin | Yerin GFriend
ชื่อ-นามสกุล: จาง ฮวายู | Jang Hwa –
yu | 장 화유
ชื่อเล่น/สเตจเนม: ฮวายู | Hwa – yu |화유
อายุ: 22 ปี
เมืองบ้านเกิด: เมืองฮวาซ็อง จังหวัดคย็องกี
รูปร่างลักษณะ:
‘จาง ฮวายู’ หญิงสาวที่แม้ไม่ใช่เจ้าของรูปโฉมงดงามตรึงตาตรึงใจ
หากทว่าทุกองค์ประกอบที่ประกอบรวมกันเป็นตัวหล่อนกลับก่อให้เกิดเสน่ห์ดึงดูดที่ยากจะละสายตา
ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ผู้เมียงมองพินิจได้เพลินตาไม่รู้เบื่อ
ภาพรวมของฮวายูนั้นถือเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสะสวย
อย่างน้อยก็พอไปวัดไปวาได้เมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เครื่องหน้าหมดจดที่ถูกจัดวางบนใบหน้าเกลี้ยงเกลารูปไข่อย่างลงตัวนั้นประกอบด้วยคิ้วโก่งสวยได้รูปเปรียบได้กับมงกุฎของใบหน้า
ยิ่งเมื่อมันถูกแต่งแต้มและใช้เครื่องมือกันให้เข้าที่เข้าทางก็ยิ่งเสริมความน่ามองให้กับใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของ
ถัดลงมาคือดวงตาสองชั้นเรียวรีที่ใครๆต่างก็ลงความเห็นว่ามันทำให้เธอดูคล้ายสาวหมวย
อัญมณีลึกล้ำถูกล้อมกรอบด้วยแพขนตางอนยาวเสริมความหวานหยดให้กับนัยเนตรคู่งามสีรัตติกาล
ในยามที่เจ้าหล่อนยิ้มหรือหัวเราะดวงตาคู่นั้นก็จะหยีเล็กลงเป็นขีดคล้ายจันทร์เสี้ยวซ้ำยังมีประกายยิบหยีน่ามองเพิ่มความน่าเอ็นดูให้สาวเจ้าอย่างไม่รู้ตัว
ไล่เรื่อยมาคือจมูกโด่งสวยได้รูป
ปลายของมันเชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะบอกนิสัยของผู้เป็นเจ้าของ
จมูกโด่งคมเป็นทรงหยดน้ำรับกันกับริมฝีปากหยักบางสีอมชมพูตามธรรมชาติเข้าทำนองปากนิดจมูกหน่อย
ดวงหน้าสวยหวานของเจ้าหล่อนแม้จะมองเป็นรูปไข่แต่ทว่าก็ติดจะกลมยุ้ยเล็กน้อยอันมีที่มาจากปรางแก้มนุ่มนิ่มซับสีระเรื่อจนกลายเป็นที่มาของชื่อ
‘ซาลาเปาน้อย’ ที่พนักงานรุ่นพี่มักจะเรียกขานอยู่เสมอในยามที่ต้องการหยอกล้อ
จาง ฮวายู เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัย
ซึ่งเห็นทีจะเป็นเพราะแก้มยุ้ยๆน่าบีบนั่นกระมัง
ยิ่งหญิงสาวตัดผมหน้าม้าบางๆปิดหน้าผากกลมมนก็ดูเหมือนจะยิ่งเสริมความอ่อนเยาว์บนใบหน้าน่าเอ็นดูนั่นได้มากโข
วงหน้านั้นถูกล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเหลือบดำหอมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆจากแชมพูที่เจ้าตัวชื่นชอบ
กลุ่มผมเส้นเล็กละเอียดดูนุ่มนิ่มเหมือนขนแมวนั้นทิ้งตัวยาวจรดกลางแผ่นหลัง
ซึ่งฮวายูก็ไม่คิดจะทำอะไรกับมันมากมายนักนอกเสียจากจะหวีให้เรียบร้อยหรือรวบมันไว้ในเวลาทำงาน
แต่ถ้าหากเจ้าหล่อนอยู่ในช่วงเวลาสบายๆอย่างที่บ้านหรือออกไปไหนใกล้ๆ
คุณก็สามารถพบเห็นผมทรงดังโงะยุ่งๆของเจ้าหล่อนได้เช่นกัน
นอกเหนือไปจากใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยนั่นแล้วลักษณะเด่นของฮวายูอีกข้อคงจะไม่พ้นเรือนผิวขาวเนียนซึ่งเป็นรูปสมบัติที่มีติดกายมาตั้งแต่กำเนิด
เมื่อนำมารวมกับการบำรุงดูแลอย่างดีจากผู้เป็นเจ้าของก็ยิ่งทำให้ผิวของเจ้าตัวเนียนนุ่มมือซ้ำยังนวลออตาไม่ต่างจากธารน้ำนม
และคงเป็นเพราะผิวขาวๆนั่นเองที่ทำให้สังเกตเห็นริ้วสีแดงบนพวงแก้มกลมยุ้ยในยามที่ต้องอยู่กลางแจ้งหรือท่ามกลางอากาศร้อนเป็นเวลานานๆได้ชัดเจน
ว่ากันตามตรงแล้วจาง
ฮวายูก็ถือเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีรูปร่างดีพอสมควร ด้วยส่วนสูง 165 เซนติเมตร และน้ำหนัก 52 กิโลกรัม ทำให้หญิงสาวดูไม่อวบอ้วนจนเกินไป
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ดูผอมแห้งเป็นไม่เสียบผีจนดูน่าเกลียด ท่อนแขนกลมกลึงกอปรกับช่วงขาเพรียวยาวจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ยิ่งทำให้หล่อนดูประเปรียวมากกว่าความสูงที่แท้จริง
หน้าอกหน้าใจขนาดสมตัวช่วยเสริมความเป็นสตรีเพศ เอวคอดรับกันกับสะโพกสวยที่ผายออกรับกัน
แม้ไม่ใช่ทรงนาฬิกาทรายแต่ก็เป็นรูปร่างที่ดีที่หญิงสาวคนหนึ่งพึงจะมีได้
รายละเอียดสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคงไม่พ้นลักษณะการแต่งตัวของเจ้าหล่อน
ฮวายูไม่ใช่ผู้หญิงแฟชั่นจ๋า หล่อนถือว่าแต่งตัวสุภาพไปทำงานได้หรือไปไหนแล้วถูกกาลเทศะก็เป็นอันใช้ได้
เสื้อผ้าส่วนมากจึงมักจะเป็นสีพื้นไม่ฉูดฉาดตามความชอบของเจ้าตัว
เสื้อผ้านอกเวลางานส่วนมากจึงมักจะเป็นเสื้อยืดไม่ก็เสื้อมีฮู้ดแขนยาวสีเข้มกับกางเกงยีนส์
(ฮวายูชอบใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง นอกเสียจากจะเป็นเวลางาน)
หญิงสาวไม่ใช่คนมีความรู้เรื่องน้ำหอมมากมายนัก
ส่วนมากกลิ่นหวานๆที่มาจากเจ้าตัวจึงมักจะมาจากโลชันเสียมากกว่าน้อยครั้งนักที่ฮวายูจะฉีดน้ำหอมซึ่งมันก็มาจากการลองฉีดผสมกันดูมั่วๆแล้วชอบไม่ก็มาจากคำแนะนำของคนรอบข้าง
นิสัย:
หากพูดถึง ‘จาง ฮวายู’ สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงก็คงไม่พ้นผมหน้าม้าบางๆและใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูที่เต็มอิ่มไปด้วยแก้มกลมๆเหมือนซาลาเปา แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะรู้จักนิสัยใจคอของหญิงสาวคนนี้แล้ว สิ่งต่อไปนี้คงจะช่วยให้คุณเข้าใจเจ้าหล่อนได้มากขึ้น
10 Items about
Jang Hwa – yu
1. จาง ฮวายู หญิงสาวไฟแรงอยากทำอะไรต้องไปให้สุด
คงเป็นเพราะถือคติเกิดหนเดียวตายหนเดียว
You only live
once แบบสุดๆนั่นทำให้ในสายตาของคนรอบข้างฮวายูคือตัวแทนของคนไฟแรงที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำอะไรก็ต้องทำให้สุด
มุ่งมั่นทำให้เต็มที่จนกว่าจะสำเร็จหรือจนกว่าจะพอใจ อยากทำอะไรต้องได้ทำ
ลองตั้งเป้าว่าจะทำอะไรแล้วก็จะหาทางทำมันจนได้แม้ว่าจะถูกคัดค้านจากคนอื่นก็ตาม
เธอไม่เคยคิดเสียใจในสิ่งที่ได้ลงมือทำหรือสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว
จะไม่มามัวนั่งคิดเล็กคิดน้อยกับตัวเองเด็ดขาดว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมันถูกต้องหรือไม่หรือจะเกิดอะไรตามมาเธอถือว่านั่นคือสิ่งที่เธอเลือกเองและมันก็ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี
ถ้าหากจะเกิดอะไรขึ้นก็จะต้องยอมรับและผ่านมันไปให้ได้
ด้วยความที่ไม่ใช่คนทำอะไรครึ่งๆกลางๆ
ฮวายูจึงมีความคิดที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอไม่ว่าในเรื่องใดก็ตาม
เธอถือว่าในเมื่อทำอะไรก็ต้องทำให้สุดแล้วตัวเธอเองก็ต้องดีที่สุดในทุกๆด้านเช่นกัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ในสมัยเรียนหญิงสาวเป็นคนเอาจริงเอาจังทั้งในด้านการเรียนและกิจกรรม
เมื่อถึงวัยทำงานก็ตั้งใจทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
รวมทั้งคอยพัฒนาฝีมือและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอแม้จะเพิ่งทำงานได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
จะเรียกนิสัยส่วนนี้ว่าเป็นความทะเยอทะยานของเจ้าตัวก็คงจะไม่ผิดเท่าไหร่นัก
แต่ความคิดที่ว่าทำอะไรต้องทำให้สุดมันกลายเป็นนิสัยที่ยากจะแก้ของเธอไปเสียแล้ว
แต่หากใครจะบอกว่านิสัยส่วนนี้มีแต่ข้อดีก็คงจะต้องขอแย้งสักนิด
เพราะความมุ่งมั่นไฟแรงของเจ้าหล่อนไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว
มันกลับทำให้ฮวายูกลายเป็นคนบ้ายุ เกลียดคำสบประมาทและชอบเอาชนะ
โดนยุนิดยุหน่อยเป็นไม่ได้ต้องตกปากรับคำเขาไปเสียหมดเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองทำได้
นอกจากนี้หญิงสาวยังค่อนข้างจะชอบการแข่งขันอยู่พอสมควรตามนิสัยคนชอบเอาชนะนั่นแหละ
มีอารมณ์ร่วมไปทุกการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่เกมเล็กๆไปจนถึงเกมยิ่งใหญ่ที่มีของรางวัล
ซึ่งถ้าหากชนะฮวายูก็จะแสดงอาการดีใจออกมาแบบไม่ปิดบังแต่ถ้าแพ้ก็จะหงอยจะซึมลงทันตาลำบากคนรอบข้างต้องรีบปลอบกันให้วุ่นวายไปหมด
orz
2. จาง ฮวายู หญิงสาวที่มีความมั่นอกมั่นใจเป็นเอกลักษณ์
ความมั่นใจถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของผู้หญิงที่ชื่อจาง
ฮวายู หล่อนเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง
และในบางครั้งก็เลือกจะทำบางสิ่งตามสัญชาตญาณ นิสัยนั้นสังเกตได้ชัดเจนผ่านแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจและมักจะมองตรงไปข้างหน้าเสมอในตอนที่กำลังตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนในบางครั้งเพียงแค่คนรอบข้างได้เห็นแววตาหรือการกระทำของหล่อนก็มักจะได้รับพลังหรือกำลังใจมาโดยไม่รู้ตัว
ทุกการกระทำของหญิงสาวคนนี้มักจะแฝงไปด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
ปราดเปรียวและดูมั่นใจตามประสาคนสมัยใหม่ที่คิดเร็วทำเร็วอยู่เสมอ
ความมั่นใจนั้นหล่อหลอมให้หญิงสาวกลายเป็นคนกล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือเห็นว่าถูกต้องเหมาะสม
จริงอยู่ที่เธอเป็นคนมุ่งมั่น อยากทำสิ่งใดก็จะทำโดยไม่สนใจเสียงคัดค้าน
แต่สิ่งที่เธอจะไม่ทำเด็ดขาดเลยคือการละเมิดสิทธิของผู้อื่น ดังนั้นถึงแม้ฮวายูจะเป็นคนมั่นใจ
ทำอะไรก็ทำเต็มที่แต่ทั้งหมดนั้นจะต้องอยู่ในกรอบที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องด้วยเช่นกัน
3. จาง ฮวายู หญิงสาวที่บางทีเนื้อแท้อาจจะไม่ใช่อย่างที่ใครๆคิด
หากจะให้พูดถึงเนื้อแท้ของผู้หญิงที่ชื่อฮวายูตามตรงแล้วก็คงต้องบอกว่ามันออกจะผิดจากที่คิดไปมากทีเดียว
พื้นฐานที่เป็นคนร่าเริงแจ่มใสและเป็นคนเปิดเผยอาจทำให้คุณคิดว่าเธอไม่ใช่คนคิดอะไรมากมาย
แต่ความจริงแล้วหญิงสาวเป็นคนที่ค่อนข้างวิตกกังวลง่ายอยู่พอสมควรสิ่งหนึ่งที่เธอไม่ชอบเลยคือความผิดพลาด
อย่างที่บอกว่าเธอไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีอะไรถ้าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้นนิดหน่อยก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถแก้ไขมันได้
(แต่ก็จะพยายามแก้ไขมันอย่างเต็มที่ตามนิสัยของเจ้าตัวนั่นแหละ) ถึงแม้เจ้าหล่อนจะเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง
แต่ลึกๆแล้วฮวายูก็เป็นแค่คนขี้เหงาที่ต้องการการยอมรับมันเลยทำให้เธอคิดอยู่เสมอว่าถ้าหากตัวเองไม่เก่ง
ไม่ดูดีก็จะไม่มีคนรักไม่มีคนยอมรับ ดังนั้นแม้บางสิ่งตัวเองจะพยายามทำมันเต็มที่จนผลลัพธ์ออกมาดีแล้วก็อาจจะมีบ้างที่เธอเผลอบ่นหรือระบายมันออกมาด้วยความกังวลว่าทำดีแล้วใช่มั้ย
มันโอเคแล้วหรือยัง มันอาจจะดูน่าหมั่นไส้แต่ก็อยากให้คุณลองเปิดใจ
ทำความเข้าใจแล้วพูดคุยกับเธอดีๆ เพราะสิ่งนี้มันกลายเป็นความคิดแง่ลบที่ติดอยู่ในใจจนแก้ไม่หายไปเสียแล้ว
4. จาง ฮวายู หญิงสาวผู้เปิดเผยในทุกช่วงเวลาของชีวิต
จาง ฮวายูเป็นคนเปิดเผย
วันนี้มีแผนจะทำอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร วันนี้ทำงานหนักมั้ยก็มักจะบอกกับคนสนิทไปเสียหมด
ยิ่งถ้าหากมีอะไรเก็บเอาไว้ในใจตอนที่ไม่สบายใจก็จะเผลอระบายออกมาจนหมดเปลือกแบบไม่มีกั๊ก
มีเรื่องอะไรก็เลือกที่จะพูดกันตรงๆแบบแมนๆคุยกันมากกว่าจะเสียเวลาอ้อมค้อม
ชอบก็คือชอบไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แต่ด้วยพื้นฐานการอบรมทำให้ฮวายูฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร
ดังนั้นการเป็นคนเปิดเผยเช่นนี้ก็ใช่ว่าเจ้าหล่อนจะเป็นคนขวานผ่าซากพูดทะลุกลางปล้องจนทำให้คนอื่นเสียความรู้สึกไปเสียหมด
นอกเหนือไปจากการพูดจาแล้วฮวายูยังเป็นคนเปิดเผยในเรื่องของการแสดงอารมณ์อีกด้วย
ไม่ว่าในตอนนั้นจะรู้สึกอะไรอยู่ดีใจ เสียใจ เหงา โกรธ กลัว ความรู้สึกเหล่านั้นแสดงออกเด่นชัดผ่านทั้งสีหน้า
แววตารวมไปถึงการกระทำไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง เวลาดีใจก็จะดีใจใหญ่มาก
ปรบไม้ปรบมือดวงตาเป็นประกายเป็นเด็กตัวน้อยๆ
เวลาตกใจก็ตกใจใหญ่มากจนคนอื่นๆพากันตกใจตามเธอไปด้วย นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ใครๆก็บอกว่าฮวายูเป็นคนอ่านออกและเดาอารมณ์ได้ง่าย
แม้จะไม่ได้แสดงอาการออกมาแต่สีหน้าของเธอก็ฟ้องอารมณ์ในตอนนั้นออกมาหมดเปลือกอยู่แล้ว
มองเผินๆมันอาจจะน่าเอ็นดูเหมือนกับเด็กๆแต่ในเวลาโกรธนิสัยส่วนนี้ก็เหมือนจะเป็นข้อเสียที่แก้ไม่หายเพราะเธอจะชักสีหน้าไปโดยอัตโนมัติแม้จะไม่ได้มีเจตนาจะทำเช่นนั้นเลยก็ตาม
แต่กระนั้นเวลาที่ฮวายูโกรธกลับไม่ได้น่ากลัวมากมายอย่างที่คิด
นอกจากอาการชักสีหน้าที่มักจะเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นให้ต้องกังวล
ในยามโกรธฮวายูจะพูดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดแล้วก็จะมีกิริยาปั้นปึ่งบ้างเป็นบางคราว
(แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำลายข้าวของหรอกนะ)
ซึ่งถ้าหากปล่อยเอาไว้สักพักก็จะพบว่าอีกเดี๋ยวคุณเธอก็จะกลับมาเป็นปกติได้เองตามประสาคนโกรธง่ายหายเร็วนั่นแหละ
แถมในบางครั้งยังอาจจะรู้สึกผิดที่ในตอนโกรธตัวเองเผลอพูดจาแรงๆหรือทำกิริยาไม่ดีใส่อีกด้วยนะ
5. จาง ฮวายู หญิงสาวที่ในบางครั้งก็ความรู้สึกช้าจนน่าเหลือเชื่อ
ถึงแม้เจ้าตัวจะเป็นคนเปิดเผย
รู้สึกอะไรก็แสดงออกมาตามอารมณ์ที่รู้สึก แต่ในบางเวลาฮวายูก็เป็นคนความรู้สึกช้าจนน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
ฮวายูมักจะความรู้สึกช้าถ้าหากเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาตอบรับยังไง
ต้องสีหน้าแบบไหนหรือพูดอะไรออกไป
อย่างเช่นถ้าหากมีคนมาเซอร์ไพรส์วันเกิดซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าตัวไม่เคยเจอมาก่อนฮวายูก็จะออกอาการงงๆเพราะไม่รู้ว่าควรตอบรับกับการกระทำเหล่านั้นอย่างไรพาให้คนเขาใจแป้วไปเสียอย่างนั้น
แต่ถ้าหากได้รับคำอธิบายหรือปล่อยให้เธอเข้าใจมันสักพักหญิงสาวก็จะแสดงอารมณ์ออกมาตามปกติได้เอง
เรื่องหนึ่งที่หญิงสาวมักจะรู้สึกช้าคือเรื่องรักๆใคร่ๆ
ไม่ค่อยรู้สักเท่าไหร่ว่าใครรู้สึกยังไงกับตัวเองจนกว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆ
พวกการสกินชิพแตะเนื้อต้องตัวก็มองว่าเป็นการกระทำแมนๆแบบเพื่อนไปเสียหมด
(ไอ้การกอดหรือจับมือแบบแมนๆอารมณ์ what’s up bro(?) นี่ถนัดนักล่ะ) โมเม้นที่ควรจะเขินก็ดันไม่เขินเพราะความรู้สึกช้าและมัวแต่ประมวลผลอยู่ว่าควรจะต้องรู้สึกอย่างไร
ดังนั้นถ้ามีคนถามว่าแบบนี้ไม่เขินเหรอเจ้าหล่อนก็จะถามกลับหน้าตาเฉยทันทีว่า ‘เอ๊ะ แบบนี้ควรจะเขินเหรอ?’
ยิ่งถ้าเป็นพวกเรื่องตลกฮวายูก็จะยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
จะเรียกว่าเป็นคนหัวช้าและไม่ค่อยมีเซนส์กับเรื่องพวกนี้ก็ว่าได้
แต่ทุกครั้งที่มีเรื่องตลกในวงสนทนาเธอมักจะเป็นคนสุดท้ายที่เข้าใจมันและหัวเราะออกมาเสมอ
คงเพราะอุปนิสัยส่วนตัวไม่ใช่คนมีอารมณ์ขันด้วยกระมังเลยทำให้ฮวายูเป็นคนเส้นลึก
เข้าใจมุขตลกยากต้องคอยถามคนอื่นอยู่เสมอ
แต่ถ้าหากเข้าใจแล้วหญิงสาวก็จะหัวเราะออกมาตามปกตินั่นแหละ
ออกจะหัวเราะเกินเบอร์ไปเสียด้วยซ้ำคนอื่นก็เลยมองว่าแปลกเพราะเธอหัวเราะดีเลย์นี่แหละ
(.....)
6. จาง ฮวายู หญิงสาวผู้ไร้ซึ่งความโรแมนติก แม้สักนิดก็ไม่มี
อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าฮวายูเป็นคนความรู้สึกช้าในเรื่องของความรักดังนั้นเซนส์ของความโรแมนติกของเจ้าตัวจึงติดลบตามไปด้วย
ฮวายูไม่เคยมีแฟนซึ่งก็นับเป็นเรื่องแปลกอยู่หน่อยๆเพราะเจ้าตัวก็ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้ปิดกั้นตัวเองจากใคร
คนมาจีบอาจจะมีบ้างแต่เจ้าตัวก็ดันไม่รู้เรื่อง ความรู้สึกรักใคร่ชอบพอยิ่งไม่เคยสัมผัสส่วนมากมักจะเป็นการพูดคุยเรื่องผู้ชายคนนั้นดูดี
ผู้ชายคนนี้ดูเท่กันแบบขำๆกับกลุ่มเพื่อนเสียมากกว่า ดังนั้นหากคบกับฮวายูแล้วอย่าคาดหวังเลยว่าคุณเธอจะจำวันครบรอบ
ทำเซอร์ไพรส์หรือมีความโรแมนติกใดๆตามประสาผู้หญิงทั่วไป อย่างถ้าคิดจะแอบจุ๊บตอนดูหนังเพราะเจอฉากโรแมนติกเนี่ยปัดตกไปได้เลยว่าเธอจะเข้าใจเผลอๆจะเอาขนมยัดปากเพราะคิดว่าอยากกินเสียด้วยซ้ำนั่นเป็นเพราะเธอไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนเลยยังไงล่ะ
7. จางฮวายู หญิงสาวที่พูดก็เก่งแถมยังเป็นกันเอง
พื้นฐานนิสัยของผู้หญิงที่ชื่อจาง
ฮวายู นอกจากจะประกอบไปด้วยความมุ่งมั่นแล้วยังมีความร่าเริงแจ่มใสเป็นพื้นฐาน
แม้จะไม่ใช่คนคิดบวกมองโลกในแง่ดีมากมายอะไรแต่ฮวายูก็มักจะปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้สดใสอยู่เสมอ
ลองได้เห็นรอยยิ้มกว้างๆจนตาหยีของเจ้าหล่อนแล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามหรือรู้สึกสดชื่นขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล
จะบอกว่าฮวายูเปรียบเสมือนสีสันหรือดอกทานตะวันก็คงไม่ผิดกระมัง สาวเจ้าเป็นคนพูดคุยเก่งจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มักจะได้รับบทบาทเป็นผู้พูดในวงสนทนาเป็นส่วนใหญ่
แถมยังอัธยาศัยดีเข้ากับคนง่ายไปหมด
เมื่อได้พูดคุยสักครั้งแล้วก็จะรู้สึกถึงความเป็นกันเองเพราะไม่อยากให้คู่สนทนารู้สึกเกร็งของเจ้าตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เจ้าหล่อนจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักเยอะ
อารมณ์ประมาณว่าเดินสวนคนสิบคนก็เป็นคนรู้จักไปแล้วแปด
ฮวายูมักจะมองไปรอบๆตัวจนติดเป็นนิสัยด้วยเหตุนั้นมันเลยทำให้เธอเห็นว่าในบางครั้งท่ามกลางคนมากมายก็จะมีบางคนที่นั่งอยู่คนเดียว
(ซึ่งเป็นการนั่งคนเดียวแบบคนเดียวจริงๆไมใช่แค่นั่งรอใครเฉยๆน่ะนะ)
พอเห็นแบบนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปถามว่าเป็นอะไรทำไมมานั่งคนเดียวแล้วก็คอยนั่ง
คอยคุยเป็นเพื่อนเขาจนสุดท้ายก็ได้เพื่อนมาเพิ่มอีกหนึ่งคนไปเสียอย่างนั้น
8. จาง ฮวายู หญิงสาวที่แสนจะเถรตรงและรักความยุติธรรม
นิสัยอีกข้อหนึ่งของสาวมั่นไฟแรงคนนี้คือความเถรตรงและมากด้วยความยุติธรรม
จะเรียกว่ารักความยุติธรรมก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก เธอชอบความเท่าเทียมและความเป็นธรรมผิดก็ว่ากันไปตามผิด
พิจารณากันไปตามเนื้อผ้าไม่มีมาแบ่งแยกว่าเป็นคนสนิทหรือไม่จึงนับว่ามีความเด็ดขาดอยู่พอสมควร
ทุกครั้งที่เห็นว่าบางสิ่งหรือบางเรื่องไม่ถูกต้องก็อดไม่ได้ที่จะแย้งหรือทำให้มันถูกต้องเพราะไม่อยากขัดหูขัดตา
และถึงแม้ฮวายูจะเป็นคนร่าแจ่มใสโดยพื้นฐานแต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมหรือโอนอ่อนไปเสียทุกเรื่อง
หากผิดจริงฮวายูก็แมนพอที่จะยอมรับ ขอโทษแล้วปรับปรุงแก้ไข แต่เจ้าตัวจะไม่ยอมเป็นเด็ดขาดถ้าหากจะต้องถูกใส่ร้ายหรือกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ
เจอเรื่องแบบนี้เป็นใครก็ต้องมีน้ำโหเป็นธรรมดาและเธอจะพยายามทำทุกทางเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริสุทธิ์
9. จาง ฮวายู หญิงสาวผู้ชินชากับระเบียบวินัย
เห็นจาง
ฮวายูเป็นคนทำอะไรทำสุดแถมในบางครั้งยังไม่ฟังเสียงค้านใครแล้วแต่ถ้าเป็นเรื่องของการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันเจ้าตัวก็เป็นคนมีระเบียบวินัยเอาเรื่องเลยนะ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพลักษณ์ในการทำงานของหล่อนดีมาตลอดแม้จะทำงานมาได้แค่ปีเดียวก็เพราะความชินชากับความเป็นระเบียบและมีวินัยของเจ้าตัวนี่แหละ
ฮวายูเป็นคนตรงต่อเวลา
ถ้าหากคุณนัดเธอเอาไว้ก็จะไม่มีทางผิดหวังเพราะเจ้าหล่อนจะมาตรงเวลาหรือในบางครั้งก็อาจจะมาก่อนเวลาเสียด้วย
นอกจากตรงต่อเวลาแล้วฮวายูยังมีความรับผิดชอบสูงจนน่าชื่นชม หล่อนไม่เคยรับปากไปส่งๆหรือทำงานแบบทิ้งขว้างเป็นผักชีโรยหน้า
ถ้าหากได้รับมอบหมายหรือไหว้วานให้ทำอะไรก็จะทำอย่างเต็มที่จนเสร็จเรียบร้อยดีและบางงานก็อาจจะเสร็จก่อนเวลาด้วยซ้ำ
10. จาง ฮวายู หญิงสาวที่ในบางครั้งทิฐิก็เป็นข้อเสียข้อใหญ่ของชีวิต
ด้วยความที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง
ทำเต็มที่กับทุกสิ่งจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฮวายูอยากจะดูดีหรือดูเก่งในสายตาของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
ในสายตาของคนอื่นเธอคือสาวมั่นไฟแรงที่ดูเหมือนจะทำได้ทุกอย่าง
ภาพลักษณ์ดูดีเช่นนั้นก่อให้เกิดทิฐิขึ้นมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว ซึ่งทิฐินั้นกลายเป็นตัวปิดกั้นไม่ให้เธอเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองกลัวและจมอยู่กับความคุ้นเคย
ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองควรทำ แต่ก็เพราะกลัวว่าถ้าหากต้องเจอกับสิ่งที่ตัวเองกลัวมาตลอดเข้าจริงๆเธอจะไม่สามารถเอาชนะและก้าวข้ามผ่านมันไปได้และตัวเองจะต้องกลายเป็นผู้แพ้หรือคนที่น่าสงสารในสายตาของคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่สาวมั่นซึ่งมีภาพลักษณ์ดีมาตลอดอย่างเธอไม่ต้องการให้เป็น
ทิฐิที่ค้ำคออยู่จึงกลายเป็นข้อเสียที่ทำให้เธอไม่ยอมหันไปเผชิญหน้ากับมันอย่างจริงจังเสียที
ประวัติ:
‘จาง ฮวายู’ หญิงสาวที่มีพื้นเพเป็นคนฮวาซ็อง
จังหวัดคย็องกีมาตั้งแต่กำเนิด ทางบ้านมีฐานะปานกลางค่อนไปทางดีจากอาชีพของบุพการี
พ่อของเธอเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยส่วนแม่ประกอบอาชีพนักออกแบบและตกแต่งภายใน
เธอเป็นลูกคนกลางของบ้านจากบรรดาสามพี่น้องที่ประกอบไปด้วยสองพี่สาวและหนึ่งน้องชาย
ฮวายูมีพี่สาวอายุมากกว่าเธอสามปี ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นทันตแพทย์อยู่ที่คลินิกแห่งหนึ่งในฮวาซ็อง
ส่วนน้องชายอายุน้อยกว่าเธอสองปีปัจจุบันกำลังเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์
ฮวายูเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจมาตั้งแต่อายุยังน้อย
สมัยเรียนก็เป็นคนที่ทุ่มเททั้งเรื่องเรียนและเรื่องกิจกรรมจนกวาดรางวัลมามากพอสมควร
หลังจากติดมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาหญิงสาวก็ย้ายออกจากบ้านมาอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงโซล
ปัจจุบันฮวายูทำงานเป็นพนักงานบัญชีให้กับบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่งเป็นเหตุผลให้เธอยังคงใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโซลเรื่อยมา
แม้จะติดต่อกับครอบครัวอยู่เสมอแต่ฮวายูก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านบ่อยนัก
เรื่องที่ฮวายูมาออกรายการ Find Soulmate ได้คงต้องขอบอกว่าเป็นเพราะโชคช่วยล้วนๆ เธอแทบจะเป็นคนกลุ่มท้ายๆที่ส่งใบสมัครเข้ามา สาเหตุเพราะถูกตะล่อมจากรุ่นพี่ที่สนิทกันสมัยเรียนซึ่ปัจจุบันเป็นทีมงานของรายการ (ฮยอน มิจอง) ในครั้งแรกที่รุ่นพี่ติดต่อมาฮวายูไม่ได้ตอบตกลงในทันที แต่เมื่อถูกกล่อมถูกตะล่อมด้วยเหตุผลล้านแปดบ่อยเข้าเธอก็รู้สึกว่าลองส่งใบสมัครไปสักครั้งก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ความคิดชั่ววูบนั้นเองที่พาให้เธอส่งใบสมัครเข้าร่วมรายการมิหนำซ้ำยังผ่านการคัดเลือกมาจนถึงรอบสุดท้ายได้แบบงงๆ
ข้อมูลครอบครัวตระกูลจางแบบคร่าวๆ
- พ่อ : จาง จุนซา (47 ปี) ปัจจุบันเป็นอาจารย์คณิตศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย
- แม่ : ยุน มิแร (47 ปี)
ปัจจุบันเป็นนักออกแบบและตกแต่งภายใน
- พี่สาว : จาง ฮยอนอา (25 ปี)
ปัจจุบันเป็นทันตแพทย์ประจำคลินิกแห่งหนึ่งในฮวาซ็อง
- น้องชาย : จาง ฮยองชิก (20 ปี) ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สาม
คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์
อาชีพ: พนักงานฝ่ายบัญชี
บริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในกรุงโซล
ชอบ:
- การได้ทำอะไรเต็มที่แล้วผลออกมาสำเร็จหรือดีกว่าที่ตั้งใจไว้
- กิจกรรมหรือกีฬาเอ็กซ์สตรีม (แต่ที่ชอบที่สุดก็เห็นจะเป็นการปีนเขาจำลองล่ะมั้ง)
- ป๊อบคอร์นรสคาราเมลผสมชีส / มันฝรั่งทอดรสดั้งเดิม
- คาราเมลมัคคิอาโต้ / ชาเขียวปั่นหวานน้อย
- สปาเกตตี้ซอสแดงใส่ลูกชิ้นเนื้อและชีสเยอะๆ /
สเต็กปลาราดซอสแอปเปิ้ลหรือซอสพริกไทยดำ / ผักโขมอบชีส / พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยน
- ซุปปู / ซุนดูบู (แกงกิมจิเต้าหู้อ่อน) / ซัมเกทัง (ไก่ตุ๋นโสม) / ต๊อกโบกีกับไก่ทอดร้อนๆ
<3
- ของหวานที่มีช็อกโกแลตหรือชาเขียวเป็นส่วนประกอบ
- ภาพยนตร์แอคชั่น (ตระกูล Marvel อะไรแบบนี้ก็ชอบนะ
ฮวายูชอบไอร่อนแมน <3) / สืบสวนสอบสวน / โรแมนติกคอเมดี้
- เพลง easy listening ไม่ก็เพลงป๊อบฟังสบาย ถ้าเป็นเพลงสากลจะชอบฟังเพลงเก่าเป็นพิเศษ
(แต่ก็พอจะรู้จักเพลง K – Pop อยู่บ้างนะ อย่างเพลงของ EXO
เจ้าตัวก็ชอบหลายเพลงเลย ex. Miracle
in December / Don’t go / First snow / Moonlight / Walk on memories)
- อากาศเย็นช่วงที่ฝนกำลังตกหรือหยุดตกใหม่ๆ
- ดอกเดซี่
- สีน้ำเงิน / สีกรมท่า
ไม่ชอบ:
- ความผิดพลาดหรือความผิดหวัง
- ความพ่ายแพ้
- คำสบประมาทหรือคำดูถูก
- กลิ่นบุหรี่
- แตงกวา (ฮวายูรู้สึกว่ากลิ่นมันแรงและเนื้อสัมผัสก็แหยะเกินกว่าจะทำใจกินได้)
- ช่วงเวลาที่ตัวเองไม่สบาย
(เพราะมันทำให้เธอทำงานได้ลำบากและทำได้ไม่เต็มที่)
- เรื่องสยองขวัญ (กรณีนี้ออกจะกลัวมากกว่าไม่ชอบนะ ดังนั้นฮวายูจะไม่พูดถึง
ไม่ฟังและไม่ดูอะไรเทือกนี้เด็ดขาด)
ลักษณะการพูดคุย:
การพูดจาของฮวายูมักจะเป็นกันเองถ้าหากคู่สนทนาเป็นคนสนิทหรือคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกเกร็ง
หญิงสาวจะแทนตัวเองว่าฉันหรือในบางครั้งก็จะแทนตัวเองว่าพี่ถ้าหากคู่สนทนาอายุน้อยกว่า
แล้วเรียกคู่สนทนาด้วยชื่อบางครั้งก็เรียกเธอหรือนายแล้วแต่สถานการณ์
แต่ถ้าหากเป็นการพูดคุยที่เป็นทางการหรือพูดคุยกับคนอาวุโสกว่าสาวเจ้าก็สามารถสลับโหมดมาเป็นการเป็นงานได้เหมือนกัน
ในเวลานั้นฮวายูจะแทนตัวเองว่าดิฉันแล้วเรียกคนที่สนทนาด้วยด้วยคุณแล้วตามด้วยนามสกุลเพื่อความเป็นทางการ
แต่ถ้าหากไม่ใช่การคุยในแง่นั้นก็จะเรียกคุณลุง คุณป้าแล้วแต่กรณีไป
ส่วนการพูดจากับคนในครอบครัวฮวายูก็จะมีการพูดจาอีกแบบ
ด้วยความที่เป็นลูกคนกลางมีทั้งพี่สาวและน้องชายทำให้การพูดในบางครั้งก็ติดจะไปทางอ้อนกับคนในครอบครัวเสียมากกว่า
อย่างถ้าพูดกับพ่อแม่หรือพี่สาวก็จะแทนตัวเองว่ายู
แต่ถ้าพูดคุยกับน้องชายก็จะแทนตัวเองว่าเจ๊หรือเจ๋ตามคำที่น้องชายใช้เรียก
ตัวอย่างการพูดจาของฮวายู
- “สวัสดีค่ะ จาง ฮวายูนะคะ
ต่อจากนี้ต้องขอความกรุณาและฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ตอนแนะนำตัวแบบเป็นทางการก็จะประมาณนี้ค่ะ
แต่ถ้าเป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเองทั่วไปก็จะลดความเป็นทางการลงมาหน่อย เช่น “สวัสดี ฉันฮวายูนะ ยินดีที่ได้รู้จัก” “ฉันชื่อฮวายูนะ
เธอชื่ออะไรล่ะ? เฮ้ อย่าเกร็งสิฉันไม่กัดเธอหรอกน่า”
- “สรุปบัญชีของไตรมาสนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะพี่(ชื่อรุ่นพี่)
ฉันคิดว่ามันเรียบร้อยดีแล้วแต่จะลองตรวจสอบดูอีกครั้งก็ได้ค่ะ”
- “เหยยยยยยยย!!! อันนี้ให้ฉันจริงดิ!? ขอบคุณน้า จะรักษาเป็นอย่างดีเลย ~~” เวลาอารมณ์ดีหรือดีใจก็จะเป็นแบบนี้แหละค่ะ
เปิดประโยคด้วยคำว่า ‘เหย’ ยาวๆพร้อมกับทำตาโตก่อนจะปรบมือยิ้มแป้นจนตาหยีเป็นเด็กๆเลย
- “จะทำอะไรก็ทำไปสิ ไม่ปรึกษากันตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่จะมาถามทำไมล่ะ”
ถ้าเวลาโกรธคำพูดคำจาก็จะประมาณนี้แหละค่ะ
แต่ถ้าปล่อยไว้สักพักเจ้าตัวตัวก็เดินหน้าหงอยๆมาขอโทษเองเพราะรู้สึกว่าพูดแรงไป
- “ออมม่า อัปปา~~ ยูขอโทษน้าที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กลับไปหาเลย
งานมันยุ่งมากๆเลยค่ะ ; w ; ”
- “ฮยองชิกอ่า เจ๊บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าจะมาเยี่ยมให้บอกกันก่อนน่ะ
นี่เจ๊ยังไม่เลิกงานเลยนะแล้วเราจะไปรอที่ไหนล่ะ!?”
- “โหย อะไรอ่า~ เกมนี้ฉันมั่นใจมากเลยนะ
มันจะต้องไม่แพ้สิ!!” พูดแล้วก็จะต้องทำปากยู่นิดๆหน้างอๆ ถ้าขัดใจมากๆก็อาจจะออกท่าออกทางประกอบด้วย
- “ฉันไม่ได้กลัวนะ แต่อย่าพูดถึงมันให้ฉันได้ยินอีกได้มั้ย”
เพิ่มเติม:
- เกิดวันที่ 3 มีนาคม ราศีมีนและมีเลือดกรุ๊ป A
- มักจะมีวิตามินขวดเล็กๆหรือวิตามินซองติดกระเป๋าอยู่เสมอเผื่อเอาไว้ในตอนที่ทำงานแล้วรู้สึกล้า
- เป็นคนไม่ชอบให้ปากตัวเองว่างเวลาใช้คอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์
ดังนั้นจึงมักจะมีโหลคุกกี้หรือขนมจุกจิกเอาไว้กินแก้เหงาปากติดเอาไว้ทั้งที่บ้านและโต๊ะทำงานอยู่ตลอด
(ที่มักจะซื้อมาตุนไว้มักจะเป็นคุกกี้ช็อกโกแลตชิพไม่ก็คุกกี้ข้าวโอ๊ต)
- สายตาสั้น 400 แต่ปกติมักจะใส่คอนแทคเลนส์เอาไว้
แต่ถ้าหากอยู่บ้านสบายๆหรือรีบจนไม่มีเวลาก็จะมีแว่นประจำกายเป็นแว่นกรอบกลมเอาไว้ใช้แก้ขัดแทน
- ฮวายูไม่ใช่คนใส่ใจอะไรกับเครื่องประดับนัก ดังนั้นนาฬิกาข้อมือจึงเป็นเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวที่เธอมักจะใส่อยู่เสมอ
(ดูเหมือนจะชอบมองนาฬิกาจนติดเป็นนิสัยด้วยล่ะ
จนในบางครั้งก็เผลอทำให้คนอื่นเกร็งโดยไม่รู้ตัว)
- กินเก่งมากๆ มากเวอร์จนบางครั้งก็เข้าขั้นตะกละ----
เป็นคนที่กินอะไรแล้วก็ดูอร่อยไปหมด
มิหนำซ้ำแก้มทั้งสองข้างก็จะถูกอาหารดันออกจนกลมมากกว่าเดิมเหมือนหนูแฮมสเตอร์ไม่มีผิดเลย
- จากการเป็นลูกมือของแม่สมัยเด็กบวกกับสถานการณ์บังคับทำให้เป็นคนหนึ่งมีทักษะการทำอาหารติดตัว
ทำอาหารจำพวกแกงอร่อยมากแต่ถ้าไม่มีคนถามก็ไม่จำเป็นต้องบอก
ยิ่งในช่วงที่เอาสะดวกเข้าว่าฮวายูก็มักจะซื้ออาหารแช่แข็งไม่ก็รามยอนจากร้านสะดวกซื้อเสียมากกว่าเพราะไม่เสียเวลามากนัก
- ไม่ค่อยชอบใส่รองเท้าสลิปเปอร์
ยิ่งถ้าเป็นพื้นกระเบื้องเย็นๆสะอาดๆเจ้าตัวก็สามารถเดินเท้าเปล่าได้โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น
- เป็นคนหนึ่งที่นอกจากร้านกาแฟแล้วก็สามารถพบเจอได้ตามช่วงลดราคาของห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต
……………………
Interview
Q:
สวัสดีค่ะ
ดิฉันชื่ออึนฮาและเป็นco-directorให้กับรายการเรียลลิตี้ครั้งนี้นะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณฮวายู
A:
หญิงสาวค้อมศีรษะให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย
มุมปากอิ่มหยักยิ้มบางเบาเสริมให้ใบหน้านั้นดูน่ามองก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงฉะฉานและท่าทางมั่นใจ
“สวัสดีค่ะคุณอึนฮา ฉันฮวายูค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ” หล่อนเลือกที่จะไม่ใช่คำเป็นทางการมากนัก
คงเพราะดูแล้วคู่สนทนาน่าจะอ่อนแก่ห่างจากเธอไม่มากเท่าไหร่
Q:
ยินดีด้วยนะคะที่คุณผ่านเข้ามาถึงการคัดเลือกรอบสุดท้าย
พวกคุณคิดอย่างไรกับรายการนี้ ตื่นเต้นกันมากน้อยแค่ไหนคะ?
A:
“อ่อ ขอบคุณนะคะ ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านมาได้เหมือนกัน” ฮวายูหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นถูปลายจมูกแก้เก้อ
สองแก้มซับสีระเรื่อเมื่อได้รับคำยินดีจากอีกฝ่าย แต่เมื่อได้ยินคำถามคนถูกถามก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อยคล้ายกับกำลังใช้ความคิด
“อืม... ฉันยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะค่ะ
เพราะงั้นก็เลยรู้สึกตื่นเต้นพอสมควรเลย แต่จะทำให้เต็มที่นะคะ!!”
Q:
คุณมีสเปกผู้ชายแบบไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ
A:
“อ่า... นั่นสิน้า” แก้มขาวๆพองออกเล็กน้อย
หญิงสาวเหลือบตาขึ้นด้านบนอันเป็นท่าประจำเวลาใช้ความคิด “ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อนน่ะค่ะ
ความรักก็ไม่มีก็เลยไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ก็ชอบผู้ชายแบบ Tony
Stark ไม่ก็ Dr. Strange อยู่เหมือนกันนะคะ ฮะๆๆ”
Q:
ในการตอบคำถามครั้งสุดท้าย
ทางเราอยากจะรู้ว่าคุณจะนิยามตัวคุณเองสามคำด้วยคำว่าอะไร
A:
คิ้วสวยเลิกขึ้นเล็กน้อย “หืม
สามคำอย่างนั้นเหรอคะ?” ฮวายูกระพริบตาปริบๆ
คงจะเป็นขอสามคำแบบที่เธอเคยเห็นในรายการทีวีสินะ
นึกแล้วก็แอบตื่นเต้นนิดหน่อยที่ตัวเองได้เป็นฝ่ายพูดบ้าง “สามคำของฉันเป็นสาว
ไฟ แรงแล้วกันค่ะ~~”
Q:
ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะคะ
ทางเราจะพยายามทำให้รายการนี้เป็นการทำงานที่ประทับใจกับLTI Ent.ของเรา
มีเรื่องอะไรที่จะให้ทางเราซัพพอร์ตก่อนเริ่มไหมคะ? ...ถ้าอย่างนั้นขอให้โชคดีค่ะคุณฮวายู
A:
“ช่วยซัพพอร์ตเป็นอาหารอร่อยๆกับคำแนะนำดีๆเวลาฉันทำอะไรพลาดไปก็แล้วกันค่ะ”
แว่วเสียงหัวเราะจากนักบัญชีสาว ริมฝีปากสีชมพูสดอ้ากว้าง
แก้มกลมๆนั่นดันให้ดวงตาสีนิลยิบหยีลงเป็นขีด “ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณอึนฮา
ดีใจที่วันนี้ได้คุยกันนะ : D ”
…………………
Behind
Scene Talk
Q:
เรานามปากกาซีอิง
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เธอล่ะชื่ออะไร?
A:
สวัสดีค่า //7// ทางนี้ชื่อเชอร์ล็อคนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ!!
Q:
ขอบคุณมากน้าที่มาส่งลูกสาวให้กับเรา
อยากจะถามว่าทำไมถึงเลือกบทนี้แล้วก็มีใครที่อยากจะให้คู่เป็นพิเศษไหม
A:
อันที่จริงลังเลระหว่างบทนี้กับสาว Tempo ค่ะ
แต่เลือกบทนี้เพราะเห็นว่าเป็นนิสัยที่น่าสนใจแล้วก็มีมิติดี
ไม่ค่อยได้ปั่นอะไรแนวๆนี้ด้วย 555555 ส่วนคนที่อยากให้คู่เป็นพิเศษก็คงไม่พ้นเซฮุนค่ะ
เมนเราเอง แหะ
Q:
โอเคจ้า
จากนี้ขอให้โชคดีนะคะ//เลิ้ป
A:
ขอบคุณมากนะคะ ไม่แน่ใจว่าหลุดจากกรอบที่ทางนั้นวางไว้รึเปล่าแต่ก็ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้เช่นกันน้า
<3
ความคิดเห็น