ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~คลังสะสมจินตนาการ~

    ลำดับตอนที่ #6 : Chonlalin Side Story.

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 60


    AU. สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์

    Chonlalin Side Story

    Behind her smile

     

    แด่เธอผู้เปรียบเหมือนหิมะงาม หิมะสีขาวบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ยั่วเย้าให้แตะต้อง

    ทว่าหิมะงามกลับเปราะบางและพร้อมเลือนรางจางหาย

    เช่นเดียวกับรอยยิ้มอ่อนหวานที่เบื้องหลังมากด้วยความเจ็บปวดและคราบน้ำตา

     

    ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ย้อนกลับไปในช่วงเวลาหนึ่งที่ยังคงจำความได้ยังคงมีครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนั้นสมบูรณ์ในอย่างที่ควรจะเป็น มีหัวหน้าครอบครัว ภรรยาแสนดี และลูกน้อยน่ารัก ภาพความอบอุ่นเด่นชัดภายในจิตใจเมื่อย้อนนึกถึงมัน อดีตแสนสุขที่ถูกทาทับด้วยสีซีเปียร์

    บ้านหลังน้อยแถบชานเมืองบนเกาะเล็กๆในประเทศไทยคือสถานที่แสนสุขแห่งแรกในความทรงจำ สิ่งปลูกสร้างหลังงามรายล้อมด้วยพรรณไม้เขียว ทุกรายละเอียดยังคงแจ่มชัดเสมอตั้งแต่หน้าประตูลึกถึงในห้องนอนแสนสบาย มันคือบ้านหลังหนึ่งของครอบครัวสุขสันต์สมบูรณ์แบบที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสุขในแบบที่มันควรจะเป็น

    เด็กน้อยชื่อ ชลลินถือกำเนิดขึ้นด้วยความรัก เด็กหญิงหน้าตาน่ารักถอดแบบจากผู้เป็นมารดา ทั้งดวงตากลมหวานและเส้นผมสีดำสนิท ตลอดหลายปีที่เด็กน้อยถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรัก ความอบอุ่นถูกถ่ายทอดจากผู้เป็นทั้งพ่อและแม่ไม่ได้ขาดเพราะเธอคือแก้วตาดวงใจของผู้ให้กำเนิด

    อย่างน้อยครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็น…..

    เพราะครั้งหนึ่งเคยมีความสุข ความทุกข์จึงเข้ามาเยือนอย่างง่ายดาย ความเศร้ามาเยือนทุกที่ที่มันสามารถไปได้ อดีตแสนสุขจึงถูกย้อมด้วยดำหม่นทีละนิด ความเศร้าและความทุกข์คืบคลานเข้าใกล้บ้านหลังน้อยหลังนั้น

    เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้นำครอบครัวมีปัญหาจากเรื่องงาน เขาเริ่มดื่มเหล้า มันเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นจากความเครียด และกิริยายามเมามายถูกนำมาลงกับภรรยา หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รักถูกตบตีและใช้กำลังรุนแรง ในตอนนั้นชลลินอายุเพียงห้าขวบ เด็กน้อยแอบมองเหตุการณ์เหล่านั้นและบ่อยครั้งที่เธอร้องไห้แทนผู้เป็นแม่

    ความรุนแรงยิ่งทบทวีตามกาลเวลาที่เคลื่อนผ่าน น่าแปลกที่ผู้เป็นแม่ยอมทนอยู่กับคนใจร้ายนานหลายปีแม้บนร่างกายจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวและบาดแผลมากมาย หล่อนอดทนเพียงเพื่อคำว่าครอบครัว ชลลินต้องการแม่ เหนือสิ่งอื่นใดเธอขาดพ่อไม่ได้แม้ว่าหล่อนจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถให้ความอบอุ่นกับลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ก็ตาม

    แต่ใครจะรู้ว่าบางทีชลลินอาจไม่ได้ต้องการแบบนั้น

    ดูนั่นสิมีแผลมาอีกแล้วล่ะ

    น่าหมั่นไส้จริงๆทำหน้าตาน่าสงสารประจบคุณครูอยู่นั่นแหละ

    ตัวก็เล็ก ผอมยังกะกุ้งแห้ง ดูหน้ามันสิ…”

    ถ้อยคำร้ายกาจลอยเข้าสู่โสตประสาท คำพูดเหล่านั้นฝังลึกลงในหัวใจของเด็กตัวน้อยซ้ำยังกรีดลึกจนเป็นรอยแผลเหวอะหวะ ใบหน้าน่ารักก้มลงเมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวรอบกระบอกตาและสัมผัสอุ่นๆของหยดน้ำที่เอ่อคลอ ท่อนแขนเล็กปรากฏรอยฟกช้ำ บนแก้มขาวแปะพลาสเตอร์ทับรอยแผลและรอยแดงจากฝ่ามือใหญ่ที่ฟาดอย่างรุนแรง

    ชลลินในตอนนั้นเป็นเพียงแค่เด็กประถมตัวเล็กรูปร่างผอมบาง ด้วยใบหน้าที่ยิ่งนานวันก็ยิ่งคล้ายคลึงกับผู้เป็นมารดาทำให้เธอถูกผู้เป็นพ่อทำร้ายร่างกายบ่อยขึ้น บ่อยครั้งที่เด็กหญิงมาโรงเรียนพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากแผลน่ากลัว แต่ถึงอย่างนั้นชลลินไม่เคยขาดเรียน ความคิดเพียงอย่างเดียวตามประสาเด็กไร้เดียงสาคือถ้าหากเธอได้เกรดดีๆพ่อคงจะโกรธน้อยลงและเลิกทำร้ายเธอกับแม่

    ด้วยนิสัยเรียบร้อยและถ่อมตนอีกทั้งยังตั้งใจเรียนทำให้เด็กหญิงเป็นที่รักของคุณครู หากแต่การกระทำนั้นกลับถูกมองว่าเสแสร้งและประจบประแจงทำให้เด็กน้อยไม่ใช่ที่รักในหมู่เพื่อนๆเท่าไหร่นัก ทุกคนรังแกชลลินด้วยความอคติ ร่างกายที่เล็กกว่าและบอบบางทำให้เด็กหญิงตกอยู่ในสถานะเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งโดยที่ไม่สามารถโต้แย้งหรือทำอะไรได้

    อย่าบอกคุณครูหรือคนที่บ้านถ้าไม่อยากโดนดีคำขู่นั้นทำให้เด็กน้อยปิดปากเงียบและใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเรื่อยมา

    การกลั่นแกล้งเริ่มต้นจากการรังแกเพียงเล็กน้อยอย่างการซุบซิบนินทา บางครั้งเกิดการขโมยสมุด เก้าอี้ที่นั่ง แม้กระทั่งหนังสือเรียน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาร้ายกาจมากขึ้น การกลั่นแกล้งทวีความเลวร้ายมากยิ่งขึ้น บางครั้งมันลุกลามไปจนถึงการใช้ความรุนแรง

    โอ๊ย!

    เสียงเล็กร้องขึ้นเมื่อถูกผลักจนหงายหลังล้มลง แผ่นหลังบอบบางกระแทกกับพื้นปูนแข็งๆจนรู้สึกจุกไปหมดทั้งกาย ดวงตาสีอ่อนสะท้อนกับแสงแดดทออ่อนยามเย็นสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวยามเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มนักเรียนใจร้ายที่พากันมุงดูร่างของตนราวกับเป็นตัวตลก แว่วเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเสียงซุบซิบนินทาทว่าเด็กหญิงชลลินไม่อาจเอ่ยคำโต้แย้ง มือสั่นๆยกขึ้นปิดหูและส่ายหน้าไปมา

    ไม่มีใครสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้เนื่องด้วยเป็นเวลาเย็นและมันเกิดขึ้นในตึกเรียนเก่าๆร้างผู้คน บ่อยครั้งที่ชลลินมักจะถูกกักตัวไว้ในตอนเย็นย่ำก่อนถูกปล่อยออกมาพร้อมรอยแผลที่เพิ่มขึ้นในยามค่ำเพื่อให้เด็กหญิงกลับบ้าน การกักตัวเด็กหญิงเอาไว้มันง่ายดายเพราะบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียนทำให้ในทุกๆวันเธอต้องกลับบ้านเอง

    หากแต่วันนี้มันแย่กว่าทุกๆวัน….

    ร่างของชลลินถูกผลักล้มลง ถูกทำร้ายด้วยกำลังและถ้อยคำรุนแรงมากมาย บาดแผลแสบผิวกายเมื่อต้องลมยามเย็นในเดือนธันวาคมที่บาดลึก ร่างปวกเปียกถูกดึงตัวจนเอนไหวไปตามแรงฉุด เสียงร้องไห้น่าสงสารดังตลอดทางก่อนเด็กน้อยจะถูกผลักอีกครั้งให้หงายหลังเข้าไปในห้องน้ำเก่าๆ แว่วเสียงหัวเราะร้ายกาจพร้อมกับประตูห้องน้ำที่ปิดลง…. และถูกลงกลอนแน่นหนา

    ร่างเล็กถลาเข้าทุบประตูทันทีเมื่อมันถูกปิดลง กำปั้นน้อยๆกระทบกับบานประตูจนเกิดเสียงดังก้องในตึกเรียนเงียบเชียบ ไม่มีใครอยู่ในตึกเพราะเป็นเวลาหกโมงกว่า อย่าทำแบบนี้นะ! ปล่อยลินออกไป!เสียงเล็กกรีดร้องขอความช่วยเหลือ เสียงนั้นเจือแววสะอื้นทรมานปานจะขาดใจ ฟังดูน่าสงสารแต่กลับไม่ช่วยให้ได้รับความเห็นใจ

    อยู่ในนั้นไปซะ!! แกมันยัยเด็กขี้ประจบ!

    น่ารำคาญ!!!

    ไม่! ลินขอร้องอย่าทำแบบนี้!

    คำอ้อนวอนดังขึ้นขัดถ้อยคำโหดร้ายแต่จะมีประโยชน์เมื่อคนเหล่านั้นได้จากไปแล้ว ร่างเล็กบอบช้ำไปด้วยบาดแผลทรุดตัวลงหน้าประตู กำปั้นทุบประตูด้วยแรงที่อ่อนลงมากขึ้นทุกที มือขาวเต็มไปด้วยรอยแดง บางจุดมีเลือดไหลซิบจากการออกแรงอยู่เกือบสิบนาที เสียงใสแหบแห้งจากการร้องตะโกนขอความช่วยเหลือไม่มีหยุด น้ำตามากมายพาลไหลเมื่อทำนบน้ำตาพังทลายลงพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนหาย

    แม่…. แม่จ๋า ช่วยลินด้วย…”

    นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนเด็กหญิงจะหมดสติไป มันเป็นการนอนหลับที่ยาวนาน…… นานเสียจนเธอไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาอีก

    น่าเสียดายที่โชคชะตาไม่ปล่อยให้เด็กหญิงจากไป

    เปลือกตาสีไข่ไก่เปิดขึ้นในตอนสายของวันหนึ่ง กลิ่นแอลกอฮอล์สะอาดๆลอยแตะจมูกพร้อมกับอาการปวดหนึบที่ศีรษะ รอยแผลปวดแปลบแสดงอาการเจ็บปวดบาดลึกทันทีที่ร่างเล็กในชุดผู้ป่วยขยับตัว ดวงตาหม่นแสงจ้องมองมือเล็กซึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผล วูบหนึ่งที่ชลลินรู้สึกเสียใจที่ตื่นขึ้นมา เธอยังต้องตื่นเพื่อมาเจอกับความโหดร้าย

    หลังจากเหตุการณ์นั้นร่างของชลลินถูกพบในตอนเช้าเมื่อมีคนเปิดประตูที่ถูกลงกลอนไว้ ร่างเล็กในชุดนักเรียนมอมแมมของเด็กหญิงตัวเย็นชืดและขาวซีดไม่ต่างจากซากศพ ร่างบอบบางเต็มไปด้วยบาดแผล ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าชลลินกำลังหลับหากแต่อ่อนแรงเต็มทีเมื่อจ่อปลายนิ้วเข้าใต้จมูก เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพร้อมกับข่าวที่แจ้งถึงผู้ปกครอง

    แม่ของชลลินมาถึงโรงพยาบาลทันทีที่ได้ข่าว ผู้เป็นมารดาดูอมทุกข์และเต็มไปด้วยบาดแผลรอยช้ำ น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลรินหากแต่สองแขนยังกอดปลอบประโลมลูกรักอย่างอ่อนโยน มือบางลูบแผ่นหลังที่เริ่มสั่น ถ้อยคำอ่อนหวานมากมายถูกเอื้อนเอ่ยเพื่อปลอบคนเป็นลูก

    เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยเมื่อมารดาไถ่ถาม เด็กกลุ่มนั้นถูกลงโทษทันทีพร้อมกับชลลินที่ถูกย้ายโรงเรียน ชีวิตของชลลินเกือบจะสงบสุข ทว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยถึงหูของคนเป็นพ่อเมื่อผู้นำครอบครัวเอาแต่ละเลยและคิดแต่จะระบายความเครียดลงกับสองแม่ลูก

    จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรื่องราวรุนแรงมากขึ้นจนเกินรับไหว….

    วันนั้นแม่ของชลลินหายเข้าไปในเมืองทิ้งลูกน้อยที่ยังหลับสนิทให้อยู่กับผู้เป็นพ่อและขวดเหล้ามากมายกองเต็มโต๊ะ สัญชาตญาณดิบราวปีศาจร้ายผุดโผล่เมื่อมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่าปกติ

    ชลลินร้องไห้จ้าเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับแขนข้างหนึ่งที่ถูกฉุดด้วยแรงมหาศาล เด็กหญิงปลิวตามแรงนั้น ท่อนแขนอ่อนแอบอบช้ำ รอยนิ้วมือสีแดงเข้มเด่นชัดบนผิวเนื้อ ดวงตากลมหวานสั่นไหว หยดน้ำอุ่นเอ่อคลอด้วยความหวาดกลัว เด็กน้อยร้องไห้และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดยามถูกทุบตี

    น้ำตาเม็ดโตหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นจากดวงตาคู่สวย ร่างเล็กขยับตัวหนีจากการกระทำรุนแรงนั้น ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อยที่เต้นระรัวด้วยความหวาดผวา เด็กน้อยร้องดังขึ้นเมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างในมือของคนเป็นพ่อ

    มีดปลายคมส่องสะท้อนสายไฟ คมมีดน่ากลัวสะท้อนเข้าสู่ม่านตาสั่นไหว หยดน้ำอุ่นมากมายไหลอาบแก้มขาว ความหวาดกลัวมากมายพาให้ร่างกายสั่นไปหมด ชลลินขยับตัวหนี สองมือยกขึ้นไหว้ขอร้องคนเป็นพ่อแท้ๆเมื่อคมมีดเคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

    ฮึกพะ พ่อจ๋า ยะ อย่าทำลินเลยนะ ลินขอร้อง ฮึก ฮืออออ

    ทว่าคำขอนั้นสายเกินไป….

    หุบปาก!! นังเด็กเวร!

    ฉึก

    ปลายมีดแหลมแทงลึกลงบนหน้าท้อง แผลที่สองกรีดลึกบนต้นขา น้ำตาไหลจากปลายหางตาลงอาบแก้มใส มือบางเลื่อนกุมหน้าท้อง สัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นๆไหลออกจากปากแผลจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด ได้ยินเสียงเส้นเลือดขยับตุบๆพร้อมกับชีพจรที่อ่อนลงเรื่อยๆ ลมหายใจรวยรินกับภาพเบื้องหน้าที่เริ่มเรือนลาง เด็กหญิงได้ยินเสียงมีดตกกระทบพื้น ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพ่อกลายเป็นเงาไหวๆขยับไปมาก่อนหายลับไปจากสายตา ริมฝีปากเล็กสั่นระริก ส่งเสียงสะอื้นน่าสงสารแม้สติจะใกล้เลือนหายเต็มทน

    ฮึก….” เปลือกตาบางปิดลง ในตอนนั้นเธอคิดว่าการนอนหลับครั้งนี้คงยาวนานชั่วกาล และมันอาจจะดีถ้าหากเป็นอย่างนั้น แม่จ๋า…. ลินรักแม่นะ……”


    __________________________________________________________________________

    เป็นเรื่องสั้นบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นน้องลินคณะศิลปกรรมศาสตร์ครับผม แต่งขึ้นด้วยความเมาและความต้องการบางส่วนที่อยากให้ทุกคนรู้อดีตของลินมากขึ้นว่าเบื้องหลังความมุ้งมิ้งของลินมีอะไรบ้าง ฮาาาาาา เนื่องด้วยเป็นเอยูมหาลัยประวัติก็จะไม่เหมือนกับชานหลิงที่โรลกัน คิดว่าคงได้มีการปลดล็อคสตอรี่ประวัติในส่วนนี้ถ้าหากมีการโรลเอยูนี้จริงจัง (แอบอยากพอสมควร เราชอบโรลดราม่า) 

    บอกต่ออีกนิดเพราะเราตัดสินใจตัดจบ #เลว หลังจากที่ถูกพ่อทำร้ายลินก็ถูกเพื่อนบ้านพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วแม่ของลินก็หย่าขาดกับพ่อไปแต่งงานใหม่ (ผู้ชายคนใหม่ของแม่เป็นคนดีแน่นอน) ซึ่งก็อยู่อย่างปกติสุขเพราะไม่ได้เจอพ่ออีกจนกลายมาเป็นลินอย่างที่รู้จักกันนี่แหละ แต่จากเหตุการณ์นั้นทำให้ลินมีแผลเป็นที่หน้าท้องกับต้นขาข้างขวาแล้วก็กลัวพวกผู้ชายไปพักใหญ่ จนแม่ต้องจับไปเรียนหญิงล้วนตอนมอต้น แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วจ้ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×