คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chonlalin Side Story.
AU. สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์
Chonlalin Side Story
Behind her smile
แด่เธอผู้เปรียบเหมือนหิมะงาม
หิมะสีขาวบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ยั่วเย้าให้แตะต้อง
ทว่าหิมะงามกลับเปราะบางและพร้อมเลือนรางจางหาย
เช่นเดียวกับรอยยิ้มอ่อนหวานที่เบื้องหลังมากด้วยความเจ็บปวดและคราบน้ำตา
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาหนึ่งที่ยังคงจำความได้ยังคงมีครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง
ครอบครัวนั้นสมบูรณ์ในอย่างที่ควรจะเป็น มีหัวหน้าครอบครัว ภรรยาแสนดี
และลูกน้อยน่ารัก ภาพความอบอุ่นเด่นชัดภายในจิตใจเมื่อย้อนนึกถึงมัน
อดีตแสนสุขที่ถูกทาทับด้วยสีซีเปียร์
บ้านหลังน้อยแถบชานเมืองบนเกาะเล็กๆในประเทศไทยคือสถานที่แสนสุขแห่งแรกในความทรงจำ
สิ่งปลูกสร้างหลังงามรายล้อมด้วยพรรณไม้เขียว
ทุกรายละเอียดยังคงแจ่มชัดเสมอตั้งแต่หน้าประตูลึกถึงในห้องนอนแสนสบาย
มันคือบ้านหลังหนึ่งของครอบครัวสุขสันต์สมบูรณ์แบบที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสุขในแบบที่มันควรจะเป็น
เด็กน้อยชื่อ ‘ชลลิน’ ถือกำเนิดขึ้นด้วยความรัก
เด็กหญิงหน้าตาน่ารักถอดแบบจากผู้เป็นมารดา ทั้งดวงตากลมหวานและเส้นผมสีดำสนิท
ตลอดหลายปีที่เด็กน้อยถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรัก
ความอบอุ่นถูกถ่ายทอดจากผู้เป็นทั้งพ่อและแม่ไม่ได้ขาดเพราะเธอคือแก้วตาดวงใจของผู้ให้กำเนิด
อย่างน้อยครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็น…..
เพราะครั้งหนึ่งเคยมีความสุข
ความทุกข์จึงเข้ามาเยือนอย่างง่ายดาย ความเศร้ามาเยือนทุกที่ที่มันสามารถไปได้
อดีตแสนสุขจึงถูกย้อมด้วยดำหม่นทีละนิด
ความเศร้าและความทุกข์คืบคลานเข้าใกล้บ้านหลังน้อยหลังนั้น
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้นำครอบครัวมีปัญหาจากเรื่องงาน
เขาเริ่มดื่มเหล้า มันเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นจากความเครียด
และกิริยายามเมามายถูกนำมาลงกับภรรยา
หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รักถูกตบตีและใช้กำลังรุนแรง
ในตอนนั้นชลลินอายุเพียงห้าขวบ เด็กน้อยแอบมองเหตุการณ์เหล่านั้นและบ่อยครั้งที่เธอร้องไห้แทนผู้เป็นแม่
ความรุนแรงยิ่งทบทวีตามกาลเวลาที่เคลื่อนผ่าน
น่าแปลกที่ผู้เป็นแม่ยอมทนอยู่กับคนใจร้ายนานหลายปีแม้บนร่างกายจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวและบาดแผลมากมาย
หล่อนอดทนเพียงเพื่อคำว่าครอบครัว ชลลินต้องการแม่
เหนือสิ่งอื่นใดเธอขาดพ่อไม่ได้แม้ว่าหล่อนจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถให้ความอบอุ่นกับลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ก็ตาม
แต่ใครจะรู้ว่าบางทีชลลินอาจไม่ได้ต้องการแบบนั้น
“ดูนั่นสิมีแผลมาอีกแล้วล่ะ”
“น่าหมั่นไส้จริงๆทำหน้าตาน่าสงสารประจบคุณครูอยู่นั่นแหละ”
“ตัวก็เล็ก ผอมยังกะกุ้งแห้ง
ดูหน้ามันสิ…”
ถ้อยคำร้ายกาจลอยเข้าสู่โสตประสาท
คำพูดเหล่านั้นฝังลึกลงในหัวใจของเด็กตัวน้อยซ้ำยังกรีดลึกจนเป็นรอยแผลเหวอะหวะ
ใบหน้าน่ารักก้มลงเมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวรอบกระบอกตาและสัมผัสอุ่นๆของหยดน้ำที่เอ่อคลอ
ท่อนแขนเล็กปรากฏรอยฟกช้ำ บนแก้มขาวแปะพลาสเตอร์ทับรอยแผลและรอยแดงจากฝ่ามือใหญ่ที่ฟาดอย่างรุนแรง
ชลลินในตอนนั้นเป็นเพียงแค่เด็กประถมตัวเล็กรูปร่างผอมบาง
ด้วยใบหน้าที่ยิ่งนานวันก็ยิ่งคล้ายคลึงกับผู้เป็นมารดาทำให้เธอถูกผู้เป็นพ่อทำร้ายร่างกายบ่อยขึ้น
บ่อยครั้งที่เด็กหญิงมาโรงเรียนพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากแผลน่ากลัว
แต่ถึงอย่างนั้นชลลินไม่เคยขาดเรียน ความคิดเพียงอย่างเดียวตามประสาเด็กไร้เดียงสาคือถ้าหากเธอได้เกรดดีๆพ่อคงจะโกรธน้อยลงและเลิกทำร้ายเธอกับแม่
ด้วยนิสัยเรียบร้อยและถ่อมตนอีกทั้งยังตั้งใจเรียนทำให้เด็กหญิงเป็นที่รักของคุณครู
หากแต่การกระทำนั้นกลับถูกมองว่าเสแสร้งและประจบประแจงทำให้เด็กน้อยไม่ใช่ที่รักในหมู่เพื่อนๆเท่าไหร่นัก
ทุกคนรังแกชลลินด้วยความอคติ
ร่างกายที่เล็กกว่าและบอบบางทำให้เด็กหญิงตกอยู่ในสถานะเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งโดยที่ไม่สามารถโต้แย้งหรือทำอะไรได้
“อย่าบอกคุณครูหรือคนที่บ้านถ้าไม่อยากโดนดี” คำขู่นั้นทำให้เด็กน้อยปิดปากเงียบและใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเรื่อยมา
การกลั่นแกล้งเริ่มต้นจากการรังแกเพียงเล็กน้อยอย่างการซุบซิบนินทา
บางครั้งเกิดการขโมยสมุด เก้าอี้ที่นั่ง แม้กระทั่งหนังสือเรียน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาร้ายกาจมากขึ้น การกลั่นแกล้งทวีความเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
บางครั้งมันลุกลามไปจนถึงการใช้ความรุนแรง
“โอ๊ย!”
เสียงเล็กร้องขึ้นเมื่อถูกผลักจนหงายหลังล้มลง
แผ่นหลังบอบบางกระแทกกับพื้นปูนแข็งๆจนรู้สึกจุกไปหมดทั้งกาย
ดวงตาสีอ่อนสะท้อนกับแสงแดดทออ่อนยามเย็นสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวยามเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มนักเรียนใจร้ายที่พากันมุงดูร่างของตนราวกับเป็นตัวตลก
แว่วเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเสียงซุบซิบนินทาทว่าเด็กหญิงชลลินไม่อาจเอ่ยคำโต้แย้ง
มือสั่นๆยกขึ้นปิดหูและส่ายหน้าไปมา
ไม่มีใครสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้เนื่องด้วยเป็นเวลาเย็นและมันเกิดขึ้นในตึกเรียนเก่าๆร้างผู้คน
บ่อยครั้งที่ชลลินมักจะถูกกักตัวไว้ในตอนเย็นย่ำก่อนถูกปล่อยออกมาพร้อมรอยแผลที่เพิ่มขึ้นในยามค่ำเพื่อให้เด็กหญิงกลับบ้าน
การกักตัวเด็กหญิงเอาไว้มันง่ายดายเพราะบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียนทำให้ในทุกๆวันเธอต้องกลับบ้านเอง
หากแต่วันนี้มันแย่กว่าทุกๆวัน….
ร่างของชลลินถูกผลักล้มลง ถูกทำร้ายด้วยกำลังและถ้อยคำรุนแรงมากมาย
บาดแผลแสบผิวกายเมื่อต้องลมยามเย็นในเดือนธันวาคมที่บาดลึก
ร่างปวกเปียกถูกดึงตัวจนเอนไหวไปตามแรงฉุด
เสียงร้องไห้น่าสงสารดังตลอดทางก่อนเด็กน้อยจะถูกผลักอีกครั้งให้หงายหลังเข้าไปในห้องน้ำเก่าๆ
แว่วเสียงหัวเราะร้ายกาจพร้อมกับประตูห้องน้ำที่ปิดลง…. และถูกลงกลอนแน่นหนา
ร่างเล็กถลาเข้าทุบประตูทันทีเมื่อมันถูกปิดลง
กำปั้นน้อยๆกระทบกับบานประตูจนเกิดเสียงดังก้องในตึกเรียนเงียบเชียบ
ไม่มีใครอยู่ในตึกเพราะเป็นเวลาหกโมงกว่า “อย่าทำแบบนี้นะ! ปล่อยลินออกไป!” เสียงเล็กกรีดร้องขอความช่วยเหลือ
เสียงนั้นเจือแววสะอื้นทรมานปานจะขาดใจ
ฟังดูน่าสงสารแต่กลับไม่ช่วยให้ได้รับความเห็นใจ
“อยู่ในนั้นไปซะ!!
แกมันยัยเด็กขี้ประจบ!”
“น่ารำคาญ!!!”
“ไม่! ลินขอร้องอย่าทำแบบนี้!”
คำอ้อนวอนดังขึ้นขัดถ้อยคำโหดร้ายแต่จะมีประโยชน์เมื่อคนเหล่านั้นได้จากไปแล้ว
ร่างเล็กบอบช้ำไปด้วยบาดแผลทรุดตัวลงหน้าประตู
กำปั้นทุบประตูด้วยแรงที่อ่อนลงมากขึ้นทุกที มือขาวเต็มไปด้วยรอยแดง
บางจุดมีเลือดไหลซิบจากการออกแรงอยู่เกือบสิบนาที
เสียงใสแหบแห้งจากการร้องตะโกนขอความช่วยเหลือไม่มีหยุด
น้ำตามากมายพาลไหลเมื่อทำนบน้ำตาพังทลายลงพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนหาย
“แม่…. แม่จ๋า ช่วยลินด้วย…”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนเด็กหญิงจะหมดสติไป
มันเป็นการนอนหลับที่ยาวนาน…… นานเสียจนเธอไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาอีก
น่าเสียดายที่โชคชะตาไม่ปล่อยให้เด็กหญิงจากไป
เปลือกตาสีไข่ไก่เปิดขึ้นในตอนสายของวันหนึ่ง
กลิ่นแอลกอฮอล์สะอาดๆลอยแตะจมูกพร้อมกับอาการปวดหนึบที่ศีรษะ
รอยแผลปวดแปลบแสดงอาการเจ็บปวดบาดลึกทันทีที่ร่างเล็กในชุดผู้ป่วยขยับตัว
ดวงตาหม่นแสงจ้องมองมือเล็กซึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผล
วูบหนึ่งที่ชลลินรู้สึกเสียใจที่ตื่นขึ้นมา
เธอยังต้องตื่นเพื่อมาเจอกับความโหดร้าย
หลังจากเหตุการณ์นั้นร่างของชลลินถูกพบในตอนเช้าเมื่อมีคนเปิดประตูที่ถูกลงกลอนไว้
ร่างเล็กในชุดนักเรียนมอมแมมของเด็กหญิงตัวเย็นชืดและขาวซีดไม่ต่างจากซากศพ
ร่างบอบบางเต็มไปด้วยบาดแผล ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าชลลินกำลังหลับหากแต่อ่อนแรงเต็มทีเมื่อจ่อปลายนิ้วเข้าใต้จมูก
เธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพร้อมกับข่าวที่แจ้งถึงผู้ปกครอง
แม่ของชลลินมาถึงโรงพยาบาลทันทีที่ได้ข่าว
ผู้เป็นมารดาดูอมทุกข์และเต็มไปด้วยบาดแผลรอยช้ำ
น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลรินหากแต่สองแขนยังกอดปลอบประโลมลูกรักอย่างอ่อนโยน
มือบางลูบแผ่นหลังที่เริ่มสั่น
ถ้อยคำอ่อนหวานมากมายถูกเอื้อนเอ่ยเพื่อปลอบคนเป็นลูก
เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยเมื่อมารดาไถ่ถาม
เด็กกลุ่มนั้นถูกลงโทษทันทีพร้อมกับชลลินที่ถูกย้ายโรงเรียน
ชีวิตของชลลินเกือบจะสงบสุข ทว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยถึงหูของคนเป็นพ่อเมื่อผู้นำครอบครัวเอาแต่ละเลยและคิดแต่จะระบายความเครียดลงกับสองแม่ลูก
จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรื่องราวรุนแรงมากขึ้นจนเกินรับไหว….
วันนั้นแม่ของชลลินหายเข้าไปในเมืองทิ้งลูกน้อยที่ยังหลับสนิทให้อยู่กับผู้เป็นพ่อและขวดเหล้ามากมายกองเต็มโต๊ะ
สัญชาตญาณดิบราวปีศาจร้ายผุดโผล่เมื่อมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่าปกติ
ชลลินร้องไห้จ้าเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับแขนข้างหนึ่งที่ถูกฉุดด้วยแรงมหาศาล
เด็กหญิงปลิวตามแรงนั้น ท่อนแขนอ่อนแอบอบช้ำ รอยนิ้วมือสีแดงเข้มเด่นชัดบนผิวเนื้อ
ดวงตากลมหวานสั่นไหว หยดน้ำอุ่นเอ่อคลอด้วยความหวาดกลัว
เด็กน้อยร้องไห้และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดยามถูกทุบตี
น้ำตาเม็ดโตหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นจากดวงตาคู่สวย
ร่างเล็กขยับตัวหนีจากการกระทำรุนแรงนั้น
ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อยที่เต้นระรัวด้วยความหวาดผวา เด็กน้อยร้องดังขึ้นเมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างในมือของคนเป็นพ่อ
มีดปลายคมส่องสะท้อนสายไฟ
คมมีดน่ากลัวสะท้อนเข้าสู่ม่านตาสั่นไหว หยดน้ำอุ่นมากมายไหลอาบแก้มขาว
ความหวาดกลัวมากมายพาให้ร่างกายสั่นไปหมด ชลลินขยับตัวหนี
สองมือยกขึ้นไหว้ขอร้องคนเป็นพ่อแท้ๆเมื่อคมมีดเคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ฮึก… พะ พ่อจ๋า ยะ อย่าทำลินเลยนะ
ลินขอร้อง ฮึก ฮืออออ”
ทว่าคำขอนั้นสายเกินไป….
“หุบปาก!! นังเด็กเวร!”
ฉึก
ปลายมีดแหลมแทงลึกลงบนหน้าท้อง
แผลที่สองกรีดลึกบนต้นขา น้ำตาไหลจากปลายหางตาลงอาบแก้มใส มือบางเลื่อนกุมหน้าท้อง
สัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นๆไหลออกจากปากแผลจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด
ได้ยินเสียงเส้นเลือดขยับตุบๆพร้อมกับชีพจรที่อ่อนลงเรื่อยๆ
ลมหายใจรวยรินกับภาพเบื้องหน้าที่เริ่มเรือนลาง เด็กหญิงได้ยินเสียงมีดตกกระทบพื้น
ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพ่อกลายเป็นเงาไหวๆขยับไปมาก่อนหายลับไปจากสายตา
ริมฝีปากเล็กสั่นระริก ส่งเสียงสะอื้นน่าสงสารแม้สติจะใกล้เลือนหายเต็มทน
“ฮึก….” เปลือกตาบางปิดลง ในตอนนั้นเธอคิดว่าการนอนหลับครั้งนี้คงยาวนานชั่วกาล และมันอาจจะดีถ้าหากเป็นอย่างนั้น “แม่จ๋า…. ลินรักแม่นะ……”
__________________________________________________________________________
เป็นเรื่องสั้นบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นน้องลินคณะศิลปกรรมศาสตร์ครับผม แต่งขึ้นด้วยความเมาและความต้องการบางส่วนที่อยากให้ทุกคนรู้อดีตของลินมากขึ้นว่าเบื้องหลังความมุ้งมิ้งของลินมีอะไรบ้าง ฮาาาาาา เนื่องด้วยเป็นเอยูมหาลัยประวัติก็จะไม่เหมือนกับชานหลิงที่โรลกัน คิดว่าคงได้มีการปลดล็อคสตอรี่ประวัติในส่วนนี้ถ้าหากมีการโรลเอยูนี้จริงจัง (แอบอยากพอสมควร เราชอบโรลดราม่า)
บอกต่ออีกนิดเพราะเราตัดสินใจตัดจบ #เลว หลังจากที่ถูกพ่อทำร้ายลินก็ถูกเพื่อนบ้านพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วแม่ของลินก็หย่าขาดกับพ่อไปแต่งงานใหม่ (ผู้ชายคนใหม่ของแม่เป็นคนดีแน่นอน) ซึ่งก็อยู่อย่างปกติสุขเพราะไม่ได้เจอพ่ออีกจนกลายมาเป็นลินอย่างที่รู้จักกันนี่แหละ แต่จากเหตุการณ์นั้นทำให้ลินมีแผลเป็นที่หน้าท้องกับต้นขาข้างขวาแล้วก็กลัวพวกผู้ชายไปพักใหญ่ จนแม่ต้องจับไปเรียนหญิงล้วนตอนมอต้น แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วจ้ะ
ความคิดเห็น