ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~คลังสะสมจินตนาการ~

    ลำดับตอนที่ #2 : fanfic Crystal War

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 58


    ท้องฟ้ายามค่ำ

    ดวงดาวส่องประกาย

    แสงสีส้มจากโคมไฟ

    สายลมที่พัดมาต้องผิวกาย

    แว่วเสียงเพลงที่เปิดคลอ

    เธอยืนอยู่ตรงนั้น    ยืนอยู่ตรงหน้าผม.......

     

    Short story : Me and You

     

    เสียงระฆังดังกังวาน เข็มขนาดใหญ่ตีบอกเวลาหกโมงเย็น เสียงทุ้มต่ำของมันดังยาวนานอยู่นับนาที ทันทีที่เสียงนั้นหยุดลงเสียงเพลงก็แทรกเข้ามาแทนที่ บรรยากาศรอบตัวคลาคล่ำไปด้วยผู้คน เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจ 'โจเอลล่า ฟลอยด์' ยกแขนขึ้นกอดอก ดวงตาสีอเมทิสต์เหม่อมองทิวทัศน์ยามเย็นอย่างไร้จุดหมาย มือเรียวสวยลูบแขนเบาๆเมื่อลมอ่อนๆพัดมาต้องผิวกายที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อแขนกุดสีดำที่ใส่อยู่ เบื้องหลังของเธอคือซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตา และดวงไฟหลากสี ตัวอักษรโลหะขนาดใหญ่เรียงเป็นคำสวยงาม ส่องประกายล้อกับแสงไฟ

    Dream Land

    ลึกเข้าไปข้างในคือพื้นที่หลายเอเคอร์ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด ผู้คนมากมายหลั่งไหลผ่านเข้าไปในซุ้มประตูคนแล้วคนเล่า คนเหล่านั้นแต่งกายด้วยชุดแฟนซีแบบกอธธิคมองแล้วสวยแปลกตา โจเอลล่ากระชับมือที่กอดอกอยู่ให้แน่นขึ้น วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อแขนกุดสีดำ เข้าชุดกับเอี๊ยมยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบแบบแปลงส้น และปล่อยผมเหมือนอย่างทุกที แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเป็นในเวลาปกติเธอคงไม่แต่งตัวแบบนี้อย่างแน่นอน

    ฟึ่บ

    มืออ้วนกลมยื่นห่อกระดาษสีส้มสดมาให้ กะประมาณจากขนาดแล้วภายในน่าจะเป็นลูกอมไม่ก็ช็อกโกแลตบอล มาสคอตแมวเหมียวฉีกยิ้มกว้างให้กับเด็กสาว ก่อนจะส่งแผ่นกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือมาให้ ข้อความบนกระดาษถูกเขียนด้วยหมึกสีดำด้วยลายมือคุ้นตา

    'Happy Halloween'

    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มุมปากยกขึ้นเป็นรูปยิ้ม มาสคอตส่งกระดาษอีกใบมาให้โจเอลล่า มันถูกเขียนด้วยหมึกสีชมพูแต่ลายมือเป็นแบบเดียวกับแผ่นที่แล้ว

    'You're so cute'

    แก้มขาวใสปรากฏริ้วสีแดงจางๆพาดผ่าน เด็กสาวเม้มริมฝีปากเมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในอก มาสคอตตัวนั้นโบกมือให้โจเอลล่าแล้วเดินจากไป ลมหอบหนึ่งลอยผ่านตัวเธอจนต้องเอาผมทัดไว้หลังใบหู

    "ว่าไง"

    เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น สายลมอ่อนๆลอยผ่านไป แต่ครั้งนี้เหมือนมันจะพาเอาเวลาที่หมุนอยู่รอบตัวของโจเอลล่าไปด้วย เบื้องหน้าคือร่างสูงในชุดไปรเวทธรรมดาแต่กลับดูดีจนเธอใจสั่น รอยยิ้มบางส่งผ่านมายังเด็กสาวอย่างอ่อนโยน

    ผู้ชายคนนี้......... 'เอเรบัส เจเนซิส'

    "ฝีมือคุณสินะ" กระดาษสองใบถูกชูขึ้น โจเอลล่าโบกกระดาษในมือไปมา เอเรบัสยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะพยักหน้า เด็กสาวมองท่าทางที่ดูเหมือนไม่ทุกข์ร้อนของอีกฝ่ายอย่างนึกแค้นใจอยู่นิดๆ

    นี่เขินจนตัวจะแตกอยู่แล้วนะ ยังจะมาทำไม่รู้เรื่องอีก!

    "แต่งตัวไม่เข้ากับงานเลยนะคุณน่ะ" ร่างสูงกอดอกมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มน้อยๆ โจเอลล่ากอดอกมองกลับ เธอยู่ปากใส่เขา

    "คุณเองก็เหมือนกันนั่น----" พูดยังไม่ทันจบประโยคหมวกแกะสีหวานหน้าตาบ้องแบ๊วก็สวมลงบนหัวด้วยฝีมือของคนตรงหน้า เอเรบัสจัดหมวกให้เข้าที่อย่างเบามือ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็หยิบหมวกหมาป่ามาสวมให้ตัวเอง

    "ไม่คิดว่าคุณจะทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย" เด็กสาวยิ้มมองร่างสูง เอเรบัสหัวเราะในลำคอก่อนจะจูงมือโจเอลล่าไปที่บูธเพื่อส่งตั๋วให้พนักงาน หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวเดินเข้าไปด้านในสวนสนุก โดยไม่ทันสังเกตเลยว่า......ดวงตาวาววับสองคู่กำลังจับจ้องมายังพวกเขา

     

    "คุณอยากเล่นอะไร" เอเรบัสหันมาถามหลังจากเข้ามาได้สักพัก โจเอลล่าหันมองรอบตัว ก่อนจะสะดุดเข้ากับเครื่องเล่นบางอย่าง

    'Sky cosaster'

    "อยากเล่นอันนั้นเหรอครับ" เมื่อเห็นว่าคนข้างตัวเอาแต่จดๆจ้องๆอยู่กับเครื่องเล่นน่าหวาดเสียว เอเรบัสก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กสาวหมวกแกะข้างๆต้องอยากเล่นแน่ๆ มุมปากของร่างสูงยกขึ้นเมื่อเห็นศีรษะของอีกคนพงกขึ้นลง อย่างน้อยข้อสันนิษฐานของเขาก็ถูกต้องล่ะนะ

    "ไปกันเถอะ" สัมผัสอุ่นๆจากมือของโจเอลล่ากำอยู่รอบข้อมือของเขาก่อนเจ้าตัวจะออกแรงดึงตัวเขาไป เอเรบัสอมยิ้มพร้อมกับมองมือของอีกฝ่ายที่จับข้อมือของตัวเองด้วยหัวใจที่เป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก

    วันนี้เขายิ้มไปกี่รอบแล้วนะ......

    หลังจากใช้เวลาเกือบสี่นาทีในการเผชิญกับเครื่องเล่นมหาโหด เอเรบัสและโจเอลล่าก็ลงมาจากเครื่องเล่น ใบหน้าของคนทั้งคู่เรียบนิ่งอย่างไม่รู้สึกอะไร โจเอลล่าเสียอีกที่ขมวดคิ้วแน่น เสียงกรี๊ดของคนที่เล่นเครื่องเล่นคงสร้างความรำคาญใจให้เด็กสาวอยู่ไม่น้อยเลย

    "อ๊ะ!" เสียงหวานใสร้องขึ้นเมื่อร่างของตัวเองกำลังเซไปด้านข้าง แต่เพียงเสี้ยววินาทีร่างของเธอก็ถูกดึงเข้ามาชิดกับคนข้างตัว เอเรบัสนั่นเองที่รวบเอวเธอไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้มือที่ว่างอยู่เช็ดเหงื่อที่ซึมตามไรผมให้อย่างเบามือ แก้มของโจเอลล่าขึ้นสีจางๆอีกครั้งเมื่อถูกอีกฝ่ายปฏิบัติอย่างอบอุ่นอ่อนโยน โชคดีที่บริเวณที่ยืนอยู่มันค่อนข้างมืด ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงเห็นแก้มแดงๆของเธอไปแล้ว

    "ตอนเล่นก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา" เสียงทุ้มว่าพลางหัวเราะเล็กน้อยเป็นผลให้ได้กำปั้นน้อยๆทุบเข้าที่หัวไหล่ ดวงตาสีอเมทิสต์ตวัดมองค้อนอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่แล้วก็ต้องหน้าร้อนผ่าวอีกคราเมื่อมือของฝ่ายยกขึ้นลูบเบาๆบนหมวกที่เธอสวมอยู่ เอเรบัสส่งยิ้มบางแล้วตบลงบนหมวกสองสามทีคล้ายปลอบคนขี้งอนกลายๆ

    "มาเที่ยวกับผมอย่าทำหน้าบึ้งสิ ผมเสียใจนะ"

    "บ้า" ใช้ปลายนิ้วจิ้มจมูกคนสูงกว่าหนึ่งทีก่อนจะเดินหนีไป เอเรบัสยกมือขึ้นจับจมูกของตัวเอง สัมผัสแผ่วเบาทว่าอบอุ่น แม้ไม่มีกระจกแต่ร่างสูงก็รับรู้ได้ว่ามุมปากของตัวเองกำลังยกขึ้นอยู่ในระดับที่เกินพอดี

    "คุณนี่จริงๆเลยนะ" พึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปหาร่างบางที่ยืนรออยู่ข้างหน้า สองมือเกาะเกี่ยวกันอีกครั้งก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ประดับประดาด้วยแสงไฟ เบื้องหลังคนทั้งคู่ดวงตาสองคู่ส่องประกายวาววับอีกครั้ง เงาตะคุ่มขยับไหวอยู่หลังพุ่มไม้

    "เมื่อกี้เห็นมั้ย"

    "เป้าหมายชัดเจนมาก!"

    "ดี......งั้นตามต่อไปเลย"

    ต่อจาก sky coaster ทั้งคู่ก็เล่นเครื่องเล่นอีกหลายอย่าง ทั้งไวกิ้ง รถบัมพ์ รถไฟเหาะตีลังกา แม้แต่ซุ้มช้อนไข่หรือซุ้มปาเป้าเล็กๆทั้งคู่ก็ยังไม่พลาดที่จะลองเล่นดู ผลปรากฏว่าจากการเล่นปาเป้าเอเรบัสได้ตุ๊กตาแมวน้อยขนฟูมาให้โจเอลล่าหนึ่งตัว ในขณะที่โจเอลล่าปาเป้าพลาดไปอย่างน่าเสียดาย

    "ยังอยากเล่นอะไรอีกรึเปล่า" เสียงทุ้มนุ่มถามคนข้างตัวที่ตอนนี้กอดตุ๊กตาไว้แน่นราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะชี้นิ้วไปยังร้านซอฟท์ครีมที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

    "กินอันนั้นดีกว่า"

    "ครับ งั้นรออยู่ตรงนี้นะ" ว่าพลางจูงมืออีกฝ่ายไปที่ม้านั่งใกล้ๆ ส่งยิ้มให้เด็กสาวอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปซื้อซอฟท์ครีม แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาหาร่างบางที่นั่งอยู่

    "อย่าเดินหลงไปที่ไหนนะครับ"

    "รู้แล้วล่ะน่า!"

    สิบนาทีต่อมาโจเอลล่าก็ได้ทานซอฟท์ครีมสมใจอยาก เอเรบัสลอบมองคนที่นั่งทานซอฟท์ครีมอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะใช้มันถ่ายรูปอีกฝ่ายเก็บไว้อย่างรวดเร็ว

    แชะ!

    "อะไรน่ะ" เสียงชัตเตอร์ที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจากโจเอลล่าได้เป็นอย่างดี ใบหน้าน่ารักหันมาหาร่างสูงข้างตัวอย่างรวดเร็วแต่ก็เร็วน้อยกว่าอีกคนที่เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงอย่างไร้ซึ่งพิรุธใดๆ

    "ไม่มีอะไรหรอกครับ" ส่งยิ้มตอบอีกฝ่ายพลางปฏิเสธเสียงนุ่ม แต่แล้วก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาเมื่อทั้งมุมปากและปลายจมูกของโจเอลล่ามีซอฟท์ครีมเนื้อนุ่มติดอยู่ คิ้วสวยได้รูปของเด็กสาวขมวดน้อยๆพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่ยู่อย่างขัดใจ เอเรบัสใช้ปลายนิ้วไล้เนื้อซอฟท์ครีมออกจากปลายจมูกของอีกฝ่าย ส่งครีมที่ติดปลายนิ้วเข้าปากตัวเองก่อนจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากที่มุมปากของอีกคนแล้วใช้ลิ้นเก็บคราบซอฟท์ครีมที่ติดอยู่ เอเรบัสยิ้มกริ่มเมื่อเห็นใบหน้าแดงจัดเป็นมะเจือเทศสุกของเด็กสาว โจเอลล่าตวัดสายตามองอีกฝ่ายด้วยความงอนเคล้าความอายเล็กๆ ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นตุบๆแข่งกับจังหวะกลอง

    "กินเลอะแค่นี้บอกดีๆก็ได้มั้ง"

    "ถ้าบอกผมก็อดกินน่ะสิ"

    "บ้า!" พูดพร้อมส่งกำปั้นไปทุบไหล่อีกคนแบบไม่เบานัก ร่างสูงหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะรวบกำปั้นที่กำลังประทุษร้ายตนเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมือที่ว่างอยู่ก็ใช้มันจิ้มซอฟท์ครีมเนื้อนุ่มลงบนมุมปากของตัวเอง

    "คุณก็ทำแบบผมบ้างสิถือว่าหายกัน"

    "ใครจะไปทำแบบนั้นล่ะ!"

    ~~~ ♫♪ ~~~

    เสียงดนตรีดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟที่ส่องสว่างจากทั่วทุกมุมของสวนสนุก เอเรบัสและโจเอลล่าเงียบเสียงลงก่อนจะหันมองรอบๆ ดวงไฟทั้งหมดส่องไปยังชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่ถูกประดับด้วยดวงไปหลากสี มองแล้วสวยงามไม่ต่างจากดวงดาวที่ตอนนี้กำลังส่องประกายอยู่ทั่วผืนฟ้า ชิงช้าสวรรค์เปิดให้บริการแล้ว........

    "นี่"

    "ครับ?"

    "ไปกันมั้ย"

    "ชิงช้าสวรรค์น่ะเหรอครับ" เด็กสาวไม่ตอบคำถามของชายหนุ่ม เธอลุกขึ้นก่อนจะจูงมืออีกฝ่ายไปยังชิงช้าสวรรค์ข้างหน้า เอเรบัสหัวเราะเบาๆแต่ก็ยอมเดินตามร่างบางที่นำอยู่แต่โดยดี ดวงตาสองคู่ปรากฏขึ้นในความมืดอีกครั้ง พร้อมกับเงาตะคุ่มที่เข้าใกล้มากกว่าทุกที

    "ตามไปที่ชิงช้าสวรรค์เร็ว!"

     

    วงล้อขนาดใหญ่เริ่มขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหมุนอย่างเชื่องช้า หนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวนั่งนิ่งอยู่ในกระเช้า ยามชิงช้าสวรรค์ขยับกระเช้าก็สูงขึ้นเรื่อยๆจนสามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองจากมุมสูง โจเอลล่าวางมือของตัวเองแนบกระจกเย็นๆก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เพื่อมองเห็นวิวด้านนอกให้ชัดขึ้น แสงไฟจากตึกและบ้านด้านล่างส่องประกายสะท้อนกลับเข้ามาในดวงตามองดูแล้วคล้ายอัญมณีที่ตกอยู่เกลื่อนพื้น

    "สวยจัง" เสียงใสพึมพำแผ่วเบา ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเต็มแก้ม ภาพที่เธอมองเห็นสวยเสียจนต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้

    แชะ! แชะ!

    เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นสองเสียง เสียงหนึ่งจากโทรศัพท์ของเธอส่วนอีกเสียงคงเป็นของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างไม่ต้องสงสัย โจเอลล่าค่อยๆหันหน้าไปมองก็พอดีกับที่เอเรบัสลดโทรศัพท์ในมือลง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ถ่ายรูปวิวตามที่เธอคาดไว้

    "คุณแอบถ่ายรูปฉัน......"

    "ผมไม่ได้แอบถ่ายสักหน่อยนะ"

    แชะ!

    "แต่ถ่ายให้เห็นจะๆเลยต่างหากล่ะครับ"

    "เหอะ"

    "มาทางนี้สิครับ วิวทางนี้ก็สวยนะ" ไม่ว่าเปล่ามือใหญ่ดึงมือของเด็กสาวให้มานั่งข้างๆ โจเอลล่ามองวิวเงียบๆในขณะที่เสียงชัตเตอร์ก็ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆทั้งจากโทรศัพท์ของเธอและโทรศัพท์ของเอเรบัส

    กึง!

    ชิงช้าสวรรค์หยุดหมุนในขณะที่กระเช้าของคนทั้งคู่เคลื่อนมาอยู่ตรงจุดสูงสุดพอดี เด็กสาวมองไปรอบๆ เพราะชิงช้าสวรรค์หยุดหมุนไฟที่ติดอยู่กับตัวชิงช้าก็เลยดับไปด้วย แต่แสงจากดวงไฟที่คอยส่องมาเป็นระยะจากด้านล่างก็ยังสว่างพอให้มองเห็นอะไรได้บ้าง โจเอลล่าเผลอขยับตัวเข้าไปชิดกับร่างสูงเล็กน้อย สองตาสอดส่ายมองไปรอบๆอย่างตื่นกลัว

    คงเพราะอยู่กับแสงสว่างมาจนชินจนลืมไปแล้วว่าการอยู่ท่ามกลางความมืดมันเป็นยังไง......

    "คุณไม่เป็นไรนะครับ" เสียงนุ่มกระซิบถามอีกฝ่ายอย่างห่วงใย เธอสั่นศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงบอกให้คนข้างตัวสบายใจก่อนจะขยับตัวออกห่าง แว่วเสียงลอบถอนหายใจแผ่วเบาแต่เอเรบัสก็ยังสัมผัสได้ว่าคนข้างกายกำลังหวาดกลัว

    "หันมาทางนี้หน่อยครับ"

    "มีอะไร"

    "ขอโทษนะครับ" ประคองใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างเบามือก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากสัมผัสกัน โจเอลล่าเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ ในขณะที่ร่างสูงค่อยๆขยับองศาให้จูบได้ถนัดถนี่มากขึ้น จูบนี้ไม่ได้รุกล้ำหรือจาบจ้วง เป็นเพียงจุมพิตแผ่วเบาทว่ากลับหอมหวานเหมือนปีกที่พาคนทั้งคู่ล่องลอยไปในความฝัน เนิ่นนานกว่าเอเรบัสจะยอมขยับออกมา โจเอลล่ากะพริบตามองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงก่ำ เสียงหัวใจสองดวงเต้นพร้อมกันในจังหวะที่ค่อยๆเร็วขึ้น

    "คุณ......!" ทิ้งคำพูดไว้เพียงแค่นั้นใบหน้าแดงๆเหมือนมะเขือเทศก็หันกลับออกไปด้านนอกกระเช้า ร่างสูงหัวเราะเบาๆในลำคอ ดวงตาคมใต้กรอบแว่นเต็มไปด้วยความสุขที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิด

    "เขินเหรอครับ"

    "ก็รู้อยู่แล้วยังจะมาถามอีกทำไม!" หางเสียงตวัดขึ้นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย เด็กสาวยกแขนขึ้นกอดอก แก้มขาวๆพองลมเหมือนตัวชิพมังค์ ท่าทางแสนงอนนั่นเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรไฟจากตัวชิงช้าก็กลับมาสว่างอีกครั้ง เสียงเครื่องจักรดังขึ้นเบาๆ ในขณะที่กระเช้าเริ่มหมุนลงด้านล่าง

    "อยากเล่นอะไรต่ออีกมั้ยครับ" เอเรบัสถามเด็กสาวหลังจากที่ลงจากกระเช้าเรียบร้อยแล้ว โจเอลล่าส่ายหน้าแทนคำตอบ ดวงตาคู่สวยปรือลงเล็กน้อยเพราะความง่วงที่เริ่มก่อตัว เธอรับตุ๊กตาแมวมาจากร่างสูงที่ฝากเอาไว้กับพนักงานก่อนขึ้นชิงช้าสวรรค์ เอเรบัสมองคนตัวเล็กกว่าแล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะใต้หมวกนุ่มนิ่มอย่างเอ็นดู

    ชิ้ง~

    "นั่นใครน่ะ!" เอ่ยถามเสียงเรียบก่อนหันไปมองอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวด้านหลัง เงาตะคุ่มทั้งสองถึงแก่สะดุ้งเฮือกแต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากที่ซ่อน

    "หวา~ โดนจับได้ซะแล้วสิ"

    "เพราะแกคนเดียวเลยอ่ะ!"

    ดวงตาสีอเมทิสต์มองคนสองคนที่กำลังเถียงกันอยู่ตรงหน้าตาปริบๆ คนแรกตือหญิงสาวที่อายุมากกว่าเธอหนึ่งปี ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงสาวท่าทางร่าเริงแต่อาจจะมากไปเสียหน่อยเท่านั้น

    'แครอล เวอร์จิเนีย' และ 'สีคราม' !

    "คุณกับพี่มาทำอะไรที่นี่" เอเรบัสกดเสียงต่ำ ดวงตาใต้กรอบแว่นจ้องมองสองสาวอย่างคาดคั้น แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงรอยยิ้มจืดเจื่อนจากสีคราม และเสียงหัวเราะแห้งๆจากแครอลผู้เป็นพี่

    "พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ อย่าบอกนะว่าสะกดรอยตามมาตั้งแต่แรกแล้ว" เมื่อไม่ได้คำตอบ โจเอลล่าก็จัดการลงมือรีดความจริงจากทั้งสองด้วยตัวเอง เด็กสาวยกมือขึ้นกอดอกมองสองสาวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สุดท้ายก็เป็นแครอลที่ใจกล้าพอจะเล่าเรื่องราวทั้งหมด

    "คืองี้นะเอล พี่เห็นบัสทันทำหน้าเครียดๆมาหลายวันแล้วก็เลยเป็นห่วง พอเข้าไปถามก็บอกว่าไม่มีอะไร พอเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ยัยสีครามฟังยัยนั่นก็เลยอยากรู้น่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สุดท้ายก็เลยมารู้เนี่ยแหละว่าบัสแอบนัดเอลมาสวีทที่นี่กันสองคน =^=" แครอลร่ายยาวก่อนจะปิดท้ายประโยคด้วยใบหน้าบูดบึ้ง หญิงสาวกอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อยคล้ายจะประกาศให้รับรู้ว่า 'นี่งอนอยู่นะรู้ยัง'

    "อย่าบอกนะว่าพวกพี่แอบตามผมเข้ามา" ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าอีกคนจะงอนแค่ไหน เอเรบัสถามแครอลที่ตอนนี้กำลังทำท่าสะบัดสะบิ้งเต็มที่ แต่ถึงกระนั้นอีกฝ่ายก็ยังใจดีพยักหน้ารับเป็นการบอกว่าข้อสันนิษฐานของร่างสูงนั้นถูกต้อง

    "แอบตามมางั้นเหรอ........."

    "ใช่แล้วจ้า! สวีทกันสุดๆเลยล่ะสองคนเนี้ย ฉันมองแล้วล่ะอิจฉ้า อิจฉา ยัยแครอลน่ะจิกพื้นจนเล็บดำไปหมดแล้วนะเนี่ย" สีครามพูดพลางยิ้มแป้นอย่างไร้ซึ่งความสำนึกผิด เอเรบัสและโจเอลล่ามองสองสาวอย่างเอือมๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้แครอลสะบัดสะบิ้งอย่างมีจริตด้วยความงอนอยู่อย่างนั้น ส่วนสีคราม.......รายนั้นหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้าไม่มีผิด

    "นี่ๆ จะบอกอะไรให้นะ ไอ้ชิงช้าสวรรค์ที่หยุดตอนที่พวกเธอเข้าไปเล่นกันน่ะ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ คิกคิก"

    "นี่คุณ.......อย่าบอกนะว่า........"

    "ใช่แล้วจ้ะเอลจัง เราสองคนสั่งให้คนควบคุมหยุดมันเอง" แครอลเฉลยแล้วคลี่ยิ้มหวานประหนึ่งนางสาวไทยปีล่าสุด โจเอลล่ายืนนิ่ง อ้าปากค้างหน้าแดงจัด จนไม่เหลือมาดสาวน้อยเย็นชา มีเพียงเอเรบัสที่ยังคงยิ้มและพูดต่อได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

    "ขอบคุณนะครับพี่"

    "จะไปขอบคุณทำไมกันล่ะ!" เสียงหวานแหวขึ้นพร้อมกับกำปั้นที่ทุบลงมาปักใหญ่ตรงหัวไหล่ เอเรบัสหัวเราะเบาๆ ร่างสูงรวบกำปั้นของอีกฝ่ายไว้ด้วยมือข้างเดียวส่วนอีกข้างเขารวบเอวคนตัวเล็กกว่าเข้ามาชิด ก่อนจะก้มหน้ากระซิบข้างหู

    "นั่นสินะ แต่ถึงชิงช้าจะไม่หยุดผมก็จะหาโอกาสจูบคุณอยู่ดีนั่นล่ะ :p"

    "บ้า!!" โจเอลล่าผลักไหล่ของอีกฝ่ายแล้วเดินหนีไปทันที

    "งอนเหรอครับ"

    "เรื่องของฉัน!"

    การง้องอน

    "โกรธผมเหรอครับเนี่ย"

    "คุณมันผู้ใหญ่ขี้แกล้ง"

    กระทบกระทั่งกันเล็กน้อย

    "ผมไม่ผิดสักหน่อย คุณนั่นแหละอยากน่ารักเองทำไมล่ะ"

    "ไม่เกี่ยวกับฉันเลยนะ!"

    ต่อปากต่อคำ

    "นี่"

    "อะไร....."

    "รักนะครับ"

    แต่สุดท้าย.........

    "อือ รักเหมือนกัน"

    ความรักก็เชื่อมเราเอาไว้อยู่ดี

    ฮาโลวีนปีนี้ก็ไม่เลวเลยนะ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×