คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER ONE
CHAPTER ONE
“โอ้ยยย ส้นตีนไรเนี่ย เปิดเทอมยังไม่ถึงอาทิตย์สั่งรายงานแล้วเนี่ยนะ!”
ฮิมชานบ่นอย่างหงุดหงิด กำลังทึงผมตัวเองระบายอารมณ์ เพราะไม่ใช่แค่รายงานนะ แต่การบ้านที่สั่งๆกันมาราวกับอาจารย์คิดว่าวันนึงมีเรียนแค่วิชาของท่านเท่านั้น ไม่ได้คิดเลยว่าวิชาอ่านก็สั่งเหมือนกัน มันทับกันเกือบจะเป็นภูเขา!
“กูก็ได้เท่ามึงยังไม่บ่นเป็นไอ้บ้าแบบมึงเลยฮิมชาน” ยงกุกพูดพลางเก็บหนังสือใส่กระเป๋า
“ก็มึงเก่งนี้ ทำแปบเดียวก็เสร็จ ฮือ มึงไม่โง่แบบกูนี่ ทำเป็นปียังไม่เสร็จเลยมั้ง” คนที่ยังไม่บ่นกระปอดกระแปดเริ่มลดมือลงจะการทึงหัวตัวเองแล้วเริ่มเก็บหนังสือใส่กระเป๋า
ผิดปกติ .. ยงกุกคิด ผกติมันจะเก็บไปบ่นไป แต่นี่เงียบ และเก็บของอย่างสงบเสงี่ยม
“มึง..” เสียงฮิมชานพูดขึ้นมาทำลายความเงียบเมื่อกี้
ยงกุกเงียบรอฟัง
“ช่วยกูทำหน่อยนะ” ฮิมชานพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนมาให้
“ไม่..”
และยงกุกปฏิเสธทันที
“นะมึง ฮืออ ช่วยคนหล่อคนนี้หน่อย ถ้าช่วยกู กูยอมหล่อน้อยกว่ามึงวันนึงเลยอะ ไม่ดิๆ อาทิตย์นึงเลย นะๆๆๆ ช่วยกูหน่อย”
“กูก็มีที่ต้องทำเท่ามึงนั่นแหละ ถ้ากูช่วยมึงกูก็ไม่ได้ทำของกูดิ”
“งั้นก็ช่วยกันทำ มึงก็ทำของมึงไป กูทำของกูเอง ถ้าอันไหนทำไม่ได้ก็ให้มึงช่วยทำ นะมึง..” หางเสียงแผ่วลงเรื่อยๆเป็นเชิงอ้อนวอนอีกครา
“เออ ก็ได้ แต่บ้านมึงนะ บ้านกูไม่ว่าง” ยงกุกรับปัดๆไป
“ขอบใจมากนักบุญบังยงกุก มึงนี่เพื่อนที่ดีจริงๆ” ฮิมชานรีบยัดหนังสือทั้งหมดลงกระเป๋าแล้วเดินตามยงกุกที่เดินออกจากห้องไปก่อนเลยไป
.......
“มึงอะ มึงไม่รอกูเลย” ฮิมชานพูดไปและหอบน้อยขณะที่มาเดินข้างๆยงกุกแล้ว
“ก็มึงช้าเอง” ยงกุกตอบเรียบๆ
“แต่ที่จะไปอะ บ้านกูนะว้อย ไม่ใช่บ้านมึง” ฮิมชานแหวขึ้นมา
“โอ้ งั้นกูกลับบ้านกูก็ได้นะ จะได้ทำคนเดียว สบายกว่าแยะ” ยงกุกยักไหล่
“ขอโทษครับพี่ ไม่หือ ไม่อือละครับ” ฮิมชานโบกมือขอโทษขอโพย
“กูมีแต่พี่ไม่มีน้อง” ยงกุกตอบหน้าตาย
ฮิมชานสตั๊น เขาคิดว่ามันคือมุกใช่มั้ย มุกของยงกุกสินะ แล้วเขาต้องขำใช่ปะวะ ถ้าไม่ขำเขาจะเป็นไรมั้ย ฮิมชานขบคิดอย่างวุ่นๆในสมองคนเดียว ขณะที่คนข้างหยุดเดินแล้ว แต่เขายังเดินต่อ
ฮิมชานหยุดเท้าแล้วหันไปถามคนที่หยุดเดิน
“อ่าว มึงหยุดเดินไมอะ” ฮิมชานถามแล้วกะพริบตาปริบๆ
“กูถึงบ้านมึงแล้วจะเดินไปไหนต่อ?” ยงกุกตอบ
ฮิมชานมองไปรอบๆที่ตัวเองยืนอยู่ เออคุ้นๆแฮะ เห้ย นี่มันเลยบ้านเขาไปแล้วนี่หว่า
“แล้วทำไมมึงไม่เรียกกูวะ” ฮิมชานพูดแล้วเดินกลับมาหน้าบ้านตัวเอง
“กูเห็นมึงเดินคิดไรอยู่ ก็ไม่อยากรบกวน” ยงกุกตอบหน้าตายอีกครั้ง
“ทำดีมาก.. เพื่อนที่แสนดี สัตว์เอ้ย!” ฮิมชานตอบไปด่าไป
“กูขอเป็นทิกเกอร์นะ” ยงกุกตอบ
.
.
.
“เป็นเหี้ยไรก็เรื่องของมึง!” ฮิมชานสบถแล้วหยิบกุญแจบ้านเสียบเข้าไปทันที โดยเปิดรอคนที่มาด้วยกัน
“เชิญเสด็จครับสัตว์” ฮิมชานพูดยงกุกจึงเดินตามมา
“เดี๋ยวมึงไปรอที่ห้องรับแขกนะ เดี๋ยวกูขึ้นไปจัดห้องแปบ รกฉิบหาย” ฮิมชานพูดจบแล้วเดินขึ้นบันไดไป
ยงกุกพยักหน้า แล้วเดินมาห้องรับแขก เพราะห้องนั้นไม่มีประตู ยงกุกเลยเดินเข้าไปทันที แต่เท้าชะงักไว้ก่อน
เมื่อเห็นเด็กชายคนหนึ่งนอนอยู่บ้านโซฟา ท่าทางจะอายุน้อยกว่าเขาซัก2-3ปี ผมสั้นสีน้ำตาล ผิวขาวยังกะหลอดไฟนีออน ขาวกว่าฮิมชานอีก แต่ดูแล้วน่าจะสูงกว่าเขา เท่าที่ดูจากขาที่เหยียดออกมาจากโซฟายาว ดวงตาที่หลับอยู่ทำให้เห็นขนตาที่ยาวกว่าผู้ชายทั่วไป จมูกเล็กๆ(กับดั้งน้อยๆ แต่ยงกุกจะข้ามส่วนนี้ไป) แล้วกลีบปากสวยออกจะชมพู โดยรวม ออกจะไปทางน่ารักมากกว่าหล่อซะมากกว่า
ยงกุกถอยเท้าออกมาจากห้องรับแขก แล้วเดินไปที่บันไดแต่ไม่ได้เดินขึ้นไป
“เอ่อ มึง”
“ห่ะ อะไร” ฮิมชานโผล่จากประตูชั้น2มาตอบ
“มีคนนอนอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก” ยงกุกบอกไป
“ห่ะ?” ฮิมชานปิดประตูเสียงดังแล้ววิ่งตึงตังลงบันไดออกมาจากห้องทันที
คนที่นอนอยู่ที่ห้องรับแขกถึงกับสะดุ้งเฮือกจากเสียงตึงตังเมื่อกี้ นั่งกะพริบตาปริบๆอยู่บนโซฟา
“อ่าว เห้ย จุนฮงหรอ!?” ฮิมชานหอบอีกครั้งจากการรีบวิ่งลงจากบันไดลงมา
“พี่ฮิมชาน กลับมาแล้วหรอครับ!” เด็กที่ชื่อจุนฮงถาม แล้วกระโดดจากโซฟาแล้วเดินมากอดฮิมชานแน่นๆ เขาสูงกว่า
ฮิมชานอย่างที่ยงกุกคิดไว้จริงๆ
“กลับมาแล้วไอ้แสบ แล้วเป็นไงมาไงเนี่ยฮึ แล้วทำไมไปนอนโซฟาอย่างนั้น” ฮิมชานถามจุนฮงโดยยังไม่ผละกอดออก
“ก็พึ่งเดินทางถึงน่ะครับ แล้วคุณพ่อคุณแม่ให้มาแต่ประตูเข้าบ้าน ไม่ได้ให้กุญแจห้องอื่นมา เลยเข้าไปนอนไม่ได้ เลยนอนโซฟาซะเลย” จุนฮงหัวเราะแฮะๆ สายตาเหลือบมองยงกุกที่อยู่ข้างๆฮิมชาน ฮิมชานสังเกตเห็นพอดีกับที่น้องชายเริ่มคลายกอดออกเบาๆ แล้วจึงพูดขึ้น
“ไอ้นี่เพื่อนพี่เอง ชื่อบัง ยงกุก” พลางผายมือไปทางเพื่อนตัวเองอย่างประชดประชัน
“เอ่อ สวัสดีครับ คิม จุนฮงครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” จุนฮงโค้งหัวอย่างสุภาพ
“บัง ยงกุก ยินดีที่ได้รู้จัก” ยงกุกพูดปกติ แต่คนจุนฮงแอบตกใจกับเสียงทุ้มแหบของอีกฝ่าย ยงกุกเห็นอย่างนั้นจึงแอบยิ้มน้อยๆที่ไม่ว่าจะฮิมชานหรือจุนฮงก็ไม่เห็น
“เอ่าๆ” ฮิมชานพูดขึ้น
“รู้จักกันแล้วก็ไปนั่งกันเถอะ จะยืนคุยกันทำไมห่ะ” ฮิมชานพูดพลางเอามือตบหลังน้องชายเบาๆให้เดินกับไปนั่ง ยงกุกกำลังเดินทางแต่โดนฮิมชานขวางไว้ซะก่อน
“...” ยงกุกมองฮิมชานสายตาส่งไปด้วยความสงสัย แต่ไม่พูดอะไรออกมา
“อย่าหลงรักน้องกูเชียวนะเว้ย กูหวง” ฮิมชานพูดกับยงกุกเบาๆแล้วจ้องมองยงกุกตาเขียว
“ถ้ากูจะรักมึงก็ทำอะไรกูไม่ได้หรอกฮิมชาน” ยงกุกพูดติดเล่นติดจริงจนฮิมชานแอบกลืนน้ำลาย แอบเจ็บแปล๊บที่หน้าอกแต่ยังคงสีหน้าไว้ปกติ มองเพื่อนตัวเองที่สายตาตอนนี้ไปอยู่ที่จุนฮงที่กำลังเดินถือน้ำอีกมาแล้ว
ฮิมชานไม่พูดอะไรอีก แล้วมองตาคนที่อยู่ตรงหน้าโดยที่สายตาไปอยู่ที่ใครอีกคน
ฮิมชานกำลังขบคิดกับตัวเองอย่างหนัก ว่าที่เขาหวงไม่แน่ใจว่าเป็นน้องชายหรือคนตรงหน้านี่กันแน่
“กูไปนั่งได้ยัง” ยงกุกพูดขึ้นมา
“ไปเลยไป” ฮิมชานส่ายหน้าเบาๆแล้วไล่ยงกุกให้ไปนั่งแล้วตัวเองก็เดินตามไป
บนโซฟายาว ฮิมชานกับจุนฮงนั่งด้วยกัน ส่วนโซฟาเดี่ยวก็เป็นที่ของยงกุก ทั้ง3คนเมื่อได้นั่งพร้อมกันก็นั่งดื่มน้ำกันอย่างเงียบๆ จนฮิมชานดื่มเสร็จจเลยเริ่มถามจุนฮงขึ้นมา
“เอ้อ จุนฮง แล้วทำไมมาจากมกโพซะละ หือ”
“อ่อ ก็คุณยายบอกว่าอยากไปเที่ยวรอบโลกน่ะสิฮะ แต่ไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียว ผมก็บอกว่าอยู่คนเดียวได้ๆ แต่ก็ไม่ฟังผมเลย” จุนฮงตอบ
“ก็ดีแล้วนี่ มาอยู่ด้วยกันน่ะดีแล้ว!” ฮิมชานยิ้มกว้าง ส่วนยงกุกก็นั่งเงียบฟังทั้งสองคนคุยกัน
“แล้วนี่จะเรียนต่อโรงเรียนไหนละ ม.4แล้วใช่มะ คงเข้าที่ตอนนี้ยังไม่เปิดเทอมละสิถึงมาป่านนี้” ฮิมชานยังพูดต่อไม่หยุด
“อ่าว คุณพ่อกับคุณแม่ไม่บอกหรอครับว่าผมจะเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ฮิมชาน” จุนฮงตอบ แล้วแอบขมวดคิ้วน้อยๆ น้องจะมาแต่ไม่รู้อะไรเลยเนี่ยนะ! มันน่าน้อยใจจริงๆ
“แล้วทำไมมาซะป่านนี้น่ะฮะ โรงเรียนพี่มันเปิดเกือบอาทิตย์แล้วนะเห้ย” ฮิมชานแหวน้องชายตัวเองขึ้นมา แต่จุนฮงอ้าปากพูดซะก่อน
“ผมหลงทางงะ ห้ามหัวเราะนะ” จุนฮงพูดขัดขึ้นมาก่อน ฮิมชานพยักหน้าเบาๆ
“โทรศัพท์ผมก็ไม่ได้เอามาจากที่บ้าน แถมลืมกระเป๋าเงินส่วนค่าเดินทางต่อมาที่นี่อีก เลยไปช่วยทำงานร้านอาหารแถวนี้ก่อน พวกเขาใจดีเลยให้เงินค่าทำงานกับติดต่อตำรวจให้ แล้วเพิ่งเจอบ้านนี่แหละฮะ” จุนฮงบุ้ยปากมองฮิมชานที่กำลังกลั้นหัวเราะสุดชีวิต
“ก็ ก็! ผมไม่ได้มาที่นี่ตั้ง14ปีเลยนะ!”
“แล้วผมก็ไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงเลยปากว่ามาเองได้น่ะครับ” จุนฮงพูดจบทั้งหมดแล้วขมวดคิ้วมองพี่ชายที่หัวเราะเรื่องของเขาเสียงดังลั่น และมองไปที่ยงกุกที่กำลังกลั้นขำน้อยๆ หน้าของจุนฮงเจือเสียแดงเรือๆทันที เพราะลืมไปน่ะสิว่ายงกุกก็นั่งอยู่ด้วย
“ดีแล้วที่มาได้อย่างปลอดภัย ไอ้ซื่อบื่อ” ฮิมชานยังหัวเราะไม่หยุดแล้วล็อคคอจุนฮงมาขยี้ผมอย่างมันมือ
“โธ่พี่ฮิมชาน ผมไม่ได้ซื่อบื้อนะ ผมแค่หลงทางเอง” จุนฮงพยายามเบี่ยงหัวซ้ายขวาแต่ไม่เป็นผลเพราะแขนของฮิมชานล็อคคอตัวเองไว้อยู่ๆ สายตาสบเข้ากับสายตายงกุกอย่างพอดีพอดีทำให้รู้ว่ายงกุกก็มองตนเองอยู่เหมือนกัน
พ่อกับแม่บอกรึยังว่าท่านไปทำงานต่างประเทศน่ะ” ฮิมชานหยุดขยี้ผมจุนฮงและปล่อยให้คอจุนฮงเป็นอิสระ สายตาของจุนฮงเลยละจากยงกุกมามองฮิมชานอีกครั้ง
“อ๋อ บอกแล้วครับ ท่านบอกว่าถ้าไม่ติดงานคงไม่รับผมแล้ว เสียงคุณแม่นี่เหมือนจะร้องไห้จริงๆเลยละครับ” จุนฮงหัวเราะเสียงใส
หลังจากที่คุยกันอยู่นานสองนาน ฮิมชานจึงให้จุนฮงขึ้นไปอาบน้ำนอน โดยถามเจ้าตัวแล้วว่าต้องการกินข้าวเย็นรึเปล่า แต่จุนฮงบอกว่าไม่หิวเท่าไหร่ และเหนื่อยมากแล้วจึงขอไปนอนก่อน
“ราตรีสวัสด์ครับ พี่ฮิมชาน” จุนฮงถือกระเป๋าเป้สำภาระต่างๆไว้ในมือแล้วกำลังเดินออกจากห้องรับแขกไป
“แล้วก็ราตรีสวัสดิ์นะครับพี่ยงกุก” จุนฮงพูดเสียงแผ่วราวกับพูดให้ตัวเองฟังคนเดียว แต่ใช่ว่ายงกุกจะไม่ได้ยิน
ยงกุกตอบรับด้วยการพยักหน้าน้อยๆ โดยที่จุนฮงจับสายกระเป๋าแน่นแล้วเดินขึ้นไปก่อนโดยไม่เห็นว่ายงกุกตอบรับ
“ราตรีสวัสดิ์จุนฮง แต่นี่มันยังไม่มืดเลยนะเว้ยย” ฮิมชานแหวขึ้นไปทีหลังโดยไม่ได้ยินเสียงจุนฮงที่บอกราตรีสวัสดิ์ยงกุกหรือไม่เห็นว่าเพื่อนสนิทตัวเองตอบรับอะไรไปเช่นกัน
และทั้งสองคนก็เริ่มหยิบการบ้านขึ้นมาทำ
CHAPTER ONE
END
TO BE CONTINUED
ความคิดเห็น