ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลืมแล้วใยเจ้าเอย

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 49


              เครื่องบินของสายการบินกระแต เที่ยวบินที่เอ็กซ์วายสองแปดห้ากำลังแล่นลงสู่รันเวย์ด้วยความเร็วสูงมันเพิ่งบินจากอียิปต์กลับมาสู่มาตุภูมิ(ประเทศไทย)
              เช่นเดียวกับ2 แม่ลูกตระกูลคกแพร้ว ที่ไปตากอากาศต่างแดนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
    "หม่อมแม่เจ้าขา...หญิงปวดฉี่" หญิงมุก คกแพร้วออดอ้อนผู้เป็นแม่ ขณะเดินออกจากสนามบินเพื่อไปโบกแท็กซี่กลับไปยังบ้านที่จากมา
    "เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วหล่ะคุณลูกขา" หม่อมหญิงโฟล์ คกแพร้ว จีบปากจีบคอปลอบลูกสาว แล้วใช้ท่าอ่อยพิฆาตโบกแท็กซี่

    "TAXI"

    เสียงเรียกกระแดะๆหลุดออกมาจากริมฝีปากของหม่อมหญิงหลังจากไปฝึกปรือภาษาอังกฤษที่ประเทศเขมรมาเป็นเวลา 3 เดือนเมื่อปีที่แล้ว

    "ไปกันเถอะค่ะ คุณลูกขา" หม่อมหญิงและบุตรีต่างค่อยๆเดินบิดๆเข้ามานั่งในรถด้วยท่าทางยั่วยวน

    "ไปไหนครับ คุณผู้หญิง" โชเฟอร์ถามน้ำลายหก

    "ปากเสีย!ดั๊นเป็นหม่อมหญิงแห่งตระกูลคกแพร้วเชียวนะ บังอาจกล้า
    เอยวาจาสามหาว ใช้ศัพท์แบบพวกสามัญชนกับดั๊นเชียวรึ" หม่อมหญิงโฟล์ออกลาย

    "ใจเย็นๆก่อนนะคะ หม่อมแม่ เอ่อ...นังคนขับรถซอมซ่อ ไปคฤหาสน์
    คกแพร้ว" หญิงมุกผู้เป็นลูกรีบห้ามปรามหม่อมแม่ก่อนจะมีเรื่อง

    ...........................................................................................................

        คฤหาสน์คกแพร้วนั้น ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางแมกไม้นานาพรรณ จนนักวิจารณ์ชั้นนำของโลกทนไม่ได้ต้องรับรองว่า ที่พำนักแห่งนี้เป็นของลูกผู้ดีเก่าแก่

    "สวัสดีเจ้าค่ะหม่อมแม่" หม่อมหญิงโฟล์กราบทำความเคารพหม่อมเจ้าตาล คกแพร้วผู้ออกมายืนต้อนรับราชนิกูลทั้งสองสู่บ้านเกิด

    "สวัสดีเจ้าค่ะหม่อมยาย" หญิงมุกประจบประแจงมั่ง แต่แล้วอาการผิดปกติก็เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้กุลสตรีทั้งสามตกใจ เมื่อหญิงมุกสั่นไม่หยุดที่หน้าประตูบ้าน เธอเป็นอะไร หรือว่าเธอจะโดนคำสาปฟาโรห์ ไม่สิ! อย่างเธออาจจะโดนคำสาปคลีโอพัตราก็เป็นได้ เพราะหล่อนอาจจะอิจฉาในความสวยของเธอ หญิงมุกคิดไม่ตกว่าเป็นอะไรกันแน่ จนกระทั่ง

    บึ้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    "กรี๊ดดด....หลานชั้น"
    "กรี๊ดคุณลูกขาาาาา....เป็นอะไรไปคะ ใครก็ได้ช่วยลูกหญิงด้วย!!!!!"
    ……………………………………………………………………………………………………………………………….

    "อ้าว…หายไปไหนกันหมดหล่ะเนี่ย" ท่านเจ้าคุณพ่อบูม คกแพร้ว บ่นเมื่อตนย่างกรายเข้ามาในคฤหาสน์ และรู้สึกว่าวันนี้สงบเป็นพิเศษ โดยหารู้ไม่ว่าลูกสาวของตนตกอยู่ในอันตราย

    First I was afraid
    I was petrified
    Kept thinking I could never live
    without you by my side
    But I spent so many nights
    thinking how you did me wrong
    I grew strong
    I learned how to carry on

    ทันใดนั้นริงค์โทนของท่านเจ้าคุณดังขึ้น

    and so you're back
    from outer space
    I just walked in to find you here
    with that sad look upon your face
    I should have changed my stupid lock
    I should have made you leave your key
    If I had known for just one second
    you'd be back to bother me

    Go on now go walk out the door
    just turn around now
    'cause you're not welcome anymore
    weren't you the one who tried to hurt me with goodbye
    you think I'd crumble
    you think I'd lay down and die
    Oh no, not I
    I will survive
    as long as i know how to love
    I know I will stay alive
    I've got all my life to live
    I've got all my love to give
    and I'll survive
    I will survive HEY…..HEY

    ท่านเจ้าคุณบูมไม่สนใจที่จะรับโทรศัพท์ ลุกขึ้นนำเฟลอร์ขนสัตว์สีพิงค์พันรอบตัว ก่อนวิ่งออกไปเต้นส่ายอย่างเมามันส์ในอารมณ์ข้างสระน้ำหลังตำหนักใหญ่ แล้วรำพึงกับตัวเองว่า
    "ฮู่ว์ มาทันท่อนฮุคพอดีเลยเรา ว้าว! วู่! กรี๊ด! วี้ด! ว้าย!"
    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    ณ โรงพยาบาลรโหฐานคกแพร้วแคล้วโรคา

    "ทำไมท่านพี่ถึงไม่รับสายเรียกเข้าจากเรา" หม่อมหญิงโฟล์บ่นพึมพำอย่างผู้ดีเมื่อรู้ว่าสามีตัวเองไม่ยอมรับโทรศัพท์ ก็เดินมาทางห้องที่ลูกสาวนอนพักฟื้นอยู่ แล้วก็ได้ยินเสียงของหม่อมเจ้าตาลดังขึ้นอย่างคร่ำครวญ

    "นี่มันอะไรกันคะ ด๊อก เกิดอะไรขึ้นกับหลานของดิชั้น ถ้าหลานดิชั้นเป็นอะไรไปหรือหลานดิชั้นมีอันเป็นไปขึ้นมา ดิชั้นจะทำอย่างไรดีหล่ะคะ
    แล้วตำหนักคางคกเป็นฝีจะมีใครมาอยู่กันหล่ะคะ แล้วหลานดิชั้นตายไปจะเป็นผีมาหลอกดิชั้นรึเปล่าคะ
    ด๊อกบอกดิชั้นที่สิคะว่าหลานรักผู้น่าสงสารของดิชั้นโดนคำสาปที่อียิปต์หรือปอบหยิบหวีดสยองที่เมืองไทยคะ แต่ดิชั้นไม่เคยเห็นทั้งสองที่เลยนะคะ
    เอาเป็นว่า วันพรุ่งนี้ดิชั้นจะไปจองที่นั่งตีตั๋วดูหนังเรื่องปอบกับคลีโอพัตราดัไหมคะ แล้วดิชั้นควรไปดูกี่โมงดีหล่ะคะ ที่ไหนดีหล่ะคะ แล้วราคาบัตรเท่าไหร่ โอ๊ย!!
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด….."

    หม่อมเจ้าตาลผู้เป็นโรคคกวิตกรำพันก็ออกอาการห่วงใยหลานอย่างแรงและมากเกินไป ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ต้องให้ด๊อกผัดเผ็ด โนเอ็จชคิด (No-Age-Kid)หมอประจำตระกูลคกแพร้วยิงปืนยาสลบสำหรับช้าง 6 ตัวใส่หม่อมเจ้าตาลอย่างตั้งใจ

    "หม่อมแม่เจ้าคะ! นี่มันอะไรกันคะคุณหมอ" หม่อมหญิงโฟล์ ทำหน้าตาโง่ๆใส่ด๊อกผัดเผ็ด

    "คุณทำอะไรหม่อมแม่…แล้วลูกดิชั้นเป็นอะไรกันแน่คะ" โดยไม่ทันให้คุณหมออธิบาย โฟล์ก็ทำหน้าสะเหร่อโง่ๆอย่างไม่บันย้าบันยัง

    "กรุณาหยุดทำหน้าโง่ๆก่อนนะคะ แล้วดิชั้นจะอธิบาย" ด๊อกผัดเผ็ดเอ่ยขึ้น
    หม่อมหญิงโฟล์กลับมาทำหน้าอย่างปกติแล้วคิดในใจว่า ที่เขมรยังชมว่าหน้าตาเราออกจะเหมือนเด็กอัจริยะเลยนี่ ทำไมคุณด๊อกหาว่าเราโง่หล่ะ หรือว่าอิจฉาเรา หุหุหุ

    "ในกรณีของหม่อมเจ้าตาล ดิชั้นรำคาญกับโรคคกวิตกรำพันก็เลยให้ท่านหลับสักพัก ส่วนสำหรับหญิงมุกนั้น หล่อนเป็นโรค............ นะคะ"

     "กรี๊ด!!!!ม่ายย…จริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง"

    นี่มันอะไรกันทำไมหม่อมหญิงโฟล์ถึงได้ตกใจซะโอเวอร์ขนาดนั้น โปรดติดตามได้ในตอนต่อไป รับรองเน่ากว่าเดิม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×