ฟิค อีกากินทุเรียน Feeling (เพิ่มช่วงสุดท้ายของฟิค มดขึ้นมั้ยเนี่ย) - ฟิค อีกากินทุเรียน Feeling (เพิ่มช่วงสุดท้ายของฟิค มดขึ้นมั้ยเนี่ย) นิยาย ฟิค อีกากินทุเรียน Feeling (เพิ่มช่วงสุดท้ายของฟิค มดขึ้นมั้ยเนี่ย) : Dek-D.com - Writer

    ฟิค อีกากินทุเรียน Feeling (เพิ่มช่วงสุดท้ายของฟิค มดขึ้นมั้ยเนี่ย)

    เหตุเกิดจากการแข่งแชมป์ออฟเดอะแชมป์ที่เพิ่งจบไป แม้จะรู้ว่ามันเป็นงาน แต่ภาพที่เห็นในรายการพาลให้ต้องหงุดหงิด แต่ถ้าจะเร่งมากไป อีกาก็อดทุเรียนแสนอร่อยไปน่ะสิ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,454

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    13

    ผู้เข้าชมรวม


    2.45K

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    58
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 60 / 11:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ฟิคนี้มีสปอยรายการจนจบเลยจ้า ไปดูคลิปมาก่อนท่าจะดีกว่านะ

    ช่วงบ่น...

    คือบับเข้าใจว่ารายการต้องการนอร์มอลอะนะคะ แต่ไม่ได้ฮะ! ขุ่นแม่ชอบวายค่ะชอบวายมาก ๆ เพราะฉะนั้นอีกาต้องกินทุเรียนค่ะ ถึงวีทีอาร์(น่าจะ)นอร์มอล แต่สกิลการโนของเรามันวายได้ค่ะ!

    เอาละบ่นเยอะละฟิคสั้นไหนที่ดองไว้นี่ต้องกราบขออภัย รอให้มีฟีลก่อนนะคะ ส่วนอันนี้มันต้องทำแล้วรอมานานเห็นวีทีอาร์ละขึ้นเลย 555 และฟิคนี้แต่งตามสถานการณ์ในขณะนั้นจนถึงตอนที่อัพเสร็จ แต่ต้องมีบิดบ้างตามความสมควรนั่นละนะคะ

    ปล.จะรอดมั้ยเนี่ย แต่งกวนอารมณ์ยิ่งไม่เป็นอยู่ กระซิก ๆ คาร์หลุดแน่ ๆ 
    ปลล.ถ้าชื่อไปซ้ำกับใครต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะนั่นแหละเอาเป็นว่าความขี้กังวลมันต้องจบด้วยการพูดระบายละนะ

       T
    B
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Feeling

      Pair : อีกา x ทุเรียน

                คุณเคยรู้สึกแบบนี้กับใครสักคนบ้างไหม... หัวใจพองโตทุกครั้งที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้ พูดคุยด้วยท่าทีสนิทสนมทำตัวน่ารักแบบที่พวกแฟนคลับขนานนามคำว่า 'ตะมุตะมิ' ให้แม้จะอยู่ใต้ชุดหนามเขียวแหลมพอง ๆ นั่นก็ตามที แต่พอได้เห็นอีกฝ่ายอัธยาศัยดีกับคนอื่นมากเท่าไหร่ใจมันก็กระตุกวูบ ความเย็นยะเยือกถูกหลอมละลายตามไฟอารมณ์
                 แม้หน้ากากอีกาดำจะวางมาดนิ่งขรึมตอนอยู่กับคนอื่น พยายามพูดคุยให้น้อย แต่สื่อความนัยชัดเจนทุกคำจนหน้ากากคนอื่นรู้สึกได้ แต่ทุเรียนก็คือทุเรียน ตะมุตะมิไว้แค่ไหนก็นั้นก็คงที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีท่าทีจะเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อความเลย

      รู้ตัวบ้างมั้ยว่ากำลังโดนหน้ากากอีกาดำหึงอยู่น่ะ...

                 เฮ!

                เสียงของผู้ชมดังสนั่นลั่นไปทั่วห้อง ฝ่ายที่ได้แรงโหวตจากทางบ้านไปเต็มเปายังยืนนิ่งอยู่ แต่ใต้หน้ากากหนามนั่นเจ้าตัวคงกำลงยังยิ้มชอบใจอยู่แน่ อีกาดำลอบมองท่าทีเช่นนั้นผ่านทางหน้ากาก แม้จะเจ็บใจอยู่ลึก ๆ หากแต่ผลออกมาเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องยอมรับนั่นละ
                ทั้งที่อยากจะเฝ้าดูตัวจริงของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้...
                ความคิดเหล่านั้นตีกันยุ่งในหัวหากแต่เมื่อเวลามาถึง ชายหนุ่มกลืนความรู้สึกพวกนั้นลงคอ เฝ้ารอเวลาที่จะถอดหน้ากากให้มาถึง

                 ทั้งเสียงของผู้คนที่โห่ร้องด้วยความยินดีเมื่อรับรู้ว่าตัวจริงตรงใจเขา บางเสียงที่แสดงถึงความผิดหวังกับอีกส่วนน้อยที่เรียกเสียงหัวเราะขบขันของผู้คนได้อย่างงดงาม ชายร่างท้วมจอมลืมกุญแจรถทำหน้าผิดหวัง แถมยักซักไว้ว่าเขาปิดบังอะไรไว้อีก

                สถิติของการทายทั้งร้อยก็ผิดทั้งร้อย ไม่เคยจะพัฒนากับเขาสักที
                'สมกับเป็นพี่หอยสุด ๆ ' ชายหนุ่มคิดทั้งรอยยิ้มบางก่อนจะเริ่มเข้าสู่การพูดคุยกับสีหน้ายินดีของคณะกรรมการ แล้วก็ใครอีกคน ท่าทีน่ารักที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นจนน่าหงุดหงิด 

                แต่เมื่อได้เห็นคำชมที่จริงใจส่งออกมาก็เกือบจะลืมไปแล้วละว่าก่อนหน้านี้หงุดหงิดมากแค่ไหน...

               ตลอดการพูดคุยในห้องส่งกับพิธีกรคนหล่ออย่างกันต์ แม้จะตั้งใจตอบคำถามหรือทำทุกอย่างที่แฟน ๆ หลายคนต้องการ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่อีกาดำจะไม่หันไปมองทุเรียนน้อย ทั้งท่านั่งเหยียดขาลงกับพื้น ทำทีราวกับคนง่วงนอนตลอดเวลา คำพูดกวนประสาทที่พาลให้คนอายุมากกว่าคิดอกุศลไปหลายที-- เขาหมายถึงความรู้สึกหมั่นเขี้ยวจากท่าทีเด็กน้อยไม่สมวัยนั่นน่ะ อยู่ ๆ ก็รู้สึกอยากฟัดแก้มสักทีสองที
                "คุณหน้ากากอีกาดำครับ" แล้วเสียงพิธีกรก็เข้ามาดึงสติคนชอบเหม่อให้รู้สึกตัว ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาคุยเหมือนเดิม แอบสงสารอยู่เล็กน้อยที่คนเป็นแชมป์ได้นั่งบนพื้นเย็นขณะที่รองแชมป์อย่างเขากลับนั่งสบาย ๆ อยู่บนเก้าอี้แทน

                'ไว้หลังจากนี้ค่อยไปคุยด้วยสักหน่อยดีไหมนะ' ในเมื่อตัวตนจริง ๆ เปิดออกมาแล้ว ท่าทีเคร่งขรึมจากชุดอีกาดำก็ดูจะลดลงไปมาก ถ้าเกิดแสดงให้อะไรให้ชัดเจนผ่านตัวตนแบบนี้ บางทีทุเรียนอาจจะรู้สึกตัวบ้างก็ได้...
                และในที่สุดสัญญาณถ่ายทอดสดก็ขาดช่วงไป การเชื่อมต่อจากเฟสบุ๊คและยูทูปขาดหายไปแม้กระทั่งทีวีก็ด้วย หลายอย่างในสตูดิโอก็เข้าสู่ความเงียบก่อนจะวุ่นวาย ในช่วงอึดใจที่ทีมงานของรายการวิ่งขึ้นมาบนเวที กระซิบให้เขาและกันต์รู้ถึงรายละเอียดว่าคงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะดำเนินตามปกติ ก่อนจะหันไปเชิญคุณแชมป์ให้กลับเข้าห้องพัก อีกาดำแอบหรี่ตามองตามไปด้วยความขัดใจ

                ถึงจะแค่เล็กน้อยแต่คุณพิธีกรช่างสังเกตก็รู้สึกได้ คนข้างตัวเขาละไมค์ให้ห่างจากตัวจนมากพอก่อนจะกระซิบเสียงเบาให้เขาได้ยิน จากสีหน้าบึ้งตึงก็พลันยิ้มออกมา นี่เป็นครั้งแรกในรายการเลยที่เขารู้สึกขอบคุณพิธีกรคนนี้มากยิ่งกว่าสิ่งใด
                'พลาดวันนี้ไปอาทิตย์หน้าก็ยังเจอกันอีกนะครับ'
                และผลสุดท้ายหลังจากที่รายการตัดช่วงไปต่อยังอาทิตย์หน้า เสียงของพวกแฟนคลับทั้งหลายก็ดูจะบ่งบอกถึงความเสียดายฉายชัด

                แน่นอนว่าเสียใจด้วย เพราะเขาเองก็ยังอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่าตอนที่เขาจะทำตามอย่างใจต้องการและทุเรียนน้อยลูกนั้นจะยินยอมให้เขาได้ครอบครอง....


                แม้นาฬิกาจะบอกเวลาเที่ยงคืนแต่ก็ดันนอนไม่หลับ เขานึกย้อนไปเมื่อตอนนั้น ก่อนหน้าที่เสียงหัวเราะเล็กแหลมจากเครื่องดัดเสียง ท่าทีเขินอายในห้องพักตอนที่จู่ ๆ หน้ากากโพนี่ก็โผล่เข้ามาเยี่ยมอย่างกะทันหัน ท่าทีน่ารักของสาวน้อยตอนพูดถึงคลิปในรายการเรียกเสียงหัวเราะร่าเริงจากทุเรียนได้
                ...แต่ไม่ใช่กับเขา...
                แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายก็คงแค่หยอกทุเรียนเล่น แต่กับคำแซวจากหน้ากากโพนี่ตัวแสบที่ส่งมาจนงใจให้เขารับรู้เป็นระยะแถมยังเนียนกอดแขนทุเรียนไปพร้อมกับสบตาเขา

                นอกจากจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่รู้ถึงความลับแล้วยังเป็นตัวกวนประสาทจอมก่อเพลิงชั้นดี
                เอ๊ะ จิรากรได้แต่ขัดใจแต่ก็ยังคงนิ่งต่อไป ตอนนี้เขาต้องไปแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับบ้านสักที อารมณ์ขุ่นมัวแผ่ไปทั่วแม้จะคงตีหน้านิ่งจนแอบเห็นทีมงานหลายคนแสดงท่าทีหวาด ๆ 
                แต่ว่าตอนนี้น่ะ หงุดหงิดสุด ๆ จนเกินจะเก็บอารมณ์แล้วละ...

                "พี่เอ๊ะฮะ" ทว่าเสียงนั้นก็หยุดเขาไว้ ท่าทีเกรงใจกับการเอียงคอซ้ายขวาที่ไม่ว่าจะยังไงก็ดูตะมุตะมิเสมอในสายตาแอบเห็นว่าพี่ทีมงานหันมาดุด้วยตอนที่รู้ว่าพวกเขาสามคนกำลังคุยกัน แต่ทุเรียนตัวแสบก็หาทางบ่ายเบี่ยงจนได้ จนเขาทันได้ยินคำนั้น
                "ขอบคุณที่ได้มาแข่งด้วยกันกับผมนะฮะ ดีใจมากเลยละฮะที่ได้แข่งกับพี่แบบนี้สักที ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ" เด็กบ้า... คำพูดพวกนั้นพาลให้เขากลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ จนต้องกระแอมเบา ๆ ยิ่งเห็นสายตาจากแปม ไกอาที่หันมาแซวให้ผ่านหน้ากากก็ยิ่งใจเต้นรัว

                "ฉันเองก็ดีใจเหมือนกันที่ได้ร้องคู่กับนาย" เขาพูดออกมาได้แค่นั้นจริง ๆ ก่อนจะแทรกตัวรีบออกจากห้องไปแต่งตัวแทบจะในทันที ท่ามกลางความงุนงงของทีมงานบางส่วนและเสียงหัวเราะเหล็กแหลมที่ดังลอดมาเป็นระยะ
                นี่ถ้าหากอีกาดำยังใจแข็งอยู่ตรงนี้ได้อีกหน่อยละก็ เขาคงทันได้ยินเสียงหัวเราะจากคนอายุน้อยกว่าแน่...หรือบางทีอาจจะได้ของดีมากกว่านั้น

                ยิ่งคิดถึงคำพูดของพิธีกรหัวใจก็เต้นแรง เอ๊ะได้แต่พยายามคุมความคิดของตนให้สงบลง แบกร่างตนจากเก้าอี้ไปพร้อมกับปิดโน้ตบุ๊คลงแล้วเข้านอนลง ในหัวเฝ้านึกถึงวินาทีที่จะได้เจอกันในครั้งถัดไป ความฝันอันแสนหวานนั้น
                ในอีกหนึ่งอาทิตย์หน้า ตอนที่เจอกันอีกครั้งด้วยใบหน้าจริงของอีกฝ่ายเขาควรจะเข้าหาแบบไหนเพื่อให้เจ้าตัวยอมเข้าใจเขาสักที อา...แค่คิดก็น่าสนุกแล้วละ

      ................................
                มันดึกแล้วววว เราด้นสดได้แค่นี้กระซิก เอาความน่ารักเบา ๆ ไปก่อนละกันค่ะ ไว้ตอนที่มีฟีลหึงหวงพวกนางมากกว่านี้คงจะแต่งเพิ่ม แต่จะมีมั้ยน้อ ไม่รู้อะ นี่อยากแต่งกวน ๆ แต่แบบคาร์ทุเรียนดูยาก ต้องใช้ความเข้าใจในการเขียนนิสัย นี่ยังต้องแก้ตัวละครอีกนะเนี่ย ถถว์ เอ้า มาแต่งเพราะบนไว้ถึงคราวต้องแยกย้ายละจ้า

                 ปล.เรื่องย่อต่างกับเนื้อเรื่องที่โดนตัดจบสุด ๆ ถถว์ ถ้าอยากให้ต่อรออาทิตย์หน้าละกันค่ะ 555 รี่ด้นสดไม่ไหว เอ๊ะ หรือจะไหวดี เม้นบอกก่อนได้เน้อ เผื่อจะแต่งก่อน          ปลล.แอบมาแก้คำผิดฮะ รี่อ่านทวนอีกรอบ ตายละ นี่เขินจนเขียนผิดไปหรอเนี่ย ถถถว์ ไม่ดี ๆ
      ........................

                เซอร์วิสท์พิเศษเนื่องจากหัวร้อนกับโทรศัพท์บวกกับโน้ตบุ๊คพังจึงจำต้องลงในโทรศัพท์แทนฮะ กว่าจะถึงวันพฤหัสนอกจากจะกลัวคนอ่านเบื่อคนเขียนก็จะเฉาตายด้วย ขี้เกียจเปิดเรื่องใหม่เพราะลำบากมัก
                 ทุกคนจะเลื่อนไหวมั้ยล่ะน้อบ่นบ่อยขนาดนี้ ถถถว์
                ปล.เนื่องจากเชื่อว่าพี่ทอมคือทุเรียนขอจัดนางไปละกัน ทุกคน~ มาบาปไปด้วยกันเถอะฮะ!
      ..................

                นาฬิกาปลุกอันเล็กสั่นไปตามแรงมือ... ปลายนิ้วเรียวพยายามออกแรงกดปุ่มขาวให้มันหยุดแผดเสียงรบกวนเวลานอน แต่ยิ่งทำมันก็ยิ่งถอยหลบราวกับเคลื่อนไหวเองได้ ชายหนุ่มสลถเสียงเบาไม่เป็นภาษาก่อนจะตบหัวเตียงด้วยความรำคาญ

                ปั้ก

                และแล้วสิ่งของที่เรียกว่านาฬิกาปลุกก็ไถลจากพื้นพุ่งใส่ดังจนเสียงดังก้อง ความรู้สึกชาเกิดขึ้นชั่วขณะและในท้ายที่สุดนั้น...
                "โอ๊ย เจ็บ!"
                ก็ไม่ต้องนอนมันต่อไปน่ะดีแล้ว ความเจ็บชวนน้ำตาเล็ดพาลให้คนนอนได้กุมจมูกด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงหน้าขาวนวลหงิกลง ทั้งที่เพิ่งนอนไปได้ตอนตีสามจนต้องข่มตาหลับแต่เหมือนนาฬิกาเจ้ากรรมมันจะไม่เข้าใจ
                "เฮ้อ"

                 "เจ็ดโมงสิบสาม" เวลาเช้าที่เขามักจะตื่นในเวลานี้ ชักจะเกลียดตัวเองขึ้นมาก็ตอนนี้แล้วสิ ง่วงชะมัด...
                "งืม..."

                ตือดึ๊ง

                เสียงไลน์จากโทรศัพท์ร้องเตือนให้คนกำลังจะนอนหงายเก๋งต้องสะบัดไล่ความมึนงง ทอมหมุนตัวกลับไปก่อนจะคว้าแว่นตากรอบดำขึ้นสวม มิวายขยี้ตาสักทีสองทีก่อนรอยยิ้มของความประหลาดใจจะปรากฏ แต่แจ้งเตือนจากไลน์ก็ดังขึ้น
                'พี่เอ๊ะทักมา...งั้นหรอ'

                เอ๊ะคนเดิมเพิ่มเติมคือถอดส้นตึก: อรุณสวัสดิ์ครับ :) เมื่อคืนหลับสบายดีหรือเปล่า

                ในทันทีที่ชายหนุ่มตั้งใจจะเลื่อนหน้าจอเข้าไปดูข้างใน อีกฝ่ายก็ทักมาก่อน ส่งอิโมติคอนยิ้มนำมาก่อน ทอมขยี้ตาตัวเอง ตบแก้มให้ตื่นอยู่ทีสองที

                เรื่องหน้าตาไว้ใจทอม : มอร์นิ่งฮะพี่ แล้วเมื่อคืนก็หลับไม่สบายเพราะคนแถวนี้ฮะ °`^´°

                นึกไปถึงเมื่อคืนที่ไม่รู้ว่ารุ่นพี่ของเขานึกคึกอะไรถึงได้กระหน่ำชวนคุยแบบนั้น ด้วยคำพูดคำจาหวาน ๆ ที่พาลให้เด็กน้อยต้องหลุดใจเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่หลายที และในคำพูดพวกนั้นก็กล่าวถึงหน้ากากทุเรียนตั้งเกือบครึ่งจนแถแทบไม่ทัน ก่อนคนอายุมากกว่าจะตบท้ายด้วยคำว่าล้อเล่นเป็นการปิดท้ายสวย ๆ 
                สวยของพี่เขาแต่เราน่ะเกือบตาย...

                เอ๊ะคนเดิ่มเพิ่มเติมคือถอดส้นตึก : ดึกอะไรกัน พี่ชวนเราคุยถึงแค่ห้าทุ่มครึ่งเองมั้ยครับทอม
                เรื่องหน้าตาไว้ใจทอม : แค่นั้นมันก็เลยเวลานอนผมละฮะพี่!

                ชายหนุ่มรัวกดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด มือข้างหนึ่งขยี้หัวไปมาจนยุ่งหนักกว่าเก่า ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าหน้ากากทุเรียนมันก็เขาแท้ ๆ แต่พอเห็นอีกฝ่ายพูดถึงมากเท่าไหร่ก็คันยุบยิบในใจแบบแปลก ๆ หงุดหงิดขึ้นมาทุกทีทั้งที่ความจริงเขาออกจะใจเย็น
                'อิจฉาหน้ากากนั่นชะมัด'
                และนั่นก็คือสาเหตุหลักให้ต้องมานั่งตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าแบบนี้ โชคดีนะมีงานตอนบ่ายไม่งั้นโดนเพื่อนร่วมวงบ่นเอาแน่

                เอ๊ะคนเดิมเพิ่มเติมคือถอดส้นตึก : ครับ ๆ พี่ขอโทษ ไม่โกรธพี่นะ

                 ทอมหลุดยิ้มให้กับสติกเกอร์น่ารักขัดกับตัวจริงที่อีกคนใช้มาง้อ แม้จะยังปวดขมับจากความเพลียที่ยังหลงเหลือ แต่ตอนนี้ตลกมากกว่าเลยลืมความรู้สึกพวกนั้นไป

                  เรื่องหน้าตาไว้ใจทอม : ถ้าพี่จะซื้อทุเรียนทอดให้ผมสิบถุงตอนเจอกันครั้งหน้าละก็ผมจะหายโกรธก็ได้

                แล้วก็กดส่งไปอย่างไว ดวงตากลมหรี่มองโทรศัพท์ก่อนจะอ้าปากหาวตั้งท่าจะนอนต่อ เห็นในไลน์อีกฝ่ายอ่านอย่างไวก็ไม่คิดอะไรจนกระทั่งบางอย่างมันฉุกใจเขา
               ทุเรียนทอด... เอ ทุเรียนทอด เมื่อคืนรุ่นพี่เพิ่งคุยกับเขาเรื่องหน้ากากทุเรียนมาแล้วเขาก็ปฏิเสธมันอีก พอเช้าวันถัดมาเขาก็ขุดเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่อีกจนได้

      ซวยแล้วมั้ยล่ะ ทอมเอ๊ย!

                อาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง รีบเลื่อนเข้าช่องแชทของเขากับเอ๊ะแล้วทุเรียนน้อยก็มองดูข้อความสั้น ๆ ที่โผล่ขึ้นมา

                 เอ๊ะคนเดิมเพิ่มเติมคือถอดส้นตึก : ครับผม

                มันก็ข้อความตอบรับธรรมดา ๆ เองนี่ละ ทอมจิ๊ปากด้วยความกังวลพลางนึกไปถึงเงินหลักแสนแล้วปลอบใจตัวเองเอาว่าไม่มีทางหรอกที่อีกฝ่ายจะเข้าใจว่าเป็นเขา ก็เมื่อวานพยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาแล้ว พี่เอ๊ะก็ดูจะไม่ติดใจอะไรด้วย แค่เผลอพูดถึงทุเรียนทอดนิดหน่อย...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก...เนอะ

                ตือดึ๊ง

                แจ้งเตือนจากไลน์ดังขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือกร้านเอื้อมไปดูสติกเกอร์หัวใจที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ท่าทีทะเล้นสมกับลายตัวการ์ตูนในจอเรียกรอยยิ้มบางของคนอายุมากกว่า แล้วก็ต้องฉีกยิ้มกว้างเข้าไปอีกเมื่อตัดสินใจเลื่อนบทสนทนาดูอีกรอบ
                'โกหกไม่เก่งเลยนะน้องทอม' ดวงหน้าคมคายคิดอย่างขบขันก่อนจะเท้าคางจิบกาแฟสบายอารมณ์ แล้วกดแป้นพิมพ์ตั้งท่าจะส่งไปแล้วก็จำต้องลบแล้วออกจากแอพไลน์

      'ถ้างั้นอีกสองวันเจอกันใหม่นะครับ'

                ใจจริงก็อยากพิมพ์ไปแบบนั้นอยู่หรอก แต่ถ้าทุเรียนน้อยรู้สึกตัวซะก่อนวันพฤหัสที่จะได้เจอกันก็ไม่มีความหมาย สำหรับตอนนี้น่ะเต๊าะไว้แค่นี้ก่อนก็พอ

      ......
      ...


      .
      แต่ถ้าหลังจากนี้ละก็ไม่แน่

      ....................
                ไม่ไหวละค่ะ ฮือ พิมพ์โทรศัพท์ยากทรมานมาก ๆ แต่อยากอัพอะ :3 นี่ต้องฟังเพลงที่โหลดมาวนไปเพราะเปิดยูทูปพร้อมกันไม่ได้ ตามสไตล์และตอนเซ็ปต์เดิมฮะ ให้เราแต่งแบบหวานเกินไปต้องใช้สมอง แต่ถ้าเบา ๆ มันต้องใช้หัวใจค่ะ! #ผิด

                โคตรจิเวิ่นเลย กลับหลุมได้ละค่ะ เจ้!
                ปล.ทรศ.มันรวน อาจเด้งบ่อยนิดนึงนะคะ
      .......................

                เฮียทุโดนสาวเต๊าะ เจ้นี่ตาร้อนรอหนุ่ม ๆ ออกมา ฮื้อออ ไม่ได้ค่ะไม่ได้ ต้องจัดโมเม้นมา วร้าก ถ้อยคำที่ใช้อาจไม่เป๊ะ เพราะแต่งสดค่ะ ถ้าอัพไปคือรั่วตามเหตุการณ์ปัจจุบันที่ทันเลยค่ะ ฮื้อ
      ......................

                "ชักอยากจะกินทุเรียนขึ้นมาซะแล้วสิ" นาทีที่การร้องเพลงแฟนจ๋าจบลงสาว ๆ หลายคนในชุดหน้ากากก็พร้อมใจกันยืนชิดทั้งซ้ายขวา กันต์เอ่ยแซวเล็กน้อยเมื่อบุ๋มพูดคำนั้นออกไป กระทั่งคุณแม่แห่งวงการเพลงลูกทุ่งอย่าง สุนารี ราชสีมา ก็ยังล้อ
                 "ทุเรียนลูกนี้กินได้ทั้งเปลือกแล้ว" หญิงสาวว่าเสียงขันก่อนผู้คนจะหัวเราะครืนเบา ๆ เอ๊ะมองภาพตรงหน้าไม่ละไปไหน รอยยิ้มบางปรากฏบนหน้าตอนที่ได้เห็นท่าทีนิ่งเฉยจะมีเขินบ้างก็ตอนโดนแซวถึงคู่จิ้นอย่าง แปม รู้ตัวอีกทีคิ้วทั้งคู่ก็ขมวดเป็นปมแล้ว

                "จะหึงก็เบา ๆ หน่อยครับพี่ รังสีนี่แผ่มาซะรอบตัวพวกผมเชียว" เป๊กหัวเราะนำมาก่อนใครเพื่อน ลิ้นเปลี้ยที่พูดสำเนียงไม่ชัดดูน่าเอ็นดูในสายตาแฟนคลับแต่กลับกวนประสาทสำหรับเขา เอ๊ะยักคิ้วให้ตอบรับความกวนของอีกคนก่อนจะหน้าร้อนขึ้นเมื่อหลายหน้ากากพร้อมใจกันหัวเราะครืนตอนที่กล้องของรายการไม่ได้หันมาจับ
                'ครับ พี่ครับ พอได้ทีละก็นะ...' เอ๊ะคิดไปพยายามกลั้นความเขินแล้วชี้ให้คนอื่นสนใจกับทุเรียนขี้กวน ทว่าพอถึงคราวที่รายการเผยทีเด็ดเปลี่ยนแผนให้ทุเรียน้อยเป็นฝ่ายถามกรรมการเองเสียบ้าง

                คุณทอมแกก็แผลงฤทธิ์อาศัยความกวนว่าแซวยอกย้อนจนกรรมการหน้าเหวอไปเป็นแถบเรียกเสียงหัวเราะดังครืนทั่วสตู แม้กระทั่งเขาที่นั่งยิ้มมานานยังอดชอบใจไม่ได้ ยิ่งท่าทีตะมุตะมิผสมความกวนนั้นมีมากเท่าไหร่ก็พาลให้เขาอยากกินทุเรียนมากขึ้นเท่านั้น
                'อา...ชักอดทนรอตอนจบรายการแทบไม่ไหวแฮะ'

                "คิดอะไรก็เบาหน่อยค่ะ คุณเอ๊ะ น้ำลายจะไหลย้อยแล้ว" บุ๋มที่ดูมาดนิ่งสมฉายาคุณแม่มังกรก็ยังหันมาแซวอยู่ดี เสียงหัวเราะคลอเบา ๆ ของเป๊กดังมาอีกรอบ ดูเหมือนว่าหลังจากแซวจิงโจ้ไปว่า ผลิต ตอนซ้อมร้องสี่คนก็มีหมอนี่ที่ขยันหยอดเขาไปพร้อมกับโพนี่
                จะโกรธมันก็ไม่ได้ เคยไปเห็นพยายามคุยกับทอมแล้วดันโดนเมิน หงอยกลับมาทั้งหน้ากากจนเขากับบุ๋มแอบขำนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็กลับมางงเด้ได้เหมือนเดิม นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเมายากันยุงจะซึมได้ไม่นานหรอก ยิ่งได้อาร์มคนหล่อมาปลอบใจข้างกันหลังแพ้จนต้องถอดหน้ากากด้วยยิ่งร่าเริงใหญ่
                'ก็ลองคู่พวกคุณจบกันไม่สวยสิครับ ไม่อยากจะคิดเลย'

                เฮ!
                เสียงของคนในห้องส่งดังแทรกอีกรอบ พอตอบคำถามกันเสร็จก็ตั้งท่าจะเปิดหน้ากากแล้ว ตามสไตล์เดิมของรายการนั่นละ ด้วยการถ่วงเวลาให้ทอมต้องเปิดออกมาช้า เอ๊ะยกยิ้มมุมปาก สายตาจ้องไปไม่มีแม้กระทั่งความตื่นเต้น
                ...ก็อีกฝ่ายเผยไต๋มาซะขนาดนั้น แค่เห็นหน้ากากหน้าทอมมันก็ลอยเข้าหัวแล้ว...

      ทุเรียนทอดสิบถุงในห้องเก็บตัวนี่สั่นไปหมดละครับ หึหึ

                หลังจากลุ้นมาสักพักหน้ากากก็เปิดออก รอยยิ้มหวานที่ส่งมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดจนแสบหูไปหมด ช่วงระหว่างนั้นการพูดคุยเปิดใจก็เริ่มขึ้น ทอมหันมาพูดถึงเขาด้วยรอยยิ้มและเอ๊ะก็หัวเราะในคอกลับไปจ้องไม่วางตา
                 ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเป็นไปได้ดีอยู่หรอก แต่พอกันต์ที่เคยแซวเขาให้ใจชื้นกลัมาทำเรื่องน่าหึงซะเอง ขโมยจูบหน้าผากว่าที่ทุเรียนน้อยของเขา ดวงหน้าขาว ๆ นั่่นที่ถึงจะไกลเกินกว่าจะมองชัดแต่คงต้องหน้าแดงขึ้นบ้างแน่ ให้ตายสิ
                'คุณกันต์...'

                "เอ้า ไม่ทันไรเริ่มหึงโหดอีกแล้ว" โพนี่ที่กลับมานั่งตามเดิมส่งเสียงแซวอีกยก เรียกเสียงคิกคักก่อนเจ้าหล่อนจะว่าต่อไปอีก
               "จะว่าไปพี่ทอมนี่ก็ฮ็อตเอาเรื่องเนอะ นอกจากจะได้ร้องฟีเจอริ่งกับรองแชมป์อย่างพี่เอ๊ะแล้ว พี่เป๊กยังขอรายการร้องคู่เป็นกรณีพิเศษอีก"
                เอ๊ะแทบจะอยากหันไปชูนิ้วโป้งให้เมื่อคำพูดนั้นชวนถูกใจ หมัดลุ่น ๆ ที่ดังจากปากน็อคคนหัวเราะคิกคักให้หุบยิ้มแทบไม่ทัน

               "ชะอุ้ย" คุณเป๊กเขาว่าไว้งั้นแหละตอนเห็นสายตาคนอายุน้อยกว่าของพ่อพระอาร์ม แม้ดวงหน้าจะยิ้มแต่พ้นจากงานเลี้ยงรายการไปดูท่าจะมีเรื่องให้เคลียร์กันอีกยาว
                "เอ้า ๆ เลิกแซวกันได้แล้วค่ะหนุ่มสาวทั้งหลาย ถึงคราวเธอร้องแล้วเป๊ก ไปเตรียมตัวได้แล้ว" คุณแม่บุ๋มว่าเสียงขรึม ตอนเห็นทีมงานเดินอ้อมมาเป๊กก็หันไปพยักหน้าทันควันแล้วรีบลงไปก่อนบรรยายกาศจะเครียดเกินไปจนหมดสนุก

                "ยังไงผมเองก็จะได้ร้องด้วยกันกับเขาอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องหึงอะไรมากมายนี่ครับ" ว่าไปเอ๊ะก็ยกยิ้มหล่ออีกทีเรียกเสียงแซวอีกยก พอถอดหน้ากากมาแล้วพ่อคุณอีกาดำก็ขี้เล่นไม่ต่างอะไรกับทอมเลยแม้แต่น้อย ก่อนทำนองเพลงจะเริ่มต้น
                เอ๊ะ กระพริบตาช้าลงก่อนจะรับฟังเสียงหวานใสอย่างเคลิบเคลิ้ม เพียงไม่นานมันก็จบลง เวลาผ่านมาอย่างรวดเร็ว ถึงตาเขาที่ต้องเตรียมตัว
                ในช่วงที่รายการพักตามช่วงโฆษณา ชายหนุ่มก็ได้โอกาสขึ้นมายืนบนเวที มองแชมป์ตัวน้อยในชุดเต็มยศไม่ต่างจากเขา

                ก่อนจะเริ่มร้องเพลงเอ๊ะก็เอาแต่จ้องคนใต้หน้ากากไม่วางตาแล้วอมยิ้ม ขยับไหล่เล็กน้อยเพื่อทักทาย แอบเห็นเด็กน้อยสะบัดหน้าไปอีกทางตอนนั่งบนเก้าอี้ผู้ชนะ แม้เวลาแบบนี้ก็ยังทำให้เขาเคลิ้มกับความน่ารักไปอีกจนได้
                'แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ของน้องทอมละนะ'

                "อยากจะพูดอะไรกับทอมสักหน่อยมั้ยครับ" หลังร้องเพลงจบลงก็ถึงคราวสัมภาษณ์ เอ๊ะหลุดยิ้มบางหันไปจ้องตาคนที่ชอบ ถึงจะแค่แป๊บเดียวแต่หน้าตาหวานใต้กรอบแว่นก็ขึ้นสีระเรื่อน่าดู 
                "ก็...ดีใจกับน้องด้วยนะครับที่มาถึงขั้นนี้ได้ ผม..." พูดไปเรื่อยก็ส่งยิ้มหวานคลอเสียงหัวเราะ ไม่วายแอบหันไปมองคนข้างตัวตลอดเวลาจนกระทั่งจบรายการไป


                นาทีที่ทุกคนเข้าห้องเก็บตัว หลังจากปล่อยให้ทุกคนได้พูดคุยผ่อนคลายตามสบาย โดยเฉพาะจิงโจ้ที่โดนเมินซะหน้าหงอก็ถูกคนอายุน้อยกว่าเข้าไปพูดคุยด้วย เสียงหัวเราะดังบอกถึงการพูดคุยถูกคอ เอ๊ะส่ายหัวอมยิ้มด้วยความเอ็นดู แต่สัมผัสหนักบนไหล่ทำให้ต้องสะดุ้ง
                "โอกาสมาแล้ว รีบไปคุยเข้าสิ" คนรุ่นใหญ่อย่างคุณสุเมธที่ไม่นึกว่าจะเอากับเขาด้วยก็ส่งเสียงทุ้ม หลายชีวิตพร้อมใจกันผงกหัวอย่างสามัคคี คนอย่างเอ๊ะ จิรากร ไม่ต้องรอให้ยุมากก็ไปอยู่แล้ว

                "ทอม มาด้วยกันกับพี่แป๊บนึงสิ พี่มีเรื่องจะคุยกับเราหน่อยน่ะ"
                "คุย? กับผมหรอฮะ เรื่องอะไรอะครับ ทำไมถึงต้องคุยตรงอื่นด้วย" เป็นไปตามคาด ทุเรียนน้อยหันมาเลิกคิ้วถาม ดึงความสนใจเป๊กให้ชะเง้อคอฟังตาม เอ๊ะเผยยิ้มหล่อก่อนจะว่าไปเสียงนุ่ม
                "ของมันอยู่ที่ห้องเก็บตัวแน่ะ อุตส่าห์แบกมาแล้ว จะทิ้งไปก็เสียของ"

                "งั้นหรอฮะ" ทอมพยักหน้าหงึกหงัก แว่นกรอบใหญ่ที่ใส่ขยับดุ๊กดิ๊กเล็กน้อย ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ถูกทิ้งไว้ให้อยู่กับเอ๊ะตามลำพัง เขาเพียงแค่เดินต้อย ๆ ในชุดทุเรียนพองตามอีกคนไป แอร์เย็นฉ่ำจากห้องเข้ามาโดนผิวพร้อมกับดวงตาที่หรี่ลงเพราะความประหลาดใจ

                "นี่มัน..."
                "อะนี่ ทุเรียนทอดสิบถุงตามสัญญา" ชายอายุมากกว่าว่าเสียงขบขันพร้อมยื่นของให้เด็กน้อย มิวายยื่นนิ้วโป้งไปแตะริมฝีปากนุ่มนิ่มที่กำลังอ้ากว้างกดให้หุบลง
                "พะ พี่! พี่เอามาให้หมดนี่จริงดิ" เขาพูดอกไป แววตาดูเหลือเชื่อมาก ตาที่โตอยู่แล้วยิ่งดูกว้างเข้าไปใหญ่ราวกับเด็กน้อยเห็นของเล่น

                "ที่คุยไปตอนนั้นผมแค่ล้อพี่เล่นเองนะฮะ"
                "พูดแบบนี้นี่คือไม่เอาสินะ งั้นพี่ยึด..."
                "ไม่มีทางซะหรอก" เด็กน้อยรีบคว้าหมับถุงนั้นมากอดแนลอก สายตาจ้องดูข้างใน นับมันในใจพร้อมกับแววตาส่อประกายตื่นเต้นเหมือนอย่างเคย
                "ทำไมพี่ถึงได้ใจดีกับผมงี้ล่ะ ตอนนั้นถ้าจะเลือกเมินไปก็ได้นี่นา"

                "จะให้ตอบเอาจริงหรือเอาเล่นล่ะ"
                "ทั้งสองอย่างได้ก็ดีฮะ ฮะ ๆ ผมล้อเล่นนะพี่เอ๊ะ" ทอมส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับเลื่อนสายตามามองคนเตี้ยกว่าที่ยืนจ้องเขาอยู่ เอ๊ะเอื้อมมือมาลูบหัวทุเรียนน้อยอย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถ้อยคำกระซิบที่ทำให้หน้าขาว ๆ นั่นแดงก่ำ
                "ก็เพราะว่าพี่อยากเอาใจใส่คนสำคัญของหัวใจไงครับ"
                ใครที่ไหนมันสอนให้พี่ชายเขาเล่นมุกนี้! เด็กน้อยอ้าปากพะงาบไปต่อเกือบไปไม่เป็น ครั้นจะพูดอะไรต่อไหล่ก็ถูกหมุนให้หันไปเจอดูหน้าประตู

                ชายหนุ่มในกรอบแว่นใหญ่กลืนน้ำลายลงคอ คนคอยดูแลเขากำลังยืนจังก้าส่งยิ้มหวานแล้วขาก็สั่นไป~ เฮ้ย ไม่ใช่ดิ ก็แค่จ้องตานิ่งแล้วเขายิ้มแห้งอย่างคนรู้ความคิด
                'ไม่น่าไปบอกให้พี่เอ๊ะแกแบกเจ้านี่มาเลย'
                "ตอนแรกพี่กะจะมาตามหาเราตามที่คนอื่นเขาบอกกันหรอก แต่ดูท่าธุระยังไม่เสร็จ จะให้พี่ออกไปรอข้างนอกรอจนเราออกมาเองก็ได้นะ" พี่ทีมงานหนุ่มว่าเสียงขัน ก่อนแว่นน้อยจะส่ายหัวดุ๊กดิ๊กรีบเดินดุ่มลากเขาออกไปพร้อมกัน ไม่แม้แต่จะหันกลับมอง ทิ้งหูแดง ๆ ไว้ให้เอ๊ะได้มองตามหลัง

                "คุณเองก็อย่ามัวชักช้าครับ อีกยี่สิบนาทีหลังจากนี้จะมีงานฉลองต่อที่โรงแรมอีกนะครับ คุณเอ๊ะ" ทีมงานของเขาอีกคนมาบ่น เอ๊ะพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ตลอดการเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ฮึมฮึมเพลงไปตลอดทางจนกระทั่งเสร็จ
                ใจจริงก็อยากค่อยเป็นไป แต่การที่เขาหันไปหยอดคนอายุน้อยกว่าตรง ๆ เป็นครั้งแรกแล้วได้ผลขนาดนี้ ไม่ต้องรอแล้วรุกเต็มที่ไปเลยน่าจะง่ายกว่ามั้ง

                แอ๊ด
                "พูดถึงไม่เท่าไหร่ก็มานู่นแล้ว คุณเอ๊ะ จิรากร พระเอกของพวกเรา!" ดูจากสภาพก็คงจะคึกกันน่าดูละนะ หน้ากากดำน้ำที่มือข้างถือแก้วคอกเทลจากฝีมือบาร์เทนเดอร์พิเศษประจำรายการพูดเสียงดังผ่านไมค์ ทุกคนหันมามองตามแล้วก็ส่งเสียงเฮ 
                หลังจากถอดส้นตึกไปก็กลับมาเป็นเอ๊ะคนเดิม อาจจะเตี้ยเมื่อเทียบกับใครบางคน ก็แค่สูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบแต่แล้วไง เอ๊ะไม่แคร์ครับ ส่วนสูงไม่มีผลกับแนวราบสักหน่อย

                "เอ้า พี่เอ๊ะ ไม่ใส่ส้นสูงเพิ่มแล้วเหรอคะ แบบนี้ตอนจีบพี่ทอมเมื่อยคอตายเลย" ก้อย รัชวินนำความรั่วมาก่อนใครเพื่อน หันไปเอ่ยปากแซวใครอีกคนที่นั่งจิบเหล้าฤทธิ์อ่อนกับเป๊กและกำลังพูดคุยกัน ดวงหน้านั่นขึ้นสีเรื่ออีกรอบแม้ในห้องจะดูมืด ไม่รู้ว่าเพราะเขินเขาหรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กันแน่
                แต่ถ้าให้เป็นขอแค่อย่างแรกก็พอนะ...
                "ไหน ๆ ก็อุตส่าห์มาละ ตอนพี่เอ๊ะยังไม่ขึ้นมาอะ หลายคนที่นี่เขาร้องคาราโอเกะไปหลายเพลงละค่ะ คราวนี้ตาพี่เอ๊ะมั่งได้มั้ย นอกจากร็อคแล้วก็อยากฟังเสียงหวาน ๆ มั่ง" ปุ๊กกี้จากหน้ากากฮันบกที่เข้าสายเฮฮากับคนอื่นตลอดก็ออกมาเสนอความคิดเห็น

                เอ๊ะยักไหล่นิดหน่อย รับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ที่เพิ่งสั่งไปลงคอแล้วเดินตรงไปรับไมค์จากกวางแต่โดยดี
                "คุณรองแชมแป์ครับ วันนี้จะร้องเพลงอะไรดีครับ กระผมจะได้จัดให้" เป้ วงมายด์ที่อาสาเป็นดีเจอประจำห้องไปแล้ว เอ๊ะ นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยชื่อเพลงออกมา
                "งั้นผมขอ Thinking out loud ละกันครับ" สิ้นสุดคำนั้นเสียงดนตรีจังหวะผ่อนคลายก็ดังขึ้น ชายหนุ่มกระชับไมค์ในมือแน่น แต่เมื่อหันไปสบตากับใครอีกคนที่หันมามองตาเขาพอดีจึงได้ยิ้มตอบกลับไป

      When your legs don’t work like they used to before
      And I can’t sweep you off of your feet
      Will your mouth still remember the taste of my love?
      Will your eyes still smile from your cheeks?

      เมื่อขาของเธอมันไม่ขยับอย่างที่เคยเป็น

      และฉันก็ทำให้เธอตกหลุมรักฉันไม่ได้อีกแล้ว

      ปากเธอจะยังคงจดจำรสชาติความรักของฉันได้มั้ย

      ดวงตาเธอจะยังยิ้มจากแก้มเธออยู่มั้ยนะ?


                แค่เพียงสายตาได้สบกัน ดวงตาสีดำใต้แว่นคู่นั้นก็กลับเป็นฝ่ายหลบไปเอง เอ๊ะหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันมาสนใจกับท่อนถัดไป


      And, darling, I will be loving you ’til we’re 70
      And, baby, my heart could still fall as hard at 23
      And I’m thinking ’bout how people fall in love in mysterious ways
      Maybe just the touch of a hand
      Well, me—I fall in love with you every single day
      And I just wanna tell you I am

      ที่รัก ฉันจะยังคงรักเธอจนแม้เราจะอายุ 70 ก็ตาม

      และที่รัก หัวใจฉันก็จะยังคงตกหลุมรักเธอเหมือนตอนอายุ 23

      และฉันกำลังคิดว่าผู้คนก็ตกหลุมรักกันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเนอะ

      บางทีก็อาจจะแค่ด้วยการสัมผัสมือกัน

      ส่วนฉัน ก็ตกหลุมรักเธอได้ทุกๆวันเลย

      และฉันก็แค่อยากจะบอกเธอว่าฉันยังตกหลุมรักเธออยู่นะ


                น้ำเสียงที่หวานละมุนและกังวานมีเสน่ห์ในแบบตัวเขา ดึงดูดให้คนในห้องจำต้องละเหล้าในมือหันมามองเป็นตาเดียว เพื่อรับฟังเพียงเสียงเพลงให้ตนผ่อนคลาย แต่คนที่เขาตั้งใจให้ฟังก็มีแค่คนเดียวอยู่แล้วนี่นา ขึ้นอยู่กับแค่ว่าเจ้าตัวจะรับรู้ถึงมันหรือเปล่า


      So honey now
      Take me into your loving arms
      Kiss me under the light of a thousand stars
      Place your head on my beating heart
      I’m thinking out loud
      That maybe we found love right where we are

      ที่รัก
      พาฉันเข้าไปในอ้อมกอดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรักของเธอหน่อยสิ

      จูบฉันภายใต้แสงสว่างแห่งดวงดารานับพัน

      แนบหัวของเธอลงมาที่หัวใจที่กำลังเต้นอยู่ของฉัน

      ฉันจะคิดออกมาดังๆว่าบางทีเราได้พบความรักในที่แห่งนี้แล้ว

      ที่รัก เราได้พบความรักในที่แห่งนี้แล้ว

      เราได้พบความรักในที่แห่งนี้แล้ว

                แม้เพลงจะจบลงแต่คนร้องเกือบไม่จบซะเอง เอ๊ะลงจากเวทีอย่างช้า ๆ ก่อนจะรับแก้วใหม่จากคนขี้อายอย่างสงกรานต์ที่อุตส่าห์เอามาให้
                "ขอบคุณครับ"
                ว่าเสียงนุ่มก็เดินไปอีกมุมของห้อง ตั้งใจไว้ว่าจะรอให้คนข้างในสนุกกันไปก่อนแล้วค่อยหาเวลาเหมาะไปเนียนแทรกกับทอม

                รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง ยังไงจะขอลองดูสักที

                เสียงจังหวะติดจะหนักของวงบิ๊กแอสที่แล่นเข้ามา เพลงที่สามนับแต่นั่งตรงนี้สลับกับหันไปคุยกับคนอื่น ๆ ทั้งตัวอาร์มเอง บุ๋ม แปม ไกอา เป๊กแล้วก็ทอม ความจริงก็ยังมีอีกหลายคนมานั่งคุยล้อมวงฟังขาร็อคอีกคนอย่างสงกรานต์ร้องเพลง แล้วก็นั่นละ
                คาดหวังไว้ก็ได้เกินคุ้ม เสียงที่ดูแหบทุ้มทรงพลังน้อยกว่าเขากลับทำให้เพลงนุ่มนวลดูติดหู
                 "เอ่อ พี่เอ๊ะครับ"
                 "ครับ?" คนอายุมากกว่าว่าเสียงทุ้ม ละสายตาหันมามองคนชวนคุยทันควัน เห็นทอมมองล่อกแล่กหลายทีก็อดเป็นฝ่ายงงไม่ได้

                "คือผมมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย เอ่อ... ออกไปข้างนอกด้วยกัน...สักหน่อยได้มั้ยครับ" แม้จะกระซิบพอให้ได้ยินกันสองคน แต่ด้วยความที่ระยะห่างระหว่างเขากับทอมถูกกั้นด้วยอาร์มที่คอยกันไม่ให้คุณผลิตดื่มมากไป กับคนช่างคึกนั่งส่งยิ้มหวานให้ พยายามไม่ขัดบรรยากาศหวานของพวกเขา
                แต่ก็ยังมีอีกหลายคนหันมามองตาไม่กะพริบ
                "งั้นไปกันเลยมั้ยครับ" แว่นน้อยชักเริ่มอึกอักไปทุกที เพราะกลัวจะเป็คนปฏิเสธซะเองรุ่นพี่อย่างเขาก็เลยต้องลุกขึ้น

                ดึงข้อมือคนผอมกว่าให้ยืนขึ้นก่อนจะพาไปข้างนอกด้วยกัน ถึงจะมีคำแซวถึงความเป็นสามีภรรยา ซึ่ง...ไอ้คนโดนแซวว่าเป็นคุณภรรยานี่มันก็เขาละนะ แต่เคยบอกไว้แล้วไง ว่าความสูงไม่มีผลในแนวราบน่ะ หึ
                "พี่เอ๊ะ ดะ เดี๋ยวก่อนครับ นี่มันชักไกลจากห้องปาร์ตี้แล้วนะครับ" ทอมร้องท้วงเสียงเบาตอนเดินตามเขามาด้วย เอ๊ะหยักยิ้มมุมปากไปให้
                "พี่จะชวนเราไปดูดาวด้วยกันน่ะครับทอม ถ้าไปสูงกว่านี้ละก็จะได้เห็นชัดขึ้นนะ"
                "ตอนดึกแบบนี้อะหรอครับ?"
                "ครับผม" เด็กน้อยเกาหัวแกรก ๆ แล้วเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นดาดฟ้าของโรงแรมที่จัดงานพวกเขา เวลาใกล้จะเที่ยงคืนแบบนี้ท้องฟ้าก็ขึ้นสีดำสนิทไปเสียแล้ว

                ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้แม้จะเห็นได้เพียงแค่ดาวไม่กี่ดวงแต่ลมเย็นที่โชยมาผิดกับตอนกลางวันก็ชวนเคลิ้มอยู่ไม่น้อย
                "นั่งลงกันเถอะครับ" คนอายุมากกว่าทิ้งตัวเหยียดขาไปแล้ว มิวายดึงข้อมือคนอึ้งให้ตามลงมาด้วย แต่เหมือนจะแรงมากไปจนเซเข้าตักเขาเรียบร้อย น้ำหนักที่ไม่เบามาลงขาตู้มเดียวมันก็เจ็บแบบไม่ต้องสืบ แต่คนวางมาดก็ยังวางต่อไป แลกกับการได้เห็นสีหน้าอึกอักกับแก้มแดงก็คุ้ม
                ทอมก้มหน้าหงุดก่อนจะไถลลงนั่งข้างกันอย่างเชื่องช้า เอ่ยเสียแผ่วเบาดูน่ารักน่าเอ็นดู
                "ผมขอโทษครับ พี่เอ๊ะ..."

                "พี่ก็ผิดเองที่ดึงเราลงมาแบบนั้น ไม่ต้องขอโทษหรอก"
                "คะ ครับ" ทอมว่าแล้วก็ไม่เงยหน้าเหมือนเดิม บรรยากาศรอบข้างเงียบไปจนได้ยินได้แต่เพียงเสียงลมที่ลอยผ่านพวกเขาไป
                "...."
                "...."
                "...."

                แต่บางทีแบบนี้มันก็เงียบเกินไปหน่อยมั้ยเนี่ย

                "ที่คุยกันในไลน์วันนั้นน่ะ..." สุดท้ายก็เป็นแชมป์ทุเรียนเองที่เปิดปากพูด ขาทั้งสองข้างยกชันขึ้น ชายหนุ่มกอดเข่าตัวเองแล้วพูดถึงสิ่งที่ค้างคาใจมาซะนาน
                "พี่ต้องการจะสื่ออะไรกันผมกันแน่นะครับ"
                "เรื่องวันนั้นไม่ใช่ว่าพี่ขอจีบเราตั้งนานแล้วหรอครับ"
                "ก็พี่บอกว่าล้อเล่น..."
                "ถ้าข้อความน่ะใช่ แต่ความจริงใจพี่นี่ของจริงนะครับ"

                "หะ หา เอ่อ พะ พี่เอ๊ะ" ถึงกับอึกอักไปต่อแทบไม่เป็น ทอมเม้มปากแน่นเบนสายตามองไปทางอื่น รับรู้ถึงจังหวะของหวใจที่เต้นรัวจนหน้าขึ้นสี ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง แต่คราวนี้คนเนียนขอจีบนั่งนิ่งรอดูปฏิกิริยาต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
                เด็กน้อยยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง ก่อนจะใช้มืออีกข้างของทอมมาแตะอกเขา
                "พี่ไม่...รู้สึกอะไรเลยจริง ๆ หรอครับ"
                "??" มีเรื่องให้คนอายุมากกว่างงอีกจนได้
                "กะ ก็จังหวะหัวใจของผมน่ะ มันตรงกับพี่มาตั้งนานแล้วนะครับ"

               เด็กนี่โคตรน่ารักเลยเว้ย!
                อยู่ ๆ ไอ้ความคิดอยากฟัดที่หายไปนานก็ผลุบขึ้นมาอีกจนได้ เอ๊ะแทบจะกลั้นยิ้มเขินเอาไว้ไม่อยู่ เหลือบตามองรุ่นน้องเอาแต่ก้มหน้างุดจนต้องจับหน้าให้อีกคนเงยขึ้นมามองกัน
                "เป็นแฟนกับพี่นะครับ"
                "เรื่องนั้นไม่ต้องถามก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะฮะ"
                "แฟนใครน้อ น่ารักสุด ๆ " เอ๊ะหลุดพูดออกมาก่อนคนตัวเล็กจะทุบแขนเบา ๆ แก้เขินแล้วไถลโดนดเข้าอ้อมกอดหน้าตาเฉย จะสู้ก็แพ้แรง ผลสุดท้ายเลยได้แค่ปล่อยให้อีกคนทำตามใจ

                เอ๊ะส่งยิ้มบางก่อนจะกระซิบคำหวานที่ทำให้คนฟังอมยิ้มอย่างเป็นสุข
                "พี่รักเรานะครับ" นาทีที่คำสารภาพจบลง ริมฝีปากนุ่มก็สัมผัสกับหน้าผากคนอายุน้อยกว่า ล้างรอยจูบของกันต์ออกไปก่อนจะเลื่อนมาจูบริมฝีปากบางกว่าของทอมอย่างแผ่วเบา สัมผัสเบา ๆ ที่ไม่มีการรุกล้ำหากแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก ฝ่ามือต่างขนาดกันของคนสองคน ส่งผ่านความอบอุ่นของกันและกัน
                ...รับรู้ถึงจังหวะของความสุขที่โอบล้อมจนหัวใจทั้งคู่พองโต...

                ตอนพิเศษสำหรับคนในห้องปาร์ตี้

                 "แล้วเป็นไง สองคนนั้น รักกันดีมั้ย" บุ๋ม คุณแม่แห่งหน้ากากนักร้องถามเสียงนุ่ม เจ้าหล่อนละจากแก้วไวน์รอฟังสายข่าวคนสำคัญอย่างหน้ากากดำน้ำ แค่เสียงหัวเราะที่ดังลอดออกมาก็พาลให้คนฟังยิ้มกริ่มได้ เธอเอามือทาบอกถอนหายใจ
                "เฮ้อ ในที่สุดก็หมดปัญหาลงได้สักที งานนี้ก็คงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้วละนะ" เธอเอ่ยปากขอบคุณก่อนคนร่วมวงฟังจะพากันสลายโต๋ แม่มัง ฉายาที่คนดูได้ตั้งให้กับเธอ เสียแต่คราวนี้พ่อกาดำที่ควรจะอยู่ด้วยกันกลับหนีไปพร้อมกับโฉบลูกทุเรียนคนเล็กสุดไปกินแทนซะอย่างนั้น

                ลูกจิงโจ้คนโตก็นู่นน่ะ ร้องคาราโอเกะเต้น Love on top งงเด้ ๆ ไปมาให้แฟนหนุ่มอย่างระฆังต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อย และทีนี้แม่มังคนงามก็โสดไปซะแล้ว...แต่แค่ในนามหน้ากากเท่านั้นละ ก็ตัวจริงน่ะมีเจ้าของหัวใจรออยู่ที่บ้านทั้งทีแล้วนี่นา
                "ฮัลโหล ค่ะ อีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง" เธอตอบรับคนในสายไปก่อนจะหันไปโบกมือลา มือข้างหนึ่งเปิดดูรูปในโทรศัพท์ที่มีไลน์เด้งเข้ามาทันควันแล้วก็ต้องหลุดยิ้มให้ภาพน่ารัก ๆ ตรงหน้า อีกาดำที่อุตส่าห์มีน้ำใจแอบถ่ายภาพทอมตอนหลับบนตักมาให้ดูเฉพาะ

                "คิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่อาสาเป็นแม่สื่อให้ตั้งหลายทีเนี่ย แต่คราวนี้ขอฝ่าฝืนกฏสักหน่อยละกันนะคะ คุณเอ๊ะ" ว่าแล้วก็ยิ้มกริ่มในใจอยู่คนเดียว เปิดเข้าไลน์ของกลุ่มหน้ากากก่อนจะส่งภาพเหล่านั้นลงไปทันควัน
                วันพรุ่งนี้ละ สนุกแน่...
      ..........................................
                ดู ๆ ไปละอู้หู ที่ผ่านมาบ่นอย่างเยอะจนกลบเนื้อเรื่องเยอะเลยฮื้อ แต่เราอยากบ่นอะ อิ_อิ ส่วนฟิคนี่ ความจริงนี่ตั้งใจว่าจะอัพแต่มะคืน แต่ต้องรีบนอนบวกพิมพ์โทรศัพท์ฮะ มันเลยใช้เวลาพอควร นี่ จัดเต็มชนิดมดขึ้นละนะคะ ชอบไม่ชอบช่วยเม้นด้วยนะ นี่ล่วงสุดท้ายของฟิคจริง ๆ ละค่ะ จะไม่มาอัพเดทเพิ่ม เพราะรายการจบฟิคนี้ก็เลยต้องจบตามไปด้วย ฮื้อ รี่ไปละนะคะ ทุกคน~ 

                บ๊ะบายค่า


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×