ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Charensiar

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 57


    ปฐมบท

     

              ลึกลงไปในม่านหมอกแห่งความลึกลับ อันตราย และเวทมนตร์  โลกคู่ขนานของมนุษย์ธรรมดาอยู่  ณ ที่แห่งนั้นมานานแสนนาน

     

    แคว้ก แคว้ก ..

    แซ่ก แซ่ก..

                ท่ามกลางเสียงนกร้องและเสียงลมพัดต้นไม้ใบหญ้าเสียดสีกันในบรรยากาศมืดสลัว ปรากฏร่างของหญิงวัยกลางคนร่างหนึ่งกำลังปืนขึ้นหน้าผาขนาดใหญ่อย่างยากลำบาก ปลายทางของเธอก็คือที่ตั้งของป่าอาถรรพ์ที่น้อยคนนักจะกล้าย่างกรายเข้าไป

    หมับ…  พรึ่บ..

                ในที่สุดมือเรียวของหญิงนางนั้นก็สามารถคว้าขอบผาของหินขรุขระอันตรายได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งเหวี่ยงร่างสะบักสะบอมจากการฝ่าฟันสัตว์ร้ายนานาชนิดของป่าด้านล่างที่นับเป็นบททดสอบของผู้ที่ต้องการจะเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวทมนตร์ที่ดีที่สุดในโลกแห่งเวทมนตร์ เธอค่อนข้างมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆนั้นได้จบชีวิตไปแล้วเพราะนาฬิกาหินสีที่ข้อมือของเธอเหลือเพียงแสงแห่งชีวิตที่ค่อนข้างริบหรี่เพียงดวงเดียว นั่นก็คือเธอ ส่วนที่ว่าเป็นแสงริบหรี่นั่นก็เพราะร่างกายของเธอเองก็แทบจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวมาตั้งแต่ป่าอาถรรพ์ชั้นนอกข้างล่างแล้ว แต่ที่เธอขึ้นมาถึงข้างบนนี่ได้ก็เพราะด้วยพลังใจล้วนๆ คิดพลางมองไปที่ป่าอาถรรพ์ชั้นกลางที่ปรากฎอยู่ข้างหน้า

    แปลก ทำไมป่าถึงดูสงบไม่เหมือนที่เค้าเล่าลือกันมา

                            นัยน์ตาสีเขียวเรืองกวาดมองไปรอบๆพลางก้าวเดินไปสู่ป่าชั้นใน ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีสัตว์ร้ายสักตัวโผล่ออกมา ไหนจะฝูงแมลงมีพิษที่ว่ากันว่าโดนต่อยเพียงครั้งเดียวชีวิตก็อาจหามีไม่ ก็ไม่เห็นเลยสักตัว  ขาสองข้างที่เต็มไปด้วยบาดแผลก็ก้าวตรงไปในป่าอย่างยากลำบากด้วยพลังใจที่มี  พลังใจที่ว่านั้นไม่ใช่แค่เพราะเธอต้องการทำตามปณิธานของบิดามารดาผู้ล่วงลับที่อยากให้เธอสืบทอดปณิธานของท่านในการบริหารโรงเรียนของบรรพบุรุษเพียงอย่างเดียว  หากแต่เพราะเหตุผลบางอย่างที่ดึงให้เธอไม่ถอดใจเข้ามาถึงปลายทางของป่านี้

    ใช่ มันเหมือนเหมือนมีใครกำลังเรียกเรา

                ภายในป่านั้นเต็มไปด้วยต้นไม้สูงเสียดฟ้าที่ใบของมันปกคลุมทิ้งเงาไว้บนพื้นดิน ราวกับไม่ยินยอมให้แสงแดดแม้แต่นิดเดียวผ่านลงมาทำร้ายดินอันอุดมสมบูรณ์  หญิงสาวก้าวตรงไปจนสุดท้ายเดินอย่างระมัดระวัง

    นี่มันอะไรกัน…!’

                นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเพราะภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏนั้นคือ เถาวัลย์กุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมขนาดมหึมามากมายปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่และหนาแน่นเป็นพิเศษตรงบริเวณที่เป็นใจกลางของมัน หญิงสาวก้าวตรงเข้าไปที่ดอกกุหลาบที่ว่าเล็กที่สุดแล้ว ก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าตัวเธอสักสิบเท่าได้อย่างระแวดระวังว่ามันอาจมีพิษกรดสาดมาทางเธอดังเช่นดอกไม้ตรงเชิงผาที่เธอปีนขึ้นมา

    ไม่มีอะไรนี่นา แปลกจริงๆ

                เธอจำไม่ได้ว่าเธอคิดคำว่าแปลกในหัวมากมายแค่ไหนในวันนี้ เห็นทีคงต้องกลับไปเล่าให้สามีที่บ้านฟังซะแล้ว คิดพลางยื่นมือเรียวที่มีบาดแผลและรอยขีดข่วนมากมายไปแตะกลีบดอกอย่างหลงใหลราวกับโดนมนตร์สะกด

                ทันทีที่ถูกแตะ กุหลาบดอกนั้นก็หมุนวนรอบตัวเองคล้ายฟันเฟืองที่ถูกถอดสลัก ไล่ไปจนครบทุกดอกในบริเวณนั้น จากนั้นหนามแหลมที่ถ้าแตะโดนเพียงนิดเดียวอาจทะลุไปโผล่อีกด้านของผิวหนังได้อย่างง่ายดายก็แหวกออก เผยให้เห็นทางเดินที่เต็มไปด้วยเพชรพลอยนานาชนิด

                หญิงสาวไม่เอนเอียงต่อความมั่งคั่งที่อาจจะได้รับ หากสายตาของเธอกลับจดจ้องอยู่ตรงแท่นสีขาวงาช้างที่วางอยู่ใจกลางนั่นมากกว่า ทันทีที่เข้าไปใกล้นัยน์ตาสีเขียวก็ต้องเบิกกว้างกว่าเดิม

    นี่มันผู้หญิงนี่นา…’

    ชาเร็นเซียร์ แพเรียสต้า

    นัยนต์สีใบไม้กวาดมองไปบนชื่อที่ถูกแกะสลักไว้ตรงแท่นสวย ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความตกใจเป็นอย่างยิ่ง

    นี่มัน! เป็นไปได้ยังไงกัน…’

                คิดพลางมองเลยขึ้นไปยังร่างที่ทอดนอนอย่างนิ่งสงบบนแท่นล้ำค่า หญิงสาวเจ้าของผิวขาวราวกับหิมะ เส้นผมสลวยเป็นลอนอย่างสวยงามยาวถึงเอวเป็นสีทองดุจดั่งกรีดมาจากทองเนื้อดี ริมฝีปากสีแดงสดอวบอิ่ม ร่างเพรียวในชุดสีขาวพลิ้วไหวบางเบานอนมือประสานอยู่หว่างอกนิ่งไม่ไหวติงราวกับไม่รับรู้ว่าบัดนี้ได้มีผู้ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเธอ

                ทันใดนั้นเอง บาเรียร์สีทองใสที่ทำให้แท่นสีงาช้างนั่นดูเหมือนโลงแก้วก็แตกกระจายออกเป็นผงซึมเข้าไปในหญิงสาวผู้เลอโฉมจนร่างทั้งร่างเรืองแสงและกลิ่นกุหลาบก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว  หลังจากที่แสงจางลงหญิงสาวเจ้าของแววตาสีเขียวเรืองก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เพราะร่างงดงามที่เคยทอดนอนอยู่ตรงหน้านั้นได้กลับกลายเป็นร่างเล็กของเด็กทารกผิวขาวราวกับหิมะแทน และทันทีที่เปลือกตาเล็กคู่นั้นเผยให้เห็นดวงตาสีชมพูอมแดงสดใส  เธอก็รู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นเพราะปมสงสัยในใจบัดนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว

    ‘‘เป็นท่านสินะคะ ที่เรียกฉัน’’

    ‘‘…’’ ไม่มีแม้แต่เสียงร้องจากทารกน้อย

    เอาล่ะฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าโชคชะตาจะเล่นตลกร้ายอะไร แต่ฉันจะปกป้องท่านเอง…”


    ............................................................................................

    สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่รัก นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่วางพล็อตมานานแล้ว

    แต่เพิ่งได้มีโอกาสมาสานต่อ เลยอยากเอามาลงให้พิจารณากันนะคะ

    ติชมได้ตามสะดวกเลยนะคะ ^_^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×