การค้นพบ discovery
หมอดูฟันธงv.s. หมอเด็กฟันฉับ
ผู้เข้าชมรวม
266
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
การค้นพบ DISCOVERY
ผมเจอเด็กคนนี้ขอทานอยู่ที่ชายแดนอรัญประเทศ วันนั้นเป็นวันที่ 9 กันยายน 2545 ผมเดินออกจากบ่อน คาสิโน สภาพอิบักอีโรย หมดตูดไม่มีเงินเหลือแม้แต่บาทเดียว เจ้าหนูน้อยอายุราว 8-9 ขวบ เดินตรงมาหา พูดช้าๆ เป็นภาษาเขมร ซึ่งผมเข้าใจเล็กน้อย ว่า “พาผมไปกับคุณด้วย” ผมปฏิเสธไปอย่างสุภาพ พร้อมกับแบมือ บอกทำนองว่า “ฉันไม่มีตังค์เห็นไหม ฉันจะขึ้นรถตู้คันนี้กลับกรุงเทพแล้ว”
เจ้าหนู โบกมือไปมาทำนองว่า “อย่าไปถ้าไม่มีผม” พร้อมกับ ล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของผมและหยิบแบงก์ใบละพัน 1 ใบ ออกมา
มันทำให้ผมรู้สึกตกใจ และ ประหลาดใจว่าทำไมเด็กคนนี้เห็นได้อย่างไรว่า ผมลืมเงินไว้ในกระเป๋าหลังตั้งพันบาท
เจ้าหนูน้อยลากผมเข้าไปในบ่อนเล่นเกมส์ รูเลตตามที่เขาชี้นำ จนได้เงินกลับมาทั้งหมดแถมได้กำไรมาอีก 5 หมื่นกว่าบาท ตั้งแต่นั้นผมกับเจ้าหนูลัคกี้ (ชื่อนี้ ผมตั้งให้เขาเอง) ก็อยู่ร่วมกัน ผมนำเขากับมากรุงเทพฯ รู้สึกว่าเจ้าหนูคนนี้จะนำโชคลาภมาให้ผมดังชื่อของเขาแน่ๆ
ผมชื่อ อาจารย์ สมนึก ไม่ได้เป็นครูอะไรหรอกแต่เขียนทำนาย โชคชะตาให้ชาวบ้านในหนังสือดารา รายสัปดาห์ ก็เขียนไปตามตำราที่ใฝ่เรียนรู้มา บางที่ก็แม่นบางทีก็ไม่แม่น หวังว่าเมื่ออายุมากขึ้นวิชาก็จะแก่กล้าร่ำเรียนมากขึ้น
ผมไม่มีครอบครัว เออ....หมายถึง แฟน....อ้อหมายถึงผมไม่ใช่......เอ้อ....หมายถึงผู้หญิง..........ไว้คราวหลังค่อยพูดถึงดีกว่า
เจ้าลัคกี้ พอมาอยู่กับผมทำให้ผมสบายขึ้นมาบ้างใช้ให้มันไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์ มันก็ไปซื้อให้ทั้งที่มันพูดไทยไม่ได้ แต่มันก็ฉลาด ไปซื้อมาจนได้ งานหลักของมันคือดูทีวี มันดูได้ทั้งวัน ทั้งคืน ดูไปมันก็พูดตามไปด้วย เข้าใจว่า มันคงเรียนภาษาไทย วันละหลายคำ
วันหนึ่งเจ้าลัคกี้ นั่งร้องห่มร้องไห้ เป็นวรรคเป็นเวร ผมถามมันว่าคิดถึงพ่อมันหรือ จะพาไปส่ง
เจ้าลัคกี้ ส่ายหน้าชี้ไปที่ทีวี มันบอกว่านักร้องดังคนนี้ อ๋อ พี่แบ๊ค นักร้องดัง
“เขาไปทำอะไรให้แกเดี๋ยวจะไปแจ้งความจับมันเข้าคุก”
“ไม่ได้ทำอะไร” เจ้าลัคกี้พูดเป็นภาษาไทยเพี้ยนๆ
ผมเลิกคิ้วประหลาดใจ “เออ มันมีความพยายามดีจะไปจีบสาวที่ไหนล่ะ หัดพูดไทยน่ะ หน้าแกมันต้องพัฒนาอีกเยอะ แบนไปทั้งหน้า”
“พี่ แบ๊ค จะตายพรุ่งนี้ เป็นโรคเอดส์กำเริบ”
“เออ ก็รู้ว่ามันเป็นเอดส์ กินมะระขี้นกเป็นข้าวอย่างนั้น แต่แกไปพูดแบบนั้น เดี๋ยวก็ถูกส่งตัวกลับประเทศ แถมอวัยวะไม่ครบเท่าตอนขามาอีก แกอย่าไปพูดกับใครให้เขาฟังเชียว”
เจ้าลัคกี้พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ไอ้นี่มันดูทีวีจนเพี้ยน ถ้าพ่อมันตายมันจะร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแบบนี้ไหมนะ”
วันรุ่งขึ้น ทุกคนในสำนักพิมพ์ต้องวิ่งวุ่นเป็นปั้นจั่นกำลังก่อสร้าง
“พายุถล่มอะไรพี่” ผมถาม บอกอ
“พี่ แบ๊ค ตายศพอยู่โรงพยาบาล”
“เป็นอะไรตายล่ะพี่เมื่อวานยังจีบนักข่าวอยู่เลย”
“ไตวายเฉียบพลัน” บอ กอส่ายหน้าเป็นอันรู้กันว่ามีเหตุแห่งการตาย ไม่ได้ไปรถคว่ำ หรือถูกใครฆ่า
ผมนึกถึงเจ้าลัคกี้ ขึ้นมาทันที ไม่แม่นหรอกพี่แกเป็นไตวาย ผมนึกปลอบใจตัวเอง
ผมกลับมาบ้าน นั่งจ้องมองเจ้าหนูลัคกี้ ในใจนึกว่าเราสองคน ทำไมต้องมาอยู่ร่วมกัน คิดในแง่ของผมเอง มันเป็นโชคชะตา ลิขิต หรือว่าเจ้าหนูมันเลือกผมมาร่วมชะตากับมัน
“ลัคกี้ เอ้ย....... นายรู้อนาคต ใช่ไหม”
ลัคกี้ หันหน้า ละจากจอทีวีมาพยักหน้า หน้าตามันเศร้าๆ สักครู่มันก็ร้องไห้วิ่งมากอดผม
“รู้อนาคต รู้ พ่อ แม่ จะต้องตาย แล้วพ่อ กับ แม่ ก็ตาย” เจ้าหนูร้องไห้ไม่หยุด
“ไม่เป็นไร คนเรามันฝืนชะตาชีวิตไม่ได้นี่ เอาเป็นว่าวันนี้แกโชคดี เดี๋ยวจะพาไปดูหนัง ไปกิน พิซซ่า อร่อยๆ” ผมรู้สึกสงสารมันจับใจ
สมนึก ลูบหัวเด็กน้อยอย่างเข้าใจ การที่เราไม่รู้อะไรเลย บางทีความเจ็บปวดมันคงจะน้อยลง
เจ้าหนูลัคกี้ ช่วยทำนายสิ่งต่างๆให้ผม เช่น ดาราคนไหนท้องก่อนแต่ง ดาราคู่ไหนกำลังจะเลิกกัน หมาของนักการเมืองถูกคนรับใช้ในบ้านวางยาเบื่อ หรือ น้ำมันดีเซลจะปรับราคาจาก 17 บาทไปที่ 23 บาท ซึ่งผมนำเอาข้อมูลไปเขียนในคอลัมภ์ของผม ซึ่งมันก็เที่ยงตรง 99 เปอร์เซ็นต์ อีก 1 เปอร์เซ็นต์ ที่พลาดก็เรื่อง ดาราสาวที่แอบท้อง เธอก็แอบไปออกลูกที่ต่างประเทศไม่ให้คนรู้
ผมเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง งานการดีขึ้นได้ไปทำงานในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย คนใหญ่ คนโต ดาราดัง เข้ามาหา เงินทองไหลมาเทมาจนร่ำรวย
ผมตั้งสำนัก เอ่อ เรียกว่า ตำหนัก ก็ได้ และทำตัวให้ดูกั๋ง เออ....ขลัง นุ่งขาวห่มขาว.........ทำอย่างนี้ เพื่ออะไรหรือ
“ก็อาจจะทำให้ตัวเองดูดี ภาพลักษณ์ดี ดูศักดิ์สิทธ์ และที่สำคัญ ดูดีมีราคา”
“อาจารย์ สมนึก ครับ ช่วยลงอาคมให้ผมโด่งดังเป็นนักร้องมีชื่อเสียงด้วยครับ” โด่งนักร้องหนุ่ม ทำตาหวานใส่
“เอานี่ไป ว่านนี่เอาไปอม เดี๋ยวอาจารย์จะลงนะหน้าทองให้”
งานหลักของผมเอง ลงนะให้นักร้องหนุ่มๆ ก็ทำไปตามหลักวิชา ลงคนทำมีศรัทธา คาถาก็ย่อมศักดิ์สิทธ์ ผมเชื่ออย่างนี้
เจ้าหนูลัคกี้ ซึ่งบัดนี้ อายุได้เกือบ 12 แล้ว ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผมเต็มตัว ในฐานะคนทำนายที่จะต้องส่งให้หนังสือพิมพ์ทุกๆวัน ผมแทบจะไม่ต้องเขียนคอลัมภ์นี้อีกแล้ว เจ้าลัคกี้มันเขียนแทนให้ทุกวัน เช่นวันนี้ มันเขียนว่า
- คุณกระรอก กะ คุณแรกคูน ดาราใหญ่ ที่เป็นคู่สามี ภรรยา แอบจดทะเบียนหย่า กันไปแล้ว โดยที่ฝ่ายชายจะไปแต่งงานกับผู้กำกับหนุ่มเพื่อนซี้ที่แคนาดาเร็วๆนี้
- วันนี้ คุณ เรณู ภรรยาท่านรัฐมนตรี จะพบสร้อยเพชร 7 สี ที่หายไปกว่า 2 ปีอยู่ใต้ตู้กับข้าว
- พรุ่งนี้จะเกิดซูเปอร์โนว่า ที่ดาวซิริอุส 3วันดาวดวงนี้ จะขยายตัวกว่า 1 ล้านเท่า
ไอ้อันสุดท้ายนี่มันเขียน โชว์พาว ว่ามันรู้อะไรในโลกนี้ นอกโลกมันก็รู้นะอะไรเทือกนี้
ส่วนงานที่ตำหนักผมก็อยู่เพลิดเพลินเจริญใจกับลูกศิษย์หนุ่มๆ นานๆ ทีผมถึงพาเจ้าลัคกี้มานี่เมื่อมีเหตุจำเป็น
“ลัคกี้เอ๊ย วันนี้มาด้วยกันที่ตำหนักหน่อย ท่านจอมพลอากาศเอก เคลิ้ม จะมาปรึกษา เรื่องรัฐประหาร”
เรื่องใหญ่อย่างนี้ขืนมั่วทายส่งไปอาจ สาบสูญศพหายไปง่ายๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมทำเป็นกิจวัตรคือเข้าบ่อนทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่ก็ไม่ได้เอาเจ้าลัคกี้เข้าไปเล่นด้วย ถึงมันจะรู้ว่าเล่นอย่างไรจะชนะ แต่การเอามันเข้าบ่อนเท่ากับปลูกฝังนิสัยไม่ดีให้มันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ดีเหมือนผมที่ติดการพนันงอมแงม
“ตายละวะ ไอ้ลัคกี้ เมื่อคืนเสียไป 15 ล้าน ที่บ่อนเฮีย ปลา เขาปล่อยออกมาให้เอาเงินไปใช้คืน ให้เวลา 7 วันไม่คืนมันเอาแน่”
“ป๋าก็เก็บของ แล้วย้ายไปอยู่เขมรกับผมก็ได้รับรอง มันตามไม่ได้หรอก”
“ฉันว่าจะสร้างพระ ให้คนจองดีไหมเปิดจองสักล้านองค์ องค์ละ 99 ได้เงิน 99ล้าน งานนี้จบเลย นายลองดูซิว่าจะขายดีไหม”
เจ้าลัคกี้ นั่งนิ่ง สักครู่เหมือนมีประกายไฟในสมอง
“ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย” เจ้าลัคกี้ ทำนายใบหน้าระรื่น “แต่ผมว่าป๋าไปอยู่เขมรกับผมดีกว่า”
“ทำไมแกให้ฉันไปอยู่กับแกซะเรื่อย” ผมจับแขนมันเขย่าเบาๆ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวป๋าพาไปกินข้าว
“อยากกินพิซซ่า”
“โอ เค ได้เลย”
เจ้าลัคกี้ หันมายิ้มให้ อาจารย์ สมนึก แต่เมื่อหันหลังกลับ น้ำตาของมันก็ไหลหยดติ๋งๆ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“เออ นี่” ผมนึกบางอย่างได้ “พรุ่งนี้ ป๋าไม่อยู่นะจะบินไปเปิดโรงแรมที่สุราษฎ์” ผมหยิบการ์ดเชิญขึ้นมาอ่านเบาๆ
“ เชิญมาร่วมงานเปิดโรงแรม เขาหลัก รีสอร์ท วันที่ 26 ธันวาคม 2547”
“เออ ไอ้หนูแล้วพรุ่งนี้ แกจะเขียนลงหนังสือพิมพ์ว่าอย่างไร”
เจ้า ลัคกี้ ปาดน้ำตา หันหลังให้คนที่มันรัก
“ผมเขียนว่า”
ทุกคนที่เขาหลัก จะมีความสุขที่สุดในชีวิต ในงานเปิดโรงแรมใหม่ “เขาหลัก รีสอร์ท”
9 ตุลาคม 2550
ผลงานอื่นๆ ของ merisa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ merisa
ความคิดเห็น