รัตนบรุษแห่งชาติ light of the nation
เมื่อไทยจะเป็นมหาอำนาจ เราจะทำอะไรกันดี
ผู้เข้าชมรวม
196
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
รัตนบุรุษแห่งชาติ light of empire
วิสุนี ตื่นขึ้นกลางดึก นานกว่าปีแล้วที่เธอจะฝันถึงการมาของ แสงสว่าง เธอตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นทุกครั้ง ฝันที่เป็นจริงเป็นจังมากขึ้นทุกที แสงสว่างที่มาพร้อมความเปลี่ยนแปลง เธอพยายามมองหน้า ผู้มากับแสงสว่าง แต่แสงนั้นดูเจิดจ้าจนกลบใบหน้าของผู้มาเยือน
คงเดช สามีตาปรือ มอง วิสุนี ภรรยา อย่างเคืองๆ ทุกๆคืนเธอจะละเมอตะโกนลั่นห้อง
“คุณคะ ฉันฝันอีกแล้ว คืนนี้มันชัดจนเกือบเห็นหน้าคนๆนั้นแล้ว”
คงเดชหนุ่มวัย 30 ปี เป็นคนร่างใหญ่ กำยำ ผิวสีแดงเข้ม ของเขา บ่งบอกถึงอาชีพ เกษตรกรชาวไร่ ที่ต้องกรำแดดทั้งวัน เขารู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม มาเป็นปี ต้องตื่นกลางดึกแทบทุกคืน เพราะ ฝันประหลาดของภรรยา
คงเดชมองภรรยาที่กำผ้าปูที่นอน อย่างตื่นเต้น ในใจเดือดปุดๆ แต่ความรักที่เขามีต่อเธอ ทำให้เขาอดทนและอดกลั้น
“ไม่เป็นไรแล้ว นอนซะ ผมอยู่ข้างๆคุณ......”
วิสุนี หญิงสาว ร่างเล็ก มองคงเดช สามีอย่างรู้สึกเกรงใจ เธอรู้สึกตื่นเต้น กับฝันของเธอราวกับสิ่งที่อยู่ในฝัน กำลังใกล้เข้ามาทุกๆที
รุ่งเช้า คงเดช เดินตาแดง หัวโต งัวเงียด้วยความง่วง ก้าวขึ้นรถไถ วิสุนีภรรยาสาว ส่ง ปิ่นโตให้
“ลืมอีกแล้ว เดี๋ยวก็โมโหกลับมาอีก” ภรรยาสาว ยิ้ม
คงเดชยิ้มฟันขาว เขาหันหลังกลับหุบยิ้ม หน้าบึ้ง ขับรถไถห้อตะบึงไปอย่างฉุนเฉียว ภรรยาสาวส่ายหัว “ขี้โมโหจริงตาคนนี้”
คงเดช เป็นคนรัก สันโดษ เขาทำไร่อยู่โดดเดี่ยว ในหุบเขาแถบปากช่อง ความเป็นคนขี้โมโห และ ไม่ค่อยชอบพูดกับใครทำให้ เขารู้สึกมีความสุข ภายในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้
วิสุนี เป็นสาวสวย รูปร่างบอบบาง ผิวขาวใส เธอตกหลุมรัก นิสิตเกษตร คนนี้ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย การมาอยู่ในที่อันรกร้างแห่งนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหงาบ้าง แต่เมื่ออยู่ร่วมกับคนที่เธอรักทำให้เธอรู้สึก อบอุ่น และปลอดภัย
สำหรับเรื่องฝัน การกินอิ่ม สภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้เธอเป็นนักฝัน แรกๆก็ฝันถึง หนุ่มๆ ที่เธอเอามายั่วสามี
“ เมื่อคืน ฝันว่าไถพื้น ตรงเนินนั่น แข่งกับใครก็ไม่รู้หล่อดี” เธอเล่าให้ คงเดชฟัง
“หึงไหม” ไม่รู้สิ คงเดชเหลือกตามองเพดาน
เมื่อเห็นว่าสามีเฉยๆ เธอก็ฝันใหม่ ฝันไกลฝันแปลกพิสดารขึ้น จน คงเดช ต้องบอกเธอว่า “ทำไมเธอฝันอย่างนี้ล่ะ ฉันหึงนะ” เธอจึงเลิกราไป
แต่ปีกว่ามานี่ วิสุนี ฝันประหลาด ทุกๆคืน จนเขาไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับเธอ
‘อาจถึงวัยทองเร็วไป’ คงเดชคิด
“ที่รักคะ ทีวี กับวิทยุ เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีสัญญาณ มา 2-3 วันแล้ว ไปตามช่างมาดู เสาอากาศหน่อยสิ”
คงเดช มองทีวี ซึ่งนานๆ จะเปิดสักที เขาเดินไปเปิดวิทยุก็มีแต่เสียงซ่าๆ
“เสาคงจะโดนลมพายุน่ะ เดี๋ยว พรุ่งนี้จะไปตามช่างในเมืองมา”
เขายกโทรศัพท์ มือถือ เพื่อคุยกับช่าง แต่ก็รู้สึกแปลกใจ
“สัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่มีสักขีด”
“มันเกิดอะไรกันล่ะ”เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็ร่วม 10 กิโล
คงเดชมองเครื่องปั่นไฟ
“ดีนะที่ปั่นไฟใช้เอง ถ้าไฟดับอีก ในเมืองคงมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น” คงเดช พูดไปส่งเดชขู่ให้ วิสุนี กลัวเล่น
“คงจะปฏิวัติกันมั๊ง” ภรรยาสาว สันนิษฐานเล่นๆ
“นั่นสิ น่าเบื่อ” คงเดช นึกไปแล้วก็เลิกกังวล อีกวันสองวันก็ปรกติเองละ ที่นี่อะไรที่ผิดปรกติ มันก็เป็นเรื่อง ปรกติ คงเดชคิดแบบปลงๆ
เวลาผ่านไป อีกหลายวัน ทั้งสอง สามีภรรยาก็ไม่ได้ใส่ใจกับเหตุผิดปรกติที่เกิดขึ้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ไม่มีเวลา
ความเย็นใจไม่สนว่าโลกรอบตัวจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้ทั้งคู่ได้พบกับเรื่องราว น่ากลัวสุดสะพรึงที่สุดในชีวิตของพวกเขา คงเดช วิสุนี
“ท่านผู้นำครับ เรายึดกรุงเทพสำเร็จ เรียบร้อยครับ” รองแม่ทัพรายงาน ท่านผู้นำร่างเล็ก
เขายกแขนลูบหนวดเบาๆอย่างใจเย็น “เรียกเราว่า จูมง ดีกว่า ดูเป็นกันเอง” จูมงพูดกับรองแม่ทัพด้วยกระแสจิต “ ในที่สุด ภารกิจของข้าก็สำเร็จต่อไป ข้าจะรวมโลกเอาไว้เป็นหนึ่งเดียว”
“ดีมาก ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ วันนี้เหนื่อยเหลือเกิน” จูมงขอตัว ในใจนึกถึงวัยเยาว์
จูมงเกิดมาอย่าง ยากแค้น แม่ทิ้งเขาไปเมื่อแรกเกิด ตามประสาแม่ทีไม่รับผิดชอบ “พวกไข่ทิ้งไข่ขว้าง” จูมงนึกในใจ
เขาต้องกระเซอะกระเซิง หาอาหารตามถังขยะเอาตัวรอดไปวันๆ แถมพวกเขาก็ถูกดูถูกดูแคลน ว่าเป็นพวกขี้เกียจ สกปรก ผู้หญิง เห็นเขา ต่างรู้สึกเกลียดและขยะแขยง
จนวันหนึ่ง เขาถึงรู้ตัวเองว่า มีอำนาจจิตบังคับให้คนทำตามที่เขาต้องการได้ ในซอกตึกที่มืดทึม เขาถูกรุมกระทืบ กระแสจิตที่แรงกล้า เปล่งออกจากร่างที่สั่นเทา ฉับพลันจิตของพวกมันตกลงสู่จุดต่ำสุด หมดหวัง และท้อแท้ ในช่วงนั้นเอง กระแสจิตอันแข็งกร้าวของเขาเข้าแทรกและเปลี่ยนความคิดของพวกมัน
“ขอโทษครับท่าน เราขอรับใช้เป็นทาสของท่านไปตลอดชีวิต” พวกมันกล่าวอย่างจงรักภักดี พร้อมก้มกราบกรานอย่างเคารพ
จูมงใช้เวลานับเดือน ศึกษาความรู้ในหอสมุดแห่งชาติ เขากินนอนอยู่ในนั้น จนไม่มีอะไรเหลือให้เขาศึกษาเรียนรู้อีกต่อไป
“ต่อไปฉันจะชื่อ จูมง” เขาเบิ่งมองทีวี รู้สึกประทับใจละครเกาหลีเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง “ฉันจะยิ่งใหญ่เหมือนจูมง”
นั่นเป็นปณิธานในใจที่ทำให้เขารู้ว่า เกิดมาเพื่ออะไร
“ต่อไปพวกแกจะต้อง เลิกดูถูกพวกเรา และให้การ เคารพนับถือ”
เขามองพรรคพวก นับล้านที่มาชุมนุมกันเต็มสนามหลวง ล้นไปจนสุดถนน ราชดำเนิน จูมงมองพวกเดียวกันอย่างปลาบปลื้ม
“ต่อไปพวกเรา จะได้เป็นใหญ่ในโลกใบนี้” จูมง ส่งกระแสจิตประกาศก้อง
พลังจิตของเขากล้าแข็งขึ้นทุกวัน ความคับแค้นในวัยเยาว์ ปมด้อย และการถูกกลั่นแกล้ง ทำให้พลังของเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“วันนี้ ประเทศไทย พรุ่งนี้โลกทั้งโลก” จูมงหลับตาอย่างมีความสุข
กระแสจิตที่รุนแรง พุ่งเข้าใส่ร่างของจูมง คราวนี้มันรุนแรงกว่าทุกครั้ง เขายืดตัวขึ้น จับกระแสที่รุนแรงนี้
“เร็ว และ มีพลังเหลือเชื่อ” จูมงเปรย พลางเสพพลังงานมหาศาลอย่างอิ่มเอม “พลังนี้สามารถทะลุทะลวงสู่อนาคตแห่งเวลาได้”
“เจอแล้ว เทพธิดาพยากรณ์ เธอจะนำข้าไปสู่ความยิ่งใหญ่” จูมงเดินอย่างรีบเร่ง
“บอกหน่วยม้าเหล็ก พาข้าไปหา ธิดาพยากรณ์เร็ว” เขารู้สึกตื่นเต้น เมื่อกระแสจิต แผ่ออกไปพบสิ่งที่เขาต้องการที่ปากช่อง
วิสุนี ผวาสะดุ้งเฮือกกลางดึก ตัวสั่นเทา
“คงเดชคะ ผู้นำแห่งแสงสว่าง ท่านจะมาหาเราคืนนี้ค่ะ ท่านจะมาหาเราค่ะ” เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างตื่นเต้น
“หรอ” คงเดชงัวเงีย อากาศ กำลังเย็นสบายลมโชยอ่อนๆ น่านอน เขาเหลือบตามอง ภรรยา คืนนี้ ตาเธอเบิกโพลง กอดแขนของเขาแน่นเป็นพิเศษ พูดซ้ำไปซ้ำมา
ติ๊ง ต่อง......... เสียงกระดิ่งหน้าบ้านดังขึ้นมีแขกมาหายามดึก
คงเดชรู้สึกหงุดหงิด โมโห เดือดดาล เป็นที่สุด นึกในใจ มันจะบ้าบอคอแตกอย่างนี้ทุกๆคืนเลยหรือไงกัน
ไม่ต้องนอนกันแล้วโว้ย......เขาคำรามลั่นในใจ มองภรรยาที่กำลังตัวสั่นเร่าๆ เหมือนผีเข้า เสียงกระดิ่งประตู ดัง กระชั้น....ติ๊ง......ต่อง....ติ๊ง.......ต่องงงงงงงงง เหมือนใครเข้าไปตีระฆังในหัวสมอง
คงเดชเดินกระทืบเท้าอย่างสุดแรงอารมณ์โกรธ พุ่งปรี๊ด จนลืมใส่รองเท้าเดินตรงไปกระชากประตูเปิดอย่างแรง
“สวัสดีครับ ผมจูมง ผู้นำของประเทศครับ” อารมณ์เปี่ยมไปด้วยความปราบปลื้มยินดี กระหายที่จะพบเทพในตำนาน
คงเดชมองภาพมัวๆผ่านขี้ตา มันเป็นแมลงสาบตัวอ้วนยืนสองขาแบบคน เสียงของมันผ่านสมองของเขาไปแบบเบลอๆ
“ผมมาหาท่านเทพธิดาพยากรณ์ช่วยไปตามเธอมาพบ................”ก่อนที่มันจะส่งกระแสจิตจบ และไม่ทันระวังตัว ตีนอันใหญ่หนาของคงเดชเหยียบร่างของจูมงส้นเท้าขยี้ๆอย่างสุดแรงจนร่างของมันบี้แบนติดฝ่าเท้า จากนั้นจึงแกว่งเท้ารูดซากที่เละเหลวกับขอบธรณีประตู ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าองครักษ์ ซึ่งหลุดจากภวังค์สะกดจิต
คงเดชตาเขียว ปิดประตูดังปังใส่หน้าคนแปลกหน้า บ่นงึมงำไม่ได้ศัพท์ กระแทกเท้า กลับไปทิ้งตัวลงนอนสงบนิ่ง
วิสุนี เลิกคิ้ว
คงเดชยักไหล่ “ไม่มีอะไร พวกหลงทางน่ะ”
“จะมาดูหมอแถวนี้ ดึกดื่นป่านนี้มากวนอยู่ได้คนจะนอน”
คงเดชกอดภรรยา นอนหลับอย่างมีความสุข
ผลงานอื่นๆ ของ merisa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ merisa
ความคิดเห็น