คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 04 {100%}
04
“กินไรดีวะ”
นอกจากเรื่องซูเปอร์สตาร์เอสเอ็มก็เรื่องของกินนี่แหละที่ปาร์คชานยอลจริงจัง เท้ายังไม่ทันได้เหยียบโรงอาหารเลยด้วยซ้ำ ประโยคคลาสสิคที่ทำคนอื่นคิดหนักไปตามๆกันก็ดังขึ้นมาจนแบคฮยอนทำหน้าเครียด
“อยากกินไก่อักษรว่ะ แต่ตอนนี้คนล้นแน่ เห็นว่ามีมอปลายมาเข้าค่ายที่มอ”
“หรือจะอดตายดีวะ” เป็นอีกครั้งที่ความเห็นของโอเซฮุนทำเอาเพื่อนทำหน้าเหม็นเบื่อไปตามๆกัน ในเมื่อโรงอาหารคนเยอะเหมือนกันหมด ทำไมต้องกินให้มันวุ่นวายด้วย คนเราแค่ไม่ขาดน้ำก็อยู่ได้สบายๆไปอีก7วันแล้ว ไอ้พวกอยู่เพื่อกิน!
“โรงอาหารคณะวิทย์ดิ แม่งโคตรซอกหลืบ คนไม่ค่อยไปกินหรอก” แสงสว่างที่ส่องอำไพนั้นมีต้นทางมาจากคยองซูเสมอ คนที่หาทางออกให้เพื่อนได้ทำหน้าเหมือนพระเจ้าส่งมาเกิดยังไงอย่างงั้น เรียกเสียงปรบมือจากสปอนเซอร์หลักอย่างแบคฮยอนคนขี้เต๊าะได้เป็นอย่างดี
"พวกมึงไปกันเลยนะ กูแว๊บไปหาไอพี่คริสที่หอมันแปปนึง" ชานยอลคนหูกางพูดรีบๆหลังจากที่เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือ คิดว่าก็คงไอพี่คริสอีกนั่นแหล่ะที่ไลน์หา
"มึงจะเข้าบ่ายป้ะ" เซฮุนถามขึ้นมา แล้วก็ได้คำตอบเป็นการส่ายหน้าจากชานยอล “ถ้าอาจารย์ถามบอกให้ทีนะว่ากูป่วยมาก จะตายห่าแล้ว นี่หญิงแม่จะจองวัดให้กูแล้วเนี่ย”
ตามมาด้วยใบหน้าเอือมระอาจากคยองซู เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ก็ละเหี่ยใจจนอยากจะพาไปโดดตึกสักครั้งให้เสียชีวิตเล่น แต่ความจริงคือทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือให้ตอนใกล้ๆสอบ ทำตัวเป็นติวเตอร์เฉพาะกิจคิดราคาเป็นกันเอง ชั่วโมงละสองร้อยครับสองร้อย
“พอหาที่กินให้มันเสร็จ แม่งก็หนีพวกกูเฉย” เสียงโมโนโทนของเซฮุนดังไล่หลังชานยอลไปติดๆ มาขี้ทิ้งไว้ให้เพื่อนคิดหนักว่าจะกินอะไรดี เพื่อนก็ประเสริฐประมวลผลให้เสร็จสรรพ หารู้ไม่ว่าสุดท้ายมันจะชักดาบไปได้รวดเร็วในไม่กี่วินาทีแบบนี้ หลังหักสามัคคีกันเลยครับคุณผู้ชม
“รีบไปกินสิครับรออะไรกันอยู่ กูหิว”
“หิวมากก็ถอนหญ้าไปกินไปดิ” พอแบคฮยอนจะได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากเรียกร้องความเป็นธรรมก็ถูกสะกัดดาวรุ่งทันทีจากเบรคชั้นดีที่ชื่อคยองซู คนโดนไล่ไปกินหญ้าถึงกับต้องเงียบปากเดินตามเพื่อนต้อยๆ สุดท้ายก็มาลงเอยที่โรงอาหารคณะวิทย์จนได้ นับว่าเป็นโรงอาหารที่โคตรแข็งแกร่ง ในขณะที่โรงอาหารอื่นคนเยอะจนแทบโดนไล่ไปกินข้าวข้างถนนแล้วนี่คืออะไร นี่มันยังเป็นมิติเดียวกันอยู่รึเปล่า
“นี่โรงอาหารหรือทางผีผ่านวะ”
คำบ่นของแบคฮยอนนั้นไร้ค่าพอๆก๊าสมลพิษเมื่อเซฮุนกับคยองซูเลือกที่จะหันหน้าหนีไปคนละทิศก่อนจะแยกย้ายกันไปหาคุณค่าทางโภชนาการเข้าสู่ร่างกายของตนเอง
คนกินง่ายอยู่ง่ายอย่างคยองซูไม่เลือกอะไรมากนัก ร่างเล็กมุ่งหน้าไปร้านอาหารตามสั่ง จัดกะเพราไก่หั่นชิ้นพอดีคำ ไข่ดาวต้องเอาแบบไข่แดงสุกที่85องศากับข้าวที่ต้องเก็บเกี่ยวขึ้นมาตอนฤดูร้อนเท่านั้นโง่ๆมาหนึ่งจาน ยังไม่ทันได้เดินกลับไปที่โต๊ะ ความรู้สึกเหมือนผีผ่านก็แล่นวาบเข้ามาในจิตของคยองซู
รู้สึกเหมือนมีเงาดำๆผ่านหน้า
คยองซูรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงตก
ไม่ใช่ดวงตกแบบธรรมดาด้วยนะ เป็นแบบดิ่งลงเหว แบบที่โดนราหูครอบงำ
คิดดูขนาดเวลาที่คยองซูต้องการกินข้าวอย่างมีความสุข พระเจ้ายังส่งไอแว่นนี่มาทำตัวมืด ทำลายชั้นบรรยากาศของคยองซูเลย คิดดู!!!
นี่ชาติที่แล้วกูโกงเงินอาม่ามึงมาใช่มั้ย หรือแอบเด็ดมะม่วงในสวนหลังบ้านมึงมาหรือเปล่า ตามติดชีวิตกูยิ่งกว่าเข้าบ้านเอเอฟ
คนที่ตกเป็นเป้าสายตาถูกนินทาอยู่ในใจไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น ยังคงตั้งหน้าตั้งตายัดยากิโซบะเข้าปากอย่างง่วงๆ โอโห มันตักใส่ปากตามด้วยน้ำแตงโมปั่นอีกหนึ่งคำ
คยองซูหันหลังให้ทันที เขาภาวนาในใจว่าอย่าให้แบคฮยอนเห็นเศษเสี้ยวซักส่วนของจงอิน ไม่งั้นคนปากหมาอย่างแบคฮยอนจะเริ่มเปิดพิธีการล้อ และนั่นจะทำให้ข้าวกลางวันที่อุตส่าห์สับตีนวิ่งไปซื้อมากินนั้นไม่อร่อย
“วันหลังกูไม่มากินที่นี่แล้วนะ”
“ทำไมอ่ะ คนน้อยดีออก จะได้ไม่ต้องต่อแถว” แบคฮยอนตอบกลับมา ตรงหน้ามีข้าวผัดกิมจิที่หมดไปแล้วครึ่งจานวางอยู่ ไม่ทราบว่าพี่ท่านเทเข้าปากทีละครึ่งจานหรืออย่างไร คยองซูเพิ่งตักกะเพราไก่เข้าปากได้สองคำ
แล้วทีแบบนี้มันดันมีเหตุผลมาตอบเขา ทีเรื่องที่ต้องการเหตุผลล่ะไร้สาระได้ไร้สาระดี
“เงียบไป ไม่ชอบ”เขาหลีกเลี่ยงประเด็นอื่นๆที่จะตามมาด้วยการตอบน้อยเข้าไว้ แล้วก้มหน้าก้มตากินเพื่อตัดบทสนทนา แบคฮยอนบ่นอะไรหงุงหงิงๆแล้วก็ใช้ส้อมโฉบมาหนีบไก่ในจานเขาไปกิน
แบคฮยอน ไอ้เพื่อนนรก
ทุกอย่างบังเอิญจนเหมือนเรื่องตลก
เปิดเทอมไปสองสามอาทิตย์แล้ว เขาเริ่มทำใจให้ชินกับการหอบสังขารมาเรียนวิชาเลือกไร้สาระ (ซึ่งเขาคิดผิดมากที่หลงเชื่อแบคฮยอน)ที่ว่ากันว่าแจกเอได้เรี่ยราดอย่างวิชาพัฒนาการทางเพศ คยองซูหาวปากกว้าง หูพยายามโฟกัสอาจารย์ที่สั่งงานคู่อยู่หน้าห้อง หางตาก็มีเพื่อนกลุ่มเดิมอยู่ในเฟรมให้รู้สึกขวางหูขวางตาเล่น แต่ละคนยังคงไม่สนใจเรียนอย่างเสมอต้นเสมอปลายทั้งๆที่งานจะพอกหางตายอยู่แล้ว คยองซูจับใจความได้นิดหน่อยว่าอาจารย์สั่งให้ทำรายงานคู่ เจ้าตัวหาวออกมาอีกครั้งในรอบวันอย่างเหนื่อยหน่าย
“กูคู่มึงนะแบคฮยอน” ชานยอลหันมาบอกเพื่อนข้างๆทั้งที่ยังไม่เงยหน้า ไม่สิ...ยังไม่ได้โงหัวขึ้นมาจากเกมซูเปอร์สตาร์เอสเอ็ม คนถูกมัดมือชกพยักหน้าส่งๆ มือก็กดส่งไลน์ให้คนนั้นคนนี้ไปทั่ว ซึ่งคนนั้นคนนี้ของมันก็คงมีคนเดียว อีพี่คริส พี่รองมือรองเท้าชานยอลมันนั่นแหล่ะ
เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่เวลาทำงานคู่ แบคฮยอนจะคู่กับชานยอล ในขณะที่คยองซูคู่กับเซฮุน คนรู้งานอย่างคยองซูเหลือบมองเพื่อนรักที่เป็นมิตรกับสัตว์ทั่วโลกด้วยความรู้สึกชิน ประสบการณ์การทำงานกับโอเซฮุนนี่ต้องพึ่งคนสกิลสูงๆอย่างเขาเท่านั้นงานถึงจะออกมาดี คนอะไรไม่รู้แม้กระทั่งวันส่งงานของตัวเอง เหตุการณ์เดจาวูแบบนี้เกิดกับคยองซูจนแทบจะต้องเขียนเดธไลน์บนหน้าผากเพื่อนสนิทให้มันรู้แล้วรู้รอด จำได้ว่าสมัยปี2ไอ้เพื่อนนี่มีหน้ามาบอกเขาดื้อๆว่ายังไม่ได้ทำรายงานเลยสักหน้าในวันส่งงาน ผลคือกอดคอกันแดกเอฟจนฉุดเกรดเฉลี่ย4ปีมาจนถึงวันนี้ ชีวิตเขารันทดแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว จะกลับลำเอาเวลานี้ก็คงไม่ทัน
“เซฮุน เริ่มทำงานวันไหนดี” คยองซูจดนั่นนี่ยุกยิกไปเรื่อยตามที่อาจารย์ขยับปากบอก
“กูคู่กับแอมเบอร์แล้วว่ะ ดูท่าทางพึ่งพาได้กว่าที่เคย”
….
เพื่อนประเสริฐ กูขอให้กัลปังหาลูลู่อะไรของมึงสำลักน้ำตายคาตู้
นอกจากจะทิ้งให้กูเคว้ง ยังมีหน้ามาบอกเป็นนัยๆอีกว่าแอมเบอร์เป็นทางเลือกที่ดีกว่าถ้าเทียบกับเขา คือนี่ต้องเป็นฝ่ายพูดไม่ใช่หรอ ไม่เข้าใจว่าโลกนี้มันหมุนกลับด้านหรือโอเซฮุนใช้สะดือคิดประโยคเมื่อตะกี้กันแน่ ทุกวันนี้ที่ต้องทนกับอาการไม่ปกติของเพื่อนนี่เขาถือคติเพื่อนกันไม่ทิ้งกันแบบคูลๆ ให้รู้สึกว่าเป็นคนของประชาชนขึ้นมาบ้าง แต่ดูสิ่งที่คยองซูได้รับ เหียกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
แต่จะให้ด่าโอเซฮุนไปก็เหมือนไปยืนพล่ามคนเดียวใส่หมาหน้าตึก นอกจากจะยังไม่สำนึกแล้วยังยิ้มร่าเหมือนยืนเย็นอยู่ในวังเอลซ่าให้เขาเห็นอีก
“โธ่ น้องโดโดนทิ้งหรอครับ ชานยอลมึงไปคู่กับคนอื่นดิ้ กูจะเปิดตำนานรักกับยาหยีของกู” เร็วกว่าประกันก็คงแบคฮยอนนี่แหละ ชานยอลเลิกคิ้วนิดหน่อยเป็นคำตอบว่าไม่ คนที่โดนเต๊าะในสถานการณ์ตึงเครียดอย่างโดคยองซูได้แต่ชูนิ้วกลางกลับไป ในหัวคิดหาทางออกเมื่อคนในคลาสเริ่มที่จะมีคู่กันหมดแล้ว สายตาพยายามโฟกัสหาคนที่นั่งคนเดียวไปทั่วห้อง และแล้วมันก็หยุดอยู่ที่คนๆหนึ่ง
คนๆนี้ที่ไม่มีใครนั่งด้วย โดคยองซูเข้าใจได้ดีเลยว่ามันเป็นเพราะสังคมรังเกียจ
ไอ้แว่นหนาเตอะเลื้อยไปตามโต๊ะในวินาทีที่เขาไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาง่วงๆมองลอดผ่านแว่นนั้นเหมือนกำลังส่งเครื่องหมายคำถามให้กับเขา คยองซูไม่อิดออดนานให้เสียเวลา
“มีคู่ยัง คู่กันป่ะ” คยองซูเผลอขมวดคิ้วกับคำพูดกำกวมของตน อะไรมาคู่กงคู่กัน นี่พูดอะไรออกไปเนี่ย
“ว่าจะทำคนเดียวอ่ะ” เสียงนั้นเหมือนยังไม่สร่างขี้ตาดี คนผิวคล้ำหาวใส่หน้าเขารอบหนึ่งจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ นี่อุตส่าห์ถ่อมาถึงหน้าห้อง หน้าด้านมาขอทำงานคู่ด้วยแต่กลับโดนทำหยิ่งใส่โดยการปฏิเสธอย่างไม่ไยดีแบบนี้มันใช้ได้ซะที่ไหนกัน นี่ไม่อยากจะบอกเลยว่าเขาน่ะ ทั้งพิมพ์เร็วจนเสมียนเรียกพ่อ บ้านมีเครื่องปริ้นท์พร้อมอินเตอร์เน็ตครบครัน โน๊ตบุคก็แบกมามหาลัยได้ สปอร์ต ใจดี นิเทศแบบนี้ ใครปฏิเสธนี่ถือว่าโง่มากๆเลยเหอะ
อ่อ มีโอเซฮุนแล้วคนนึง
โอเค โอเซฮุนไม่นับ มันโง่
“ทำคู่ด้วยก็ได้ ขี้เกียจอยู่เหมือนกัน” เสียงเนือยๆนั่นตามมาในเวลาไม่กี่วินาที บางทีจงอินก็รู้สึกแปลกๆกับดวงตากลมโตที่จ้องมาอย่างไม่ลดละนั่น จะสาปแช่งก็ไม่ใช่ จะด่าในใจก็ไม่เชิง สุดท้ายเขาก็ตกปากรับคำไปแบบหล่อๆ ดูมีคุณค่าขึ้นมานิดนึงที่คำตอบนั่นดูจะเล่นตัวเหลือเกิน
คิมจงอินเป็นบรรพบุรษของความน่าหมั่นไส้จริงๆ คยองซูนี่อึ้งไปเลยกับความมั่นหน้าอย่างเสมอต้นเสมอปลายของไอ้แว่นคนนั้น ดู มีการเล่นตัวก่อนตอบตกลงด้วย แค่ฟังตีนก็สั่นยิกๆ คนอะไรมั่นหน้าทุกเศษเสี้ยววินาที น่าจับส่งไปวิ่งเล่นในหลุมดำเล่น
“แล้วจะเริ่มทำเมื่อไร” คยองซูถามกลับ ในมือสไลด์โทรศัพท์เปิดปฏิทินดูวันส่งงานคร่าวๆ มีเวลาทำเต็มๆถึงสามอาทิตย์ ดูจากทรงเนื้อหาก็ไม่ได้มากมาย อาทิตย์เดียวก็น่าจะเสร็จ
“พรุ่งนี้ตอนเย็นว่างมั้ยล่ะ เริ่มเร็ว เสร็จเร็วจะได้รีบๆจบ” คนตัวเล็กกว่าพยักหน้ารับ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านอกจากชื่อ รูปพรรณสัณฐาน และคณะเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไอ้แว่นนี่เลยสักนิด แล้วจะตามตัวมาทำรายงานกันยังไง
“มีไลน์มั้ย จะได้ติดต่อกันสะดวกๆ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าคยองซูก็ยื่นโทรศัพท์ในมือให้จงอินกดไอดีให้ตัวเองแอดเพื่อนเสร็จสรรพ หมดประโยชน์ที่จะต่อบทสนทนาคยองซูก็เดินกลับมานั่งที่เสียดื้อๆเลย ตากลมๆจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับปากที่เริ่มบิดเป็นรูปสระอิ รูปดิสไลน์จงอินนั่นมันน่าหมั่นไส้สิ้นดี คิดว่าใช้รูปขาวดำแล้วจะกลบเกลื่อนผิวดำๆนั่นได้หรอ พอกดเข้าไปในไทม์ไลน์แล้วก็พบว่าคนที่โดนคิมจงอินต้มตุ๋นนั้นมีอยู่จริง ไม่รู้สาวจากไหนเยอะแยะแห่กันมาส่งหัวใจให้เป็นร้อย นี่ท็อปเจริญมีโปรโมชั่นตัดแว่นสามัคคี หรือบุฟเฟ่ต์ตัดแว่นไม่อั้นไรงี้มั้ย ว่าจะพาผู้หญิงพวกนี้ไปใช้บริการกันให้รู้แล้วรู้รอด
การสังคายนาแอพไลน์ในใจจบลงเมื่อโทรศัพท์ของคยองซูสั่นด้วยแรงใกล้เคียงกับแผ่นดินไหวพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนที่ไม่ต่างอะไรจากไซเรน คนที่กำลังเพลิดเพลินแทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือกับพฤติกรรมก้าวร้าวของมือถือลูกรัก แน่นอนว่าแอพพลิเคชั่นเจ้าปัญหาที่เป็นต้นเหตุของทั้งหมดก็คือไลน์นี่เอง ไม่รู้ไอ้บ้าซาตานที่ไหนทักมาตอนนี้ ถ้าเป็นใบโคลเวอร์นะมึง...เดี๋ยวมึงเจอพี่คยองซูซอยแปด
KIM JI
ใช่คนที่ทำรายงานด้วยกันป่ะ
ย่อยยากกว่าถุงพลาสติกก็คิมจงอินแล้วครับ นินทาในใจไปไม่เท่าไรพี่แกเล่นทักมาเลย ว่าแต่ห่างกันแค่ตูดมาก้นแค่นี้จะไลน์มาทำไมให้เมื่อยนิ้ววะ
D O
อ่า
KIM JI
ชื่อไรนะ
….
สิ่งที่อีกฝ่ายไลน์มาทำให้หน้าคยองซูกระตุกนิดหน่อย รู้สึกเสียเซลฟ์เหมือนทิชชู่แจกฟรีแต่ก็ยังไม่มีใครเอา อะไรกันวะ เจอหน้ามาไม่รู้กี่ครั้งยังไม่รู้อีกว่าเขาชื่ออะไร พฤติกรรมแบบนี้แถวบ้านพี่เรียกอ่อนหัด
D O
ชื่อโทมินจุน
“น้องคยองซูของพี่นี่ไวไฟใช่ย่อยนะ เห็นเมื่อกี้ไปจับคู่ทำงานกับเขาแหม่บๆ นี่คุยไลน์กันแล้วหรอ” แบคฮยอนปากยื่นปากยาวเสนอหน้าเข้ามาอ่านบทสนทนาที่เขาพิมพ์ค้างไว้ คนโดนล้อเลียนเอาไอโฟนหกพลัสที่เป็นลูกหลานกระดานชนวนตบเข้ากลางดั้งไอ้เพื่อนเนรคุณ แม้จะโดนทำร้ายร่างกาย แต่นักศึกษาผ่านศึกอย่างแบคฮยอนก็ยังพ่นความอกุศลในหัวออกมาอย่างนันสต็อป
“แล้วนั่นอะไรเล่นมุกโทมินจุน เดี๋ยวนี้โลกเขาหมุนหนีมนุษย์ต่างดาวแล้ว ตอนนี้เขาฮิตละครเรื่องนี้กัน ที่พระเอกมีเมียน้อย แล้วเมียน้อยแม่งไม่ทำอะไรเลยนอกจากเรียกพระเอกว่าชักกานิมๆแม่งทั้งเรื่อง...”
สำหรับแบคฮยอนแล้ว การอมยางลบดูจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด คยองซูที่เพิ่งจะยัดยางลบเข้าปากเพื่อนไปรู้สึกพอใจขึ้นมาอีกสองระดับเมื่อเสียงน่ารำคาญนั้นเงียบไปสักที แว่วเสียงงุ้งงิ้งว่าจะอดข้าวอดปลาประชดมาจากทางแบคฮยอน แต่คยองซูก็หาได้สนใจไม่ ร่างเล็กหันกลับไปสนใจโทรศัพท์ที่สั่นอีกครั้งพร้อมกับข้อความใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
KIM JI
ถ้าไม่บอกจะเรียกชื่อนี้จริงๆนะ
ในโลกนี้ไม่เคยมีอะไรที่พอดีและเดินทางสายกลางอย่างสมบูรณ์ ถ้าเปรียบเทียบกับสายพิณ แบคฮยอน เซฮุน ชานยอล เป็นตัวอย่างของสายพิณที่ย้วยยิ่งกว่ากางเกงในตลาดนัดที่พลิกด้านใส่กลับไปกลับมานานนับสิบปี ในขณะที่คิมจงอินคือสัญลักษณ์ของความตึงยิ่งกว่าหน้าอาม่าฉีดโบท็อกซ์ หรือจะให้พูดสั้นๆ นักปราชญ์โดคยองซูคงต้องบอกว่า ไอ้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคิมจงอินนี่มันไร้อารมณ์ขันแบบสุดขั้วเลยครับจอร์ช
D O
ชื่อคยองซู
KIM JI
ฉันชื่อจงอินนะ พรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วจะไลน์บอก ถ้าเลิกก่อนไปรอที่ห้องสมุดได้เลย
D O
โอเค
และแล้วบทสนทนาและเสียงชวนปวดหัวของแบคฮยอนก็จบลงแค่นั้น คยองซูวางมือถือลง และจ้องท้ายทอยของเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี จงอินหลับไปอีกแล้ว ถึงแม้จะสิบนาทีท้ายคาบมันก็ยังเก็บแต้มการหลับไม่เลิก ถือว่ามีความกล้าระดับตำนาน ซึ่งแน่นอนว่าคยองซูก็ยังคงหมั่นไส้ไม่เลิก
แล้วอะไรคือการที่เขารู้สึกว่าอยากทำรายงานไวๆวะ
อัพแล้วน้าาาาาา คือไม่ได้อัพนานมากกกกกกกก จนคนถามว่าตายไปแล้วหรอออ
ยังค่ะ ยัง มาเสิร์ฟแล้ว ๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ไม่รู้จะพิมพ์ไรเหมือนกัน เอาเป็นว่าคัมแบคคค งิ
โม่งสอง
----------------------------------- 50% -------------------------------------------
แม็คก็คิดนะว่าจะดองกันไปถึงไหน
ค่ะ ฟิคปุจฉาเป็นลูกเมียน้อยค่ะ 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ตอนนี้โม่งหนึ่งติดเกมขึ้นวิกฤตค่ะ Love Live! School Idol ค่ะ เป็นเกมกุ๊งกิ๊งที่ทำให้โม่งหนึ่งอู้ไม่ยอมแต่งฟิคค่ะ
นั่นแหล่ะค่ะ ในฐานะที่น้องปุจฉาเป็นลูกเมียน้อย จะทอล์คน้อยๆค่ะ
อิอิอิอิอิอิอิอิ
โม่งหนึง
น้องโม่งฉองเพิ่งกลับมาจากทะเลข่ะ นี่โดนแตนทะเลต่อยเป็นกองทัพ ขางี้ลายอย่างกับตุ๊กแก
เมอร์รี่คริสต์มาสแฮปปี้นิวเยียร์ฝุดๆ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย
ตอนนี้ติดซุปตาร์เอสเอ็มค่ะ นอกจากไม่แต่งฟิคแล้ว นี่ยังไม่ทำอะไรนอกจากหายใจกับสไลด์โทสับ
ไร้คุณค่าทางสารอาหารสิ้นดี ไปเที่ยวๆอยู่เกรดแม่งออกเฉยเลย โอ้โห ผมนี่อยากถีบตัวเองลงทะเลมาก
ยังดีที่ในเกรดไม่มีฝูงปลาให้ใจหายเล่น ฮือ
ไม่รู้จะบ่นไรละง่วงงงง ซียูนะลูกเมียน้อย ฮิฮิ
โม่งฉอง
ความคิดเห็น