คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 02 {100%}
02
คำขอของคยองซูไม่เป็นไปตามนั้น
บางทีโลกก็กวนตีนเรา และโลกก็ยังจะกวนตีนเราอยู่แบบนั้นเรื่อยไป คล้ายๆกับเวลารอรถเมล์สายหนึ่ง และพบว่าแท็กซี่เต็มถนน พอเปลี่ยนมารอแท็กซี่ ก็จะพบว่ารถเมล์เต็มถนน คยองซูคิดว่าไอ้สิ่งที่เขาพบเจออยู่ก็คือเหตุการณ์คล้ายๆกัน
เขาใช้ชีวิตอย่างสวยงามอยู่ดีๆ พระเจ้าก็ส่งคิมจงอินไอ้เนิร์ดมั่นหน้ามาเรียนวิชาเลือกวิชาเดียวกันกับเขาอีกครั้ง แถมคราวนี้นั่งข้างหน้าเลย หน้ากูเลย ห่างกันอยู่ศอกนึงได้ จะด่าก็ด่าไม่ถนัด หัวสีดำของคนที่ไม่รู้ว่าไปติดอยู่ในเพจคิ้วท์บอยได้อย่างไร หันไปทางไหนก็เห็นตัวหัวทุยๆของไอดำมั่นหน้านั่น เกะกะสายตามาก
วิชาคาบบ่ายวันนี้คือวิชา Sexual development หรือการพัฒนาการทางเพศ สาเหตุที่คยองซูเลือกเรียนก็เพียงเพราะว่ามันโดดได้ เก็บคะแนนง่าย ปากต่อปากว่าได้เอถ้าตั้งใจอ่าน แถมคนลงมีตั้งสองร้อยคน ไม่น่ามีการเช็คชื่อบ่อยๆให้เหนื่อยใจ อีกอย่างแบคฮยอนที่เป็นคนหามาก็มัดมือชกให้เรียน ยัดเยียดลงให้ทุกคนในกลุ่ม
แต่ใครจะรู้ว่าของแถมจะเป็นคิมจงอิน
“มึง ขวัญใจมึงแน่ะ” ชานยอลทำหน้าที่เพื่อนที่ดีด้วยการสะกิดแขนเขายิกๆ ทำยังกับจะมองไม่เห็น นั่งอยู่ข้างหน้าเป็นหนังสี่ดีเนี่ย ”ขอไซน์เร็ว”
“ระหว่างหูกางกว่าเดิมกับไม่มีหูมึงเลือกอะไร”
“อูย ขอโทษครับคุณท่านโด” ชานยอลก้มหัวปะหลกๆ คยองซูหมั่นไส้จนต้องตบหัวอีกฝ่ายแก้คันไม้คันมือ ไม่เข้าใจพวกเพื่อนอกตัญญูพวกนี้จริงๆว่าทำไมต้องพยายามในการยัดเยียดจงอินให้เขาเหลือเกิน ความจริงคยองซูก็แค่หมั่นไส้คิมจงอินเหมือนกับคนอื่น แล้วทำไมคนอื่นไม่โดนบ้างวะ อันนี้คือคำถามที่ผุดขึ้นในสมองประมาณสามวินาทีก่อนที่จะหายไปเมื่อเห็นแบคฮยอนกระหืดกระหอบเอากระเป๋ามาวางบนเก้าอี้ข้างๆ ตามด้วยเซฮุนเป็นคนถัดไป
“อาจารย์มายัง”
“ถ้ามามึงก็เห็นละ มีตาก็หัดใช้” คยองซูตอบเสียงนิ่ง พลางหยิบสมุดขึ้นมาวางไว้ข้างหน้า เซฮุนเองก็หยิบสมุดขึ้นมาวางบนโต๊ะเช่นกัน แต่แค่หน้ากระดาษเป็นสีดำทุกหน้า คยองซูมองสมุดสีดำ สลับกับหน้าเซฮุนอยู่สองสามครั้ง ”คุณโอครับ พ่อเป็นฮาเดสเหรอครับใช้สมุดสีดำ”
“กูใช้ เพราะกูหล่อ”
“เออ สุดหล่อ หน้าตาดีๆแบบนี้ใครๆก็เรียกไอ้หล่อเหลา ถุ้ย” แบคฮยอนร้องเพลงเสริมให้ ก่อนที่จะถุยแถมออกมาให้เป็นรางวัล เซฮุนทำหน้ามึนๆ และคยองซูก็ทำหน้านิ่งๆ พอมองภาพรวมแล้วก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาดื้อๆ ”ตั้งใจเรียนดิ่ อาจารย์เข้าละ อย่าให้เสียชื่อผู้ชำนาญเพศศึกษา”
“กูถนัดภาคปฏิบัติว่ะ ทฤษฎีกูไม่ยุ่ง” ชานยอลแทรกขึ้นมา พร้อมด้วยสีหน้าภูมิใจ คยองซูกลอกตาด้วยความเอือมระอาในโรคมั่นหน้าระยะสุดท้ายของเพื่อน คือมันน่าหมั่นไส้ตั้งแต่ก่อนลงทะเบียนเรียนวิชานี้จนกระทั่งวันเรียนคาบแรกก็ยังทำตัวน่ากระทืบไม่หาย อวดอยู่ได้ว่าตัวเองเก่งทั้งๆที่ไม่มีใครถามมันเลยสักคน
“เออ ซักวันขอให้มึงจมอ่างตาย”
“น้องคยองซูเลเวลหนึ่งอิจฉาพี่ก็บอก”ชานยอลยังไม่เลิก คยองซูย่นจมูก ทำสีหน้าเหมือนจะพุ่งไปเทคดาวน์ชานยอลภายในสามวินาที ตั้งแต่เปิดเทอมปีสามมาก็เหิมเกริมขึ้นเยอะ เดี๋ยวจะสอนให้รู้ว่าอันไหนของจริง “เดี๋ยววันหลังพี่พาไปลงอ่าง เปิดประสบการณ์ อุ้ย”
“สมควร” แบคฮยอนหัวเราะซ้ำเติมทันทีเมื่อเห็นคยองซูเตะหน้าแข้งชานยอลซ้ำเข้าให้ ก่อนที่จะเงียบเสียงลงกะทันหันเมื่อเห็นอาจารย์เข้าห้องมาสอน คยองซูสงบศึกชั่วคราว หันมาให้ความสนใจกับอาจารย์หน้าห้องแทน
คาบแรกเป็นแค่การบอกการเรียนคร่าวๆว่าต้องเรียนอะไรบ้าง อาทิตย์ไหนสอบมิดเทอม อาทิตย์ไหนเรียนเรื่องอะไร มีงานส่งไหม มีควิซย่อยกี่ครั้ง คยองซูก็ได้แต่จดๆลงประมวลรายวิชาให้พอเป็นพิธี ความจริงก็ไม่ได้แคร์อะไรเท่าไร แต่ถ้าลืมวันสอบ ลืมส่งงานนี่ก็ไม่ขำเหมือนกัน
“ไหนบอกได้คะแนนง่ายเหมือนไหว้หมาไงวะ วิชาท่องจำเยอะขนาดนี้ สงสัยช่วงสอบกูต้องเอาลูลู่ที่สองไปฝากเลี้ยงที่โรงพยาบาลสัตว์ละ”
“ลูลู่ที่สองนี่ใช่กัลปังหามึงป่ะ” แบคฮยอนถามขึ้นมา โอเซฮุนมีเซนส์การตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงได้โคตรเซฮุน จำได้รางๆว่าลูลู่ที่หนึ่งคือนกฮูกตัวแรกของมันที่สถานภาพตอนนี้คือบินหนีไปเอาดีทำอาชีพส่งจดหมายแถวฮอกวอตส์เรียบร้อยแล้ว /หรือพูดสั้นๆคือหาย
“ไม่ๆ นั่นลูลู่ที่สาม” เสียงโมโนโทนนั่นดูเหมือนจะสูงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเพื่อนจำชื่อสัตว์เลี้ยงของตัวเองผิด ใบหน้าที่แสดงอารมณ์เดียวตลอดเวลาเริ่มเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมานิดหน่อย
“แล้วสรุปลูลู่ที่สองของมึงคือตัวอะไรวะ” คยองซูที่นั่งฟังมาสักพักแล้วถามขึ้นมาบ้าง เห็นบอกจะเอาไปฝากนี่คงจะเป็นสัตว์เลี้ยงจำพวกหมาไม่ก็แมว
“แพลงตอน” นี่ก็เป็นอีกโมเมนต์ที่ทุกคนทำหน้าเหมือนโดนหมาฉี่รดใส่ขาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พอรู้ว่าเพื่อนคิดจะเอาแพลงตอนไปฝากเลี้ยงที่โรงพยาบาลสัตว์บทสนทนาก็ถูกตัดทิ้งโดยทันที จู่ๆสิ่งที่อาจารย์แรพอยู่หน้าห้องก็ดูน่าสนใจขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อเทียบกับหัวข้อแพลงตอนอะไรนี่ ปล่อยให้เซฮุนวางแผนจัดการสัตว์เลี้ยงในช่วงสอบต่อไปด้วยความจริงจัง คนเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงทั่วโลกทำหน้าเซ็งเป็นพักๆจนสังคมรำคาญ คยองซูเบนสายตาไปทางอื่น ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่คนข้างหน้า
“วันนั้นเห็นอยากเรียนจนตัวสั่น แล้วทำไมวันนี้ถึงนั่งหลับวะ”
คยองซูสะกิดแขนแบคฮยอนเล็กน้อย ปากก็นินทาเจ้าของผิวสีดำปิ๊ดปี๋ที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะไปด้วย แผ่นหลังที่ขยับขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอบอกได้ดีว่าเจ้าตัวคงกำลังหลับลึกอยู่แน่ๆ หน้าตาดูหลับสบาย คล้ายกับเห็นโต๊ะเรียนเป็นเตียงนอน เสียงอาจารย์ระดับเซอร์ราวด์ดอลบี้ยังทำอะไรคนหลับไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับเสียงระดับลูกหลานตดอย่างคยองซูกัน
“หรือมันแอ๊บเนิร์ดวะ อยากดังข้ามคืนไรงี้ แต่ก็ได้ผลนะ รูปแม่งในเพจคิ้วท์บอยคนไลค์เป็นพันละ เซฮุนนี่ได้ลงตั้งแต่ปีที่แล้วคนไลค์ยังไม่ถึงสามสิบ”
แบคฮยอนขยับแว่นที่เหมามาจากตลาดนัดหลังมอด้วยท่าทางนักวิชาการเต็มที่ ซึ่งทำไปก็เท่านั้นเพราะไม่มีใครสนใจเลย ชานยอลก็นั่งรัวไลน์คุยกับอีพี่คริส เซฮุนกำลังหาสัตว์เลี้ยงมือสองในเว็ปอยู่จึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ได้แต่หันมาทำตาลอยๆใส่ก็แค่นั้น
คยองซูขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินคำว่าคิ้วท์บอย ก่อนจะไล่สายตาพิจารณาคนตรงหน้า ... ก็ไม่ได้จะอะไรหรอกนะ แต่มันคิ้วท์ยังไงวะ ส่วนไหนในร่างกายของคิมจงอินที่สามารถนิยามด้วยคำว่าคิ้วท์ได้
บอกตามตรง แค่เห็นกระดุมเสื้อที่ติดทุกเม็ดแบบไร้ศิลปะ คยองซูก็แทบจะยิงทิ้งให้ไปเกิดใหม่แล้ว
“คราวหน้าถ้าอาจารย์เดินออกจากห้องกูจะรีบไปเคลมเลย เผื่อรูปกูในเพจคิ้วท์บอยจะมีคนไลค์ขึ้นมาบ้าง” ปากก็แรพ มือก็รัวไม่แพ้กัน เปล่า...ชานยอลไม่ได้รัวมือเพื่อจดอะไรทั้งนั้น แต่เขากำลังเล่นเกมซูเปอร์สตาร์เอสเอ็มอย่างเมามัน เท่านั้นยังไม่พอ ยังอุตส่าห์เสียบสายชาร์ตทำตัวเป็นปรสิตห้องเรียนอีก
ตั้งแต่เปิดเทอมนี่เขาสาบานว่าเห็นชานยอลทำอยู่สองอย่าง เล่นซุปเปอร์สตาร์เอสเอ็มทาวน์ กับคุยไลน์กับพี่คริสของมันนั่นแหล่ะ
บางทีคยองซูก็สงสัยนะ เพื่อนกูแม่งแอดมิชบั่นเข้ามหาลัยมาได้ยังไงวะ วันๆไม่เห็นจะเรียนอะไร ขยะยังมีสาระกว่ามึงอีก
“อ่าวๆ ท่านโดครับ อาการแบบนี้ผีปลากัดเข้าสิงสินะ อยากท้องกับเขาก็เดินไปสู่ขอตรงๆก็ได้ จ้องขนาดนั้นไม่ได้ผลหรอกครับ” คนถูกเรียกชะงักก่อนที่กระเป๋าที่แบกหนังสือของโดคยองซูทั้งใบจะขึ้นไปอยู่บนหัวชานยอลเต็มๆ
“ท้องบ้านมึงสิ”
“โธ่ น้องชอบคนหลับก็ไม่บอกพี่ รู้งี้พี่แบคหลับให้ดูตั้งแต่ปีหนึ่งละ ป่านนี้ลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง มีใช้ไปจนแก่เลยนะที่รัก”
นอกจากพระเจ้าจะส่งคิมจงอินลงมาเรียนเซคเดียวกับเขาแล้ว ท่านยังทรงEMSชานยอลกับแบคฮยอนมาเป็นเพื่อนเขาอีก บางทีก็สงสัยว่าชาติที่แล้วเขาเคยเผลอถีบใครสักคนตกทะเลตายไปหรือไง ชีวิตเขาถึงได้มีผีทะเลแบบนี้อยู่เต็มไปหมด
“คยองซู คิดว่าไงถ้าแอบถ่ายรูปคิ้วท์บอยหลับลงเพจ”ยังไม่พอ ยังมีมนุษย์อ่านบรรยากาศไม่ออกอย่างโอเซฮุน จอมือถือที่มีรูปคนหลับถูกแต่งสีสไตล์มัวๆถูกยื่นมาให้ดู ”ให้นายตรวจก่อนเลยนะ เห็นว่าเป็นแฟนคลับเค้าอย่างเหนียวแน่นขนาดนั้น”
“เงียบบ้างก็ได้นะ ถ้าชีวิตนี้ยังอยากสื่อสารด้วยคำพูดอยู่” ถ้าเอาปากกาแทงคอเพื่อนแล้วไม่ติดคุกคยองซูคงทำไปนานแล้ว แน่นอนว่าชานยอล เซฮุน แบคฮยอนปิดปากเงียบอย่างกับโดนช้างเหยียบตาย โลกที่เคยวุ่นวายดูสงบขึ้นมานิดนึงเมื่อเพื่อนเริ่มหาอะไรอย่างอื่นทำนอกจากกวนตีนเขาสักที ชีวิตก็เหมือนจะดีขึ้นเมื่ออาจารย์เลิกพูดถึงการดร็อปให้แสลงใจเล่นแล้วเริ่มที่จะสอนเนื้อหาอย่างจริงจัง
และจังหวะนั้นเจ้าของผิวสีแทนที่จะขาวก็ค่อยๆโงหัวขึ้นมาก่อนที่จะนั่งตัวตรง คนเพิ่งตื่นนั้นมีสภาพไม่ต่างอะไรกับหมาโดนรถชนในสายตาคยองซู จงอินหันซ้ายหันขวาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเจ้าตัวก็ลงไปนอนฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิม
แม่งมาเรียนทำไมวะ อาจารย์พึ่งเริ่มสอนมึงนอนลงไปได้อย่างไร
แต่จากนั้นไม่นานนัก คยองซูเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
“มึงตั้งใจเรียนหน่อยดิวะ วิชานี้โตไปใช้ทำมาหากินนะเว่ย”
“กูจะไม่โกรธมึงเลยถ้ามึงไม่พูดคำนี้ในวิชาปลูกข้าว ไอ้ที่ขูดมะพร้าว” ชานยอลที่โดนเกมดูดเข้าไปแล้วด่าเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์(เป็นชุด) แบคฮยอนยักไหล่ไม่ใส่ใจแถมยังมีหน้าไปเอาหัวไถคยองซู ซึ่งก็ได้นิ้วกลางออกมาเป็นคำทักทายอย่างเยือกเย็นตามความคาดหมาย หลังจากที่คิมจงอินได้เปิดตำนานความน่าหมั่นไส้ระดับไตรภาคไปเมื่อคาบก่อน วันนี้ก็ถือว่าเป็นการเรียนวิชาปลูกข้าวครั้งที่สองของคยองซู ที่ตอนนี้ยังงงๆอยู่ว่าตกลงวิชานี้มีคุณค่าทางสารอาหารยังไง
นี่กูลงทุนตื่นแหกขี้ตาตื่นตีห้า รอรถเมล์ขับช้ากว่ารถไฟคุณป้า แล้วมานั่งหน้าเมาในห้องเรียนทำไม เส้นใหญ่นักใช่มั้ยถึงได้สร้างวิชาที่เรียนเช้าขนาดนี้ (เขวี้ยงเลคเชอร์)
“วิชาในตำนานของน้องคยองซู นี่ได้มองหาคิ้วท์บอยขวัญใจอีกรึเปล่าครับ” แบคฮยอนไม่รู้จะทำอะไร ในคาบเรียนนอกจากนอนแล้วก็ไม่มีอะไรทำ แต่พอดีแบคฮยอนเด็กอนามัยจิตใจแจ่มใสได้นอนเต็มอิ่มแล้ว เลยตัดสินใจหันมากวนตีนเพื่อนคนเดียวที่เตี้ยกว่าเป็นการผลาญเวลาเล่น คยองซูวางปากกาแล้วหันมาทำหน้ากินเลือดกินเนื้อใส่คนพูด แบคฮยอนหัวเราะแบบไม่มีเสียงเป็นการซ้ำเติม คนโดนแซวก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหันไปนั่งฟังอาจารย์ต่อ
ที่จริงคือนั่งเหม่อมองกระดานแบบง่วงๆมากกว่า
“ไม่ต้องมองแล้ว พี่แบคฮยอนหาให้เอง” ยัง แบคฮยอนยังไม่เลิก มือยังคงหันไปกระตุกแขนเสื้อคยองซูเพื่อเรียกความสนใจ มือก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปเรื่อย คยองซูพยายามทำเป็นไม่ได้ยินเสียงชี้ชวนด้วยความรำคาญส่วนตัว แต่สายก็อดมองตามนิ้วแบคฮยอนไปไม่ได้ พอเห็นคิมจงอิน มนุษย์น่าหมั่นไส้ที่สุดในโลกนั่งอยู่ตำแหน่งที่ห่างจากเขาไปเพียงสองที่นั่งทางขวา และสองที่นั่งนั่นก็ว่างเสียด้วย ปากรูปหัวใจก็เบะออกแบบหมั่นไส้
ตอนกลางวันก็เจอ ใครจะไปคิด กับอีแค่ผ่านไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์หน่อยเดียว ตอนต่อแถวซื้อไก่ทอดอยู่ก็เจอกันจนได้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมึนเสียจนไม่สนใจอะไรรอบข้าง แถมตอนนี้ก็มานั่งใกล้กันอีกต่างหาก แค่คิดคยองซูก็ผื่นจะขึ้นละ
ทำหน้าง่วงแบบนี้ตลอดเวลา เอาเตียงมาผูกหลังเลยมั้ย จะได้ไม่เป็นภาระหนังตา
“มองตาไม่กระพริบเลย ทำไมกับพี่แบคฮยอนไม่ทำแบบนี้บ้าง”
“บ้านพี่มึงดิ่”
“ล้อแค่นี้ทำเป็นโกรธ” แบคฮยอนทำท่าผวาแบบที่เห็นแล้วน่าเอาเท้ายันหน้าหงาย คยองซูหันกลับมามองสมุดที่กางอย่างว่างเปล่าบนโต๊ะ ไร้ร่องรอยการจดใดๆ ”วิชานี้โคตรน่าเบื่อเลย นี่หลับจนไม่รู้จะหลับยังไงละ ยังไม่ยอมหมดเวลา”
“คยองซู ชิบหายแล้ว” อยู่ดีๆชานยอลก็วางมือถือในมือลงและทำหน้าแตกตื่น ขัดจังหวะแบคฮยอนแบบดื้อๆ ดูจากรูม่านตาที่ขยายเพิ่มขึ้น หูที่กางมากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่านึงแล้ว น่าจะเป็นวิกฤตการณ์ระดับชาติ คยองซูหันมาทำหน้าเอือม ในหัวคิดถึงความเป็นไปได้ร้อยแปดที่ชานยอลจะพูดขึ้นมาในตอนนี้
ดูจากสาระในชีวิตชานยอล คงไม่พ้นเรื่องเกมหรือไม่ก็โทรศัพท์แบตใกล้หมดแล้วเสือกลืมชาร์ทพาวเวอร์แบงค์มาแน่ๆ
“มีอะไรครับคุณชานยอล แรงค์มึงตก หรือเปิดการ์ดได้ซ้ำ” เซฮุนยื่นหน้าเข้ามาส่งเสริมในการด่า ในมือของเซฮุนมีหนังสือหน้าปกแปลกๆที่เดาว่าข้างในจะเต็มไปด้วยคำคมการใช้ชีวิตสุดเท่ ในมือถือเปิดแอพ Pinterest ทิ้งไว้ ชานยอลส่ายหัวรัวๆแล้วชี้ไปหน้าห้อง
“อาจารย์จะควิซว่ะ”
หน้าสั่น เป็นกิริยาที่ใช้บรรยายทุกชีวิตที่อยู่แถวๆนั้น คยองซูยังคง Keep Cool เหมือนเดิม แต่ในหัวเหมือนมีใครมาเปิดบิลบอร์ดริมทางด่วน พร้อมป้ายกระพริบไฟว่า ‘ควิซบ้านพี่มึงดิครับ’
เขารับเอสี่เปล่าที่ถูกส่งต่อมาจากข้างหน้าอย่างใจเย็น ในหัวก็คำนวนหาทางรอดไปด้วย
เอายังไงดีครับโดคยองซู ตั้งแต่เรียนมานี่รหัสวิชาคืออะไรยังไม่รู้ ถอนดีมั้ยกู หรือทำหน้าด้านใจสู้ไปเป็นผัวน้อยในตู้อาจารย์แลกเกรดดี
คำถามที่ขึ้นอยู่บนสไลด์แม่งพูดถึงอะไรเขายังไม่เข้าใจเลย นับประสาอะไรกับการตอบคำถามให้ได้คะแนนวะ เขาจับใจความได้รางๆว่าคำถามมันพูดถึงปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ KPN PVC KFC อะไรเกี่ยวกับเกษตรกรรมพวกนั้น และแน่นอนว่านักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่งอย่างเขา
จะ-รู้-เรื่อง-เชี่ย-อะ-ไร-ครับ!!
สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่นี่ ทำให้คยองซูรู้สึกได้ว่ากลิ่นของตัว F นี่ไล่มาเลย
“กูเท” เซฮุนวางกระดาษเปล่าลงบนโต๊ะอย่างชิวๆ ”เดี๋ยวความคิดสร้างสรรค์น่าจะมาตอนเค้าเรียกเก็บเองแหล่ะ กูเชื่อว่าในคลังข้อมูลของกูต้องมีอะไรเกี่ยวกับปุ๋ยซ่อนอยู่”
“สมองมึงเป็นปุ๋ยอะดิ” แบคฮยอนสวนกลับเข้าให้ "ปุ๋ยคอกด้วยดูจากเกรดแล้ว" สายตาก็กวาดไปทั่วห้อง เผื่อจะเจออะไรที่มีประโยชน์จากตรงนั้นตรงนี้ แน่นอนว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
“งั้นทำให้ลอกหน่อยครับคุณท่านชายบี” เซฮุนกระดิกนิ้วยิกๆ เรียกนิ้วกลางจากแบคฮยอนได้ทันที
“มึงว่าพี่คริสจะรู้ความแตกต่างของปุ๋ยและข้อบ่งชี้ กับสภาวะแวดล้อมอะไรของมันปะวะ โอ๊ย คำถามบ้าอะไรวะเนี่ย” ชานยอลทำท่าจะหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ไลน์หาคริส แต่เปลี่ยนใจกลางทาง ”ใช้กูเกิ้ลน่าจะโอเคกว่าถามพี่คริสว่ะ ชีวิตแม่งไม่เคยรู้อะไรทั้งนั้น แม่มันชื่ออะไรยังไม่รู้เลยมั้งนั่น”
“โห มึงนี่มัน” คยองซูทำสีหน้าเหลือเชื่อกับคนที่ใช้เทคโนโลยีในการทำควิซ เป็นศาสตร์การโกงอย่างหนึ่งที่ต้องหน้าด้านเอามากๆ แต่กับควิซไม่จริงจังน่าจะไม่อะไรมากนัก (ยกเว้นคำถามที่ต้องวิเคราะห์ซับซ้อนเนี่ยแหล่ะ กูเกิ้ลช่วยได้นิดนึง) เขาหันไปรอบๆห้อง แอบเห็นคนหยิบมือถือขึ้นมาเปิดหาคำตอบพอสมควร มีอะไรบางอย่างในใจกระตุ้นให้เขาหันหน้าไปทางขวา แน่นอนว่าเขาพบกับมนุษย์เนิร์ดที่เขียนคำตอบลงไปเกินสองพารากราฟ
คนที่สามารถตอบควิซวิชาปลูกข้าวเวรกรรมได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดหนังสือนี่เติบโตมายังไง เขาถูกเลี้ยงขึ้นมาแบบไหนกัน
“นายๆ อยู่คณะอะไรอ่ะ”
คยองซูแทบไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังทำแบบนี้ คนตัวเล็กกระเถิบไปสองที่นั่ง มือก็ขยับไปสะกิดไหล่คนตัวดำคนนั้นโดยที่สมองยังไม่ทันสั่งการ เขายิ้มแห้งๆให้อีกฝ่าย ในใจก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งที่เขาเผลอไปขอความช่วยเหลือจากคนที่หมั่นไส้
หมั่นไส้ก็ส่วนหมั่นไส้ ควิซตอนนี้อะไรก็ได้แต่กูต้องรอดตาย
นี่มันกลไกการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น ต่อให้เปิดหาข้อมูลแบบชานยอล หรือนั่งทางในแบบเซฮุนก็ไม่เร็วเท่าวิธีสุดคลาสสิกแบบการลอกควิซอีกแล้ว นี่แหล่ะวิธีทางแห่งการเป็นนักปราชญ์สไตล์คยองซู
“วิทยาฯ” จงอินตอบกลับมา แน่นอนว่าไม่ต้องแนะนำตัวคยองซูก็รู้ชื่อได้ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังกรอบแว่นนั่นยังคงดูหลุดมิติเหมือนเดิม ตาปรือๆนั่นแค่มองก็รู้สึกง่วงตามแล้ว”มีอะไรเหรอ”
คยองซูเงียบไปสองวินาที ผิวแก้มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สายตาที่มองตรงมายิ่งเพิ่มความอับอายให้เขา แต่สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดีนัก อาจารย์หน้าห้องทำท่าจะเก็บกระดาษควิซ แค่เห็นอาจารย์ขยับก็เป็นตัวกระตุ้นให้เขาหาทางออกให้ตัวเองเร็วขึ้นอีก
“ลอกหน่อยดิ”
เขารู้ว่าที่พูดไปฟังดูน่าเอากระดาษยัดปากมาก อยู่ดีๆมาขอลอกกันหน้าตาเฉย แต่ถ้าเขาไม่ทำก็ไม่มีทางรอด คยองซูจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง พยายามจ้องหน้าอีกฝ่าย โดยที่หวังว่าเขาจะดูน่าสงสาร ไม่ใช่ดูน่าหวาดกลัวเหมือนที่แบคฮยอนเคยบอกไว้
“อื้อ เอาไปดิ” จงอินยื่นกระดาษมาให้ด้วยใบหน้าไม่บอกอารมณ์ ยกเว้นอารมณ์ง่วง”ไวๆหน่อยนะ เดี๋ยวอาจารย์เก็บแล้ว”
“อ..เออ ขอบใจนะ” เขาถึงกับทำตัวไม่ถูก คยองซูก้มหน้าก้มตาหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาลอกด้วยลายมือที่เขาสาบานได้ว่ามันแย่ที่สุดในรอบยี่สิบเอ็ดปีที่ผ่านมา พยายามจับประเด็นมาเขียนเรียงลำดับใหม่ให้ดูเนียนๆว่าทำเอง เมื่ออาจารย์เรียกให้ส่งกระดาษคำตอบ เขาก็ลอกเสร็จพอดี เขาส่งกระดาษกลับคืนเจ้่าของโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย จงอินรับกระดาษใบนั้นคืนไปแล้วลุกขึ้นไปส่ง ทิ้งให้คยองซูนั่งแช่อยู่ตรงนั้น
ถึงจะให้ลอกควิซ แต่ความน่าหมั่นไส้ก็ไม่ลดลงอยู่ดีนั่นแหล่ะ
คยองซูย่นจมูก เผลอแลบลิ้นตามหลังจงอินไปอย่างไม่รู้สึกตัว ในใจก็นึกประโยคเดิมๆที่เคยนึกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ประมาณว่า ขออย่าให้เจอกันอีก อะไรแบบนั้น
เขาคิดแบบนั้นจริงๆนะ
-------------------------------------- 100% -----------------------------------------
อยู่ๆมันก็มา ผมนี่ยืนขึ้นเลย
สารภาพว่าโม่งอู้ค่ะ โดนไฟนอลแดก
นี่ยังแดกอยู่ ออกมาไม่ได้
ดังนั้น สู้ค่ะ จะสู้ สู้
โม่งหนึ่งคนนั้น ที่ทอล์คสั้นๆในวันนี้
มีไฟนอลในอีกสามชั่วโมง โอโห้
ผมนี่เข้ามาจัดหน้าฟิคเลยครัช
โม่งสอง (ขอลอกฮิวแมนรีเลชั่นหน่อย)
----------------------------------- 50% -----------------------------------------
นี่ฝ่าไฟนอลมา 5555555555555555555555555555555555
อีบ้า มีสอบวิชาเดียว แต่ไม่เคยฟังอาจารย์สอนเลย เป็นหมาแล้ว เป็นหมา 5555555555555555 เออ ขำ 5555555555555555555555555555555555555555555555555555
คนเราจะจำไปทำไมว่ารูปปั้นพระศิวะยกเท้าซ้ายเพื่อแสดงถึงการหลุดพ้น ในเทวาลัยชอร์มีศิวลึงค์ไว้บูชา เออ ทำไมเหรอ ทำไม 55555555555555555555555555555555555555555
โม่งหนึ่งกำลังเป็นบ้า คล้ายๆกับฟิคข้างบน 555555555555555555555555555555555555
ยิงมุกกันมั่วซั่วเหมือนพก AK-47 มาแล้วแต่งฟิคกันรัวๆ หรือไม่ก็ขว้างโมโลตอฟกันจนไฟลุก ฮือ
นี่เครียด นี่เป็นบ้า 5555555555555555555555555
คนเราจะรู้ไปทำไมว่าพระแม่คงคาไปซุกอยู่ในเส้นผมพระศิวะ เออ เพื่อไรอ่ะ 555555555555555555555555555555555555555555
ฮือ
ติดแท็ก #ฟิคปุจฉา เพื่อบรรเทาความคลุ้มคลั่งของโม่งหนึ่งค่ะ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ
โม่งหนึ่งที่เป็นบ้า
- - - - -
ไม่ทอล์คดีกว่า เดี๋ยวเสียสติเหมือนโม่งหนึ่งด้านบน
โม่งสอง
---------------
ภาษาอังกฤษแบบไหนก็เรื่องของนายสิ จะคิดโมเดลมาข่มกันทำไม โว๊ยยยยยยย
ไม่รู้เรื่องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง *ทึ้งหัว*
ความคิดเห็น