ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { fic exo } Question | kaido #ฟิคปุจฉา

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 01

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 57


    01

     

     

    ความวุ่นวายของการเปิดเทอมเป็นอะไรที่เขาคุ้นชินดี แต่ก็อดรู้สึกรำคาญไม่ได้ทุกครั้งในเวลาที่คนเป็นพันคนรอบตัวจับกลุ่มคุยกันในคาบวิชาแรกเหมือนฝูงนกกระจอกซักสิบฝูงตีกัน โด คยองซูฟุบหน้าลงกับโต๊ะ พยายามรวบรวมสมาธิในการหลับ ทั้งๆที่เสียงรบกวนข้างๆแทบจะทำลายโสตประสาทของเขาอย่างสมบูรณ์


    เจอหน้ากันวันแรกหลับได้ไงวะ เปิดเทอมทั้งที ลุกขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวของคุณ แชร์ประสบการณ์และความสนุกก่อนสิ

    พูดมาก ชานยอล มึงนี่ อยู่เงียบๆมั่งก็ได้นะไม่มีใครว่าอะไรคยองซูคำรามเสียงต่ำตอบเพื่อนหูกางที่ระริกระรี้เสียเหลือเกินกับการเรียนเซครวมพันกว่าคนที่เขาไม่เห็นว่ามันจะน่าสนใจตรงไหน



                แต่บอกตามตรงว่าไม่แปลกใจเท่าไหร่ ปาร์คชานยอลระริกระรี้กับทุกอย่าง ตั้งแต่ได้กินพิซซ่าเตาถ่านยันหมาข้างบ้านคลอดลูกแฝด


                แถมที่น่าปวดหัวกว่านั้นคือประโยคที่พูดออกมาก็เหมือนไปก๊อปข้อความออโต้บอทในเน็ตมาพูดอีก ชานยอลหันซ้ายหันขวา พูดไม่หยุดปากเกี่ยวกับคนสวยตรงนั้นตรงนี้ กิจกรรมตอนปิดเทอม เปิดเทอม กลางวันจะกินข้าวกับอะไร ตอนเช้ากินอะไรแล้วท้องอืด เมื่อวานยืดเส้นยืดสายท่าไหน อาทิตย์ที่แล้วขโมยเงินแม่ไปเท่าไหร่ เป็นต้น


               ”คนเยอะชิบหาย อาจารย์นี่ก็แปลกเนอะ มึงเข้าใจป้ะวะ กูคิดมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วยังหาคำตอบไม่ได้ ทำไมคนเราต้องกระเสือกกระสนสอนคนเป็นพันคนทั้งๆที่รู้ว่ามวลมหาประชาชนแบบนี้มันคุมยากวะ




    หลับๆไปเถอะมึงอะ พูดทีไรเหมือนอมไฟมาเผาคนรอบข้างพยอน แบคฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆคยองซูพูดขึ้นบ้างหลังจากนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับอินสตาแกรมร้านค้าอยู่นานสองนาน เห็นว่าซื้อสติกเกอร์ไลน์ลายมานีมีแชร์อะไรนี่แหล่ะเขาเองก็ไม่รู้จักเหมือนกัน  



    แบคฮยอนอยู่ในสภาพชุดนักศึกษาที่ไม่เหมาะกับคาบแรกเป็นอย่างยิ่ง กางเกงยีนส์ขาเดป เนคไทไม่มี เสื้อไม่รีด ซึ่งเจ้าตัวคิดเอาเองว่าดูเท่และคูลที่สุดในกาแล็กซี่ แต่พี่แบคฮยอนก็รักน้องคยองซูนะจ๊ะ



    พูดแล้วไม่มีสาระก็หุบปากเถอะมึงคยองซูถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เขารวบรวมสมาธิเข้ากับการนอนอีกรอบ แต่พอจะหลับปุ๊บ เสียงดนตรีก็ดังข้างหูปั๊บ ปาร์ค ชานยอลเปิดไอ้เกมส์สีม่วงๆที่มีเพลงแล้วจิ้มๆกดๆเอาตามจังหวะ แล้วกระหน่ำรัวนิ้วอย่างเมามัน แถมคนเดียวไม่พอ เพราะพี่แกเล่นเปิดลำโพงให้ทุกคนร่วมสนุกไปกับมันด้วย ทั้งที่สุดท้ายแล้วมันก็สนุกของมันคนเดียว เนื่องจากไม่มีใครยอมเล่นด้วยสักคน



              ‘พวกไร้ดนตรีในหัวใจ!! ชานยอลเคยด่าพวกเขาไว้เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่เอาเกมมาแนะนำแล้วโดนด่าว่าปัญญาอ่อนพวกมึงมันจิตใจหยาบกร้าน มือแม่บ้านตึกคณะยังนุ่มนวลกว่า



                ก็แล้วแต่มึงเลยครับชานยอล

     

    แบบนี้สวยป้ะไม่พอ ยังมี โอ เซฮุน พยายามยื่นหน้าจอมือถือที่เปิดโปรแกรมแต่งรูปค้างไว้ คยองซูหรี่ตามองรูปสีสันประหลาดๆ เทาจัดๆ คอนทราสต์ฟุ้งๆ เป็นรูปเซฮุนครึ่งหน้า คิ้วเป๊ะทุกเส้น ไม่ต้องลำบากเดาก็รู้ว่าอีกห้านาทีเดี๋ยวในไอจีจะมีรูปคนครึ่งหน้ากับแคปชั่นภาษาต่างดาวหรือเพิ่ม fade อีกหน่อย

    มึงแม่งฮิปสเตอร์แบคฮยอนบ่นขึ้นมา ยังไม่ทันจะทำอะไรมากกว่านั้น ในห้องเรียนที่เป็นสโลปสูงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเนื่องจากอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้อง เสียงจอแจเงียบลงไปในระดับหนึ่ง ก็แค่ระดับเล็กๆระดับหนึ่ง คือเล็กมากจริง อารมณ์แบบถ้านีนี่หมาหน้าคณะนอนอยู่มันคงลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งแล้วหลับต่อแบบไม่เกิดอะไรขึ้น


    คยองซูเริ่มเลื้อยลงโต๊ะอีกครั้ง อาจารย์เริ่มสอนงานนอนก็ต้องตามมา

    คยองซูเป็นนักศึกษาปีสาม คณะนิเทศศาสตร์ เป็นคนที่ภายนอกดูเงียบๆ แต่ก็ถูกต้องแล้ว คยองซูเป็นคนเงียบๆ แต่อย่าให้เปิดปากพูด ทุกคำกวนตีนเป็นที่หนึ่ง ขี้บ่นแบบไม่แสดงออก ติดการ์ตูน ติดเกมส์ มีปมด้อยอยู่นิดนึง ที่ถ้าใครเผลอตอกย้ำขึ้นมาจะเปิดโหมดทำลายล้างไปโจมตีทันที ซึ่งนั่นก็คือเรื่องส่วนสูงและกายภาพที่เล็กกว่าค่าเฉลี่ยนิดหน่อย

    กลุ่มของเขามีกันอยู่สี่คน และเป็นกลุ่มที่คยองซูคอยนึกตลอดทุกๆสามนาทีว่าเขาคิดผิดสิ้นดีที่เลือกเพื่อนแบบนี้



                คนแรก ชานยอล มนุษย์หูกางตัวสูง พูดมาก พูดได้เรื่อยๆจนเขาหลับ แล้วไอที่พูดมานี่ก็เป็นมุกแป้กสักครึ่ง พอไม่มีใครขำชานยอลก็ตบมือเปาะแปะให้มุกตัวเองได้แบบหน้าไม่อาย นอกจากนั้น มันยังเป็นคนที่หาสาระอะไรใดๆในชีวิตไม่ได้ ตอนกลางวันเล่นเกม กลางคืนออกเที่ยว ตอนเช้าเมาค้างมานั่งเล่นเกมในห้องเรียนต่อ บอกตามตรง ขยะยังมีสาระกว่าปาร์คชานยอล


    คนที่สอง แบคฮยอน มนุษย์เตี้ยอีกคนหนึ่ง พูดมากไม่แพ้ชานยอล แต่ที่แย่กว่าชานยอลคือแบคฮยอนชอบเห็นเขาเป็นเหยื่อในการเอาไปเต๊าะเล่นเสมอ โดยไม่ดูสภาพตัวเองเลยว่าเตี้ยม่อต้อแค่ไหน คยองซูก็คิดนะว่าไอ้ที่ด่าๆไปทุกวันไม่เคยกระทบกระเทือนจิตใจบ้างเลยเหรอ เห็นยิ้มรับหน้าชื่นตาบานทุกครั้งที่โดนเขาด่า


    คนที่สาม เซฮุน โอ เซฮุน คนที่ดูเหมือนพร้อมออกไปท่องต่างมิติตลอดเวลา เป็นอะไรที่เข้าใจยาก เอาจริงไม่มีใครเข้าใจมันเลยมากกว่า แต่ละกิจกรรมที่ทำนี่ก็เรียกได้ว่าแปลกเกินสปีชี่ส์มนุษย์เขาทำกัน เลี้ยงสัตว์แปลกๆ พืชแปลกๆ ตอนประถมเลี้ยงนกฮูกตามแฮร์รี่พอตเตอร์ พอขึ้นมหาลัยทำตัวฮิปสเตอร์เลี้ยงกัลปังหา ชอบถ่ายรูปครึ่งตัวครึ่งหน้าบ้าง หรือถ่ายหน้าต่างแล้วใส่แคปชั่นคำคมประจำวัน เวลาแชทรวมในกรุ๊ปก็ชอบพิมพ์ไม่รู้เรื่อง ตัวจริงก็พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ด้วยแล้วรู้สึกชีวิตลำบากขึ้นมาอีกสองสามเท่า

     
     

    นักศึกษารบกวนส่งประมวลรายวิชาต่อๆกันไปด้วยค่ะ ถ้าหมดแล้วมาหยิบเพิ่มข้างหน้านะคะเสียงอาจารย์ที่พยายามเพิ่มระดับความดังด้วยไมค์ลอยทะลุความง่วงซึมยามเช้าของเขาเข้ามา คยองซูฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เสียงจ้อกแจ้กจอแจรอบตัวยังคงดำเนินต่อไปจนเขาหลับไม่ลง


    มึง เห็นทัมป์ไดรฟ์กูป้ะ สีฟ้าๆ วันก่อนที่นัดเจอกันกูวางรวมไปกับกระเป๋ามึง เผื่อมันหายชานยอลสะกิดเซฮุนเพื่อถามหาของที่หายไป มนุษย์มึนพยักหน้าแล้วค้นกระเป๋าตัวเองตามคำขอ

    หายเหรอ ซื้อใหม่มั้ย บ้านกูขายอยู่แปดพันวอนเอง

    บ้านมึงราคาถูกจังวะ บ้านกูนี่หลายร้อยล้านวอนนี่ยังผ่อนไม่หมดเลยนะชานยอลทำหน้าตื่นเต้น ตบมือสองสามครั้งเป็นการแสดงความยินดีให้มุกตัวเอง โดยที่ไม่ได้สังเกตสายตาของคนรอบข้าง และหลังจากมุกนั้นก็เกิดเดธแอร์ขึ้นอยู่สองสามวิ คยองซูกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ


                ขำครับ ขำมาก เอาเลยเว่ยเพื่อน เอาที่สบายใจ

     
     

    แบคฮยอนตบหัวชานยอลไปทีนึงโทษฐานเล่นมุกไม่ฮาพาเครียดทั้งวง ชานยอลบ่นหงุงหงิงก่อนที่จะย้ายความสนใจไปอยู่ที่มือถือเหมือนเดิม หน้าต่างเขียวๆบอกชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังแชทอยู่ เซฮุนยื่นหน้าเข้ามาดูแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ

    คุยกะพี่คริสอีกละ


                ชื่อรุ่นพี่ปีสี่ในเอกทำเอาเพื่อนชานยอลของพวกเขาเลิกคิ้ว พี่คริสเป็นพี่ปีสี่ที่คณะ ซี้ไอชานยอลมัน ตอนแรกพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าไปสนิทกันได้ยังไง แต่ไปๆมาๆก็เริ่มเข้าใจ สองคนนี้มันเชี่ยพอกัน คุยภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ก็คบกันไป

     
     

    ทำไมวะ คุยกับไอ้พี่คริสแล้วยังไง พวกกูแค่จะนัดกันเย็นนี้ชานยอลตอบปัดๆ และก้มไปให้ความสนใจมือถือต่อ นิ้วมือรัวยิกที่เลขห้าแบบนั้นแน่นอนว่าชานยอลคงไปเล่นมุกแป้กใส่พี่คริสแล้วก็ขำรัวๆให้มุกตัวเองอยู่แน่ๆ ซึ่งก็จัดว่าเป็นเรื่องดี ให้ความซวยไปตกอยู่ที่พี่คริสมันเลย เพื่อนที่น่ารักแบบพวกเขาจะได้ไม่ต้องฟังมุกไม่ผ่านของชานยอลมัน  


                เซฮุนเองก็เริ่มกลับไปสิงอยู่ในจอมือถือต่อ แบคฮยอนเองก็หันไปชวนกลุ่มสาวคณะอื่นข้างหลังคุย ไม่ได้มีความสนใจที่จะเรียนเลยแม้ซักนิด



    รวมถึงเขาด้วย คยองซูได้แต่กวาดตามองไปรอบห้องอย่างเบื่อๆ ทั้งห้องยังคงคุยกันเสียงดัง ถึงแม้อาจารย์จะเริ่มต้นบทเรียนแล้วก็ยังไม่เป็นผล มีแต่แถวหน้าที่อุดมไปด้วยเด็กเรียนที่เริ่มก้มหน้าก้มตาจดเนื้อหา คยองซูนั่งมองอาจารย์ที่พยายามส่งเสียงเตือนอยู่เป็นพักๆ ก่อนที่เขาจะเลิกสนใจไปเอง

     

    วิชานี้มันสำคัญที่ไหน วิชาปลูกข้าว...วิชาเก็บเกรดที่ลงเรียนกันเป็นพันคน เดี๋ยวตอนสอบก็มีโพยอ่านก่อนมาให้ บอกตามความจริงเลย ที่เข้าเรียนมีแค่สองเหตุผลเท่านั้น  หนึ่งคือเขาแค่มานั่งทดลองทำตัวเป็นเด็กดีดูบ้าง คือนี่คาบแรกไง ถึงชีวิตจะเชี่ยแค่ไหนก็ควรเข้าเรียนคาบแรก คาบต่อไปถ้าไม่มีควิซหรืออะไรก็โดดยาว สบาย (แต่ตอนสอบคงเป็นนรก ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต ก็ช่างมันไป) อีกทั้งวิชานี้ก็ไม่ใช่คยองซูสไตล์เลยสักนิด คือนี่เรียนถ่ายภาพไปเป็นตากล้องอย่างเต็มที่ แต่สงสัยสำนักงานทะเบียนคงกลัวผลสอบออกมาไม่ดีเลยปูพื้นฐานการเป็นควายไว้ให้เสร็จสรรพ นับเป็นความรอบคอบของทางมหาลัย



                และเหตุผลที่สอง เขาชอบกินบราวนี่ตรงร้านขนมนี้มาก กินกับชามะนาว ยิ่งกินเสร็จแล้วนอนนี่ถือเป็นความฟินระดับสิบ


                นี่แหล่ะความหวังของพ่อแม่


    มึง ดูดิแบคฮยอนสะกิดเขาให้เงยหน้าจากการหลับในขึ้นมา ไม่พอ ยังไปสะกิดชานยอลและเซฮุนต่อ คยองซูจ้องหน้าคนสะกิด พร้อมกับนัยน์ตาที่แฝงความหมายประมาณว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ มึงตาย คนสะกิดชี้ไปที่กระดาน คยองซูมองตามไปอย่างงงๆ เขาไม่เห็นความผิดปกติใดๆทั้งนั้น

    มีอะไรวะ

    ตามึงโตขนาดนั้นนี่มึงดูไม่ออกเหรอแบคฮยอนทำหน้าเอือม ถ้าคยองซูได้ยินไม่ผิดเหมือนแบคฮยอนจะบ่นงุ้งงิ้งว่าสู้เอาตามาให้กูดีกว่า อาจารย์เดินออกไปละ สงสัยเสียงดังเกิน เลยวินด์วอล์คออกไปซะงั้น


    อ้าว แล้วทำไงอะชานยอลที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาก็รีบถามแทรกทันที


    ถามกูแล้วกูจะรู้มั้ย กูก็นั่งหัวโด่อยู่นี่พร้อมมึงอะ

     

    มึงแม่งอ่อน



    คยองซูทำเป็นไม่สนใจสงครามการเถียงแบบไร้สาระของเพื่อนข้างๆตัว คือมันก็ไร้สาระกันทั้งวันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจเป็นพิเศษ ดูเหมือนทั้งคลาสจะเริ่มรับรู้แล้วว่าอาจารย์หายไปจากหน้าห้อง เสียงพูดคุยที่ดังอยู่แล้วจังเพิ่มระดับความดังยิ่งขึ้นไปอีกด้วยความแตกตื่นในสถานการณ์ อันที่จริงหนทางแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือทั้งห้องควรจะเงียบเสียง แต่นั่นแหล่ะ คยองซูบอกเลยว่ายาก



                แต่เอาจริงจะตกใจก็ไม่แปลก อยู่ๆอาจารย์เดินออกไปแบบนั้น มันปกติที่ไหน


    ความวุ่นวายที่หางทางแก้ไม่ได้นั้นยังดำเนินต่อไปซักพัก เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่น้อย แต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนเงียบๆของคยองซูก็ทำให้เจ้าตัวนั่งอยู่กับที่เฉยๆ ไม่ได้พูดคุยเพิ่มเติม หรือหาทางแก้ไขให้ใคร พอหันไปอีกทาง เซฮุนฟุบหลับไปแล้ว ในขณะที่แบคฮยอนนั่งดูชานยอลเล่นซูเปอร์สตาร์เอสเอ็มทาวน์

    อนาคตของชาติจริงๆพวกนี้

     

     

    เสียงเคาะไมค์ดังขึ้นจากหน้าห้อง ศีรษะหลายศรีษะหันขวับไปยังต้นเสียงเนื่องจากนึกว่าอาจารย์เดินกลับเข้ามา คยองซูเองก็เช่นกัน แต่สิ่งที่เขาเห็นคือนักศึกษาคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีขาว ติดกระดุมคอ ผูกเนคไทเรียบร้อย ที่เด่นสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นสีผิวที่เข้มกว่าคนเกาหลีโดยเฉลี่ย บนใบหน้านิ่งๆมึนๆนั้นมีแว่นตากรอบสีดำประดับไว้อยู่

    เนิร์ดแน่ๆ พวกเนิร์ดแบบนี้น่าจะมาจากอักษร นิติฯ หรือไม่ก็รัฐศาสตร์ อะไรแบบนี้

     

    ขอโทษนะครับเสียงที่ลอดผ่านไมค์มานั้นทุ้มต่ำ มันดังพอที่จะทำให้ทั้งห้องที่ตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายเงียบลงได้ คนดำที่จับไมค์ดันแว่นขึ้นหนึ่งทีเหมือนเป็นการเรียกกำลังใจ ก่อนจะเริ่มพูดต่อ  

    เพื่อนๆทุกคนรบกวนช่วยเงียบด้วยครับ เผื่อถ้าทุกคนเงียบ อาจารย์อาจจะยอมกลับมาสอนก็ได้นะครับ


                เงียบ


                เงียบเหมือนคยองซูตอนเปิดดูเกรดวิชาเอก


                แต่บอกตามตรง คยองซูตอนไม่ดูเกรดก็เงียบเป็นปกติอยู่แล้ว จะเปรียบเป็นตอนดูเกรดไปเพื่ออะไร


    สิ่งที่ตามมานั้นเกือบไม่น่าเชื่อ ทั้งห้องเงียบลงทันทีราวกับปิดสวิชท์ มีเสียงจากตรงนั้นตรงนี้เป็นทำนองว่าชื่นชมในความกล้า แต่ส่วนใหญ่เป็นเสียงด่าด้วยความหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของมนุษย์ผิวเข้มคนนั้น คยองซูหรี่ตา มองตามร่างสูงๆที่ก้าวเท้ายาวๆกลับไปนั่งที่ตัวเองในบริเวณแถวหนึ่ง ความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าก็ผุดขึ้นมาในใจ

    คนอะไร น่าหมั่นไส้ชิบหาย

    เช๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอเชี่ย โคตรมั่นหน้าชานยอลเปิดประเด็นขึ้นมาคนแรก เสียงดังตามความสถุลส่วนตัวและพูดมากตามสันดาน


                “กูยอมแม่งเลยว่ะ ฮ่าๆ มึงว่ามันอยู่คณะอะไร เนิร์ดๆงี้อักษรป้ะวะแบคฮยอนถามขึ้นมาบ้าง หัวเราะเอิ๊กอ๊ากตาปิด ไอที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วยิ่งปิดเข้าไปใหญ่


                “ไม่มีทาง หน้างี้ไม่น่าอ่าน ABC ออกด้วยซ้ำโอเซฮุนพูดขึ้นมาด้วยหน้านิ่งๆ แต่ตีนกระดิกเป็นจังหวะ Overdose “กูพนันด้วยน้องลูลู่ที่หนึ่งของกูเลยว่าแม่งเรียนแพทย์แน่นอน


                คยองซูปล่อยให้เพื่อนไม่ปกติสามคน เถียงกันด้วยความไร้สติต่อไป ตัวเขาปล่อยสายตาให้ไปอย่างไร้จุดหมาย เพื่อนก็บ้า คนเรียนด้วยกันก็บ้า ไอแว่นที่ออกไปพูดนั่นยิ่งบ้าใหญ่ ชีวิตกูนี่แม่งทำไมมีแต่คนบ้าๆ  


    ทั้งคลาสกลับเข้าสู่สภาพเสียงดังตามปกติเมื่ออาจารย์ออกไปและคงไม่กลับเข้ามาสอนแล้ว ซึ่งก็ดี มีคาบว่างเพิ่ม

     

    คยองซูนั่งกอดอกอยู่กับที่ ไม่ยอมเก็บของ เนื่องจากจะรอให้คนที่กำลังแออัดลดปริมาณลงเสียก่อน นัยน์ตาโตเผลอตวัดไปมองบุคคลในตำนานของวิชานี้ ร่างสูงผิวสีเข้มกำลังเก็บสมุดใส่กระเป๋า นัยน์ตาปรือๆเหมือนคนง่วงนอนนั่นมองมาทางเขา แต่ก็เลยผ่านไป

    น่าหมั่นไส้ว่ะ

    อะไรครับลูกพี่ หมั่นไส้ใครแบคฮยอนตามมาสอบถามทันที เรื่องแบบนี้น่าสนใจกว่าเกมจิ้มๆในมือชานยอลเป็นไหนๆให้ผมจัดการเลยไหม

     

    จัดการตัวเองก่อนเถอะไอ้หมาคยองซูตอบกลับ ในหัวยังคงมีข้อมูลที่กลุ่มสาวๆด้านหลังพูดคุยกันเกี่ยวกับไอ้แว่นคนนั้น

    คิมจงอิน คณะไหนไม่รู้ รู้แต่มีคนแอบปลื้มพอสมควร เพราะได้ลงเพจ cute boy ด้วย แต่ใช่ว่า cute boy จะเชื่อถือได้เสมอไป เพราะขนาดชานยอลกับเซฮุนยังได้ลงเพจด้วยเลย .. ถามจริงๆส่วนไหนของมันที่ Cute กัน วันๆเห็นมันเถียงกันแต่เรื่องของกิน


    คยองซูก็คิดนะ ว่าหน้าง่วงๆแบบนั้นมันมีดีตรงไหน ดูเด็กเรียนระดับสิบ แต่งตัวเรียบร้อย หอบหนังสือหนาเป็นตั้ง ดูยังไงก็เป็นพวกที่คยองซูรำคาญเป็นอันดับหนึ่ง


    ในโลกนี้จะมีคนประเภทหนึ่ง ที่เขายังไม่ทำอะไรให้ก็รู้สึกไม่ชอบหน้าเสียแล้ว และคิมจงอินคือหนึ่งในคนประเภทนั้น

    แดกข้าวได้ละ นี่มึงกะรอให้ป้าร้านข้าวกลับบ้านใช่ป่ะวะถึงได้นั่งแช่อยู่แบบนี้

    เก็บปากไว้คุยกับกัลปังหาที่บ้านมึงเถอะคยองซูสวนเซฮุนกลับทันที คนโดนด่าหัวเราะตาหยีแบบไม่สะทกสะท้าน ทั้งกลุ่มลุกขึ้นยืนและเดินออกไปพร้อมกัน คยองซูไม่ได้ฟังบทสนทนาของเพื่อนในกลุ่ม แต่สายตามองตามแผ่นหลังในเสื้อเชิ้ตยับนิดหน่อยที่เดินนำอยู่ข้างหน้า

     

    หมั่นไส้แม่งโคตรๆ

    คนอะไร เห็นแค่กกหูก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว

     

    เออ ไอ้แว่นเมื่อเช้าแม่งกล้าเนอะระหว่างมื้ออาหารชานยอลก็พูดขึ้นมาอีกรอบเรื่องนี้ คยองซูทำเป็นตักข้าวเข้าปากสองสามคำเพื่อรอดูเชิงว่าจะมีใครพูดอะไรเพิ่มเติมไหม

    ตลกดี เขารู้สึกติดใจกับไอ้แว่นนั่นที่ชานยอลเรียกอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าเขาพูดถึงมากเกินไปอาจจะดูผิดสังเกต คือปกติเขาเป็นคนที่แทบไม่พูดถึงอะไรสักอย่างบนโลก คยองซูเลยต้องทำเป็นไม่สนใจก่อน แล้วค่อยหาจังหวะสวยๆพูดออกมา

     
     

    แว่นไหนวะเขาแสร้งทำเป็นลืมไปแล้ว ทั้งๆที่ในใจมีมโนภาพของคิมจงอินมาเต็มเปี่ยม แทบจะมาเป็นภาพสามมิติอยู่ตรงหน้า

     
     

    ท็อปเจริญมั้งมึง ซื้อตอนนี้ได้เสื้อกันหนาวด้วย ถุยชีวิตแบคฮยอนตบมุกเสียยืดยาว เลยโดนคยองซูเอาเท้าซัดเข้าให้ที่หน้าแข้งไอ้แว่นคาบเช้าอ้ะ ที่หล่อให้ศูนย์จุดห้ามั่นหน้าให้ร้อยยี่สิบอ้ะ

     

    อ๋อ จำได้" คยองซูพยักหน้ารับรู้นิดหน่อย" เออ แม่ง คนอะไรแค่เห็นก็รู้สึกคันตีนยิบๆละแถมด้วยพูดต่ออีกยาว แล้วตักข้าวเหนียวไก่เข้าปาก วันนี้อุตส่าห์ถ่อมากินถึงโรงอาหารอักษร เลยต้องกินของขึ้นชื่อซักหน่อย

     

    มึงหมั่นไส้เขามาตั้งแต่ชาติที่แล้วป้ะ หน้าตามึงเคียดแค้นมากจริงๆชานยอลแทรกขึ้นมา พร้อมกับส้อมในมือที่พุ่งมาจิ้มไก่ไปหนึ่งชิ้นขอชิ้นนึง

     

    เหนียวไก่กูคยองซูโพล่งขึ้นมากลางวงเมื่อข้าวเหนียวไก่ในจานลอยเข้าปากเพื่อนบังเกิดเกล้าไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าคยองซูรู้จักการเล่นโซเชียลแคมสักหน่อยคงไม่แคล้วตั้งโทรศัพท์อัดคลิปด่าไปนานแล้ว

    คยองซูแม่งก็ทำหน้าอยากฆ่าคนแบบนี้ตลอดเวลาอยู่แล้วนะ ถ้าจำไม่ผิดเซฮุนกล่าวตาม ก่อนที่ส้อมคันที่สองจะตามมาจิ้มไก่ในจานเดียวกับชานยอลไปติดๆ นี่ไง มึงลองมองดูให้ดีๆ

     

    คยองซูมองหน้าแต่ละคนอย่างเชือดเฉือน จิ้มส้อมลงไก่ด้วยอารมณ์รุนแรงจนจานแทบจะแตก

     

    เพื่อนพวกนี้มันกวนตีนเขาเป็นงานหลัก แล้วกวนตีนกันเองเป็นงานอดิเรกจริงๆ

     

    คยองซูนี่รู้สึกพิเศษกับคุณแว่นเหรอครับ ดูมีอะไรติดใจ

     

    บ้านพี่มึงดิแบคฮยอนพอได้ยินประโยคนั้นของแบคฮยอน คยองซูแทบจะคว่ำจานไก่ใส่หน้าเพื่อน รู้สึกขนลุกตั้งแต่ลำคอลงไปยันนิ้วเท้าข้อที่สอง ไอ้รู้สึกพิเศษที่แบคฮยอนพูดนี่เขานึกถึงแค่อย่างเดียวคือหมั่นไส้เป็นพิเศษก็เท่านั้นแหล่ะ หรืออยากให้หันมาด่ามึงแทน นี่ถ้าไม่โดนด่าจะนอนไม่หลับเหรอวะ

    อย่างงั้นเลยคนโดนด่าทำหน้าระริกระรี้ ยิ่งโดนคยองซูด่ายิ่งสนุก บันเทิงใจดีจะตายเวลาเห็นคนตัวเล็กหน้านิ่งๆทำสายตาโหดๆ ถ้าโชคร้ายหน่อยอาจจะมีการลงไม้ลงมือตามมา แต่คยองซูไม่ทำอะไรมากกว่านั้น ถ้าขอให้ช่วยอะไรก็ด่านิดหน่อยตลอด แต่ก็ยอมทำเสมอ ก็เข้าข่ายปากร้ายใจดีอีกคนนั่นแหล่ะ

     

    โห ตายยากมาก undead สุดๆเซฮุนตบไหล่คยองซูให้หันไปดูคนที่เดินเข้าโรงอาหารมาใหม่ คนที่เขากำลังนินทาเดินทำหน้ามึนเข้ามาในโรงอาหาร คราวนี้เดินมากับเพื่อนพอดี คยองซูทำเป็นหันไปทางอื่น แต่หางตาเก็บรายละเอียดไว้แทบจะทุกพิกเซล

     

    คนข้างๆนั่นเป็นผู้ชายที่ผิวเข้มจนออกไปทางเขียว หางตาชี้ หน้าตาดุเหมือนเป็นลูกมาเฟียเก็บค่าเช่าแผง ถ้าไม่ติดว่าในมือถือไอโฟนใส่เคสลายริลัคคุมะสีขาวเด่นสะดุดตา ส่วนอีกคนนึงเป็นมนุษย์ตัวเตี้ยที่สุดในกลุ่มนั้น มุมปากชี้ นัยน์ตาชี้ขึ้นเป็นทรงโค้ง มาพร้อมกับรัศมีอิ่มเอิบอะไรบางอย่าง แค่มองก็รู้สึกว่าได้รับพลังงานบางอย่างมาเต็มหลอดเลือด เหมือนไฮพรีสที่บวก int มาเต็มค่า stat หรือถ้าจะให้พูดภาษาคนก็คงอธิบายสั้นๆว่าหน้าตามาทางธรรมจนอยากจะให้ดร็อปไปบวชสักแปดสิบปีอะไรแบบนั้น

     

    มึงประทับใจเค้านี่ ไปทักไปชานยอลตีไหล่เพื่อน แล้วหันไปก้มหน้ากับมือถือต่อเย็นนี้กูไม่อยู่นะพวกมึง พี่คริสชวนกูละ

     

    ต้นเทอมก็จัดเลยนะแบคฮยอนเหล่ตามอง ชานยอลยักคิ้วด้วยท่าทางที่คิดว่าตัวเองหล่อที่สุดในรัศมีที่กลิ่นจากร้านข้าวเหนียวไก่จะแผ่ถึง

     

    ไม่ได้ๆ ขาดมานาน ร่างกายต้องการการเติมเต็ม

     

    ไปเรียนเหอะคยองซูตัดบท ยกจานขึ้น ทั้งกลุ่มลุกตาม ยังคงส่งเสียงคุยกันไม่หยุด ในระหว่างที่เดินผ่านโต๊ะต่างๆที่มีนักศึกษานั่งอยู่ทั่วนั้น คยองซูชำเลืองมองไปทางโต๊ะที่ติดกับทางออก ใบหน้ามึนๆของมนุษย์มึนที่ถูกเขาตั้งกำแพงในใจโดยไม่รู้ตัวอยู่ตรงนั้น บนโต๊ะมีข้าวเหนียวไก่วางอยู่

     

    จู่ๆความรู้สึกอยากปาจานไก่ในมือทิ้งก็เกิดขึ้นกับโดคยองซู โคตรอยากลาออกจากสมาคมคนนิยมข้าวเหนียวไก่ คือโรงอาหารในมหาลัยก็ไม่ได้มีแค่ที่เดียว แม่ค้าร้านลาบกิมจิที่ตั้งอยู่ข้างๆกวักมือเรียกแขนแทบหักทำไมไม่ไปซื้อ ทำไมต้องมากินร้านเดียวกับกู ไม่เข้าใจ ร้านนี้คนหน้าตาดีเขากินกัน หน้าตาศูนย์จุดห้าเต็มสิบอย่างคิมจงอินโคตรไม่มีสิทธินั้นเดี๋ยวนี้

     

    หวังว่าจะไม่ได้เจอกันอีก ไม่งั้นเขาคงหงุดหงิดตายด้วยความหมั่นไส้ ให้ตายเถอะ


    ---------------------------------------------------------------------------------

    มาแล้วครับทั่น มาแล้วววววววววววววววววววววว
    โครงการโม่งคืนความสุขยังไม่จบ ลงรวดเดียวสามเรื่อง อะหิ
    เรื่องนี้เรื้อน สไตล์การแต่งคือแบบ เหมือนโม่งเมาแล้วมาแต่งฟิคให้อ่าน นี่บอกเลย ใส่ทุกมุกในชีวิตลงไปในเรื่อง /เคาะถาด
    ดังนั้น ลบภาพจากฟิคซ่อนหาออกไปให้ค่ะ ลบภาพคนแต่งฟิคเคร่งขรึมออกไปให้หมดค่ะ (โม่งเคยขรึมค่ะ มั่นใจ)
    ตอนนี้คือเวลาเรื้อนนนนนนนนนนนนนนน ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
    ยังไงก็ ติดแท็ก #ฟิคปุจฉา แล้วเข้ามาพิมพ์เลข 5 เฉยๆก็ได้ โม่งชื่นชอบ โม่งน่าร้ากกกกกกกกก

    เจอกันค่ะ

    น้องโม่งหนึ่ง ผู้ผจญงานไฟนอล



    - - - - - - - - - - - - - - - - -

    โม่งสอง

    เรื่องนี้มาพร้อมอาถรรพ์ไม่รู้จบ อาถรรพ์แรก ลงซ้ำกันสองเรื่อง อาถรรพ์ที่สอง...อยู่ดีๆสเตตัสฟิคก็เป็นปิดการคอมเม้น ยัง ยังไม่จบ
    อาถรรพ์ที่สาม เมื่อกี้พิมพ์ทอล์คไปสักพัก นี่มือไปโดนแท็บปิด ได้ยินเสียงตัวเองโหยหวนตอนเที่ยงคืนกว่า และเมื่อกี้ อาถรรพ์ที่สี่กำลังจะกำเนิด
    คือสไกป์กับอีโม่งที่เหลืออยู่ แต่ประเด็นคือโม่งหนึ่งโพล่งขึ้นมาว่า บราวนี่ไม่มีน์การันต์ พิมพ์ผิดตรงนู้นตรงนี้ ทำท่าจะไปแก้
    นี่ถึงกับต้องถือป้ายสต็อปใส่ทุกฝ่าย ขอแก้เอง นี่ทอล์คอยู่ หนูไม่อยากพิมพ์ใหม่เอนี่มอร์

    ฮือ
    ฟิคเรืองนี้เป็นฟิคเรื้อนตั้งแต่สไตล์การแต่งยันสไตล์การอัพ จะค่อยๆคลานหรือสี่คูณร้อยมาก็อย่าฆ่าเค้านะ 

    ปล.ขอให้อัพติด


    - - - - - - - - - - - - - - - - -

    สวัสดีมักเกิ้ล นี่โม่งศูนย์ 
     
    แวร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่คือขบวนการโม่งคืนความสุขนะคะ 
    อยู่ดีๆนะคะ เกิดนึกคึกอัพฟิคติดกันสามเรื่องอ้ะแก ซ่อนหายังอัพไม่จบเลยอ้ะแก 
    แบบมันคันไม้คันมือ อยู่นิ่งๆไม่ได้ หนังสือสอบไม่อยากอ่าน อยู่บ้านด่ากันว่างๆเลยได้ฟิคขึ้นมา #ปรบมือสิครับรออะไรอยู่ 
     
    ก็อย่างที่บอกในแท็กนะคะ ดราม่ากว่า #ฟิคซ่อนหา ก็ #ฟิคปุจฉา แล้วแหล่ะแก 
    ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ คือไม่มีอะไรมาก มันคือตัวโม่งกับเหตุการณ์ที่เจอมาตอนเรียนมหาลัยของโขลงโม่งและคนใกล้ตัว 
    เอาจริงนี่ถ้าอยากรู้จักเราไม่ต้องฟอลทวิตเตอร์ก็ได้ค่ะ อ่านแค่อิฟิคเรืองนี้ก็พอ พอจริงๆ 5555555555 
     
    ด้วยรักและอยากกินพิซซ่า
    โม่งศูนย์

     
    ปล. อยากสปอยล์นะแก แต่ฟิคเรื่องนี้ไม่มีอะไรให้สปอยล์เลยจริงๆ ความกรังล้วนๆ
    ปลล. อย่าคาดหวังว่ามันจะมาเร็วนะเรื่องนี้ #ฟิคปุจฉา คือลูกเมียน้อยค่ะ แต่งระบายความหงุดเงี้ยว
    ปลลล. มันเคยจะมีแพลนฟิคแฝดของเรื่องนี้นะ ชื่อ #ฟิควิสัชนา แต่น่าจะคลอดชาติหน้า เพราะขี้เกียจกันมากจริงๆ 
    ปลลลล. อยากกินพิซซ่า 
    ปลลลลล. แกๆ นอกจาก #ฟิคปุจฉา ยังมี #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าไค กับ #ฟิคคนที่คุณก็รู้ว่าคริส ด้วยนะแก อ่านได้นะแก สนุกนะ นี่แต่งเองยังอ่านเองเลย โห ติดมาก อ่านทั้งวัน
    ปลลลลลล. อยากกินพิซซ่าจริงๆนะ อยากกินปลาเผาด้วย

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×