(ผ่านพิจารณา สนพ.Athena) Crisis of the key : Solar in the deep (Reboot) - นิยาย (ผ่านพิจารณา สนพ.Athena) Crisis of the key : Solar in the deep (Reboot) : Dek-D.com - Writer
×

    (ผ่านพิจารณา สนพ.Athena) Crisis of the key : Solar in the deep (Reboot)

    คุณรู้จักจักระไหม? เคยสัมผัสถึงพลังที่หมุนอยู่ในกระดูกสันหลังรึเปล่า มาสิ! มาปลุกพลังที่สถิตอยู่ร่างของคุณกัน มารับกุญแจไปปลดผนึกมัน ก่อนที่ภัยพิบัติจะมาทวงคืน! (พบกันในรูปเล่มราวต้นปีหน้าครับ)

    ผู้เข้าชมรวม

    2,897

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    2.89K

    ความคิดเห็น


    185

    คนติดตาม


    77
    จำนวนตอน :  60 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.ย. 61 / 20:06 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    จบภาคแรกแล้วนะครับ
    ใครอ่านค้างอยู่ แจ้งว่าจะปิดเรื่องปลายเดือนนี้นะครับผม

    ส่วนถ้าจะถามว่าทำไม
    ก็เพราะจะเอาฉบับรีไรต์ล่าสุดไปเปิดใหม่ในหมวดอื่นครับ

    คือพอเรื่องจบ โอกาสจะอัพหน้าเว็บก็หายไป
    ทีแรกว่าจะลงเวียนแบบรีอัพไว้ด้านล่างเหมือนเรื่องอื่นๆ
    แต่มักเจอปัญหาว่า คนอ่านไม่เลื่อนลงไปดู
    แล้วถามว่าปิดตอนไว้ทำไม 
    TTwTT

    พอดีจะลองเปลี่ยนชื่อให้มันน่าสนใจกว่านี้ด้วย
    เลยคิดว่าปิดหน้านี้แล้วไปเปิดใหม่เลยดีกว่า

    แต่คราวนี้จะลงต่อเนื่องทุกวันเพราะของพร้อมแล้ว
    ใครที่อ่านจบแล้ว จะแวะไปก็ได้นะครับ
    ขอบคุณล่วงหน้าจ้า

    ^_____^

    ---------------------------------------------------------------


    คุณคิดว่าวิทยาศาสตร์คือความจริงทั้งหมดงั้นหรือ!?
    หากผมบอกคุณว่า วิทยาการปัจจุบันมันเป็นแค่เศษเสี้ยวของความจริงแห่งอนันตจักรวาลล่ะ

    นักวิทยาศาสตร์เองยังยอมรับว่า
    ทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับจักรวาลนี้ ประมาณได้แค่ ๕ เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดเท่านั้น

    วิทยาศาสตร์สมัยปัจจุบัน 
    เพิ่งเริ่มแตะสิ่งที่เลยออกไปจากประสาทสัมผัสทั้งห้าเพียงเสี้ยวของเสี้ยว

    ทฤษฎีใดๆ ยังอาจพลิกผันไปเมื่อมีความรู้ใหม่มาปฏิวัติวงการ
    แน่นอนว่า รวมถึงคำกล่าวหาที่ว่าตำนานโบราณนั้นไร้สาระ
    สิ่งที่ถูกเรียกว่าพลังเหนือธรรมชาติก็เช่นกัน

    หากผมบอกคุณว่ามันคือศาสตร์ที่อยู่เลยไปจาก ๕ เปอร์เซ็นต์ที่นักวิทยาศาสตร์รู้ล่ะ

    ถ้าอยากพิสูจน์ ขอเรียนเชิญให้ลองพิจารณาภาพข้างล่างนี้





    ถ้านึกไม่ออก ใบ้ให้ก็ได้ว่าคือ การเรียงตัวของสี จากบนลงล่าง
    ใช่แล้ว! ย้อนขึ้นไปไล่ลงมาแล้วคุ้นๆ ใช่ไหมล่ะ
    เชื่อเลยว่าแทบทุกคนที่ถูกดึงดูดเข้ามาจะต้องเคยท่องหรือผ่านตามาก่อน

    ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง

    สเปกตรัม!



    อยากเรียนว่านี่คือสิ่งโยคีโบราณรู้จักกันมาหลายพันปี
    แต่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งรู้จักแสงเจ็ดสีนี้แค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น

    มาสิ... มาดูสิว่า
    คุณจะปลุกพลังที่มีอยู่จริง
    อันสถิตอยู่ในกระดูกสันหลังของคุณได้บ้างหรือเปล่า

    กุญแจ...

    ที่จะไขสู่โลกอีกด้านอยู่ถัดลงไปนี่เอง


    ----------------------------

    ชิมลาง
    จากตอนที่ ๒.ร่องรอย


         “มันอาจฟังดูเหลือเชื่อไปบ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะว่ามันเป็นเรื่องจริง ชาวแอตแลนติสคือชนชาติที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาหลังยุคน้ำแข็ง เป็นอาณาจักรกลางมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดขึ้นในช่วงรอยต่อสุดท้ายของยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุด พวกเขามีอาณานิคมกระจายไปทั่วโลกเป็นเวลาร่วมสามพันปีนับจากแสงแรกแห่งอารยธรรม เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับอำนาจแห่งจิต แต่สำหรับที่มาของพวกเขา ถือว่ายังเป็นปริศนาที่ต้องค้นคว้าวิจัยกันอีกมาก กระทั่งล่วงเลยมาจนเมื่อแปดพันกว่าปีก่อน ความเจริญทางวัตถุที่มากขึ้น กลับทำให้จิตใจตกต่ำลงทุกขณะ กระทั่งเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวแอตแลนติสด้วยกันเอง และระหว่างชาวแอตแลนติสกับชนเผ่าอาณานิคมต่างๆ ที่สุดจึงล่มสลายไปในคืนเดียวตามที่ตำนานกล่าว

          แม้สีหน้าของผู้ฟังอย่างเจตน์กับเทพฤทธิ์จะดูมีข้อคลางแคลง แต่เมื่อไม่มีใครตั้งคำถาม มาท่าร์จึงกล่าวต่อไป

    บางคนอาจพูดว่าเป็นเพราะแผ่นดินไหว หรือไม่ก็ภูเขาไฟใจกลางเกาะระเบิดขึ้นมา โดยให้เหตุผลว่า ดินแดนแห่งนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนมีพลังใต้มหาสมุทรแอตแลนติก นั่นอาจเป็นความจริงก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่ลืมว่าในช่วงแปดพันปีที่ว่านั้น พืดน้ำแข็งบนใจกลางแผ่นดินอเมริกาก็หลอมละลายเป็นทะเลสาบขนาดมหึมา มวลน้ำมหาศาลถูกกักไว้โดยมีเขื่อนน้ำแข็งกั้นเป็นทางยาวราวเจ็ดร้อยไมล์ ว่ากันว่าปริมาณน้ำทำให้ทะเลสาบห้าแห่งระหว่างแคนาดากับสหรัฐดูเล็กไปเลยทีเดียวค่ะ

    ส่วนถ้านึกไม่ออกว่าจู่ๆ ไปเกิดทะเลสาบกลางพืดน้ำแข็งได้อย่างไร ก็ขอให้ลองเทียบกับข่าวภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดทะเลสาบบนน้ำแข็งขั้วโลกก็ได้ค่ะ แต่ที่แน่ๆ พอน้ำแข็งทนแรงดันน้ำไม่ไหวก็เลยถล่มลงมา ปริมาณน้ำที่มหาศาลกว่าแม่น้ำอเมซอนแปดสิบถึงหนึ่งร้อยสาย จึงไหลบ่าลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้ระดับน้ำในทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นฉับพลัน ทั้งยังสร้างความแปรปรวนแก่สภาพอากาศต่อเนื่องไปอีกราวสองร้อยปี เหล่านี้เองที่กวาดล้างอารยธรรมชั้นสูงให้จมทะเลในเวลาเพียงคืนเดียว และแทบไม่เหลือหลักฐานอะไรเลยนอกจากนิทานปรัมปรา[1]


                   เจตน์กับเทพฤทธิ์ทำหน้าตะลึง แต่ยังเหมือนต้องประมวลความคิด ส่วนมาร์ท่าพูดต่อไป


                 พวกคุณอาจไม่เชื่อก็ได้ค่ะ แต่หากลองศึกษาตำนานต่างๆ ทั่วโลกจะพบว่า ในหลายอารยธรรมมักมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับน้ำท่วมโลก รวมถึงวีรบุรุษที่ไม่ต่างจากโนอาร์ และบรรดาผู้คนที่รอดชีวิตในครั้งนั้นก็ต้องกลับไปตั้งต้นกันใหม่ ส่วนอาณาจักรที่รุ่งเรืองก็เหลือไว้แต่เพียงเรื่องเล่า เท่าที่ดิฉันรู้ มีสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เหลือรอดมาแค่ไม่กี่ชิ้น และเราก็มักเรียกของเหล่านั้นว่าอาวุธเทพ หรือไม่ก็ของวิเศษในตำนาน

                   จะเป็นไปได้ยังไง ทีอารยธรรมอื่นยังเหลือซากอะไรต่อมิอะไรให้ขุดกันตั้งเยอะแยะ" 

                   เทพฤทธิ์พูดจนได้ สีหน้าไม่เชื่อถืออย่างชัดแจ้ง

                    นั่นเพราะเราเคยชินกับแผนที่โลกปัจจุบันค่ะ 

                    มาร์ท่ายังคงยิ้ม 

                   เราต้องไม่ลืมว่าในยุคน้ำแข็งที่ว่านั่น โลกเราหน้าตาต่างไปจากนี้มาก เพราะความเย็นของอากาศทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งสะสมอยู่ตามขั้วโลกและแถบละติจูดสูงๆ ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทุกวันนี้มีแค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ระดับน้ำทะเลในยุคน้ำแข็งจึงต่ำกว่าปัจจุบันถึงหนึ่งร้อยเมตร แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าระดับทะเลยุคแอตแลนติสจะต่ำขนาดนั้นตลอดสามพันปีหรอกนะคะ ที่จะบอกคืออารยธรรมชั้นสูงในยุคนั้นล้วนสร้างขึ้นในส่วนที่อบอุ่นกว่า หรือก็คือพื้นที่ริมน้ำในเขตศูนย์สูตร ถึงจะมีคนอาศัยอยู่ทางตอนเหนือบ้าง ก็เป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อนที่ยังไม่พัฒนาอะไรมากนัก และความทรหดของคนในพื้นที่กันดารพวกนี้แหละ ที่ทำให้เขารอดชีวิตมาก่อร่างอารยธรรมกันใหม่ ขณะที่อาณาจักรและอาณานิคมส่วนใหญ่ของคนแอตแลนติสถูกกลบฝังอยู่ใต้ชั้นดินในทะเลไปหมด

            

    [1] เพชฌฆาตอารยธรรม (The Winds of Change) สนพ.มติชน หน้า ๖๓ – ๖๕


    -------------------------------------------------


    ปล.ภาคนี้ Reboot จบแล้วนะครับ

    แต่ยังเป็นเวอร์ชั่นไม่รีไรต์

    จะทยอยลงต่อแล้วครับผม

    ขอบคุณครับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น