ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    High Galaxy หวานใจมาเฟียคนนี้...คือฉันเอง!

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : ไอ้โรคจิต

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 54


     5

    ไอ้โรคจิต

     

             เช้าวันต่อมา

             10 .00  .  โดยประมาณ

             “ฮ้าว~

                           ฉันเดินออกมาจากห้องตัวเองอย่างสะลึมสะลือ  เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลยแฮะ  สงสัยจะยังไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่  TOT  ว่าแต่ตอนนี้ก็สิบโมงแล้วนะ  ทำไมข้างนอกถึงยังเงียบอยู่เลยล่ะ  ไม่เห็นมีคนมายืนเฝ้าเลยสักคน  เอ๊ะ!  หรือว่าพวกเขาจะไปรวมตัวกันที่โถงใหญ่หมดแล้ว  บ้าสิ!  อะไรจะตรงเวลาขนาดนั้น  พวกเขาไม่ได้มีแบบทดสอบเหมือนฉันสักหน่อย  -O-  ว่าแล้วฉันเริ่มออกเดินไปทันที  การไปสายนี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่เลยแฮะ  ถึงแม้ว่าฉันจะออกจากห้องตอนสิบโมงตรงก็เถอะ  แต่ถ้าบังเอิญมีอุบัติเหตุกลางทางฉันคงไปช้าอยู่ดี  =[]=  คิดอะไรบ้าๆ นะเรา  มันจะมีอุบัติเหตุกลางทางได้ไง  เฮอะ!  T^T

                       พรวด

                       ตุ๊บ!

                           แต่ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ  อยู่นั้น   ฉันก็โดนมือดีมากระชากตัวปลิวเข้าไปในห้องข้างๆ  ห้องฉันที่เปิดประตูแง้มไว้นิดหน่อยอย่างรวดเร็ว  O_O!!!

                           “อื้อ  อื้อๆๆ  อ่อยยยยอะ~   ฉันร้องไม่เป็นภาษาเพราะถูกปิดปากเอาไว้  Y^Y  คนตัวสูง  (เดาเอาน่ะ)  ที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ปิดปากฉันเอาไว้มากระชากเอวฉันอย่างแรงแล้วผลักฉันลงกับพื้นข้างโซฟาอย่างไม่ปราณี

                           ตุ๊บ!

                           “โอ๊ย~   ฉันร้องเบาๆ  ทั้งที่ในใจเจ็บแทบกระอักก่อนจะเงยหน้ามองไอ้โจรบ้าแปดหมื่น  (ห้าร้อยมันน้อยไปหรือไง -___-;)  ที่อาจหาญจับฉันมา

                           OoOoo!!!

                           เป็นอีกครั้งที่ต้องช็อก  เพราะคนที่ลากฉันมาคืออีตายูโดสันตะโรนั่น  -O-  เขายืนกอดอกมองฉันที่ล้มคลุกฝุ่นอยู่กับพื้นราวพะยูนเกยตื้นด้วยสายตาดูถูก

                           หนอยยยยยย~  เจ็บยิ่งกว่าถูกมีดเสยหน้า  =[]=

                           “นายเป็นบ้าเหรอฮะ!  จับฉันมาทำไมเนี่ย!   ทันทีที่ตั้งสติได้ฉันก็ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่ายูโดหวังจะให้เขาเจ็บปวดราวกับถูกมีดสปาตาร์กระซวกไส้  (มันแรงกว่าถูกมีดเสยหน้าน่ะ  Y^Y)

                           “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”  ยูโดว่าพร้อมกับดึงมือฉันที่ชี้หน้าเขาอยู่ลง  -O-  ฉันแอบเอามาเช็ดชายกระโปรงนิดหน่อยด้วยความรังเกียจอีเดียดทางสังคม (?)

                           “ฉันไม่ว่าง”  ฉันว่าพร้อมกับเตรียมเดินออกจากห้องไป  แต่ยูโดเอื้อมมือมาขวางไว้ก่อน  ด้วยความที่ฉันเตี้ยกว่าเขามากจึงทำให้มือของเขาฟาดเข้าที่หัวฉันอย่างจัง

                       ผลั๊วะ

                       “นี่!  ถ้านายจะขวางฉันไว้ก็อย่าทำรุนแรงได้มั๊ยเนี่ย  รู้มั๊ยว่าคนเขาเจ็บเป็น”  ฉันว่าอย่างเคียดแค้น  ความจริงฉันอยากพูดคำนี้มากกว่าจนใจจะขาดเลยนะ

                           คุณมาทำร้ายฉันทำไม

                           แต่ไม่ดีกว่า  TT_TT  เลียนแบบโฆษณารณรงค์ไม่สูบบุหรี่เกินไป

                           “เจ็บก็อย่าเล่นตัว”

                           “ไอ้โรคจิต!

                           “โรคจิตอะไรของเธอ”  ยูโดว่าพร้อมกับทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ฉัน

                           “ก็นายไม่โรคจิตป่ะล่ะ  มีอย่างที่ไหนลากคนอื่นเข้ามาแล้วบอกมีเรื่องจะคุยด้วยแต่กลับทำร้ายร่างกายเขาน่ะ”

                           “ยัยทุเรศ”

                           แน่ะ  ยังมาว่าฉันอีก  TOT

                           “งั้นขอถามหน่อยสิว่าฉันทุเรศตรงไหน”  ฉันพูด  -O-  ไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่เหมาะกับคำว่าทุเรศของหมอนี่น่ะ

                           “ทุกตรง”

                           ตอบคำถามได้เหี้ยมาก  =[]=  ฉันเริ่มเก็บอาการความเป็นผู้รากมากดีจากตระกูลมาเฟียชื่อดังไว้ไม่ไหวแล้วนะ

                           “ไร้สาระ  ฉันไปล่ะ”   ฉันว่าพลางเริ่มก้าวเท้าเดินหนียูโดที่ยืนจังก้าอยู่ทางออกประตู  แต่

                           “ถ้ากล้าเดินหนีฉัน!  เธอตายแน่!!!  เสียงทุ้มต่ำของยูโดเป็นเหตุทำให้ปลายเท้าของฉันชะงักลง  YOY  หมอนี่เริ่มออกอาการโหดขึ้นหน้าอีกแล้ว  (ไม่รู้ว่าเคยเจออาการนี้ตอนไหนหรอก)  ฉันเงยหน้ามองยูโดที่พร้อมจะควักปืนมาเป่าหัวฉันได้ทุกเมื่อถ้ายังคิดจะเดินหนีเขาอย่างนี้อีก  T^T               

                           “คิดว่าฉันกลัวเหรอ”  ฉันตอบอย่างอวดเก่งแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้ยูโดมากขึ้น  (ก็ใกล้กับประตูน่ะแหละ)  แต่ตอนที่ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตูนั่น  ยูโดที่ยืนเป็นไม้เบื่อเมาอยู่ใกล้ๆ  ก็คว้าหมับเข้าที่มือฉันก่อนจะเหวี่ยงมันสามร้อยหกสิบองสาห้าสิบสามลิปดาแล้วตัวฉันก็หมุนติ้วๆ  (เวอร์  -O-  ก็แค่หมุนเฉยๆ )  ไปหล่นตุ๊บกองอยู่แทบเท้าเขาแทน  =[]=

                           กรี๊ดดดดด  >O<!!!   มากไปแล้ว

                           “นี่!  ตกลงนายจะเป็นไอ้โรคจิตอย่างที่ฉันว่าจริงๆ  ใช่มั๊ยเนี่ย!!!  ฉันตะโกนเสียงดังพลางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล  ยูโดยืนมองฉันโดยไม่ออกความเห็นใดๆ  ก่อนจะเริ่มพูดธุระของตัวเองออกมา

                           “ก็บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ!

                           “ฉันไม่ว่าง  เมื่อไหร่ไอ้โรคจิตอย่างนายจะเข้าใจเนี่ย”  ฉันว่าอย่างเบื่อหน่าย  ไม่ดีจริงๆ  ที่ฉันเอาแต่มายืนคุยกับคนของแก็งอื่นแบบนี้  ถ้าพ่อรู้คงสั่งอดข้าวน้ำฉันวันนึงเต็มๆ  แน่  =[]=

                           “ไม่ว่างก็ต้องคุย!!  ยูโดพูดต่ออย่างกดดัน  T^T 

                           นี่มันเลยสิบโมงมาตั้งนานแล้วนะ  ทำไมหมอนี่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย  หรือว่าเขาชอบไปสายอย่างนี้ตลอด  หึ  ทุเรศจริงๆ  (พยายามหาเรื่องด่า  -___-;)

                           “เออ  ก็ได้  ว่ามาสิ”  ฉันพยักหน้านิดๆ ก่อนจะตอบเสียงห้วนหลังจากคิดนอกเรื่องไปนาน  

                           “จำวันที่เธอเจอฉันอยู่โกดังได้มั๊ย”   ยูโดถามขึ้น  TOT 

                           “จำได้  แล้วทำไม”  ฉันตอบ  Y^Y  วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอยูโด  แต่ก็มองเห็นเฉพาะด้านหลังเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร  ฉันหาว่าเขาเหมือนจิ๊กโก๋ชั้นต่ำด้วยแหละ  อิๆ  ตลกชะมัด  เอ๊ะ!  แล้วฉันไปตลกหมอนี่ทำไมกันเนี่ย  -O-

                           “เธอได้ยินอะไรบ้าง”  ยูโดถามฉันนิ่งๆ

                           อ๋อ  ที่แท้ก็ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไปได้ยินเขาคุยกับกลุ่มกบฏอยู่อีกเหรอ TT_TT

                           “ไม่รู้สิ  ^___^  ฉันตอบกลับนิ่งๆ  แล้วแย้มยิ้มอย่างกวนทีนนนนนนน  TOT   อันที่จริงฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยนะ  เพราะรู้ดีว่าถ้าฉันเจอแบบนี้ก็คงจะแย่เหมือนกัน  ว่าแต่ฉันหัดเป็นคนดีกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  -____-;

                           “อย่า-กวน!  ยูโดว่า  Y^Y 

                           “จิ๊  ฉันจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด  TOT  ยูโดยืนมองฉันอย่างข่มอารมณ์  (ข่มทำไม)  ก่อนจะกระชากแขนฉันจนตัวลอยแล้วปล่อยลงบนโซฟาอย่างแรง

                           ตุ๊บ!

                           “นี่นาย!  ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ!!!   ฉันร้องเสียงดัง (อีกครั้ง)  พลางจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกยูโดกดไหล่ให้นั่งลงเหมือนเดิมซะก่อน  +___+

                           เจ็บง่ะ  T^T  เหมือนไหล่จะหลุดเลย

                           “แล้วเธอจะเล่นตัวทำไมมากมาย!  ยูโดว่าอย่างเริ่มมีน้ำโห  -O-  ฉันมองเห็นว่าตาเขามันเริ่มขวางยังไงชอบกล  ดูดุๆ  ยังไงก็ไม่รู้

                           “ฉันไม่ได้เล่นตัว!  ฉันตอบกลับ  =[]=  ก็มันจริงนี่  ฉันไม่ได้เล่นตัวอะไรสักหน่อยนะ  เอ่อหรือว่าเล่น  โอ๊ะ!  ไม่สิ  ฉันไม่ได้เล่นตัวต่างหาก  TOT

                           “น่ารำคาญ”  ยูโดว่าอย่างเบื่อหน่ายแล้วปล่อยมือที่จับไหล่ฉันอยู่ออก  ^Y^  ฉันเงยหน้ามองว่าเขาจะเอายังไงต่อไปแต่สุดท้ายเขาก็วกกลับมาถามฉันเรื่องเดิมอีก

                           “ตกลงเธอได้ยินอะไรบ้าง”

                           “ฉันไม่รู้”   ฉันยังคงรักษาคำตอบเดิมอย่างคงเส้นคงวา  ยูโดหันขวับมามองหน้าฉันอย่างไม่รู้จะเอายังไงกับฉันดี  TT__TT  ช่วยไม่ได้อ่ะที่ฉันจะไม่บอก  ก็ฉันไม่ได้เป็นคู่รักเขานี่  ฉันเป็นศัตรู  ศัตรูนะจ๊ะศัตรู  เอ๊ะ!  นี่ฉันพูดอะไรออกมา  คู่รักงั้นเหรอ  อี๋~  ทุเรศอ่ะ  คู่รักกับไอ้โรคจิตเนี่ยนะ  TOT

                           “เธอยังยืนยันกับคำตอบนี้ใช่มั๊ย”  ยูโดถามเสียงต่ำจนฉันเริ่มหวาดๆ  แต่ช้าก่อน  ยังไงฉันก็จะไม่แสดงอาการอะไรออกมาหรอกนะ  -O-

                           “ใช่”  ฉันตอบเสียงดังฟังชัด  =[]=  ยูโดที่ยืนค้ำอยู่บนหัวฉันก้มหน้าลงมาเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างกดดันเป็นที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาในรอบปี

                           “งั้นก็ยืนยันต่อไปให้ได้ตลอดล่ะกัน”

                           …….(-___-;)

                           “เพราะฉัน…….จะหาคำตอบมาเอง!!!

                           ฉันเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เพิ่งพูดประโยคเมื่อกี๊ออกมา   สายตาของเขาดูเด็ดเดี่ยวและมั่นใจมากจนฉันรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเลย  และหลังจากนั้นยูโดก็เดินออกจากห้องไป  T^T  ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วห้องพลางใช้ความคิด

                            หมอนั่นทำไมถึงได้อยากรู้นักว่าฉันได้ยินเรื่องที่เขาพูดกับกลุ่มชายชุดดำวันนั้นหรือเปล่า  -O-   และถ้าหากได้ยินจริง  มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องมาเค้นเอาคำตอบจากฉันให้ได้   อันที่จริงฉันก็พอรู้กฎของทุกแก็งอยู่นะ  ไอ้ข้อที่ว่าถ้าหากมีผู้คิดต่อต้านว่าที่ผู้สืบทอดที่จะเป็นหัวหน้าแก็งคนต่อไป  ว่าที่ผู้สืบทอดคนนั้นจะไม่มีสิทธิ์ดูแลแก็งนั้นเลย   ซึ่งเขาคงกลัวว่าฉันจะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศแล้วจะมีคนต่อต้านเขาเยอะขึ้นล่ะมั๊ง  ถึงได้พยายามถามหาเอาความจริงให้ได้  ให้ตายสิ!  ต่อจากนี้ฉันต้องอยู่ห่างหมอนั่นไปเยอะๆ  ซะแล้ว  Y^Y

                            หลังจากคุยกับตัวเองได้สักพัก  (บ้า -___-;)  ฉันก็ปัดเนื้อปัดตัวจัดระเบียดชุดเดรสบานพลิ้วสีขาวให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเดินออกจากห้องไป  ไม่รู้ว่าป่านนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว  ลืมใส่นาฬิกามา TOT

                            แอ๊ดดดดด

                            O__O!!!

                            “ฉันชักอยากจะรู้เรื่องของเธอซะแล้วสิ =[]=

                            เดวิล  หมอนี่มาได้ไง  OoOoo

     

     

           จบไปแล้วกับตอนที่  5   ผ่านวันสงกรานต์แล้ว  หวังว่าทุกคนคงจะสนุก

    สนานกันถ้วนหน้านะคะ  ฟันนี่  (ที่จริงชื่อนี้เป็นนามปากกาเก่าค่ะ)  กำลังตาบวม

    ตาลายกับตอนนี้  ใช้เวลาสามชั่วโมงค่ะ  ไม่รู้ว่าคนอ่านจะรู้สึกว่ามันนานหรือมัน

    เร็วกันแน่  แต่อันที่จริงเรื่องนี้ไม่สำคัญหรอกค่ะ  สำคัญอยู่ที่ว่าคนอ่าน

    จะมีคอมเม้นให้มั๊ย  ฟันนี่รู้สึกท้อเหมือนกันนะคะ  แต่ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอคอมเม้นต่อ

    ไปค่ะ ยังไงก็ขอฝากตอนที่ห้าไว้ด้วยนะคะ  ส่วนตอนต่อไปทุกคนจะได้ลุ้นไปกับภารกิจแรกค่ะ

    แล้วก็ขอบ๊ายบายเลยนะคะ  ยังไงก็ช่วยกันคอมเม้นด้วยเน้อ~

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×