ตอนที่ 7 : นางสาวอินดี้ นามสกุลติสต์แตก (1)
ปี 2020
“หนูขวัญอยู่ไหมลูก”
“…” เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก…
“พาขวัญ ถ้าได้ยินเสียงป้าก็ขานตอบหน่อย”
ร่างผอมบางที่นอนหลับใหลเหมือนซ้อมตายขมวดคิ้วมุ่นกับเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายหนวกหู ดวงตาเรียวโตเหมือนตากวางสาวระแวงไพรที่ยังแฝงความง่วงงุนปรือขึ้น เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาแสนโรแมนติกขับกล่อมกระทบโสตประสาท กลิ่นฉุนๆ ของสีน้ำมัน…น้ำมันสนกระทบนาสิก
นี่เธอเผลอทำงานจนเผลอหลับบนพื้นห้องอีกแล้วเหรอ?
ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร่างกายเธอชัตดาวน์เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานหนัก
“เอ! ทำไมเงียบจังลุงหรือว่าจะวูบเป็นลมเป็นแล้งหมดสติไปอีกโดยไม่มีใครรู้ใครเห็น”
ลุงที่คนพูดเรียกก็คือผัวของป้าชวนชมนั่นล่ะ
เรียกลุง…ลุงทองเปลวไม่ถือสา แต่ถ้าเรียก ‘ผัวขา’ นี่แอบมีผวา
“ลุงไปเอากุญแจบ้านมา” สั่งลุงทองเปลวด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะร้อนใจ
“ป้าจ๋า” เสียงแหบพร่าปนความง่วงงุนตะโกนตอบกลับมาจากชั้นสองของบ้าน “แป๊บหนึ่งนะจ๊ะป้าจ๋า”
แป๊บ! ของพู่กันเกือบสิบนาทีกว่าจะลุกขึ้นเดินลากสังขารลงบันไดมาเปิดประตูบ้านได้ ไม่ได้ขี้เกียจ แต่นอนนานจนร่างกายเหมือนหยุดทำงานไปชั่วครู่
พู่กันเป็นลูกเสี้ยวไทย เยอรมัน อเมริกามีชื่อจริงอันแสนไพเราะเพราะพริ้งราวนางในวรรณคดีว่า ‘วาดจันทร์ ไวล์เดอร์’
เด็กหญิงชื่อแปลกไม่เหมือนใครถูกเพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลล้อเลยกลับมาถามมารดาว่าทำไมตั้งชื่อว่าพู่กัน วาดจันทร์ ดาวจรัสซึ่งเป็นดารา นางแบบระดับซุปตาร์ของไทยและชื่นชอบศิลปินคนหนึ่งมาก…ก พอมีลูกสาวเลยตั้งชื่อว่าพู่กัน ส่วนชื่อจริงอันแสนไพเราะเพราะพริ้งราวนางในวรรณคดีได้มาจาก ‘แม่หญิงวาดจันทร์’ ชื่อตัวละครแนวพีเรียดย้อนยุคที่ดาวจรัสเคยแสดงเมื่อสมัยสาวๆ ทั้งความหมายชื่อดีแปลว่างดงามดุจพระจันทร์ที่วาดและยังเข้าพวกกับชื่อดาวจรัสซึ่งเป็นชื่อจริงๆ ของท่าน
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พู่กันต้องปิดบังชื่อแซ่ที่แท้จริง ทุกๆ คนที่นี่ต่างรู้จักเธอในชื่อนางสาวพาขวัญ ศิริประภาเป็นเด็กกำพร้า น่าสงสาร ชื่นชอบในการวาดภาพ นิสัยอินดี้ ติสต์แตก โลกส่วนตัวสูง โนสน โนแคร์เวิร์ล
หญิงสาวร่างผอมบางแทบจะปลิวลมผมยาวสีบลูเน็ตยุ่งเหยิงหน้าม้าแตกใต้ตาดำคล้ำมีสีเลอะที่แก้มเนียนใสท่าทางอ่อนเพลียอิดโรยยกมือขึ้นพนมไหว้สวัสดีแล้วยิ้มแหยๆ ให้ชายหญิงสูงวัย
สีหน้า แววตาของป้าชวนชมมีความกังวลปนเป็นห่วง สีหน้า แววตาของลุงทองเปลวดูนิ่งๆ ดูซื่อๆ
“เด็กคนนี้วาดภาพจนลืมเวลาอีกละสิ” ชวนชมบ่นโขมงโฉงเฉง
ในสายตาป้ากับสามีที่ทำอาชีพชาวสวนชาวไร่รับจ้างทั่วไปเห็นว่าสิ่งที่พู่กันหรือพาขวัญที่พวกเขารู้จัก รักและชื่นชอบไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ ชาวบ้านตาสียายสาแบบแกกับสามีมองรูปวาดที่พู่กันวาด….เออ มันสวยดี บางรูปก็ดูไม่ออกว่ามันคือรูปอะไร (แอบสแตรกต์อาร์ต (Abstract Art) รูปนามธรรม) ถ้าเอาไปวางขายที่ตลาดนัดคนคงเดินผ่านไปเลยคงไม่มีใครคิดจะซื้อ เข้าอีหรอบจิตรกรไส้แห้ง แต่ด้วยรักเอ็นดูเหมือนลูกหลานและหวังดีกับเด็กสาวก็เลยพูดตรงๆ ว่า…
‘ขวัญเอ๋ยการทำแต่สิ่งชอบหรือสิ่งที่อยากทำ มันไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะลูก แต่หาใช่ทุกคนไม่ที่จะได้ทำงานที่ตนเองรักและประสบความสำเร็จ ป้ามีคนรู้จักในตลาดเยอะ ถ้าหนูสนใจอยากทำงานหาอาชีพเสริมป้าจะพาไปฝากให้ทำงาน บางครั้งคนเราเกิดมาไม่สามารถทำในสิ่งที่ชอบอย่างเดียว เราต้องรู้จักทำสิ่งที่ไม่ชอบด้วยเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เราต้องการ แล้วมีรายได้สองทางดีกว่าทางเดียวนะลูกนะ’
พู่กันยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วสอนป้าชวนชมที่โลว์เทค (low-tech) ให้นำสินค้าทางการเกษตรจากไร่ของแกที่ปกติจะส่งขายแม่ค้าที่ตลาดหรือพ่อค้าคนกลางมารับซื้อที่ไร่แต่กดราคาจนแทบจะไม่มีกำไรด้วยการขายออนไลน์ ด้วยสโลแกน
‘ผักผลไม้สดๆ คัดเกรดพรีเมียมจากไร่ส่งตรงถึงบ้าน’
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
