ตอนที่ 20 : ช่างจำเป็น! (จบ)
เธอจะทำอย่างไรถ้าถูกไอ้ยักษ์ขี้เก๊กเครางามนี่จับกดปลุกปล้ำทำเมีย!
แค่เห็นหน้าก็รู้ไปถึงไส้ติ่ง
“เลิกมโน!” นิ้วแกร่งจิ้มหน้าผากนูนเนียนดันไปข้างหลังสามเซนติเมตร แล้วเทศนาเรื่องล็อกประตูบ้าน
“เป็นปลาทองหรือไงถึงได้ขี้หลงขี้ลืมขนาดนี้”
คนที่ตอนก่อนหน้าเคยถูกเปรียบเป็นเห็บหมา ตอนนี้ยังเปรียบเป็นปลาทองที่มีความจำสามวินาที ตอนหน้าจะถูกเปรียบเป็นตัวอะไรเนี่ย?
พู่กันหน้ายุ่งเหมือนยุงตีกัน ปากยื่นยาวจนแทบแตะจมูก ยิ่งรู้ว่าเขาพูดถูกทุกประการยิ่งโมโหฮึดฮัดกับน้ำเสียงสั่งวางอำนาจ
“ข่าวนะดูบ้างไหม? ถ้าโชคดีโจรผู้ร้ายก็แค่หยิบฉวยของมีค่า ถ้าโชคร้ายก็คงถูกข่มขืนแล้วฆ่าหมกส้วม กว่าจะมีคนมาเจอก็คงขึ้นอืดเหม็นเน่ายิ่งกว่าหมาเน่า”
เทศนาสั่งสอนเก่งยิ่งกว่าพ่อเสียอีก!
“เทศนาสั่งสอนจบยังคะแด๊ดดี้” เสียงหวานพูดประชด
พลันหัวใจดวงน้อยเกิดอาการเจ็บปวดเมื่อจู่ๆ ก็คิดถึงพ่อแม่ ไม่มีสักวันในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานี้ที่เธอไม่คิดถึงพวกท่าน เธอคิดถึง ‘แม่จ๋า’ เหลือเกิน การสูญเสียมารดาสุดที่รักด้วยน้ำมือของบิดาบังเกิดเกล้าทำให้ครอบครัวที่แสนสุขพังทลายลง
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายนั้นซอเยอร์ก็หนีออกนอกประเทศไปพร้อมเงินของลูกค้ากว่าห้าพันล้านดอลลาร์ เธอยังคงคิดถึง ‘พ่อจ๋า’ ไม่รู้ว่าพ่อจ๋ายังมีชีวิตอยู่หรือตาย! และอยากเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมารดามันเป็นแค่อุบัติเหตุ
จาเรดมองใบหน้าเศร้าสลด น้ำตาคลอหน่วยของยัยเด็กเพี้ยนข้างบ้านแล้วถอนหายใจยาว
ได้ยินมาว่า…ว่าพวกศิลปินมักเซนซิทีฟ (sensitive) รับรู้ความรู้สึกคนอื่นได้ไว แต่ไม่คิดว่าจะไวปานนี้
“ดุแค่นี้ถึงกับน้ำตาคลอเลยหรือไงฮือ”
พู่กันยกหลังมือป้ายน้ำตาลวกๆ ด้วยท่าทางแบบเด็กๆ “คุณมีธุระเร่งด่วนอะไรถึงได้บุกขึ้นมาถึงห้องนอนของฉันก็ว่ามา!”
“ป้าชมไว้วานให้ฉันมาซ่อมอะไรสักอย่างเกี่ยวกับน้ำๆ นี่ล่ะ”
“อ้อ! ท่อน้ำประปาแตก” คนพูดเผ่นแผล็วลงจากเตียงวิ่งไปยังประตูห้อง มือเรียวจับลูกบิดทองเหลืองหมุนกระชากเปิดออกจะพาช่างซ่อมจำเป็นไปดูจุดตรงท่อประปาแตก
จาเรดส่ายหน้าระอาแล้วเดินตามยัยเด็กเพี้ยนข้างบ้านที่เปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้ไวเหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสี
พู่กันวิ่งลงบันไดไป
เมื่อนึกถึงแจกันดอกไม้ที่ตกแตกได้จาเรดจะตะโกนเตือนแต่ช้าเกินไป
“โอ๊ย!” พู่กันที่เหยียบเศษแจกันที่ตกแตกนิ่งงันไป
โหลดตอนพิเศษฟรี ที่นี่ >
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
