ตอนที่ 22 : Chapter 5 ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ! (จบ)
วางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ
E-BOOK
สามารถดาวโหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ
Chapter 5
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!
“เฮ้ย! ยัยผมแดงโครตร้อนแรงเลยวะ!” ไอ้แบงค์ที่หลงใหลสาวผมแดงพูดขึ้น
“ชื่อ โซรา (ชเว โซรา) ลูกครึ่ง ไทย เกาหลี ขาวสวยหมวยเอ๊กซ์ สเปกกูเลยวะ” ไอ้เป้อ่านข้อความ พร้อมกับทำหน้าหื่นกาม จนไอ้แบงค์ต้องยกมือโบกมันอีกรอบ
ผลัวะ!
“แม่ง! จะเอาทุกคนเลยไงไอ้เป้ หื่นขึ้นหน้าแล้วมึง” ไอ้แบงค์ด่า
“เชี่ย! กูไม่มีแฟน กูจะหื่นแค่ไหนก็ได้”
พวกมันต่อปากต่อคำกันอย่างเผ็ดร้อนอีกหลายประโยคแบบไม่มีใครยอมใคร
“แล้วคนผมยาวสลวยเหมือนพีเซนเตอร์ยาสระผมล่ะ”
“มิ้น (มินตรา เจริญบำรุงรักษ์) สาวสวยผมดำขลับ พรีเซนเตอร์แชมพูยี่ห้อดัง” ไอ้ไทม์อ่านข้อความ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพราะมันมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว (นั้นก็คือน้องสาวผมเอง) ขืนมีอาการสิ! ผมจะยุให้ไอ้เจ้ากันย์มันเลิกขาด
“ส่วนยัยหมวยตัวเล็กคือ นานะ (ธนัชญา อิชิคาวา) เป็นลูกครึ่ง ไทย ญี่ปุ่น” ไอ้ซันอ่านข้อความ
สรุปทุกคนยกเว้นคนที่ชื่อมิ้นมีเชื้อชาติอื่นปนอยู่ อย่างคาร่าก็เป็นลูกเสี้ยวไทย สิงคโปร์ ออสเตเลีย
“ยัยนานะดูน่ารักดีอยู่หรอก แต่แรงดีเป็นบ้า” ไอ้เป้บ่นพึมพำเบาๆ แต่ผมดั๊นหูดีได้ยิน สมองนี่คิดไปไกลตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘แรงดี’
“รู้ได้ไงวะ ไอ้เป้” ไอ้แบงค์เงยหน้าขึ้นมาถาม สงสัยมันจะได้ยินประโยคเมื่อกี้เหมือนผม
“ก็ฉันเป็นคนลากยัยตัวเล็กนี้ออกไปตอนที่ไอ้ทัพนัวกับยัยคาร่าคนสวยไง” ไอ้เป้เฉลย และนั่นก็ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองมันตาขวาง
“อ้อ!” อีกสามคนถึงบางบ้างอ้อ! ยิ้มกรุ้มกริ่มและมองผมด้วยสายตามีเลศนัย
“ไม่ต้องมาอ้อ! เลย” ผมแยกเขี้ยวใส่พวกมัน แล้วก้มลงอ่านประวัติของคาร่าต่อ
‘คาร่า คีรติ วิโรจน์นรเศรษฐ์ ได้รับกาโหวตจากหนุ่มๆ ว่ามีริมฝีปากที่น่า kiss ที่สุดจากนิตยสาร…’
ผมจ้องรูปของเธอ ที่กำลังโพสท์ท่าแบบว่ายั่วยวนใจสุดๆ เห็นแล้วทำให้ผมนึกจูบดูดดื่มระหว่างเราขึ้นมา แล้วนั่งยิ้มปัญญาอ่อนจนถูกเดอะแก๊งโห่แซว
“กูเห็นด้วยอย่างแรง เพราะริมฝีปากของคาร่าน่า kiss ที่สุด” ไอ้เป้ทำท่าเคลิบเคลิ้ม และนั่นทำให้ผมเงยหน้าจากหน้าจอสมาร์ทโฟนจ้องมันตาวาววับ ที่มันบังอาจคิดว่าผู้หญิงของผมน่าคิสที่สุด
ผู้หญิงของผมเหรอ?...ความคิดนี้ทำให้ผมรู้สึกตกใจ นี่ผมกลายเป็นผู้ชายใจง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เชี่ย! เป้ หุบปากไปเลย” ผมสั่งเสียงเข้ม
“โอ๊ะโอ! หวงซะด้วย” ไอ้เป้แซว ก่อนจะผิวปากหวืออย่างอารมณ์ดีที่ทำให้ส้นเท้าผมกระตุกยึกๆ
“คนนี้เหรอ? ที่ตบยัยบัวบานน่ะ”
“ช่าย คนนี้แหละ” ไอ้เป้ตอบ พร้อมกับเล่าวีรกรรมของคาร่า ว่าขึ้นคร่อมบัวบูชาแบบไหน ตบยังไง
“แร๊ง!”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนั่น ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงโห่แซวมาจากลานหน้าคณะฯ และนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่ามีผู้หญิงเดินผ่านมา
คณะฯ ของผมเป็นศูนย์รวมตัวผู้จากทุกสารทิศ มีผู้หญิงบ้างประปลาย ทุกนางออกแนวสวย คล้ำ ดำ ถึก ไม่ต่างจากผู้ชาย
“วู้ๆ มาหาใครครับ คนสวย”
“มีแฟนหรือยังคร้าบ”
“ให้ผมไปส่งไหม?”
“น่ารักอ่า”
“เซ็กซี่สุดๆ”
เสียงหวีดหวิวเป่าปากแซวดังมาให้พวกผมได้ยินเป็นระยะ จนอยากจะเห็นตัวแม่นางฟ้านางสวรรค์ที่มาโปรดคณะฯ ของผม
“เสียงแซวอะไรวะ ไอ้ทัพ” ไอ้แบงค์หันมาถามผม แล้วผมจะไปถามใครล่ะ
“ไม่รู้โว้ย! ก็นั่งอยู่ด้วยกันยังจะมาถามอีก” ผมว่า ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปส่องแถวหน้าลานหน้าคณะฯ ที่ตอนนี้ยังส่งเสียงเห่าหอนกันไม่หยุด ต้องบอกว่าน่ารำคาญสุดๆ
“สงสัยคงเป็นรุ่นน้องเรามันแซวสาววะ” ซันพูดขึ้น
“ไปดูกันหน่อยไหม?” ไทม์ชวนเพื่อนที่เหลือ
ผมและเดอะแก๊งมาหยุดยืนแถวลานหน้าคณะฯ และที่ยืนเด่นเปล่งออร่าเจิดจ้าคือ…
“เฮ้ย! นั้นมันคาร่ากับนานะ วง Crazy S.E.X.Y นี่” ไอ้แบงค์พูดขึ้น เมื่อเห็นว่าใครที่กำลังตกเป็นเหยื่อให้ไอ้รุ่นน้องกลัดแทะโลมอยู่ที่ลานหน้าคณะฯ
ผมยืนกอดอกมองร่างบางที่อยู่ในชุดนิสิตที่เสื้อออกจะตัวเล็กไปสักหน่อยและกระโปรงสั้นไปสักนิ้ด (ยาวแค่คืบ ) อย่างเคืองๆ เพราะผมไม่อยากให้ใครมองเธอ
“มาถึงถิ่นเลย” ไอ้เป้ยืนยิ้มกริ่ม อยู่ใกล้ๆ
“ว้าว! ตัวเป็นๆ เซ็กซี่กว่าในรูปอีกวะ” ไอ้ซันเริ่มซี๊ดปากอีกคน และนั่นก็ทำให้ผมอยากเอากำปั้นยัดปากพวกมันจริงๆ ที่ดันมามองผู้หญิงของผม
ผู้หญิงของผม…ประโยคนี้อีกแล้วเหรอ นี่สมองผมกำลังรวนไปแล้วหรือไร ทำไมผมต้องหวง ห่วง และไม่อยากให้ใครมองยัยตัวร้ายด้วย
รุ่นน้องคณะฯ ผมลุกขึ้นยืนล้อมเหยื่อสาวทั้งสองไว้ในวงล้อม พูดแซวและทำหน้าหื่นกามใส่
“ใครแตะผู้หญิงของกู กูจะตามฆ่าล้างโคตร” ผมตะโกนเสียงดังลั่นลานหน้าคณะฯ และนั่นทำให้เกิดความเงียบขึ้นแบบฉับพลัน ถ้ามีเข็มสักเล่มหล่นลงพื้นคงได้ยิน
พวกรุ่นน้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หันมองหน้ากันแบบเลิกลัก ก่อนจะเริ่มขยับถอยหลังวิ่งหนีหางจุกตูดกันไปคนละทิศละทาง เพราะใครต่างก็รู้ว่าผมนั่นคนจริง
“…” ไม่มีใครพูดอะไร มีแค่ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ผมกับคาร่ายืนจ้องหน้ากันราวกับชั่วนิรันดร์ทั้งที่ความจริงเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่สุดท้ายเป็นเธอที่หลบตาก่อน แล้วเดินตรงเข้ามาหาผมกับเดอะแก๊ง
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” คาร่าพูดขึ้น สายตาของผมหลุบมองเส้นโค้งนูนตรงหน้า แล้วนิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจ อยากจะถอดเสื้อเสื้อช็อปของตัวเองออกมาคลุมตัวเธอไว้ ไม่อยากให้ตัวผู้ตัวไหนมองเธอแบบที่ผมมอง
“ผมก็เหมือนกัน”
“ฉันมีข้อเสนอ” พูดพร้อมกับหลุบเปลือกตาลง เหมือนไม่อยากจะมองหน้าผม
“งั้นเราคงต้องหาที่เงียบๆ คุยกัน ว่าไหม?” ผมพูดเสนอด้วยน้ำเสียงเรียบร้อยติดจะเบื่อหน่าย
ทั้งที่ในใจผมนั่นเกิดอาการหวงเธอขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งไม่ใช่นิสัยปกติของผมแต่อย่างใด แต่เพิ่งมีอาการขี้หวงก็ตอนที่รู้จักกับคาร่านี่แหละ
“ได้” เธอตอบรับง่ายๆ
“ฉันไปด้วย” นานะเพื่อนของเธอพูดขึ้น และนั่นทำให้ไอ้เป้ที่เคลื่อนตัวไปยืนอยู่ข้างหลังยัยหมวยตัวเล็กตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ยกมือขึ้นจับล็อกแขนของคนตัวเล็กไว้
“ไม่ต้องเลยยัยตัวเล็ก มานี่เลย” ไอ้เป้ไม่พูดพร่ำทำเพลงและจัดการลากยัยตัวเล็กไปอีกทาง คาร่าจะเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ผมยึดข้อศอกของเธอไว้แน่น
“ปล่อยนะ ไอ้บ้า! ” เสียงร้องโวยวายของยัยตัวเล็กทำให้คาร่าหันขลับกลับมามองหน้าผม
“บอกให้เพื่อนนายปล่อยเพื่อนฉัน” เธอสั่งเสียงเข้ม
“…” ผมยักไหล่ ปฏิเสธความต้องการนั่น
“งั้นก็ปล่อยฉัน ฉันจะไปช่วนเพื่อนจากมนุษย์ถ้ำนั่น”
ผมกับเดอะแก๊งขำก๊ากกับคำว่า ‘มนุษย์ถ้ำ’
“เพื่อนผมไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกน่า อย่าห่วงไปเลย” ผมพูดสำทับให้เธอสบายใจ แล้วไอ้มนุษย์ถ้าเป้ก็ไม่ทำอะไรเกินเลยกับเพื่อนของเธอมากกว่านัว (เนีย) นิดหน่อย
“แต่…”
ผมยื่นปลายนิ้วชี้ไปแตะริมฝีปากอวบอิ่มให้หยุดพูด “จุ๊ๆ…ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล”
คาร่าหน้ามุ่ย “ไม่ให้ฉันกังวลได้ยังไง ฉันไม่ได้รู้จักคุณหรือเพื่อนของคุณสักหน่อย”
แม้จะทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยังน่ารัก น่ากินล่ะ!
“หรือว่าคุณกลัวที่จะอยู่กับผมสองต่อสอง” ท้าทายทางสายตา และนั่นทำให้หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี
“ไม่อย่างแน่นอน”
“ถ้าไม่กลัวก็เชิญทางนี้ครับ” ผมผ่ายมือเชิญด้วยท่าทีล้อเลียน และนั่นทำให้คาร่าแทบเต้น
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินเชิญคางสูง แอ่นอก เหยียดไหล่ตรงเดินนำหน้า
หึ! ผมยิ้มร้าย แล้วเดินตามเหยื่อของผมไป
หนึ่งเม้นท์ หนึ่งกำลังใจนะครัช ^_^ เป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวน้อยๆ
วางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ E-BOOK
สามารถดาวโหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
