ตอนที่ 14 : ตอนที่ 6 100%
วางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ E-BOOK
สามารถดาวโหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ
Credid เพลง style ศิลปิน taylor swift
เธอรู้สึกร้อนผะผ่าวที่หน้า เมื่อเพื่อนสาวมองมาแบบจับผิด ที่จริงเธอก็ไม่มีอะไรจะปิดบัง แต่เธอไม่อยากจะพูดไป เมื่อยังไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังรู้สึก
“บ้าดิ ทำงานด้วยกันแล้วจะมาเรียกชื่อกันยาวๆ ทำไม” เธอหาข้อแก้ตัวซึ่งดูจะมีเหตุมีผลมาได้ในวินาทีสุดท้าย “ไหนเอางานแกมาดูสิ”
“เฮ้ย! อย่า”มีนาพยายามจะคว้างานที่พิมพ์ออกจากมือของเพื่อนสาว แต่เธอก็ไม่อาจทำได้ เมื่อเพื่อนสาววิ่งข้ามโต๊ะไปอยู่อีกฟากของห้อง
“เขากำลังก้มลงมาช้าๆ จนตอนนี้ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่เกินหนึ่งเซ็น เขาสบตากับฉัน ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะปิดปากที่กำลังอ้าค้างของฉัน” เสียงอ่านดังมาจากอีกฟากของห้อง และตามมาด้วยเสียงแซวของเพื่อนสาว “วู้ๆ กำลังถึงฉากเข้าพระเข้านางพอดีเลย”
“เอามา”มีนาวิ่งไปเพื่อแย้งงานของตัวเองคืนมา แต่เพื่อนสาวก็ไวเป็นลิง วิ่งหนีไปอีกทางซะได้ เธอก็เลยได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะปล่อยให้เพื่อนสาวอ่านข้อความนั้นต่อไป
“เอาน่าฉันขออ่านหน่อย” อาทิตตาส่งยิ้มให้เพื่อนสาวที่ทำหน้าบึ้ง แต่เธอก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านต่อไป “เขาจูบฉันแบบช้าๆ และนุ่มนวล ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับปีกผีเสื้อที่กำลังขยับไหวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เขาจูบฉันเหมือนกับกระหายและรุนแรงขึ้น และฉันก็รับรู้ถึงเขี้ยวคมวาวของเขาที่บาดริมฝีปากของฉันจนรู้สึกของเหล็กที่อยู่ในเลือด เขาเลียริมฝีปากของฉัน ก่อนจะกลืนหยดเลือดหยดนั้นเขาไป เขาทำให้ฉันรู้สึกกลัวเมื่อมือคล่ำเข้มที่ตัดกับผิวขาวผ่องของฉันเอื้อมมาปลดชุดกระโปรงของฉัน ฉันกำลังจะกรีดร้อง แต่เสียงของฉันก็อยู่เพียงในลำคอ เมื่อเขาก้มลงมาปิดปากของฉันอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าฉันจะต้องทำยังไง เมื่อมือแข็งแรงของเขามาเกาะกุมที่หน้าอกของฉัน”เธออ่านจบ ก่อนจะโยนกระดาษแผ่นนั้นคืนเพื่อนสาวไป และหันกลับไปล้อเพื่อนสาวต่อ
“ว้าว! พระเอกเป็นแวมไพร์ซะด้วย แล้วมีหมาป่าด้วยมั้ยเนี่ย”
“ก็ช่วงนี้แนวนี้กำลังมาแรงนี้ ฉันก็เลยต้องเขียนมั่ง”มีนาอธิบาย ก่อนจะยักไหล่เหมือนไม่เห็นสำคัญ เพราะงานเขียนสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสมัยนิยม
“แล้วเวลาแกเขียนแกไม่เขินบ้างเหรอ”
“มันเป็นแค่ตัวหนังสือแล้วฉันจะเขินทำไม ไว้ให้ฉันได้ทำแบบที่เขียนจริงๆ เมื่อไหร่ จะได้รู้ว่าจะเขินไม่เขิน”เธอตอบเพื่อนสาวที่ทำท่าว่าอยากรู้อยากเห็น ทั้งที่เจ้าตัวก็เติบโตมาที่เมืองนอกเมืองนา ยังมีหน้ามาถามเธอซะอีก
“อู้ย! พูดซะเห็นภาพเลยแหะ”
“แล้วนี่งานแกไปถึงไหนแล้ว”เธอถามเพื่อนสาว ที่ทำท่านึกภาพตามที่เธอได้เขียนบรรยายไว้ รู้สึกว่าจะเคลิ้มไปหน่อยมั่งเนี่ย
“เสร็จแล้วนี่”
“ไม่ใช่งานตกแต่งสำนักงานของคุณเอกลักษณ์ แต่ที่ฉันกำลังถามอยู่นี่คือเรื่องของน้องชายแกต่างหากล่ะ”
เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องถามถึงเรื่องนี้ด้วยก็ไม่รู้ ทั้งที่จริงเรื่องนี้มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับเธอเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยผู้ชายที่อยู่ในภาพที่อาทิตตาขโมยมาไม่ได้
“ก็ยังไม่ถึงไหน” หญิงสาวแบร่มือ เหมือนบอกว่าทำดีที่สุดแล้ว “ฉันกะจะชวนคุณลักษณ์ไปที่คอนโดของทีสิตดู เผื่อจะได้อะไรมั่ง”
“แล้วจะไปวันไหนอ่ะ เผื่อฉันจะได้ไปช่วย”
เพื่อนสาวทำท่าลังเลก่อนจะตอบ “อาจจะพรุ่งนี้มั่ง”
“โอ้ย! พรุ่งนี้ฉันคงไปไม่ได้ เพราะฉันต้องเข้าไปหาบอกอที่สำนักพิมพ์” เธอบอกด้วยความเสียดาย เพราะเธอก็อยากจะเห็นว่าผู้ชายแบบเขาอาศัยอยู่ในห้องแบบไหนกัน “ว่าแล้วฉันก็ทำงานต่อดีกว่า”เธอนั่งลงและเตรียมพร้อมที่จะทำงาน
“แต่ฉันว่าแกออกมากินข้าวก่อนดีกว่า ดูซิ กินนอนไม่เป็นเวลา เดี๋ยวก็กลับไปเป็นป้าอีกรอบหรอกแก”เพื่อนสาวพูดขู่ และนั้นก็ทำให้เธอปล่อยงานที่อยู่ในมือทันที เพราะเธอไม่อยากกลับไปเป็นป้าหรืออาซิ้มอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็เป็นประสบการณ์ที่น่าสยดสยองพอแล้ว
“จริงเหรอ”
“จริง”
“งั้นก็ไปกินข้าวกันเถอะ”
“ฉันละเชื่อแกเลย”อาทิตตาส่ายหน้า ก่อนจะเดินตามเพื่อนสาวเข้าห้องครัวไป
ต้องบอกว่าเรื่องเข้าครัวเป็นสิ่งที่เธอไม่ถนัดที่สุด แต่เรื่องกินนี้ไม่ต้องบอก เพราะเธอชอบเป็นอันดับหนึ่ง รองจากการนอน
“ห้ามบ่น แล้วก็ตามฉันมา เพราะมื้อนี้แกต้องมาช่วยฉันทำกับข้าวรู้มั้ย”
โอ้ย! แค่คิดก็สยองแล้ว ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบเข้าครัว
“ฉันทำไม่เป็นแกก็น่าจะรู้” เธอโอดครวญ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ในครัว และมองเพื่อนสาวเตรียมนั้นเตรียมนี้อย่างคล่องแคล่ว สมกับเป็นแม่ครัวหัวป่า
“โอ้ย! เสียชื่อแม่แกหมดเลยรู้มั้ยอุตส่าห์เปิดร้านอาหารไทยที่ วอซิงตัน ดี.ซี. แต่ลูกสาวกับอีแค่เจียวไข่ยังทำไหม้ได้เลย”
อันนี้เป็นความจริง และตอนนั้นเธอจำได้ว่าเข้าไปช่วยคุณยายทำกับข้าว แต่ช่วยไปช่วยมาแบบไหนก็ไม่รู้ ทำให้ไข่เจียวที่กำลังทอดอยู่ไหม้เกรียม และไม่เพียงแค่นั้น เธอเกือบจะทำไฟไหม้ห้องครัวของคุณยายอีกด้วย ดีว่าคุณยายเข้ามาพบและดับไฟได้ทัน
“ขอบใจที่ถนอมน้ำใจ แต่ฉันก็รู้ตัวยะ”
“รู้แล้วก็มาช่วยฉันสิจะได้ทำเป็น” เพื่อนสาวพูด พร้อมกับล้างผักไปด้วย “ฉันละสงสารว่าที่สามีแกจริงๆ ที่จะต้องกินข้าวสามกษัตริย์กับไข่เจียวไหม้ๆ”
มันคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอกมั่ง (แต่แย่กว่ามาก : มีนา)
“ฉันไม่สงสารสามีของฉันหรอก ที่ฉันสงสารนะ ตัวฉันเอง”
เพราะทำอาหารไม่เป็นเธอก็เลยต้องกินง่ายอยู่ง่าย และพยายามทำตัวไม่เรื่องมาก (เรื่องอาหาร) เข้าไว้ ไม่งั้นก็คงต้องอดตามระเบียบ
“จะสงสารใครก็ช่าง กรุณาเข้าครัวมาเดี๋ยวนี้เลย”
“จ้า คุณแม่ครัวหัวป่า”เธอพูดประชด แต่ก็เข้าไปช่วยเพื่อนสาวหั่นผัก แต่หั่นไปหั่นมา ดันหั่นนิ้วของตัวเองจนเลือดไหล ยัยมีนเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะไล่เธอออกมารอเพื่อกินอย่างเดียว
เห็นมั้ย บอกแล้วไม่เชื่อ ว่าเธอไม่ถูกกับห้องครัวจริงๆ
เรื่องสืบร้อน ซ่อนเสน่หา
วางจำหน่ายแล้วในรูปแบบอีบุคค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++
Talk
ฝากแอดเฟร์น กดโวต กดแชร์ให้รู้กันทั้งสามโลก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
