ตอนที่ 40 : ยั่วดีนักเดี๋ยวจะจัดให้หนัก(1)
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา งานเปิดตัวรถสปอร์ต มิลาน
อัลฟ่าเวกเตอร์ เรย์ เป็นหนึ่งในบริษัท ออโต้ ซูเปอร์คาร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สายเลือดอิตาลี ก่อตั้งโดย ฟิลิปโป วาเลนติโนและเพื่อนๆ ในปี ค.ศ. 1977 เน้นเจาะตลาดตลาดไปที่การผลิตรถแข่งและรถสปอร์ตสุดหรู อัลฟ่าเวกเตอร์ เรย์ นั้นเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งสำหรับ ความเร็ว และความหรูมีระดับ การออกแบบตราสัญลักษณ์ของ อัลฟ่าเวกเตอร์ เรย์ นั้นได้รับไอเดียมาจากสัตว์นักล่าที่เป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกนั่นก็คือเสือชีตาห์
นอกจากรถสปอร์ตแล้ว ทางบริษัทยังได้ผลิตรถยนต์ออกมาอีกหลายรุ่น ทั้งรถแข่งในสนามและรถยนต์ที่เน้นความหรูหราที่เน้นตามความต้องการของลูกค้าที่เป็นเหล่าบรรดามหาเศรษฐีทั่วทุกมุมโลก มีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทมีปัญหากับยอดสั่งซื้อจนบริษัทต้องประสบปัญหากับการเงิน แต่เมื่อวินเซนโซ่ได้ก้าวเข้ามา เขาก็ได้ระดมสมองและความคิดจากนักวิศวกรจากทั้งในและนอกประเทศ จนกระทั่งบริษัทกลับมามั่นคงอีกครั้งจากการดูแลพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์จากวิศวกรและทีมงานที่เขาคัดสรรมาเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทรถยนต์อัลฟ่าเวกเตอร์ เรย์ กลับมาผงาดในวงการรถยนต์ได้อีกครั้ง ซึ่งเกิดจากการทุ่มเท มุ่งมั่น บวกกับเงินทุนมหาศาลจากหุ้นส่วนคนใหม่อย่าง คริสเตียน คัลเดลว่า หนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งที่สุด ฉลาดที่สุด ที่เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของเขา และจากการทำงานร่วมกันมาหลายปีทำให้เขากับคริสเตียนกลายเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกัน
“วินซ์ ทำไมนายไม่ชวนภรรยาคนสวยของนายมางานเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ของบริษัทล่ะ” คริสเตียนเอ่ยถาม เมื่อไม่เห็นภรรยาที่เพิ่งแต่งงานหมาดๆ ของวินเซนโซ่มาร่วมงาน มันเป็นการแต่งงานที่เร่งรีบ แม้กระทั่งเขาที่เป็นเพื่อนที่เรียกได้ว่าค่อนข้างสนิทกับวินเซนโซ่ยังไม่รู้ มารู้อีกทีก็ตอนที่เพื่อนสนิทเดินทางกลับมาจากการลาหยุดแล้ว
“มิเคล่ากำลังยุ่งๆ กับงานอยู่นะ เพราะต้องย้ายอย่างกะทันหันมาประจำที่ช้อปที่มิลาน” วินเซนโซ่ตอบและมองงานเปิดตัวรถสปอร์ตคันใหม่ด้วยความพอใจ
รถสปอร์ตสายพันธุ์ใหม่ของบริษัท อัลฟ่าเวกเตอร์ เรย์ ได้เผยโฉมรถสปอร์ตคาร์ดีไซน์แจ่ม ชื่อว่า “ชีตาห์ แกมมา เรย์” ในรูปโฉมของรถสปอร์ตพรีเมียมสุดหรู มาพร้อมหน้าจอแสดงผลมาตรวัดแบบดิจิตอล น้ำหนักเบาแต่มีโครงสร้างที่แข็งแรง ออกแบบใหม่ให้มีสมรรถนะสมบูรณ์สูงสุด ทั้งตัวถังที่ทำจากอะลูมิเนียม และเครื่องยนต์ วี 8 โดยสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาต่ำกว่า 4 วินาที ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องแคล่วมากขึ้นตรงที่มีการปรับเปลี่ยนกรอบไฟท้ายมาเป็นกรอบไฟชุดเดียว รวมทั้งกระจกข้างที่ดูคลาสสิกมากขึ้น นอกจากนี้ยังโดดเด่นที่โลโก้แบบใหม่ที่ดูสวยงามแปลกตา แต่กลับมีเสน่ห์จนใครๆ ที่ได้เห็นจะต้องหลงใหล
ถ้าเปรียบรถคันนี้กับผู้หญิงสักคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นจะสวย เซ็กซี่ ร้อนแรง แล้วภาพผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏในใจของวินเซนโซ่ขึ้นมาในทันที มิเคล่า อิซาเบลลา วาเลนติโน ภรรยาคนสวยของเขานั้นเอง
“อ้อ! เข้าใจล่ะ” คริสเตียนพยักหน้ารับ ก่อนจะสอดมือเข้าไปกางเกงสแล็กส์ของตน
“ดูท่าสื่อจะชอบรถรุ่นสปอร์ตรุ่นใหม่ของเรานะ” วินเซนโซ่พูดและปัดภาพภรรยาสาวสุดเอ็กซ์ออกไปจากใจ ซึ่งช่วงหลังๆ นี้มักจะเข้ามารบกวนจิตใจเขาบ่อยๆ
“แน่สิ” ริมฝีปากคนพูดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มขบขัน เมื่อลากเสียงพูดช้าๆ ว่า… “เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าสาวๆ พริตตี้สุดสวยกำลังจะออกมาโชว์ล้างรถ รับรองถ้าไม่เซ็กซี่ ไม่ซี๊ด ไม่เสียว ฉันให้เหยียบเลย”
คนฟังเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งขึ้น “แล้วใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้ล่ะ”
“ก็ฉันกับหัวหน้าฝ่ายการตลาดน่ะสิ” คริสเตียนยืดอกรับด้วยความพอใจ เขาเป็นคนสั่งการ แต่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัทมีหน้าที่รับเรื่องไป ส่วนสาวๆ ที่จะมาโชว์ล้างรถ ก็สวยเด็ดทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนคัดเลือกด้วยตัวเอง “โน้น! ออกมาโน้นแล้ว”
เสียงพูดคุยของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน นักข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และพนักงานของบริษัทเงียบลง แล้วเสียงเพลงเร้าใจก็ดังกระหึ่มขึ้น เมื่อสาวๆ ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวเล็กเอวลอย กางเกงขาสั้นสีแดงที่สั้นจนแทบจะปิดแก้มก้นไม่มิด เดินออกมาพร้อมกับรองเท้าบูตหนังสูงห้านิ้วสีดำยาวถึงเข่าออกมาโชว์การล้างรถที่เห็นแล้วต้องซี๊ดกันเลยทีเดียว
“เฮ้ย!” ดวงตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อมองเห็นหน้าพริตตี้สาวผมยาวสีดำที่ถูกจับดัดเป็นลอนใหญ่ชัดๆ พริตตี้สาวคนสวยโชว์ล้างรถด้วยท่าทางเซ็กซี่ที่ทำให้หนุ่มๆ ที่กำลังมองอยู่ร้อนฉ่าได้อย่างไม่อยากเย็นนัก
สาวๆ พริตตี้แอ่นหน้าอกอวบใหญ่ในเสื้อยืดสีขาวรัดติ้วมาด้านหน้า บางคนส่ายสะโพกและสะบัดบั้นท้ายงอนงามโชว์ล้างรถสปอร์ตคันหรูอย่างเต็มที่ สาวๆ พริตตี้ต่างสวยเซ็กซี่เด็ดดวงอย่างที่คริสเตียนว่าไว้ แต่ในสายตาของวินเซนโซ่เขากับมองตรงไปที่พริตตี้ผมดำดัดลอนใหญ่ที่ยืนอยู่หน้ารถสปอร์ตคันหรูสีแดงเท่านั้น และในตอนนี้พริตตี้สาวคนสวยคนที่ว่านั้นก็กำลังโก้งโค้งล้างกระโปรงหน้าของรถสปอร์ตสีแดงคันหรู พร้อมกับกัดริมฝีปากล่างด้วยท่าทางยั่วยวนเป็นที่สุด
“อะไร” คริสเตียนเอ่ยถามอย่างงงัน เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พริตตี้คนที่อยู่บนกระโปรงหน้ารถนั่น”
“ทำไม” เขาเอ่ยถาม แล้วก็มองไปยังพริตตี้สาวคนสวยที่กำลังโชว์ล้างรถอยู่บนหน้ากระโปรงรถสปอร์ตสีแดงนั่น
น้ำและฟองสบู่ทำให้เสื้อยืดสีขาวเอวลอยของพริตตี้สาวคนสวยเปียก แล้วนั้นก็ทำให้หนุ่มๆ ได้กระชุ่มกระชวยขึ้น เมื่อได้เห็นบราเซียร์สีดำและอกตู้มๆ ได้อย่างชัดเจน แล้วนั้นก็ทำให้หนุ่มๆ ได้ร้องซี๊ด พร้อมกับยกมือถือและกล้องถ่ายรูป ถ่ายภาพและวิดีโอกันพรึบ
วินเซนโซ่ขบกรามแน่น ก่อนจะพูดลอดไรฟันฟันที่ขบกันแน่นว่า…“จะทำไม ก็เมียฉันน่ะสิ”
ดวงตาคนพูดเปล่งประกายวาววับไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ ถ้ามันสามารถฆ่าคนได้ ผู้ชายที่กำลังมองเมียเขาด้วยความคิดหื่นกระหายอยู่คงได้แด่ดิ้นตายไปหมดแล้ว
“บ้าฉิบ!” สบถอย่างหยาบคาย ก่อนจะเดินรุดไปทางหน้าเวทีด้วยความมุ่งมั่น
“เฮ้ย! วินซ์ นั่นแกกำลังจะไปไหนน่ะ”
“ไปจัดการกับยัยตัวดีนั้นน่ะสิ” เขาพูดเสียงเครียด พลางถอดเสื้อสูทสีเข้มออกในขณะที่ก้าวยาวๆ เดินตรงไปยังเวที “ยั่วที่บ้านไม่พอ ยังจะตามมายั่วถึงนี้ ยั่วดีนักเดี๋ยวจะจัดให้หนัก ให้นั่งไม่ได้ไปอีกสักเดือน” ชายหนุ่มพึมพำสัญญากับตัวเองด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
ไม่รู้ว่าเป็นพรสวรรค์ด้วยหรือเปล่า ผู้หญิงที่ไม่เคยเต้นยั่วยวนผู้ชายอย่างมิเคล่าถึงได้มีลีลาการเต้นที่ดูแล้วแสนจะหวาดเสียวและยั่วยวนแบบนั้น วิธีส่ายเอวส่ายสะโพก วิธีที่เธอใช้มือเรียวสองข้างลูบเนื้อลูบตัวเหมือนคนพยายามจะถอดเสื้อผ้า มันเร่งเร้าอารมณ์ทางเพศของเขาและหนุ่มๆ ในงานได้ดียิ่งกว่านักเต้นมืออาชีพเสียอีก
หมับ! คริสเตียนคว้าไหล่ของเพื่อนสนิทไว้ได้ ก่อนจะพยายามพูดให้อีกฝ่ายได้ใจเย็นลง “วินซ์ นายใจเย็นๆ ก่อนสิ ทำแบบนี้มันไม่ดีต่อการเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ของบริษัทนะ เอาไว้นายค่อยไปเคลียร์กับเมียที่บ้านดีกว่าไหม”
“ไม่” ปฏิเสธเสียงเข้ม พลางสะบัดตัวจนไหล่หลุดจากมือของเพื่อน “ถ้านั้นเป็นเมียนาย นายจะยังยืนใจเย็นอยู่ที่ข้างล่างนี้อยู่หรือเปล่าล่ะ”
พูดยังไม่ทันจบประโยคซีอีโอหนุ่มก็กระโดดขึ้นเวที คว้าแขนพริตตี้สุดเอ็กซ์ลงมาจากหน้ากระโปรงรถสปอร์ตสีแดง ก่อนจะคลุมเสื้อสูทของตนลงไปบนไหล่บอบบาง รองเท้าบูตส้นสูงห้านิ้วทำให้พริตตี้สาวมีความสูงพอๆ กับเขา
มิเคล่าขึงตา เมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนลากเธอลงมายืนบนพื้นอีกครั้ง “วินซ์ คุณขึ้นมาทำบ้าอะไรบนนี้”
“แล้วคุณล่ะ ขึ้นมาทำบ้าอะไรแบบนี้ แล้วยังชุดบ้าๆ นี่อีก” วินเซนโซ่กระซิบถามเสียงเข้ม เพราะไม่อยากให้นักข่าวที่ยืนอออยู่บริเวณหน้าเวทีได้ยินในสิ่งที่ทั้งคู่คุยกัน
“ฉันก็กำลังช่วยคุณอยู่ไง” หญิงสาวกระซิบตอบเสียงเบา พลางมองลงไปยังหน้าเวทีที่ตอนนี้ทุกๆ คนต่างหันมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างเต็มที่
“ยังไงมิทราบ” คนพูดถลึงตาพลางคว้าข้อมือของภรรยาสาวจอมยั่วไว้มั่น
“ฉันจะอธิบายทีหลัง คุณหลีกไปก่อนได้ไหม” มิเคล่าพยายามแกะข้อมือเล็กออกจากมือแข็งปานคีมเหล็กของสามี แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดจากการเกาะกุมจากคีมเหล็กที่บีบแน่นนั้นได้
“ไม่” วินเซนโซ่ตอบปฏิเสธ ก่อนจะช้อนอุ้มภรรยาขึ้น เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปวาบขึ้น ตามด้วยเสียงรัวถามจากนักข่าวดังขึ้น
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
