คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องลับๆ ที่ไม่อาจลืม..
.....................
“งั้นผมกลับก่อนนะเจ๊... เดี๋ยวจะแวะไปหาไอ้ได๋มันอ่ะ พอดีคืนนี้กะจะไปดริ้งกันซะหน่อย”
“เออๆ ขับรถดี ๆ นะแก แล้วไว้เจอกันที่บริษัท”
“ครับเจ๊.. ผมไปก่อนนะพี่บีม ยินดีด้วยอีกครั้งครับ”
“เออ..ขอบใจมากพีท”
สิ้นบทสนทนาหนุ่มหน้าหวานสไตล์เกาหลีก็รีบจ้ำออกจากงานตรงมายังพรีอุสสีขาวคันเก่งของตัวเองอย่างรวดเร็ว และไม่รอช้าที่จะมุ่งตรงไปยังร้าน Ranrarin ของเพื่อนสาวสุดที่รัก
.............
............................
ไม่กี่อึดใจพีทก็ขับรถมาถึงหน้าร้านของได๋ เพื่อนสาวคนสนิทของเขา ซึ่งตอนนี้คนในร้านดูบางตามากเพราะใกล้จะเป็นเวลาปิดร้านพอดี ปกติร้านกาแฟของได๋จะเปิดตั้งแต่สิบโมงเช้า ยาวไปจนถึงสี่ทุ่มซึ่งวันนี้ก็เช่นเดียวกัน
“อ้าว....มาแล้วหรือแก?”
เจ้าของร้านสาวสุดเท่เงยหน้ามาทักเพื่อนชายคนสนิทอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดเค้าท์เตอร์หน้าร้านต่อ
“เออ... มานี่มา ฉันเช็ดให้”
ว่าแล้วก็ไม่พูดเปล่า หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงเดฟดำที่เพิ่งถอดสูทที่คลุมออกไว้ในรถก็หยิบผ้าขี้ริ้วจากมือเพื่อนสนิทมาจัดการแทน ทำให้เจ้าของร้านมีเวลาพอที่จะเดินเข้าไปดูขนมที่อบทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
........ติ๊ง........
เสียงเตาอบดังขึ้นพอดีในขณะที่เจ้าของร้านคนเก่งเดินเข้าไป กลิ่นคุกกี้คละรสลอยหอมออกมาแต่ไกล ตลบอบอวนไปทั่วทั้งครัว ทำเอาคนที่เช็ดเคาท์เตอร์อยู่ต้องหยุดชะงักกับกลิ่นที่ลอยมาเตะจมูกของตัวเองทันที
“หือ...หอมอ่ะ ทำไมแกอบขนมตอนนี้วะ”
“ก็เอาไปฝากเฮียพลไง เฮียแกชอบของหวาน รับรองติดใจฝีมือว่าที่ภรรยาแน่ ๆ ฮาๆๆๆ”
เจ้าของร้านที่ตอนนี้อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนพูดไปพลางหยิบคุกกี้ใส่ห่อไป แต่ด้วยประโยคที่พูดจบทำให้คนที่ได้ฟังอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้จนต้องเดินไปหยิกแก้มให้หายคันมือ
“อ๊อยยยย.... แกหยิกแก้มฉันทำไมเนี่ย”
“ก็หมั่นไส้ไง ว่าที่พี่สะใภ้ ชิชิ..”
“ฮาๆๆ นี่ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแกนี่ก็หวงพี่ชายเหมือนกันอ่ะพีท”
“เออ..... หวง รู้ไว้ด้วย”
....แต่ที่หวงน่ะ ฉันหวงแกเว้ย ฉันไม่อยากให้แกไปคบกับใครทั้งนั้นแหละ ฉันอยากให้แกเป็นของฉันคนเดียว แกเข้าใจไหมวะไอ้ได๋ แกช่วยรับรู้สักทีได้ป่าววะ...
.............
.............
“เฮ้ย.. เหม่อไรน้องสามี”
“ไอ้นี่ !!”
หลังจากที่หยอกล้อกันเล่นจนเหนื่อยแล้ว ทั้งได๋และพีทก็รีบช่วยกันเก็บร้าน เพราะวันนี้เป้าหมายของทั้งคู่คือร้านของพี่พลพี่ชายแท้ ๆ ของหนุ่มพีท ซึ่งแน่นอนว่าพลนับว่าเป็นเจ้าพ่อคนหนึ่งของวงการสถานบันเทิงเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครไม่รู้จัก “เฮียพล” สักคน แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพลเป็นคนที่ใจดีและห่วงน้องชายมาก แถมยังสนิทกับเพื่อนของน้องอย่างได๋มาก ๆ ด้วยเช่นกัน ทุกครั้งเวลาที่ได๋กับพีทอยากจะไปเที่ยว ทั้งสองคนก็จะพากันมาที่ผับของพลซึ่งพลจะกันคนอื่นไม่ให้เข้าไปในโซนของน้องเพื่อความปลอดภัยเสมอ.. และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งด้วยเช่นกัน
จากถนนใหญ่มุ่งตรงมาไม่นานนักก็เข้าสู่ย่านสถานบันเทิงที่ดูละลานตา แต่ละร้านประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีสัน ชวนให้คนที่ผ่านไปผ่านมาอดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาสังสรรค์หรือหาความสุขเล็ก ๆใส่ตัวแบบที่ได๋กับพีทตั้งใจมาในวันนี้
วันนี้จู๊คกี้สีแดงเลือดหมูคันเก่งรับหน้าที่เป็นพาหนะที่พาทั้งคู่มาสู่ The Future ผับใหญ่ใจกลางเมืองที่บรรดานักท่องราตรีมากหน้าหลายตาจะแวะเวียนเข้ามาสัมผัสบรรยากาศความสนุกแบบหลุดโลกจากผับแห่งนี้ ด้วยการตกแต่งร้านที่ดูล้ำนำเทรน การบริการที่ประทับใจ ประกอบกับระบบความปลอดภัยชั้นเลิศ ทำให้ผับของพลแห่งนี้ได้รับคำชื่นชมจากใครต่อใครมานับไม่ถ้วน
.........
“หือ... คนเยอะไม่เปลี่ยนเลยแฮะ”
“เออว่ะ.. แล้วนี่พวกไอ้พวกนั้นมันจะมากันป่าววะเนี่ย”
“เออ... เดี๋ยวฉันโทรเอง”
ว่าแล้วสาวสวยในชุดเสื้อกร้ามสีดำ กระโปรงลายสก็อตแดงที่สวมทับแล็คกิ้งดำสนิทอีกชั้น กับรองเท้าบู้ทดำส้นสูงพอสมควรก็รีบหยิบโทรศัพท์ตามเดอะแก๊งค์อย่างรวดเร็ว
......
“อะไรวะ... แค่นี้ก็ไม่ยอมมากัน ฉันงอนพวกแกแระ... เออๆๆ ไม่เป็นไร งั้นไว้คราวหน้าก็ได้ เออๆๆ”
.......... เฮ่อ...........
เสียงพ่นลมหายใจของคนข้าง ๆ ทำเอาคนที่นั่งหน้าพวกมาลัยต้องหันสายตาไปมองด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมหรือแก.. พวกนั้นมาไม่ได้หรือวะ?”
“อืม....”
“เอาน่า... พวกมันไม่มา เราก็หนุกกันสองคนแบบทุกทีก็ได้นี่นา จริงป่ะ”
“อืม...”
“โห่... แกทำอย่างกะว่าแกไม่อยากอยู่กะฉันแค่สองคนอย่างนั้นแหละ”
สิ้นประโยคเชิงตัดพ้อต่อว่าของหนุ่มหน้าหวานทำเอาสาวพั้งสุดเท่ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่กับท่าทางแบ๊ว ๆ ของเพื่อนชายคนสนิท ทำเอาหมั่นไส้จนต้องเขกหัวมันไปสักที
“นี่แน่ะ... ทำมาเป็นงอน”
“เฮ้ย... เจ็บนะเว้ย...”
ว่าแล้วสาวพั้งค์ในชุดกระโปรงลายสก็อตสีแดงก็ดึงคอเพื่อนสนิทไปกอด พร้อมกับลูบหัวแล้วก็ชูนิ้วก้อยขอคืนดี
“โอ๋ๆๆ ไม่งอนนะๆๆ มาๆ ดีกันนะที่ร้ากกกกก”
“เฮ่อ.....”
“อะไร..นี่ฉันง้อแกแล้ว... หรือจะไม่หายงอนก็ตามใจ ชิ”
........หมับ..........
ทันทีที่สาวเท่กำลังจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ หนุ่มหน้าหวานสไตล์เกาหลีที่บัดนี้แปลงร่างเป็นหนุ่มพั้งค์ก็ดึงแขนเพื่อนสนิทพร้อมกับเอื้อมมือมากอดจากทางด้านหลัง ทำเอาคนถูกกอดออกจะงงกับอาการของเพื่อนพอสมควร แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะทั้งคู่มักจะทำแบบนี้กันอยู่บ่อยครั้งในเวลาที่ไม่สบายใจหรือทุกข์ใจ หรือเวลาที่มีความสุขก็เหมือนกัน แม้ว่าครั้งนี้ได๋เองจะงงกับสถานการณ์ไปบ้างก็ตาม
........
“ปล่อยได้แล้ว... ป่านนี้พี่พลรอแย่แล้วแก”
“อืม....”
ชายหนุ่มผละตัวออกจากเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าที่สุดแสนจะเสียดายโดยที่คนเบื้องหน้าไม่มีโอกาสจะได้รู้เลยว่ามันเป็นอย่างไร ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินตรงไปยังทางเข้าซึ่งตอนนั้นการ์ดของร้านก็ออกมารอต้อนรับทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว
มุมด้านในสุดฝั่งซ้ายมือหน้าห้องผู้จัดการคือส่วนที่ถูกจัดวางโซฟาเอาไว้ให้เฉพาะแขกวีไอพีเท่านั้นนั่ง และแน่นอนว่าวันนี้โซฟานั้นถูกหนุ่มและสาวพั้งค์ทั้งสองยึดครองโดยสมบูรณ์ โดยหลังจากที่เข้ามานั่งไม่นาน เด็กเสิร์ฟก็พากันยกอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ มาให้ทั้งคู่จนเต็มโต๊ะ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาหารเหล่านั้นมาจากไหนหากไม่ใช่พี่ชายสุดที่รักของพีทเป็นคนตระเตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว
“โอ้โห... พี่พลนี่สุดยอดจริง ๆ รู้ใจทุกอย่างว่าพวกเราชอบกินอะไร”
“อืม..”
“ไรอ่ะ...ยังไม่หายงอนอีกหรอแก”
เสียงเพลงที่ดังทำให้คนที่จะคุยกันต้องเปล่งเสียงให้ดังกว่า ไม่เช่นนั้นก็ต้องแนบหน้าเข้ามาคุยกัน ใกล้ ๆ ชนิดที่เรียกได้ว่าแทบจะกินหูกันแบบที่ได๋กำลังกระซิบถามพีทที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ด้านข้างไม่มีผิด
“ไม่ได้งอน...”
เสียงตอบแผ่วเบาของหนุ่มหน้าหวานทำเอาเพื่อนสาวถึงกับเหวอ แต่ไม่นานนักบรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อเจ้าของร้านคนเก่งมานั่งดื่มกับทั้งสองด้วย
“สวัสดีค่ะพี่พล คิดถึงจัง”
“ดีจ้ะได๋... แหม.. วันนี้พั้งค์มาเลยนะ”
“อ่อ...ค่ะ คนมันชอบแนวนี้อ่ะพี่”
“อืม... พี่ว่ามันเหมาะกับเราแล้วแหละ... ได๋จะแต่งยังไงก็น่ารักหมดแหละ ฮาๆๆ”
เสียงคุยหยอกล้อกันตามประสาพี่น้องระหว่างได๋กับพลช่างสนุกสนานจนทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ ถึงกับหงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุ จนพี่ชายแท้ ๆ ต้องเอ่ยทักด้วยความประหลาดใจ
“ไงเจ้าพีท... ทำไมวันนี้ซดเอาๆ ไม่พูดไรเลยวะ”
“ไม่มีไรเฮีย.. พีทแค่อยากดื่ม”
“อะไรของมัน.... เอ้า...ได๋ ดื่ม ๆ เดี๋ยวจะได้แดนซ์กันหน่อย”
“ค่ะๆๆ”
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสุราไม่ใช่สิ่งที่มีประโยชน์แต่มันก็ทำให้ลืมความทุกข์และสนุกสุดเหวี่ยงได้ในบางครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกันที่พีทเผลอดื่มไปพอสมควร ส่วนได๋น่ะไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่ไม่กี่แก้วก็เมาไปไหนต่อไหนแล้ว ซึ่งตอนเมาไม่ต้องพูดถึง... อย่าได้ปล่อยให้ไปอยู่ใกล้ใครเชียว มีหวังได้นัวเนียชาวบ้านเขาไปทั่ว และแน่นอนว่าใครต่อใครคงทนไม่ได้แบบพีทเป็นแน่ ...
......เฮ่อ.......
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งจากปากของหนุ่มหน้าหวานที่ขณะนี้กำลังนั่งมองเพื่อนรักอย่างไม่วางสายตา ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเริ่มลุกขึ้นเต้นกับพลอย่างสนุกสนาน และภาพที่เห็นนั้นก็ยิ่งทำให้พีทแทบจะควบคุมสติของตัวเองไม่ได้
.........
“ไหวไหมได๋....”
“หวายเซ่...ด๋ายม่ายด้ายมาววววว”
หลังจากที่เต้นกันได้สักพักพลก็เริ่มสังเกตเห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของน้องชายเลยต้องชวนได๋หยุดเต้นก่อน เพราะอย่างที่บอกไปว่าเวลาที่แม่สาวพั้งค์เมานั้นมันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาที่ไหน อยู่ใกล้ใครเป็นต้องกอดคอ กอดเอว ซบบ้างพิงบ้าง ประหนึ่งว่าเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ดีที่พลเห็นว่าได๋เป็นน้องสาวจึงไม่ได้คิดอะไร อีกอย่าง..พลก็รู้ดีว่าสำหรับพีทแล้วได๋มีความสำคัญมากแค่ไหน
“พอเหอะเฮีย... ไม่ต้องให้มันกินแล้ว”
“เออๆๆ เดี๋ยวแกดูได๋ก่อนนะ เฮียไปดูร้านก่อนว่ะ”
“อืม....”
ว่าแล้วชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ดูไม่ห่างไกลจกยากุซ่านักก็เดินเข้าหลังร้านไป ทิ้งได๋ที่ตอนนี้สภาพเมาเต็มขั้นไว้กับพีทสองต่อสอง
“ดูซิ...เมาขนาดนี้ ฉันคิดผิดป่ะวะที่พาแกมา”
ว่าแล้วหนุ่มพั้งค์ก็ยอมสลัดคราบด้วยการถอดเสื้อแจ๊คเกตหนังตัวนอกออกแล้วสวมให้เพื่อนรักทั้ง ๆ ที่ยังน้อยใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือเป็นเพราะระยะห่างระหว่างเขากับได๋มันน้อยเกินไป .....
ทันทีที่พีทจับตัวได๋ขยับ คนที่นอนพิงโซฟาอยู่ก็กอดพร้อมกับซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของพีท ทำเอาหนุ่มหน้าหวานถึงกับสะดุ้ง ไม่ใช้ด้วยความตกใจหากแต่เป็นเพราะตัวเองรู้สึกแปลก ๆ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะวันนี้พีทเองก็ดื่มไปพอสมควร
“อืม.....”
ทันทีที่สิ้นเสียงของเพื่อนคนสนิท พีทก็ได้แต่กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนที่จะค่อย ๆ พลิกตัวกลับไปหาได๋ที่ตอนนี้ซบอยู่ที่หลังของพีทเสียแล้ว
.....เฮ้ย.. สงบสติอารมณ์ไว้ไอ้พีท เอ็งทำแบบนี้ไม่ได้ เอ็งทำแบบนี้ไม่ได้ ท่องไว้ๆ แบบนี้เดี๋ยวก็เสียเพื่อนกันพอดีเว้ย.. ไม่ๆๆๆ....
แม้ใจจะสั่งห้ามสารพัดอย่างไร แต่ทว่าหน้าของพีทกลับค่อย ๆ โน้มเข้าหาเพื่อนรักอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วไม่นานนักริมฝีปากอุ่น ๆ ก็กระทบกันจนทำให้พีทรู้สึกร้อนจนแทบจะทนไม่ได้ แล้วก็ต้องเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาเองพร้อมกับจับให้เอนตัวนอนโดยเอาหัวพาดไว้ที่ตักของตัวเองอย่างรวดเร็ว
....เกือบไปแล้วไอ้พีท เกือบไปแล้ว... เฮ่อ... แกจำไว้สิ... เดี๋ยวก็เป็นแบบคืนนั้นอีกหรอก ...
...................
.............................
“เอ้า..ชน”
“ชนนนนนน”
เสียงหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งกำลังชนแก้วฉลองสอบเสร็จกันอย่างสนุกสนานกันในคอนโดของหญิงสาวผมดำสนิทท่าทางทะมัดทะแมง โดยพวกเขาตั้งใจว่าวั้นนี้ถ้าไม่เมาจะไม่เลิกดื่มเนื่องจากเครียดกับการเรียนมาตลอดทั้งเทอมแล้ว
“ไอ้พีท... ทำไมไม่ดื่มวะ”
“เออๆๆ เราดื่มแต่ไม่เยอะว่ะ”
“แหม... หนูพีท รักษารูปร่างหรือจ๊ะ”
.....
เสียงหยอกล้อหนุ่มผมยาวรากไทรแต่ทว่าใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงดังขึ้นอยู่เป็นระยะ ทำเอาคนถูกแซวเริ่มไม่สบอารมณ์เพราะตัวเองเป็นผู้ชายแท้ที่ชอบผู้หญิง และที่สำคัญคนที่เขาชอบก็นั่งอยู่ตรงหน้านี้แล้วด้วย
“เอาน่าแก... เพื่อนมันก็แซวกันเล่น ๆ อย่าไปคิดไรมากเลย”
“อืม....”
ได๋เป็นเพื่อนคนเดียวที่ไม่เคยล้อพีทเรื่องที่พีทหน้าหวานหรือพีทเป็นเกย์ แต่กลับคอยเป็นกำลังใจและพูดให้พีทได้คิดเสมอจนทำให้พีทรู้สึกรักและคิดกับได๋เกินกว่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะมีความรู้สึกให้แก่กัน
แก้วที่หนึ่ง... แก้วที่สอง... แก้วที่สาม... แก้วที่สี่... แล้วก็แก้วต่อ ๆ ไปอีกนับไม่ถ้วนทำเอาทุกคนได้เมากันสมใจอยาก รวมทั้งได๋ก็เช่นกัน ผิดกับพีทที่ดื่มไปเพียงเล็กน้อยจึงแค่มึน ๆเท่านั้น จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตีสอง เพื่อนบางส่วนขอตัวกลับบ้าน และเหลืออีกสองสามคนก็ขอตัวไปนอนที่ห้องพักแขก เหลือเพียงเจ้าของคอนโดที่ยังคงนอนขดอยู่ตรงโซฟา ทำเอาเพื่อนสนิทอย่างพีทอดสงสารไม่ได้ จึงตัดสินใจอุ้มเพื่อนรักเข้าห้องนอนไป
“อืม...... สบายจัง”
“ก็แหงหละสิ...ฉันอุ้มแกอยู่นี่หว่า”
ระหว่างทางเดินไปยังห้องนอน เจ้าของห้องที่ตอนนี้จัดว่าเมามากก็ได้หลุดคำพูดต่าง ๆ ออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งคนไม่เมาก็ได้แต่ส่ายหัวพลางถอนหายใจเบา ๆ กับความน่ารักแบบมึน ๆ ของเพื่อนสนิทคนนี้ จนในที่สุดทั้งคู่ก็เดินมาถึงห้องนอนของได๋
เตียงเดี่ยวขนาดคิงไซส์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องกลายเป็นที่พักพิงอย่างดีที่สุดสำหรับคนเมาแบบได๋ นั่นคือความคิดของพีทที่เขาคิดมาตลอดทาง แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว พอเขาวางได๋ลงบนเตียงได๋กลับดึงคอเขาให้โน้มลงไปจนหน้าของทั้งคู่แนบชิดกัน พีทพยายามดันตัวขึ้นแต่ทว่ายิ่งดันได๋ก็ยิ่งดึงเขาให้ใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดปากของเขากับได๋ก็สัมผัสกัน ซึ่งเขาพยายามจะไม่มองหน้าได๋และพยายามที่จะดันตัวออก แต่ทว่าสายตาไม่อาจทำอะไรที่ขัดกับความรู้สึก เมื่อในที่สุดพีทก็ยอมเปิดตาออกและมองคนที่นอนกอดคอตัวเองอยู่เบื้องหน้า
...ใช่...คนนี้คือคนที่แกรักนะพีท นี่เป็นโอกาสของแกแล้วนะ... เป็นไงเป็นกัน....
.......หมับ......
ว่าแล้วความรู้สึกและอารมณ์ก็มาเหนือเหตุผลใด ๆ ทำให้พีทตัดสินใจก้มลงไปประกบปากกับเพื่อนรักที่ตอนนี้หลับตาสนิทแต่ทว่าเพียงแค่ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน คนหลับตาสนิทตรงหน้าก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับจูบตอบเขาราวกับโหยหามาแสนนาน.... หนุ่มหน้าหวานเริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นหอมแก้มและซอกคอของสาวเท่อย่างที่ใจต้องการ แต่พอเริ่มจูบไปสักพักก็รู้สึกได้ว่าได๋แน่นิ่งไป และนั่นหมายความว่าสาวเท่ หลับ หลับหลับแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เลยเสียด้วย กลายเป็นพีทเองกลับกลายเป็นคนที่ต้องเก็บงำความลับครั้งนั้นไว้ พร้อมกับต้องแบกรับความรู้สึกแบบนั้นมาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงพยายามเลี่ยงการดื่มกับได๋สองต่อสองทุกครั้ง
หากนึกย้อนหลังมันก็นับว่าเป็นเรื่องที่ฟ้าเล่นตลกกับเขามาก เพราะหลังจากคืนนั้นได๋ก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าระหว่างเธอกับพีทเกิดอะไรขึ้น ซึ่งพีทเองก็ไม่กล้าที่จะบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับได๋เช่นกันเพราะเขาเองก็กลัวที่จะต้องเสียเพื่อนไป... ตั้งแต่นั้นเขาก็ยอมเก็บงำความรู้สึกของเองมาโดยตลอด พยายามคิดกับได๋ไม่เกินกว่าเพื่อน แต่มันก็ช่างยาก...ยากเสียเหลือเกิน แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาถูกทดสอบ แล้วเขาจะผ่านมันไปได้แค่ไหนกันนะ......
“เมื่อไรแกจะรู้ตัวสักทีวะ....รู้ป่ะว่าเป็นแบบนี้มันทรมาน”
“เฮ่อ................”
............................................
ความคิดเห็น