ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Chocolate...รักขม ๆ ของยัยตัวร้ายกับนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : ความลับของเพื่อนสนิท..

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 57


    รักขม ๆ ของยัยตัวร้ายกับนายตัวแสบ ตอนที่ 2 ความลับของเพื่อนสนิท...

     

              ...แก๊ก ๆ ๆๆ ......

              ประตูของร้านกาแฟที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยนานาชนิดถูกคล้องกุญแจและล่ามโซ่อย่างแน่นหนา จนเจ้าของมั่นใจว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยจึงเดินหันหลังตามเพื่อนสนิทไปยังนิสสันจู๊คสีแดงเลือดนกที่จอดคู่กับพรีอุสสีขาวที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงสองคันในลานจอดรถเท่านั้น

              “กลับได้นะเว้ย...”

              “เออ........”

              สาวเท่ในชุดเสื้อกร้ามสีดำโยนกระเป๋าเป้ใบเก่งพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีเขียวอมฟ้าไว้ที่เบาะด้านหลังคนขับก่อนที่จะก้าวมานั่งอยู่หน้าพวงมาลัยจู๊คกี้ลูกชาย(รถ)สุดที่รักของเธอ

              “ไปกันเหอะ...!!!

              “เค... ขับรถดี ๆ นะ  ถึงแล้วโทรบอกฉันด้วย..”

              สถาปนิกหนุ่มหน้าหวานลดกระจกพรีอุสคันเก่งลงในขณะที่มาจอดเทียบข้างจู๊คกี้ลูกชายสีแดงแรงฤทธิ์ของเพื่อนรัก  โดยไม่ลืมประโยคที่ต้องย้ำเตือนทุกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเพื่อนสาวคนเก่งจะปลอดภัยจนกว่าจะถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

              “ค้าบ ๆๆๆ รู้แล้วค้าบบบบบ...”

              ว่าแล้วสาวเท่ก็ปิดกระจกรถพร้อมกับโบกมือเป็นเชิงอำลาให้กับเพื่อนสนิทก่อนที่จะกลับรถเพื่อมุ่งตรงไปยังบ้านของตนเองทันที

              ...................

              ......................................

              บนถนนทางเข้าหมู่บ้านที่ผู้คนจะพลุกพล่านมากในช่วงหัวค่ำกลับเงียบสงบราวกับว่าเป็นคนละสถานที่  ซึ่งมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้นเพราะตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปจะตีหนึ่งแล้ว  ใครจะยังออกมาอยู่นอกบ้านในยามวิกาลเช่นนี้นอกจากเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งปิดร้านและกลับมาในเวลานี้เป็นประจำ

              ..............

              .......ดึกป่านนี้แล้ว ป๋าจะหลับหรือยังน้า... ถ้ายังคงต้องไปเม้าท์เรื่องเด็กสาวคนนั้นให้ฟังซะหน่อย     มีหวังหัวเราะกรามค้างแหง ๆ อิอิ.....

              .....................................

              ......................

              ไม่นานนักจู๊คคันงามก็ได้ขับเข้ามาจอดยังโรงรถขนาดใหญ่ที่สามารถจอดรถได้พร้อม ๆ กันนับสิบคัน  ซึ่งไม่ต้องคาดเดาเลยว่าขนาดของบ้านที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นจะใหญ่โตขนาดไหน  ซึ่งอันที่จริงเรียกว่าบ้านก็อาจจะไม่ตรงนัก หากแต่น่าจะเรียกว่าคฤหาสถ์มากกว่า

              ...........

              “กลับซะดึกเลยนะจ๊ะคุณได๋...”

              หญิงวัยกลางคนท่าทางสง่า แต่ทว่ามีรอยยิ้มละไมเต็มไปด้วยความอบอุ่นเดินออกมาต้อนรับลูกสาวคนเก่ง  ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันโดยแท้  แต่ความสัมพันธ์กลับแน่นแฟ้น  เพราะคน ๆ เดียวที่ดูแลสาวเท่คนนี้มาโดยตลอดก็คืออดีตหัวหน้าแม่บ้านประจำคฤหาสถ์ที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นคุณผู้หญิงแทนเนื่องจากคุณหนูทุกคนในคฤหาสถ์หลังนี้เห็นพ้องต้องกันให้เธอรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้กับป๊ะป๋าอันเป็นที่รักของพวกเขาทุกคน ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด และวันนี้ก็เช่นกันที่เธอจะมาคอยรอรับการกลับมาของลูกสาวคนเดียวของบ้าน   

              “อ่า....ก็ได๋ต้องทำงานนี่คะแม่เล็ก”

              สาวเท่ที่ใครต่อใครต่างพากันมองว่าแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวน้อย ๆ ที่เข้ามาคลอเคลียเจ้าของ  เพราะทันทีที่เธอเห็นคนที่ยืนรออยู่หน้าประตู  เธอก็รีบเดินตรงเข้ามาหาและไม่รอช้าที่จะทั้งกอดและหอมแก้มประหนึ่งว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของตนเอง

              “เป็นไงคะวันนี้  เหนื่อยมั้ยลูก..”

              “นิดหน่อยจ้ะ...แต่ว่าพอเห็นหน้าแม่เล็กก็หายแล้ว!!

              พูดไม่ทันจบประโยค หญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงที่ในตอนนี้ไม่เหลือคราบเหล่านั้นให้เห็นก็กระโจนหอมแก้มหญิงสาวสุดที่รักของเธออีกครั้งก่อนจะพากันเดินขึ้นบันไดไปพลางคุยกันไป

              “นี่ป๋านอนแล้วใช่ไหมคะแม่เล็ก”

              “จ้ะ.... ตอนแรกว่าจะรอคุณได๋ แต่เห็นว่าง่วง แม่เล็กก็เลยให้นอนก่อน  พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้เนอะ”

              “ค่ะ... งั้นแม่เล็กก็ไปนอนเถอะ  เดี๋ยวได๋อาบน้ำเสร็จก็จะเข้านอนเหมือนกันค่ะ”

              ............

              ...................

              ....ปึง........

              เสียงประตูปิดลงในขณะที่เจ้าของห้องกระโจนไปที่เตียงใหญ่นุ่มทันที  แต่ด้วยสภาพที่ผ่านการทำขนมและทำงานมาตลอดทั้งวันทำให้เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะบิดไปมาสามสี่ครั้งแล้วค่อย ๆ ดันร่างตัวเองให้ลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี

              ..... ไม่มีที่ไหนสบายเท่าที่บ้านอีกแล้ววววว......

              “ฮืมมมม ฮืม..  ฮืมมมมม....”

              เสียงฮัมเพลงยังคงดังอยู่ตลอดในขณะที่หญิงสาวนอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำส่วนตัวของเธอ  โดยเธอลืมไปสนิทเลยว่ามีสิ่งหนึ่งเธอต้องทำเมื่อกลับถึงบ้าน จนกระทั่งเสียงริงโทนจากวงดนตรีที่เธอสุดแสนจะคลั่งไคล้ดังขึ้น 

              ... Keep on whispering in my ears , Tell me all the things that I wanna hear ‘Cause it’s true , That’s what I like about you…        

              “ใครนะ..โทรมาป่านนี้...”

              “เฮ้ย  ลืม !!! โทษทีว่ะพีททททท”

              ไม่ทันที่สาวเท่จะทันได้หยิบอาภรณ์ใด ๆ มาสวมใส่ร่างกาย เธอก็รีบกระโจนขึ้นจากอ่างอาบน้ำทันที  แล้วไม่รอช้าจะมุ่งตรงไปยังที่มาของเสียงทั้งที่ฟองจากแชมพูและสบู่ยังคงติดอยู่ตามศีรษะและร่างกาย

              ......

              “เฮ้ยแก...ฉันขอโทษ  พอดีกลับมาแล้วง่วงก็เลยอาบน้ำก่อนว่ะ”

              “..........อืม..”

              “เฮ้ย... อย่าโกรธน่า นะๆๆ เนี่ยยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย  รีบวิ่งมารับโทรศัพท์แกก่อนเลยเนี่ย อย่างอนน่าที่รัก น้าๆๆๆ...”

              คนปลายสายได้ฟังก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่กับความเปิ่นของเพื่อนสาวสุดที่รักคนนี้  ใครจะรู้ว่าคนที่บุคลิกภายนอกนิ่ง ๆ เท่ ๆ อย่างได๋จะมีมุมน่ารักแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครรู้นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น

              “เออ... ไม่งอนก็ไม่งอน  แต่นี่แกอย่าบอกนะว่าแกโป๊อยู่อ่ะ”

              “เออดิ... ฉันไปอาบน้ำต่อได้ยังเล่า”

              “เออๆๆ ไปอาบเหอะ สงสารผีบ้านผีเรือนว่ะต้องมาเห็นแกโป๊ ฮาๆๆ”

              “เดี๋ยวเหอะ อีนี่!!

              “เคๆ รู้ว่าแกถึงบ้านปลอดภัยก็ดีแล้ว งั้นฉันก็จะไปอาบน้ำนอนบ้างแล้ว ฝันดีหละ”

              “อืม..ใจนะ ฝันดีๆๆ”

              ............

              .............

              ...ไอ้บ๊องเอ๊ย....

              ในห้องที่ถูกตกแต่งสไตล์โมเดิร์น  ผนังที่ดีไซน์เก๋ไก๋แบบปูนเปลือย ถูกออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในลักษณะบิ้วท์อินดูลงตัวและมีเสน่ห์  เหมาะสมกับเป็นห้องของสถาปนิกหนุ่มที่มีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างพีทยิ่งนัก 

    พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  สถาปนิกหนุ่มก็นั่งลงที่ปลายเตียง  มือข้างหนึ่งของเขาค่อย ๆ เลื่อนชิ้นชักแบบบิ้วอินที่ติดกับเตียงออกพร้อมกับค่อย ๆ หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

              อัลบั้มภาพสีน้ำตาลเปลือกไม้  ไดอารี่  ตั๋วรถเมล์  ตั๋วหนัง  ป้ายชื่อ  ผ้าเช็ดหน้า  และสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกหลายอย่างถูกจัดเรียงไว้อย่างดีในกล่องไม้ขนาดกลางที่ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ  ทุกอย่างมีการเก็บรักษาเป็นอย่างดีราวกับว่าเป็นอัญมณีสำคัญราคาแพง  ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่คิดเช่นนั้น แต่สำหรับพีทแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในกล่องนี้มีค่ากับเขาอย่างมาก  เพราะมันคือของที่เขารัก รักมาก มากเสียจนตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม

              ........

              ...................

              ................................

              ......................................................

              เสียงบูมของรุ่นพี่ที่รอต้อนรับน้อง ๆ เฟรชชี่ที่กำลังมารายงานตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดังขึ้นจากบริเวณใต้ตึกของคณะฯ

              ...ตึง ตึง ตึง...

              เสียงกลองที่ถือเป็นสัญลักษณะประจำคณะถูกตีขึ้นอยู่เป็นระยะ  เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับนักศึกษาทุกคน  และเป็นการต้อนรับน้องใหม่ด้วยกรายๆ

              หนุ่มหน้าหวานท่าทางเรียบร้อยภายใต้ผมรองทรงสูงทำให้รู้เลยว่าเพิ่งผ่านการเรียนมัธยมปลายมาหมาด ๆ เดินเข้ามาในบรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่ตนเองเพิ่งสอบติดพร้อมกับเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง

              “เฮ้ย...พีท เดี๋ยวไปรายงานตัวกันก่อนดีกว่าว่ะ”

              “เออ....”

              เพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันพาพีท หนุ่มหน้าหวานแต่ทว่ารูปร่างสูงกำยำราวกับนายแบบเดินตรงไปยังจุดรับลงทะเบียนนักศึกษาใหม่  เพื่อเตรียมเข้ารับการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของคณะ

              ......

              ...  ตุ๊บ...

              “อุ๊ย !! ขอโทษ นายเป็นไรหรือเปล่า?”

              “เอ่อ.. เราไม่เป็นไร แล้วเธอหละ?”

              “เราไม่เป็นไรๆ งั้นขอตัวก่อนนะ”  “ไปกันค่ะแม่เล็ก....”

              ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก  แต่หญิงสาวท่าทางเหมือนทอมที่เพิ่งเดินชนกับพีทไปเมื่อกี้มันช่างดูเด่นสะดุดตา  ทั้งด้วยท่าทางทะมัดทะแมง  ทรงผมที่ถูกตัดจนสั้นแต่ก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง  กับประโปรงพีทยาวถึงตาตุ่ม หุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบขาว  บ่งบอกชัดว่าเธอก็เป็นเฟรชชี่เช่นเดียวกับเขาเหมือนกัน

              “เฮ้ย.. เป็นไรวะพีท  ไปกันเหอะ”

              “อืม.....”

              แม้เพื่อนสนิทจะเดินมาลากคอหนุ่มหน้าหวานให้รีบเข้ารับการปฐมนิเทศ แต่สายตาของเขายังคงมองหาสาวเท่ ใช่... “เท่..” มากเสียด้วย  ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังอดคิดไม่ได้ว่าคนที่เพิ่งชนกับเขาเมื่อสักครู่เท่อย่างบอกไม่ถูก  แต่ในความเท่นั้นมันก็มีมุมน่ารักอะไรบางอย่างแฝงอยู่  และนั่นก็ทำให้พีทอดคิดไม่ได้ว่าชีวิตมหาลัยของเขาคงมีความสุขไม่น้อย  เพราะเขาตั้งใจแล้วว่าในไม่ช้าเขาก็จะต้องเป็นเพื่อนกับแม่สาวเท่คนนี้ให้ได้อย่างแน่นอน  และเขาก็สามารถทำได้จริงตามที่ตั้งใจไว้ทุกอย่าง  เว้นเสียแต่ว่า...

              ....

              “หกปีแล้วสินะ.... ที่เราเป็นได้แค่เพื่อน...”

              .........

              ชายหนุ่มหน้าหวานที่ขณะนี้ไว้ผมยาวประบ่าแต่ทว่าดัดเป็นลอนเล็กน้อยตามสไตล์หนุ่มเกาหลี  หวนกลับไปคิดถึงวันแรกที่เขาได้พบกับเพื่อนรักคนนี้  คนที่อยู่ในรูปที่เขาแอบถ่ายมันไว้ตอนที่เข้าเรียนคลาสเดียวกันวันแรก  ซึ่งตอนนี้มันก็ผ่านมาหกปีแล้ว  แต่ความรู้สึกของเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เพื่อนรักคนนี้จะลดความสำคัญลงไปจากชีวิตของเขา  ยิ่งนับวันความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงเท่ในรูปมันยิ่งมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น  แต่สิ่งที่เขาทำทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง  ไม่เคยเลย... และมันคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

              “เฮ่อ.....”

              ชายหนุ่มได้แต่พ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความคิดของตัวเอง  แล้วบรรจงเก็บรูปถ่ายของสาวเท่ที่เขาแสนรักเอาไว้ในกล่องแห่งความลับของตัวเขาดังเดิม ก่อนที่จะค่อย ๆ เอนตัวลงนอนแล้วหลับตาลงไปกับห้วงความคิดของตนเอง 

    หลายต่อหลายครั้งที่เขาอยากจะบอกความในใจที่มีให้เพื่อนสนิทได้รับรู้  แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะเขารู้จักนิสัยของเพื่อนคนนี้ดีว่าถ้าได๋รู้ว่าเขาชอบเธอมาตั้งแต่วันแรกที่เจอ  เธอต้องห่างเหินและไม่กลับมาสนิทกับเขาแบบนี้ได้อีกแน่นอน  ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นเหตุผลที่สำคัญเพียงพอแล้วสำหรับการหักห้ามใจและจำยอมเก็บงำความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ตลอดหกปี

              ............

              ......................

              ...........................................

              ... Keep on whispering in my ears , Tell me all the things that I wanna hear ‘Cause it’s true , That’s what I like about you…        

              เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งตอนเจ็ดโมงเช้า  และนั่นก็ทำให้เจ้าของโทรศัพท์ถึงกับหงุดหงิดเล็ก ๆ เพราะเธอเพิ่งจะได้นอนตอนตีสองเอง

              “ฮัลโหลลลลลลลล....”

              “เฮ้ย... ยังไม่ตื่นหรอ  เดี๋ยวว่าจะแวะไปกินข้าวเช้าด้วยนะเนี่ย”

              “อีพีทททททท นี่มันกี่โมงกี่ยามวะแก.... ช้านจานอนนนนน...”

              “ไม่ได้เว้ย ฉันจะไปหาแก  หิวข้าว กินข้าวกัน นะๆๆ  ฉันโทรหาแม่เล็กแล้วด้วยว่าจะเข้าไป  เพราะงั้นตื่นอาบน้ำได้แล้วคุณ รรรรรร.... บายยยย....”

              เสียงปลายสายที่สดใสเสียจนเจ้าของโทรศัพท์อยากจะกรี๊ดใส่ด้วยความหมั่นไส้  แต่ก็ต้องจำใจเก็บไว้เอาคืนทีหลัง  ว่าแล้วสาวเท่ก็บิดขี้เกียจซ้ายขวาพร้อมกับขยี้ตาอีกนิดหน่อย  ก่อนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากที่นอนนุ่ม แล้วตรงดิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อไล่ความง่วงหงาวหาวนอนทันที

              ..........

              ... ก๊อก ๆๆๆ ........

              “คุณได๋ เสร็จหรือยังจ๊ะ  พีทมาแล้วนะลูก”

              “ค่ะแม่เล็ก ขออีกห้านาทีค่ะ”

              “จ้ะ.. อย่าให้แขกรอนานนะลูก”

              “ค้าบบบบบบบบบบบบ....”

              หญิงสาวที่กำลังดึงกางเกงยีนส์เดฟสีดำให้เข้าที่เข้าทาง  พร้อมกับสวมเสื้อกร้ามสีขาวลายกล้องถ่ายรูปที่ภายในมีเสื้อกร้ามสีดำซ้อนอยู่อีกชั้นตามสไตล์สาวพั้งค์ร็อค ตอบรับหญิงวัยกลางคนสุดที่รักก่อนจะหันกลับมาเพ้นท์หน้าตัวเองต่ออีกครั้ง

              “วันนี้จัดเต็มหน่อยละกัน...อิอิ”

              ดาวห้าแฉกสามดวงถูกวาดเรียงรายติดกันอยู่บริเวณใต้ตาซ้าย พร้อมกับอายไลน์เนอร์สีดำสนิทที่ถูกกรีดเป็นกรอบล้อมรอบดวงตาสีเขียวจากคอนแทคเลนส์สีโปรด  ไหนจะต่างหูสีดำสนิทที่ใส่ไว้บนหูที่ถูกเจาะด้านบนอีกสองรู  นี่ยังไม่นับรวมรอยสักภายใต้เสื้อผ้ารูปดาวกระจายข้างตัวด้านซ้าย และข้อความที่ว่า “Never Give up & Always be myself” กับผีเสื้อสีชมพูดูดึงดูดตรงข้างตัวด้านขวา  ไหนจะสะดือที่ถูกเจาะไว้ก่อนหน้า ทำเอามาดสาวน่ารักใส ๆ แบบที่เพิ่งตื่นนอนหายไปหมดสิ้น  นี่ยังไม่นับรวมรอยเพ้นท์ที่ต้นแขนขวารูปหนามกับดอกกุหลาบที่เจ้าของอยากจะสักใจจะขาด แต่เกรงใจหญิงวัยกลางคนที่อุตส่าห์ทะนุถนอมเธอมา จึงทำได้แค่ไปเพ้นท์ให้สะใจเพียงเท่านั้น

              .................

              .......

              “มาแล้วค่า......”

              สาวเท่ในลุคคุ้นตาเดินยิ้มร่าลงบันไดมาอย่างมีความสุขหลังจากที่จัดการกับตัวเองได้ตามที่ตั้งใจไว้

              “มาทานอะไรก่อน...วันนี้มีของชอบของหนูเพียบเลยลูก”

              หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของโต๊ะกวักมือหยอย ๆ เรียกลูกสาวคนเล็ก  ก่อนที่จะหันไปสั่งให้สาวใช้ในบ้านจัดเตรียมจานให้ลูกสาวสุดที่รักของเธอ

              .....

              “ว้าววววว.... มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย  มิน่าหละ พักนี้ป๋าถึงได้ลงพุงเอา ลงพุงเอา ฮาๆๆ”

              “แหม...ไอ้แสบ  มาถึงก็แซวป๋าเลยนะลูก”

              ชายวัยกลางคนในชุดลำลองสบาย ๆ นั่งอยู่หัวโต๊ะในฐานะเจ้าบ้านอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักทายลูกสาวสุดที่รักของเขาอย่างเอ็นดู  พร้อมกับลูบศีรษะของลูกสาวจอมทะเล้นเบา ๆ ขณะที่เธอเข้ามากอดและหอมแก้มเขาเหมือนอย่างเคย

    “วันนี้ก็หล่อเหมือนเดิมนะแก....”

              ไม่ทันที่สาวพั้งค์จะได้ทักทาย เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อตัวดีก็ชิงแขวะเล่นก่อนเบาๆ ทำเอาสาวเท่กัดฟันกรอด ๆ และแน่นอนว่าเธอคงไม่ยอมนั่งเงียบอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่

              “แม่เล็กจ๋า... วันนี้มีอะไรชิ้นใหญ่ ๆ บ้างไหมจ๊ะ ได๋จะเอายัดปากไอ้พวกพูดมากสักหน่อย!!

              “นี่แน่ะ...!!

              “อ๊า......”

              พูดไม่ทันจบประโยค  สาวเท่คนเก่งก็จิ้มไก่ทอดชิ้นโตยัดปากเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้  ทำเอาผู้ใหญ่ที่สุดตอนนี้ต้องรีบปลามก่อนที่ทั้งสองจะเปิดสงครามบนโต๊ะอาหารเสียก่อน

              “ไอ้แสบ... เสียมารยาทน่า  .. ไม่เป็นไรนะพีท”

              “ฮาๆๆ สม!!

              “อับๆๆ ไอ้เอ็นไออั๊บ...”

              หนุ่มหน้าหวานที่ขณะนี้มีไก่ชิ้นโตอยู่เต็มปากต้องรีบตอบทั้งสภาพนั้นเพื่อให้ป๋าของเพื่อนสนิท  พร้อมกับค่อย ๆ นำไก่ชิ้นโตออกจากปากแบบไม่ให้เสียมารยาท

              “เล่นเป็นเด็กไปได้น่าคุณได๋  ดูสิ ชุดพีทเลอะเทอะหมด”

              “แหม... แม่เล็กจ๋า  นิดเดียวเอง  ป๋าก็ด้วย... ยังไม่ชินอีกหรอฮะ”

              หญิงสาวเอ่ยทำทีน้อยใจแต่ทว่าใบหน้ากลับทะเล้น  แถมหันไปแลบลิ้นให้เพื่อนสนิทอย่างสะใจ  ทำเอาหนุ่มหน้าหวานได้แต่แอบหมั่นไส้สนิทของเขาอย่างที่สุด แต่ด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ทั้งสองท่านเขาจึงได้แต่นั่งเก็บความหมั่นไส้ไว้ แล้วรอไปคิดบัญชีหลังจากนี้แทน

              “เอ้อ... แล้ววันนี้พีทแต่งตัวซะหล่อ จะไปไหนกันหรอลูก”

              หญิงวัยกลางคนที่กำลังตักผัดบร็อกโคลีใส่จานให้กับผู้เป็นสามีเอ่ยถามเพื่อนสนิทของลูกสาวคนเล็กด้วยความสงสัย  เพราะปกติแม้พีทจะมาทานอาหารเช้าที่บ้านด้วยบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้เห็นเขาแต่งตัวเต็มยศแบบนี้เท่าใดนัก  ทั้งเสื้อเชิ้ตเข้ารูปที่ปลดกระดุมมาให้พอเห็นกล้ามเนื้อ กับกางเกงเดฟพอดีตัวไมรัดมากจนเกินไป  ไหนจะทรงผมที่รัดจัดทรงอย่างประณีต  มันบ่งบอกได้ชัดเจนว่าวันนี้พีทแต่งตัวดูดีกว่าปกติอยู่มาก

              “อ๋อ... ผมจะร่วมงานประกาศรางวัลกับที่บริษัทครับแม่เล็ก”

              “รางวัลอะไรหรอลูก”

              ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลังจากนั่งฟังบทสนทนามาสักครู่

              “การออกแบบอาคารประหยัดพลังงานฮะป๋า  พอดีพี่ที่ทำงานผมเขาส่งผลงานเข้าประกวดน่ะฮะ”

              “อ่อ... น่าสนใจนะ  จริง ๆ ตัวอาคารสำนักงานของบริษัทของป๋าก็เน้นพวกอาคารประหยัดพลังงานเหมือนกัน  ยังไงไว้จะใช้บริการบริษัทเราละกัน”

              “โห... ขอบคุณมากเลยครับป๋า”

              “แหม.. ป๋าอ่ะ  ได๋งอนนะ  จะใช้บริการบริษัทไอ้พีทน่ะ แล้วร้านของลูกสาวสุดที่รักหละ ไม่เห็นไปนั่งร้านได๋ซะทีอ่ะ”

              “หึหึ ไอ้แสบ  อย่ามาทำงอน  ป๋าก็แค่ให้แกทำอะไรตามใจได้เต็มที่ไง  ถ้าป๋าไปเดี๋ยวลูกค้าแกหนีหมดนะเว้ย  ยิ่งมีแต่สาว ๆ มานั่งอยู่ไม่ใช่หรอ ฮาๆ”

              “โห... ป๋าอ่ะ เอาเรื่องนี้มาพูดนี่ต้องว่ากันยาวเลยนะคะ...”

              ว่าแล้วสาวเท่ก็เม้ากับผู้เป็นพ่อถึงเรื่องที่มีสาวน้อยน่ารักมาสารภาพรักกับเธอ (อีกแล้ว) ซึ่งนั่นก็ทำให้คนเป็นพ่อหัวเราะชอบใจกับเสน่ห์ที่มีต่อเพศเดียวกันของลูกสาว  ในขณะที่เพื่อนสนิทของเธอได้แต่นั่งอมยิ้มไปมองหน้าเพื่อนรักของเขาไป  จนกระทั่งได๋รู้ตัว  พีทจึงหลบสายตาแล้วรีบตักอาหารทานต่อ

              “ว่าแต่... แกมาหาฉันแต่เช้านี่ทำไมเนี่ย”

              หลังจากที่เห็นเพื่อนตัวดีนั่งมองเธอคุยกับป๋าอย่างสนุกสนาน  ได๋ก็ไม่ลืมที่จะถามสาเหตุที่เพื่อนสนิทแต่งตัวหล่อมาหาเธอตั้งแต่เช้าแบบนี้

              “อ๋อ.... ฉันแวะเอาสูตรขนมใหม่มาให้  เผื่อแกจะใช้วันหยุดฝึกทำอาหารกับแม่เล็กซะหน่อย”

              “เฮ้ยจริงดิ  ... ขนมอะไรวะ”

              “แกดูเองเหอะ เพียบ !!  เฮียพลให้เชฟที่ร้านจัดการให้เพราะรู้ว่าแกเปิดร้าน  นี่เฮียพลก็บ่นคิดถึงแกอยู่เหมือนกันนะเว้ย”

              “เออว่ะ... เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปหาเฮียพลเลย  งั้น... คืนนี้จัดหน่อยมะ”

              ไม่ทันที่จะพูดจบประโยค  สาวเท่ก็หันสายตาวิงวอนไปทางเจ้าของบ้านและภรรยาคนเก่ง  พร้อมทั้งกะพริบตาปริบ ๆ เป็นเชิงขอร้องผู้เป็นพ่อและแม่เล็กสุดที่รักเพื่อออกไปลั้ลลากับเพื่อนๆ ในยามค่ำคืน

              “ไม่ต้องมาทำตาปริบๆ หรอกไอ้แสบ  พ่อก็ไม่ได้เคยห้ามอะไรอยู่แล้ว  ถามแม่เล็กเอาแล้วกันว่าอนุญาตรึเปล่า”

              สายตาของทั้งสาวเท่และเพื่อนสนิทหันมาทางหญิงวัยกลางคนพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย  ทำเอาคนที่ถูกมองต้องส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับยิ้มละไมให้กับทั้งคู่

              “ก็ได้จ้ะ.....”

              “เย้.....”

              “แต่....”

              “อ่า.....”

              คุณแม่สุดที่รักของสาวเท่วางช้อนส้อมพร้อมกับหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก  ก่อนที่จะบอกเงื่อนไขให้กับเจ้าของสายตาที่จับจ้องมาทางเธอได้ฟัง

              “คุณได๋ต้องค้างที่คอนโดไปเลย  ไม่ต้องขับรถกลับบ้าน  เพราะกว่าจะกลับมามันก็ดึก แถมน่าจะต้องดื่มอีกด้วย  เอาเป็นว่าแม่ฝากพีทให้ไปส่งคุณได๋ที่คอนโดด้วยแล้วกันนะลูก”

              “ครับแม่เล็ก  เดี๋ยวผมดูแลได๋เองครับ”

              หนุ่มหน้าหวานพยักหน้ารับคำฝากฝังของผู้เป็นแม่  ที่ถึงแม้เธอจะไม่เอ่ยสิ่งเหล่านี้ออกมา  ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะดูแลเพื่อนรักคนนี้ตลอดเวลา  .. ไม่สิ.. ตลอดชีวิตไปเลยก็ได้  ขอแค่เพื่อนรักยังต้องการและเห็นเขาเป็นเพื่อนคนสำคัญแบบนี้ตลอดไปก็พอ

              .......................

              ......................................

              “งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านแกนะ...”

              “เออๆๆ เดี๋ยวเย็น ๆ ฉันไปรอแกที่ร้าน”

              หนุ่มหน้าหวานนัดแนะกับเพื่อนสนิทก่อนที่จะก้าวขึ้นพรีอุสสีขาวขับออกจากคฤหาสถ์ทรงวัฒนานุเคราะห์เพื่อตรงไปยังงานประกาศรางวัลตามที่นัดกับคนที่บริษัทไว้ ส่วนสาวเท่ก็เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านก่อนที่จะไปทดลองทำขนมสูตรใหม่ทานกับป๋าและแม่เล็กของเธอ

              .............

              ......................

              .......ตื๊ดดดด ตื๊ดดดดด............

              “ฮัลโหล เฮีย... วันนี้พีทจะพาได๋ไปร้านเฮียนะ  อย่าลืมเตรียมที่ไว้ให้ด้วยหละ”

              “อ้าว..จริงดิ  ได้ๆ ดีใจว่ะ ในที่สุดน้องได๋ก็จะมาหาฉันสักที..”

              “นี่..น้อย ๆ หน่อยเหอะ  ให้มันรู้บ้างว่าของใครเป็นของใคร”

              “เออๆๆ แหม.. เฮียล้อเล่นไม่ได้รึไงไอ้น้องรัก..”

              “ค้าบๆ เอาเป็นว่าคืนนี้เจอกันนะคุณพี่ชาย”

              “โอเค”

              “งั้นแค่นี้ก่อนนะ พีทต้องรีบไปงาน หวัดดีครับ”

              ทันทีที่กดวางสายจากพี่ชาย  หนุ่มหน้าหวานก็ขับพรีอุสพุ่งตรงไปงานประกาศรางวัลอย่างสบายใจ  เพราะเขาจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสาวคนสนิทในคืนนี้  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงต้องมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นอีกแน่นอน  โดยเฉพาะเวลาที่เพื่อนตัวดีเมา  นั่นแหละเป็นเวลาที่เขาชอบที่สุด.... เหมือนอย่างคืนนั้น....

     ..............................................................................................................................
           ไม่รู้ว่าคืนนั้นของพีทนี่ยังไงนะคะ  รอลุ้นกันต่อแล้วกัน // ที่สำคัญ ขอโทษที่อัพช้าค่ะ งานเยอะจริงต้องขออภัย  ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมกันไปนะคะ  จะรีบอัพต่อเรื่อย ๆ ค่ะ/ writer

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×