คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความลับของเพื่อนสนิท..
รักขม ๆ ของยัยตัวร้ายกับนายตัวแสบ ตอนที่ 2 ความลับของเพื่อนสนิท...
...แก๊ก ๆ ๆๆ ......
ประตูของร้านกาแฟที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยนานาชนิดถูกคล้องกุญแจและล่ามโซ่อย่างแน่นหนา จนเจ้าของมั่นใจว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยจึงเดินหันหลังตามเพื่อนสนิทไปยังนิสสันจู๊คสีแดงเลือดนกที่จอดคู่กับพรีอุสสีขาวที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงสองคันในลานจอดรถเท่านั้น
“กลับได้นะเว้ย...”
“เออ........”
สาวเท่ในชุดเสื้อกร้ามสีดำโยนกระเป๋าเป้ใบเก่งพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีเขียวอมฟ้าไว้ที่เบาะด้านหลังคนขับก่อนที่จะก้าวมานั่งอยู่หน้าพวงมาลัยจู๊คกี้ลูกชาย(รถ)สุดที่รักของเธอ
“ไปกันเหอะ...!!!”
“เค... ขับรถดี ๆ นะ ถึงแล้วโทรบอกฉันด้วย..”
สถาปนิกหนุ่มหน้าหวานลดกระจกพรีอุสคันเก่งลงในขณะที่มาจอดเทียบข้างจู๊คกี้ลูกชายสีแดงแรงฤทธิ์ของเพื่อนรัก โดยไม่ลืมประโยคที่ต้องย้ำเตือนทุกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเพื่อนสาวคนเก่งจะปลอดภัยจนกว่าจะถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
“ค้าบ ๆๆๆ รู้แล้วค้าบบบบบ...”
ว่าแล้วสาวเท่ก็ปิดกระจกรถพร้อมกับโบกมือเป็นเชิงอำลาให้กับเพื่อนสนิทก่อนที่จะกลับรถเพื่อมุ่งตรงไปยังบ้านของตนเองทันที
...................
......................................
บนถนนทางเข้าหมู่บ้านที่ผู้คนจะพลุกพล่านมากในช่วงหัวค่ำกลับเงียบสงบราวกับว่าเป็นคนละสถานที่ ซึ่งมันก็ควรจะเป็นเช่นนั้นเพราะตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปจะตีหนึ่งแล้ว ใครจะยังออกมาอยู่นอกบ้านในยามวิกาลเช่นนี้นอกจากเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งปิดร้านและกลับมาในเวลานี้เป็นประจำ
..............
.......ดึกป่านนี้แล้ว ป๋าจะหลับหรือยังน้า... ถ้ายังคงต้องไปเม้าท์เรื่องเด็กสาวคนนั้นให้ฟังซะหน่อย มีหวังหัวเราะกรามค้างแหง ๆ อิอิ.....
.....................................
......................
ไม่นานนักจู๊คคันงามก็ได้ขับเข้ามาจอดยังโรงรถขนาดใหญ่ที่สามารถจอดรถได้พร้อม ๆ กันนับสิบคัน ซึ่งไม่ต้องคาดเดาเลยว่าขนาดของบ้านที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นจะใหญ่โตขนาดไหน ซึ่งอันที่จริงเรียกว่าบ้านก็อาจจะไม่ตรงนัก หากแต่น่าจะเรียกว่าคฤหาสถ์มากกว่า
...........
“กลับซะดึกเลยนะจ๊ะคุณได๋...”
หญิงวัยกลางคนท่าทางสง่า แต่ทว่ามีรอยยิ้มละไมเต็มไปด้วยความอบอุ่นเดินออกมาต้อนรับลูกสาวคนเก่ง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันโดยแท้ แต่ความสัมพันธ์กลับแน่นแฟ้น เพราะคน ๆ เดียวที่ดูแลสาวเท่คนนี้มาโดยตลอดก็คืออดีตหัวหน้าแม่บ้านประจำคฤหาสถ์ที่ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นคุณผู้หญิงแทนเนื่องจากคุณหนูทุกคนในคฤหาสถ์หลังนี้เห็นพ้องต้องกันให้เธอรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้กับป๊ะป๋าอันเป็นที่รักของพวกเขาทุกคน ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด และวันนี้ก็เช่นกันที่เธอจะมาคอยรอรับการกลับมาของลูกสาวคนเดียวของบ้าน
“อ่า....ก็ได๋ต้องทำงานนี่คะแม่เล็ก”
สาวเท่ที่ใครต่อใครต่างพากันมองว่าแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวน้อย ๆ ที่เข้ามาคลอเคลียเจ้าของ เพราะทันทีที่เธอเห็นคนที่ยืนรออยู่หน้าประตู เธอก็รีบเดินตรงเข้ามาหาและไม่รอช้าที่จะทั้งกอดและหอมแก้มประหนึ่งว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของตนเอง
“เป็นไงคะวันนี้ เหนื่อยมั้ยลูก..”
“นิดหน่อยจ้ะ...แต่ว่าพอเห็นหน้าแม่เล็กก็หายแล้ว!!”
พูดไม่ทันจบประโยค หญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงที่ในตอนนี้ไม่เหลือคราบเหล่านั้นให้เห็นก็กระโจนหอมแก้มหญิงสาวสุดที่รักของเธออีกครั้งก่อนจะพากันเดินขึ้นบันไดไปพลางคุยกันไป
“นี่ป๋านอนแล้วใช่ไหมคะแม่เล็ก”
“จ้ะ.... ตอนแรกว่าจะรอคุณได๋ แต่เห็นว่าง่วง แม่เล็กก็เลยให้นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้เนอะ”
“ค่ะ... งั้นแม่เล็กก็ไปนอนเถอะ เดี๋ยวได๋อาบน้ำเสร็จก็จะเข้านอนเหมือนกันค่ะ”
............
...................
....ปึง........
เสียงประตูปิดลงในขณะที่เจ้าของห้องกระโจนไปที่เตียงใหญ่นุ่มทันที แต่ด้วยสภาพที่ผ่านการทำขนมและทำงานมาตลอดทั้งวันทำให้เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะบิดไปมาสามสี่ครั้งแล้วค่อย ๆ ดันร่างตัวเองให้ลุกไปอาบน้ำแต่โดยดี
..... ไม่มีที่ไหนสบายเท่าที่บ้านอีกแล้ววววว......
“ฮืมมมม ฮืม.. ฮืมมมมม....”
เสียงฮัมเพลงยังคงดังอยู่ตลอดในขณะที่หญิงสาวนอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำส่วนตัวของเธอ โดยเธอลืมไปสนิทเลยว่ามีสิ่งหนึ่งเธอต้องทำเมื่อกลับถึงบ้าน จนกระทั่งเสียงริงโทนจากวงดนตรีที่เธอสุดแสนจะคลั่งไคล้ดังขึ้น
... Keep on whispering in my ears , Tell me all the things that I wanna hear ‘Cause it’s true , That’s what I like about you…
“ใครนะ..โทรมาป่านนี้...”
“เฮ้ย ลืม !!! โทษทีว่ะพีททททท”
ไม่ทันที่สาวเท่จะทันได้หยิบอาภรณ์ใด ๆ มาสวมใส่ร่างกาย เธอก็รีบกระโจนขึ้นจากอ่างอาบน้ำทันที แล้วไม่รอช้าจะมุ่งตรงไปยังที่มาของเสียงทั้งที่ฟองจากแชมพูและสบู่ยังคงติดอยู่ตามศีรษะและร่างกาย
......
“เฮ้ยแก...ฉันขอโทษ พอดีกลับมาแล้วง่วงก็เลยอาบน้ำก่อนว่ะ”
“..........อืม..”
“เฮ้ย... อย่าโกรธน่า นะๆๆ เนี่ยยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย รีบวิ่งมารับโทรศัพท์แกก่อนเลยเนี่ย อย่างอนน่าที่รัก น้าๆๆๆ...”
คนปลายสายได้ฟังก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่กับความเปิ่นของเพื่อนสาวสุดที่รักคนนี้ ใครจะรู้ว่าคนที่บุคลิกภายนอกนิ่ง ๆ เท่ ๆ อย่างได๋จะมีมุมน่ารักแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครรู้นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น
“เออ... ไม่งอนก็ไม่งอน แต่นี่แกอย่าบอกนะว่าแกโป๊อยู่อ่ะ”
“เออดิ... ฉันไปอาบน้ำต่อได้ยังเล่า”
“เออๆๆ ไปอาบเหอะ สงสารผีบ้านผีเรือนว่ะต้องมาเห็นแกโป๊ ฮาๆๆ”
“เดี๋ยวเหอะ อีนี่!!”
“เคๆ รู้ว่าแกถึงบ้านปลอดภัยก็ดีแล้ว งั้นฉันก็จะไปอาบน้ำนอนบ้างแล้ว ฝันดีหละ”
“อืม..ใจนะ ฝันดีๆๆ”
............
.............
...ไอ้บ๊องเอ๊ย....
ในห้องที่ถูกตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ผนังที่ดีไซน์เก๋ไก๋แบบปูนเปลือย ถูกออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในลักษณะบิ้วท์อินดูลงตัวและมีเสน่ห์ เหมาะสมกับเป็นห้องของสถาปนิกหนุ่มที่มีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างพีทยิ่งนัก
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ สถาปนิกหนุ่มก็นั่งลงที่ปลายเตียง มือข้างหนึ่งของเขาค่อย ๆ เลื่อนชิ้นชักแบบบิ้วอินที่ติดกับเตียงออกพร้อมกับค่อย ๆ หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
อัลบั้มภาพสีน้ำตาลเปลือกไม้ ไดอารี่ ตั๋วรถเมล์ ตั๋วหนัง ป้ายชื่อ ผ้าเช็ดหน้า และสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกหลายอย่างถูกจัดเรียงไว้อย่างดีในกล่องไม้ขนาดกลางที่ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ ทุกอย่างมีการเก็บรักษาเป็นอย่างดีราวกับว่าเป็นอัญมณีสำคัญราคาแพง ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่คิดเช่นนั้น แต่สำหรับพีทแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในกล่องนี้มีค่ากับเขาอย่างมาก เพราะมันคือของที่เขารัก รักมาก มากเสียจนตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม
........
...................
................................
......................................................
เสียงบูมของรุ่นพี่ที่รอต้อนรับน้อง ๆ เฟรชชี่ที่กำลังมารายงานตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดังขึ้นจากบริเวณใต้ตึกของคณะฯ
...ตึง ตึง ตึง...
เสียงกลองที่ถือเป็นสัญลักษณะประจำคณะถูกตีขึ้นอยู่เป็นระยะ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับนักศึกษาทุกคน และเป็นการต้อนรับน้องใหม่ด้วยกรายๆ
หนุ่มหน้าหวานท่าทางเรียบร้อยภายใต้ผมรองทรงสูงทำให้รู้เลยว่าเพิ่งผ่านการเรียนมัธยมปลายมาหมาด ๆ เดินเข้ามาในบรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่ตนเองเพิ่งสอบติดพร้อมกับเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง
“เฮ้ย...พีท เดี๋ยวไปรายงานตัวกันก่อนดีกว่าว่ะ”
“เออ....”
เพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันพาพีท หนุ่มหน้าหวานแต่ทว่ารูปร่างสูงกำยำราวกับนายแบบเดินตรงไปยังจุดรับลงทะเบียนนักศึกษาใหม่ เพื่อเตรียมเข้ารับการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของคณะ
......
... ตุ๊บ...
“อุ๊ย !! ขอโทษ นายเป็นไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ.. เราไม่เป็นไร แล้วเธอหละ?”
“เราไม่เป็นไรๆ งั้นขอตัวก่อนนะ” “ไปกันค่ะแม่เล็ก....”
ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก แต่หญิงสาวท่าทางเหมือนทอมที่เพิ่งเดินชนกับพีทไปเมื่อกี้มันช่างดูเด่นสะดุดตา ทั้งด้วยท่าทางทะมัดทะแมง ทรงผมที่ถูกตัดจนสั้นแต่ก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง กับประโปรงพีทยาวถึงตาตุ่ม หุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบขาว บ่งบอกชัดว่าเธอก็เป็นเฟรชชี่เช่นเดียวกับเขาเหมือนกัน
“เฮ้ย.. เป็นไรวะพีท ไปกันเหอะ”
“อืม.....”
แม้เพื่อนสนิทจะเดินมาลากคอหนุ่มหน้าหวานให้รีบเข้ารับการปฐมนิเทศ แต่สายตาของเขายังคงมองหาสาวเท่ ใช่... “เท่..” มากเสียด้วย ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังอดคิดไม่ได้ว่าคนที่เพิ่งชนกับเขาเมื่อสักครู่เท่อย่างบอกไม่ถูก แต่ในความเท่นั้นมันก็มีมุมน่ารักอะไรบางอย่างแฝงอยู่ และนั่นก็ทำให้พีทอดคิดไม่ได้ว่าชีวิตมหา’ลัยของเขาคงมีความสุขไม่น้อย เพราะเขาตั้งใจแล้วว่าในไม่ช้าเขาก็จะต้องเป็นเพื่อนกับแม่สาวเท่คนนี้ให้ได้อย่างแน่นอน และเขาก็สามารถทำได้จริงตามที่ตั้งใจไว้ทุกอย่าง เว้นเสียแต่ว่า...
....
“หกปีแล้วสินะ.... ที่เราเป็นได้แค่เพื่อน...”
.........
ชายหนุ่มหน้าหวานที่ขณะนี้ไว้ผมยาวประบ่าแต่ทว่าดัดเป็นลอนเล็กน้อยตามสไตล์หนุ่มเกาหลี หวนกลับไปคิดถึงวันแรกที่เขาได้พบกับเพื่อนรักคนนี้ คนที่อยู่ในรูปที่เขาแอบถ่ายมันไว้ตอนที่เข้าเรียนคลาสเดียวกันวันแรก ซึ่งตอนนี้มันก็ผ่านมาหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกของเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เพื่อนรักคนนี้จะลดความสำคัญลงไปจากชีวิตของเขา ยิ่งนับวันความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงเท่ในรูปมันยิ่งมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น แต่สิ่งที่เขาทำทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยเลย... และมันคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนได้ด้วยเช่นเดียวกัน
“เฮ่อ.....”
ชายหนุ่มได้แต่พ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความคิดของตัวเอง แล้วบรรจงเก็บรูปถ่ายของสาวเท่ที่เขาแสนรักเอาไว้ในกล่องแห่งความลับของตัวเขาดังเดิม ก่อนที่จะค่อย ๆ เอนตัวลงนอนแล้วหลับตาลงไปกับห้วงความคิดของตนเอง
หลายต่อหลายครั้งที่เขาอยากจะบอกความในใจที่มีให้เพื่อนสนิทได้รับรู้ แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะเขารู้จักนิสัยของเพื่อนคนนี้ดีว่าถ้าได๋รู้ว่าเขาชอบเธอมาตั้งแต่วันแรกที่เจอ เธอต้องห่างเหินและไม่กลับมาสนิทกับเขาแบบนี้ได้อีกแน่นอน ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นเหตุผลที่สำคัญเพียงพอแล้วสำหรับการหักห้ามใจและจำยอมเก็บงำความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ตลอดหกปี
............
......................
...........................................
... Keep on whispering in my ears , Tell me all the things that I wanna hear ‘Cause it’s true , That’s what I like about you…
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งตอนเจ็ดโมงเช้า และนั่นก็ทำให้เจ้าของโทรศัพท์ถึงกับหงุดหงิดเล็ก ๆ เพราะเธอเพิ่งจะได้นอนตอนตีสองเอง
“ฮัลโหลลลลลลลล....”
“เฮ้ย... ยังไม่ตื่นหรอ เดี๋ยวว่าจะแวะไปกินข้าวเช้าด้วยนะเนี่ย”
“อีพีทททททท นี่มันกี่โมงกี่ยามวะแก.... ช้านจานอนนนนน...”
“ไม่ได้เว้ย ฉันจะไปหาแก หิวข้าว กินข้าวกัน นะๆๆ ฉันโทรหาแม่เล็กแล้วด้วยว่าจะเข้าไป เพราะงั้นตื่นอาบน้ำได้แล้วคุณ รรรรรร.... บายยยย....”
เสียงปลายสายที่สดใสเสียจนเจ้าของโทรศัพท์อยากจะกรี๊ดใส่ด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ต้องจำใจเก็บไว้เอาคืนทีหลัง ว่าแล้วสาวเท่ก็บิดขี้เกียจซ้ายขวาพร้อมกับขยี้ตาอีกนิดหน่อย ก่อนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากที่นอนนุ่ม แล้วตรงดิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อไล่ความง่วงหงาวหาวนอนทันที
..........
... ก๊อก ๆๆๆ ........
“คุณได๋ เสร็จหรือยังจ๊ะ พีทมาแล้วนะลูก”
“ค่ะแม่เล็ก ขออีกห้านาทีค่ะ”
“จ้ะ.. อย่าให้แขกรอนานนะลูก”
“ค้าบบบบบบบบบบบบ....”
หญิงสาวที่กำลังดึงกางเกงยีนส์เดฟสีดำให้เข้าที่เข้าทาง พร้อมกับสวมเสื้อกร้ามสีขาวลายกล้องถ่ายรูปที่ภายในมีเสื้อกร้ามสีดำซ้อนอยู่อีกชั้นตามสไตล์สาวพั้งค์ร็อค ตอบรับหญิงวัยกลางคนสุดที่รักก่อนจะหันกลับมาเพ้นท์หน้าตัวเองต่ออีกครั้ง
“วันนี้จัดเต็มหน่อยละกัน...อิอิ”
ดาวห้าแฉกสามดวงถูกวาดเรียงรายติดกันอยู่บริเวณใต้ตาซ้าย พร้อมกับอายไลน์เนอร์สีดำสนิทที่ถูกกรีดเป็นกรอบล้อมรอบดวงตาสีเขียวจากคอนแทคเลนส์สีโปรด ไหนจะต่างหูสีดำสนิทที่ใส่ไว้บนหูที่ถูกเจาะด้านบนอีกสองรู นี่ยังไม่นับรวมรอยสักภายใต้เสื้อผ้ารูปดาวกระจายข้างตัวด้านซ้าย และข้อความที่ว่า “Never Give up & Always be myself” กับผีเสื้อสีชมพูดูดึงดูดตรงข้างตัวด้านขวา ไหนจะสะดือที่ถูกเจาะไว้ก่อนหน้า ทำเอามาดสาวน่ารักใส ๆ แบบที่เพิ่งตื่นนอนหายไปหมดสิ้น นี่ยังไม่นับรวมรอยเพ้นท์ที่ต้นแขนขวารูปหนามกับดอกกุหลาบที่เจ้าของอยากจะสักใจจะขาด แต่เกรงใจหญิงวัยกลางคนที่อุตส่าห์ทะนุถนอมเธอมา จึงทำได้แค่ไปเพ้นท์ให้สะใจเพียงเท่านั้น
.................
.......
“มาแล้วค่า......”
สาวเท่ในลุคคุ้นตาเดินยิ้มร่าลงบันไดมาอย่างมีความสุขหลังจากที่จัดการกับตัวเองได้ตามที่ตั้งใจไว้
“มาทานอะไรก่อน...วันนี้มีของชอบของหนูเพียบเลยลูก”
หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของโต๊ะกวักมือหยอย ๆ เรียกลูกสาวคนเล็ก ก่อนที่จะหันไปสั่งให้สาวใช้ในบ้านจัดเตรียมจานให้ลูกสาวสุดที่รักของเธอ
.....
“ว้าววววว.... มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย มิน่าหละ พักนี้ป๋าถึงได้ลงพุงเอา ลงพุงเอา ฮาๆๆ”
“แหม...ไอ้แสบ มาถึงก็แซวป๋าเลยนะลูก”
ชายวัยกลางคนในชุดลำลองสบาย ๆ นั่งอยู่หัวโต๊ะในฐานะเจ้าบ้านอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักทายลูกสาวสุดที่รักของเขาอย่างเอ็นดู พร้อมกับลูบศีรษะของลูกสาวจอมทะเล้นเบา ๆ ขณะที่เธอเข้ามากอดและหอมแก้มเขาเหมือนอย่างเคย
“วันนี้ก็หล่อเหมือนเดิมนะแก....”
ไม่ทันที่สาวพั้งค์จะได้ทักทาย เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อตัวดีก็ชิงแขวะเล่นก่อนเบาๆ ทำเอาสาวเท่กัดฟันกรอด ๆ และแน่นอนว่าเธอคงไม่ยอมนั่งเงียบอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่
“แม่เล็กจ๋า... วันนี้มีอะไรชิ้นใหญ่ ๆ บ้างไหมจ๊ะ ได๋จะเอายัดปากไอ้พวกพูดมากสักหน่อย!!”
“นี่แน่ะ...!!”
“อ๊า......”
พูดไม่ทันจบประโยค สาวเท่คนเก่งก็จิ้มไก่ทอดชิ้นโตยัดปากเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาผู้ใหญ่ที่สุดตอนนี้ต้องรีบปลามก่อนที่ทั้งสองจะเปิดสงครามบนโต๊ะอาหารเสียก่อน
“ไอ้แสบ... เสียมารยาทน่า .. ไม่เป็นไรนะพีท”
“ฮาๆๆ สม!!”
“อับๆๆ ไอ้เอ็นไออั๊บ...”
หนุ่มหน้าหวานที่ขณะนี้มีไก่ชิ้นโตอยู่เต็มปากต้องรีบตอบทั้งสภาพนั้นเพื่อให้ป๋าของเพื่อนสนิท พร้อมกับค่อย ๆ นำไก่ชิ้นโตออกจากปากแบบไม่ให้เสียมารยาท
“เล่นเป็นเด็กไปได้น่าคุณได๋ ดูสิ ชุดพีทเลอะเทอะหมด”
“แหม... แม่เล็กจ๋า นิดเดียวเอง ป๋าก็ด้วย... ยังไม่ชินอีกหรอฮะ”
หญิงสาวเอ่ยทำทีน้อยใจแต่ทว่าใบหน้ากลับทะเล้น แถมหันไปแลบลิ้นให้เพื่อนสนิทอย่างสะใจ ทำเอาหนุ่มหน้าหวานได้แต่แอบหมั่นไส้สนิทของเขาอย่างที่สุด แต่ด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ทั้งสองท่านเขาจึงได้แต่นั่งเก็บความหมั่นไส้ไว้ แล้วรอไปคิดบัญชีหลังจากนี้แทน
“เอ้อ... แล้ววันนี้พีทแต่งตัวซะหล่อ จะไปไหนกันหรอลูก”
หญิงวัยกลางคนที่กำลังตักผัดบร็อกโคลีใส่จานให้กับผู้เป็นสามีเอ่ยถามเพื่อนสนิทของลูกสาวคนเล็กด้วยความสงสัย เพราะปกติแม้พีทจะมาทานอาหารเช้าที่บ้านด้วยบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้เห็นเขาแต่งตัวเต็มยศแบบนี้เท่าใดนัก ทั้งเสื้อเชิ้ตเข้ารูปที่ปลดกระดุมมาให้พอเห็นกล้ามเนื้อ กับกางเกงเดฟพอดีตัวไมรัดมากจนเกินไป ไหนจะทรงผมที่รัดจัดทรงอย่างประณีต มันบ่งบอกได้ชัดเจนว่าวันนี้พีทแต่งตัวดูดีกว่าปกติอยู่มาก
“อ๋อ... ผมจะร่วมงานประกาศรางวัลกับที่บริษัทครับแม่เล็ก”
“รางวัลอะไรหรอลูก”
ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลังจากนั่งฟังบทสนทนามาสักครู่
“การออกแบบอาคารประหยัดพลังงานฮะป๋า พอดีพี่ที่ทำงานผมเขาส่งผลงานเข้าประกวดน่ะฮะ”
“อ่อ... น่าสนใจนะ จริง ๆ ตัวอาคารสำนักงานของบริษัทของป๋าก็เน้นพวกอาคารประหยัดพลังงานเหมือนกัน ยังไงไว้จะใช้บริการบริษัทเราละกัน”
“โห... ขอบคุณมากเลยครับป๋า”
“แหม.. ป๋าอ่ะ ได๋งอนนะ จะใช้บริการบริษัทไอ้พีทน่ะ แล้วร้านของลูกสาวสุดที่รักหละ ไม่เห็นไปนั่งร้านได๋ซะทีอ่ะ”
“หึหึ ไอ้แสบ อย่ามาทำงอน ป๋าก็แค่ให้แกทำอะไรตามใจได้เต็มที่ไง ถ้าป๋าไปเดี๋ยวลูกค้าแกหนีหมดนะเว้ย ยิ่งมีแต่สาว ๆ มานั่งอยู่ไม่ใช่หรอ ฮาๆ”
“โห... ป๋าอ่ะ เอาเรื่องนี้มาพูดนี่ต้องว่ากันยาวเลยนะคะ...”
ว่าแล้วสาวเท่ก็เม้ากับผู้เป็นพ่อถึงเรื่องที่มีสาวน้อยน่ารักมาสารภาพรักกับเธอ (อีกแล้ว) ซึ่งนั่นก็ทำให้คนเป็นพ่อหัวเราะชอบใจกับเสน่ห์ที่มีต่อเพศเดียวกันของลูกสาว ในขณะที่เพื่อนสนิทของเธอได้แต่นั่งอมยิ้มไปมองหน้าเพื่อนรักของเขาไป จนกระทั่งได๋รู้ตัว พีทจึงหลบสายตาแล้วรีบตักอาหารทานต่อ
“ว่าแต่... แกมาหาฉันแต่เช้านี่ทำไมเนี่ย”
หลังจากที่เห็นเพื่อนตัวดีนั่งมองเธอคุยกับป๋าอย่างสนุกสนาน ได๋ก็ไม่ลืมที่จะถามสาเหตุที่เพื่อนสนิทแต่งตัวหล่อมาหาเธอตั้งแต่เช้าแบบนี้
“อ๋อ.... ฉันแวะเอาสูตรขนมใหม่มาให้ เผื่อแกจะใช้วันหยุดฝึกทำอาหารกับแม่เล็กซะหน่อย”
“เฮ้ยจริงดิ ... ขนมอะไรวะ”
“แกดูเองเหอะ เพียบ !! เฮียพลให้เชฟที่ร้านจัดการให้เพราะรู้ว่าแกเปิดร้าน นี่เฮียพลก็บ่นคิดถึงแกอยู่เหมือนกันนะเว้ย”
“เออว่ะ... เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปหาเฮียพลเลย งั้น... คืนนี้จัดหน่อยมะ”
ไม่ทันที่จะพูดจบประโยค สาวเท่ก็หันสายตาวิงวอนไปทางเจ้าของบ้านและภรรยาคนเก่ง พร้อมทั้งกะพริบตาปริบ ๆ เป็นเชิงขอร้องผู้เป็นพ่อและแม่เล็กสุดที่รักเพื่อออกไปลั้ลลากับเพื่อนๆ ในยามค่ำคืน
“ไม่ต้องมาทำตาปริบๆ หรอกไอ้แสบ พ่อก็ไม่ได้เคยห้ามอะไรอยู่แล้ว ถามแม่เล็กเอาแล้วกันว่าอนุญาตรึเปล่า”
สายตาของทั้งสาวเท่และเพื่อนสนิทหันมาทางหญิงวัยกลางคนพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทำเอาคนที่ถูกมองต้องส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับยิ้มละไมให้กับทั้งคู่
“ก็ได้จ้ะ.....”
“เย้.....”
“แต่....”
“อ่า.....”
คุณแม่สุดที่รักของสาวเท่วางช้อนส้อมพร้อมกับหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก ก่อนที่จะบอกเงื่อนไขให้กับเจ้าของสายตาที่จับจ้องมาทางเธอได้ฟัง
“คุณได๋ต้องค้างที่คอนโดไปเลย ไม่ต้องขับรถกลับบ้าน เพราะกว่าจะกลับมามันก็ดึก แถมน่าจะต้องดื่มอีกด้วย เอาเป็นว่าแม่ฝากพีทให้ไปส่งคุณได๋ที่คอนโดด้วยแล้วกันนะลูก”
“ครับแม่เล็ก เดี๋ยวผมดูแลได๋เองครับ”
หนุ่มหน้าหวานพยักหน้ารับคำฝากฝังของผู้เป็นแม่ ที่ถึงแม้เธอจะไม่เอ่ยสิ่งเหล่านี้ออกมา ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะดูแลเพื่อนรักคนนี้ตลอดเวลา .. ไม่สิ.. ตลอดชีวิตไปเลยก็ได้ ขอแค่เพื่อนรักยังต้องการและเห็นเขาเป็นเพื่อนคนสำคัญแบบนี้ตลอดไปก็พอ
.......................
......................................
“งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านแกนะ...”
“เออๆๆ เดี๋ยวเย็น ๆ ฉันไปรอแกที่ร้าน”
หนุ่มหน้าหวานนัดแนะกับเพื่อนสนิทก่อนที่จะก้าวขึ้นพรีอุสสีขาวขับออกจากคฤหาสถ์ทรงวัฒนานุเคราะห์เพื่อตรงไปยังงานประกาศรางวัลตามที่นัดกับคนที่บริษัทไว้ ส่วนสาวเท่ก็เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านก่อนที่จะไปทดลองทำขนมสูตรใหม่ทานกับป๋าและแม่เล็กของเธอ
.............
......................
.......ตื๊ดดดด ตื๊ดดดดด............
“ฮัลโหล เฮีย... วันนี้พีทจะพาได๋ไปร้านเฮียนะ อย่าลืมเตรียมที่ไว้ให้ด้วยหละ”
“อ้าว..จริงดิ ได้ๆ ดีใจว่ะ ในที่สุดน้องได๋ก็จะมาหาฉันสักที..”
“นี่..น้อย ๆ หน่อยเหอะ ให้มันรู้บ้างว่าของใครเป็นของใคร”
“เออๆๆ แหม.. เฮียล้อเล่นไม่ได้รึไงไอ้น้องรัก..”
“ค้าบๆ เอาเป็นว่าคืนนี้เจอกันนะคุณพี่ชาย”
“โอเค”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ พีทต้องรีบไปงาน หวัดดีครับ”
ทันทีที่กดวางสายจากพี่ชาย หนุ่มหน้าหวานก็ขับพรีอุสพุ่งตรงไปงานประกาศรางวัลอย่างสบายใจ เพราะเขาจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสาวคนสนิทในคืนนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงต้องมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นอีกแน่นอน โดยเฉพาะเวลาที่เพื่อนตัวดีเมา นั่นแหละเป็นเวลาที่เขาชอบที่สุด.... เหมือนอย่างคืนนั้น....
ไม่รู้ว่าคืนนั้นของพีทนี่ยังไงนะคะ รอลุ้นกันต่อแล้วกัน // ที่สำคัญ ขอโทษที่อัพช้าค่ะ งานเยอะจริงต้องขออภัย ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมกันไปนะคะ จะรีบอัพต่อเรื่อย ๆ ค่ะ/ writer
ความคิดเห็น